ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Destiny พรหมลิขิตชักพา!?

    ลำดับตอนที่ #6 : ก็อยากรู้อ่ะ

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ย. 57


    และสุดท้ายนี้ ดิฉันนางสาวบัทม์  วิจิตรสุวรรณ หรือมีชื่อเล่นว่าบัตเตอร์ก็ทนความอยากรู้อยากเห็นไปไม่ไหวแล้วค่ะ >O<~  เพราะความอยากรู้อยากเห็นที่มากเกินควรชวนปรับปรุงของฉันทำให้ฉันมายืนด้อมๆมองๆอยู่หน้าห้องพี่ชายตัวเองเพื่อจะถามพี่เบสต์เรื่องพี่เดย์กับนิกกี้  พี่ชายฉันเป็นเพื่อนสนิทก็น่าจะรู้อะไรบ้าง แต่ไม่รู้เป็นเพราะอะไรฉันถึงได้ไม่ยอมเข้าไปเคาะประตูสักที ไอ้อยากรู้ก็อยากรู้นะ ไอ้ที่กลัวคำตอบก็กลัวอยู่  แล้วนี่ฉันเป็นบ้าอะไรเนี่ย TOT

    ยื่นอยู่หน้าประตู....ยกมือขึ้น....เตรียมเคาะ

    ฟิ้ววววว ....กลับมาหลบหลังเสาเหมือนเดิม

    ยื่นอยู่หน้าประตู....ยกมือขึ้น....เตรียมเคาะ

    ฟิ้ววววว ....กลับมาหลบหลังเสาเหมือนเดิม

    ยื่นอยู่หน้าประตู....ยกมือขึ้น....เตรียมเคาะ

    ฟิ้ววววว ....กลับมาหลบหลังเสาเหมือนเดิม

    โอ๊ยยยย  พอเถอะบัตเตอร์ ถ้าไม่กล้าก็ไม่ต้องถามหรอก ฉันเดินพาร่างกายและจิตใจที่ห่อเหี่ยวกลับเข้าห้องตัวเองอีกครั้ง หงุดหงิดอ่ะ หงุดหงิด ฉันไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะ มีเรื่องอะไรที่อยากรู้ต้องได้รู้ตลอดอ่ะ แต่พอเรื่องนี้ฉันกลับรู้สึกกลัวอะไรบางอย่างที่ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไรL  แล้วไอ้ความรู้สึกนี้มันเกิดมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะอะไรฉันก็ไม่รู้(เริ่มบ้าแล้ว)  แต่ช่างเถอะฉันว่าฉันสังเกตการณ์ไปเรื่อยๆดีกว่า เผื่ออาจจะไม่ใช่แบบที่ฉันคิดก็ได้ แต่ดูยังไงมันก็น่าจะมีซัมธิงอะไรบางอย่างอยู่หลังใบหน้าสวยๆหล่อๆนั่นก็ได้ อ๊ากกก ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว นอนๆ นอนเถอะ บัตเตอร์L(ทึ้งหัวตัวเองอย่างหงุดหงิด)

     

    ถึงฉันจะสั่งตัวเองให้นอนก็เถอะ สุดท้ายฉันก็นอนไม่หลับอยู่ดี พลิกตัวบนเตียงมาร่วมสองสามชั่วโมงแล้ว ฉันคิดนั่นคิดนี่ไปเรื่อยเปื่อยก็แล้ว นับแกะจนหมดฝูงไปหลายรอบก็แล้ว หยิบหนังสือเรียนที่เคยทำให้ง่วงแบบเห็นผลทันตามาอ่านก็แล้ว  ฉันก็ยังไม่หลับอยู่ดี จนเหลือวิธีสุดท้ายคือออกไปนั่งนับดาวอยู่ที่ระเบียงหน้าห้อง เจอลมเย็นๆสักหน่อยก็คงดี  ถึงอย่างนั้นพอออกไปไม่นานฝนก็เทลงมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ชอบขัดขวางกันจังเน้อ-*-  ไอ้ฝนบ้า ไอ้ฝนผีทะเล ฮึ่ยยยย  หงุดหงิดๆ

     

    อะไรคือการที่ตื่นเช้ามา แล้วเจอสภาพตัวเองที่ทั้งหัวยุ่งทั้งตาดำคล้ำเป็นหมีแพนด้าเชียว-*-  ดีนะที่วันนี้เป็นวันหยุดไม่งั้นพวกเพื่อนๆต้องล้อตายเลย  ด้วยความขี้เกียจแต่หิวน้ำเกินทนทำให้ฉันต้องเดินเตาะแตะเหมือนเด็กหัดเดินมาดื่มน้ำข้างล่าง

    "ว่าไง น้องพี่ทำไมเธอถึงเหมือนซอมบี้เดินได้แบบนี้นะ"

    "อย่ามาขวางได้ป่ะ  บัตเตอร์จะไปกินน้ำแล้วไปนอนต่อ" ฉันแผ่รังสีหงุดหงิดใส่พี่ชายตัวเองนิดหน่อยก่อนจะเดินผ่านเข้าไปในห้องครัว

    "แกจะนอนต่อได้ไงยัยบัทม์ พี่เดย์คนดีของแกเขามารับแกไปเตรียมงานอาสาแล้ว"

    "ห๊ะ!!  เมื่อกี้พี่เบสต์ว่าไงนะO_o"

    "ได้ยินไม่ผิดหรอก  ไอ้-เดย์-มา-รับ-แก-ไป-ทำ-งาน"

    "พี่เดย์มาO()o" ฉันตะโกนลั่นบ้านก่อนที่จะวิ่งพรวดพราดกลับห้องไปอาบน้ำแต่งตัวทันใด  ลืมสนิทไปเลยว่าวันเสาร์นี้ต้องไปเตรียมงานกับพวกพี่สายรหัสแล้วต้องไปหาเงินทุนอีก อ๊ากกก

    ฉันใช้เวลาอาบน้ำไปไม่ถึงสิบนาทีและก็วิ่งลงมาที่ห้องโถงแบบรวดเร็วกว่าแสง  มาเจอพี่เดย์ที่ตอนนี้ยืนยิ้มพิงเสารอฉันอยู่  ยิ่งเห็นแบบนี้ยิ่งรู้สึกผิดอ่ะ ฉันลืมไปเลยว่าวันนี้ต้องไปเตรียมงานแถมยังลืมว่าตัวเองบอกให้พี่เดย์มารับไปด้วยเพราะขี้เกียจขึ้นรถเมล์  มาให้พี่เดย์รอแบบนี้รู้สึกผิดอ่ะ

    "ขอโทษที่ให้รอนะคะพี่เดย์U_U"

    "ไม่เป็นไรหรอกพี่ยังไมเมื่อยเท่าไหร่น่ะ"

    "โหยยย  พี่เดย์พูดแบบนี้เอามีดมาแทงกันเลยสิ"

    ฉันเริ่มงอแงใส่พี่เดย์เล็กน้อย ก็ที่ตื่นสายเพราะมัวแต่คิดเรื่องของพี่เดย์กับนิกกี้นั่นแหละทำให้ฉันนอนไม่หลับแบบนี้

    "ล้อเล่นหรอกนะ  สำหรับบัตเตอร์ไม่ว่านานแค่ไหนพี่ก็จะรอ" พี่เดย์เดินมาหยุดที่หน้าฉันก่อนจะสบตาฉัน แววตาพี่เดย์สื่อความหมายมั่นคง จริงใจ  แถมยังยิ้มอบอุ่นมาให้ฉันด้วย

    ตึกตัก....ตึกตัก....

    หัวใจฉันเต้นแรงจนจะทะลุมานอกอกอยู่แล้วววววววววว  >//////<

    "พะ...พี่เดย์บ้า!! >O<///// "

    ระหว่างที่เดินมาพี่เดย์ก็ทำเนียนมาเดินจูงมือฉันก่อนที่จะเปิดประตูรถให้  พอมาอยู่บนรถด้วยกันแล้วฉันยิ่งเขินใหญ่เลย  โอ๊ยย ทำไมอากาศมันร้อนอย่างนี้เนี่ยพี่เดย์ไม่เปิดแอร์รึไงนะ

    "ทำไมวันนี้ตื่นสายนักล่ะ? "

    ขอบคุณที่พี่เดย์เปลี่ยนเรื่องสักที......แต่เปลี่ยนเป็นเรื่องนี้ก็ไม่โอเคนะ

    "เอ่อ....เมื่อคืน บัตเตอร์ปฏิบัติตัวเป็นติ่งที่ดีหนักไปหน่อยนะคะ"

    ....ฉันไม่ได้โกหกนะ ปฏิบัติตัวเป็นติ่งจริงๆแต่ติ่งพี่เดย์ U_U  (อย่าเอาไปบอกพี่เดย์เชียวนะ!!)

    "ติ่งน่ะได้แต่มาลืมนัดพี่แบบนี้มันน่างอนนักนะ-^-"

    "ขอโทษค่า บัตเตอร์จะไม่ทำอีกแล้ว" ฉันยกมือสองข้างขึ้นมาไหว้อย่างยอมแพ้ ก่อนจะทำหน้าน่าสงสารส่งท้าย พี่เดย์เลยหลุดขำออกมานิดหน่อย

    "จริงสิ  บัตเตอร์ยังไม่กินข้าวเช้าใช่มั้ย? "

    จริงด้วย!!  ฉันยังไม่กินข้าวนี่นา มิน่าถึงได้รู้สึกว่าเหมือนยังไม่ทำอะไรสักอย่างก่อนออกจากบ้าน เพราะพี่เดย์นั่นแหละอยู่ๆก็ไปโผล่ที่บ้านฉันแบบนั้นน่ะ พอรีบมากๆก็เลยไม่ได้กินข้าว  แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดอะไรพี่เดย์ก็เลี้ยวรถไปจอดที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งพอดี  ดูเหมือนจะเป็นร้านอาหารไทยนะ

    และทันทีที่เดินเข้าไปในร้าน  กลิ่นอาหารก็ส่งมายั่วยวนฉันจนอดไม่ได้ที่จะสูดกลิ่นแก้หิว พี่เดย์หัวเราะท่าทางฉันหน่อยๆก่อนจะหันไปสั่งอาหารกับพนักงาน  ไม่นานอาหารก็ถูกยกมาเสิร์ฟ แถมอร่อยทุกอย่างเลยอ่ะ~ ฉันรู้สึกเคลิ้มประหนึ่งขึ้นสวรรค์

    "อร่อยมั้ยบัตเตอร์? "

    "อร่อยมากเลยค่ะ~     " 

    "อร่อยก็กินเยอะๆล่ะ  นี่ปลาดุกฟูที่นี่อร่อยนะ" ไม่พูดเปล่าเสิร์ฟให้ถึงจานเลย  แล้วมันก็....อร่อยมากกก (ยังคงทำหน้าเคลิ้มต่อไป)

    หลังจากที่อิ่มจังตังค์อยู่ครบกับอาหารไทยอร่อยๆที่พี่เดย์เป็นคนเลี้ยงแล้ว  ฉันก็ได้หอบหิ้วขนมไทยมาสองสามอย่างไปฝากเพื่อน

     

    "โห~ คิดยังไงถึงซื้อขนมไทยมาฝากล่ะเนี่ยยัยบัตเตอร์" และนี่ก็เป็นคำทักทายแรกของหอมทันทีที่หันมาเห็นฉันเดินหอบหิ้วถุงขนมมาให้

    "ก็คิดว่าฉันสวยมากนะสิ J ฮ่ะๆๆ" ฉันกวนตอบก่อนจะมานั่งช่วยเพื่อนทำของไปขาย

    วันนี้พวกเรานัดกันมาทำของไปขายเพื่อเอาเงินเข้าห้องไปสมทบทุนโครงการซ่อมโรงเรียนนั้น  ของที่ทำก็เป็นพวกพวงกุญแจ  มีเสื้อยืดสกรีนลาย อะไรอีกมากมาย บลาๆๆๆ มันเยอะจนฉันเห็นแล้วท้อเลยล่ะ T^T

    "เป็นไงบ้าง?  บัตเตอร์เหนื่อยรึเปล่า? "

    "ยัยบัตเตอร์มันไม่เหนื่อยหรอกค่ะ  พึ่งมาซ้ำยังอิ่มข้าว มีบริการส่งถึงที่อีกต่างหาก"ยังไม่ทันที่ฉันจะอ้าปากตอบพี่เดย์  ยัยไพลินก็อ้าปากตอบไปก่อนแล้ว

    "แหม  อิจฉาจัง~" เสียงส่งมาจากรอบทิศทางจนฉันเริ่มจะเขิน ส่วนพี่เดย์ก็ส่งยิ้มเขินๆมาให้ฉัน  เสียงแซวยังคงส่งมาไม่หยุดจนกระทั่ง....

    "ส่งเสียงดังอะไรกันค่ะ  ทุกคน"นิกกี้ที่พึ่งมาถึงส่งเสียงมาทักทุกคนในห้อง  ทำให้เกิดเสียงดังระงมไปทั่วห้องทำนองว่า หัวหน้ามาขัดจังหวะแซวอ่ะ แล้วทั้งห้องก็กลับสู่สภาวะปกติอีกครั้ง

    "ขอบใจนะหัวหน้าที่มาเบรกพวกเพื่อนๆน่ะ" ฉันรีบเดินเข้ามาเกาะแขนประจบหัวหน้าทันใด

    "พวกนั้นแซวบัตเตอร์กับพี่เดย์หรอ  โธ่ๆ ทำไมฉันมาไม่ทันเนี่ย"

    เสียงแซวของนิกกี้ทำให้ฉันนึกถึงเรื่องเมื่อวานที่ทำให้ตัวเองนอนดึกจนพี่เดย์ได้มารอที่บ้านเลยทีเดียว  แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะถามอะไร  นิกกี้ก็เดินไปช่วยเพื่อนๆทำงานกันต่อ ทำให้ฉันต้องพับความสงสัยเก็บแล้วไปช่วยเพื่อนต่อ

    ภารกิจเตรียมของไปขายเสร็จสิ้นในตอนเย็น  พอเสร็จแล้วพวกเราก็ยกของขึ้นรถของพวกพี่ๆเพื่อที่จะเอาไปขายต่อที่ถนนคนเดิน  ฉันแอบแวบไปเข้าห้องน้ำตอนที่ยกของขึ้นรถพอออกมาก็เพบเพียงแค่ความว่างเปล่า  เฮ้ย!!  หายไปไหนกันหมดเนี่ย!!

    "บัตเตอร์  บัตเตอร์รึเปล่าน่ะ" เหมือนจะมีใครเรียกฉันนะ  พอฉันหันไปก็เจอกับนิกกี้  ฉันไม่ได้ถูกทิ้งไว้แล้วT^T

    "นิกกี้~  ฉันนึกว่าฉันถูกทั้งไว้คนเดียวแล้ว TOT"

    "โอ๋ๆนะ  ไปได้แล้วรู้มั้ยว่าพี่เดย์กิ๊กเธอน่ะ ห่วงเธอจะแย่แล้ว ดีนะเนี่ยที่ฉันเดินแวะมาดูแถวนี้"

    พอนิกกี้พูดถึงพี่เดยทำให้ฉันนึกถึงเรื่องที่ค้างคาใจมาตั้งแต่เมื่อคืน  ฉันอยากจะถามนิกกี้ให้รู้เรื่องนะ แต่ฉันกลับพูดไม่ออกซะงั้น  แต่มันค้างอ่ะ มันค้างงงง

    "เธอมีอะไรจะพูดกับฉันรึเปล่าบัตเตอร์?  เห็นอ้ำอึ้งมานานแล้ว"

    "ห๊ะ อ๊ะเปล่าๆไม่มีหรอก" จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้พูดเนอะเรา

    ฉันกับนิกกี้เดินมาถึงหน้าโรงเรียนในที่สุด และทำให้ฉันได้พบว่าเพื่อนๆไม่ได้ทิ้งฉันไปไหน เพียงแต่ว่ามารอที่หน้าโรงเรียนเท่านั้น  ฉันโดนพวกเพื่อนตัวดีต่อว่าต่อขานยกใหญ่เลยทีเดียว  จนฉันสงสัยว่าฉันมีเพื่อนหรือมีแม่กันแน่เนี่ย

    "แกรู้มั้ยพวกฉันเป็นห่วงแค่ไหนน่ะบัตเตอร์  ไปไหนมาไหนบอกกันบ้างสิ"

    "พวกฉันน่ะมันไม่เท่าไหร่หรอก  แต่พี่เดย์ของแกน่ะเป็นห่วงแกเอามากๆเลยนะ"

    ทันทีที่จบประโยคฉันก็รับรู้ถึงมืออบอุ่นที่มากุมมือฉันเอาไว้ พอหันไปก็เห็นพี่เดย์ยืนหอบน้อยๆ ทั้งส่งสายตาเป็นห่วงมาให้

    "บัตเตอร์  อย่าหายไปไหนคนเดียวอีกนะ พี่เป็นห่วงแทบแย่"

    "ขอโทษนะคะพี่เดย์  บัตเตอร์แวบไปเข้าห้องน้ำหน่อยเดียว" ฉันยิ้มแห้งๆส่งไปให้พี่เดย์ที่ตอนนี้เริ่มกลับมาหายใจเป็นปกติแล้ว

    "พี่วิ่งหาเราทั้งโรงเรียนเลย  เอาล่ะครบกันทุกคนแล้ว  ออกเดินทางได้"

    สิ้นเสียงพี่เดย์รถพวกพี่สายรหัสก็เริ่มทยอยออกรถไป  ส่วนฉันโดนพี่เดย์แยกออกมาจากพื่อนเพื่อขึ้นรถไปด้วยกัน  แต่ฉันหันไปเห็นนิกกี้กำลังละล้าละลังเพราะรถเริ่มออกกันแล้ว แต่เธอยังไม่มีรถขึ้น

    "พี่เดย์คะ  เอายัยนิกกี้ไปด้วยนะคะ" ฉันหันไปถามพี่เดย์ที่เป็นเจ้าของรถ  แต่เจ้าของรถที่ว่ากลับนิ่งซะจนฉันต้องถามซ้ำ "เอานิกกี้ไปด้วยนะคะ"

    "อะ...อือ  เอาสิ"

    ฉันรีบหันไปชวนนิกกี้ทันทีจนพอมานั่งกันในรถแล้วบรรยากาศกลับดูเงียบจนน่าแปลกใจจนทำให้ฉันไม่กล้าขยับตัว  และทำให้ฉันนึกได้ว่าพลาดอะไรลงไป ซวยแล้วบัตเตอร์.....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×