คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 6 ลูกไฟสีเขียว
Chapter 6 ลูกไฟสีเขียว
เสียงนกร้องเพราะเสนาะหู ต้นไม้พริ้วไหว กิ่งไม้สบัดพัด ใบไม้ปลิวร่ายรำทิ้งตัวลอยเคว้งคว้างอยู่บนอากาศ และแล้วมันก็ปลิวตกลงมาสู่พื้นดิน อากาศที่เย็นสบาย พร้อมกับลมที่พัดเอากลิ่นพื้นดินลอยเข้าจมูก
“ หืม....................มมม เฮ้อออ........” อกของเซลสั่นไหวกระพืบตามแรงหายใจ
“ อืม อากาศนอกเมืองนี่ก็ไม่เลวเลยเนาะ” เซลยิ้ม ๆ ให้ไบรน
“ นั่นนะซิ ก็นายดูซิ ที่นี่มันมีแต่ป่าสองข้างทางเลยนี่ อากาศจะไม่ดีได้ไง” ไบรนทำสีหน้าบึงตึง เซลหน้าถอดสี
“ ไบรน ... นายไม่ดีใจหรอที่ได้เดินทางไปกับฉันน่ะ” ไบรนเอาแต่เงียบสักพัก
“ เซล ... ข้างหน้ามีธารน้ำเดี๋ยวคืนนี้เราพักที่นี่แล้วกันแล้วค่อยออกเดินทางต่อ ” เซลพยักหน้าตอบรับโดยไม่ได้พูดจา ทั้งที่เขายังมีสิ่งที่ติดอยู่ในใจว่า ทำไม
ธารน้ำที่ไหลมาเรื่อย ๆ มีก้อนหินก้อนน้อยใหญ่ มากมาย มองแล้ววิจิตรเปรียบเหมือนงานศิลปะที่ธรรมชาติเสกสร้างปั่นแต่งได้วิจิตรและลงตัวหาที่ใดเปรียบ
เซลได้นอนลงบนก้อนหินแผ่นใหญ่ สายตาเขามองทอดไปสู่เบื้องหน้าที่เป็นผืนฟ้า เขาหลับตาลงด้วยแสงที่สว่างจ้าสาดลงทิ้มแทงตาเขา เขาเอามือชูขึ้นเบื้องหน้าราวกับจะจับแสงที่เขามอง เขาหลี่ตามองแสงที่เล็ดลอดผ่านมือของเขา หัวของเขาหมุนวนกับคำพูดที่ วก วน ไป มา
“ แสงที่ฉันเคยวิ่งตามแสงนั่นมาตลอด ฉันพยายามจับมันแต่..........”
“ นี่เซล..นายทำอะไรน่ะ” ไบรนเดินตรงลี่มาหาเขา
“ นายไม่หิวรึไง ” ไบรนดึงแขนฉุดเซลที่นอนอยู่ขึ้นมา
“ มากินก่อน แล้วจะนอนค่อยไปนอน วันนี้ฉันหิวจนไม่มีอารมณ์จะคุยเลยนายรู้มั้ย ? ” ไบรนหยิบขนมปังยัดใส่มือเซล
“ นายไม่ต้องห่วงหรอกที่ฉันไม่ตอบนายน่ะ เพราะฉันหิว ฉันน่ะดีใจสิที่ได้เดินทางกับนายน่ะ”ไบรนยิ้มให้ แต่พอเซลสบตาเขา เขากับหลบตา
“ เอ่อ... นายรีบกินเหอะ จะได้พักเอาแรง” เซลรู้ว่ามันมีอะไรที่มากกว่าคำว่าหิว มันต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่
“ อืม ” เดี๋ยวฉันจะไปนอนแล้วเซลตอบด้วยสีหน้าเจือนซีด
“ เจ้าแมสคอท มานี่ ” เจ้าแมสคอทที่นอนซุกตัวอยู่ในเสื้อของเซลตลอดการเดินทาง กับกระโดดมาหาไบรนตามคำเรียกของเขา
“ เอ้า ได้กลิ่นหล่ะซิ ” ฟุดฟิด ฟุดฟิด
“ เอ้านี่ ฉันจับได้ ” มันรีบมาตะครุบปลาที่กระโดดเด้ง แล้วรีบกัดปลาด้วยความหิว ตัวที่เป็นสีขาวกับเลอะเป็นดวง ดวงด้วยสีแดงของเลือดปลา
“ เซล นายจะอาบน้ำมั้ย ? ” ไบรนเริ่มถอดเสื้อผ้า
“ อืม .........ก็ดี ” เขามองเห็นไบรนเปลือยกายถอดเสื้อผ้าออกหมดทุกชิ้น
“ แต่ชั้นว่านะ...นายช่วยใส่อะไรหน่อยจะดีมั้ย ? ” (-..- ‘)
“นายจะบ้ารอ อาบน้ำเค้าใส่เสื้อผ้ากันที่ไหนเล้า ” ไบรนเดินแก้ผ้าลงน้ำหน้าตาเฉย ส่วนเซลเหลือกางเกงใน
“ นี่..... เซล ไม่ต้องอายฉันหรอกมีเหมือน ๆ กันน่า ” เซลหน้าแดง
“ โธ่...ฉันไม่ได้หน้าด้านเหมือนนายซะหน่อยแก้ผ้าอาบน้ำกลางป่าน่ะ ” เซลรู้สึกดีที่ไบรนหยอกล้อ เล่นกับเค้าเหมือนเดิม
ไบรนรีบวิ่งขึ้นฝั่ง เขาวิ่งตรงไปหาเจ้าแมสคอทที่นอนเซาหลังจากกินเสร็จ เขารีบอุ้มมันขึ้นและโยนมันลงน้ำ เจ้าแมสคอทตะเกียกตะกายว่ายน้ำ มันแหวกว่ายด้วยความเร็วตรงไปหาเซล และรีบปีนขึ้นบนหัวเซลด้วยความตกใจ เซลดำลงไปในน้ำเอาหัวปริ่มน้ำขึ้นมาเพื่อไม่ให้เจ้าแมสคอทจมลงไปในน้ำ พอเข้าผุดขึ้นมาจากน้ำ เขาไม่เจอไบรน เขาเจอแต่ความว่างป่าวกับเสียงธารน้ำที่สาดกระแทกกับก้อนหินน้อยใหญ่
“ เฮ้ยยยย........... ” เซลร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ ร่างกายขยับช้าลง ใจจริง อยากจะเอามือคว้ามันเอาไว้ สายตาได้มองมันหลุดลอยตามน้ำไป
“ โธ่เอ้ย....กกน.ฉ้านนนนนนนนนน............” สองมือของเขายังคงกุม เจ้าจ่อนไว้
“ ไอ้บ้าเอ้ย ... แกนี่มันทุเรศนัก ” สีหน้าไบรนมองบ่งบอกเลยว่าสะใจเป็นอย่างมาก
“ 555+ ถ้านายอยากฆ่าฉัน ก็มาทำเลยนะตอนนี้น่ะ 55+ ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียนพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะด้วยความสะใจ เซลเอาตัวดำไปในลงไปในน้ำเพื่อไม่ให้เห็นไอ้จ่อน เขาเก็บเอาก้อนหินที่อยู่ใต้น้ำขึ้นมา แล้วปา ปา แล้วก็ ปาอย่างไม่ยั้งมือ เจ้าแมสคอทรำคาญสองคนที่ทะเลาะกันจึงกระโดดลงจากหัวของเซลแล้วว่ายน้ำหนีขึ้นฝั่ง
“ โอ๊ย.....นี่นายจะไม่เลิกใช่มั้ย ” ไบรนเริ่มเกิดอารมณ์
“ 55+ เริ่มกลัวฉันแล้วรึไงหล่ะไอ้ตูดไบรน ” เซลยังคงปาก้อนหินใส่ไบรนอย่างไม่ยั้ง
“ ได้...นายจะเอาใช่มั้ย ” ไบรนพูดด้วยน้ำเสียงเอาเรื่อง ไบรนวิ่งแล้วกระโจนลงไปในน้ำ เซลรีบว่ายน้ำหนี
“ แว๊กกก..........ยังไงนายก็จับฉันไม่ได้หรอก 55+ ” เซลที่กำลังว่ายน้ำอยู่หันมามองไม่เจอกับไบรน
“ อ้าว ? หายไปไหนอีกว่ะเนี่ย ” เค้าหยุดว่ายน้ำแล้วลอยคอมองหาไบรน
“ แว๊กกก ... บุง บุง ” เซลรู้สึกตัวว่าโดนดึงขาลงไปใต้น้ำ เขาหันไปมองเจอไบรนกำลังดึงขาลากเขาลงไปใต้น้ำ ลากลึกลงไป ลึกลงไป ลึกลงไป จนรู้สึกได้ว่า ธารน้ำแห่งนี้ไม่น่าจะลึกได้ถึงขณะนี้
“ ไอรน อาย อะ อ้า อ้อ !!!!! อัน อ้าย ไอ ไอ ออก ( ไบรนนายจะบ้าหรอ !!!! ฉันหายใจไม่ออก ) ” ด้วยความตกใจเขาตะเกียกตะกายขึ้นสู่ผิวน้ำแต่ไบรนจับไว้แน่นไม่ยอมปล่อย พลังเขามากเหลือเกิน
เขาลากเซลลงไปใต้น้ำ ลึกลงไปสู่ความมืด ผ่านไปชั่วอึดใจหนึ่ง เซลรู้สึกว่าเริ่มทนกลั้นหายใจไม่ไหว เขาจึงหยุดกลั้นหายใจ แล้วด้วยสัญชาตญาณ จึงสูดลมหายใจเขาไปเฮือกใหญ่ เขาไม่ได้สูดลมหายใจเขาไป ที่เขาสูดเขาไปคือน้ำ เขาสูดเอาน้ำเข้าไปเต็มปอด
“ ไบรน....ฉันเชื่อนาย ฉันเชื่อนาย
. ” ตาเขาลิบหรี่ หรี่ลง หรี่ลง
“ ไบรน ไบรน ไบรน ” เขาลืมตาโพรงขึ้นมา เขาจับ จับที่ตัวปรากฎว่าตัวเขาไม่เปียก ความรู้สึกที่หายใจไม่ออก ตอนนี้กลับหายใจสบาย โล่งปอดโปร่ง สิ่งที่อยู่ตรงหน้ากับเป็นไบรนที่มีท่าทีตกใจ และอาการที่ร้อนรน
“ เซลนายเป็นอะไร ” สีหน้าเขาดูกังวลเป็นอย่างมาก
“ ฉัน...เอ่อ....ฉัน...ฝันเห็นนายลากฉันลงไปในน้ำที่ลึก ลึก ลึกมาก ฉันหายใจไม่ออก นายไม่ยอมปล่อยฉัน หึ... ฮือ...นายไม่ยอมปล่อยฉัน ” น้ำตาเขาซึมด้วยความเจ็บปวดที่รู้สึก
“ แต่นายก็ยังเชื่อใจฉันใช่มั้ย ? ” ไบรนมองหน้าเซลแล้วยิ้มบาง บาง แต่ข้างในเขาเจ็บปวดเหลือเกิน
“ นายไม่ได้ฝันไปหรอก มันเป็นเรื่องจริง ฉันดึงนายลงไปใต้น้ำจริง ๆ ” เขาเงียบ มองหน้าเซลแล้วหลบตาเหลือบลงมองพื้นดิน
“ ทำไม ทำไมหล่ะ ” เซลตะโกนใส่หน้าเขา
“ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ฉันจะกลายเป็นอีกคนหนึ่ง คนที่ฉันไม่รู้จัก โดยไม่รู้เวลาล่วงหน้าว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ”
“ เซล ฉันเห็นทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ข้างใน ข้างในตัวของฉัน ฉันอยู่ข้างใน เซล...ฉันอยู่ข้างใน ฉันห้ามมันไม่ได้ ” ตาของไบรนแดงก่ำ น้ำเริ่มรินไหลออกจากตา
“ ฉันห้ามมันไม่ได้ เซล ฉันห้ามมันไม่ได้ ” เซลโผ่เข้ากอดไบรน เขาพูดเบา เบา ประโลมไบรนอย่างนุ่มนวล
“ แต่ฉันก็รอดมาไม่ใช่หรอ ? ” ไบรนมองหน้าเซล
“ แต่!!!! ” เซลเอามือปิดปากไบรน
“ แต่....ฉันเชื่อใจนายนะ ”
“ ช่างมันเถอะน่า ปีหนึ่งมันก็มีแค่ครั้งเดียวนิ ถึงฉันจะตายน่ะนะ แต่คนที่ฆ่าฉันไม่ใช่ใครนิ เป็นนาย....”
“
.? ”
“ เป็นนาย....เท่านั้นแหละที่ฉันยอมน่ะ ”
บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสงบนิ่ง แม้แต่สายลมที่คอยพัดกลับหยุดนิ่ง ใบไม้ที่โบกสบัดพริ้วไหวกลับไม่ไหวติ่ง เสียงน้ำที่สาดกระแทก กับหรี่ลง เสียงที่ดังอยู่รอบตัวกับกลายเป็นเสียงแห่งความเชื่อ ความศรัทธาที่มีให้ต่อเพื่อนผู้ร่วมเดินทางที่ยอมเสียสละแม้กระทั่งชีวิตของตน
“ ขอบใจนะ ฉันขอบใจนาย จริง จริง”
“ เอ๊ย...ครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่นายพูดคำว่าขอบใจน่ะ” เซลแซวไบรน
“ ไบรนดูนั่นสิ พระอาทิตย์กำลังขึ้น ” แสงสีส้มทอดทอขึ้น ดูสวยวิจิตร ทำให้พวกเขาลืมว่าสิ่งเลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นกับเขา จนทำให้พวกเขารู้สึกว่าสิ่งที่เลวร้ายที่เกิดขึ้นอาจเป็นความฝันไปจริง จริงก็ได้
“ เช้าแล้วนิ... ” เซลยิ้ม....
“ เราออกเดินทางกันต่อเถอะนะ ” เซลลุกขึ้นฉุดไบรนที่ยังคงเศร้าขึ้นมา
“ ฉันไม่ควรเลย ” ไบรนพรึมพ่ำ
“ ฉันไม่ควรมากับนายเลย ”
“ ไบรน...ตอนนี้คนที่ฉันเชื่อใจที่สุด...มีแต่นายคนเดียวนะ... ”
“
”
“ ฉันเชื่อนายนะ ” ความเศร้ากับเป็นความเบิกบาน
พวกเขาเดินทางไปเรื่อย ๆ โดยไม่พูดอะไรตลอดทาง เซลคิดว่าไบรนคงไม่อยากคุยกับเขาตอนนี้ ยิ่งเซลพูดคุยกับไบรนมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดมากเท่านั้น เขามองเห็นบ้านเรือนที่ดูเก่าและโทรม ยิ่งเขาเดินไป บ้านเรือนยิ่งมากขึ้น ผู้คนก็มากขึ้นด้วย
“ ไบรน เราคงมาถึงเมืองใดเมืองหนึ่งแล้วหล่ะ ” ไบรนก้มหน้าเดินมาตลอดทางสิ่งที่เขาเห็น คือรองเท้าบูทที่เซลใส่ ก้าวเดินทีละก้าวที่ละก้าว
“ ไบรน ” เซลร้องเรียกอีกที
“ ห๊า..เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ ” ไบรนถามเซลอีกครั้ง เพราะในหัวตอนนี้ของเขาว่างเปล่ามีเพียงเสียงของเซลที่ช่วยกระตุ้นให้เขาตื่นจากพะวัง
“ ฉันบอกนายว่า เราคงถึงเมืองใดเมืองหนึ่งซักแห่งน่ะ ” เซลเหลือบมองขึ้น เห็นตัวประสาทที่ไม่ค่อยเหมือนประสาทอยู่ไกล ๆ ที่เขาเดาว่าเป็นประสาทนั้นเพราะมีธงปักอยู่
“ ไบรน...ฉันว่าเมืองนี้ต้องเป็นเมืองอัคคีโลกันต์แน่ ”
“ ใช่แล้วเซล นั่นสัญลักษณ์ลูกไฟสีเขียว ”
พวกเขามองออกไป ประสาทที่ทำด้วยเหล็ก และมีหลอดแก้วโปร่งแสงขนาดใหญ่ ข้างในบรรจุไปด้วยของเหลวสีใส ใส จนดูเหมือนน้ำเปล่า เชื่อมโยงไปมากับตัวประสาท และมีป่องควันที่เป็นหลอดแก้วขนาดมหึมา ปล่อยควันพวยพุงออกมา เมืองที่ดูเก่าเหมือนซากปรักหักพัง ผู้คนที่เดินไปมาก็ดูเหมือนคนเป็นโรค
เมืองนี้มันช่าง...
Chapter 6 ( ลูกไฟสีเขียว )
เสียงนกร้องเพราะเสนาะหู ต้นไม้พริ้วไหว กิ่งไม้สบัดพัด ใบไม้ปลิวร่ายรำทิ้งตัวลอยเคว้งคว้างอยู่บนอากาศ และแล้วมันก็ปลิวตกลงมาสู่พื้นดิน อากาศที่เย็นสบาย พร้อมกับลมที่พัดเอากลิ่นพื้นดินลอยเข้าจมูก
“ หืม....................มมม เฮ้อออ........” อกของเซลสั่นไหวกระพืบตามแรงหายใจ
“ อืม อากาศนอกเมืองนี่ก็ไม่เลวเลยเนาะ” เซลยิ้ม ๆ ให้ไบรน
“ นั่นนะซิ ก็นายดูซิ ที่นี่มันมีแต่ป่าสองข้างทางเลยนี่ อากาศจะไม่ดีได้ไง” ไบรนทำสีหน้าบึงตึง เซลหน้าถอดสี
“ ไบรน ... นายไม่ดีใจหรอที่ได้เดินทางไปกับฉันน่ะ” ไบรนเอาแต่เงียบสักพัก
“ เซล ... ข้างหน้ามีธารน้ำเดี๋ยวคืนนี้เราพักที่นี่แล้วกันแล้วค่อยออกเดินทางต่อ ” เซลพยักหน้าตอบรับโดยไม่ได้พูดจา ทั้งที่เขายังมีสิ่งที่ติดอยู่ในใจว่า ทำไม
ธารน้ำที่ไหลมาเรื่อย ๆ มีก้อนหินก้อนน้อยใหญ่ มากมาย มองแล้ววิจิตรเปรียบเหมือนงานศิลปะที่ธรรมชาติเสกสร้างปั่นแต่งได้วิจิตรและลงตัวหาที่ใดเปรียบ
เซลได้นอนลงบนก้อนหินแผ่นใหญ่ สายตาเขามองทอดไปสู่เบื้องหน้าที่เป็นผืนฟ้า เขาหลับตาลงด้วยแสงที่สว่างจ้าสาดลงทิ้มแทงตาเขา เขาเอามือชูขึ้นเบื้องหน้าราวกับจะจับแสงที่เขามอง เขาหลี่ตามองแสงที่เล็ดลอดผ่านมือของเขา หัวของเขาหมุนวนกับคำพูดที่ วก วน ไป มา
“ แสงที่ฉันเคยวิ่งตามแสงนั่นมาตลอด ฉันพยายามจับมันแต่..........”
“ นี่เซล..นายทำอะไรน่ะ” ไบรนเดินตรงลี่มาหาเขา
“ นายไม่หิวรึไง ” ไบรนดึงแขนฉุดเซลที่นอนอยู่ขึ้นมา
“ มากินก่อน แล้วจะนอนค่อยไปนอน วันนี้ฉันหิวจนไม่มีอารมณ์จะคุยเลยนายรู้มั้ย ? ” ไบรนหยิบขนมปังยัดใส่มือเซล
“ นายไม่ต้องห่วงหรอกที่ฉันไม่ตอบนายน่ะ เพราะฉันหิว ฉันน่ะดีใจสิที่ได้เดินทางกับนายน่ะ”ไบรนยิ้มให้ แต่พอเซลสบตาเขา เขากับหลบตา
“ เอ่อ... นายรีบกินเหอะ จะได้พักเอาแรง” เซลรู้ว่ามันมีอะไรที่มากกว่าคำว่าหิว มันต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่
“ อืม ” เดี๋ยวฉันจะไปนอนแล้วเซลตอบด้วยสีหน้าเจือนซีด
“ เจ้าแมสคอท มานี่ ” เจ้าแมสคอทที่นอนซุกตัวอยู่ในเสื้อของเซลตลอดการเดินทาง กับกระโดดมาหาไบรนตามคำเรียกของเขา
“ เอ้า ได้กลิ่นหล่ะซิ ” ฟุดฟิด ฟุดฟิด
“ เอ้านี่ ฉันจับได้ ” มันรีบมาตะครุบปลาที่กระโดดเด้ง แล้วรีบกัดปลาด้วยความหิว ตัวที่เป็นสีขาวกับเลอะเป็นดวง ดวงด้วยสีแดงของเลือดปลา
“ เซล นายจะอาบน้ำมั้ย ? ” ไบรนเริ่มถอดเสื้อผ้า
“ อืม .........ก็ดี ” เขามองเห็นไบรนเปลือยกายถอดเสื้อผ้าออกหมดทุกชิ้น
“ แต่ชั้นว่านะ...นายช่วยใส่อะไรหน่อยจะดีมั้ย ? ” (-..- ‘)
“นายจะบ้ารอ อาบน้ำเค้าใส่เสื้อผ้ากันที่ไหนเล้า ” ไบรนเดินแก้ผ้าลงน้ำหน้าตาเฉย ส่วนเซลเหลือกางเกงใน
“ นี่..... เซล ไม่ต้องอายฉันหรอกมีเหมือน ๆ กันน่า ” เซลหน้าแดง
“ โธ่...ฉันไม่ได้หน้าด้านเหมือนนายซะหน่อยแก้ผ้าอาบน้ำกลางป่าน่ะ ” เซลรู้สึกดีที่ไบรนหยอกล้อ เล่นกับเค้าเหมือนเดิม
ไบรนรีบวิ่งขึ้นฝั่ง เขาวิ่งตรงไปหาเจ้าแมสคอทที่นอนเซาหลังจากกินเสร็จ เขารีบอุ้มมันขึ้นและโยนมันลงน้ำ เจ้าแมสคอทตะเกียกตะกายว่ายน้ำ มันแหวกว่ายด้วยความเร็วตรงไปหาเซล และรีบปีนขึ้นบนหัวเซลด้วยความตกใจ เซลดำลงไปในน้ำเอาหัวปริ่มน้ำขึ้นมาเพื่อไม่ให้เจ้าแมสคอทจมลงไปในน้ำ พอเข้าผุดขึ้นมาจากน้ำ เขาไม่เจอไบรน เขาเจอแต่ความว่างป่าวกับเสียงธารน้ำที่สาดกระแทกกับก้อนหินน้อยใหญ่
“ เฮ้ยยยย........... ” เซลร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ ร่างกายขยับช้าลง ใจจริง อยากจะเอามือคว้ามันเอาไว้ สายตาได้มองมันหลุดลอยตามน้ำไป
“ โธ่เอ้ย....กกน.ฉ้านนนนนนนนนน............” สองมือของเขายังคงกุม เจ้าจ่อนไว้
“ ไอ้บ้าเอ้ย ... แกนี่มันทุเรศนัก ” สีหน้าไบรนมองบ่งบอกเลยว่าสะใจเป็นอย่างมาก
“ 555+ ถ้านายอยากฆ่าฉัน ก็มาทำเลยนะตอนนี้น่ะ 55+ ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียนพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะด้วยความสะใจ เซลเอาตัวดำไปในลงไปในน้ำเพื่อไม่ให้เห็นไอ้จ่อน เขาเก็บเอาก้อนหินที่อยู่ใต้น้ำขึ้นมา แล้วปา ปา แล้วก็ ปาอย่างไม่ยั้งมือ เจ้าแมสคอทรำคาญสองคนที่ทะเลาะกันจึงกระโดดลงจากหัวของเซลแล้วว่ายน้ำหนีขึ้นฝั่ง
“ โอ๊ย.....นี่นายจะไม่เลิกใช่มั้ย ” ไบรนเริ่มเกิดอารมณ์
“ 55+ เริ่มกลัวฉันแล้วรึไงหล่ะไอ้ตูดไบรน ” เซลยังคงปาก้อนหินใส่ไบรนอย่างไม่ยั้ง
“ ได้...นายจะเอาใช่มั้ย ” ไบรนพูดด้วยน้ำเสียงเอาเรื่อง ไบรนวิ่งแล้วกระโจนลงไปในน้ำ เซลรีบว่ายน้ำหนี
“ แว๊กกก..........ยังไงนายก็จับฉันไม่ได้หรอก 55+ ” เซลที่กำลังว่ายน้ำอยู่หันมามองไม่เจอกับไบรน
“ อ้าว ? หายไปไหนอีกว่ะเนี่ย ” เค้าหยุดว่ายน้ำแล้วลอยคอมองหาไบรน
“ แว๊กกก ... บุง บุง ” เซลรู้สึกตัวว่าโดนดึงขาลงไปใต้น้ำ เขาหันไปมองเจอไบรนกำลังดึงขาลากเขาลงไปใต้น้ำ ลากลึกลงไป ลึกลงไป ลึกลงไป จนรู้สึกได้ว่า ธารน้ำแห่งนี้ไม่น่าจะลึกได้ถึงขณะนี้
“ ไอรน อาย อะ อ้า อ้อ !!!!! อัน อ้าย ไอ ไอ ออก ( ไบรนนายจะบ้าหรอ !!!! ฉันหายใจไม่ออก ) ” ด้วยความตกใจเขาตะเกียกตะกายขึ้นสู่ผิวน้ำแต่ไบรนจับไว้แน่นไม่ยอมปล่อย พลังเขามากเหลือเกิน
เขาลากเซลลงไปใต้น้ำ ลึกลงไปสู่ความมืด ผ่านไปชั่วอึดใจหนึ่ง เซลรู้สึกว่าเริ่มทนกลั้นหายใจไม่ไหว เขาจึงหยุดกลั้นหายใจ แล้วด้วยสัญชาตญาณ จึงสูดลมหายใจเขาไปเฮือกใหญ่ เขาไม่ได้สูดลมหายใจเขาไป ที่เขาสูดเขาไปคือน้ำ เขาสูดเอาน้ำเข้าไปเต็มปอด
“ ไบรน....ฉันเชื่อนาย ฉันเชื่อนาย
. ” ตาเขาลิบหรี่ หรี่ลง หรี่ลง
“ ไบรน ไบรน ไบรน ” เขาลืมตาโพรงขึ้นมา เขาจับ จับที่ตัวปรากฎว่าตัวเขาไม่เปียก ความรู้สึกที่หายใจไม่ออก ตอนนี้กลับหายใจสบาย โล่งปอดโปร่ง สิ่งที่อยู่ตรงหน้ากับเป็นไบรนที่มีท่าทีตกใจ และอาการที่ร้อนรน
“ เซลนายเป็นอะไร ” สีหน้าเขาดูกังวลเป็นอย่างมาก
“ ฉัน...เอ่อ....ฉัน...ฝันเห็นนายลากฉันลงไปในน้ำที่ลึก ลึก ลึกมาก ฉันหายใจไม่ออก นายไม่ยอมปล่อยฉัน หึ... ฮือ...นายไม่ยอมปล่อยฉัน ” น้ำตาเขาซึมด้วยความเจ็บปวดที่รู้สึก
“ แต่นายก็ยังเชื่อใจฉันใช่มั้ย ? ” ไบรนมองหน้าเซลแล้วยิ้มบาง บาง แต่ข้างในเขาเจ็บปวดเหลือเกิน
“ นายไม่ได้ฝันไปหรอก มันเป็นเรื่องจริง ฉันดึงนายลงไปใต้น้ำจริง ๆ ” เขาเงียบ มองหน้าเซลแล้วหลบตาเหลือบลงมองพื้นดิน
“ ทำไม ทำไมหล่ะ ” เซลตะโกนใส่หน้าเขา
“ วันที่ 29 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ฉันจะกลายเป็นอีกคนหนึ่ง คนที่ฉันไม่รู้จัก โดยไม่รู้เวลาล่วงหน้าว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ”
“ เซล ฉันเห็นทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ข้างใน ข้างในตัวของฉัน ฉันอยู่ข้างใน เซล...ฉันอยู่ข้างใน ฉันห้ามมันไม่ได้ ” ตาของไบรนแดงก่ำ น้ำเริ่มรินไหลออกจากตา
“ ฉันห้ามมันไม่ได้ เซล ฉันห้ามมันไม่ได้ ” เซลโผ่เข้ากอดไบรน เขาพูดเบา เบา ประโลมไบรนอย่างนุ่มนวล
“ แต่ฉันก็รอดมาไม่ใช่หรอ ? ” ไบรนมองหน้าเซล
“ แต่!!!! ” เซลเอามือปิดปากไบรน
“ แต่....ฉันเชื่อใจนายนะ ”
“ ช่างมันเถอะน่า ปีหนึ่งมันก็มีแค่ครั้งเดียวนิ ถึงฉันจะตายน่ะนะ แต่คนที่ฆ่าฉันไม่ใช่ใครนิ เป็นนาย....”
“
.? ”
“ เป็นนาย....เท่านั้นแหละที่ฉันยอมน่ะ ”
บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสงบนิ่ง แม้แต่สายลมที่คอยพัดกลับหยุดนิ่ง ใบไม้ที่โบกสบัดพริ้วไหวกลับไม่ไหวติ่ง เสียงน้ำที่สาดกระแทก กับหรี่ลง เสียงที่ดังอยู่รอบตัวกับกลายเป็นเสียงแห่งความเชื่อ ความศรัทธาที่มีให้ต่อเพื่อนผู้ร่วมเดินทางที่ยอมเสียสละแม้กระทั่งชีวิตของตน
“ ขอบใจนะ ฉันขอบใจนาย จริง จริง”
“ เอ๊ย...ครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่นายพูดคำว่าขอบใจน่ะ” เซลแซวไบรน
“ ไบรนดูนั่นสิ พระอาทิตย์กำลังขึ้น ” แสงสีส้มทอดทอขึ้น ดูสวยวิจิตร ทำให้พวกเขาลืมว่าสิ่งเลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นกับเขา จนทำให้พวกเขารู้สึกว่าสิ่งที่เลวร้ายที่เกิดขึ้นอาจเป็นความฝันไปจริง จริงก็ได้
“ เช้าแล้วนิ... ” เซลยิ้ม....
“ เราออกเดินทางกันต่อเถอะนะ ” เซลลุกขึ้นฉุดไบรนที่ยังคงเศร้าขึ้นมา
“ ฉันไม่ควรเลย ” ไบรนพรึมพ่ำ
“ ฉันไม่ควรมากับนายเลย ”
“ ไบรน...ตอนนี้คนที่ฉันเชื่อใจที่สุด...มีแต่นายคนเดียวนะ... ”
“
”
“ ฉันเชื่อนายนะ ” ความเศร้ากับเป็นความเบิกบาน
พวกเขาเดินทางไปเรื่อย ๆ โดยไม่พูดอะไรตลอดทาง เซลคิดว่าไบรนคงไม่อยากคุยกับเขาตอนนี้ ยิ่งเซลพูดคุยกับไบรนมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดมากเท่านั้น เขามองเห็นบ้านเรือนที่ดูเก่าและโทรม ยิ่งเขาเดินไป บ้านเรือนยิ่งมากขึ้น ผู้คนก็มากขึ้นด้วย
“ ไบรน เราคงมาถึงเมืองใดเมืองหนึ่งแล้วหล่ะ ” ไบรนก้มหน้าเดินมาตลอดทางสิ่งที่เขาเห็น คือรองเท้าบูทที่เซลใส่ ก้าวเดินทีละก้าวที่ละก้าว
“ ไบรน ” เซลร้องเรียกอีกที
“ ห๊า..เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ ” ไบรนถามเซลอีกครั้ง เพราะในหัวตอนนี้ของเขาว่างเปล่ามีเพียงเสียงของเซลที่ช่วยกระตุ้นให้เขาตื่นจากพะวัง
“ ฉันบอกนายว่า เราคงถึงเมืองใดเมืองหนึ่งซักแห่งน่ะ ” เซลเหลือบมองขึ้น เห็นตัวประสาทที่ไม่ค่อยเหมือนประสาทอยู่ไกล ๆ ที่เขาเดาว่าเป็นประสาทนั้นเพราะมีธงปักอยู่
“ ไบรน...ฉันว่าเมืองนี้ต้องเป็นเมืองอัคคีโลกันต์แน่ ”
“ ใช่แล้วเซล นั่นสัญลักษณ์ลูกไฟสีเขียว ”
พวกเขามองออกไป ประสาทที่ทำด้วยเหล็ก และมีหลอดแก้วโปร่งแสงขนาดใหญ่ ข้างในบรรจุไปด้วยของเหลวสีใส ใส จนดูเหมือนน้ำเปล่า เชื่อมโยงไปมากับตัวประสาท และมีป่องควันที่เป็นหลอดแก้วขนาดมหึมา ปล่อยควันพวยพุงออกมา เมืองที่ดูเก่าเหมือนซากปรักหักพัง ผู้คนที่เดินไปมาก็ดูเหมือนคนเป็นโรค
เมืองนี้มันช่าง...
ความคิดเห็น