คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : (KAISOO) The Tree Nymph and His Human [I/II] ;
original story: http://eexiee.livejournal.com/19104.html
written by: eexiee
pairing: kaisoo
ที่ดินผืนใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าเป็นที่ดินผืนใหญ่ที่สุดที่จงอินเคยเจอ แต่เขาก็ไม่รู้สึกย่อท้อหรอกนะ..เขารักความรู้สึกของปุ๋ยดินที่ผ่านปลายนิ้วมือของเขาไปที่สุดเลย
แต่ยังไงแล้ว..มันก็เป็นที่ดินผืนใหญ่มากๆจริงๆนั่นแหละ จงอินหันไปมองเมล็ดพันธุ์และอุปกรณ์มากมายที่เขาเตรียมไว้ก่อนจะคุกเข่าลงกับพื้นดินและหลับตาลง อวยพรขอให้เทพีแห่งการเก็บเกี่ยวช่วยประทานพืชผลที่เจริญงอกงามตลอดปีให้เขาด้วย
“ช่วยข้าด้วยเถิด” จงอินเอ่ยเบาๆก่อนจะลืมตาขึ้นและถลกแขนเสื้อ
“เอาล่ะ..มาเริ่มกันเถอะ”
***
คยองซูอาศัยอยู่ในป่าข้างที่ดินผืนใหญ่มาตั้งแต่เขาจำความได้ แม้จะไม่ได้มีชีวิตที่ตื่นเต้นเท่าไหร่..แต่เขาก็มีเพื่อนเป็นเหล่านกกาที่มาทำรังอยู่แถวต้นไม้ของเขา
พอมีคนสวนคนนั้นย้ายเข้ามา..คยองซูก็เกิดความสงสัยใคร่รู้เป็นอย่างมาก เขาเฝ้ามองชายคนนั้นพรวนดินด้วยความคล่องแคล่ว จากตรงนี้..คยองซูได้ยินเหล่าเมล็ดพันธุ์หัวเราะคิกคักอย่างชอบใจหลังจากที่ชายคนนั้นรดน้ำให้พวกมัน พวกมันดูมีความสุขมาก
ตกกลางคืน..คยองซูก็มักจะออกไปนอนอยู่ในสวนสมุนไพรของชายคนนั้นก่อนจะคุยกับเหล่าเมล็ดพันธุ์ที่กำลังงอกเงยอย่างออกรส
“เขาหล่อมากเลยแหละ..เจ้าไม่คิดอย่างนั้นรึ?” ต้นโรสแมรี่เอ่ยขึ้น
“ข้าไม่เคยเห็นมนุษย์มาก่อนเลย..ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร?” คยองซูตอบ
“เห? เขาก็หน้าเหมือนนางไม้อย่างเจ้านั่นแหละ เจ้าไม่คิดอย่างนั้นรึ?” ต้นกระเพราเสริม
“ข้าไม่เคยเห็นนางไม้ที่ไหนมีผิวสีคล้ำเฉกเช่นเขา และใบหน้าของเขาก็แตกต่างจากข้า” คยองซูเอ่ยอีก
“เขาไม่ได้คล้ำเสียหน่อย..ก็แค่ผิวสีน้ำผึ้งน่ะ เจ้าไม่คิดอย่างนั้นรึ?” ต้นผักชีแย้ง
“คงอย่างนั้นกระมัง”
“คยองซู..นี่ก็ใกล้ฟ้าสางแล้ว เจ้าควรกลับเข้าป่าไปได้แล้วนะ เจ้าไม่คิดอย่างนั้นรึ?” ต้นออริกาโนเอ่ยเตือน
คยองซูแหงนหน้ามองท้องฟ้าก่อนจะเห็นว่าพระอาทิตย์กำลังจะขึ้นเสียแล้ว..
“อื้อ งั้นข้าไปก่อนนะ เดี๋ยวคืนพรุ่งนี้ข้าจะกลับมาใหม่!” คยองซูเอ่ยอย่างร่าเริงก่อนจะวิ่งหายเข้าป่าไป
เหล่าต้นสมุนไพรทั้งหลายต่างก็โบกมือลา
***
จงอินได้ตัดสินใจเข้าเมืองเพื่อซื้อขนมปังกับปุ๋ยหมัก เขาไม่คาดคิดเลยว่าจะได้เจอกับหมอดูชื่อดัง
“อ้อ เจ้านี่เอง เจ้าเป็นชาวสวนอยู่ชานเมืองที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ ใช่หรือไม่?” ชายคนหนึ่งถามในขณะที่จงอินกำลังยืนเลือกซื้อขนมปัง จงอินหันไปมองต้นเสียงก่อนจะเห็นว่าชายคนนี้มีรูปร่างสูงและดวงตาที่ลึกลับ ริมฝีปากหยักยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม
“ใช่แล้ว ข้าคือจงอินแห่งแคว้นชลภูผา” จงอินตอบ
“ข้าคือจื่อเทาแห่งแคว้นอัคนีดอน” ชายคนนั้นตอบ
“ข้าเป็นหมอดูอยู่ที่นี่ เจ้าเคยได้ยินเรื่องในป่าหรือไม่?”
“เอ่อ..เกรงว่าจะไม่” จงอินตอบอย่างลังเล
“เขาว่ากันมาว่ามีนางไม้อาศัยอยู่ในป่า นางไม้นางนี้มีความงามเกินกว่ามนุษย์คนใดที่เจ้าเคยเห็น” จื่อเทายื่นหน้าเข้าไปเล่าเรื่องให้จงอินฟังด้วยท่าทางลับๆล่อๆ
ทันใดนั้นก็มีคนแปลกหน้าอีกคนหนึ่งโผล่ออกมาหลังจื่อเทา..คนแปลกหน้าคนนั้นเลิกคิ้วขึ้นอย่างขำขัน
“นางไม้ทำเงินดีนะ ถ้าเจ้าตัดลิ้นของนางออกมา เจ้าสามารถนำลิ้นของนางไปใช้ปรุงยาแก้โรคทุกชนิด เป็นอะไรที่หายากและเลอค่ามาก” คนแปลกหน้าคนนั้นกล่าว
จงอินได้แต่มองคนแปลกหน้าคนนี้ด้วยสายตาไม่ไว้ใจ
“เฉิน!” จื่อเทาขึ้นเสียงด้วยความตกใจ
“เจ้าทำร้ายนางไม้ไม่ได้นะ เจ้ารู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเจ้าทำร้ายนางไม้?”
“รู้สิ..แผ่นดินจะแตกแห้ง และพืชผลจะไม่เจริญเติบโตเป็นเวลาสามสิบปี ข้าได้ยินมาว่ามันเคยเกิดขึ้นกับแคว้นวายุหุบเขาเมื่อร้อยปีที่แล้ว อ้อลืมแนะนำตัวไป..ข้าคือเฉินแห่งแคว้นอัคคีดอนนะ” เฉินเอ่ยก่อนจะยื่นมือให้จงอินจับ
“ใช่แล้ว..มันเคยเกิดขึ้น นั่นเป็นสาเหตุที่แคว้นวายุหุบเขามีผู้อยู่อาศัยน้อยเหลือเกิน” จื่อเทาพูดกับเฉินอย่างจริงจังก่อนจะหันไปมองจงอิน
“สิ่งที่ดีที่สุดที่เจ้าจะทำได้..คือเอาหัวใจของนางมาให้ได้ ไม่ใช่ควักหัวใจนางออกมานะ..ข้าหมายถึงทำให้นางรักเจ้าอย่างสุดหัวใจ เพียงเท่านั้น..หัวใจของนางก็จะเป็นของเจ้า”
“แล้วหลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นหรือ?” จงอินถามอย่างสนใจ
“ที่ดินของเจ้าจะเจริญเติบโตและงอกงามไม่หยุด ไม่ว่าอากาศจะแห้งหรือปีนั้นจะแล้งแค่ไหน..ที่ดินของเจ้าก็จะงอกงามต่อไป เอ้อ..ข้าลืมไป ปีนี้ข้าได้ทำนายว่าจะมีภัยแล้งเกิดขึ้นนี่นา..” จื่อเทาเอ่ย
“ใช่แล้ว..แต่ข้าทำงานเกี่ยวกับการเงิน ข้าไม่สนเรื่องภัยแล้งหรอก” เฉินยักไหล่
“ข้าก็แค่ทำนายเฉยๆ ข้าไม่ได้ทำนายเพื่อเจ้านะเฉิน แล้วอีกอย่าง-” จื่อเทาตวัดเสียงอย่างหงุดหงิด
“ขอโทษนะ..แต่ข้าคงต้องขอตัวก่อน” จงอินเอ่ย
จื่อเทาและเฉินต่างก็พยักหน้าก่อนจะโบกมือลาเพื่อนใหม่
“เดินทางกลับอย่างปลอดภัยนะ” จื่อเทาเอ่ยลา
***
“เขากำลังคิดถึงเจ้าอยู่ล่ะ” ต้นกล้วยไม้เอ่ยกับคยองซูด้วยน้ำเสียงเพ้อฝัน
“อะไรนะ?” คยองซูยืดตัวขึ้นมานั่งทันที
“อื้อ..เขาหวังที่จะเจอเจ้าล่ะ” เจ้ากล้วยไม้เอ่ยต่อ
คยองซูขมริมฝีปากล่างอย่างเป็นกังวล
“..แต่ข้าไม่ควรเสวนากับมนุษย์” คยองซูเอ่ยเสียงเบา เจ้ากล้วยไม้ถอนหายใจเสียงดัง
“ก็จริง...เขาอาจจะรู้เรื่องลิ้นของเจ้าก็เป็นได้นะ” เจ้ากล้วยไม้เสริม
คยองซูกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก..เพราะเหตุการณ์นั้นเคยเกิดกับคุณทวดของเขาที่แคว้นวายุหุบเขาเมื่อร้อยปีที่แล้ว
“แต่เขารู้เรื่องคำสาปใช่หรือไม่? ใครจะคิดสั้นตัดลิ้นข้าไปขายเพื่อแลกกับภัยแล้งสามสิบปีกันเล่า?” คยองซูเอ่ยอย่างตื่นกลัว
“ก็ใครบางคนที่ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นอย่างไงเล่า ใครบางคนที่ครอบครองหัวใจของเจ้า” เจ้ากล้วยไม้เถียง
“งั้นข้าจะไม่ให้หัวใจข้ากับเขา ถึงข้าจะพบเขาก็เถอะ”
“หัวใจของเจ้ามันเลือกเจ้าของด้วยตัวมันเอง เจ้าควบคุมไม่ได้หรอกนะ” เจ้าดอกกุหลาบแย้งขึ้นในขณะที่เจ้ากล้วยไม้พยักหน้ารับ
“ระวังตัวหน่อยนะคยองซู เพราะถ้าเจ้าสูญเสียหัวใจของเจ้าไป..เจ้าจะสูญเสียทุกอย่าง” เจ้ากล้วยไม้เอ่ยเตือน
***
ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน จงอินก็ตัดสินใจว่าเขาจะต้องเจอหมอดูคนนั้นอีกให้ได้..เขาไม่สามารถลบเรื่องนางไม้ออกไปจากห้วงความคิดได้เลย ทั้งเรื่องความงามที่เกินมนุษย์และพื้นดินที่เจริญงอกงาม จงอินยอมรับว่าเขาก็เป็นคนที่มีกิเลสคนหนึ่ง และเขาก็อยากได้สิ่งเหล่านั้นมาไว้ครอบครอง
เขาเจอตึกที่จื่อเทาอาศัยอยู่ได้ไม่ยาก มันเป็นตึกเดียวในละแวกนั้นที่มีหน้าต่างสีม่วง..
จื่อเทาเปิดประตูก่อนจะยิ้มให้จงอินทันทีหลังจากจงอินเคาะไปเพียงสองครั้ง
“เข้ามาสิ! เฉินกับแบคฮยอนอยู่ด้วยนะ หวังว่าเจ้าจะไม่ถือ ข้าได้ชงชาเอาไว้ให้เจ้าแล้ว แบบที่เจ้าโปรดเลยล่ะ!”
“เดี๋ยวนะ..เจ้า-”
“ข้าเป็นหมอดูนะจงอิน ข้ารู้ข้าเห็นทุกอย่างเพราะฉะนั้นไปนั่งเถอะ เดี๋ยวข้าเอาน้ำชากับขนมไปเสิร์ฟ”
จงอินเดินไปนั่งข้างๆเฉินในขณะที่จื่อเทาเดินเข้าไปในอีกห้องหนึ่ง เฉินส่งยิ้มมาให้ก่อนจะจิบชาน้อยๆ
“จื่อเทาบอกว่าเจ้ามาหาเรื่องนางไม้อย่างนั้นเหรอ? เจ้าเจอนางหรือยัง?” เฉินถาม
“นางไม้อย่างนั้นเหรอ? ข้าได้ยินว่าลิ้นของ-” แบคฮยอนเอ่ย
“ข้าเล่าเรื่องลิ้นไปแล้ว อ้อใช่..นี่คือแบคฮยอนแห่งแคว้นธุลีราบ เขาและน้องชายของเขาที่ชื่อชานยอลเดินทางมาที่นี่เพื่อทำธุรกิจค้าขาย พวกเขาจะมาเยี่ยมที่นี่ทุกๆเดือน แบคฮยอน..นี่คือจงอินแห่งแคว้นชลภูผา เขาเป็นชาวสวนอยู่แถบชานเมือง”
“เจ้ารู้จักเฉินกับจื่อเทาได้อย่างไรรึ?” แบคฮยอนถาม
“ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน” เฉินหัวเราะเสียงใสทันทีที่จงอินตอบออกไปแบบนั้น จื่อเทาเองก็เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมชาและขนมของจงอิน
“เอาล่ะ..เรื่องนางไม้ เจ้าอยากรู้อะไรล่ะ?” จื่อเทาเดินมานั่งก่อนจะถามเสียงนุ่ม
“ข้าจะหานางเจอได้อย่างไร? ที่ไหน? เมื่อใด?”
จื่อเทากรอกตามองเพดานอย่างใช้ความคิด
“เขาว่ากันว่านางไม้จะมาเริงร่าอยู่ในสวนยามราตรี เพราะฉะนั้นเจ้าอาจจะต้องอดนอนสักคืน หรือไม่ก็หาต้นไม้ที่นางอาศัยอยู่ให้เจอ”
“แต่ข้าไม่เคยเข้าไปในป่ามาก่อน ข้าคงหาไม่เจอแน่” จงอินเอ่ย
“งั้นเจ้าก็แอบซุ่มอยู่ในสวนของเจ้าตอนกลางคืนสิ ถ้าเจ้าสนใจขนาดนั้น” จื่อเทาแนะนำ
จงอินสนใจขนาดนั้น..
***
คยองซูชอบมองชาวสวนคนนั้นทำงาน หลังจากใช้เวลาทั้งวันกับการตากแดด..ผิวสีน้ำผึ้งของชายคนนั้นกลับยิ่งดูสวยงามขึ้นไปอีก และสีผมของชายคนนั้นก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอำพันเพราะแดดด้วยเช่นกัน วิธีที่ชายคนนั้นดูแลเหล่าพืชผักและดอกไม้เองก็ดึงดูดคยองซูได้ไม่น้อย ชายคนนั้นดูมุ่งมั่นและรักในสิ่งที่ทำและนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้คยองซูหยุดเฝ้ามองไม่ได้
แต่ยังไงคยองซูก็ระมัดระวังตัวเสมอ...เขาไม่อยากโดนขโมยหัวใจหรือตัดลิ้นไปหรอกนะ
คืนนั้น..คยองซูนั่งข้างเจ้ากล้วยไม้ก่อนจะทำหน้าลำบากใจ เจ้ากล้วยไม้ที่เห็นดังนั้นได้แต่หัวเราะเบาๆ
“มีอะไรรึ คยองซู?” เจ้ากล้วยไม้เอ่ยถามในที่สุด
“เขายังคิดถึงข้าอยู่หรือไม่?” คยองซูถาม
เจ้ากล้วยไม้ชะงักค้าง
“ข้า..ข..ข้าคิดว่าอย่างนั้นนะ” เจ้ากล้วยไม้ตอบตะกุกตะกักและนั่นทำให้คยองซูรู้ว่าต้องมีบางอย่างผิดปกติแน่
ร่างเล็กหันหลังขวับก่อนจะเห็นชาวสวนคนนั้นยืนมองเขาอยู่ด้วยความสนใจ ดวงตาเรียวกวาดมองทั่วร่างอันเปลือยเปล่าของเขา
คยองซูได้แต่ร้องออกมาด้วยความตกใจ
***
จงอินรู้ในทันทีว่าคนๆนี้คือนางไม้ไม่ผิดแน่ แต่ที่จงอินไม่คาดคิด..คือนางไม้นางนี้เป็นผู้ชาย
นางไม้นางนี้อยู่ในสภาพร่างกายเปลือยเปล่า มีผมสีดำขลับ ดวงตาสีนิล และริมฝีปากสีแดงสดที่ตัดกับผิวขาวๆได้เป็นอย่างดี และนางไม้นางนี้...กำลังนั่งอยู่ในสวนกล้วยไม้ของจงอิน
ความงามเกินมนุษย์ที่จื่อเทาบอกไม่เพียงพอที่จะอธิบายความงามของสิ่งมีชีวิตตรงหน้าเขาได้ด้วยซ้ำ..ร่างเล็กตรงหน้างดงามกว่านั้นเยอะ
ร่างเล็กหันมามองจงอินด้วยใบหน้าตกใจก่อนจะลุกขึ้นยืนเตรียมจะวิ่งหนีหายเข้าไปในป่า
“เดี๋ยวก่อน” จงอินเอ่ยรั้งเสียงแผ่ว
“...”
“ข้าสัญญาว่าข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า” จงอินแบมือทั้งสองข้างออกก่อนจะยื่นออกไป
“เห็นไหม? ข้าไม่ได้พกอะไรมากเลย ข้าไม่ทำร้ายเจ้าหรอก”
ร่างเล็กชะงักก่อนจะมองจงอินด้วยสายตาไม่ไว้ใจ
“ข้าชื่อจงอินนะ ข้าอาศัยอยู่ที่นี่” จงอินเอ่ยต่อ
“ข้ารู้..ข้าเฝ้าดูเจ้าอยู่” ร่างเล็กเอ่ยตอบในที่สุด..และจงอินคิดว่ามันช่างเป็นน้ำเสียงที่ไพเราะเหลือเกิน
จงอินได้แต่เคลิบเคลิ้มไปกับน้ำเสียงหวานจนไม่สามารถเอ่ยตอบอะไรออกไปได้
“ข้าเองก็มีชื่อเหมือนกัน..ชื่อมนุษย์เหมือนๆกับเจ้า” ร่างเล็กเอ่ยกึ่งโอ้อวด
“ชื่ออะไรหรือ?” จงอินถาม
“คยองซู” ร่างเล็กเอ่ยด้วยความภาคภูมิใจ
“เจ้าตั้งชื่อนี้ให้ตัวเองหรือ? ช่างเป็นชื่อที่งดงามยิ่งนัก” จงอินเอ่ยชมอย่างจริงใจ
คยองซูเบิกตากว้างอย่างตกใจก่อนจะก้าวถอยหลังช้าๆ
“ข..ข้า..ข้าต้องไปแล้ว” คยองซูเอ่ยเสียงเบา
“ใช่ไหม?” ก่อนจะหันไปตามเจ้ากล้วยไม้
ร่างเล็กช้อนตาขึ้นมามองจงอินเป็นครั้งสุดท้ายด้วยแววตาหวาดกลัวก่อนจะวิ่งหายเข้าไปในป่าทันที
“...เขาหวาดกลัวข้าสินะ” จงอินพึมพำกับตัวเองเบาๆ
***
“มันเป็นเพียงคำชมน่ะ เขามีเจตนาดีนะ..” สตอเบอร์รี่ป่าที่เติบโตอยู่ใกล้ๆกับต้นไม้ของคยองซูเอ่ยขึ้น
“เขาพยายามจะขโมยหัวใจของข้า! ข้าไม่อยากโดนตัดลิ้นนะ” คยองซูบ่นงุ้งงิ้ง
“คยองซู..เจ้าเป็นคนบอกพวกเราเองว่าคนๆนี้ดูแลต้นไม้และพืชผลดีขนาดไหน เขารักธรรมชาติและผืนดิน เจ้าเองก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ เขาอาจจะรักเจ้าก็ได้นะ” ต้นเบิร์ชอธิบายอย่างอ่อนโยน
“ไม่ ข้าแตกต่าง เขาอาจจะรักข้าแต่ก็ต้องการลิ้นของข้าด้วยเช่นกัน ข้าไม่มีวันไว้ใจเขาได้หรอก!” คยองซูเอ่ยก่อนจะตีแขนไปมาในบ่อบัว เจ้าดอกบัวทั้งหลายต่างก็พยายามจะหยอกล้อกับเขาเวลาเขาว่ายผ่าน
“คยองซู..ถึงเจ้าจะพูดแบบนั้น แต่เจ้าก็สนใจในตัวเขาใช่หรือไม่? เจ้าอยากรู้จักเขา” ต้นเบิร์ชเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“ม..ไม่! ไม่นะ..ข้าก็แค่..สงสัยก็แค่นั้น” คยองซูยู่หน้าก่อนจะสาดน้ำใส่ต้นเบิร์ชอย่างจงใจ
เจ้าพวกสตอเบอร์รี่ป่าทั้งหลายต่างก็เริ่มหัวเราะคิกคัก คยองซูจึงหันไปส่งสายตาปรามพวกมันด้วยความไม่พอใจ
“อั้ยยย คยองซูหลงรักมนุษย์ คยองซูหลงรักมนุษย์!” พวกมันล้อ
“ถ้าเจ้าไม่หยุดพูด..ข้าจะเด็ดเจ้าออกมาจากก้านก่อนจะกินเจ้าซะ” คยองซูขู่แต่พวกมันก็ไม่ฟัง แหงล่ะ..คยองซูไม่มีวันทำร้ายเหล่าผองเพื่อนของตัวเองได้หรอก
“ข้าควรทำอย่างไรดี?” คยองซูถอนหายใจเสียงดัง
“เจ้าก็สามารถผูกมิตรกับมนุษย์ได้โดยที่ไม่สูญเสียหัวใจนี่ เจ้าแค่ห้ามตกหลุมรัก” ต้นเบิร์ชกล่าว
“อื้อ..นั่นล่ะ ปัญหาใหญ่เลย” คยองซูถอนหายใจอีกครั้ง
...To be continued...
เม้นน้อยมาก ไรท์หมดกำลังใจอัพ
หมดเรื่องนี้อาจจะไม่ลงแล้ว :(
#คลังฟิคดด
ความคิดเห็น