ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    『 Boku no hero academia 』 A Dream|ตื่นจากฝันร้าย [OC]

    ลำดับตอนที่ #6 : คาบเช้าแสนน่าเบื่อ

    • อัปเดตล่าสุด 14 มิ.ย. 63





         "อื้อ........"


         เสียงครางในลำคอดังขึ้นอย่างแผ่วเบา ภายในห้องนอนสี่เหลี่ยมนั้นมีร่างเล็กนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา ทำให้แสงแดดที่สาดส่องลงมาไม่สามารถปลุกเธอให้ตื่นจากนิทราได้ ยกเว้นความร้อนที่เพิ่มอุณหภูมิในห้องให้สูงขึ้นจนคนที่นอนเริ่มรู้สึกตัว



         ร้อนจัง....นี่เรา.....หลับไปงั้นเหรอ? ....แล้ว....เมื่อวานนี้.....


         

         พรึ่บ!



         ร่างเล็กใต้ผ้าห่มลุกพรวดขึ้นนั่งเมื่อพยายามนึกถึงเรื่องเมื่อวานก่อนที่เธอจะกลับมาอยู่ที่ห้องของตัวเอง ดวงตาภายใต้เส้นผมมองไปยังนาฬิกาปลุกเพื่อดูว่ากี่โมงแล้ว


         "8โมง......46นาที......สะ สายแล้ว!!!!!!!"     


         เจ้าของเรือนผมสีดำยาวรีบลุกขึ้นจัดการตัวเองอย่างเร่งรีบ โดยที่เธอนั้นไม่ได้สังเกตอะไรผิดปกติเลยแม้แต่น้อย 



         ตึก! ตึก! ตึก!



         "น้ามินากะทำไมถึงมาปิดนาฬิกาปลุกหนูล่ะคะ!?" เด็กสาววิ่งลงมาชั้นล่างมุ่งหน้าไปยังห้องครัวเพื่อถามน้าสาวตัวแสบที่มาปิดนาฬิกาปลุกเธอ


         แต่เมื่อมาถึงกลับไม่พบใครสักคนมีเพียงขนมปังเมล่อนและนมกล่องรสสตรอว์เบอร์รีวางอยู่บนโต๊ะอาหาร เมื่อเดินเข้าไปก็พบกับกระดาษโน๊ตแปะอยู่ มือเล็กหยิบมันขึ้นมาอ่านใจความในกระดาษมีดังนี้



         ถึงอิคิจังหลานสาวตัวตะน้อย<3


         น้ามีงานด่วนเลยจะไม่อยู่บ้านประมาณ3-5วัน ถ้าอิคิจังคิดถึงน้าก็โทรมาหาได้ทุกเมื่อเลยนะจ๊ะ ส่วนเรื่องที่ปิดนาฬิกาปลุกหนูเพราะเมื่อวานเห็นหนูเหนื่อยมาก ๆ น้าเลยอยากให้พักผ่อนให้เต็มที่ ยังไงก็ทานอาหารให้ตรงเวลาด้วยนะจ้ะ แล้วเจอกันนะ<3


    จากมินากะคนที่สวยที่สุดในจักรวาล     

         

         

         เมื่ออ่านจบเด็กสาวถึงกับนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนเผยรอยยิ้มออกมา เธอรับรู้ได้ถึงความห่วงใยของน้าจากกระดาษแผ่นเล็กนี้ แต่ตอนนี้.... 



         เธอ!!!



         กำลัง!!!



         สาย!!!!!!


         

         ไม่มีใครเขาหยุดกันตั้งแต่วันแรก ๆ ของสัปดาห์เปิดเรียนหรอกนะคะน้ามินากะ!!!!


         

         โออิคิกรีดร้องในใจ เธอหยิบเอาอาหารเช้าเข้ากระเป๋าสะพายสีฟ้าคู่ใจ สองขาวิ่งไปหน้าบ้านเพื่อใส่รองเท้าอย่างรวดเร็ว ก่อนออกจากบ้านเธอไม่ลืมที่จะล็อกบ้านและหยิบสเก็ตบอร์ดออกมาด้วย


         เด็กสาวจะไม่ใช้มันถ้าไม่จำเป็น แต่ตอนนี้เธอมีเวลาไปโรงเรียนแค่5นาทีเท่านั้น!!!










         

         "โออิคิจังถูกไล่ออกจริง ๆ หรอ?" อุรารากะ โอชาโกะถามขึ้นด้วยความรู้สึกไม่ดี หัวข้อนี้ถูกตั้งขึ้นมาตั้งแต่เธอเข้าห้องเรียน


         ภายในห้องดูมีบรรยากาศหม่นหมองลงจนสัมผัสได้ แต่เมื่อถามคำถามนั้นออกไปก็ไม่ได้รับคำตอบกลับมาเพราะไม่มีใครรู้และทำได้แค่เพียงคาดเดา จนเวลาล่วงเลยไปอีกไม่กี่นาทีจะถึงเวลาเข้าเรียน ร่างเล็กเรือนผมยาวตรงสองสีที่ควรนั่งอยู่ด้านหลังห้องอย่างเช่นเมื่อวานกลับไร้วี่แววเจ้าของโต๊ะ 

         

         

         ครืด........



         "อรุณสวัสดิ์.... นั่งที่ให้เรียบร้อย" อาจารย์ไอซาวะเดินเข้ามาพร้อมถือสมุดเช็คชื่อเหมือนกับอาจารย์ประจำชั้นทั่วไป


         "อาจารย์ครับ! เมื่อวานมิทสุฮิดะคุงถูกเรียกไปทำไมหรอครับ!" อีดะยกมือถามอาจารย์ที่ยืนอยู่หน้าห้อง


         "เรื่องนั้นคงบอกไม่ได้......"


         "แล้ววันนี้เธอจะมาโรงเรียนไหมคะ!"โทรุที่นั่งอยู่ด้านหน้าถามขึ้น เพราะเธอเองก็ไม่ได้รับข้อความตอบกลับจากเพื่อนของเธอเลย


         "ไม่รู้"


         "โออิคิจังจะโดนไล่ออกไหมคะ" อุรารากะถามคำถามที่ทุกคนอยากรู้คำตอบที่สุดออกไป


         "เรื่องอะไร? ไปฟังมาจากไหนว่าเธอจะโดนไล่ออก" ไอซาวะเลิกคิ้วขึ้นสูง เจ้าเด็กพวกนี้ไปฟังมาจากไหนว่าเด็กคนนั้นโดนไล่ออก


         "เอ๋!?" เพื่อนในห้องร้องออกมา


         "แค่วันนี้เธออาจจะไม่มา แต่เธอไม่ได้โดนไล่ออกลบความคิดผิด ๆ นั่นออกไปซะ" มือสีขาวซีดหยิบปากกาขึ้นมาเพื่อเริ่มเช็คชื่อ 










         ตึก! ตึก! ตึก!


         

         เสียงวิ่งบนอาคารเรียนดังขึ้นอย่างต่อเนื่องดังจากบันไดขั้นแรกสุดของอาคารไล่ขึ้นไป โออิคิในตอนนี้คิดอย่างเดียวว่าเธอจะต้องเข้าให้ทันก่อนที่อาจารย์ของคาบเรียนแรกจะเข้า


         ขาเรียววิ่งข้ามขั้นบันไดแบบไม่มีสะดุด อีกแค่หนึ่งชั้นก็จะถึงชั้นเรียนของเธอแล้ว


         

         ตุบ!

         


         "อ๊ะ!?/โอ๊ะ!?" แต่ด้วยความรีบนั่นเองทำให้เธอไม่สามารถหยุดฝีเท้าตัวเองได้ ทำให้ชนเข้ากับร่างหนึ่งที่เดินออกมาจากกำแพงอย่างจัง


         แรงกระแทกทำให้ร่างเล็กเซถอยหลังไป แต่เธออยู่ตรงบันไดขั้นสูงที่สุดขาที่ลอยอยู่อีกข้างพยายามเหยียบขั้นที่อยู่ด้านหลังแต่ไม่ทัน ร่างของเธอนั้นกำลังจะหงายหลังตกบันไดในไม่ช้า


         

         หมับ!



         มือหนาสวมถุงมือสีดำคว้าแขนของเธอเอาไว้ทัน ก่อนที่น้ำเสียงและการพูดอันเป็นเอกลักษณ์จะเอ่ยทักขึ้น


         "GOOD MORNING!!! สาวน้อย! วิ่งแบบนี้มันDANGEROUSนะ" พรีเซนต์ไมค์ดึงตัวเด็กสาวขึ้นมาให้อยู่ในท่ายืนปกติ


         "คุณพรีเซนต์ไมค์? อะ ขอโทษค่ะที่วิ่งชนคุณ ขอตัวก่อนนะคะ" โออิคิก้มหัวขอโทษยกใหญ่แต่ไม่ทันที่เธอจะหันหลังกลับไปก็โดนอีกฝ่ายดึงแขนเอาไว้อีกครั้ง


         "HEY HEY ไม่ต้องรีบสาวน้อย เพราะIต้องไปสอนห้อง1-A และฉันก็ไม่คิดว่าYOUจะเข้าห้องเรียนไปทั้งสภาพแบบนี้หรอกนะ" เขาหลุดขำออกมาเล็กน้อยนิ้วชี้ไปที่ผมสีดำสนิทที่ควรเรียบตรง แต่ตอนนี้มันกลับชี้ฟูและมีเศษใบไม้ติดอยู่ทั่วเส้นผม และใบหน้าขึ้นสีจากอาการเหนื่อยหอบ


         เด็กสาวที่ได้ยินดังนั้นจึงรีบยกมือขึ้นมาปัดออกทันที ใบหน้าสีขาวนวลที่แดงอยู่แล้วยิ่งขึ้นสีแดงขึ้นไปอีก โออิคิลืมไปซะสนิทเลยว่าเธอได้วิ่งตัดป่าขึ้นมาบนภูเขา ทำให้มีเศษไม้ใบหญ้าติดไปทั่วตัว


         "WOW! สเก็ตบอร์ดCOOLดีนี่" ดวงตาสีเหลืองอมเขียวจ้องมองไปยังสเก็ตบอร์ดที่ถืออยู่ข้างเอวนักเรียนห้อง1-Aที่วิ่งชนเขา


         ลายของสเก็ตบอร์ดของโออิคินั้นตกแต่งด้วยสีขาว-ม่วง-ดำ เขียนเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษว่าBUTTERFLY และยังมีลวดลายผีเสื้อที่ถูกเน้นด้วยสีม่วงสว่างบนพื้นกระดานบอร์ดสีดำอีกด้วย ซึ่งมันเข้ากับเธอเป็นอย่างมาก


         "ขอบคุณค่ะ" 


         "เอาล่ะ! เราLATEกันมามากพอแล้ว รีบไปกันเถอะสาวน้อย! LET'S GO!!!" ร่างสูงเดินนำหน้าเธอ เด็กสาวเองก็เดินตามเขาไปอย่างเงียบ ๆ 

         

    .


    .


    .


    .


         ก่อนถึงห้องเรียนโออิคิได้ใช้อัตลักษณ์ของเธอเก็บสเก็ตบอร์ดเข้ามิติไป อาจารย์ไอซาวะเดินออกไปจากห้องไปสักพักแล้ว พรีเซนต์ไมค์บอกให้เด็กสาวเข้าไปก่อน เมื่อนักเรียนทำหน้าสงสัยเขาไม่ตอบอะไรเพียงขยิบตาให้เธอข้างหนึ่งเท่านั้น



         ครืด......



         "เอ่อ.... อรุณสวัส----"


         "โออิคิจัง!?"


         "มิทสุฮิดะคุงสบายดีใช่ไหมครับ!?"


         "เมื่อวานถูกเรียกไปทำอะไรหรอโออิคิจัง"


         "เรียนไหวไหม ฝืนรึเปล่า"


         เพื่อน ๆ ดูตื่นเต้นกับการมาของเด็กสาวเลขที่21มากกว่าการเรียนคาบเช้าเสียอีก คำถามมากมายถาโถมเข้ามาหาจนเธอเลือกตอบไม่ถูกเลยทีเดียว


         "SORRY!!! STUDENTS!! ขอโทษที่มาช้า ยินดีต้อนรับสู่MY SUBJECT!!!" พรีเซนต์ไมค์ที่แอบอยู่หลังประตูเดินเข้ามาขัดจังหวะการถามไถ่ของนักเรียนในห้อง 


         เมื่ออาจารย์เข้าห้องเรียนมาแล้ว เด็กสาวจึงรีบกลับไปนั่งที่ตัวเองที่อยู่ด้านหลัง พรีเซนต์ไมค์ที่เห็นดังนั้นจึงเริ่มการสอนในแบบของเขาทันที


         แม้โรงเรียนUAจะเปิดการสอนและฝึกฝนให้เป็นฮีโร่แต่แน่นอนว่าจะต้องสอนวิชาบังคับด้วย ตัวอย่างเช่นเช้านี้ที่ได้เรียนภาษาอังกฤษกับพรีเซนต์ไมค์



         ธรรมดามาก....


         น่าเบื่อโคตร



         บางคนเรียนอย่างไม่ได้สนใจอะไรมากเพราะมันธรรมดามาก ๆ จนน่าเบื่อเลยล่ะ 



         รู้สึก.....ง่วงจัง



         โออิคิเองก็เริ่มฟังคำพูดของอาจารย์ไม่ค่อยเข้าหูแล้วเหมือนกัน ความเหนื่อยล้าจากการไปพบอาจารย์ใหญ่เมื่อวานยังไม่หมดไป ดวงตาภายใต้เส้นผมเริ่มปิดลงช้า ๆ ก่อนที่เด็กสาวจะเข้าสู่ห่วงนิทานในที่สุด


         "......ฟี้.......ฟี้........" เสียงหายใจดังขึ้นอย่างแผ่วเบา ใบหน้าสีขาวนวลซุกเข้ากับแขนเล็ก เส้นผมหน้าม้าสีแดงที่ควรปิดดวงตาได้เปิดออก เผยให้เห็นเปลือกตาสีมุขที่ปิดสนิทและคิ้วเรียวที่เลิกขึ้นเล็กน้อย 


         เสียงกรนราวกับเด็กเล็กของเธอทำให้เพื่อนในห้องโดยเฉพาะด้านหลังเหลือบสายตามามองด้วยความเอ็นดู พวกเขารู้สึกว่าการจ้องมองใบหน้าไร้เดียงสาของเด็กสาวในยามหลับยังดีกว่าการเรียนอันน่าเบื่อนี้เป็นไหน ๆ 





         เวลาผ่านไปจนจบคาบเรียน เด็กสาวหลังห้องไม่มีทีท่าจะตื่น เพื่อนในห้องบางคนก็ออกจากห้องไปทานอาหารแล้วแต่ส่วนใหญ่ต่างมามุงดูและก็ไม่มีใครกล้าปลุกเลยสักคน บางคนก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้ 


         "นี่....โออิคิจังตื่นได้แล้ว" โทรุตัดสินใจเอื่อมมือไปเขย่าแขนเธอเบา ๆ แต่เด็กสาวไม่มีท่าทีจะตื่นเลย


         "มิทสุฮิดะจังเป็นพวกหลับลึกสินะ" คามินาริพูดขึ้นในขณะที่นิ้วยังคงเลื่อนดูรูปที่ตัวเองถ่ายไว้


         "นี่พวกนายถ่ายรูปโดนที่เจ้าตัวไม่ยินยอมมันผิดนะ!!!" อีดะตะโกนขึ้นมา เขารับไม่ได้ที่เพื่อนร่วมห้องของเขากำลังถ่ายรูปโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต


         "น่า ๆ อย่าหงุดหงิดไปเลยอีดะคุง" อาชิโดะหันไปพูดกับหนุ่มสวมแว่น เธอเองก็ร่วมวงถ่ายรูปกับเขาด้วย


         "มันจะอะไรนักหนาวะ!!!" บาคุโกเดินฝ่าวงถ่ายรูปมาหยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะของเด็กสาวที่ยังคงหลับไม่รู้เรื่อง


         "นายจะทำอะไรน่ะบาคุโก" หนุ่มผมแดงถามคนที่ยกมือขึ้นมาเพื่อทำอะไรสักอย่าง


         "ถ้าเรียกไม่ตื่นก็ต้องใช้วิธีนี้สิวะ!" ประกายระเบิดกระจายมาจากฝ่ามือเขา รอยยิ้มแสยะขึ้นดูชั่วร้ายประดับอยู่บนใบหน้า ดวงตาสีแดงสดจ้องมองร่างที่หลับอยู่ตรงหน้าไม่วางตา



         นี่คือการแก้แค้นเรื่องเมื่อวานสินะ


         

         ทุกคนคิดในใจ แต่ยังไงก็ต้องมีคนค้านเพราะว่ามันอันตรายเกินไป


         "อย่านะคัตจัง! มันอัตรา----


         มิโดริยะค้านทันทีที่รู้ว่าอีกคนจะทำอะไร แต่ไม่ทันที่เด็กหนุ่มผมสีเขียวดำพูดจบประโยคเงามือได้โผล่มาจากช่องมิติด้านหลังของบาคุโกโดยไม่ทันได้ตั้งตัว



         วูบ หมับ!



         "!!!!"  ทุกคนที่ยืนล้อมอยู่ผงะถอยหลังไปเว้นไว้เพียงบาคุโกที่โดนมือนั้นจับมือเอาไว้และมีเงามืออีกข้างหนึ่งได้ชูนิ้วชี้แล้วขยับซ้ายขวาเป็นสัญญาณบอกว่าอย่าทำ

         

         

         วูบ 



         เงามืออีกสองข้างโผล่มาจากช่องมิติด้านหลังของเจ้าของอัตลักษณ์พร้อมกระดานไวท์บอร์ดแบบพกพา มือข้างหนึ่งจับกระดานส่วนอีกด้านหนึ่งถือปากกาเมจิกที่เปิดฝาออก ก่อนลงมือเขียนข้อความลงไป


         "[ทุกคนไปทานอาหารเถอะ(。・∀・)ノ เธอแค่เหนื่อยนิดหน่อยปล่อยให้พักอีกสักนิดก็กลับมาเป็นปกติแล้ว(≧∇≦)ノ]" ทุกคนอ่านข้อความในกระดานพร้อมกัน เมื่ออ่านจบเงามือได้ลบข้อความแล้วเขียนใหม่


         "[แล้วก็การที่ปลุกเธอมันไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่ >_<;; พวกเธอคงไม่อยากเห็นเธอโกรธหรอกใช่ไหม!? วงเล็บ อิคิจังเวลาโกรธน่ากลัวมาก!>﹏<]" อิโมจิถูกเติมด้านหลังข้อความ เพื่อสื่อถึงอารมณ์ของอัตลักษณ์ได้ชัดเจนมากขึ้น


         ทุกคนที่อ่านข้อความพยายามจินตนาการภาพเด็กสาวที่กำลังโกรธสุดขีด แต่ด้วยลักษณะรูปลักษณ์ของเธอทำให้ไม่มีใครนึกออกว่าจะโกรธน่ากลัวอย่างที่อัตลักษณ์เธอว่าจริง ๆ ไหม


         ต่างคนต่างมองหน้ากันก่อนจะเริ่มทะยอยออกจากห้องเพื่อไปทานอาหารกลางวันโดยที่ไม่ส่งเสียงรบกวนร่างที่นอนอยู่(ยกเว้นบาคุโกที่โดนเงามือปิดปากตลอดจนออกนอกห้องไป) 


          เมื่อนักเรียนออกไปหมดแล้วเงามือได้หยิบโทรศัพท์ของเด็กสาวขึ้นมากดข้อความส่งหาใครบางคนก่อนจะเก็บมันเข้าที่เดิมและเงามือก็ค่อย ๆ หายกลับเข้ามิติไป


    .


    .


    .


    .


    .


    .


         ไม่นานหลังจากความเงียบเข้าปกคลุมห้องเรียน เปลือกตาของเด็กสาวค่อย ๆ เปิดอย่างช้า ๆ เพื่อปรับแสงให้ชินตา ก่อนจะลุกขึ้นนั่งอย่างปกติ ปากอ้าออกกว้างเพื่อหาวออกมา แขนเล็กสะบัดเล็กน้อยเพื่อคลายความเมื่อยล้าจากการโดนทับมานาน 


         

         วูบ



         เงามือโผล่ขึ้นมาพร้อมกระดานไวท์บอร์ดอันเดิมที่มีข้อความเขียนเอาไว้


         "[ฉันส่งข้อความถึงฮิโตชิแล้วเรื่องทานอาหารกลางวันヽ(✿゚▽゚)ノ ส่วนอิคิจังไม่ต้องไปที่โรงอาหาร วันนี้ทานที่นี่ไปก่อนแล้วขนมปังเมล่อนกับนมกล่องแค่นั้นไม่พอแน่ ๆ ฉันจึงเอามาเพิ่ม(๑•̀ㅂ•́)و✧....]"



         วูบ ตุบตุบตุบ



         เสียงของก้อนขนมปังเมล่อนมากมายมาตกลงตรงหน้าเด็กสาวจนกองเป็นภูเขาลูกเล็ก ๆ หนึ่งลูกเลยทีเดียว พร้อมกับกล่องนมอีกสามกล่อง เงามืออีกข้างเปิดกระเป๋าเพื่อนำของที่มินากะเตรียมไว้ให้เอามารวมกับของบนโต๊ะ


         เท่ากับว่าตอนนี้เธอมีขนมปังเมล่อน20ชิ้นกับนมกล่องรสสตรอว์เบอร์รีอีก4กล่อง

              

         "[เห็นเธอไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เมื่อคืนเลยเตรียมเผื่อเอาไว้ヾ(^▽^*) ทานให้อร่อยนะ(╹ڡ╹)]"


         "ขอบคุณค่ะ" เด็กสาวคลี่ยิ้มเอ่ยขอบคุณก่อนลงมือทานอาหารตรงหน้าอย่างไม่รีบร้อน และด้วยความที่ติดอ่านนิยายในขณะทานอาหารคนเดียว คนที่เดินผ่านไปมาก็จะเห็นเงามือกำลังเปิดนิยายให้เธออ่านอยู่ข้าง ๆ ด้วย



         ช่างเป็นอัตลักษณ์ที่สะดวกสบายจริง ๆ เลยนะ~


    .


    .


    .


    .


    .


         หลังทานอาหารตรงหน้าจนหมดเด็กสาวได้นำขยะไปทิ้ง และเป็นเวลาเดียวกับที่เพื่อน ๆ เริ่มกลับเข้ามาในห้องพอดี


         "อ๊ะ!? โออิคิจังตื่นแล้ว!" 


         "จริงด้วย ๆ อรุณสวัสดิ์จ้ะโออิคิจัง! ถึงมันจะเที่ยงแล้วก็เถอะ"


         "เกโระ ดูเหมือนว่าจะนอนเต็มที่แล้วสินะ"  


         โทรุ อาชิโดะ และอาซุยที่เข้าห้องมาเป็นคนแรก ๆ รีบเดินเข้ามาหาเด็กสาวที่กำลังจะนั่งที่ตัวเอง โออิคิเองก็ทักทายพวกเธอกลับเช่นกัน


         "สวัสดีค่ะโทรุจัง อาชิโดะจัง แล้วก็คุณอาซุย...?สินะคะ"


         "ฉันชื่ออาซุย สึยุ เรียกสึยุจังก็ได้ เกโระ" 


         "เมื่อวานถูกเรียกไปทำไมหรอมิทสุฮิดะจัง" โทรุถามด้วยความสงสัย ทำให้คนที่เดินเข้าห้องมาใหม่ที่ได้ยินหัวข้อนี้ได้รีบเข้ามาฟังทันที


         "ถามถึงเรื่องเมื่อวานหรอ? ฉันขอร่วมวงฟังด้วย"


         "ไม่ได้เจออะไรน่ากลัว ๆ มาใช่ไหมคะมิทสุฮิดะจัง"


         "อาจารย์ใหญ่เขาไม่ได้ทำอะไรใช่ไหม?"


         "ยัยผีโอคิคุ!! อธิบายเรื่องเมื่อวานกับอัตลักษณ์มาซะ!"


         "อัตลักษณ์เธอน่าสนใจชะมัด! มันคุยกับพวกเราได้ด้วย!"


         "เป็นความมืดคล้าย ๆ ของฉันเลยนะ"


         มีทั้งฮางาคุเระ,อาชิโดะ,อาซุย,เซโระ,คิริชิมะ,คามินาริ,บาคุโก,ยาโอโยโรซุ,จิโร่,ซาโต้,โอจิโร่,มิเนตะ,อาโอยามะ,โกดะ,โชจิ,โทโคยามิ,โทโดโรกิ เรียกได้ว่าเกือบครบทุกคนในห้องแล้วล่ะ


         

         ขาดพวกมิโดริยะคุงก็จะครบหมดทุกคนแล้วนะคะเนี่ย.....



         "งะ งั้นฉันบอกเป็นเรื่อง ๆ นะคะ...." เด็กสาวสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพูดอธิบายให้ทุกคนฟัง 


         "เรื่องอัตลักษณ์ของฉันคือมิติมืด ที่คุณโทโคยามิบอกว่าคล้ายก็คล้ายนะคะ อืม......จะพูดว่าเป็นเหมือนแขนอีกคู่หนึ่งของฉันก็ไม่ผิดหรอกค่ะ สามารถใช้ในการจับ หยิบ ถือของ เก็บของ ทำอาหาร ทำความสะอาด เหมือนอย่างคนปกติแล้วก็สามารถเรียกของออกมาได้เหมือนกระเป๋าแบบพกพาเลยค่ะ" ในขณะพูดมือเล็กไม่อยู่ว่างยกขึ้นมาทำท่าทางประกอบในการเล่า เหมือนเด็กน้อยกำลังเล่าเรื่องน่าตื่นเต้นให้ผู้ใหญ่ฟังไม่มีผิด


         "โกงชะมัด!"


         "เป็นอัตลักษณ์สะดวกสบายดีจัง"


         "เกโระ? แล้วก่อนหน้านี้ที่หลับทำไมถึงใช้อัตลักษณ์ได้ล่ะ? ไม่ใช่ว่าต้องบังคับหรอกหรอ" อาซุยถามขึ้นด้วยนิสัยช่างสังเกตของเธอทำให้เกิดคำถามในใจ


         "เรื่องนั้น....." โออิคิชั่งใจเล็กน้อยว่าจะบอกไปดีหรือไม่


         

         วูบ



         "[เรื่องนั้นคงบอกไม่ได้เพราะว่ามันเป็นความลับของอัตลักษณ์:P] เขาว่าอย่างนั้นค่ะ" เด็กสาวพูดข้อความบนกระดานที่อยู่เหนือศีรษะก่อนจะส่งยิ้มแห้งไปให้ทุกคน


         "หา!?" 


         "หมายความว่าไงห้ะ!?" 


         เมื่อทุกคนไม่ได้คำตอบก็ถึงกับร้องอุทานออกมา แต่คนที่จะโวยวายมากที่สุดน่าจะเป็นเด็กหนุ่มเจ้าของอัตลักษณ์ระเบิดที่สีหน้าเขาดูจะชัดกว่าคนอื่นมากที่สุด



         ครืด


         

         "เอ๊ะ? ทุกคนมุงอะไรกันอยู่หรอ?" 


         "ตื่นแล้วงั้นหรอมิทสุฮิดะคุง!" 

        

         กลุ่มของมิโดริยะที่เพิ่งเข้ามาใหม่ได้เข้ามาร่วงวงสนทนาด้วย 


         "ค่ะ อีดะคุง" เด็กสาวพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ "แล้วเรื่องที่ไปพบอาจารย์ใหญ่เมื่อวาน เอ่อ... เขาแค่อยากเล่นหมากรุกกับฉันแค่นั้นเองค่ะ" สิ้นประโยคเสียงตกใจก็ดังขึ้นอีกครั้ง วันนี้พวกเขาจะร้องพร้อมกันบ่อยเกินไปแล้ว!


         "แค่เล่นหมากรุกเนี่ยนะ!? ถึงกับต้องเรียกไปแบบส่วนตัวแบบนั้นเลยหรอ" บางคนเองก็ไม่เชื่อที่เด็กสาวพูดเพราะมันแปลกเกินไปที่จะให้เชื่อง่าย ๆ


         "อะ อันที่จริงก็ไม่ใช่แค่หมากรุกหรอกนะคะ มีทั้งโชงิแล้วก็หมากล้อมด้วย " โออิคิพยายามอธิบายให้เพื่อน ๆ เข้าใจแต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยังไม่ปักใจเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์   

         

         "ฟังดูน่าสนุกจัง! แล้วโออิคิจังชนะไหม แล้วอาจารย์ใหญ่เขาเก่งรึเปล่า!?" อาชิโดะเอ่ยถามด้วยความอยากรู้


         "เขาเก่งมาก ๆ  เลยค่ะ แต่ที่ฉันชนะเพราะเขาออมมือให้ต่างหากล่ะคะ" เด็กสาวเกาแก้มแก้เขินเพราะเธอเองก็ไม่ได้มั่นใจในฝีมือการเล่นของตัวเองซะเท่าไหร่


         "หึ ถ้างั้นเธอเองก็ไม่เก่งจริงนี่หว่า" น้ำเสียงยียวนถูกนำมาใช้ บาคุโกหัวเราะในลำคอราวกับกำลังเยาะเย้ยเด็กสาว 


         เขาเดินไปที่หน้าโต๊ะของโออิคิ ก่อนจะหมุนเก้าอี้ของยาโอโยโรซุหันเข้าหาหน้าโต๊ะเพื่อนั่งลง ก่อนจะเอ่ยท้าทาย


         "งั้นลองมาเล่นกับฉันหน่อย ว่าอย่างเธอจะเก่งจริงหรือเขาอ่อนให้อย่างว่าจริง ๆ เฮ้ย! ไอ้มือผี! แกมีกระดานหมากรึเปล่า!?" 


         "[หยาบคายจริง ๆ เลย! ว่าใครมือผีกันห้ะ!?(ノ`Д)ノ]" 



         ปึก! ปึก! ปึก!



         เงามือเอาปากกาเมจิกทุบกระดานอย่างไม่พอใจที่โดนเรียกอย่างหยาบคาย แต่ก็ยอมนำกระดานหมากรุกพร้อมตัวหมากมาวางบนโต๊ะอยู่ดี เด็กสาวที่เห็นว่าทุกอย่างพร้อมแล้วจึงต้องยอมเล่นอย่างไม่เต็มใจนักเพราะเธอเองไม่ค่อยชอบให้อีกฝ่ายมาวุ่นวายสักเท่าไหร่ และอีกอย่างก็คือ.....



         บาคุโกคุงเสียงดังมาก ๆ เลยค่ะT T 

         


          เพื่อน ๆ ที่เห็นว่าเรื่องมันมาขนาดนี้แล้วจึงไม่มีใครห้าม และมาสนใจการเล่นหมากของทั้งสองคนอย่างตั้งใจ 


         


         เหลือเวลาอีก10นาทีจะเข้าคาบบ่าย.......










         ใครจะเป็นผู้ชนะกันนะ?

        

         


         The Thicker The Berry, The Sweeter The Juice! Bakugou Katsuki x ...



         -TALK-


         แหม่ ไม่ได้เจอกันไปหลายวันเลยนะคะเนี่ย ไรต์กลับมาแล้วค่ะทุกคน!!! >< ที่มาต่อช้าเพราะว่าก่อนหน้านี้แต่งแล้วมันใช้ไม่ได้เลยต้องมาแต่งใหม่อีกรอบ(ร้องไห้)


         ตอนนี้จะเป็นเหมือนตอนคั่นเรื่องหลักเพื่อขยายเรื่องของโออิคิจังให้มากขึ้น(มั้งนะ) อัตลักษณ์น้องโออิคินี่สะดวกสบายมากๆเลยนะคะเนี่ย ชักอยากได้มั่งจัง คงไม่ต้องลุกจากเตียงกันพอดี  5555 


         และแน่นอนว่าความหมาบ้าของบาคุโกคุงจะตื้อ(?)น้องไม่ปล่อยแน่ เจอกันอีกยาวๆค่ะ


         ส่วนเรือสำราญของฮิโตชิคุงตอนนี้เครื่องเรือดับชั่วขณะค่ะ เปิดโอกาศให้เรือลำน้อยที่เพิ่งออกจากท่าเรือไล่ตามมาติดๆ5555 


         เจอกันใหม่ตอนหน้า รับลองว่าสนุกแน่ค่ะ จะถึงฉากบู้แล้ว><




         อย่าลืมกดหัวใจและคอมเมนต์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะคะ



         รักทุกคนนนนนนนนนนน~<3

     


           

         



     

         

         

         

         

         

         

         

       

         

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×