คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : หมอนวด6
หมอนวดเบอร์ 6
“ป๊าๆ คริสท่อง A B C แล้วก็คัดเลขไทยเสร็จแล้วขอเล่นเกมได้ป่าว” เด็กน้อยวัยหกขวบเงยหน้าจากโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กถามผู้เป็นพ่อที่กำลังนั่งคิดเงินให้ลูกค้า
“ได้สิ แต่ป๊าให้เล่นแค่ชั่วโมงเดียวนะคริส” เฮียอู๋ละสายตาจากเครื่องคิดเลขหันไปตอบลูกชาย ลูกค้าหญิงวัยสี่สิบปลายๆชะเง้อหน้าเข้าไปมองเด็กที่ส่งเสียงเจื้อยแจ้วออกมาด้วยรอยยิ้มเอ็นดู
“ลูกกี่ขวบแล้วล่ะอู๋” เธอถามพ่อหม้ายหน้าหล่อ เฮียอู๋หันไปมองลูกชายที่กำลังเก็บหนังสือเข้ากระเป๋าแล้วหันมาตอบ
“เดือนหน้าก็เจ็ดขวบแล้วครับ ทั้งหมดพันสองครับเจ๊” ตอบออกไปพร้อมส่งบิลของให้
“กำลังซนเลยล่ะสิ แล้วนี่เอ็งก็โสดมานานแล้วไม่คิดจะหาแม่ใหม่ให้ลูกมันหรอ” เพราะทำการค้าด้วยกันมานานเจ๊คนนี้เปิดร้านขายของชำอยู่อีกหมู่บ้านและมาซื้อพวกเหล้าหรือเครื่องดื่มของร้ายเฮียอู๋เป็นประจำเลยพอรู้ที่ไปที่มาของพ่อหม้ายคนนี้อยู่บ้าง
“ทำแต่งานแบบนี้ไม่มีเวลาไปหาหรอกเจ๊ อยู่กันสองคนพ่อลูกก็ดีเหมือนกัน”
“หาๆไว้บ้างก็ดีนา ถึงลูกเอ็งจะเป็นผู้ชายแต่ก็ควรมีด้านอ่อนโยนบ้างซึ่งส่วนนั้นเอ็งไม่มีหรอกเจ๊รู้ จะหวังพึ่งไอ้สองตัวกะล่อนลูกจ้างเองรึก็ไม่ได้ หาแม่ใหม่ให้มันเอาไว้มาแบ่งเบาเลี้ยงลูกเอ็งจะได้ทำงานคล่องขึ้น” เธอพูดแต่นั้นควักเงินจ่ายแล้วเดินออกจากร้านไป
เฮียอู๋มองลูกชายที่ตอนนี้นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์แล้วไม่ใช่ไม่เคยคิดว่าต่อไปอนาคตของลูกชายจะเป็นยังไงเพราะคริสไม่ได้อยู่กับแม่มาตั้งแต่เด็กเขาเลี้ยงลูกมาเองคนเดียวตลอดระยะเวลาหลายปีด้วยความเป็นผู้ชายความแข็งกระด้างมันมีอยู่แล้วไหนจะไอ้ลูกจ้างสองคนนั้นที่วันๆเอาแต่สอนอะไรพิเรนท์ๆให้น้องเฮียอู๋กลัวว่าซักวันคริสจะกลายเป็นผู้ชายหยาบคาย
จะว่าไปก็อยากจะหาใครซักคนมาดูแลทั้งลูกชายและตัวเองเหมือนกันนะใครก็ได้ที่ยอมรับพ่อหม้ายคนนี้ที่มันไม่มีอะไรเลยนอกจากร้านส่งเก่าๆที่ผู้เป็นพ่อยกให้ในวันที่แต่งงานกับแม่น้องคริส
“เฮียมีไรให้ผมยกอีกป่าวถ้าไม่มีผมไปช่วยหลวงพ่อแล้วนะ” เทาที่เพิ่งจัดของหลังร้านเสร็จเดินเข้ามาถามนายจ้าง
“ไม่มีแล้ว เอ็งไปเถอะ อ่อ…เฮียฝากนี่ถวายหลวงพ่อด้วย” เฮียอู๋หยิบถุงที่บรรจุนมถั่วเหลืองสองแพคส่งให้เทาฝากเอาไปถวายหลวงพ่อ พอเทาออกไปก็สวนกับชานที่เพิ่งกลับจากส่งของให้ลูกค้าพอดี
“คริสค่ำแล้วไปตลาดนัดกับพี่ป่าว” ชานเดินผ่านหน้านายจ้างไปหาเด็กตัวเล็กที่นั่งกดเมาส์ยิกๆอย่างมันส์มือ
“แป๊บนึงคริสของเล่นรอบนี้จบก่อน”
“คริสเลิกเล่นแล้วไปเดินตลาดนัดกับพี่ชานไปหนูอยากกินอะไรก็ซื้อมานะ” เฮียอู๋ตะโกนบอกลูกบ้างเมื่อเห็นว่าลูกชายเอาแต่สนใจเกมส์แต่ถึงอย่างนั้นคริสก็ยังไม่สนใจชานเองก็ยืนเท้าเอวรอน้องโดยไม่พูดอะไรเหมือนกัน
“อ๊ะ! ป๊า….” เด็กน้อยโอดเมื่อผู้เป็นพ่อเดินมาปิดหน้าจอคอมที่ตัวเองเล่นอยู่
“ไปตลาดกับพี่ชานวันหลังค่อยเล่น” เฮียอู๋พูดเสียงนิ่งๆ คริสหน้าง้ำลุกขึ้นยืนบนเก้าอี้แล้วยื่นแขนไปหาพี่ชานเป็นเชิงว่าให้อุ้ม
“เฮียกินไรผมซื้อมาให้” พออุ้มน้องปุ๊บชานก็เอ่ยถามเฮีย
“กับข้าวอะไรก็ได้ที่ไม่ได้ทำจากปลาอ่ะ” เฮียอู๋ว่าแล้วควักเงินให้ชานหนึ่งร้อยเป็นค่าใช้จ่ายของลูกชาย
พอลูกน้องและลูกชายออกไปแล้วเฮียอู๋ก็มานั่งทำบัญชีที่โต๊ะทำงานของตัวเองต่อเวลาผ่านไปเกือบจะหกโมงเย็นแล้วก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดจนได้ยินเสียงกระดิ่งที่ประตูนั่นแหล่ะถึงได้เงยหน้าขึ้นมาจากเครื่องคิดเลขและสมุดบัญชี
“ร้านปิดหรือยังฮะ” เป็นคนที่เพิ่งเจอเมื่อตอนบ่ายนั่นเองที่เดินเข้าร้านมาตอนนี้อี้อาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่แล้วกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มและกลิ่นแป้งเด็กหอมฟุ้งเลย
“ยังหรอกปิดทุ่มนึง”
“อ่อฮะ…อี้มาซื้อน้ำเปล่าซักโหลน่ะฮะเอาขวดลิตร” อี้บอกจุดประสงค์ของตัวเองเฮียอู๋พยักหน้าแล้วเดินไปที่โซนเก็บน้ำดื่มลากแพ็คน้ำออกมาแล้วจัดการยกมาใส่ถุงให้ที่โต๊ะ
“เท่าไหร่ฮะเฮีย?”
“ร้อยสิบบาทแล้วนี่เอารถมาหรือเปล่า” ถามพลางมองออกไปหน้าร้าน
“เอามาฮะนี่ฮะเงิน” ส่งเงินไปให้และรอรับเงินทอน กล่องพลาสติกสีขาวขุ่นถูกยื่นไปตรงหน้าเฮียอู๋พ่อหม้ายหนุ่มมองหน้าคนให้กับสิ่งของสลับกัน
“พอดีว่าวันนี้อี้กับแบคเข้าครัวทำอาหารเย็นกินกันแล้วนี่ก็เป็นแกงเขียวหวานอี้เพิ่งหัดทำครั้งแรกก็เลยแบ่งมาให้เฮียตอบแทนที่เมื่อตอนบ่ายออกค่าส้มตำให้ฮะ”
“อ๋อ…ขอบใจนะแต่จริงๆไม่ต้องก็ได้ลำบากเปล่าๆ” ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ก็ยอมรับมาเพื่อไม่ให้อีกคนเสียน้ำใจ
“ไม่ลำบากหรอฮะเพราะยังไงอี้ก็ต้องออกมาซื้อน้ำอยู่แล้ว” อี้ว่ายิ้มๆเฮียอู๋เองก็มองคนหน้าหวานอยู่พักหนึ่งก็ตัดบทโดยการยกแพ็คน้ำขึ้นเพื่อจะเอาไปส่งที่รถของอี้
แต่พอออกมาก็ต้องคิดหนักว่าอีกคนจะเอาน้ำไปได้หรอตั้งสองแพ็คเชียวนะแล้วน้ำนี่ก็ไม่ใช่เบาๆหลายกิโลฯเลยล่ะรถของอี้เป็นสกู้ปปี้ไม่มีตระกร้าหน้ารถมีแค่ที่วางเท้าแต่ถึงอย่างนั้นมันก็วางไม่อยู่ดี
“ฉันขี่รถพ่วงไปส่งแล้วกันรถเธอคงไปไม่ได้หรอกน้ำตั้งสองแพ็ค”
“อี้ขี่สองรอบก็ได้นะ”
“เปลืองน้ำมัน ฉันไปส่งนี่แหล่ะไม่คิดเงินเพิ่มหรอกเดี๋ยวรอแป๊บนะล็อคร้านก่อน” เฮียอู๋ว่าแล้วเดินไปยกน้ำอีกแพ็คออกมาแล้วล็อคประตูหน้าร้านไว้เพราะมันไม่มีใครอยู่จากนั้นก็ยกน้ำขึ้นรถพ่วงที่เอาไว้ส่งของดีนะที่ชานมันเอามอไซด์มันพาน้องคริสไปตลาด
อี้ขี่รถของตัวเองนำมาที่หอโดยมีเฮียอู๋ขี่ตามจริงๆมันก็ไม่ไกลจากกันเท่าไหร่หรอกอยู่ในย่านเดียวกันแต่แค่คนละซอยเท่านั้นเอง สกู้ปปี้สีขาวแดงมาจอดที่หน้าอพาร์ทเม้นเล็กๆที่อยู่ไม่ไกลจากร้านเฮียอู๋นักอี้เอาขาตั้งลงแล้วลงมายืนรอรถพ่วงของเฮียอู๋ที่ขับตามมา
“ขอบคุณฮะเฮีย”
“เดี๋ยวฉันแบกขึ้นไปให้” เฮียอู๋ใจดีอีกแล้วยกน้ำขึ้นพร้อมกันสองแพ็คแล้วบอกความต้องการของตัวเอง อี้ยกมือโบกเชิงว่าไม่เป็นไรพอเห็นท่าทีเกรงใจเฮียอู๋ก็ไม่สนใจเดินเข้าตึกไปถามคนที่นั่งอยู่หน้าร้านมินิมาร์ทของตัวเอง
“ห้องอี้อยู่ชั้นไหนครับ จุน!”
“ไอ้อู๋! มาทำไรเนี่ย?” เพราะเพื่อนเก่าสมัยเรียนมาเจอกันเลยต้องทักกันซักหน่อย นี่นึกว่าจุนมันย้ายไปอยู่บ้านนอกกับพ่อแม่แล้วซะอีก
“มาส่งของลูกค้า นี่ฉันนึกว่านายย้ายกลับบ้านนอกไปแล้วนะเนี่ย”
“ไม่ล่ะ กลับไปทำสวนมันไม่ใช่สไตล์หว่ะเลยมาเปิดกิจการอพาร์ทเม้นที่นี่”
“ของนาย?”
“เออดิ! แล้วเมื่อกี๊ถามว่าไรนะ” เหมือนจะได้ยินลางๆว่าเมื่อกี๊เพื่อนหน้าหล่อถามอะไรซักอย่าง
“อ่อ ห้องของเด็กที่ชื่ออี้เบอร์อะไรฉันเอาของมาส่ง” ถามจบอี้ก็เดินตามเข้ามาพอดีที่ช้าเพราะมัวแต่เอาโซ่ล็อคล้อรถอยู่ ไม่ได้หรอกถึงจะมีลุงยามอยู่แต่อี้ก็ไม่ไว้ใจล็อคล้อมันด้วยนี่ล่ะดีที่สุด
“ชั้นสามเบอร์ 12” เจ๊จุนบอกเป้าหมายปุ๊บเฮียอู๋ก็เดินขึ้นบันไดไป อี้ก็ได้แต่ทำตาสองขีดใส่เจ๊ลับหลังเฮียแล้วค่อยวิ่งตาม
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เคาะทำไมอี้กุญแจก็มี!”
แกร็ก~
“ตาเถร!!!”
“ตาเถรที่ไหนเฮียอู๋เอง” พูดกับคนที่อุทานเสียงหลงแล้วเดินแทรกตัวเข้าห้องไป แพคน้ำเปล่าสองแพควางลงที่พื้นข้างๆโต๊ะญี่ปุ่นเตี้ยๆที่ตอนนี้บนโต๊ะเต็มไปด้วยจานชามที่มีข้าวและกับข้าวอยู่หลายอย่าง ตาคมหันมองรอบๆห้องอย่างถือวิสาสะ
อี้จะรู้ไหมว่าที่เฮียอู๋อาสาเอาน้ำมาส่งมันไม่ใช่เพราะอยากแสดงความมีน้ำใจอย่างเดียวแต่อยากมาดูการกินอยู่ของหมอนวดหน้าขาวคนนี้ด้วยว่าเป็นยังไงและมันก็ไม่ได้ต่างจากเด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่มาอาศัยอยู่ในเมืองกรุงหรอก
“ฉันกลับแล้วนะ” พอสำรวจเสร็จก็เอ่ยลาไม่อยากรบกวนเวลานานเพราะนี้ก็ใกล้ยามวิกาลแล้ว มันดูไม่ดี
แล้วทำไมเฮียจะต้องสนใจด้วยว่าคนอื่นเขาจะมองยังไง?
“เล่ามา” พอเฮียอู๋ออกไปอี้ก็ถูกแบคดึงเข้าไปประชิดตัวแล้วถามด้วยน้ำเสียงที่อยากรู้เต็มที่
“เล่าอะไร” อี้บ่ายเบี่ยงพลางเดินหนีไปนั่งแหมะที่เบาะนั่งมือขาวจับช้อนส้อมขึ้นมาเตรียมจะกิน แบคเห็นแบบนั้นก็ตามลงไปนั่งข้างๆแล้วกระแซะถามต่อ
“แกไปอ่อยเฮียเขาท่าไหนถึงได้ตามมาส่งถึงห้อง”
“อ่อนเอ่ยอะไรแบคอี้ไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย เฮียเขาก็แค่มีน้ำใจเห็นว่าน้ำมันหนักเลยมาส่ง” อี้พูดออกไปตามความจริงทุกประการ แบคมาหาว่าอี้ไปอ่อยเฮียได้ไงนะอี้ไม่ใช่คนแบบนั้นนะ!
“แน่นะ ไม่ใช่แอบมีซัมติงกันแล้วแบคไม่รู้หรอกนะอี้”
“โหยถ้ามันเป็นแบบนั้นได้อี้จะป่าวประกาศไปทั่วซอยเลยล่ะ” อี้จีบปากจีบคอใส่เพื่อน
“แกรรรร แร๊งงงงงงงง” น้องแบคว่าแล้วทั้งคู่ก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน
“พอๆ กินข้าวเถอะแกงเขียวหวานเย็นหมดแล้วเนี่ย!”
.
.
.
.
.
เช้าวันนี้เฮียอู๋ก็มาส่งลูกชายเข้าโรงเรียนเหมือนทุกวัน แต่มันแปลกไปหน่อยก็ตรงที่น้องคริสซึมๆผิดปกติเมื่อเช้าตอนตื่นมาก็จับตัวดูก็พบว่าตัวน้องรุมๆเหมือนจะมีไข้เลยซื้อข้าวต้มและป้อนยาลดไข้ให้ก่อนออกจากบ้าน
พอลงรถปุ๊บคริสก็หันมายกมือไหว้ป๊าเตรียมจะเข้าโรงเรียนถ้าไม่ติดว่าผู้เป็นพ่อเรียกไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวลูก…ถ้ารู้สึกไม่สบายตรงไหนรีบบอกคุณครูเลยไม่ต้องเก็บไว้หนูเหมือนจะไม่สบายรู้ตัวใช่ไหม”
“ครับ” เด็กน้อยตอบเสียงแผ่ว ป๊ายกมือลูบหัวสองสามทีแล้วปล่อยลูกเดินเข้าโรงเรียนไปพอเห็นครูประจำชั้นเดินออกมารับเฮียอู๋ถึงไปขี่รถกลับร้าน พ่อหม้ายรูปหล่อก็ทำงานขายของไปตามปกติเหมือนอย่างทุกวัน แต่วันนี้มีแค่ไอ้เทาคนเดียวที่มาช่วยงานที่ร้านไอ้ชานมันลากลับบ้านวันนึงเห็นบอกว่าแม่ไม่สบายเย็นๆก็คงจะกลับมาสอนการบ้านให้น้องเหมือนเดิม
ตกบ่ายมาเสียงโทรศัพท์มือถือเฮียอู๋ก็ดังขึ้นเป็นครูประจำชั้นที่โรงเรียนโทรมาบอกว่าน้องคริสตัวร้อนและมีไข้ทั้งยังกินข้าวได้ไม่เยอะอีกครูบอกว่าจะโทรให้ป๊ามารับกลับมาพักผ่อนที่บ้านแต่น้องไม่ยอม สำหรับน้องคริสแล้วอาจจะเป็นเด็กที่ค่อนข้างดื้อนะแต่เรื่องเรียนนี่น้องขยันมากสอบทีไรได้ที่หนึ่งของชั้นทุกปีนั่นเพราะคงได้ครูพิเศษดีๆอย่างพี่ชาน
“ถ้าน้องยังไม่อยากกลับผมฝากครูดูแลไปก่อนได้ไหมครับ”
‘ได้ค่ะคุณพ่อ จริงๆอีกไม่กี่ชั่วโมงโรงเรียนก็จะเลิกแล้ว เดี๋ยวครูจะดูให้ก่อนนะคะ’
“ขอบคุณครับ เลิกเรียนแล้วผมจะรีบไปรับเลย” เฮียอู๋วางสายแล้วก็นึกห่วงลูกชาย น้องคริสเป็นเด็กแข็งแรงนานๆทีจะป่วยจนถึงกับนอนซมนอกนั้นก็เป็นหวัดธรรมดาซื้อยากินก็หายแต่ครั้งนี้คงจะหนักเพราะครูบอกว่ากินข้าวไม่ค่อยได้
“โอ๊ยย” เสียงร้องโอดโอยของเพื่อนที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำทำให้อี้ที่นั่งดูทีวีอยู่ถึงกับหันไปมอง
“เป็นไรแบค?” จะว่าไปอี้ก็เห็นว่าแบคมันเดินเข้าออกห้องน้ำสามสี่รอบได้ละนะสภาพของแบคนี่ไม่ต่างจากศพเดินได้เลยอยู่ในชุดนอนย้วยๆผมเผ้าฟูฟ่องหน้าตาซีดเซียวไม่มีสีเดินกุมท้องออกจากห้องน้ำ
“แบคว่าแบคท้องเสียว่ะอี้” เสียงหวานที่เปลี่ยนเป็นแหบพร่าบอกเพื่อนแล้วค่อยเดินเซไปล้มลงนอนบนเตียง
“เฮ้ย ปกติกินส้มตำร้านพี่ไคทีไรแบคก็ไม่เห็นท้องเสียนี่” กินกันบ่อยจะตายบางทีนะอาทิตย์นึงกินไปห้าวันก็มีก็ไม่เห็นเป็นอะไร
“แกงเขียวหวานอี้ป่าววะ”
“อย่ามาโยนความผิดให้แกงเขียวหวานฉันนะ!” คนถูกกล่าวหาแว้ดขึ้นมาทันทีก็ดูแบคมันพูดดิ มันน่าจับแร่เนื้อมาทำเป็นลูกชิ้นซะจริงๆ
“ก็เมื่อวานนอกจากส้มตำร้านพี่ไคแล้วฉันก็กินแกงเขียวหวานแกนั่นแหล่ะถึงได้เดินเข้าห้องน้ำอยู่แบบนี้”
“ถ้าพูดแบบนี้ก็ท้องร่วงตายไปเลย ว่าจะใจดีอาสาไปซื้อยาให้สักหน่อยมาพูดแบบนี้เนี่ยนะ”
กลายเป็นว่าสองเพื่อนรักเปิดศึกแกงเขียวหวานกันไปซะอย่างนั้น อี้ไม่สนใจแบคที่คลานไปเข้าห้องน้ำเป็นรอบที่ห้าหกและเจ็ดและอีกหลายๆรอบ คนตัวขาวนั่งสนใจทีวีตรงหน้าต่อด้วยใบหน้าที่ง้ำงอบ่งบอกได้ว่าไม่พอใจ
จริงๆแล้วก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไรกันหรอกทั้งสองคนเล่นแว้ดๆเสียงใส่กันแบบนี้อยู่บ่อยๆ แต่ครั้งนี้อี้ก็อยากให้แบครู้ว่าบางทีสาเหตุที่แบคท้องเสียมันอาจจะไม่ได้เกิดจากแกงเขียวหวานของอี้ก็ได้….หรือเปล่า?
ตอนนี้แบคไม่ได้เข้าห้องน้ำแล้วแต่กลับมานอนซมอยู่บนเตียงในชุดนอนตัวเดิม อี้ที่เพิ่งออกจากห้องน้ำมาเพราะนี่ก็จะบ่ายสามแล้วต้องเตรียมตัวไปทำงานคนตัวขาวเห็นสภาพเพื่อแล้วก็อดห่วงไม่ได้เดินเข้าไปใกล้ๆแล้วสะกิด
“แบคไปทำงานไหวป่ะเนี่ย”
“หืมกี่โมงแล้วอ่า” แบคครางถามทั้งที่ยังหลับตา เหงื่อผุดพรายตามใบหน้าปากซีดหน้าซีดจนอี้ต้องยกหลังมืออังหน้าผาก
“อีกสิบนาทีบ่ายสาม” แบคพยักหน้ารับแล้วพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง ถ้าอี้จะให้คำตอบของคำถามตัวเองว่าแบคไปทำงานไม่ไหวนี่จะมีใครว่าอี้ไหม
“จากสภาพแล้วไม่น่าไหวนะนอนพักเหอะ ไม่ต้องไปทำงานหรอก” เอาเป็นว่าวันนี้ก็ให้แบคพักไปเดี๋ยวอี้ไปทำงานคนเดียวก็ได้แต่แขกหลายๆคนคงจะผิดหวังนะที่หนึ่งในดาวของร้านไม่มาทำงานสองคืนติดต่อกันแบบนี้
“แล้วอี้อ่ะ”
“ไม่ต้องห่วงอี้ ห่วงตัวเองเหอะไปอาบน้ำไปจะได้สดชื่นนี่เดี๋ยวจะไปซื้อยาให้เลย” อี้แต่งตัวไปคุยกับเพื่อนไปวันนี้ยอมใช้เวลาแต่ตัวแค่สิบห้านาทีต่างจากทุกวันคือเกือบชั่วโมงเพราะกลัวเพื่อนท้องเสียตายคาห้องหรอกนะถึงได้ใจดีแบบนี้
อี้เดินลงมาข้างล่างปลดล็อคโซ่ที่ล็อคล้อรถแล้วถอยออกจากซองเป้าหมายคือร้านยาที่อยู่ไม่ไกลจากอพาร์ทเม้นนัก แต่ก่อนเข้าร้านยาอี้ขอแวะเซเว่นข้างๆก่อนแล้วกันซื้อขนมนมเนยเข้าไปแช่ไว้ที่ห้องเผื่อกลับจากทำงานแล้วจะหิว
“ยาแก้ท้องเสียฮะ” บอกเภสัชที่ยืนอยู่หน้าเคาท์เตอร์
“ปวดท้องด้วยไหมคะ” เภสัชสาวถาม อี้ทำท่านึก…
“เอ่อ พอดีว่าซื้อไปให้เพื่อนน่ะฮะเขาท้องเสียคาดว่าน่าจะปวดท้องด้วย” อี้เดานะ
“แล้วเพื่อนอาเจียนด้วยหรือเปล่าคะ”
“ไม่ฮะ แค่ถ่ายอย่างเดียว”
“ค่ะ งั้นมียาแก้ท้องเสีย แก้ปวดท้องแล้วก็จะให้ยาฆ่าเชื้อกับเกลือแร่ไปด้วยนะคะ” เภสัชสาวบอก อี้พยักหน้ารับยิ้มๆ
เภสัชจัดยาใส่ซองให้กับอี้ระหว่างนั้นเธอก็พูดบอกมาด้วยว่าต้องกินยาอะไรเวลาไหน ก่อนหรือหลังอาหารยังไง ระหว่างที่รอคิดเงินอี้ก็มองไปรอบๆร้านไม่ได้โฟกัสตรงไหนเป็นพิเศษจนกระทั่ง…
“ยาลดไข้เด็กแล้วก็วิตามินซีด้วยครับ”
เสียงคุ้นๆแฮะ…
“เจ็ดขวบครับ” อี้มองไปที่ต้นเสียงนั้นทันทีแล้วก็ต้องตกใจ อะไรมันจะดวงดีขนาดนี้อี้เจอเฮียอู๋สองวันติดๆแบบนี้อี้ควบคุมหัวใจตัวเองไม่ทันรู้ไหม
“น้องคะ!”
“ฮะ!!!” อี้สะดุ้งเพราะเสียงเรียกของเภสัชคนที่ขายยาให้ตนเอง ไม่ใช่แค่อี้นะที่ได้ยินคนที่ยืนซื้อยาอยู่ข้างๆก็ได้ยินเช่นกัน อี้แก้อายโดยการก้มหน้าก้มตาเปิดกระเป๋าสตางค์ออกแล้วหยิบเงินแบงค์ร้อยสองใบส่งให้เภสัช หันไปยิ้มหวานให้เอียอู๋หนึ่งทีแล้วเดินลิ่วๆออกจากร้านไปโดยไม่รอเอาเงินทอน
“อ้าว น้องยังไม่ได้เอาเงินทอนเลย” เภสัชหันไปพูดกับเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างกันอย่างงงๆไม่เข้าใจว่าอี้จะรีบอะไรขนาดนั้น
“ขอโทษนะครับ”
“คะ?”
“นี่เงินทอนของเด็กคนเมื่อกี๊ใช่ไหมครับ”
“อ่อใช่คะ ตั้งเจ็ดสิบกว่าบาทเลยสงสัยจะรีบเอายาไปให้เพื่อนน่ะค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวผมเอาไปให้เองครับผมรู้จักเขา” เภสัชสาวมองหน้าเฮียอู๋ช่างใจอยู่พักหนึ่งพ่อหม้ายรูปหล่อรู้ได้เลยว่าเธอคงจะไม่ไว้ใจเขาเพราะเรื่องที่บอกว่ารู้จักอี้นั้นอาจจะกุขึ้นมาก็ได้เพื่อหวังเงินทอดเจ็ดสิบบาทนี่
สุดท้ายเฮียอู๋ก็ต้องใช้ไม้เด็ด
^_^
ฉีกยิ้มนิดเดียวเงินทอนของอี้ก็มาอยู่ในมือของเฮียอู๋ได้ไม่ยาก ส่วนเภสัชคนนั้นน่ะหรอ…เดินไม่ได้สติเข้าหลังร้านไปนู่นแล้ว เฮียอู๋ควักเงินมาจ่ายในส่วนของตัวเองแล้วเดินออกจากร้านบ้าง
ตาคมมองหาคนตัวขาวที่ออกจากร้านก่อนหน้านี้คาดว่าน่าจะยังไม่ไปแล้วมันก็เป็นอย่างที่ตัวเองคิด อี้เดินลงจากรถอีกรอบหนึ่งหลังจากถอดหมวกกันน๊อคพ่อหม้ายรูปหล่อก็เดินตรงไปหา
“สวัสดี” เสียงทุ้มเอ่ยทักออกไป
“เอ่อ สวัสดีฮะเฮียอู๋” อี้ทักกลับหน้าแดงแต่แสร้งทำตัวปกติไว้ “มาซื้อยาหรอฮะ”
“ใช่ พอดีน้องคริสไม่สบายน่ะ”
“ตายจริง!” อี้ร้องอย่างตกใจเมื่อวานน้องก็ยังดีๆอยู่เลยนี่นา แล้วป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างล่ะเนี่ย
“เธอล่ะ มาซื้อยาเหมือนกันหรอ” ก็เห็นว่าเมื่อกี๊อยู่ในร้านยาเหมือนกัน จริงๆเฮียอู๋ก็ไม่เห็นหรอกนะถ้าเภสัชคนนั้นไม่เรียกอี้ซะเสียงดังแบบนั้นพ่อหม้ายก็ยอมรับว่าตกใจที่เห็นอี้
“ฮะ พอดีแบคไม่สบายเหมือนกัน”
“อ่อ งั้นคงห่วงเพื่อนมากจนลืมเงินทอนสินะ” คิ้วเรียวของอี้เลิกขึ้นแปลกใจว่าเฮียอู๋รู้ได้ไง จวบจนเงินแบงค์ห้าสิบและแบงค์ยี่สิบยื่นมาตรงหน้าหมอนวดตัวขาวแต่อี้ก็ยังทำหน้างงไม่เลิกสักที
“เงินทอนของเธอฉันเอาออกมาให้แล้ว” ตอนนี้อี้ยืนตัวแข็งไปแล้ว เพราะอะไรน่ะหรอก็เพราะว่าอยู่ดีๆเฮียอู๋ก็จับมือขาวๆของอี้ไปแล้ววางเงินลงน่ะสิและจนป่านนี้ก็ยังไปยอมปล่อยด้วยนะ
ผลึกกลมสีน้ำตาลเข้มจ้องมองที่ร่างสูงใหญ่ของคนตรงหน้าอย่างอึ้งใจดวงน้อยเต้นส่ำไม่เป็นจังหวะอี้กลัวเหลือเกินว่ามันจะกระเด็นออดมา ทำเฮียถึงได้ใจร้ายกับอี้แบบนี้~
“ทีหลังก็ไม่ต้องรีบจนลืมแบบนี้นะ ดีที่จำนวนเงินมันไม่มากเท่าไหร่” เฮียอู๋ปล่อยมือออกแล้วเตือนอีกคนด้วยความหวังดี จะว่าไปหมอนวดวัยขบเผาะคนนี้ก็แลมึนๆเอ๋อๆดีเหมือนกันนะ
น่ารักดี…
.
.
.
.
เดี๋ยว…
เมื่อกี๊เขาคิดในใจว่าอะไรนะ
น่ารัก…งั้นหรอ?
“เอ่อฉันไปก่อนนะ ป่านนี้คริสรอแย่แล้ว” เมื่อตั้งสติได้เฮียอู๋ก้บอกลาและเดินกลับไปที่รถมอ’ไซด์ของตัวเองแล้วขับออกไป เหลือแต่อี้ที่ยืนฟินอยู่คนเดียวตาคู่สวยก้มมองมือตัวเองที่ยังอุ่นๆจากสัมผัสของเฮียอู๋เมื่อครู่นี้อยู่
แบคคคคคค….เฮียอู๋แอบจับมืออี้อ่ะ พฮือออออ T___T
อี้ฟิน!
----------------------------------------------------
เฮโล๊วววว!!! แฟนฟิคเรื่องนี้ยังมีหลงเหลืออยู่มั้ย?
หายไปนานข้ามชาติจนรีดต้องมาทวงแล้วไรต์ชานแบคไล่บี้ต่อ-..-
ยังดีที่พาร์ทนี้เป็นของไรต์มี๊โยดา ถ้าเป็นของเรานี่รออีกปีเลย555
ไรต์ชิงชิงป่าวลืมอัพหรือขี้เกียจแต่ประการใด แค่ไม่มีมุขตลกมาแต่งก็เท่านั้นแบบไรต์ถนัดงานดราม่าTT
อ่ะๆ เข้าเรื่องๆ พาร์ทนี้จัดเต็มไปด้วยบทของอู๋อี้โดยฝีมือการแต่งของไรต์ชานแบคฮับ(ตกลงมันงานใคร?)
แบบเจเจ้ของเราแต่งให้อิเฮียเริ่มชอบนู๋อี้แล้วเว้ย เจ้าของงานอู๋อี้ฟินเลย ณ จุดๆนี้-//-
ความสัมพันธ์คู่นี้เริ่มกระดึ๊บๆมาระดับนึงละ แล้วคู่อื่นอ่ะจะยังไง อย่างนี้ต้องติดตาม
พาร์ทหน้าเป็นหน้าที่ของอิไรต์ชิงชิงคนดองงานนะคะ ซึ่งจะเน้นคู่น้องเล็กฮุนลู่มีแฝดพี่หานมาร่วมแจมเพิ่มความสนุก
ส่วนคู่หลักทั้งสองจะเอามาแจมบ้างในพาร์ทหน้า จะมากน้อยประการใดขึ้นอยู่กับคอมเม้นและการโหวต
อยากให้อู๋อี้มาร่วมแจมเม้น1 ตามด้วยข้อความ
อยากเห็นพี่ชานกะน้องแบคเม้น2 ตามด้วยข้อความ
ส่งผลโหวตมาที่ช่องคอมเม้นท้ายบทคร้าบ สวัสดี-/\-
ความคิดเห็น