ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Gilgamesh : ราชาแห่งวีรชน
Archer : กิลกาเมซ (Gilgamesh)
ราชาแห่งวีรชน
กิลกาเมซเป็นราชาครึ่งมนุษย์ครึ่งเทพเป็นลูกของราชาแห่งอุรุค (Uruk) นามว่าลูกาลแบนด้า และเทพธิดา ริมัท นินซัน (Rimat-Ninsun) เขาดูแลอาณาจักรของชาวสุเมเรียนแห่งอุรุคที่เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเมโสโปเตเมีย เขาเป็นคนที่มีความสามารถและมากด้วยพลังของเทพ ไม่มีใครที่จะเทียบเคียงเขาอีกแล้ว เขาคือสุดยอดของบัลลังค์วีรชน
เขามีร่างกายและความรู้ที่แสนสมบูรณ์แบบตั้งแต่เกิดมา เขาเกิดมาเพื่อเป็นราชาโดยเฉพาะและเพื่อเป็นเสาหลักแห่งสรวงสวรรค์ของมนุษย์และเหล่าเทพ เขาถูกส่งมาเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่ามนุษย์ได้รวมตัวกับเทพเจ้าแล้ว โลกได้เริ่มห่างจากยุคของเหล่าเทพมากขึ้นเรื่อยๆ ในวัยเด็กของเขา เขารักในเทพเจ้ามากกว่ามนุษย์ แต่ว่าพระเจ้าก็ได้สร้างเอ็นคิดู (Enkidu) เพื่อมากำจัดเขาทิ้งซะ
กิลกาเมซพบกับเอ็นคิดูเป็นครั้งแรกที่วิหารแห่งอุรุค พวกเขาได้เข้าร่วมในการต่อสู้ที่กินเวลาหลายวัน จนกระทั่งกิลกาเมซจำเป็นต้องใช้พลังทั้งหมดของเขาเพื่อต่อกรกับศัตรูอันฉกาจนี้ เขาแปลกใจมากที่เจอศัตรูที่ต่อสู้ได้อย่างสูสีกับเขา เขาได้ดึงสมบัติต่างๆที่เขาเก็บไว้ในคลังออกมาเรื่อยๆ นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาได้ใช้ เกท ออฟ บาบิโลน (Gate Of Babylon) เป็นอาวุธ ถึงแม้จะเป็นความอัปยศอดสูที่เขาต้องมาใช้อะไรแบบนี้ แต่ว่าเขาก็เริ่มที่จะสนุกที่ได้ใช้มัน
ในที่สุด ในคลังของเขานั้นก็ว่างเปล่า แทนที่เขาจะลุยต่อด้วยเฮือกสุดท้าย แต่เขาก็ถอยทัพออกมา เอ็นคิดูก็ได้แต่เพียงตามเขาไปเท่านั้น เขาได้หัวเราะอย่างดังสนั่น เอ็นคิดูสงสัยในตัวเขามากจึงได้ถามไปว่า "ไม่เสียใจบ้างหรอ ที่ใช้อาวุธและสมบัติพวกนั้นไปจนหมด" เขากลับตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สดใสว่า "จะทำไมล่ะ? ถ้ามีใครบางคนที่ควรค่าที่จะให้ข้าได้ใช้มัน ข้าก็ไม่ลังเลที่จะใช้มันเพื่อช่วยคนๆนั้นหรอก"
หลังจากนั้น เอ็นคิดูและกิลกาเมซยิ่งสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาได้ทำงานกันอย่างเคียงบ่าเคียงไหล่ กิลกาเมซก็ได้พบว่าคลังของเขาเริ่มมีอาวุธมาเติมเต็มเรื่อยๆ จนวันหนึ่ง กิลกาเมซพบกับฮัมบาบา (Humbaba) ผู้พิทักษ์แห่งป่าและสัตว์ร้ายของเทพเจ้า เขาตัดสินใจจัดการมันทิ้งซะ จึงได้ร่วมมือกับเอ็นคิดูเพื่อหาทางกำจัดมัน แต่เอ็นคิดูลังเลที่จะช่วยเพราะว่าเขาเองก็เป็นคนที่ถูกพระเจ้าส่งมาเหมือนกัน และคิดว่ามันคงไม่ได้มีประโยชน์อะไรต่อประชาชนของกิลกาเมซเลย
กิลกาเมซบอกว่ามันเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยชำละล้างความชั่วร้ายทั่วอาณาจักรอุรุค แต่เอ็นคิดูก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าทำไมเขาต้องช่วยประชาชนที่เขากดขี่เอง กิลกาเมซได้อธิบายถึงหนทางการช่วยเหลือและปกป้องมนุษยชาติของเขาจนทำให้เอ็นคิดูได้ตระหนักถึงความสำคัญของมัน เอ็นคิดูได้ชื่นชมเขาอย่างมากจนกิลกาเมซก็ได้เขินอายอยู่พอสมควร เอ็นคิดูให้คำมั่นสัญญาว่าเขาจะยอมเป็นเครื่องมือของกิลกาเมซตลอดไป แต่กิลกาเมซไม่ยอมรับว่าเขาเป็นเครื่องมือ สำหรับกิลกาเมซ เอ็นคิดูนั้นคือเพื่อนของเขา
ในที่สุดเขาก็ได้เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่และร่ำรวยที่สุดในโลก สมบัติทั้งหมดบนโลกเป็นของเขาทั้งสิ้น อาณาจักรอุรุคได้ร่ำรวยอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และกิลกาเมซได้ถูกยอมรับว่าเป็นคนที่ทรงพลัง ขนาดที่พระเจ้าไม่สามารถละเลยถึงความมีอยู่ของเขาได้ แม้กระทั่ง อิชตาร์ (Ishtar) เทพธิดาแห่งความอุดมสมบูรณ์ก็ยังตกหลุมรักเขาและได้ขอแต่งงานกับราชาที่แสนสมบูรณ์แบบ แต่เขาก็ได้ปฏิเสธไปเพราะเขารู้ว่าเธอเป็นคนที่ไม่ซื่อสัตย์ โหดร้าย และชอบหลอกคนอื่นไปทั่ว จนเธอได้ไปหาพ่อของเธอ พระเจ้าอานู (Anu) เพื่อขอให้แก้แค้น เธอขอร้องให้พ่อของเธอปลดปล่อยกระทิงแห่งสรวงสวรรค์ (Bull Of Heaven) มาจัดการกิลกาเมซซะ
สัตว์ร้ายตัวนี้ แม้แต่พระเจ้าเองก็ไม่สามารถหยุดมันได้ ทำให้ทั้งโลกเกิดความอดอยากและตกอยู่ในหายนะมาตลอด 7 ปี จนกระทั่งกิลกาเมซและเอ็นคิดูได้มาจัดการมันด้วยโซ่ตรวนแห่งสวรรค์ (Chain of Heaven) ทำให้เมฆที่ปกคลุมทั่วโลกมาตลอด 7 ปีได้จางหายไป น้ำที่ท่วมก็เริ่มลดระดับลง ชื่อเสียงของอิชตาร์ได้ถูกบดขยี้อีกครั้งแต่ความโกรธของเธอก็ไม่ได้หายไป เธอขอให้เขาถูกประหารเนื่องจากโทษจากการฆ่าสัตว์ของพระเจ้า คำขอของเธอสำเร็จแต่เอ็นคิดูก็ไม่สามารถขัดขืนได้เลยเพราะเขาก็ถูกส่งมาจากพระเจ้าเหมือนกัน
กิลกาเมซได้มีกำลังที่อ่อนลงเรื่อยๆและกำลังจะโดนธรณีสูบ เขาได้โกรธที่พระเจ้าทำแบบนี้กับเขาเพราะเอ็นคิดูเองก็ถูกประหารเหมือนกัน เขาเป็นคนๆเดียวที่สมควรได้รับการลงโทษนี้ ไม่เกี่ยวกับเอ็นคิดูเลยแม้แต่น้อย แต่เอ็นคิดูกลับตอบไปว่า เขาก็เป็นหนึ่งในคลังสมบัติของกิลกาเมซ ถึงหายไปก็ไม่เป็นไร กิลกาเมซตอบกลับไปว่า "เพราะเธอมีค่ายังไงล่ะ เธอเป็นสิ่งมีค่าเพียงชิ้นเดียวของฉัน ฉันขอประกาศไว้ตรงนี้เลยว่า เธอเป็นคนๆเดียวบนโลกนี้ที่สามารถเป็นเพื่อนกับฉันได้" หลังจากนั้นเอ็นคิดูก็ได้ช่วยกิลกาเมซให้หลุดพ้นจากการประหาร ตัวของเขาได้หายไปโดยไม่เหลืออะไร เหลือเพียงแต่เสียงร้องดังสนั่นของกิลกาเมซเท่านั้น
หลังจากเหตุการณ์นั้น กิลกาเมซก็ได้ปกครองอาณาจักรตามแบบของเขา นอนกับผู้หญิง เสวยทรัพย์ไปวันๆ และร่วมต่อสู้กับเพื่อนๆ หลังจากที่เอ็นคิดูได้หายไป เขาก็ได้เปลี่ยนมุมมองความคิดของเขาไป การที่เห็นคนที่เหมือนกับเขาได้หายไปต่อหน้าต่อตา ทำให้เขาได้เข้าใจถึงความตาย เขาต้องการที่จะดูการพัฒนาของมนุษยชาติไปจนถึงจุดจบจึงได้ออกตามหาความเป็น นิรันดร์ซึ่งก็คือสมุนไพรที่สามารถรักษาความเยาว์และให้ชีวิตที่เป็นนิรันดร์
เขาได้วางแผนเรื่องสมุนไพรมานานแล้ว ก่อนที่เอ็นคิดูจะจากไปเสียอีก เขาอยากจะตามหามันเพื่อทำให้คลังสะสมของเขาสมบูรณ์แบบ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงออกเดินทางตามหา เอเรชคิแกล (Ereshkigal) เขาตามหาจอมเวทย์ ซิอุสซูดรา (Ziusudra) ผู้ซึ่งอาศัยมาตั้งแต่ครั้งที่น้ำได้ท่วมโลก เขาเป็นคนๆเดียวที่สามารถหนีจากความตายและอยู่ได้มาจนถึงปัจจุบัน กิลกาเมซได้เกลียดและกลัวความตายที่ได้พลัดพรากเอาชีวิตเพื่อนๆของเขาไป เขาได้เดินทางในที่แสนทุรกันดารมาหลายสิบปี ในที่สุดเขาก็มาถึงอาณาจักรแห่งความตายแต่พบกับ อุตนาพิชทิม (Utnapishtim) ที่สามารถเปลี่ยนเขาให้เป็นอมตะได้ แต่กิลกาเมซกลับปฏิเสธความเป็นอมตะนั้นไป เพราะเขาอยากจะอมตะโดยยังมีความปรารถนาต่อไป ดีกว่าที่จะมีชีวิตอยู่แบบไม่มีความรู้สึก เขาจึงวางแผนที่จะออกไปจากโลกใต้พิภพนี้ แต่อุตนาพิชทิม ก็สงสัยว่าหนทางของเขานั้นจะดีจริงหรือ อุตนาพิชทิมจึงบอกความลับบางอย่างกับกิลกาเมซ
เขาบอกกับกิลกาเมซว่า มีวิธีที่จะเป็นอมตะได้โดยไม่เสียความรู้สึกอยู่นั่นคือการใช้สมุนไพรที่อยู่ลึกลงไป ถึงเจ้าจะไม่กินมัน ก็สามารถเอาไปเป็นของสะสมได้นะ กิลกาเมซที่หลงฟังจึงเดินทางลึกไปเรื่อยๆและได้ขุดสมุนไพรนั้นขึ้นมา ในเวลานั้นเขาคิดว่าเขาสามารถเป็นอมตะได้โดยไม่ต้องเป็นแบบพระเจ้า เขาอมยิ้มให้กลับความสำเร็จของเขา และกลับขึ้นมาบนดินเพื่อที่จะใช้สมุนไพรนั้นในการโค่นล้มความตายและแก้แค้นให้กับเพื่อนๆของเขา
ระหว่างกลับไปยังอุรุค เขาได้แวะทำความสะอาดตัวเองก่อนโดยพักในป่าใกล้ๆเพื่อฟื้นฟูร่างกายจะความเหน็ดเหนื่อยตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา เขาได้ลิ้มรสของความสุขที่แท้จริงครั้งแรกอย่างเปี่ยมใจ เขาได้รับความเป็นอมตะที่สามารถเป็นอิสระจากทุกๆสิ่งแม้แต่ความตาย แต่ว่าเขาก็ได้ทำพลาด งูที่มาพร้อมความกระหายจากในพุ่มไม้ก็ได้มาฉกเอาสมุนไพรนั้นไป กิลกาเมซได้ไล่ตามงูนั้นไป แต่ก็สายไปแล้ว เขาได้เพียงแต่หัวเราะให้กับความโง่เขลาของตนเอง
แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับอะไรอีกแล้วในชีวิต แต่เขาก็เข้าใจแล้วว่าการได้รับสิ่งตอบแทนคือสิ่งเดียวที่เขาไม่มี ความสำเร็จและความสุขในชีวิตที่เขาได้รับได้หายไปในทันที ทำให้เขาได้ฉุดคิดว่าความอมตะไม่จำเป็นต่อเขา เขายอมที่จะเกิดมาในสภาพมนุษย์และได้ดื่มด่ำความสุขในฐานะมนุษย์และตายในแบบมนุษย์แบบนี้จะดีกว่า
สำหรับในคลาสอาเชอร์ กิลกาเมซได้มีโฮกุของตัวเองนั่นคือ เกท ออฟ บาบิโลน ที่เป็นการปลดปล่อยอาวุธในคลังสมบัติของตนเองออกมาจากประตูมิติ ซึ่งเป็นโฮกุที่มีพละกำลังและอนุภาพทำลายล้างสูง
ความสามารถเฉพาะคลาส
ความเป็นอิสระ (Independent Action) A
ทำให้สามารถคงตัวตันอยู่บนโลกได้ถึง หนึ่งอาทิตย์โดยที่ไม่ต้องการมานาจากมาสเตอร์ หากเสียมานา อย่างเช่นใช้ในการต่อสู้ หรือใช้ สมบัติวีรชน เวลาที่คงอยู่จะลดลงตามมานาที่เสียหากไม่ได้รับมานาจากมาสเตอร์
ต่อต้านเวทย์ (Magic Resistance) E
ความเสียหายจากเวทย์มนต์จะถูกลดทอนลง
Personal Skill
ความน่านับถือ (Charisma) A+
เป็นความน่านับถือจนคล้ายกับเป็นคำสาปที่ทำให้คนนับถือ และเนื่องจากความมั่นใจในตัวเองของเขาจึงทำให้ คนรอบข้างมีความมั่นใจขึ้นมาด้วย
ความเป็นเทพ (Divinity) B
ความเป็นเทพจะทำให้ผลที่จำกัดให้ใช้แค่กับมนุษย์ถูกลดลง หรือ ไร้ผลขึ้นอยู่กับระดับของความสามารถ และยังสามารถลดทอนความสามารถในการป้องกันบางอย่าง ปกติแล้วมันควรจะอยู่ในระดับ A+ เนื่องจากเขามีเลือดเทพอยู่ 2/3 และเขายังเกลียดเทพ ระดับความสามารถนี้จึงลดลง
กฎแห่งทองคำ (Golden Rule) A
ถูกกำหนดมาให้เป็นเศรษฐี ปัญหาเรื่องเงินนั้นไม่มีทางเกิดขึ้น
นักสะสม (Collector) EX
ความสามารถในการดึงดูดสิ่งของล้ำค่าเข้ามาหาตัว สิ่งของล้ำค่าในความหมายของ กิลกาเมช นั่นคือ ความสำคัญต่อมนุษยชาติ เช่น วิทยาการใหม่ๆ
สมบัติวีรชนที่ครอบครอง
"ข้าจะกล่าวถึงการกำเนิด จากการรวมตัวกันของธาตุที่มารวมตัวกัน จนกลายเป็นดวงดาวที่นำทางต่อการสร้างสรรค์ทั้งมวล เอนูม่า อีลิช!"
Gate of Babylon เกท ออฟ บาบิโลน : สมบัติแห่งราชา
ประเภท : ต่อต้านบุคคล (ตนเอง)
เป็นคลังสมบัติที่เก็บต้นแบบของทุกสิ่งทุกสิ่งของบนโลกเอาไว้ ต้นแบบของสมบัติวีรชนรวมถึงของวิเศษมากมายถูกเก็บไว้เรียกได้ว่าเป็นที่เก็บรวมทุกภูมิปัญญาของมนุษย์ และสามารถเรียกออกมาผ่านประตูมิติที่สามารถโผล่ที่ไหนก็ได้รอบๆตัวของ กิลกาเมซ เดิมที่แล้วมันไม่ได้มีไว้ใช้โจมตี แต่เนื่องจากการต่อสู้เคียงคู่กับเอนคิดู ทำให้เขาต้องประยุกต์ให้มันสามารถใช้โจมตีได้โดยการยิงอาวุธต่างๆออกมาจากคลัง นั้นเป็นเหตุผลที่เขาถูกอันเชิญมาในคลาสอาเชอร์ อาวุธที่ยิงออกมานั้นจะกลับเข้าไปในคลังเองโดยอัตโนมัติ นั้นทำให้เขาสามารถยิงมันออกซ้ำเรื่อยๆ แต่เดิมทีเขาก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้วว่าอะไรจะถูกยิงออกมา เพราะทุกอย่างที่ถูกยิงออกมาล้วนเป็น สมบัติวีรชน และเนื่องจากสิ่งที่ยิงออกมาเป็นต้นแบบของอย่างบนโลก เมื่อปะทะกับของแบบเดียวกันก็จะชนะเสมอ แต่ก็ยังมีสิ่งที่ไม่มีในคลังอยู่ เช่น สิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์สร้างขึ้น อย่าง อาวาลอน หรือ กวจะและกุณฑล หรือ สมบัติวีรชนที่เกิดจากตำนานของตัวบุคคลอย่าง เลเจนด์ ออฟ แดรกคูลล่า หรือ ของที่ไม่มีที่มาแน่นอนอย่าง วาสวีศักติ ที่กรรณะไม่เคยใช้มันเลยตอนมีชีวิตอยู่ มีแค่คำบอกเล่าว่าเขามีมันเท่านั้น
อาวุธใน เกท ออฟ บาบิโลน นั้นมีมากมายจนไม่สามารถกล่าวถึงหมด แต่มีของบางชิ้นที่สมควรกล่าวถึง ดังนี้
เกราะทองที่สร้างจากพลังเวทย์ มีความต้านทานเวทย์ที่ และมีความทนทานสูงมาก และยังเป็นเกราะประเภทกันคำสาปให้กลายเป็นหิน ทำให้มันเป็นศัตรูของเมดูซ่า
วิมาร (Vimana) : บัลลังค์แห่งราชสวรรค์ เรือเหาะสีทองที่ใช้แสงอาทิตย์เป็นพลังงาน และตะกั่วเป็นเชื้อเพลิง มีความเร็วที่เหนือกว่าเครื่องบินเจ็ทในปัจจุบันมาก และยังติดอาวุธมากมายที่เป็นต้นแบบของปืนกล และจรวดในปัจจุบัน
เอนคิดู (Enkidu) : โซ่สวรรค์ หนึ่งในอาวุธที่เขาไว้ใจที่สุด เป็นโซ่วิเศษที่ตั้งชื่อตามเพื่อนรักของเขา ความแข็งแกร่งของมันจะเพิ่มขึ้นเมื่อใช้กับเป้าหมายที่มีความเป็นเทพ (Divinity) แต่ถึงจะไม่ใช้กับเป้าหมายที่เป็นเทพมันก็ยังมีความแข็งแกร่งขนาดที่ใช้โจมตี และป้องกันได้ แต่ส่วนมากแล้ว กิลกาเมซ มักใช้มันคู่กับ เกท ออฟ บาบิโลน เพื่อให้มันสามารถโผล่ออกมาจากทุกทิศทางเพื่อโจมตี ป้องกัน และ รัดเป้าหมาย
Ea เออา : ดาบผ่าโลก
ประเภท : ต่อต้านโลก
ระดับ : EX
อีกหนึ่งอาวุธที่ กิลกาเมซ ไว้ใจที่สุด ดาบที่ตั้งชื่อตาม เทพเออา เทพแห่งดิน ละ น้ำตามตำนานของ เมโสโปเตเมีย มันถูกสร้างขึ้นก่อนที่จะมีมนุษย์ แทนที่จะเรียกมันว่าเป็นดาบ การทำงานของมันมีลักษณะเหมือน สว่าน หรือ เลื่อยมากกว่า แต่ว่ามันก็ยังมีความเป็นดาบอยู่เนื่องจากมันมีพลังในการฟัน และ แทงถึงแม้จะดูไม่มีความคมก็ตามแต่ความสามารถแท้จริงของมันนั้นอยู่ที่ท่าโจมตีที่ชื่อว่า Enuma Elish อีนูม่า อีลิช : ดาวรังสรรค์แยกฟ้าดิน เรียกได้ว่ามันคือ สมบัติวีรชนที่แต่จริงของ กิลกาเมซ ก็ว่าได้ เมื่อใช้งานใบดาบที่แยกเป็นสามส่วนของ เออา จะหมุนสวนทางกันจนเกิดเป็นพลังงานที่ทำให้มิติบิดเบี้ยว พลังทำลายของมันนั้นมหาศาลจนแยกสามารถแยกมิติได้ มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรอดจากการโจมตีนี้เมื่อใช้เต็มพลัง จนถึงตอนนี้มีเพียง อาวาลอน เท่านั้นที่สามารถป้องกันการโจมตีนี้ได้ ความแรกเต็มที่เขามันนั้นเท่าค่า STR ของ กิลกาเมซคูณด้วย 200 (ค่า STR คืออะไรลองหาอ่านในเพจได้)
--------------------------------------------------------------------------
มีเพจแล้วเน้อ : Kokowa ฉันแค่อยากแปล
-------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
จบไปแล้วนะครับ สำหรับวีรชนท่านนี้ กิลกาเมซผู้ยิ่งใหญ๋ เนื้อหาของเขาค่อนข้างยาวและแปลยากพอสมควร ถ้ามีจุดไหนผิดพลาดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เอาเป็นว่าเจอกันใหม่ตอนหน้า จะเป็นของใคร รอติดตามนะครับ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น