คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : แผนการต้อนรับ
เป็นไปตามความคาดหมายของบัวชมพู เพราะว่าขณะที่เธอกับกรวิทย์กำลังเดินทางเพื่อมาที่คฤหาสน์ของตระกูลรุ่งเรืองไพศาลอยู่นั้น วรรณซึ่งเป็นหัวหน้าแม่บ้านของคฤหาสน์ กำลังเตรียมพร้อมรับมือกับผู้หญิงคนใหม่ของกรวิทย์ นายจ้างของตนที่หมายหมั้นปั้นมือที่จะให้ลงเอยกับคุณหนูสิริญยา ลูกสาวของอดีตนายจ้างถึงแม้ว่าตอนนี้คุณหนูของเธอจะตกเป็นทายาทของบุคคลล้มละลายไม่น่ามีอะไรเหมาะสมกับคุณกรวิทย์นายจ้างใหม่ของเธอได้ แต่เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับผู้หญิงคนอื่น คุณหนูของเธอก็ดูดีมีภาษีกว่าเยอะ โดยเฉพาะยายผู้หญิงคนใหม่ที่เข้ามาเป็นนางบำเรอเพราะใช้หนี้แทนบุพการีแล้ว คุณหนูของเธอชนะใสๆอยู่แล้ว
“คุณแม่บ้านคะ โทรศัพท์จากคุณสิริญยาคะ” สาวใช้วัยแรกรุ่นกล่าวกับวรรณพร้อมกับยื่นกระบอกโทรศัพท์ให้
“ฮืม ขอบใจไปทำงานต่อได้แล้ว อ่อแล้วงานที่สั่งไว้ไปถึงไหนแล้วละ”
“ห้องที่คุณแม่บ้านสั่งให้เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วคะ” สาวใช้สาวตอบอย่างภูมิใจที่ตนเองทำหน้าสำเร็จตามคำสั่ง
“ตอบเสร็จก็เดินออกไปได้แล้วยะ” แต่คนเป็นหัวหน้าแม่บ้านวัยกลางคนไม่วายกระแนะกระแหน ก่อนที่จะไปสนใจโทรศัพท์ในมือ
“สวัสดีคะคุณหนู” วรรณทักทายอย่างนอบน้อม
“หวัดดีจ๊ะนม ที่ฉันโทรมานี่ก็เพราะว่าอยากรู้ว่าพี่กรจะมาถึงวันนี้ใช่
รึเปล่าฉันจะได้ไปเยี่ยมได้ถูกนะ”สิริญยาบอกความต้องการของตนมาตามสาย
“ก็วันนี้ละคะ แต่นมว่าคุณหนูอย่าพึ่งมาดีกว่า เพราะคุณกรเธอไม่ได้กลับมาคนเดียว แต่กลับมาพร้อมกับ เออ” คนเป็นแม่นมเกิดอาการอ้ำอึ้งเพราะเกรงว่าถ้าคุณหนูของเธอรู้เข้าแล้วจะเสียใจ เพราะเธอรักของเธอมากฝังใจมาตั้งแต่เด็ก
“พี่กรจะมาพร้อมใครคะนม ใช่ผู้หญิงของเขารึเปล่า” สิริญยาพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองที่กำลังจะพุ่งปรี๊ดเมื่อรู้ว่า มีผู้หญิงคนอื่น นอกจากเธอที่ได้รับสิทธิที่จะเข้านอกออกในของคฤหาสน์แห่งนั้น
“คะ แต่เป็นผู้หญิงคนใหม่ที่ใช้ตัวเข้าแลก เพื่อให้ท่านเจ้าสัวยกหนี้อะไรสักอย่างนี่ละคะคุณหนู”แม่บ้านตอบ
“แล้วเกี่ยวอะไรกับพี่กรด้วยละคะ” สิริญยาแย้งถามขึ้น
“โถ คุณหนูก็รู้ว่าท่านเจ้าสัวเธอรักคุณแม่ของคุณกรจะตายไป ตั้งแต่
คุณนายเธอเสียไปท่านเจ้าสัวก็เสียใจมากไม่เป็นอันกิน อันนอน ทำแต่งานอยู่ตั้งนาน เธอจะไปสนใจผู้หญิงตนอื่นได้ยังไง เธอก็ต้องยกให้คุณกรสิคะ” แม่บ้านอธิบาย
“ถ้าอย่างนั้นยายผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ธรรมดาเลยสิคะ
แล้วริญจะทำยังไง” สิริญยาเอ่ยขึ้นอย่างกังวล
ทำให้คนเป็นแม่นมอดกังวลแทนไม่ได้ “แต่คุณหนูไม่ต้องห่วงนะคะยังไงนมก็ไม่เห็นใครที่จะเหมาะสมกับคุณกรเธอ เท่าคุณหนูของนม
แล้วละคะ อย่ากังวลคะนมจะช่วยคุณหนูเอง”คนเป็นแม่บ้านกล่าวอย่างมาดมั่น
“ถ้าเป็นอย่างนั้นริญก็สบายใจคะ ขอบคุณนมล่วงหน้าเลยนะคะ ไว้พรุ่งนี้ตอนเช้าบัวจะแวะเข้าไป” สิริญยากล่าวอย่างเอาใจก็ที่จะ
วางสายไป
...........................................................................................
ในขณะเดียวกันกรวิทย์ก็กำลังขับรถเลี้ยวเข้ามาในรั้วของคฤหาสน์ และลอบยิ้มกับสีหน้า คำพูดและการแสดงออกอย่างเปิดเผยของ
บัวชมพู
“ว๊าว นี่บ้านคุณจริงคุณจริงๆหรือคะ”บัวชมพูถามขึ้นอย่างตื่นเต้นกับสถาปัตยกรรมเบื้องหน้าตน
“ใช่นะสิ แล้วนั่นเป็นอะไรไปอีก” กรวิทย์เอ่ยถามขึ้นเมื่อเหลือบไปเห็น
สีหน้าเจือความกังวลของสาวสวยข้างกาย
“นิดหน่อยคะ คืออยากรู้ว่าบัวจะได้อยู่ที่นี่ในฐานะอะไร แล้วบัวจะต้องนอนคนเดียวหรือเปล่า บัวไม่เคยนอนคนเดียวเลยตั้งแต่จำความได้”
บัวชมพูสารภาพกับบุรุษที่เธออยู่ในอ้อมแขนขณะทั้งคู่เดินเข้าไปในบ้านด้วยกันอย่างอ่อยๆ
อาการที่เธอแสดงออกทำให้กรวิทย์หัวเราะออกมาอย่างขำๆ “แล้วถ้าเกิดวันไหนฉันไม่ได้กลับเธอจะนอนยังไง”
บัวชมพูได้ยินดังนั้นจึงหยุดเดิน พร้อมกับตวัดแขนเรียวไปรอบเอว
ของกรวิทย์หอมแก้มชายหนุ่มเบาๆก่อนที่จะกระซิบอย่างอ้อนๆว่า
“คุณกรก็กลับมาค้างที่บ้านทุกวันสิคะ” พร้อมกับเขย่าตัวกรวิทย์เบาๆด้วยอ้อมกอดของเธอ ทำให้กรวิทย์รู้สึกแปลกใจที่เขายอมอ่อนข้อให้กับผู้หญิงคนนี้ ทั้งๆที่เขาไม่เคยยอมให้ใครทำอย่างนี้มาก่อนเลย
“แล้วเธอไม่คิดจะให้ฉันไปหาคนอื่นเลยรึไง” กรวิทย์เกรงทำเสียงเข้มกับบัวชมพู แต่เมื่อก้มลงมาเห็นแววตาของบัวชมพู ที่เจือไปด้วยความเศร้าหมองทำให้เขารีบเปลี่ยนคำพูดเพื่อเอาใจเธอแทบจะทันที
“เอาเป็นว่าฉันจะพยายามกลับมาค้างที่บ้านก็แล้วกัน” บัวชมพูกระชับอ้อมกอดและซุกใบหน้าแนบอกเขาเป็นการ เอาใจ
โดยไม่ได้สังเกตว่ามีสายตาของเด็กรับใช้และคนสวนนับสิบคู่จ้องมาอย่างสอดรู้สอดเห็น เพราะไม่เคยเห็นนายน้อยของบ้านพาผู้หญิงมาที่บ้านและแสดงสีหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มขบขันอย่างนี้มาก่อน
และแน่นอนว่าในจำนวนสายตานับสิบคู่นั้น หนึ่งในนั้นมีสายตาของหัวหน้าแม่บ้านประจำคฤหาสน์อยู่ด้วยที่จ้องมองอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง เมื่อเห็นนายน้อยของตนก้มลงจุมพิตผู้หญิงในอ้อมแขนอย่าง
ดูดดื่มและเนิ่นนานแสดงออกถึงความรักออกมา
และเมื่อตั้งสติได้เธอจึงหันมาตะหวาด ผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาเธอด้วยเสียงอันดังเพื่อให้กรวิทย์และบัวชมพูได้ยินด้วย แต่คนสองที่ตกอยู่ในห้วงของอารมณ์พิศวาสกลับหาได้ยินอะไรไม่ ยังคงจุมพิตกันต่อไป
เธอจึงทำทีเดินไปทักทายเจ้านายน้อยของตนที่ไม่ได้เจอกันนานสอง สัปดาห์ที่ผ่านมา
“การเดินทางเป็นยังไงบ้างคะคุณผู้ชาย”วรรณถามอย่างนอบน้อม ทำให้กรวิทย์ถอนจากริมฝีปากที่เขาลุกล้ำอย่างเสียดาย ในขณะที่บัวชมพูครางออกมาที่จู่ชายหนุ่มก็หยุดลงกลางคัน กรวิทย์กระซิบเบาๆให้บัวชมพูรับถึงการมาของบุคคลที่สาม ทำให้บัวชมพูตื่นจากภวังค์ และสอดสายตามาที่บุคคลที่ทำให้ตนต้องหยุดจุมพิตกับกรวิทย์อย่างขัดใจ ก่อนที่จะสะดุ้งเมื่อพบกับสายตาอาฆาตของอีกฝ่ายหนึ่งอย่างจัง
“ก็เรียบร้อยดี ไม่มีปัญหาอะไร” กรวิทย์ตอบแม่บ้านประจำคฤหาสน์อย่างเนือยๆ “แล้วป๋าละอยู่บ้านรึเปล่า”
“คุณท่านไปร่วมงานศพของลูกชายของเพื่อนคะ เห็นว่าเสียชีวิตทั้ง
ลูกชายและลูกสะใภ้ ทำให้เหลือแต่พวกหลานๆอะไรนี่ละคะ” แม่บ้านรายงาน
“เดี๋ยวฉันกับคุณผู้หญิงจะขึ้นไปพักผ่อนซะหน่อย รู้สึกเมื่อยๆ”
กรวิทย์จบก็เดินจูงผู้ที่ถูกเรียกว่าคุณผู้หญิงออกไปด้วยกัน โดยไม่ได้สังเกตสีหน้าของสตรีทั้งสอง ว่ามีความตกใจแค่ไหนกับคำว่า
“คุณผู้หญิง”
ผู้หญิงสูงวัยกว่ารู้ไม่ชอบกับคำเรียกดังกล่าว ซึ่งแตกต่างกับผู้หญิงอ่อนวัยที่รู้สึกดีอายกับคำพูดดังกล่าว
กรวิทย์กับบัวชมพูเดินขึ้นบันได ไปได้สองขั้นก็ต้องหยุดเดินกะทันหัน เมื่อแม่บ้านรายงานว่าได้จัดห้องให้กับบัวชมพูอีกห้องหนึ่ง ทำให้
บัวชมพูปล่อยมือจากการจับกุมของกรวิทย์ ก่อนที่จะวิ่งลงมาที่แม่บ้านยืนอยู่อย่างรวดเร็ว
“แล้วคุณแม่บ้านจัดให้บัวนอนที่ไหนคะ” บัวชมพูถามอย่างอ่อนหวานแกมประชด เพราะรู้ว่าแม่บ้านคนนี้จะต้องแกล้งเธออย่างแน่นอน
ที่ทำแบบนี้ เพราะรู้ทั้งรู้ว่าเธอเป็นอะไรกับเจ้านายของตน ไม่รู้ซะแล้วว่าเล่นอยู่กับใคร
“เออ เรือนคนใช้คะ” คนเป็นแม่บ้านตอบอย่างเสียงดังฟังชัด ไม่เกรงกลังต่อสตรีตรงหน้า โดยลืมไปสนิทว่ามีเจ้านายของตนยืนคุมเชิงอยู่ด้วยอีกคน
“เรือนคนใช้” บัวชมพูทวนคำบอกเล่าของแม่บ้านเบาๆอย่างกล้ำกลืนในสภาพของตนเอง รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เล่นแรงไปหน่อย แต่ก็เปลี่ยนสีหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วก็วิ่งโผเข้าไปกอดกรวิทย์ที่ยืนหน้าบึ้งอยู่เมื่อได้ยินคำบอกเล่าของแม่บ้าน
“คุณกรจะให้บัวนอนที่เรือนคนใช้จริงหรือคะ”บัวชมพูถามขึ้นขณะที่ซุกหน้าแนบอกของกรวิทย์อย่างขอความเห็น
“วรรณ เธอเป็นอะไรของเธอ ใครใช้ให้เธอจัดห้องให้คุณบัวที่
เรือนคนใช้หะ” กรวิทย์ตะหวาดใส่หน้าหัวหน้าแม่บ้านวัยกลางคนเสียงดังด้วยความโกรธเมื่อเหลือบเห็นบัวชมพูร้องไห้สะอื้นอยู่แนบอก
แม่บ้านอึ้งไปก่อนที่จะตอบอย่างปัดความรับผิดชอบ
“ก็คนของคุณผู้ชายที่ขนของมาไม่ได้ให้รายละเอียดอะไร แค่บอกว่าคุณผู้ชายบอกว่าให้ขนมา ดิฉันไม่รู้เลยจัดห้องที่เรือนคนใช้ไว้ให้”
“แต่เธอก็เห็นแล้วนี่ว่าบัวเค้าเป็นอะไรกับฉัน แล้วเธอยังจะบอกให้เค้าไปนอนที่อื่นอีกหรือ”กรวิทย์ส่ายหน้าอย่างเอือมละอา “ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าเธอคิดจะทำอะไรอยู่ แต่ก็ไม่อยากจะพูด”
“บัวอย่าร้องไห้สิ ยังไงเราก็ต้องนอนด้วยกันอยู่แล้ว”กรวิทย์เอ่ยก่อนที่จะประคองบัวชมพูขึ้นไปด้วยกัน บัวชมพูอาศัยช่วงเวลาที่กรวิทย์หันไปเรียกเด็กรับใช้คนอื่นให้ขนข้าวของเธอไปไว้ที่ห้องนอนของเขา มาแสดงสีหน้าเห็นอกเห็นใจเจือไปด้วยรอยยิ้มสะใจให้กับหัวหน้าแม่บ้าน ทิ้งให้หัวหน้าแม่บ้านเจ็บใจที่ตัวเองทำอะไรผู้หญิงคนใหม่ของกรวิทย์ไม่ได้เลย
............................................................................................
ความคิดเห็น