คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : PINKGRAY x 05 | รีไรท์
PINKGRAY
ห้อยสองคนต้องอยู่ห้องเดียวกันให้ได้
ซึงยุนถอนหายใจนั่งมองคนที่ทำท่าไข้จะขึ้นอย่างปลงตก
เดือดร้อนเพราะคนตรงหน้ามาไม่พอยังต้องมานั่งดูแลแบบนี้มันคุ้มมั้ยตอบดิ้! ตอนแรกก็เล่นตัวอยู่เหมือนกันแหละคือน้องยุนไม่ได้ใจง่ายค้างบ้านผู้ชายง่ายๆนะแต่พอเจ้าของห้องบอกว่า ‘ดึกแล้วเดี๋ยวโดนฉุด’ น้องยุนคนหล่อไม่หมวยและไม่อึ๋มเป็นอันตัดสินใจทำตามคำขอของคนปากห้อยกว่า(?)
ไม่ใช่ว่าเป็นห่วงอะไรขนาดนั้นจริงๆก็แค่กลัวอีกคนเป็นอะไรไปกลางดึก ยิ่งเป็นโรคอะไรแบบนี้อีกเกิดจีโฮเป็นอะไรไปเขาก็อาจจะมีความผิด ไม่ได้ห่วงจริงขอย้ำ
ละอีกอย่างจีโฮอุตส่าห์มาช่วยเขาด้วยความบังเอิญหรืออะไรก็แล้วแต่แบบนี้จะให้เขาทิ้งลงหรอ
คือไม่เป็นเหมือนคนแถวนี้หรอกนะที่ไม่เคยรู้สึกรู้สาอะไร
กีต้าร์กูนี่เมื่อไหร่จะได้คืนหื้ม
อย่าได้หวังเห็นภาพน้องยุนคอยดูแลจีโฮเป็นอันขาด.. ขนาดแผลยังไม่คิดจะทำให้
“พี่ไปอาบน้ำไป้
สกปรกว่ะ”
เออดูดิ เสื้อฮู๊ดสีเทาที่ใส่ประจำเปื้อนไปด้วยรอยเท้าแถมสภาพทรงหัวนี่ดูไม่ได้จริงๆบอกไว้ก่อนถึงแม้คัง
ซึงยุนคนนี้จะไม่ชอบอาบน้ำแต่ก็ไม่ได้สกปรกขนาดนั้นนะ..
ไอ่คนเจ้าที่นอนอยู่บนฟูกจนแทบไม่มีที่ให้เขานั่งมองกลับนิ่งๆเหมือนจะบอกประมาณว่า ‘ขอนอนโง่ๆอยู่บนนี้ซักพักได้มั้ย’ ซึงยุนเลยฉุดกระชากลากดึงอีกฝ่ายให้ออกไปอาบน้ำจนจีโฮยอมแต่โดยดี
แขกอย่างเขาเลยถือโอกาสสำรวจห้องของคนที่ได้ชื่อว่าไม่ชอบขี้หน้าไปพลาง ตั้งแต่เข้าห้องมาตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยผลงานศิลปะเกือบทุกรูปแบบเต็มไปหมด ทั้งภาพวาดสีน้ำ Drawing หรืองานปั้น จัดวางอย่างเป็นระเบียบทำให้เขาสัมผัสได้เลยว่าอีกฝ่ายรักผลงานและภาคภูมิใจผลงานของตัวเองมากแค่ไหน
นี่ถ้าลองทุบหรือเผาซักชิ้นสองชิ้นเป็นการแก้แค้นจะเป็นยังไงนะ..
แต่ด้วยความมีสามัญสำนึกน้องยุนเองก็ไม่อาจลงมือกระทำพฤติกรรมรุนแรงแบบนั้นได้เลยได้แต่ปลงตกและคงต้องรอกีต้าร์จากคุณนายคังแล้วจริงๆ
หิวว่ะ..
ซึงยุนเลี้ยวขวาไปในโซนของห้องครัวที่ตามหาได้ไม่ยาก
จะเรียกห้องครัวคงไม่ได้เพราะทั้งโซนนั้นมีแค่ตู้เย็นหนึ่งตัว
ไมโครเวฟและหม้อต้มสุกี้วางไว้บนเคาน์เตอร์
ดูจากรูปการแล้วคงไม่ใช่คนที่ทำอาหารเองเป็นและในตู้เย็นนั่นคงไม่มีอะไรกินแน่ๆ
“ซื้อหวยให้มันถูกแบบนี้บ้างนะซึงยุน”
เป็นไปตามคาด.. ว่างจริงๆ มีแต่โค้ก 1 กระป๋องกับนมจืด 1 ขวดนอนแอ้งแม้งอยู่ในนั้น
มือเรียวหยิบนมจืดฝาสีน้ำเงินขวดใหญ่ออกมาก่อนจะปิดตู้เย็น
มองหาแก้วเป็นอันดับต่อไป แต่โชคยังถือว่าเข้าข้างน้องยุนเมื่อดันไปเจอเข้ากับคอนเฟล็กกล่องใหญ่ที่ถูกเปิดทิ้งไว้บนเคาน์เตอร์เลยจัดแจงเทใส่ถ้วยตามด้วยนมมานั่งตักเคี้ยวกรุบกรับเสียงดังคนเดียวบนฟูกนอน
“ทำตัวเหมือนอยู่บ้านตัวเองเลยนะครับคุณหนู”
ซึงยุนยักคิ้วกวนพลางเคี้ยวอาหารเช้าในมื้อค่ำให้อีกฝ่ายหมั่นไส้เล่นจนไอ่คนที่ยืนอยู่เลื่อนมือมาดีดเหม่งของเขาแล้วหัวเราะอ้าปากกว้างออกมาเสียงดัง
“ชิ”
ใจนี่อยากยกเท้าขึ้นมาถีบละแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากลูบหน้าผากตัวเองและจัดทรงม้าอันแสนรักแสนหวงให้เข้าที
ลงมือกินต่อเหลือบไปมองจีโฮที่ลงมานอนข้างๆอย่างพิจารณา.. ไม่คิดมาก่อนว่าภายใต้ยูนิฟอร์มของโรงเรียนจะมีรอยสักรูปกษัตริย์เซจงกับดอกไม้อะไรซักอย่างที่ข้อมือข้างซ้ายและซึงยุนขอเดาเลยว่าต้องมีอีกหลายลายที่ถูกเสื้อยืดสีดำของอีกฝ่ายปกปิดไว้แน่ๆ
“ห้องพี่นี่ก็สวยดีเนอะ”
ห้องเล็กๆที่ภายในผิดกับรูปลักษณ์ภายนอกของหอทั้งดูอบอุ่นและเท่ไปพร้อมๆกัน
สองข้างทางมีผลงานศิลปะวางเรียงรายบนพื้นและแขวนบนผนัง
ผ่านม่านกั้นระหว่างห้องที่น่าจะเรียกว่าเป็นห้องรับแขก(ที่มีแต่ผลงานวางไว้)กับห้องนอนมีฟูกสีขาวสะอาดจัดวางใน position ที่เข้าท่ามากๆเหมือนเจ้าของห้องจะจงใจจัดให้ชิดริมระเบียงเพื่อมองวิวผ่านกระจกใสออกไปข้างนอกได้ในยามค่ำคืน
เป็นห้องที่เหมาะกับคนอินดี้อย่างพี่แกจริ้ง
“สวยก็มาบ่อยๆดิ”
“นี่จีบป่ะ?”
ซึงยุนหรี่ตามองไอ่คนที่เช็ดหัวข้างๆที่หัวเราะอ้าปากกว้างออกมาอีกครั้ง
อีกฝ่ายคงรู้ว่าเขาล้อเล่นเลยหัวเราะออกมแบบนั้นแต่ซึงยุนหาได้สนใจไม่เพราะก็จริงน่ะแหละเรื่องที่เขาพูดเล่น
ถ้านี่เป็นหนังรัก-คอมเมดี้เรื่องนึงซึ่งมีเขาเป็นนางเอกดันมาเจอประโยคแบบนี้ไปคงตีความหมายได้ไม่อยาก
แต่มันจะไม่เกิดขึ้นกับไอ่ห้อยตรงหน้า!!!!!!!
“ผนังนั่นก็วาดเองนะ”
“เห้ยจริงดิ!”
ซึงยุนตาโตเมื่อมองตามไปยังผนังฝั่งตรงข้ามที่มีจิตรกรรมเพ้นท์เป็นวิถีชีวิตของมนุษย์ที่ดูจากสไตล์แล้วคล้ายๆกับการวาดแบบสมัยก่อนของชาวญี่ปุ่นเอาไว้ด้วยความสวยงามโดยที่เจ้าตัวเองคิดไม่ถึงเลยว่ากำลังติดกับไอ้ห้อยคนพี่เค้าให้แล้ว
หันไปทำหน้าตาอึ้งๆใส่อีกฝ่ายแต่ก็ต้องเอ่ะใจขึ้นมาเมื่อคนพี่กุมท้องหัวเราะออกมา
“โอ้ยเด็กนะเด็กหลอกง่ายแท้ ไม่เห็นหรอว่ามันเป็นแค่ภาพถ่าย”
“อู
จีโฮ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
ผมนี่วางถ้วยและทุ้มตัวใส่เลยครับ
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ”
“จะขำอะไรนักหนา!”
สภาพตอนนี้เรียกได้ว่าเหมือนลูกหมาตอนเล็กๆที่ริจะสู้กับพ่อหมาตัวโต
คนเด็กกว่าต่อยท้องซ้ำรอยช้ำของอีกฝ่ายไม่คิดจะออมแรง เอามือไปกดแผลบนหน้าอีกฝ่ายจนร้องโอดโอยเสียงดังและต้องยอมพ่ายแพ้ต่อลูกหมาในที่สุด.. แหม่ จะว่าไงล่ะ
ก็พ่อหมาตัวนี้มันอ่อนแอซะเหลือเกินสู้แมนๆอย่างน้องไม่ได้เลย
พอนัวเนีย(?)กันเหนื่อยก็มานั่งพิงผนังหมดแรงกันทั้งคู่ซึงยุนก็ขอไปอาบน้ำบ้างเนื่องด้วยเหงื่อออกเยอะเกินไปไม่อาจทนนอนได้ในสภาพแบบนี้แน่ๆ
และก็ต้องร้องยี๋เมื่อต้องใช้ผ้าเช็ดตัวร่วมกับอีกฝ่าย.. ต้องใช้อย่างจำใจเพราะมีแค่ผืนเดียวทั้งห้องแถมนี่เขาต้องใส่ชุดของจีโฮอีก
บอกทีว่าคนที่เขาไม่ชอบขี้หน้ากันนี่ยอมทำถึงขนาดนี้หรอ - _ -
เด็กหนุ่มในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงพละสีแดงเดินออกมาจากห้องน้ำเห็นไอ่คนเจ้าของห้องนั่งเขียนอะไรบางอย่างอยู่เลยไม่คิดจะเข้าไปกวนอะไรเลยหยิบไอฟุน
78s ที่แบตเหลือเพียง 14% ไลน์ไปหารูมเมทสุดตะล๊ากของเขาว่าจะนอนค้างบ้านเพื่อน.. เอ้อ บ้านเพื่อนนั่นแหละ
“มีที่ชาร์จมือถือป่ะพี่”
“หาๆดูบนโต๊ะคอมอ่ะ”
อีกคนพยักเพยิดหน้าไปยังฝั่งปลายฟูกนอนทั้งๆที่สายตายังไม่ละไปจากสมุดโน้ตปกสีน้ำตาล
เขาเลยไถตัวหาเสียเองก่อนจะเสียบชาร์จไฟกับปลั๊กใกล้ๆ
แต่พอเบนสายตาไปทางขวาอีกนิดดันไปเจอของบางอย่างเข้า..เป็นของที่น้องยุนต้องการในตอนนี้มาก
กระเป๋ากีตาร์วางแอบไว้อยู่มุมห้อง..
“กีต้าร์..”
ซึงยุนกำลังจะเอื้อมมือไปหยิบแต่ไม่ทันอีกฝ่ายที่พุ่งเข้ามาฉวยก่อนตอนไหนก็ไม่รู้
“ของกู”
“ง่ะ?”
ห้อยคนน้องเบ้ปากหมั่นไส้พลางฟึดฟัดกลับมานอนคุมโปงด้วยท่าทีงอนๆโดยไม่รู้ว่าไอ่ท่าทีแบบนั้นเรียกรอยยิ้มจากคนขี้แกล้งได้เป็นอย่างดี
กีต้าร์ตัวเองมี! แต่คิดจะซื้อใช้คนอื่น!
ลมเย็นๆถูกพัดเข้ามาให้คนที่นอนงอนตุบป่องต้องโผล่หน้าขาวๆออกมาจากผ้าห่มนวมสีขาวสะอาด
ภาพตรงหน้าอย่างกับฉากหนึ่งของเอ็มวีหรือหนังอะไรก็ไม่ปาน
ซึงยุนมองแผ่นหลังนั่งหันหน้าออกไปนอกระเบียงที่ถูกเปิดออกดีดกีต้าร์อยู่พร้อมกับเสียงเกากีต้าร์ผิดๆถูกๆของอีกฝ่ายที่ฟังยังไงพี่แกก็ท่าว่าจะเล่นไม่เป็น
โห่ย เอามาให้คนที่เห็นคุณค่าของมันใช้ดีกว่ามั้ย
“พี่..กีต้าร์ผมอ่ะ”
“อ่าวไหนบอกว่าโทร.ไปขอแม่แล้วไงน้องยุน~”
“เอ้อ! ไม่เอาก็ไม่เอา ไม่อยากจะได้หรอกไอ่กีต้าร์จากคนที่ไม่ชอบหน้าเนี่ย”
ซึงยุนฟุบนอนปิดหูปิดตาไม่สนใจอีกฝ่ายแต่ดันได้ยินเสียงหัวเราะขึ้นจมูกนั้นพร้อมๆกับการเกากีต้าร์เพี้ยนๆที่ฟังแล้วน่าหงุดหงิด
“เด็กดุริยางค์~ เล่นให้ฟังหน่อยสิ”
“ไม่”
“นะ”
“...”
แต่จิตวิญญาณของนักดนตรีมันรู้สึกคันไม้คันมืออยากเล่นอยู่เหมือนกัน!
สรุปตอนนี้ซึงยุนได้หลงกลมานั่งจับกีต้าร์ Jasmine สัญชาติญี่ปุ่นราคาไม่สูงนักพร้อมกับมีคนพี่นอนชมดาว(?)อยู่ข้างๆด้วยท่าทีสบาย
มือเรียวเปิดหนังสือคอร์ดกีต้าร์พลิกไปพลิกมาแต่ก็ยังตัดสินใจไม่ได้
“เอาเพลงไรอ่ะ?”
“เพลงนี้ดิ.. คนแต่งแบบเจ๋งมากไม่รู้มันแต่งได้ไง” อีกฝ่ายลุกขึ้นมาพลางเปิดไปยังหน้าที่ต้องการก่อนจะหยุดลงที่ชื่อเพลงที่ปรากฏตัวหน้าบนหน้ากระดาษ ‘Forever Mate’
“ก็ไม่ค่อยหลงตัวเองหร้อก”
“เร็ว
อยากฟัง”
“คนอะไรอยากฟังเพลงที่ตัวเองแต่ง”
“เดี๋ยวช่วยร้อง”
พูดพลางดึงหมอนมานอนใกล้ๆและล้มตัวลงไปอีกครั้ง ซึงยุนเลยได้แต่จำใจและจำยอมกดคอร์ดเพื่อเริ่มเล่นเพลง.. ความจริงไม่ต้องดูคอร์ดจากหนังสือ นี่ใคร? นี่เด็กดุริยางค์นะครับ
อ่านโน้ตได้ไล่สเกลล์เป็นฟังคีย์ออก แหม่!
“ร้องเดะ!”
จบอินโทรก็สะกิดให้คนที่นอนดูดาวเพลินๆร้องตามก่อนเสียงทุ้มจะดังขึ้นแผ่วเบา
มันไม่ได้เพราะขนาดพวกนักร้องมือาชีพแต่มันเป็นเสียงร้องที่มีสไตล์(มีสไตล์เกินไป)
คล้ายๆกับพวกแร็ปเปอร์ที่พยายามจะร้องเพลงแบบปกติแต่มันก็น่าฟังไปอีกแบบนั่นล่ะ
ซึงยุนเองเลยร้องคลอตามไปด้วย
‘If I have a crush on someone and I tell them
Having a crush would lose all meaning
So I choose the comfortable path
And keep the secret, however beautiful it actually is’
เนื้อเพลงเกี่ยวกับการแอบรักเพื่อนสนิทยังคงถูกขับร้องโดยฝาแฝดผู้ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆทางสายเลือด
เพลง Forever Mate หรือเพลง ‘เพื่อนไม่จริง’ พูดถึงผู้ชายที่แอบรักเพื่อนสาวของตนโดยไม่เผยความในใจและเก็บไว้เป็นความลับ
เห็นเธอมีความสุขอยู่ฝ่ายเดียว
‘I’m the
person you trust, however good that is
I won’t
risk any more than this, because
It might
not work out, I want to be an important person
But just
being a friend is fine, because I can’t not have you’
ไม่รู้เหมือนกันว่าคนแต่งนี่มันใช้ประสบการณ์ตรงรึเปล่า
“เสียงดีนิ”
“ดีนี้ป่ะ”
กดคอร์ด D พลางดีดให้อีกคนฟังแล้วหัวเราะคิกคักกับมุขตัวเองที่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะมองเป็นการกวนตีนเล่นเฉยๆ
“นี่เสียงซี
นี่เสียงจี”
“ตลกมากมั้ยไอ่หมา”
หลบมืออีกฝ่ายอยางรวเร็วเมื่อเห็นว่าจะถูกจ้องดีดเหม่งอีกครั้ง
บุ้ยหน้าแลบลิ้นใส่คนที่นอนอยู่ทันทีเมื่อหลบมือนั้นพ้น
“เล่นต่อดิอยากฟัง”
“กะจะใช้ให้กล่อมเลยว่างั้น?” เบ้ปากออกมาอีกครั้งเมื่อเห็นใบหน้ามีความสุขซะเหลือเกินของคนเป็นพี่
แต่รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าอ่อนแรงนั้นทำให้เขาอดถามอย่างเป็นห่วงไม่ได้
“กินยายังเนี่ย”
“กินแล้ว”
เออดี ละมานอนตากลมงี้ไข้คงจะลดละเนอะ
“ไปนอนปะ”
“เล่นอีก
อยากฟังเสียงมึง”
ดื้อจังพ่อ - _ -
พออีกฝ่ายทำตัวดื้อเป็นเด็กไม่รู้จักโตดึงดันให้เขาเล่นกีต้าร์ให้ฟังอีกซึงยุนเลยช่างหัวพี่แกละแล้วนั่งเล่นอีกต่อหลายเพลงตั้งแต่เพลงของทูดอร์ที่ไอ่พี่อินดี้บ้าคนนี้ทำท่าจะลุกขึ้นมาโยกแต่สังขารไม่เจียมหน้ามืดเลยล้มตัวนอนกระดิกเท้าฟังเหมือนเดิมเห็นแล้วก็ขำจุงกระเบย
จนมาจบเพลง In my life ของวงในตำนานอย่าง The Beatles แล้วหันไปหาคนที่นอนฟังทำท่าเคลิ้มจะหลับเพราะฤทธิ์ยาเข้าให้แล้ว
“ไหนบอกนอนไม่หลับ”
เห็นอีกคนสะดุ้งตื่นด้วยท่าทีตลกๆเรียกเสียงหัวเราะจากเขาได้เสียงดัง
“อะไร๊
แค่พักสายตา”
หรา...
“ทำไมพี่ต้องมาหน้าตาเหมือนผมวะ”
“ตลกละกูเกิดก่อน
มึงอ่ะต้องเหมือนกู”
“พี่แม่งพาผมซวย”
“...”
“ตั้งแต่เข้าโรงเรียนนี้มาแทบไม่มีเรื่องดีๆให้ดีใจเลยอ่ะ”
คืนสีฟ้ากับคนหน้าเหมือนสองคนบรรยากาศก็ย่อมเป็นใจเป็นธรรมดา.. ลมเย็นๆ กับบรรยากาศเหงาๆในค่ำคืนนี้ทำเอากลิ่นดราม่าลอยขึ้นมา
กลิ่นนี่ไล่มาเลย
“ถึงผมจะเกลียดพี่ก็เหอะแต่วันนี้ผมกลัวมากจริงๆ”
“...”
“กลัวว่าพี่จะเป็นอะไรไป
แบบ..มัน โอ้ย!”
มือเรียวยกขึ้นขยี้กลุ่มผมสีดำจนยุ่งเหยิงไปหมด
เขานี่สับสนสุดๆเมื่อสมองสั่งว่าให้อยู่ห่างๆผู้ชายคนนี้
และไม่ควรมานั่งอยู่ตรงนี้ในเวลาแบบนี้ด้วยซ้ำ
แต่เหมือนการกระทำของเขามันจะสวนทางกับคำพูดและความคิดไปเลยเมื่อเห็นหน้าอีกฝ่าย
คนเด็กกว่ามองคนที่ยันตัวขึ้นมานั่งอยู่ข้างๆด้วยแววตาระคนสับสน
จากตรงนี้มีเพียงแสงไฟจากดวงจันทร์และโคมระย้าสลัวๆในห้องส่องผ่านออกมาให้เห็นใบหน้าของจีโฮ.. ใกล้ ใกล้จนเห็นทุกอณูผิวบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยช้ำอ่อนๆนั้น
ซึงยุนพิจารณาใบหน้าที่ว่าเหมือนตนเอง
แต่เขายังขอยืนยันว่ามันไม่เหมือนเลยซักนิด
ตานั่นเรียวกว่าเขาเห็นๆแถมไฝเม็ดเล็กๆใต้ตาซ้ายยิ่งเพิ่มความน่ามองขึ้นอีกหลายเท่า
จมูกโตโด่งสมชาย กับริมฝีปาก..
ปาก
พอเลยพอ กดพอสก่อนเลย
“กีต้าร์นี่ ความจริง..กูตั้งใจซื้อมาให้มึงน่ะแหละ”
“!?”
“ขอโทษ”
ซึงยุนสัมผัสได้เลยว่าไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะไม่รู้สึก.. น้ำเสียงนั้นถึงแม้จะแผ่วเบาจนเกือบเป็นเสียงกระซิบแต่มันเต็มไปด้วยความสำนึกผิดมากๆเท่าที่เขาเคยได้ยินมา
ดวงตายังคงสบกันเหมือนจะสื่อความหมายอะไรบางอย่างกับระยะห่างของใจที่ค่อยๆลดลง
“ถึงมึงจะไม่ชอบหน้ากู แต่กูชอบหน้ามึงว่ะ”
ผม นี่ จุ้ง เลย
ความโกรธเคืองเริ่มหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้.. เหมือนกับใจมันอ่อนตั้งแต่ที่จับสังเกตว่าอีกฝ่ายมาช่วยเขาในยามฉุกเฉินได้ตลอด
เหมือนว่าอีกฝ่ายติดตามความเคลื่อนไหวของเขา เหมือนอยู่ในสายตาของอู จีโฮตลอดเวลา
ดีใจ?
ซึงยุนไม่อาจคาดเดาได้ว่ามีเรื่องอีกมากมายขนาดไหนที่เขายังไม่รู้จากผู้ชายสีเทาคนนี้
และก็คงไม่รู้ว่าตัวเองกลายเป็นสิ่งที่ถูกใจสำหรับจีโฮไปแล้ว
ในห้อง 708 ในค่ำคืนนี้ของอู
จีโฮก็ไม่ได้เต็มไปด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนเมื่อก่อน พร้อมทั้งยังได้แรงบันดาลใจใหม่ที่ชื่อว่า’คัง ซึงยุน’นำไปใส่ในผลงานของตน
แรงบันดาลใจนี้ที่สามมารถใช้เพียง’ใจ’บันดาลแรงเท่านั้น
#ฟิคพี่โค่น้องยูน
ตอนเราแต่งตอนนี้มันแบบฟหกด่าสว
เพลงเพื่อนไม่จริงเป็นเพลงไทยนะ ปกติเราชอบฟังเพลงของsmallroom
555
อาจจะไม่มีใครเคยฟัง ลองดูๆ /watch?v=DNIDBbjqFCo
ส่วนใครไม่รู้เรื่องโค่เป็นโรคไงงี้ก็ลองดู T v T /watch?v=mYvKHi7HJ94
สอบถามรวมเล่ม > แบบฟอร์ม
ความคิดเห็น