ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    King Kill Game เกมล่าราชันย์(รับสมัตรตัวละคร)

    ลำดับตอนที่ #6 : EP.1 การเดินทางที่มีแต่ปัญหา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 21
      0
      9 ต.ค. 59

       1 วันผ่านไป
    "สถานีรถไฟโตเกียวขอยินดีต้อนรับสู่สายโตเกียว-ฮอกไกโด ขอให้ทุกท่านไปถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพนะค่ะ"
      สิ้นเสียงสังเคราะห์ผู้หญิงจบลง ประตูรถไฟเดินทางข้ามจังหวัดได้ปิดลงไม่ให้ใครเข้าอีกรวมถึงคนที่มาไม่ทัน
      "เฮ้ย รอกูด้วยสิว่ะ!!"ชายคนหนึ่งรีบวิ่งไปให้ทันทว่าช้าไป
      รถไฟได้ปิดประตู วิ่งไปด้วยความเร็วสูงทันที ต่อให้ชายคนนั้นพยายามวิ่งแค่ก็ไม่มีทางจะตามทันได้
      "ห่านเอ้ย........"ชายคนนั้นเกาหัวแรง โทษตัวเองที่มาช้าไปนิดเดียว
      ไลน์!
       เสียงแจ้งเตือนข้อความของโปรแกรมไลน์ดังขึ้น ชายคนนั้นระงับอารมณ์หงุดหงิดไว้แล้วหยิบมือถือมาดูข้อความในไลน์กลุ่ม
      eสาดดดด[มึงหายไปไหนว่ะ ไหนที่ท้ากูไว้เมื่อวาน]
      ปลาทองพ่องๆๆๆๆๆ[นั้นสิว่ะ แต่วานมึงเล่นท้าชาวบ้านไว้ตั้งหลายภาษาเลยไม่ใช่หรือไง]
      ขอ200[ที่แท้ก็ป็อดนี่หว่า 5555555+]
      ขอดูไข่หน่อย[เกย์ชัดๆ ไม่อยากดูไข่เกย์เลย]
      คุ_วย[ไปแด็กไอ้ช้างน้อย_องมึงซะไป]
      เมื่อได้เห็นข้อความ ชายคนนั้นถึงโกรธที่ถูกเหยียดหยามยันพ่อ เลยตอบกลับไป
      ที่นี่คือสปาร์ตัน[กูตกรถโว้ย!!!!!!!!!!!!]
      พร้อมส่งภาพ
    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ นิ้วกลาง

      ที่นี่คือสปาร์ตัน[ไม่ต้องห่วงโว้ย เดี๋ยวกูใช้ราชันย์ตามพวกมึงไปก็ได้ไม่หงอ]
      ชายคนนั้นค่อยยิ้มกริ่ม ด้านหลังพลันปรากฏร่างสิ่งมีชีวิตอันพิลึกพิลันออกมาราวกับวิญญาณ
      "Voice of Butterfly!"
      รูปร่างราชันย์ตัวนี้มีรูปลักษณ์คล้ายมนุษย์ แต่มีส่วนหัวเป็นโทรโข่งสีขาวภายในมีลายก้อนหอยโข่งวกอยู่ภายใน ส่วนลำตัวแขนขาเป็นสีดำตัดกับรูปผีเสื้อสีขาวกระจายอยู่ทั่วร่าง
      เขาหันไปทิศทางที่ว่างเปล่า"ฟังให้ดีไอ้คนอ่านนะ ความสามารถราชันย์ของฉันคือ ถ้ายิ่งฉันตะโกนเสียงไปไกลเท่าไหร่ ฉันจะวาร์ปไปยังจุดที่เสียงไปถึงได้ไกลขึ้นเท่านั้น เดี๋ยวโชว์ให้ดู"
      เขาสูดอากาศให้เต็มปอด จากนั้นตะโกนสุดชีวิต
      "ย้าก!!!!!!!!!!!!!!!!!!"
       เป็นดั่งที่พูดร่างของเขาได้หายไปราวกับไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้น ทว่าร่างของเขาได้ไปมีตัวตนในจุดที่เสียงของเขาดังก้องไปถึงซึ่งไล่กวดรถไฟสายโตเกียว-ฮอกไกโดที่เขาตกรถไปทันพอดี ก่อนโดนรถไฟททิ้งห่างอีกครั้ง
      "อีกนิดเดียวจะถึงแล้ว........."
      ขอแค่เขากะระยะเสียงได้ก็จะมีโอกาสเข้าไปในรถไฟได้แล้ว
      ปู้ด!!!!!!
      เสียงรถไฟอีกคันหนึ่งดังขึ้น เขาจึงหันไปทางซ้ายที่เสียงดังมาก่อนพบว่าที่เขาอยู่ในจุดซ้อนทับของรางรถไฟหรือเป็นทางแยกรางรถไฟดีๆนี่เอง!
      "ชิบหาย!!"เขาโผล่ตะโกนออกมาพร้อมเผลอใช้ความสามารถด้วย
      แทนที่จะมีโอกาสได้หลบทันก่อนรถไฟจะชน ทว่ากลับกลายไปเขากลับวาร์ปไปหารถไฟซะเอง
      แผละ!!
      รถไฟได้ชนและขยี้ร่างเขาให้กลายเป็นซอสมะเขือเทศโดยทันที
      ทางผู้เขียนไม่ได้มีอะไรมากนอกจากขอให้ไปสู่สุขคติเท่านั้น

    รายงานจากหน่วยคัดเลือกสาขาญี่ปุ่นถึงศูนย์ใหญ่
    ผู้เข้าแข่งที่เหลือทั่วโลก:2,999คน
    ผู้เสียชีวิต:1คน
    คอมเม้นต์:ตายได้ควายชิบหาย

      "โอย............ปวดฉี่ชะมัด.........."ชินจิที่นั่งอยู่ที่ที่นั่งโดยสารในโบกี้ที่3รถไฟโตเกียว-ฮอกไกโดโอดครวญขึ้นมา(ชุดของเจ้าตัวเปลี่ยนมาเป็นชุดปกติคล้ายนักเรียนม.ปลายแล้ว)
      ขอย้อนกลับไปนิดหน่อยจากตอนที่แล้ว เขาได้รับสายจากคนที่เขาเรียกว่า ตาลุง แล้วตาลุงของเขาก็โวยวายขึ้นมาเรื่องลูกสาวของเขาที่เป็นแฟนกับชินจิและเรียกตัวให้กลับมาที่ฮอกไกโดโดยเร็ว นี่เป็นเหตุให้ต้องขึ้นรถไฟกลับโดยด่วน
      "ไม่ไหวแล้วโว้ย"เขาตัดสินใจไปฉี่ในห้องน้ำโบกี้เขาทันที
      ทว่าหน้าห้องน้ำดันติดป้ายไว้ว่า
      'ห้องน้ำเสีย'
       "โอย........ตั้งใจแกล้งใช่มั้ยว่ะ"ชินจิประชดป้าย
      เขาตัดสินไปที่ห้องน้ำของโบกี้ถัดไปทันที
       เมื่อเข้ามาในโบกี้4พบกับคนจำนวน5คนนั่งอยู่ที่นั่งทว่า
      'ทำไมบรรยากาศดูมาคุจังฟ่ะ?'
      เขาไม่ได้คิดไปเองแน่ รู้สึกอึดอัดเหมือนทุกคนในโบกี้นี่พร้อมจะฆ่ากันได้ทุกเมื่อ แล้วเขาเหมือนลูกแกะที่หลงเข้าในสนามรบ
      'ใจไม่ดีเลย พับผ่าสิ รีบเข้าห้องน้ำแล้วไปจากที่นี่ดีกว่า'
      ชินจิพยายามทำตัวให้หน้าด้านที่สุดเท่าที่จะทำได้ รีบสาวเท้าเข้าห้องน้ำโดยด่วน
      ปัง!
      เสียงปิดประตูดังลั่นทว่าผู้คนในโบกี้นี้กลับไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่ ดันไปสนใจกับเวลาในโทรศัพท์ซะงั้น
      "ชิ เวลาไอ้คนท้าพวกเราไปไหนฟ่ะ"ชายท่าทางนักเลงในโบกี้นี้พูดทำลายความเงียบ
      "นั่นดิว่ะ สงสัยหนีจุกตูดไปแล้วมั้งว่ะ 555555+"ชายอีกคนที่นั่งข้างรูปร่างผอมคล้ายพวกขี้ยาขนานหนักสมทบ
      จากนั้นเสียงวิจารณ์ของคนในโบกี้ก็ดังขึ้นประมาณว่าไอ้คนที่ท้าพวกเขานั้นกระจอก ขี้ขลาด เป็นต้น โดยหารู้ไม่ว่าคนท้านั้นได้ตายไปแล้ว(แถมโง่ๆด้วย)
      "ผมว่าใกล้จะถึงเวลาแล้วสินะ"
      จู่ๆมีเสียงอันนุ่มนวลหยุดคำวิจารณ์ลง ซึ่งมันดังมาจากชายใส่ชุดสูทสีขาว ผูกเนคไทสีแดง ผมสีดำ ใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพบุตรจากสวรรค์ทว่าพอบวกกับสีผม มันรู้สึกให้กลิ่นอายน่ากลัวๆทุกการเคลื่อนที่แบบแปลกๆ
       นัยต์สีฟ้ากวาดมองทุกคนในโบกี้"มาเริ่มกันดีกว่า การต่อสู้น่ะ"
      "อะไรว่ะ อีกตั้ง10กว่านาทีนะโว้ย"ชายที่นั่งข้างหลังเขาแย้ง
      เขาค่อยๆเผยรอยยิ้มอันน่าขนลุก"สำหรับนาฬิกาผม มันบอกว่าควรถึงเวลาตั้งแต่แรกแล้ว........"
      ทันทีที่สิ้นคำ อยู่ดีๆร่างชายที่นั่งข้างหลังเขาเกิดชักกระตุกขึ้นมาราวกับเจ้าเข้าและดิ้นไปกับพื้นอย่างทรมานคล้ายโดนไฟเผาร่าง ทำเอาทุกคนในโบกี้ลุกขึ้นมาดูอาการด้วยความตกใจ
      เขาค่อยๆลุกขึ้นมาจากที่นั่งพร้อมเผยมือเชิญ"ผมชื่อ อีธาน เวน่อม ยินดีที่ได้รู้จัก"
      บนไหล่ของเขาพลันมีร่างงูตัวเขื่อง สีเขียวเข้ม ลายหนอนผีเสื้อ ออกมาเกาะไหล่พร้อมขู่ฟ่อๆ
      "นี่ราชันย์ของผม Gnne's snake"
      "ช่วย................................................ด้วย..................."
      เสียงของชายที่โชคร้ายแทรก  สภาพของเขานั้นดูน่าสยดสยองมาก เนื้อตัวของเขากลายเป็นสีม่วงคล้ำทั่วตัว ตัวเย็นซีด จมูกและตาเลือดไหลออกมาเป็นน้ำก็อกและไม่มีที่ท่าว่าจะหยุด ดวงตาส่อถึงความหวาดกลัวตายชัดเจน ทำเอาคนในโบกี้ทุกคนแตกตื่นกับเรื่องประหลาดแบบนี้
      "ไอ้สารเลว!!"
      ชายท่าทางนักเลงนั้นเกิดทนไม่ไหวกับการกระทำอันโหดร้ายนี้ พุ่งใส่อีธานอย่างไม่ลังเลแล้วกะจะชกให้ได้
      "กระจอก"
      อีธานแค่เบี่ยงตัวหลบนิดเดียวเพียงพอให้เขาหลีกมันได้ทัน ก่อนจะใช้แขนซ้ายจับล็อคแขนข้างที่ชก ทว่าอีกฝ่ายไม่ยอมจึงหันแทงศอกอีกข้างใส่คืน
      อีธานนั้นรู้ตัว กระโดดแล้วใช้หลังที่งอของอีกฝ่ายเป็นฐานให้กลิ้งหลบไปอีกด้านของชายท่าทางนักเลง พร้อมกระตุกแขนที่ล็อคไว้เต็มแรง
      กร็อบ!
      "อ๊ากกกกก!!"
      เมื่อโดนปล่อยแขนที่ถูกกระตุกอย่างแรงจนไหล่หลุด ชายคนนั้นถึงร้องโอดโอย กุมแขนที่ห้อยต่องแต่ง
      ฉัวะ!
      อีธานที่เห็นดังนั้นจึงใช้มีดสั้นที่ชักมาปาดลูกกระเดือกชายผู้โชคร้ายรายนี้ตายในทันที ในเวลาพร้อมกับชายผู้โชคร้ายคนแรกที่สิ้นลมไปเหมือนกัน
      เมื่อเสร็จสิ้น อีธานหันมาทางคนที่เหลืออีก3คน
      "เอาล่ะครับ ใครอยากเป็นรายต่อไป"

      "เสียงเอะอะอะไรขอเค้าฟ่ะ"
      ขณะเดียวกันชินจิก็กำลังขี้อยู่ในห้องน้ำ บ่นออกมาเพราะเสียงข้างนอกมันดังไปแล้ว 
      ตอนแรกๆเขากะจะฉี่เฉย แต่พอเสร็จก็ปวดขี้ตามอีกเลยเป็นอย่างที่เห็น
      "รีบๆขี้แล้วออกไปดีกว่า"ชินจิเอื้อมมือไปหยิบทิชชู่
      เหมือนฟ้าจะไม่เป็นใจ เมื่อทิชชู่ในห้องนั้นมันหมดม้วนพอดี
      ชินจิเอามือก่ายหน้าผากด้วยความเหนื่อยใจ"รู้งี้น่าซื้อทิชชู่มาก่อนขึ้นก็ดี"
      ระหว่างนั้นเขาเหลือบไปเห็นถังขยะที่อยู่ในห้องน้ำพอดี พลันนึกไอเดียออก
      "ยังดีกว่าขี้ติดตูดแล้วกันล่ะหว่า"
      เจ้าตัวตัดสินใจทำสิ่งที่เขาไม่อยากจะทำที่สุดคือ หยิบทิชชู่ที่คนอื่นทิ้งไว้ในถังขยะมาเช็ดก้นจนสะอาดในระดับหนึ่ง(เด็กๆอย่าทำเลียนแบบนะครับ)
      "รอบหน้าต้องเตรียมทิชชู่ไว้แล้วมั้งเรา"เขาพลางพูดไปเรื่อยขณะสวมกางเกง
      เมื่อปลดทุกข์เสร็จ ชินจิก็ไม่มีธุระอะไรกับห้องน้ำโบกี้นี้อีก จึงรีบออกไปโดยเร็วทว่า......
      พอเปิดประตูออกไป สิ่งที่เขาเจอคือ ภาพของคนทั้ง4คนต่างนอนตายด้วยสีหน้าทรมานอย่างถึงที่สุดจนมิบรรยายได้ ทุกคนล้วนมีสีตัวที่ม่วงคล้ำทั้งสิ้นยกเว้นคนหนึ่งที่ตรงคอมีรอยถูกของมีคมปาดลึก กลิ่นคาวเลือดหึ่งไปทั่วโบกี้
      "อุ้บ!"
      ชินจิที่ได้เห็นและได้กลิ่นถึงเกือบอ้วกออกมา เอามือป้องปากไว้ตามสัญชาตญาณ เพราะไม่เคยได้เห็นเรื่องแบบนี้มาก่อนในชีวิตกับการเห็นการตายแบบสยองเช่นนี้ ต่อให้เคยโดนอัดจนเลือดอาบร่างมาก่อนเถอะ
      เขารีบรวบรวมสติที่กระจัดกระจายอยู่ให้กลับมาสู่โลกความจริง พยายามกวาดตาหาคนที่ยังรอดอยู่
      ฟ่อ!
      สติสตางค์ของเขาเกิดกระจายอีกรอบ เมื่อพบว่ามีงูตัวเขื่องที่เกาะอยู่เบาะโดยสารใกล้คำรามขู่เขาจนสะดุ้ง
      เขาหันไปดูงูตัวนั้น"ตัวอะไรว่ะ!?"
      ใช่แล้ว มันคือ Gene's snake นี่เอง
      แป๊ะๆ!
      เสียงตบมือจากใครคนหนึ่งดังตาม ชินจิจึงหันมองไปต้นเสียง
      "ไม่อยากจะเชื่อเลยนะว่าแชมป์รายการเอเชียเรซจะใส่ชุดนักเรียนม.ปลาย ทั้งที่โตมาเกินมาวัยแล้ว"
      ชายผมดำในชุดสูทสีขาวกำลังตบมือเบาๆอยู่
      "และเรื่องที่ไม่อยากจะเชื่ออันต่อมา คุณมองเห็นราชันย์ของผมซะด้วย"อีธานลุกขึ้นมาจากที่นั่งแล้วหันไปหาชินจิ
      "ราชันย์?"ชินจิถามคำ
      "อย่ามาทำเป็นซื่อไปหน่อยเลยน่า คุณเป็นผู้ถูกรับเลือกให้เป็นร่างทรงราชันย์ให้เข้าแข่งเกมเหมือนผมไม่ใช่หรือไงกัน?"
      ชินจิไม่เข้าใจอย่างแรง แทบจะจับใจความที่อีธานไม่ได้สักนิด แล้วเขาก็นึกขึ้นได้ว่าต้องถามอะไร
      "นี่แก........ทั้งหมดนี่เป็นฝีมือแกใช่มั้ย?......."
      อีธานกลับตอบไปอย่างสบายอารมณ์"แน่นอน ผมเก่งมั้ยล่ะ"
      เมื่อได้ฟังดังนั้นชินจิก็เกิดความหงุดหงิดกับการฆ่ายกหมู่ครั้งนี้แล้วไม่รู้สึกรู้สาอะไร
      "เก่งบ้านแกสิว่ะไอ้เวร! สรุปนี่แกพูดบ้าอะไรของแก! ไอ้เรื่องราชงราชันย์อะไรนั่นชั้นไม่รู้เรื่องโว้ย!"
      "เออ งั้นหรือครับ......"อีธานแสยะยิ้มเย็นจนชินจิอดสันหลังวาบไม่ได้พร้อมบนหลังมือมีสัญลักษณ์รูปวงกลมเปล่งแสงอันเป็นสัญลักษณ์ว่าเขาเป็นร่างทรงราชันย์ที่ทุกคนต้องมี
      ทันใดนั้นเองราชันย์ร่างงูกระโดดพุ่งฉกใส่ชินจิ ทว่าชินจิรู้สึกตัวทันก่อนจึงเบี่ยงตัวหลบได้
      ระหว่างนั้นอีธานใช้จังหวะที่ชินจิเผลอให้ความสนใจกับการหลบราชันย์ตัวเอง พุ่งเข้าระยะประชิดในทันที ซึ่งชินจิเองก็หลบไม่ทันเพราะสกิลการต่อสู้ของอดีตนักเลงคนนี้กับอีกฝ่ายนั้นห่างกัน
      "อั่ก!"
      อีธานจับแขนชินจิบิดให้อยู่นิ่ง กดตัวให้งอลงล่างจากนั้นประเคนเข่าเต็มหน้าเน้นๆจนเลือดกำเดาไหลออกมา ก่อนจะจับชินจิทุ่มข้ามสะโพกซ้ำกับพื้น
      "ต่อให้คุณแกล้งซื่อยังไงก็หลอกผมไม่ได้หรอก เอาเถอะ จง........."อีธานค่อยหยิบมีดสั้นออกหมายจะแทงชินจิที่นอนคาพื้นซ้ำ
      ทั้งอย่างงั้นจู่ๆชินจิกลับพูดขัด"ชั้นไม่ได้แกล้งซื่อโว้ย........."
      มือซ้ายที่ทำทางเป็นรูปปืนยื่นไปจ่อที่เท้าของอีธานที่ใกล้มือสุด
      ".........แต่ถ้าความสามารถแบบแก ชั้นมีแน่!"
      สิ้นคำของชินจิ มันก็ได้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดขึ้นมาอีธาน
      ดวงตาสีฟ้าเริ่มหม่องลงกลายเป็นเดือนมืดทั้ง2ข้างเหมือนคนตาบอดในทันใด ความรู้สึกเหมือน........
      "อ.......อ........อะไรกัน?"อีธานทิ้งมีดในมือลงไป ทำหน้าคล้ายไอ้โง่ในรอบ10ปี
      จากนั้นความไม่เข้าใจสถานการณ์เริ่มกัดกินจิตใจที่เคยมั่นใจว่าจะฆ่าเหยื่อคนสุดท้ายได้ จนตัวเขาเริ่มร้อนรน ตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก
      "การมองเห็น......การมองเห็นของผม ม......มันเหมือนถูก.......
      ............แย่งชิงไปเลย"
      ใช่ ราวกับถูกแย่งชิงไปดื้อๆ

      "แหง่สิว่ะ ตาชั้นบ้าง"
      ไม่กี่วิต่อมา...........
      .
      .
      .
      "โอร่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!"
      หมัดหนักดุจขุนเขา หนักยิ่งซะกว่าหมัดแชมป์นักมวยรุ่มเฮฟวี่เวท กระหน่ำใส่ทั่วร่างของอีธานอย่างไร้ทางตอบโต้
      เสียงกระดูกร่างดังไปทั่วร่าง มันคือเสียงแตกหักของกระดูก
      กระโหลก กราม ไหปลาร้า ซี่โครง กระดูกไหล่ถูกอัดจนแตกหักละเอียด
      ตูม!!
      ร่างของอีธานถูกพายุหมัดอัดพุ่งปลิวไปกระแทกกับผนังข้างรถไฟ เท่านั้นยังไม่พอเพราะความแรงนั้นแรงมากถึงขนาดทะลุกระเด็นออกไปนอกรถไฟหายสาบสูญไปเลย
      ชินจิค่อยๆลุกขึ้นมา เดินไปดูผลงานที่ตัวเองทำไว้และหันไปทางสิ่งมีชีวิตด้านหลังของเขา
      ตุ๊กตาไม้สีเหลืองไซส์เท่าคนก็กำลังมองดูผลงานที่ตัวเอง ไม่สิ ทั้งคู่เสียมากกว่า
      เขาหันไปหามัน"หมัดหนักเหมือนเดิมเลยนะแก"
      มันไม่ตอบเพราะมันไร้ชีวิตจิตใจ
      "อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เกิด ไม่รู้เลยนะเนี่ยว่าแกเรียกว่า ราชันย์"
      บนหลังมือขวาไม่มีสัญลักษณ์อะไรเลยทั้งนั้น ทั้งๆที่ร่างทรงราชันย์คนอื่นมี อีกอย่างเขามีมันมาตั้งแต่เกิดแล้ว
      "แล้วชั้นก็ไม่รู้ด้วยว่าคนอย่างชั้นเรียกว่า ร่างทรงราชันย์"
      ชินจิไม่รู้เรื่องอะไรเลยทั้งนั้นแล้วไม่คิดอยากจะรู้ด้วยซ้ำไป แต่ก่อนอื่น.......
      "แต่ก่อนอื่น ชั้นขอตั้งชื่อแกว่า Over The Cloud เพราะความสามารถที่แย่งชิงคุณสมบัติอะไรก็ได้ของแกน่ะ มันเหนือเมฆจริงๆ"
      เขาถอนหายใจดังเอือกใหญ่"หวังว่าตำรวจจะไม่สงสัยชั้นว่าเป็นฆาตรกรนะ"มองไปรอบตัวดูสภาพทั่วๆ
      ถ้าเกิดมีคนมาเข้าในตอนนี้ มีหวังโดนสงสัยว่าเป็นฆาตรกรแล้วเรื่องยุ่งๆได้ตามมาเป็นกระบุงชัวร์
      "การเดินนี่มีแต่ปัญหาจริงๆโว้ย........."เขาพลางเกาหัวเซ็งๆ
      
      บรื้นนนนน..........
      เสียงรถดังขึ้นมาผ่านรอยทะลุ ชินจิที่ได้ยินก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นเสียงของรถแต่งมาเพื่อความเร็วโดยเฉพาะ
      เมื่ออกไปดูผ่านรอยทะลุพบว่ามากัน2คัน เป็นรถSubaru Legacyที่เป็นรุ่นที่5ของซีรี่ส์ ผลิตในปีพ.ศ.2552 มีจุดเด่นอยู่ที่ระบบเกียร์ ซูบารุได้เปลี่ยนให้เลกาซี และรุ่นอื่นๆ อีก 2 รุ่น เปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ ไปใช้เกียร์อัตราทดแปรผันต่อเนื่อง หรือ CVT (Continuously Variable Transmissions) โดยที่ได้ออกแบบใหม่ เป็นเกียร์ CVT แบบ Lineartronic ซึ่งได้แก้ปัญหาของเกียร์ CVT รุ่นอื่นๆ ที่ใช้สายพาน ซึ่งมีอายุการใช้งานจำกัด และอาจมีปัญหาจุกจิกในการใช้งาน โดยเปลี่ยนมาใช้เข็มขัดโลหะ ซึ่งทำให้อายุการใช้งานนานกว่าเดิมมาก และโอกาสพบปัญหาก็มีน้อย และระบบพูเลย์ได้รับการออกแบบใหม่ และเกียร์ CVT สามารถจดจำอัตราทดที่จะตั้งค่าจากโรงงานได้ 6 ระดับ ซึ่งจะนำมาใช้เมื่อผู้ขับขี่เปิดโหมดเกียร์ธรรมดา ดังนั้นเกียร์ CVT ของเลกาซี จึงเป็นได้ทั้งเกียร์อัตโนมัติ ที่อัตราทดแปรผันต่อเนื่อง และเกียร์ธรรมดาได้ในคันเดียวกัน และสามารถประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้เป็นอย่างดี[4]รุ่นนี้มีเกียร์คือเกียร์ CVT,5 สปีด อัตโนมัติ,6 สปีด ธรรมดา ตัวถังมีให้เลือก คือ 4 ประตู,5 ประตู เครื่องยนต์มีให้เลือก คือ 2.0,2.5,3.6 เหมือนทางนั้นจะใช้ตัวถัง4ประตูและใช้เครื่องยนต์3.6
      ที่สำคัญสีดำของรถทั้ง2คันให้บรรยากาศที่ไม่ค่อยดีนัก คล้ายกับเอเยนต์ลับที่มาลอบสังหาร
      และสังหรณ์ในใจนั้นก็เป็นจริง
      มีรถคันหนึ่งวิ่งประกบข้างโบกี้ที่เขาอยู่โดยห่างไปประมาณ400เมตรโดยประมาณ แล้วคนที่นั่งข้างซ้ายฝั่งคนขับเอาตัวยื่นออกมานอกกระจกฝั่งตัวเองพร้อมเอาของบางออกมาด้วย
      "ชิบหายแล้ว!!"ชินจิอุทานขึ้นมา
      จะให้อุทานได้ไง เมื่อสิ่งที่อีกฝ่ายหยิบมาคือRPGและกำลังจะประทับบ่าอยู่เนี่ย!!!!
      ชินจิรีบหนีไปให้ไกลที่สุด ทว่าอีกฝ่ายนั้นเล็งมาที่โบกี้แล้วเหนี่ยวไกอย่างไม่ลังเลในทันทีที่เล็งได้
      .
      .
      .
      .
    ตูมมม!!!
      พวกมันก็ยิงใส่โบกี้อย่างไม่ลังเล
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×