kaistal
'Talk until sleep'
00.00 น.
"เธอ" เสียงเล็กๆของซูจองทำให้ผมตื่นขึ้นพร้อมกับแรงขยำเสื้อจากมือเล็กๆที่พยายามเรียกผมให้ตื่นมาสนใจเธอ
ดูเหมือนเธอจะยังไม่ได้นอนเลยนะ แต่ถ้าถามถึงผมละก็
คงตั้งแต่สามทุ่มเเล้วล่ะ ฮ่าๆ ช่วงนี้เหมือนเธอจะนอนไม่ค่อยหลับเท่าไหร่ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอปลุกผมแบบนี้
"ว่าไง" ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมามองเธอ
ก่อนที่จะส่งยิ้มให้พร้อมกับลูบหัวเธอไปได้
ถึงเธอจะปลุกผมผิดเวลาสักหน่อย แต่ก็โอเค ผมไม่ได้โมโหอะไร
เพราะวันนี้ผมก็นอนเต็มอิ่มมาหลายรอบแล้ว
"นอนไม่หลับ ช่วยหน่อยสิ" เธอถามผมกลับมา
ก่อนที่ตัวเองจะลุกขึ้นไปเปิดโคมไฟข้างหัวเตียง
เพื่อให้เห็นเธอได้ถนัดขึ้น "ถ้าไม่ได้รบกวนนายนะ"
แล้วเธอก็เสริทขึ้นมาอีกนิด
"ได้สิ นานๆทีจะเจอซูจองแบบนี้
ใครมันจะใจร้ายกับเธอได้ลงกัน"จากนั้นผมก็ขำกับตัวเองออกมาเบาๆ
ก่อนที่จะขยับตัวเข้าไปนอนใกล้ๆเธอ ซึ่งมันก็ธรรมดาอยู่แล้วอะเนอะ
ถ้าเราจะทำแบบนี้กับแฟนตัวเอง "งั้น...เราทำอะไรดี"
ผมพูดไปเหมือนใช้เวลาคิดสักครู่นึง
ก่อนที่จะลองถามเธอกลับไปบ้าง
"คุยกันได้ปะ คุยแบบที่พวกผู้หญิงเขาคุยกันอะ"จากนั้นซูจองก็ตอบผมกลับมาด้วยรอยยิ้มน่ารักๆที่มันจะเกิดขึ้นทุกครั้ง เวลาที่เธอคิดจะอ้อนผม
แน่นอน ใครมันจะใจแข็งไหวได้ล่ะ
"ถ้าเธอหมายถึงการคุยเรื่องนี้แล้วจู่ๆก็เปลี่ยนเรื่องคุยอีกเรื่องนึงอย่างงายดายแบบนั้นเลย
ก็ได้นะ ก็พอคุยได้อยู่"
"นี่ ไปเอาคำนิยามแบบนั้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่"เธอหังเราะออกมาเบาๆ
"ก็สังเกตดูเวลาที่เธอคุยกับพี่สาวเธอนั่นแหละ... อ้อ! นึกออกละ เรามาคุยถึงเรื่องที่ว่า
ทำไมเธอถึงนอนไม่หลับดีกว่า" จากนั้นผมก็ดีดตัวลุกขึ้นพิงกับหัวเตียง ก่อนที่จะพยายามพาเธอให้ลุกขึ้นมานั่งกับผม "ว่าไง"
"เฮ้อ..."
เธอก็ยอมลุกขึ้นตามมาแบบนิ่งๆ ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาเหมือนอึดอัดอะไรอยู่สักอย่าง "คงเพราะกาแฟที่ดื่มไปนี่แหละ
แต่ปกติก็ดื่มแบบนี้อยู่แล้วไง แต่มันเป็นแบบนี้ได้ไงก็ไม่รู้อะ!" แล้วเธอก็เบะปากเซ็ง บ่นอะไรอยู่คนเดียวออกมาเหมือนรอปลดปล่อยมานานแล้ว
"โถ...เป็นการเซ็งที่น่ารักอะไรแบบนี้" เธอคงคิดว่าผมแซวเล่น เลยหันมามองข่มเบะปากใส่ทันที
จนผมก็หลุดขำออกมากับท่าทีของไอตัวเตี้ยที่นอนอยู่ข้างๆนั่นแหละ
ถึงจะทำตัวเหมือนงอนๆอยู่ แต่ตัวเองก็ยังอุตส่าห์เข้ามากอดผมต่อ แถมยังเอาหน้าเข้ามาซบอกผมอีก
ผมชอบตอนที่เธอทำตัวแบบนี้ชะมัด
"นี่-เรามาคุยถึงเรื่องเก่าๆของเรากันเหอะ อยากฟังเรื่องดีๆก่อนนอนอะ"ซูจอง
"เอาดิ นานๆทีเบบี้จองของฉันจะผุดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาคุยเชียวนะ"
"ฮ่าๆ-ไอบ้า"
เธอขำกับสรรพนามที่ผมเพิ่งเรียกเธอไป
แต่ดูๆแล้วมันก็เหมือนว่าเธอจะชอบมันนะ "นี่
ฉันย้อนไปตอนเกรดสิบเอ็ดตอนที่เรียนคาบโจ
แล้วโจก็แซวนายว่านายชอบซอนจีอะ ถามจริงดิ!?" แล้วเธอก็เปลี่ยนทั้งน้ำเสียงและสีหน้ามาเป็นจริงจัง แล้วทักทวงคำตอบทันที
"อะไรกันๆ อย่าบอกนะว่าเธอหึงฉันตั้งแต่ตอนนั้นอะ ไหนสารภาพว่าชอบฉันตอนเกรดสิบสองไง"แล้วผมก็หัวเราะเหมือนจะแซวเรื่องที่คุยไป แต่เอาจริงๆตอนที่เราคุยกันตอนนั้นคือต่างคนต่างชอบกันช่วงเกรดสิบสองนั้น
ความจริงแล้วคนที่บิดเบือนความจริงก็คือผมคนนี้เองนี่แหละครับ
เพราะเรื่องของเรื่องก็คือผมชอบเธอตั้งแต่เกรดสิบแล้วต่างหาก
"บะ-บ้าแล่ว!
ก็แค่ช่วงนั้นเพื่อนในห้องเอาแต่สนใจนายกันต่างหาก
ส่วนที่ถามมันก็เพราะว่าฉันอยากรู้ก็เท่านั้นแหละหน่า"
เผื่อบางคนไม่รู้นะครับ ว่าบางทีแฟนผมเธอก็ออกแนวซึนเดเระไทป์ ที่ปากอย่างใจอย่าง แต่หน้านี่แดงไปถึงหูแล้ว
"ฮ่าๆ ซอนจีน่ะ
ตอนนั้นยัยนั่นกำลังแอบชอบเพื่อนฉันอยู่
เลยชอบมาถามเรื่องเพื่อนกับฉันบ่อยๆไง
ส่วนที่โจแซวไป ก็คงเห็นตอนที่ฉันคุยกับซอนจีนั่นแหละ"
"อ้อหรา~" แหน่ะ
ยังกล้ามาทำหน้าทำเสียงกวนตีนใส่อีก
น่าจับตีก้นจริงๆเลย
"กะแล้วว่าเธอคงไม่ได้ฟังตอนถามสเปคกับฉันอะ"
"ใครมันจะไปฟังของแบบนั้นกัน! ตอนนั้นน่ะ
ฉันหมั่นไส้นายโคตรๆเลยรู้ปะ ทำอะไรๆพวกผู้หญิงในห้องก็หวีดนายกันจนแทบจะถวายมดลูกให้!" เหอะๆ ที่เธอบอกว่าหมั่นไส้ผมอะ ผมเชื่อนะ
เพราะตอนนั้นเธอก็เป็นอย่างที่พูดจริงๆ
อุตส่าห์เอารถแพงๆไปล่อให้ยอมกลับบ้านด้วย แต่ก็ไม่
หนำซ้ำยังชี้ช้ำผมด้วยการยอมให้แทมินเดินไปส่งบ้าน
ทั้งๆที่วันนั้นมันเอารถเวฟมาแท้ๆ! โคตรหักอก
แต่ก็นะครับ สุดท้ายเธอก็เป็นของผมมาจนถึงทุกวันนี้นั่นแหละ อิอิ
"รู้สึกเจ็บเหมือนตอนที่เธอไล่ให้ฉันไปเข้ากลุ่มโครงงานอื่น แต่สุดท้ายก็เรียกฉันให้กลับมาเข้ากลุ่มอยู่ดีอะนะ ตอนนั้นฉันโคตรตกหลุมรักเธอเลย" พอนึกถึงความรู้สึกตอนนั้น ผมคงอยากจับเธอมากอดคาห้องเรียนซะเดี๋ยวนี้ เพราะกว่าเธอจะใจอ่อนมันก็พักนึงเลยอะ แต่ตอนนี้คบกันแล้วครับ ทำได้ทุกอย่างที่อยากทำ
ฟอด!
อย่างหอมหัวเเล้วเอามากอดแบบนี้ไง
"โหยย หอมแบบนี้เหมือนคนไม่เคยช่วยตัวเองอะ" นั่นแหละครับ คำด่าของเธอเวลาที่จู่ๆก็ถูกผมหอมแบบนี้ แต่ก็นะ เธอแค่แซวเล่นนั่นแหละ ฮ่าๆ
"งั้นเดี๋ยวตอนจู่ๆก็ที่เข้ามากอดจะบอกกลับไปบ้างนะ ว่าทำตัวเหมือนคนไม่เคยช่วยตัวเอง"
"ไม่ยอมหรอก!" สิ้นสุดประโยคไป
เธอก็เข้ามากอดผมอีก ราวกับว่าเธอเห็นผมเป็นตุ๊กตาตัวโปรดของเธอ
“ง่วงแล้วยัง?”ผมถามเธอ
“เริ่มหน่อยๆแล้ว...” แต่เธอก็ยังคงกอดผมไว้อย่างเดิม
เพียงแค่ว่าน้ำเสียงของคนที่ปลุกผมเมื่อกลางดึกนั้น เหมือนพลังของเธอจะค่อยๆลดลงไปจากเดิม
“งั้นฝันดีล่วงหน้านะ”
“รู้แล้วไอดื้อ”
จากนั้นเราทั้งสองคนก็ค่อยๆทิ้งตัวนอนลงข้างๆกัน โดยที่ผมเองก็ตาส่างแล้วอะนะ
จะให้นอนเลยก็ลำบากหน่อย แต่ถ้าเห็นไอดื้อที่นอนอยู่ข้างๆผล็อยหลับลงได้ ผมก็สบายใจแล้ว
เพราะช่วงนี้เธอทำงานหนักจริงๆ
“รักว่ะ แฟนใครอะ น่ารักโคตร”เธอพูดออกมาขำๆทั้งๆที่ตาของตัวเองก็ยังปิดอยู่
“ไม่ใช่ของใครหรอก
เป็นของเธอนี่แหละ J”
ความคิดเห็น