คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : [OS] Withered Flower Blooming (Youngjae x Bambam | genderbend)
Withered Flowers Blooming
Youngjae-centric, fem!Youngjae/fem!BamBam (genderbend)
with Jackson/fem!Mark, Jackson/fem!Youngjae, Jackson/fem!BamBam
ในยามเช้าตรู่วันหนึ่ง เมื่อชุยหรงไจ่แต่งตัวเสร็จ เดินลงมายังห้องอาหารแล้วไม่พบเจ้าสัวหวังเจียเอ่อร์กับต้วนอี๋เอิน คุณนายที่หนึ่งของบ้านนั่งเชิดหน้าชูคออยู่ หล่อนเอะใจทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ ร่างเล็กหันไปถามเด็กรับใช้ที่กำลังตักข้าวลงจานให้ตัวเองอยู่ว่าทำไมสองคนนั้นจึงไม่อยู่รับประทานอาหารเช้าด้วยกัน จึงได้คำตอบว่าอี๋เอินไม่สบาย เวียนหัวและกินข้าวไม่ลง เจียเอ่อร์จึงให้คนขับรถพาไปโรงพยาบาลและตามไปด้วย
คุณนายคนที่สองของบ้านคงสีหน้าเรียบเฉย แต่หากตั้งใจมองเข้าไปในดวงตาเรียวนั้นก็จะเห็นได้ชัดว่าหล่อนกำลังใช้ความคิด หญิงวัยยี่สิบสี่ปีนั่งกินข้าวเช้าอยู่คนเดียวได้ไม่นาน สมาชิกอีกคนของบ้านที่ได้รับเกียรติให้ร่วมโต๊ะอาหารกับเจ้าสัวเจียเอ่อร์ก็ก้าวเข้ามา ปันปันเอ่ยทำความเคารพหรงไจ่ก่อนที่จะถามคำถามเดียวกันกับที่หรงไจ่ถามเด็กรับใช้ก่อนหน้านี้ว่า
“เจ้าสัวกับคุณนายที่หนึ่งไปไหนเหรอคะ”
“ไปโรงพยาบาล คุณนายไม่สบาย” หรงไจ่ตอบให้ พยักเพยิดให้เด็กรับใช้รีบมาตักข้าวให้คุณนายที่สามของบ้าน “นั่งสิปันปัน เช้านี้คงมีแค่เราสองคน”
“หวังว่าคุณนายที่หนึ่งคงไม่เป็นอะไรมากนะคะ”
“คงไม่เป็นอะไรมากหรอก คุณนายแกแข็งแรง”
ดูจากอาการของอี๋เอินแล้ว หลังจากนี้ คนที่น่าเป็นห่วงคือเป็นพวกหล่อนสองคนมากกว่า
ลางสังหรณ์ของหรงไจ่ไม่ผิดเลยสักนิดเดียว
เจ้าสัวเจียเอ่อร์กับอี๋เอินกลับมาพร้อมกับข่าวอันน่ายินดีที่เรียกรอยยิ้มจากบรรดาเด็กรับใช้ในบ้าน – คุณนายอี๋เอินตั้งครรภ์ได้เกือบสองเดือนแล้ว ประมาณเดือนถึงสองเดือนข้างหน้าน่าจะได้รู้แน่ชัดว่าเป็นลูกผู้หญิงหรือลูกผู้ชาย ถึงกระนั้น เจียเอ่อร์ก็เปรยไว้ว่าจะเป็นลูกสาวหรือลูกชายก็ไม่สำคัญ
“เฮียดีใจมากกว่าที่ได้มีลูกกับอาเอินซักที” สายตาของเจียเอ่อร์ทอดมองภรรยาคนแรกในอ้อมแขนด้วยความหวานชื่นราวกับเด็กหนุ่มที่อยู่ในวัยแรกรัก “ม๊าจะได้เลิกเซ้าซี้ได้แล้วว่าเมื่อไหร่เฮียจะมีหลานให้แกอุ้ม”
หรงไจ่จำสายตาแบบนั้นได้ – เจียเอ่อร์เคยมองหล่อนเช่นนั้นในคราวที่พบกันที่โรงอุปรากร หรงไจ่ยังเป็นเพียงนักแสดงหน้าใหม่ที่รับบทเป็นเพื่อนคนหนึ่งของตัวละครเอกฝ่ายหญิง เทียบกันแล้วบทบาทของหล่อนไม่สำคัญและไม่โดดเด่น ทว่าความน่ารักบนใบหน้ากลมกลับตรึงใจเจ้าสัว เจ้าสัวเฝ้าเกี้ยวเฝ้าหยอดคำหวานใส่หรงไจ่อยู่นาน นานจนหรงไจ่ใจอ่อนและตกหลุมรักเจ้าสัวหมดใจ ยอมตบแต่งเข้าบ้านเป็นเมียอีกคนของเจียเอ่อร์
หรงไจ่ยอม...ทั้งๆ ที่รู้ว่าหล่อนเข้ามาเป็นคุณนายคนที่สองและเป็นรองคุณนายอี๋เอินคนที่หนึ่ง ทั้งๆ ที่หญิงสาวหน้าตาน่ารักอย่างหล่อนย่อมมีโอกาสที่ดีกว่ามาเป็นเมียรองของใคร หากยังเล่นอุปรากรอยู่คงมีอนาคตยาวไกลได้รับบทนางเอก แต่หรงไจ่ก็ยอมรับสถานะของตน บอกตัวเองอยู่ลึกๆ ว่า ‘คุณนายที่หนึ่ง’ ก็เป็นเพียงสถานะที่ตั้งขึ้นมาเพียงเพราะอี๋เอินได้แต่งงานเข้าบ้านเจ้าสัวก่อน หากเจ้าสัวรักคุณนายที่หนึ่งจริง เจ้าสัวคงไม่มีทางชายตาแลมองหรงไจ่แต่แรก หรงไจ่ชนะอี๋เอินเพราะได้หัวใจของเจ้าสัวมาอย่างแท้จริง
หล่อนคิดผิด
เพราะหลังจากนั้นไม่ถึงสองปี เจ้าสัวเจียเอ่อร์ก็พาคุณนายคนที่สามเข้าบ้าน -- กันต์กนิษฐ์หรือปันปัน เด็กสาวชาวไทยที่เจ้าสัวไปได้มาจากลูกหนี้คนหนึ่ง หรงไจ่รู้สึกเหมือนประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิม หล่อนได้แต่กล้ำกลืนฝืนทน มองเจ้าสัวที่เคยนอนเคียงหมอนอยู่ด้วยกันแทบทุกคืนเดินเข้าไปในห้องของปันปันผ่านประตูที่เปิดแง้ม อ้อมกอดและคำรักที่เจียเอ่อร์เคยพร่ำบอกให้ฟังเสมอตกไปเป็นของปันปันแทบจะสมบูรณ์
ถึงกระนั้นหรงไจ่ก็ยังทนได้ ตราบใดที่คนที่ได้รับความรักของเจียเอ่อร์ไปไม่ใช่อี๋เอิน ตราบใดที่คุณนายที่หนึ่งเป็นเพียงแค่ลำดับที่ก่อนหลัง ไม่ใช่ลำดับความสำคัญ
แต่ตอนนี้คุณนายที่หนึ่งกำลังจะได้ทุกอย่างกลับคืนไป และกำลังจะมีคุณค่าในสายตาของเจียเอ่อร์มากขึ้นกว่าแต่ก่อนด้วยซ้ำ หล่อนเป็นทั้งคุณต้วนอี๋เอิน ลูกสาวคนโตของเจ้าสัวต้วนผู้มั่งคั่งร่ำรวย เป็นทั้งคุณนายที่หนึ่ง ภรรยาคนแรกของเจ้าสัวเจียเอ่อร์ และกำลังเป็นแม่ของลูกคนแรกของเจียเอ่อร์
“ยินดีด้วยนะคะเฮีย” หรงไจ่ฝืนยิ้ม หล่อนสบตากับอี๋เอินเพียงชั่วครู่ก่อนจะรีบเสมองไปทางอื่น ไม่อยากยอมรับว่าเห็นแววตาของผู้ชนะซ่อนอยู่ในดวงตาคู่สวยนั้น
คงเป็นเพราะภูมิต้านทานจากตอนที่เจ้าสัวพาปันปันเข้าบ้าน หรงไจ่จึงแกร่งพอที่จะปั้นหน้ายิ้มแย้มให้คนในบ้านเห็นได้ ผิดกับปันปัน สาวน้อยวัยสิบเก้าที่นับว่ายังอ่อนประสบการณ์โลกอยู่ สาวน้อยที่ไม่รู้จักความรักและเพศรสจากบุรุษใดเลยนอกจากหวังเจียเอ่อร์ ปันปันยืนเงียบ ความเศร้าหมองฉายชัดผ่านตากลมจนหรงไจ่มองเห็นชัดเจน
หรงไจ่เข้าใจหัวใจของปันปันดี เพราะหล่อนเคยผ่านช่วงเวลาแบบนั้นมาแล้ว
ทุกอย่างเป็นไปตามที่หรงไจ่คาด เจ้าสัวเจียเอ่อร์เฝ้าประคบประหงมเมียคนแรกที่อุ้มท้องลูกตัวเองอย่างทะนุถนอม จนบางครั้งทั้งหรงไจ่ทั้งปันปันรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นเพียงอากาศธาตุที่ไร้ตัวตน ไม่ใช่คุณนายที่สองและคุณนายที่สามที่อยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับเจ้าสัว หากไม่ได้ออกไปไหน เจ้าสัวก็มักจะพูดคุยถึงแต่เรื่องลูกของตัวเอง ถ้าเป็นลูกชายจะทำอย่างนั้น ถ้าเป็นลูกสาวจะทำอย่างนี้
ไม่มีอีกแล้วที่เคยเรียกหรงไจ่ของเฮียด้วยเสียงหวาน ไม่มีอีกแล้วที่เคยเรียกหนูปันปันของเฮีย แต่ละวันทั้งสองคนต้องอยู่ในบ้านหลังนั้นอย่างหน้าชื่นอกตรม มีหลายครั้งที่ไฟริษยาสุมอยู่ข้างในจนหรงไจ่ต้องข่มให้มันดับลงไปเอง และมีหลายครั้งที่ปันปันเหมือนปล่อยสะอื้นโฮออกมาแต่ก็กลั้นไว้ หรงไจ่ทำได้เพียงแค่สบตามองอีกฝ่ายอย่างเข้าอกเข้าใจ
เวลาผ่านไปไม่นานนัก เจ้าสัวเจียเอ่อร์ก็ประกาศให้ทุกคนในบ้านรับทราบกลางมื้ออาหารเย็นว่าลูกในท้องของอี๋เอินเป็นลูกชาย
ได้ยินเพียงเท่านั้น หรงไจ่ก็รู้ดีแล้วว่าทุกอย่างจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป เว้นเสียแต่ว่าหล่อนจะให้กำเนิดลูกชายแก่เจ้าสัวได้อีกสักคน ซึ่งในช่วงนี้เจียเอ่อร์ก็หายใจเข้าออกเป็นอี๋เอินกับลูกในท้อง ไม่แวะเวียนมาที่ห้องของหรงไจ่เลยแม้แต่คืนเดียว หลังจากลูกชายคลอดแล้วก็คงยิ่งเห่อหนักไปกันใหญ่ แล้วหรงไจ่จะเอาลูกชายที่ไหนมาให้เฮีย
ปันปันทำใจยอมรับความจริงได้ลำบากกว่าหรงไจ่ หล่อนถึงกับวางตะเกียบในมือลงแล้วลุกออกไปจากโต๊ะ
ฝ่ามือบางเคาะกระทบประตูห้องของปันปันเบาๆ สามครั้ง ยืนรออยู่สักพักเจ้าของไม่ออกมาเปิดให้เสียทีจึงลองออกแรงผลักเล็กน้อย ปรากฏว่าประตูไม่ได้ติดกลอนอยู่ คุณนายที่สองจึงถือวิสาสะเข้าไปในห้องโดยไม่ขออนุญาตหรือบอกกล่าวใดๆ อีก
ปันปันกำลังนอนหลับอยู่ เมื่อก้าวเท้าเข้าไปใกล้เตียง หรงไจ่จึงสังเกตเห็นคราบน้ำตาที่แห้งติดบนแก้มเนียน หญิงสาวหย่อนตัวลงนั่งตรงขอบเตียง พร้อมกับใช้ปลายแขนเสื้อช่วยเช็ดซับน้ำตาที่ติดอยู่ออกให้
ที่จริงหรงไจ่รับรู้และยอมรับกับตัวเองมานานแล้วว่าปันปันสวย หญิงสาวสวยคมแบบไทย ผิวสีน้ำผึ้งไม่เหมือนผิวขาวเหมือนหยวกอย่างสาวจีนแบบหรงไจ่ อีกทั้งรูปร่างก็สูงเพรียวสะโอดสะอง ไม่แปลกใจที่เจ้าสัวจะหลงรัก ขนาดยังไม่เป็นสาวสะพรั่งดี ยังไม่รู้จักใช้เครื่องประทินโฉมยังดูงามผุดผาดถึงเพียงนี้ อีกหลายปีให้หลังย่อมดูมีเสน่ห์มากกว่านี้เป็นแน่
น่าเสียดายนักที่ดอกไม้งามต้องมาแห้งเหี่ยวเพราะปราศจากความรักเช่นนี้
หรงไจ่เผลอลูบไล้แก้มของปันปันอยู่หลายสิบวินาทีจนกระทั่งเจ้าตัวลืมตาตื่น ร่างบางสะดุ้งตกใจนิดๆ เมื่อตื่นมาพบคนอีกคนอยู่ในห้อง แต่พอเห็นว่าเป็นใครสายตาก็เปลี่ยนไป
“คุณหรงไจ่...”
“ฉันปลุกเธอหรือเปล่า ขอโทษที ที่จริงแค่มีเรื่องอยากคุยด้วย”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
ปันปันขยับตัวจะลุกขึ้นนั่ง แต่หรงไจ่ห้ามไว้ก่อน “ไม่ต้องหรอก… คืนนี้ฉันขอนอนกับเธอได้ไหมปันปัน”
เจ้าของห้องดูงุนงงกับคำขอของหญิงอายุมากกว่า แต่ก็กระเถิบตัวให้พื้นที่แก่หรงไจ่แต่โดยดี ทั้งสองคนเอนตัวลงหนุนหมอนและนอนตะแคงหันหน้าเข้าหากัน พอมองแบบนี้ยิ่งเห็นชัดว่าดวงตาของปันปันบวมช้ำจากที่ร้องไห้ก่อนหน้านี้มากเพียงใด
“คุณหรงไจ่มีอะไรจะคุยกับหนูเหรอคะ”
“ฉันรู้ว่าเธอเสียใจเรื่องเจ้าสัว แต่ฉันไม่อยากให้เธอแสดงท่าทีแข็งกร้าวแบบที่ทำไปที่โต๊ะอาหาร เฮียจะยิ่งชังเธอ” หรงไจ่กล่าวเตือนในฐานะผู้ที่โตกว่า “ตอนนี้เฮียกำลังจะมีลูกกับคุณนาย เราต้องเข้าใจเฮีย”
“แต่หนูเจ็บ” ปันปันระบายออกมา “หนูเข้าใจว่าเฮียกำลังมีความสุขที่จะมีลูก แต่เฮียไม่น่าทำกับเราสองคนแบบนี้ เฮียเหมือนลืมไปแล้วว่าเราสองคนก็มีลูกให้เฮียได้เหมือนกัน... คุณหรงไจ่ไม่เจ็บเหรอคะ”
ใจจริงหรงไจ่อยากตอบว่า เจ็บสิ... เจ็บตั้งแต่เจ้าสัวพาปันปันเข้ามาเป็นคุณนายที่สามแล้ว
“เจ็บ แต่เพราะรักเฮียก็ต้องทน เธอเองก็ต้องทนเหมือนกันถ้ายังอยากอยู่กับเฮีย” สาเหตุที่หรงไจ่ทนเป็นคุณนายที่สอง – เมียที่ไม่ใช่เมียคนแรกที่อยู่กินด้วยกันมาตั้งแต่แรก และไม่ใช่เมียวัยแรกรุ่นที่กำลังสดใหม่เหมือนเมียคนสุดท้าย – ก็เพราะยังอยากอยู่ใกล้เจียเอ่อร์เหมือนเดิม อย่างน้อยก็ยังมีบางคืนที่เจียเอ่อร์มานอนกับตน
แต่อีกไม่นาน ลูกคนแรกของเจียเอ่อร์ที่เกิดกับอี๋เอินก็จะพรากเวลาที่หรงไจ่ควรได้อยู่กับเจียเอ่อร์ไป
“หนูกลัวด้วย...” หญิงสาวพูดพร้อมหลุดสะอื้นออกมา “คุณนายอี๋เอินแกสวยเหลือเกิน อายุก็มากแล้วแต่ยังสวยสะพรั่ง คุณหรงไจ่ก็น่ารัก จนหนูไม่รู้เลยว่าเฮียรักหนูที่ตรงไหน หนูทั้งผิวคล้ำทั้งตัวผอมเก้งก้าง ยิ่งคุณนายมีลูกแล้วเฮียคงยิ่งรักคุณนายมากขึ้นกว่าเดิม เฮียยังจะแลหนูอยู่อีกเหรอ”
ระบายความกลัวในใจออกมาจนหมดแล้วปันปันก็หลั่งน้ำตาออกมาอีกรอบ หรงไจ่จำได้ว่าวันแรกๆ ที่ปันปันเข้ามาในบ้าน สีหน้าของหญิงสาวเต็มไปด้วยความชื่นมื่นแค่ไหน ช่างผิดกับในตอนนี้เหลือเกิน
คุณนายที่สองค่อยๆ รั้งร่างของปันปันมากอดไว้ ขยับตัวให้ใบหน้าของปันปันซุกอกตัวเอง มือขาวลูบกลุ่มผมสีดำนุ่มสวยไปมา หยาดน้ำใสจากดวงตากลมของปันปันไหลเปื้อนชุดนอนของหรงไจ่จนชื้นแฉะ “เธอเป็นคนสวย ปันปัน อย่าดูถูกตัวเองอย่างนั้น หากเธอไม่งดงามจริง คนอย่างเฮียคงไม่หลงรักเธอจนถึงขนาดแต่งเป็นเมีย”
หรงไจคิดว่าหล่อนกับปันปันคงไม่ต่างกันเท่าไรนัก ในตอนที่ยังเป็นนักแสดงในโรงอุปรากรอยู่ เจียเอ่อร์ก็เฝ้าชื่นชมหยอดคำป้อยอรูปโฉมอันสะคราญของหรงไจ่ทั้งเช้าทั้งเย็น พวกลูกหนี้ของเจ้าสัวที่จะเสนอขายลูกแลกกับการยกหนี้ก็มีมากมาย แต่ปันปันเป็นคนเดียวที่เจ้าสัวถูกใจจนรับมาเป็นคุณนายที่สาม นั่นยอมแปลว่าปันปันดีพอที่เจ้าสัวจะหลงรัก
ปลายนิ้วขาวไล้ลงไปตามวงหน้าเรียว ก่อนที่ริมฝีปากบางเฉียบสีอ่อนจะกดจูบลงไปบนเรือนผมนุ่มพร้อมๆ กับที่รั้งตัวของปันปันให้ขยับขึ้นมา ยิ่งอยู่ชิดใกล้กันถึงเพียงนี้ หรงไจ่ยิ่งอยากจะย้ำให้ปันปันมั่นใจว่าไม่ต้องหวั่นกลัวเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกของตัวเองเลย แม้ว่าดวงตากลมจะชื้นไปด้วยน้ำตา ขอบตาบวมช้ำจากการร้องไห้ แต่หรงไจ่รู้ว่าหน้าต่างของหัวใจดวงนี้จะหวานฉ่ำและเต็มไปด้วยความรักมากแค่ไหนในยามที่มองเจียเอ่อร์ หล่อนประทับจุมพิตเบาๆ ลงบนเปลือกตาของปันปัน กระชับอ้อมกอดที่โอบร่างบางไว้ให้แน่นขึ้น
“ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ปันปัน” หรงไจ่เอ่ยอย่างหนักแน่น “ฉันเคยบอกเธอตั้งแต่วันแรกที่เธอมาที่นี่แล้วใช่ไหม ว่าให้คิดเสียว่าฉันเป็นพี่สาวของเธอคนหนึ่ง ตอนนี้ฉันก็ยังอยากให้เธอคิดแบบนั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันจะอยู่ข้างเธอ” หญิงสาวกุมมือของปันปันเอาไว้ แล้วค่อยๆ สอดประสานนิ้วแน่นแทนการเอ่ยคำมั่นสัญญาพร้อมกับบีบเบาๆ “ฉันจะช่วยเธอเอง”
“คุณหรงไจ่...”
หรงไจ่พูดพร้อมกับจูบแก้มน้องเบาๆ แล้วใช้ฝ่ามือนุ่มลูบหลังปลอบประโลมไปด้วย “เธออยากมีลูกใช่ไหม”
“ช...ใช่ค่ะ หนูอยากมีลูกกับเฮีย เหมือนอย่างที่คุณนายมี”
คำตอบของปันปันไม่ได้ต่างจากที่หรงไจ่ทำนายเอาไว้
“ได้ ฉันจะช่วยให้เธอมีลูกกับเฮียให้ได้” หากปันปันตั้งใจฟังสักนิด จะจับความเปลี่ยนแปลงในน้ำเสียงของหรงไจ่ได้ว่าตอนนี้มันเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นต้องการเอาชนะแค่ไหน “จำเอาไว้นะปันปัน เธอยังสาวยังสวย พอคุณนายแกคลอดลูกแล้วก็จะวุ่นอยู่แต่กับการเลี้ยงลูก ตอนนั้นล่ะที่เฮียจะกลับมาหลงเธอเหมือนเดิม แล้วตอนนั้นสิ่งที่เธอต้องการก็จะเป็นจริง ขอแค่ให้เธอเลิกร้องไห้แล้วมั่นใจในตัวเองบ้าง”
เสียงหวานสั่นเครือของปันปันดังขึ้นเพื่อตอบรับความหวังดีของอีกฝ่าย... หรงไจ่ลอบยิ้ม หล่อนลูบหัวลูบหลังปันปันต่อจนหญิงสาวผล็อยหลับไปคาอ้อมอกของตัวเองจากความอ่อนเพลียที่ร้องไห้มานาน แต่หรงไจ่ก็ยังคงกอดปันปันเอาไว้ไม่ปล่อย
สิ่งหนึ่งเกี่ยวกับปันปันที่หรงไจ่สังเกตเห็นและรู้ก็คือหล่อนเป็นเด็กหัวอ่อน ใครว่าอะไรก็เออออตามอย่างว่าง่าย โดนเจียเอ่อร์ป้อนคำหวานก็หลงรักจนโงหัวไม่ขึ้น พอเห็นว่าตัวเองอาจจะโดนเจียเอ่อร์ทิ้งก็เศร้าหมองกังวลกลัวนั่นกลัวนี่ไปหมดจนไม่เป็นอันทำอะไร
หรงไจ่จะจัดการรดน้ำดอกไม้ที่แห้งเหี่ยวนี้ให้กลับมาชุ่มชื่นน่ามองเหมือนเดิม ยุยงให้มันผลิบานชูช่อรอให้ภมรบินเข้ามาตอมผสมเกสร หากเจ้าสัวกลับมาหวานชื่นกับปันปันได้เหมือนเดิม ก็คงอีกไม่นานนักที่ปันปันจะมีลูกให้เขาได้
…ลูกที่หรงไจ่จะไม่มีวันได้อุ้มท้องเองเพราะร่างกายไม่สมบูรณ์แข็งแรงพอ อย่างที่หมอที่หรงไจ่แอบไปพบมาด้วยกลุ้มใจว่าเหตุใดตัวเองยังไม่มีลูกตัดหน้านางคุณนายที่หนึ่งสักทีได้บอกเอาไว้
เมื่อใดที่ลูกของเจียเอ่อร์กับปันปันลืมตาดูโลก หรงไจ่ก็จะทำทุกวิถีทางให้เจียเอ่อร์รักลูกคนเล็กที่เกิดจากเมียเด็กคนนี้มากกว่าลูกที่เกิดจากคุณนายที่หนึ่ง
เมื่อนั้น ต้วนอี๋เอินที่คิดว่าตัวเองกำลังชนะหรงไจ่และปันปัน จะได้ลิ้มรสความเจ็บปวดอันแสนสาหัสและทรมานกว่าเดิมสมใจชุยหรงไจ่เสียที
END.
จริงๆ ตอนเขียนแอบคิดว่าควรระบุเป็น มงกุฎดอกส้ม AU (...)
คือ...ก็จากไอจีแบมแบมรูปนี้
มโนออกมาเป็นแบบนี้ในทวิต
แต่ฟิคออกมาเป็นแบบนี้เฉยเลย.../เหม่อ
นี่เป็นครั้งแรกที่เขียนให้ตัวละครเป็นผู้หญิงเลยค่ะ T-T จริงๆ อยากให้แรงกว่านี้แต่คิดว่าคงเขียนไม่ถึง ๕๕๕๕๕๕
ละก็ควรมีแท็กสำหรับฟิคสั้นกัซสักทีใช่ไหม ๕๕๕๕๕๕๕
ติดแท็ก #smsngot7 ได้นะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
- สมสน.
ความคิดเห็น