ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Maze Runner Fan Fiction

    ลำดับตอนที่ #6 : The Party

    • อัปเดตล่าสุด 22 ต.ค. 57


     

    Chapter VI The Party

    3-2-1 เฮ้ฮ้ฮ้ฮ้!”  หนุ่มๆช่วยกันโยนท่อนไม้เพื่อสุมไฟให้กองใหญ่ขึ้น พวกเขาเล่นดนตรี ร้องเพลง ตามแต่ความสมารถของแต่ละคนที่จะแสดงออกมาก

    เดวี่รับหน้าที่เป็นหนุ่มก่อสร้างในเวลากลางวัน และผันตัวเองไปเป็นนักดนตรีประจำเดอะเกลด ในค่ำคืนที่มีงานเลี้ยง เขาสามาสรถประดิษฐ์เครื่องดนตรีจากวัสดุอุปกรณ์ง่ายๆ แต่เวลาที่เขาสัมผัส ทำให้มันมีจังหวะนั้นกลับเพราะพริ้ง สะกดให้ทุกๆคนอยู่ในภวังค์ได้อย่างง่ายดายเพราะฝีมือการเล่นดนตรีที่เหมือนกับพรสวรรค์ติดตัวมาตั้งแต่เกิด

    มารีนี่ หรือ มารี ที่เพื่อนๆเรียกกัน คือสาวน้อยนักเริงระบำที่ถูกส่งมาพร้อมกับเดวี่ ทั้งสองเป็นคนที่มีความเป็นศิลปินสูงมาก มักจะร้องรำทำเพลง เพื่อคลายความเครียดให้กับเพื่อนๆอยู่เสมอ เพราะสองคนนี้สามารถปรับตัวและอยู่อย่างมีความสุขในเดอะเกลดได้ภายในเวลาเพียงแค่อาทิตย์เดียว

    รอบๆกองไฟขนาดใหญ่ตอนนี้มีเดวี่ที่กำลังเล่นดนตรีที่เป็นเครื่องตีให้จังหวะ พร้อมกับมีมารีเต้นรำอยู่ข้างๆ อีกด้านนั้นจะเป็นคู่เจฟกับเพทราที่กำลังควงแขนเต้นรำอยู่เช่นกัน

    ทุกคนดื่มกินกันอย่างมีความสุข อาหารจะเป็นพวกพืชมากกว่าเนื้อสัตว์ เพราะเนื้อสัตว์ที่นี่หายากมาก เครื่องดื่มก็จะเป็นน้ำเปล่า และเครื่องดื่มสูตรลับของแกลลี่ แต่เสน่ห์ของงานเลี้ยงนั้นอยู่การฉลอง ดนตรีและการเต้นรำมากกว่าอาหารมื้อเย็นเสียอีก

    ผู้มาใหม่กำลังนั่งคอตก เซ็งๆกับปาร์ตี้วันแรก ก็ไม่รู้สินะ โดนขังในพื้นที่แค่นี้ใครๆก็เซ็ง เธออาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวอีกสักพัก แถมเวลาทำใจอีกสักหน่อย มีคู่มาให้เซ็งเป็นเพื่อนกันอีกสักคนก็คงจะดี เหงาอ่ะ

    “เอมม่า ไปดูแลเซซิเลียหน่อยสิ เธอดูเบื่อๆนะ” นิวท์สะกิดเอมม่า

     “นายทำได้ดีกว่าฉันนะนิวท์” เอมม่ายิ้มหวาน

    “แต่เธอเป็นผู้หญิงเหมือนกันนี่นา น่าจะเข้าใจกัน” นิวท์ยังดันต่อ

    “ถ้างั้น เดี๋ยฉันตามไปนะ วันนี้เอมิลี่กับชัคง่วงเร็ว เดี๋ยวพาเด็กๆเข้านอนก่อน”

    “ฉันไปด้วยนะ” เทรีซ่าบอกกับเอมม่า แล้วก็สั่งโทมัสเบาๆว่า “โทมัส นายกับนิวท์ไปชวนเซซิเม้าท์ก่อนนะ เดี๋ยวฉันสองคนจะรีบตามไป”

    “จ้าาาา เบบี๋” โทมัสรับคำว่าง่าย

    “ตะเองรีบมาเร็วๆน้าาาา เดี๋ยวเค้าคิดดเถิงงงงงง” นิวท์เลียนแบบโทมัส พร้อมทำตากระพริบปริบๆใส่เอมม่า

    เอมม่าได้แต่กรอกตามองบนฟ้า พึมพำเบาๆ“ชักจะหนักมากขึ้นทุกๆวัน”

     

                เซซิเลียมองไปรอบๆกองไฟ ชายหญิงในเดอะเกลดหลายคนกำลังเต้นรำอย่างสนุกสนาน มีทั้งเป็นคู่และเป็นกลุ่ม ทุกคนยิ้มแย้มอย่างมีความสุข เฮ้ย..นี่ไม่รู้สึกว่าเป็นนักโทษกันเลยหรือไง?

                พลันสายตาไปหยุดที่คนสองคน ที่นั่งห่างจากกองไฟออกไป ผู้ชายกำลังนั่งกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย โดนมีผู้หญิงตัวเล็กๆนั่งข้างๆ ค่อยๆเอานิ้วจิ้มที่แก้มของอีกฝ่ายที จิ้มแขนที แล้วก็จิ้มแขนอีกเธอสนุกที่ได้แกล้งเขา และเขาเองก็ไม่เคยโกรธเธอเลยสักครั้ง เธอเลยได้ใจ แกล้งเขาได้เรื่อยๆ

                “สนุกมั้ยล่ะ จิ้มอยู่นั่นแหละ” ชายหนุ่มหันไปถาม

                “ก็จนกว่าจะโกรธอ่ะ” เธออมยิ้มเล็กๆ

                “ขอกินก่อน อิ่มแล้วจะแก้แค้นให้สมใจ” เขายิ้มพราว ยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม

                “อุ่ยยยย งั้นไปละ บายยยย” เธอกำลังจะลุกขึ้น มือหนาก็คว้าเข้าที่เอวบางเอาไว้ได้ทัน จนเซล้มลงบนตักของอีกฝ่าย

    “เปลี่ยนใจละ ขอแก้แค้นก่อน” เขาหัวเราะในลำคอ พร้อมยื่นหน้าเข้าใกล้เธอ ทำเอาเอาเขินจนหน้าแดงอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าแสงจะน้อยจนเกือบจะมองไม่เห็น

    “ไม่เอานะ จะทำอะไรน่ะ” เธอถามอย่างตกใจ

    “คิดว่าไงล่ะ” เขาย้อน

    “คิดอะไรล่ะ หยุดเลยนะ คนเยอะแยะ” เธอเริ่มกลัวเขาจิงๆแล้วน้าาา

    “ก็จะทำแบบนี้ไง....” เขาพูดพร้อมกันที่เธอหลับตาปี๋ อร้ายยยยจะทำอะไรน่ะ คนเยอะแยะนะ ไม่เอาๆๆๆ

    “โอ้ยยย” เอวาร้องเสียงหลง เพราะ.......มินโฮดึงแก้มเธออย่างหมั่นเขี้ยว”

    “นี่แน่ะ แกล้งเค้าดีนัก” มินโฮอมยิ้มอย่างมีความสุข

    เอวาทำแก้มป่องงอนๆ..หรือเธอจะแอบงอนที่มินโฮไม่ได้ทำตามที่เธอคิดในใจ    ไม่นะเอวา เธอคิดอะไรเนี่ย เขินไปหมดแล้ว

    แต่สุดท้าย ทั้งคู่ก็นั่งเอานิ้วจิ้มแขนของอีกฝ่ายไปมา เหมือนกับเด็กๆ

    เซซิเลียที่นั่งมองอยู่นานก็อมยิ้มขึ้นมาบ้าง พลางคิดในใจว่า ทั้งคู่น่ารักและเหมาะสมกันจิงๆ

    “คู่นี้หวานใช่มะ? เทียบกับคู่โทมัสไม่ได้หรอกนะ คู่นั้นนะ ..เลี่ยนยังน้อยไป” นิวท์ที่เดินมาพร้อมกับแซวคนข้างๆแบบไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย

    “เหอะ อิจฉาอะดิ” โทมัสแซวกลับ

    เซซิเลียขำเบาๆกับคำเปรียบเทียบของนิวท์ ความเหงาของเธอตอนนี้มันพุ่งสูงเกินควบคุมไปแล้ว ทำไมความเหงาทำร้ายเธอขนาดนี้นะ

    ทั้งสองนั่งลงข้างๆเซซิเลีย ชวนคุยเรื่อยเปื่อย ไร้สาระบ้าง มีสาระบ้าง 

    “ทั้งหมดในเดอะเกลดมีกี่คนหรอ เท่าที่นับได้ก็มากกว่า 20 เลยนะ?” เซซิเลียเอ่ยถามโทมัส

    “ทั้งหมด 25 คน หญิง 13 ชาย 12

    “อะไรคือเหตุผลที่สลักชื่อเป็นคู่ๆล่ะ? ทุกคนเป็นแฟนกันหมดเลยหรือ?”

    “นิวท์คงยังไม่ได้บอกเธอใช่มั้ย ว่าเราถูกส่งมาที่นี่เป็นคู่ๆ”

    “อะไรนะ!! ส่งมาทีละสองเลยหรอ?”

    “เธอถึงพิเศษไง เพราะเธอมาคนเดียว พร้อมกับอาวุธซะด้วย แม่สาวน้อย ฮ่าๆๆๆ” นิวท์ที่แซวเธอแถมยังขำไม่หยุด “เธอถูกลงทัณฑ์ให้เป็นโสดในเดอะเกลดแน่ๆ หุๆๆ”

    “ให้ตายสินิวท์ นายน่าจะทำให้เซซิสบายใจนะ ไม่ใช่แกล้งกันแบบนี้” โทมัสปราม

    “นี่แน่ะ” เซซิกระทุ้งศอกเข้าที่อกของนิวท์จนจุก เธอเอาคืนพร้อมหัวเราะเบาๆ “ไม่แน่นะ ครั้งหน้า อาจจะมีชายหนุ่มรูปงามติกมากับกล่องก็ได้”

    “ติดกับกล่อง? จะบ้าหรอ คนนะ ไม่ใช่เศษเนื้อจะได้ติดตามฝากล่อง” นิวท์กวนเซซิ เพราะยังไม่หายงอน

    “พอแล้วๆ เดี๋ยวฉันเล่าต่อนะ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นแฟนกันตั้งแต่แรก แต่อย่างว่าละนะ ความรักห้ามกันไม่ได้ แต่เราจะให้เกียรติกันโดยที่จะไม่ล้ำเส้นคู่อื่นๆ ทำหน้าที่ของตัวเอง

    คนที่รักกันก็มี คนที่เป็นเพื่อนกันก็เยอะ มันไม่ใช่ประเด็นหลักอะไรนะ”

    “ตอนที่นายมาครั้งแรก นายเป็นไงบ้างโทมัส?” เซซิถามต่อ

    “วิ่งป่าราบเลยสิถามได้ แถมขี้สงสัยจะตาย ถามนั่นนู่นนี่ เอาซะแทบตอบไม่ทัน ฮ่าๆๆๆๆๆๆ เกือบจะวิ่งเข้าไปในเดอะเมซตั้งหลายครั้ง” นิวท์ตอบแทน แถมมีโทมัสนั่งอมยิ้มกับวีรกรรมที่ตัวเองทำไว้สมัยเป็นกรีนี่หรือเด็กใหม่นั่นเอง

    “นายล่ะนิวท์?”

    “ฉันหรอ ช็อคพูดไม่ออกไปสองวัน” นิวท์กลั้นขำกับเรื่องของตัวเอง

    “โอ้... อืมมมมมม” เซซิพยักหน้า เก็บรายละเอียดข้อมูลที่เพิ่งถูกป้อน

    “เฮ้ แล้วทำไมนายเข้าไปข้างในได้ นายกับคนนั้น” เซซิมองหน้าโทมัสและจ้องไปที่มินโฮ

    “พวกเราคือรันเนอร์ ทุกๆวัน เราจะวิ่งเข้าไปในเดอะเมซ จดจำเส้นทางเพื่อหาทางออก แต่มันก็ไม่ง่ายนะ ข้างในนั้นมันกว้างมาก ซับซ้อน อันตราย แถมยังเปลี่ยนทุกๆคืน” โทมัสอธิบาย

    “ผู้หญิงเป็นรันเนอร์ได้มั้ย?”

    “ได้สิ เห็นผู้หญิงผมสีแดงที่นั่งคุยกับผู้ชายผมบลอนด์ตัดสั้นตรงนั้นมั้ย นั่นโมนิก้ากับเบน คู่รักนักวิ่ง เราเรียกอย่างนั้น เพราะทุกๆวัน เขาสองคนจะวิ่งด้วยกัน อีกสองคนคือเพทรากับซีเรีย ผู้ชายก็มีฉัน และมินโฮ คนนั้น คนที่นั่งข้างๆเอวา”

    “อย่าคิดอยากจะเป็นเชียวล่ะ ถ้าติดอยู่ข้างใน ตอนกลางคืนไม่รู้จะเจออะไรบ้าง” นิวท์เตือน

    “เคยมีคนติดอยู่ข้างในมั้ย?” เซซิถามต่ออย่างตื่นเต้น

    “ไม่เคยมีนะ แต่พอเวลากลางคืน จะมีเสียงกังวานมาจากในเดอะเมซ เราเชื่อกันว่ามันมันหลับตอนกลางวัน และกลางคืนมาจะตื่นออกมาเดินพ่นพ่าน” โทมัสตอบอย่างไม่แน่ใจ

    “ก็ไม่มีใครอยากจะติดอยู่ในนั้น นั่นหมายถึงชีวิตที่อาจจะไม่ได้กลับคืนมา”

    “นายทำแผนที่ได้เยอะหรือยัง”

    “น่าจะเกิน 70% แล้วนะ แต่เรายังไม่เจอทางออกเลย”  โทมัสทำหน้าหนักใจ

    “ไม่เห็นเป็นไรเลย สามสิบเปอร์เซ็นต์ที่เหลืออาจจะเป็นทางออกก็ได้ สู้ๆนะ พวกเราจะรออยู่ในเดอะเกลด” เซซิตบไหล่โทมัสเบาๆ และส่งยิ้มให้

    นอกจากนั้นเซิเลียยังถามถึงความเป็นมาอื่นๆ การใช้ชีวิตของคนในเดอะเกลด ทั้งสามคนหัวเราะอย่างสนุกสนาน ถ้าความทรงจำของแต่ละคนไม่ถูกลบ ราตรีคงจะยาวนาน กว่านี้ เพราะเรื่องเล่าของแต่ละคนต้องมีมากมายแน่ๆ

    มินโฮนั่งคุยกับเอวา ถามถึงเหตุการณ์ของวันนี้ว่ามีอะไรที่เขาต้องติดตามบ้าง แล้วก็หนีไม่พ้น เรื่องน้องใหม่คนสวยคนนั้น ที่จริงเขาก็ควรจะไปทักทายเธอบ้างตามมารยาท

    “แต่ตอนนี้คงไม่ต้องแล้วมั้ง ดูมีความสุขกับกับสองหนุ่มดีนี่” มินโฮพึมพำขณะที่มองทั้งสามจากฝั่งตรงข้าม

    “มินโฮ ไปเต้นกันเถอะ” เอวากระตุกแขนเสื้อสีฟ้าของเขา

    “ไม่เอาหรอก เธอก็รู้ว่าฉันเต้นไม่เป็น ลองไปชวนเพื่อนใหม่สิ เผื่อเค้าอยากได้เพื่อนผู้หญิงบ้าง นั่งคุยกับสองตัวแสบนั้นไม่รู้ว่าเข้ากันได้หรือเปล่า ” มินโฮผลักเอวาไปด้านหน้าอย่างเบามือ

    “อะเค๊” ว่าแล้วก็เดินไปที่สองหนุ่มกับหนึ่งสาวนั่งอยู่

    “เซซิเลีย ไปเต้นรำกันเถอะ มามะๆ” เอวาเรียก

    “เอ่ออออ เต้นยังไงล่ะ ฉันเต้นไม่เป็นนะ” เซซิยิ้มหวานให้เอวา

    “เดี๋ยวสอนๆ ง่ายมากกกกก” เอวายื่นมือให้เซซิเลียจับแล้วทั้งคู่ก็ออกไปเต้นรำรอบกองไฟอย่างสนุกสนาน

    มินโฮก็เดินไปที่นิวท์กับโทมัสเช่นกัน แต่ก็หลังจากที่เอวาพาเซซิออกไปแล้ว

    เขาก็ไม่รู้ตัวเองเช่นกันว่าทำไมถึงต้องเลี่ยงการเผชิญหน้ากับผู้หญิงคนนั้น หรือเขาจะขี้ขลาด ให้ตายสิมินโฮ นายเป็นอะไรเนี่ย เขาพึมพำ

    “เด็กใหม่เป็นไงบ้าง?” เขาถามสองหนุ่ม

    “ไม่มีอาการตกใจหรือกลัวเท่าไร ที่สำคัญน่ารักดี ฮิๆ” นิวท์ ขำเบาๆ

    “นายหัดเจ้าชู้เมื่อไร” โทมัสถามนิวท์

    ทั้งสามหนุ่มนั่งคุยกันอย่างสนุกสนานตามประสาเพื่อนสนิท โดยทุกสายตาจับจ้องไปที่ผู้มาใหม่กำลังยิ้มอย่างร่าเริงกับเอวา

    “ขอบใจนะเอวา ฉันสนุกมากๆเลย” เซซิยิ้มหวานให้เอวา ที่ทำให้เธอหายเหงาเสียที ก่อนที่จะแยกกันไปนอนหลังจากที่มีเสียงจากอัลบี้ว่าได้เวลานอนแล้ว...

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×