ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rampaging Fortress ปราการดุสมรภูมิเดือด

    ลำดับตอนที่ #6 : I'll take the lead

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ย. 65


    "สัญญาณชีพของคอนโทรลเลอร์คุซานางิดับไปแล้ว"

    "โบนเฮดกระชากแขนซ้ายคุซานางิออกมา"

    "ให้รหัสเซลกีระดับ 10 ตัวนั้นว่าเอซิดบลาสต์…ลืมเรื่องเก็บซากคุซานางิไปก่อน มุรามาสะกับมาซามูเนะถอยกลับมาตั้งมั่นที่ฐานโดยด่วน…ติดต่อขอกำลังเสริมจากทุกฝ่าย ไม่ต้องเป็นพรีเดเตอร์ก็ได้…ไปเตรียมปืนใหญ่ป้องกันฐานให้ไวที่สุด"

    ในแรมเพจแคสเทิลตอนนี้เต็มไปด้วยความวุ่นวาย เอซสั่งการแบบไม่พักเพื่อเเเก้ไขสถาณการณ์ เขารู้ดีว่าถึงแม้หน่วยฮันเทรสจะเก่งกาจเพียงใดก็ไม่สามารถรับมือเซลกีสี่ด้วยพรีเดเตอร์สองเครื่องไหวแน่ ยิ่งตัวนึงเป็นระดับ 10 ด้วยแล้ว

    "กำลังเสริมกำลังมาครับ ทัพอากาศส่ง F-15 12 ลำมา ส่วนพรีเดเตอร์หน่วยดรากอนจะมาถึงในหกชั่วโมงครับ"

    "ช้าเกินไป…" เอซพึมพำ

    "เครื่องบินรบมาถึงแล้วครับ กำลังจะเริ่มโจมตี"

    จุดสีเทา 12 จุดปรากฏขึ้นบนฟ้าพร้อมกับทิ้งรอยไอพ่นสีขาวไว้เป็นทาง

    F-15 แยกเป็นสี่กลุ่ม กลุ่มละ 3 ลำและพุ่งเข้าใส่เซลกีทั้งสี่ตัวที่เพิ่งพังสะพานโกลเด้นเกทและเข้ามาในอ่าวซานฟรานซิสโกได้

    "อีเกิ้ลวัน ฟอกซ์ทู"

    "อีเกิ้ลทู ฟอกซ์ทู"

    "อีเกิ้ลทรี ฟอกซ์ทู"

    นักบินลั่นไกปล่อยขีปนาวุธ เอไอเอ็ม-9 ไซด์ไวน์เดอร์ใส่ ถึงแม้จะเป็นขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ แต่มันก็ได้รับการดัดแปลงเพื่อที่จะให้ยิงเซลกีได้ ขีปนาวุธพุ่งเข้าไปอัดหน้าเซลกีทั้งสามอย่างรวดเร็ว เสียงระเบิดดังลั่นอ่าว แต่เมื่อควันจากการระเบิดหายไป พวกเซลกีก็ยังยืนอยู่ได้ หนำซ้ำ พวกมันยังเริ่มโกรธขึ้นด้วย

    "บินไปซ้ำอีกครั้ง" หัวหน้าหน่วยนักบินสั่ง

    "อีเกิ้ลวัน ฟอกซ์ทู"

    "อีเกิ้ลทู ฟอกซ์ทู"

    "อีเกิ้ลทรี ฟอกซ์ทู"

    ไม่ว่าฝูงบินจะยิงถล่มเพียงใด เซลกีก็แทบจะไม่เป็นอะไรเลย จนสุดท้ายเมื่อมิสไซล์หมด ฝูงบินก็ต้องถอนตัวกลับไป

    "…พวกเขายื้อเวลาให้พอแล้ว ยิงได้"

    ปืนใหญ่ต่อต้านเซลกีทั้งสี่กระบอกที่ติดตั้งอยู่บนแรมเพจแคสเซิลทั้งสี่แผดเสียงออกมา 

    เซลกีทั้งสี่ถูกอัดด้วยกระสุนระเบิดอย่างแรง ควันสีดำปกคลุมผืนน้ำและตัวของเซลกีจนมิด

    "มันตายรึยัง" คาราสุที่อยู่ในมาซามูเนะถาม

    "ยังจับสัญญาณชีพได้ครับ" เจ้าหน้าที่รายงาน

    "ยิงซ้ำ" เอซสั่ง

    ปืนใหญ่แผดเสียงอีกครั้ง

    "ซ้ำไปอีก จนกว่ากระสุนจะหมดเลย"

    เสียงคำรามของปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายเสียงมันก็เงียบไป

    แต่ความเงียบของมันก็ถูกสวนด้วยเสียวคำรามของเซลกี

    "คว้ากกกกกกกกกกกกก"

    เซลกีทั้งสี่พุ่งเข้ามาหาแรมเพจแคสเซิล แอซิดบลาสต์พ่นกรดของมันใส่ปืนใหญ่กระบอกหนึ่ง ทำให้ปืนใหญ่นั้นถูกกัดกร่อนและพังลง และมันก็ทำแบบนี้กับปืนใหญ่ที่เหลือ

    "เวรเอ๊ย ปืนใหญ่เราหมดสภาพแล้ว…มุรามาสะ มาซามูเนะ ตอนนี้เหลือแค่พวกเธอแล้ว"

    ""รับทราบ""

    พรีเดเตอร์ทั้งสองเครื่องเดินเข้าไปขัดขวางเซลกีที่เข้ามา

    มุรามาสะรับมือไลท์ฮอร์นกับโบนเฮด ส่วนมาซามูเนะเข้าไปปะทะกับไอซาฟต์และแอซิดบลาสต์

    ถึงแม้ทั้งสองจะมีประสบการณ์ในการต่อสู้กับเซลกีมากแค่ไหน แต่การโดนสองรุมหนึ่งมันก็มากเกินไป ไอซ์ชาฟต์ใช้หางของมันเจาะเข้าไปที่ขาของมุรามาสะและแอซิดบลาสต์กระชากแขนขวาของมุรามาสะแล้วโยนเข้าไปในเขตเมือง ทางด้านมาซามูเนะก็โดนโบนเฮดแย่งค้อนของมันไปและโดนโบนเฮดพุ่งเข้าชนจนเสียหลักล้ม

    "สถานการณ์ฉุกเฉิน พวกเธอต้องดีดตัวออกมาเดี๋ยวนี้" เอซสั่ง

    "ไม่ได้ครับ ถ้าไม่มีพวกเราเมืองก็พังครับ กำลังเสริมมาไม่ทันแน่"

    "พวกเธอ…ขอร้องล่ะ…รักษาชีวิตเถอะ" คราวนี้เป็นเซต้าที่พูดขึ้นบ้าง

    "ขอโทษด้วยเซต้า ครั้งนี้ไม่ได้จริงๆ" ไอโกะบอก

    "ขอร้องล่ะ..." 

    "ผบ.คะ เรายังมีบรินฮิดล์อยู่นะคะ ให้ฉันขับออกไปช่วยเถอะค่ะ"

    "ทีมซ่อมเพิ่งมาบอกฉันว่ามันยังใช้การไม่ได้ เสียใจด้วยมิสสปาร์คเคิล"

    ในจอภาพแสดงให้เห็นพรีเดเตอร์ทั้งสองโดนอัดไม่ต่างกระสอบทราย ถูกโยนรไปโยนมาเหมือนตุ๊กตา เซต้าทนเห็นภาพไม่ไหวเลยลุกจากที่นั่งและออกห้องไป

    "ขอตัวเเปบนึงนะคะ…"

     

    เซต้าออกมานอกห้องบัญชาการ ในหัวเธอตอนนี้อื้อไปหมด น้ำตาเริ่มไหลออกมา เธอไม่ได้แค่เศร้าเพราะเห็นเพื่อนถูกทำร้าย เธอยังรู้สึกไร้ค่าไร้ประโยชน์ด้วย มันทำให้เธอนึกถึงตอนที่เธอเคยดูถูกมอธไว้ ตอนนี้ เธอก็ไม่ต่างอะไรจากเขา

    "…ฉันมันไร้ค่า…" เธอพึมพำออกมา

    "งั้นเหรอ…" มอธที่เดินมาหน้าห้องควบคุมพอดีกล่าว

    "นี่นาย…มาทำอะไรน่ะ" เซต้าสะอื้น 

    มอธเองก็เห็นเหตุการณ์ที่เกินขึ้นทั้งหมดจึงเลือกที่จะไม่ตอบเธอและเดินเข้าไปในห้อง

    "รอฉันแปบนึงนะ" เขาบอกก่อนปิดประตู

    ไม่นานนักเขาก็ออกมาและเรียกเธอ

    "ตามมานี่หน่อยสิ" เขาบอก

    "จะไปไหนน่ะ"

    "เดี๋ยวก็รู้"

    มอธพาเซต้าเดินไปยังฝั่งของทีมซ่อมและพาเธอลงลิฟต์ ไปยังห้องสำหรับเก็บอุปกรณืห้องหนึ่ง เขาใส่รหัสและพาเธอเข้าไปและหยิบแว่นตาควบคุมกับชุดควบคุมที่ใช้ในการซ้อมขับพรีเดเตอร์แบบซิมูเลเตอร์ให้ 

    "ใส่ซะ เดี๋ยวฉันไปรอข้างนอก" มอธเดินออกจากห้องไป

    "จะให้ฉันทำอะไรน่ะ" เซต้าสงสัยแต่ก็ใส่ชุดตามที่มอธบอก 

    เมื่อเสร็จแล้วเซต้าก็เดินออกจากห้องไปเจอกับมอธที่ใส่ชุดแบบเดียวกับเธอ

    "ตามมา"

     

    มอธพาเธอไปที่ส่วนโรงเก็บพรีเดเตอร์ที่บรินฮิลด์กำลังถูกซ่อมอยู่

    เมื่อพวกเขาเดินเข้าไป เซต้าก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่จับจ้องมาทางเธอ

    "เปิดโรงเก็บที่ 0 เจ้าหน้าที่ประจำโปรเจ็คประจำที่ทุกคน" มอธตะโกนบอกทุกคน

    ทีมช่างกว่าร้อยชีวิตรีบวิ่งไปยังโรงเก็บที่ว่าทันที

    "เราเองก็ไปด้วยเถอะ"

    มอธนำเซต้าเข้าไปยังโรงเก็บนั้น ด้านในเหมือนกับโรงเก็บทั่วไป เว้นแต่ว่าตรงนั้นมีพรีเดเตอร์อีกหนุ่งตัวที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ 

    ตัวของพรีเดเตอร์สีสีเทา ตรงอกมีกังหันยักษ์สองอันติดไว้ แขนและขาของมันดูหนาและใหญ่ มากกว่าบรินฮิลด์เสียอีก

    "ระบบอาวุธใช้อะไรได้บ้าง" มอธถามเจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่เดินอยู่แถวนั้น

    "ได้แค่ดาบกับไอพ่น ที่เหลือยังไม่ได้เตรียม" 

    "แค่นั้นก็พอ"

    "สรุปแล้วนายจะทำอะไร"

    "บิสมาร์ค พรีเดเตอร์มาร์ค 5 ต้องเชื่อมประสานสองคน…เราจะขับเจ้านี่ออกไปสู้กัน"

    "เก่าขนาดนี้อ่ะนะ…ฉันขับไม่ได้หรอก นอกจากหอกฉันก็ใช้อย่างอื่นไม่เป็นนะ"

    "ฉันจะนำเธอเอง"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×