คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4
บทที่ 4
ปัณรสวุ่นวายกับการเตรียมเอกสารสมัครงานตามข้อมูลที่ได้มาจากอินทิรา และมีบางส่วนที่หญิงสาวจะต้องอีเมล์ขอจากพี่ชายที่เมืองไทย หลายวันมานี้เธอมัวแต่ยุ่งกับเรื่องการเรียนและการหางานทำจนลืมส่งอีเมล์ไปหาพี่ชายอย่างที่เธอทำเป็นประจำทุกวัน จนเมื่อเปิดเช็คเมล์เธอจึงพบว่ามีอีเมล์หลายฉบับจากพี่ชายของเธอ
‘รสเป็นยังไงบ้าง สบายดีรึป่าว หางานทำได้รึยัง’
‘รสคงยุ่งเนอะ เรียนหนักมั้ย ที่นู่นหนาวรึป่าว’
‘รสเนอะไรรึป่าว ทำไมไม่ตอบเมล์พี่เลย พี่เป็นห่วงนะ’
‘รส แม่ไม่โกรธแล้วนะ บ่นว่าคิดถึงรสด้วย แต่รสเป็นอะไรรึป่าว ตอบพี่หน่อยว่าเรียนหนักหรือไม่สบาย แม่กับพี่เป็นห่วง’
หญิงสาวอ่านอีเมล์ของพี่ชายทั้ง 4 ฉบับแล้วรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว เพราะคิดได้ว่าเธอคงปล่อยให้พี่ขายและแม่เป็นห่วงมามากแล้ว
‘ขอโทษด้วยค่ะพี่ภัทรี่รสไม่ได้ตอบเมล์ รสสบายบายดีค่ะ เพียงแต่ช่วงนี้ยุ่งเรื่องเรียนแล้วก็เรื่องหางานหน่ะค่ะ เลยลืมตอบเมล์พี่ภัทรไปเลย แม่หายโกรธรสแล้วจริง ๆ เหรอค้ะ รสจะได้โทรหาแม่ได้ ไม่ต้องห่วงรสนะค้ะ พี่ภัทรช่วยส่งทรานสคริปต์ของป.ตรีในรสหน่อยนะค้ะ พอดีรสลืมเอามาด้วย รสจะไปสมัครงานพรุ่งนี้ค่ะ รักและคิดถึงแม่กับพี่ภัทรมากนะค้ะ’
‘โอเคเลย เดี๋ยวพี่จัดการให้ภายในวันนี้นะ’ หลังจากเธอส่งอีเมล์ไปไม่ถึง 10 นาทีพี่ชายของเธอก็ตอบกับมา แสดงว่าพี่ชายของเธอนั่งรออีเมล์ของเธออยู่นานแล้ว ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งรู้สึกผิด
“คนขับรถกิตติมศักดิ์มารอรับแล้วครับผม” เมื่อปัณรสเดินออกมาพร้อมกับวิภาดาเพื่อจะไปเรียนเธอก็ต้องแปลกใจมากเมื่อพบว่าคัง โซฮอนจอดรถรอเธอยู่ที่หน้าสถานทูตแล้ว
“คุณมาได้ไงค้ะ” ปัณรสถามด้วยความแปลกใจ
“นี่คุณลืมไปแล้วจริง ๆ เหรอเนี่ย ว้า !! แย่จัง คุณนี่ขี้ลืมจริง ๆ เลย เมื่อวานผมตกลงอะไรกับคุณไว้ครับ” ชายหนุ่มเตือนความจำให้เธอ
“อ้อ !!! เรื่องคนขับรถ 1 อาทิตย์ นี่คุณจะทำจริง ๆ เหรอเนี่ย”
“ผมบอกคุณแล้วไง ว่าผมลูกผู้ชาย พูดคำไหนคำนั้น”
“ใครเหรอรส” วิภาดาถามพร้อมกับมองชายหนุ่มไม่วางตาด้วยท่าทางระมัดระวัง
“นี่คุณคัง โซฮอน เป็น เอ่อ เพื่อนที่ฉันรู้จักที่นี่จ่ะ ส่วนนี่วิภาดาเพื่อนที่พักอยู่กับฉันค่ะคุณโซฮอน” ปัณรสจัดการแนะนำให้ทั้งสองคนรู้จักกันเสร็จสรรพ
“ขึ้นรถกันเถอะครับสาว ๆ ถ้าช้ากว่านี้เดี๋ยวไปเรียนสายผมไม่รู้ด้วยนะ” ชายหนุ่มเตือนยิ้ม ๆ สังเกตเห็นท่าทางไม่ไว้ใจของหญิงสาวที่ชื่อวิภาดา แต่เขาไม่ได้ใส่ใจเพราะคนที่เขาใส่ใจมีเพียงคนเดียว
“เลิกเรียนกี่โมงครับ เดี๋ยวผมมารับ” คัง โซฮอนถามปัณรสหลังจากที่มาส่งเธอถึงมหาวิทยาลัยแล้ว
“คือว่าคุณไม่ต้องมารับก็ได้นะค้ะ ฉันคิดว่ามันรบกวนคุณเกินไป” หญิงสาวตอบอย่างเกรงใจ
“ไม่รบกวนหรอกครับ ผมเต็มใจ” ชายหนุ่มตอบพร้อมแสดงความรู้สึกทั้งหมดผ่านสายตาอย่างชัดเจน
“โอ โอเคค่ะ ไม่รบกวนก็ไม่รบกวน วันนี้ฉันเลิกเรียนตอนบ่ายสามค่ะ ฉันไปเรียนก่อนนะค้ะ” ปัณรสรับรู้ได้ถึงประกายวาบหวามในสายตาคู่นั้น เธอจึงต้องรีบหลีกเลี่ยงเสียก่อนที่เธอจะแสดงอาการออกไปมากกว่านี้
“ฉันว่าผู้ชายคนนั้นไม่ค่อยน่าไว้ใจนะรส เธอไปรู้จักเขาได้ยังไงหน่ะ” ตอนช่วงพักกลางวันระหว่างที่นั่งทานข้าวกันวิภาดารีบเปิดประเด็นและซักถามปัณรสในทันที
“เหตุบังเอิญหน่ะวิ เรื่องมันยาวมากๆๆๆ เธออย่าไปสนใจเลยนะ” ปัณรสลากเสียงยาวและพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย
“แต่ฉันว่ามันยังไง ๆ อยู่นะรส อยู่ดี ๆ เขาจะมาขอขับรถไปรับไปส่งทำไม” วิภาดายังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ
“มันเป็นข้อตกลงที่รสกับเขาตกลงกันไว้หน่ะ ไม่มีอะไรหรอกวิ เดี๋ยวรสไปเรียนก่อนนะวิ” ปัณรสตัดบทและแยกตัวออกจากวงสนทนาทันที เธอเข้าใจว่าวิภาดาเป็นห่วงเธอ แต่เธอคิดว่าสามารถดูแลตัวเองได้ และไม่ค่อยชอบให้ใครมาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเธอมากนัก
………………………………………………………………………………………………………………………………………
“แวะทานอะไรกันก่อนมั้ยครับ แล้วค่อยกลับ มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง” คัง โซฮอนถามหลังจากที่ปํนรสและวิภาดาขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มเพียงแค่ต้องการจะยืดเวลาที่ได้มองปัณรสไปให้นานขึ้นแค่นั้นเอง
“ไม่หล่ะค่ะ เกรงใจ” เสียงตอบนี้ไม่ใช่เสียงของปัณรสแต่กลับเป็เสียงของวิภาดาที่ตอบอย่างห้าวห้วน จนปัณรสเองอดแปลกใจในท่าทีของเพื่อนสนิทอยู่ไม่น้อย
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวรสจะต้องกลับไปเตรียมเอกสารสมัครงานต่อหน่ะค่ะ” ปัณรสหาทางออกให้สถานการณ์ไม่ปกติได้อย่างรวดเร็ว
“คุณรสจะไปสมัครงานแล้วเหรอครับ” ชายหนุ่มถามไปอย่างนั้นทั้งที่ความจริงเขารู้ดีที่สุด
“ค่ะ พอดีมีบริษัทเสนองานเข้ามาที่สถานทูต ค่อนข้างตรงกับสายงานของรส รสเลยจะลองไปสมัครดูค่ะ พรุ่งนี้ไม่ต้องมารับนะค้ะ เพราะรสจะไปสมัครงานค่ะ”
“ตามสัญญาครับ คุณจะไปกี่โมงเดี๋ยวผมมารับ” ชายหนุ่มตอบพร้อมลอบสังเกตท่าทีไม่พอใจของวิภาดา
“พรุ่งนี้วิมีเรียน ไปเป็นเพื่อนรสไม่ได้ด้วย ยังไงรสไปกับคุณนนท์ดีกว่ามั้ย” เมื่อเอาตัวเองไปด้วยไม่ได้ วิภาดาจึงเสนอชื่อบุคคลที่สามเข้ามาแทน
“ไม่ดีกว่าจ่ะ คุณโซฮอนค้ะ พรุ่งนี้สิบเอ็ดโมงครึ่งมารับฉันนะค้ะ จะได้แวะทานข้าวกันก่อนไป” ปัณรสปฏิเสธเพื่อนตัวเล็กของเธออย่างรวดเร็ว ด้วยรู้ดีว่าถ้าจะให้เธอไปกับคุณานนท์เธอยอมไปกับชายหนุ่มที่อยู่ด้วยตอนนี้ดีกว่า เธอรู้สึกปลอดภัยกว่ากันเยอะ
“โอเคครับ” ชายหนุ่มรับคำพร้อมกับอมยิ้มอย่างสมใจ แค่นี้แหละที่เขาต้องการ
เมื่อกลับมาถึงที่พักปัณรสก็วุ่นวายอยู่กับการเตรียมเอกสารสำหรับการสัมภาษณ์งาน เธอเช็คอีเมล์จากพี่ชายที่ส่งเอกสารมาพร้อมกับข่าวดีว่า แม่ไม่โกรธเธอแล้วจริง ๆ ความจริงปัณรสเองแปลกใจอยู่ไม่น้อย เพราะก่อนเธอจะมาแม่ของเธอโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ไม่ยอมแม้แต่จะคุยกับเธอ แต่ตอนนี้กับเวลาที่เพิ่งผ่านไปแค่เดือนเดียวพี่ชายของเธอกลับบอกว่าแม่ไม่โกรธแล้ว แถมคิดถึงเธอมาก ๆ ด้วย ปกติแล้วแม่ของเธอเป็นคนใจแข็งมาก ๆ เคยงอนกับเธอเป็นปีก็เคย แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีก็แล้วกัน เธอจะได้หาโอกาสโทรกลับบ้านไปคุยกับแม่ให้หายคิดถึง
อย่าว่าแต่ปัณรสเลยที่แปลกใจกับความเปลี่ยนแปลงของจรัสพรแม่ของเธอ แม้แต่ตัวร้อยโทณัฐภัทรเองก็แปลกใจอยู่ไม่น้อย ในตอนแรกเขานึกว่าแม่จะหายโกรธเพราะความโศกเศร้าที่คิดถึงน้องสาว แต่ที่ไหนได้แม่ของเขาก็ยังมีความสุขดี ไม่มีท่าทีเศร้าโศกให้ได้เห็นเลยซักนิด (ขอย้ำว่าไม่มีแม้แต่น้อย) แถมตอนเดินมาบอกว่าไม่โกรธแล้วยังมีท่าทางดีใจแบบแปลก ๆ อีก แต่ตัวเขาเองก็ไม่อยากจะถามมาก ยังไงก็คิดซะว่าถือเป็นเรื่องดีที่ไม่มีเรื่องทะเลาะกันในครอบครัวไปก็แล้วกัน
“น้องรสจะไปสัมภาษณ์แล้วเหรอจ๊ะ ขอให้โชคดีนะจ๊ะ” เสียงของอินทิราทักทายเมื่อปัณรสกำลังจะเดินออกจากสถานทูต
“ขอบคุณมากค่ะพี่อิน” ปัณรสตอบกลับยิ้ม ๆ แล้วกำลังจะเดินออกไป
“คุณรสกำลังจะไปสัมภาษณ์งานเหรอครับ” ก่อนที่หญิงสาวจะเดินออกไปคุณานนท์ก็ดึงข้อมือเธอไว้เสียก่อนพร้อมกับเอ่ยถาม
“ค่ะ รสกำลังจะไปสัมภาษณ์งาน” หญิงสาวบอกอย่างเรียบเรื่อย พร้อมกับดึงข้อมือของตัวเองออกอย่างนุ่มนวล
“นี่มันยังไม่ถึงเวลานัด ถ้ายังไงผมขอไปส่งแล้วเราแวะทานข้าวกันก่อนได้มั้ยครับ” ชายหนุ่มส่งสายตาขอโอกาสจากเธอ
“ขอโทษด้วยค่ะ พอดีรสนัดเพื่อนไว้แล้ว แล้วเพื่อนรสก็รออยู่ด้านหน้าแล้วด้วย เอาไว้โอกาสหน้านะค้ะ” ปัณรสปฎิเสธอย่างมีมารยาทและหมุนตัวเดินออกจากจุดนั้นทันที
คุณานนท์รู้สึกเสียใจที่เขารีบร้อนกับเธอมากไปจนทำให้เธอตีตัวออกห่างจากเขามากขนาดนี้ ยิ่งเห็นหญิงสาวเดินไปขึ้นรถของชายหนุ่มอีกคนที่เขาจำได้ว่าเคยมาส่งเธอในคืนนั้นเขาก็รู้สึกปวดหนึบ ๆ ตรงหน้าอกข้างซ้าย ช่วงเวลา 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาเขาวุ่นวายกับงานภายในสถานทูต จึงไม่มีเวลามาเห็นหน้าของปัณรสเลย อย่างดีก็ได้เพียงแต่ส่งข้อความให้เท่านั้น ซึ่งเขาไม่เคยได้รับข้อความตอบกลับ เขาคิดถึงเธอเหลือเกิน เขาเพิ่งรู้ตัวตอนนี้เองว่า ปัณรสมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของเขามากมายขนาดไหน ในเมื่อเขาเองที่เป็นคนทำผิดพลาด เขาก็จะต้องทำทุกทางเพื่อแก้ไขความผิดพลาดนี้ และเอาชนะใจเธอให้ได้
“รอนานมั้ยค้ะ” ปัณรสเอ่ยถามเมื่อเห็นว่ารถของคัง โซฮอนจอดรอเธออยู่แล้ว
“ไม่นานครับ ผมเพิ่งมาก่อนคุณรสออกมานิดเดียว”
“งั้นเราไปทานข้าวกันก่อนนะค้ะ รสอยากตอบแทนคุณบ้าง”
“ได้เลยครับ อยากไปที่ไหนผมก็จัดให้ครับ”
.......................................................................................................................................................................................
หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงเรียบร้อย คัง โซฮอนก็พาปัณรสมาทันเวลานัดสัมภาษณ์พอดี ทันทีที่ชายหนุ่มจอดรถหน้าเค กรุ๊ป หญิงสาวก็เอ่ยขอบคุณและรีบวิ่งลงจากรถทันที หากเธอไม่ได้รับร้อนขนาดนี้คงทันได้เห็นท่าทางของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและพนักงานอื่น ๆ ภายในบริษัทแล้วว่ามีท่าทีนอบน้อมต่อชายหนุ่มผู้มีหน้าที่เป็นพลขับให้เธอขนาดไหน
“ฉัน ปัณรสจากสถานฑูตไทยค่ะ” หญิงสาวแนะนำตัวอย่างรีบร้อน
“เชิญด้านในเลยค่ะ คุณจอง มินคยูรออยู่ด้านในแล้วค่ะ”
ปัณรสเดินเข้ามาภายในห้องอย่างระมัดระวัง บรรยากาศภายในห้องเงียบและเย็นจัด จนทำให้หญิงสาวรู้สึกเกร็งขึ้นมาในทันที ตรงหน้าเธอคือโต๊ะทำงานมีป้ายชื่อวางไว้ บนป้ายนั้นเป็นตัวอักษรภาษาเกาหลี ยังดีที่เธอเรียนรู้มันมาบ้างแล้วจึงพอจะอ่านชื่อคนบนนั้นออก ‘คัง มินคยู รองผู้อำนวยการ’
“สวัสดีครับ เชิญนั่งก่อน” เสียงทุ้มกล่าวขึ้นท่ามกลางความเงียบ แม้หญิงสาวจะแน่ใจว่าเธอมีสติค่อนข้างดีเลิศก็ยังเผลอสะดุ้งเล็กน้อย เสียงทุ้มนั้นไม่ได้ฟังดูดุดันแต่ก็น่าเกรงขามแถมแฝงแววขี้เล่นไว้เล็กน้อยด้วย และเมื่อเก้าอี้ตัวใหญ่นั้นหมุนกลับมา หญิงสาวก็ได้พบกับใบหน้าหล่อเหลาของผู้ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ เธอเผลอพินิจพิจารณาใบหน้านั้นอย่างลืมตัว เธอรู้สึกคุ้น ๆ เหมือนว่ามันคล้ายกับใบหน้าของคนที่เธอรู้จัก เพียงแต่ว่าใบหน้านี้ดูหล่อเหลานี้ดูจะอ่อนวัยกว่าเพราะผิวขาวจัดอย่างคนเกาหลีแท้ ดวงตาตี่เล็กแต่ไม่ได้ดูหน้าเกลียด จมูกโด่งเป็นสันและริมฝีปากบางและมีสีแดงจัดขนาดที่ผู้หญิงอย่างเธอยังอาย
“สวัสดีค่ะ ดิฉันปัณรส สถิตย์คุณจากสภานฑูตไทยค่ะ” หญิงสาวถอนสายตาจากใบหน้าหล่อเหลานั้นพร้อมกล่าวแนะนำตัว
“ครับ ผมอ่านประวัติคร่าว ๆ ของคุณแล้ว คิดว่าไม่น่ามีปัญหาสำหรับตำแหน่งนี้นะครับ คุณมีข้อสงสัยอะไรจะถามเกี่ยวกับการทำงานมั้ยครับ”
“เอ่อ คือว่า คุณรับฉันเข้าทำงานแล้วเหรอค้ะ” หญิงสาวถามอย่างสงสัย เพราะเธอยังไม่ได้ทำอะไรเลย เพียงแต่แนะนำตัวเท่านั้น
“ครับ” ชายหนุ่มยิ้มรับ เข้าใจถึงความสงสัยของเธอดี
“แล้วไม่ต้องสัมภาษณ์อะไรเลยเหรอค้ะ”
“ผมได้อ่านประวัติของคุณจากเอกสารการสมัครที่ส่งมาแล้ว จบการศึกษาทางด้านนี้จากมหาวิทยาลัยชื่อดังของเมืองไทยด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 เคยเป็นที่ปรึกษาด้านจิตวิทยาให้บริษัทชั้นนำในเมืองไทย สอบชิงทุนได้ในลำดับที่ 1 ผมคิดว่าคุณสมบัติเท่านี้คงเพียงพอแล้ว ที่เหลือก็คือการทำงานของคุณที่จะพิสูจน์ว่าสิ่งเหล่านี้มาจากความสามารถของคุณจริง ๆ ” ชายหนุ่มอธิบายให้หญิงสาวคลายความสงสัย
“ค่ะ แล้วเรื่องเวลาหล่ะค้ะ พอดีว่าฉันต้องเรียนไปด้วยหน่ะค่ะ”
“ไม่มีปัญหาครับ คุณเพียงแต่ต้องเข้ามารับและส่งงานสัปดาห์ละ 2 ครั้ง และเราอาจจะได้พูดคุยเกี่ยวกับงานในแต่ละครั้งทุกครั้งที่คุณเข้ามาออฟฟิศครั้งละประมาณ 1 ชั่วโมง นอกเวลานั้นผมหรือท่านประธานอาจจะโทรหาคุณโดยตรง คุณโอเคมั้ยครับ”
“โอเคค่ะ” หญิงสาวรับคำแต่ก็ยังแอบสงสัยว่าทำไมเธอถึงได้งานนี้ง่ายมากนัก
“ผมจ่ายเงินเดือนคุณ เดือนละห้าล้านวอน เริ่มงานสัปดาห์หน้า ตกลงมั้ยครับ”
“ตกลงค่ะ” หญิงสาวดีใจจนแทบจะเก็บอาการไว้ไม่อยู่
“ยินดีที่ได้ร่วมงานกันครับ” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนพร้อมยื่นมือเพื่อจับมือกับหญิงสาว เธอจึงมือมาจับตอบ
“งั้นฉันขอตัวเลยนะค้ะ”
“ออกมาได้แล้วพี่” คัง มินคยูเรียกพี่ชายต่างมารดาที่หลบอยู่หลังฉากกั้นเพื่อฟังการสัมภาษณ์ตั้งแต่ก่อนที่หญิงสาวจะเข้ามาในห้องแล้ว
“ทำได้ดีมาไอ้น้องรัก” คัง โซฮอนเดินเข้ามาตบบ่าพร้อมเอ่ยปากชมน้องชายของเขา
“เพิ่งเคยเห็นพี่เป็นอย่างนี้กับผู้หญิงนะเนี่ย แต่ก็ตาแหลมอยู่นะพี่ สวย มั่นใจ สง่า สเป็คผมเลยนะเนี่ย” มินคยูแกล้งเย้าพี่ชายเล่นแต่ได้ผลเกินคาด สายตาของพี่ชายของเขาเปลี่ยนไปทันที
“อย่าแม้แต่จะคิดนะ คนนี้ฉันรักของฉันจริง ๆ อย่าคิดจะแตะต้องเธอเป็นอันขาด” โซฮอนพูดเสียงเฉียบขาด
“โอเค ๆ ผมไม่ยุ่งหรอกน่าพี่ แต่ล้อเล่นนิดเดียว ทำเป็นจริงจังไปได้” มินคยูบอกยิ้ม ๆ พร้อมกับทำท่ายกมือยอมแพ้
“ที่เหลือฝากด้วยนะ ฉันต้องรีบไปรอรับคุณรสข้างล่างก่อน ขอบใจมากไอ้น้องชาย” โซฮอนบอกน้องชายต่างมารดาแล้วรีบผละออกจากห้องไปทันที เพราะกลัวว่าเธอจะรอเขานาน
‘สงสัยคราวนี้เขาจะได้พี่สะใภ้จริง ๆ’ คัง มินคยูรู้ดีที่สุด พี่ชายของเขาไม่ใช่หนุ่มเจ้าสำราญแบบเขา ไม่เคยแม้แต่จะแลตามองผู้หญิงที่เข้ามาให้เลือกไม่เว้นแต่ละวันเลยด้วยซ้ำ จนเขายังเคยแอบคิดว่าพี่ชายของเขาเป็นคนไร้หัวใจ แต่คราวนี้กับผู้หญิงคนที่เขาเพิ่งได้พูดคุยด้วยนี้ไม่เหมือนกัน พี่ชายของเขาถึงกับลงทุนมาขอร้องให้เขาช่วยเล่นละครรับเธอเข้าทำงานในตำแหน่งที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในบริษัทนี้ แถมยังจ่ายเงินเดือนสูงลิบ ลงทุนขนาดนี้สงสัยรักจริงหวังแต่งแหง ๆ
“ยิ้มออกขนาดนี้ แสดงว่าเป็นข่าวดีใช่มั้ยครับ” คัง โซฮอนถามทั้ว ๆ ที่รู้ดีอยู่แก่ใจ
“ค่ะ เขารับฉันเข้าทำงานง่ายมาก ๆ แถมยังให้เงินเดือนตั้งห้าล้านวอนแหน่ะค่ะ เวลาทำงานก็แสนจะสบายอีกตะหาก” หญิงสาวบรรยายสรรพคุณของงานที่เธอเพิ่งได้รับ ชายหนุ่มเห็นเธอมีความสุขเขาก็มีความสุขไปกับเธอด้วย
“อย่างนี้สงสัยเจ้านายคุณต้องใจดีมากแน่ ๆ เลยนะครับ” ชายหนุ่มแอบชมตัวเอง
“ค่ะ ใจดีแถมยังหล่อมากด้วย พูดจาก็เป็นกันเองมากเลยค่ะ” หญิงสาวชมคัง มินคยูให้ชายหนุ่มฟัง เพราะว่าเขาเป็นอย่างที่เธอพูดจริง ๆ
“เหรอครับ ผมว่าเรารีบไปกันดีกว่าครับ ผมจะพาคุณแวะเที่ยวก่อนกลับ” ชายหนุ่มหน้าตึงขึ้นทันทีที่หญิงสาวชื่นชมผู้ชายอื่นต่อหน้าเขา ถึงผู้ชายคนนั้นจะเป็นน้องชายต่างมารดาของเขาและถึงเขาจะรู้ว่าเธอไม่ได้คิดอะไรแต่เขาก็ไม่ชอบอยู่ดี
“ไปไหนเหรอค้ะ”
“เป็นความลับครับ ไปถึงเดี๋ยวรู้เอง วันนี้คุณรสรีบรึเปล่าครับ”
“ไม่รีบหรอกค่ะ พอดีพรุ่งนี้ไม่มีเรียนค่ะ”
ชายหนุ่มไม่ต่อบทสนทนากับหญิงสาว เขาทำหน้าที่พลขับของตนเองอย่างรวดเร็ว รถยนต์ยุโรปสีดำคันหรูทะยานออกไปอย่างเรื่อยเฉื่อย ชายหนุ่มมีสถานที่ที่อยากพาหญิงสาวไปอยู่แล้ว เป็นสถานที่ที่เขาคิดว่าพิเศษและเหมาะกับการทำคะแนนของเขามากที่สุด เขาจงใจขับรถไม่เร็วมากนัก เพื่อยื้อเวลาระหว่างเธอกับเขาให้ยืดยาวออกไปอีก แม้ไม่มีคำพูดระหว่างกันและกัน แต่เขาก็ชอบที่จะมองรอยยิ้มของเธอและทุกกิริยาท่าทางของเธอ เขาเองยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กหญิงตัวน้อย ๆ เมื่อวันวานจะกลับมามีอิทธิพลต่อจิตใจของเขาอย่างมากมายในวันนี้
..................................................................................................................................................................................................................................
ครบร้อยแล้วนะค้ะ ตอนหน้าจะมาอัพเรื่อย ๆ นะค้ะ คุณคังเริ่มแผนการแล้วค่ะ ฝากติชมด้วยนะค้ะ
ความคิดเห็น