ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทวิธรา

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4

    • อัปเดตล่าสุด 19 ธ.ค. 55


    บทที่  4

     

                    ปัณรสวุ่นวายกับการเตรียมเอกสารสมัครงานตามข้อมูลที่ได้มาจากอินทิรา  และมีบางส่วนที่หญิงสาวจะต้องอีเมล์ขอจากพี่ชายที่เมืองไทย  หลายวันมานี้เธอมัวแต่ยุ่งกับเรื่องการเรียนและการหางานทำจนลืมส่งอีเมล์ไปหาพี่ชายอย่างที่เธอทำเป็นประจำทุกวัน  จนเมื่อเปิดเช็คเมล์เธอจึงพบว่ามีอีเมล์หลายฉบับจากพี่ชายของเธอ

                    รสเป็นยังไงบ้าง  สบายดีรึป่าว  หางานทำได้รึยัง

                ‘รสคงยุ่งเนอะ  เรียนหนักมั้ย  ที่นู่นหนาวรึป่าว

                ‘รสเนอะไรรึป่าว  ทำไมไม่ตอบเมล์พี่เลย  พี่เป็นห่วงนะ

                ‘รส  แม่ไม่โกรธแล้วนะ  บ่นว่าคิดถึงรสด้วย  แต่รสเป็นอะไรรึป่าว  ตอบพี่หน่อยว่าเรียนหนักหรือไม่สบาย  แม่กับพี่เป็นห่วง

                    หญิงสาวอ่านอีเมล์ของพี่ชายทั้ง 4 ฉบับแล้วรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว  เพราะคิดได้ว่าเธอคงปล่อยให้พี่ขายและแม่เป็นห่วงมามากแล้ว

                    ขอโทษด้วยค่ะพี่ภัทรี่รสไม่ได้ตอบเมล์  รสสบายบายดีค่ะ  เพียงแต่ช่วงนี้ยุ่งเรื่องเรียนแล้วก็เรื่องหางานหน่ะค่ะ  เลยลืมตอบเมล์พี่ภัทรไปเลย  แม่หายโกรธรสแล้วจริง ๆ เหรอค้ะ  รสจะได้โทรหาแม่ได้  ไม่ต้องห่วงรสนะค้ะ  พี่ภัทรช่วยส่งทรานสคริปต์ของป.ตรีในรสหน่อยนะค้ะ  พอดีรสลืมเอามาด้วย  รสจะไปสมัครงานพรุ่งนี้ค่ะ  รักและคิดถึงแม่กับพี่ภัทรมากนะค้ะ

                โอเคเลย  เดี๋ยวพี่จัดการให้ภายในวันนี้นะ  หลังจากเธอส่งอีเมล์ไปไม่ถึง 10 นาทีพี่ชายของเธอก็ตอบกับมา  แสดงว่าพี่ชายของเธอนั่งรออีเมล์ของเธออยู่นานแล้ว  ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งรู้สึกผิด

     

                    “คนขับรถกิตติมศักดิ์มารอรับแล้วครับผม”  เมื่อปัณรสเดินออกมาพร้อมกับวิภาดาเพื่อจะไปเรียนเธอก็ต้องแปลกใจมากเมื่อพบว่าคัง  โซฮอนจอดรถรอเธอยู่ที่หน้าสถานทูตแล้ว

                    “คุณมาได้ไงค้ะ”  ปัณรสถามด้วยความแปลกใจ

                    “นี่คุณลืมไปแล้วจริง ๆ เหรอเนี่ย  ว้า !! แย่จัง คุณนี่ขี้ลืมจริง ๆ เลย  เมื่อวานผมตกลงอะไรกับคุณไว้ครับ”  ชายหนุ่มเตือนความจำให้เธอ

                    “อ้อ !!! เรื่องคนขับรถ 1 อาทิตย์  นี่คุณจะทำจริง ๆ เหรอเนี่ย” 

                   
                    “ผมบอกคุณแล้วไง  ว่าผมลูกผู้ชาย  พูดคำไหนคำนั้น” 


                    “ใครเหรอรส”  วิภาดาถามพร้อมกับมองชายหนุ่มไม่วางตาด้วยท่าทางระมัดระวัง

                    “นี่คุณคัง  โซฮอน เป็น  เอ่อ  เพื่อนที่ฉันรู้จักที่นี่จ่ะ  ส่วนนี่วิภาดาเพื่อนที่พักอยู่กับฉันค่ะคุณโซฮอน”  ปัณรสจัดการแนะนำให้ทั้งสองคนรู้จักกันเสร็จสรรพ

                    “ขึ้นรถกันเถอะครับสาว ๆ ถ้าช้ากว่านี้เดี๋ยวไปเรียนสายผมไม่รู้ด้วยนะ”  ชายหนุ่มเตือนยิ้ม ๆ สังเกตเห็นท่าทางไม่ไว้ใจของหญิงสาวที่ชื่อวิภาดา  แต่เขาไม่ได้ใส่ใจเพราะคนที่เขาใส่ใจมีเพียงคนเดียว

     

                    “เลิกเรียนกี่โมงครับ  เดี๋ยวผมมารับ”  คัง  โซฮอนถามปัณรสหลังจากที่มาส่งเธอถึงมหาวิทยาลัยแล้ว

                    “คือว่าคุณไม่ต้องมารับก็ได้นะค้ะ  ฉันคิดว่ามันรบกวนคุณเกินไป”  หญิงสาวตอบอย่างเกรงใจ

                    “ไม่รบกวนหรอกครับ  ผมเต็มใจ”  ชายหนุ่มตอบพร้อมแสดงความรู้สึกทั้งหมดผ่านสายตาอย่างชัดเจน

                    “โอ โอเคค่ะ  ไม่รบกวนก็ไม่รบกวน  วันนี้ฉันเลิกเรียนตอนบ่ายสามค่ะ  ฉันไปเรียนก่อนนะค้ะ”  ปัณรสรับรู้ได้ถึงประกายวาบหวามในสายตาคู่นั้น  เธอจึงต้องรีบหลีกเลี่ยงเสียก่อนที่เธอจะแสดงอาการออกไปมากกว่านี้

     

                    “ฉันว่าผู้ชายคนนั้นไม่ค่อยน่าไว้ใจนะรส  เธอไปรู้จักเขาได้ยังไงหน่ะ”  ตอนช่วงพักกลางวันระหว่างที่นั่งทานข้าวกันวิภาดารีบเปิดประเด็นและซักถามปัณรสในทันที

                    “เหตุบังเอิญหน่ะวิ  เรื่องมันยาวมากๆๆๆ  เธออย่าไปสนใจเลยนะ”  ปัณรสลากเสียงยาวและพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย

                    “แต่ฉันว่ามันยังไง ๆ อยู่นะรส  อยู่ดี ๆ เขาจะมาขอขับรถไปรับไปส่งทำไม”  วิภาดายังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ

                    “มันเป็นข้อตกลงที่รสกับเขาตกลงกันไว้หน่ะ  ไม่มีอะไรหรอกวิ  เดี๋ยวรสไปเรียนก่อนนะวิ”  ปัณรสตัดบทและแยกตัวออกจากวงสนทนาทันที  เธอเข้าใจว่าวิภาดาเป็นห่วงเธอ  แต่เธอคิดว่าสามารถดูแลตัวเองได้  และไม่ค่อยชอบให้ใครมาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเธอมากนัก

    ………………………………………………………………………………………………………………………………………


                    “แวะทานอะไรกันก่อนมั้ยครับ  แล้วค่อยกลับ  มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง”  คัง  โซฮอนถามหลังจากที่ปํนรสและวิภาดาขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว  ชายหนุ่มเพียงแค่ต้องการจะยืดเวลาที่ได้มองปัณรสไปให้นานขึ้นแค่นั้นเอง

                    “ไม่หล่ะค่ะ  เกรงใจ”  เสียงตอบนี้ไม่ใช่เสียงของปัณรสแต่กลับเป็เสียงของวิภาดาที่ตอบอย่างห้าวห้วน  จนปัณรสเองอดแปลกใจในท่าทีของเพื่อนสนิทอยู่ไม่น้อย

                    “ไม่เป็นไรค่ะ  เดี๋ยวรสจะต้องกลับไปเตรียมเอกสารสมัครงานต่อหน่ะค่ะ”  ปัณรสหาทางออกให้สถานการณ์ไม่ปกติได้อย่างรวดเร็ว

                    “คุณรสจะไปสมัครงานแล้วเหรอครับ”  ชายหนุ่มถามไปอย่างนั้นทั้งที่ความจริงเขารู้ดีที่สุด

                    “ค่ะ  พอดีมีบริษัทเสนองานเข้ามาที่สถานทูต  ค่อนข้างตรงกับสายงานของรส  รสเลยจะลองไปสมัครดูค่ะ  พรุ่งนี้ไม่ต้องมารับนะค้ะ  เพราะรสจะไปสมัครงานค่ะ”

                    “ตามสัญญาครับ  คุณจะไปกี่โมงเดี๋ยวผมมารับ”  ชายหนุ่มตอบพร้อมลอบสังเกตท่าทีไม่พอใจของวิภาดา
      

                    “พรุ่งนี้วิมีเรียน  ไปเป็นเพื่อนรสไม่ได้ด้วย  ยังไงรสไปกับคุณนนท์ดีกว่ามั้ย”  เมื่อเอาตัวเองไปด้วยไม่ได้  วิภาดาจึงเสนอชื่อบุคคลที่สามเข้ามาแทน

                    “ไม่ดีกว่าจ่ะ  คุณโซฮอนค้ะ  พรุ่งนี้สิบเอ็ดโมงครึ่งมารับฉันนะค้ะ  จะได้แวะทานข้าวกันก่อนไป”  ปัณรสปฏิเสธเพื่อนตัวเล็กของเธออย่างรวดเร็ว  ด้วยรู้ดีว่าถ้าจะให้เธอไปกับคุณานนท์เธอยอมไปกับชายหนุ่มที่อยู่ด้วยตอนนี้ดีกว่า  เธอรู้สึกปลอดภัยกว่ากันเยอะ

                    “โอเคครับ”  ชายหนุ่มรับคำพร้อมกับอมยิ้มอย่างสมใจ  แค่นี้แหละที่เขาต้องการ

     

                    เมื่อกลับมาถึงที่พักปัณรสก็วุ่นวายอยู่กับการเตรียมเอกสารสำหรับการสัมภาษณ์งาน  เธอเช็คอีเมล์จากพี่ชายที่ส่งเอกสารมาพร้อมกับข่าวดีว่า  แม่ไม่โกรธเธอแล้วจริง ๆ ความจริงปัณรสเองแปลกใจอยู่ไม่น้อย  เพราะก่อนเธอจะมาแม่ของเธอโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ  ไม่ยอมแม้แต่จะคุยกับเธอ  แต่ตอนนี้กับเวลาที่เพิ่งผ่านไปแค่เดือนเดียวพี่ชายของเธอกลับบอกว่าแม่ไม่โกรธแล้ว  แถมคิดถึงเธอมาก ๆ ด้วย  ปกติแล้วแม่ของเธอเป็นคนใจแข็งมาก ๆ เคยงอนกับเธอเป็นปีก็เคย  แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีก็แล้วกัน  เธอจะได้หาโอกาสโทรกลับบ้านไปคุยกับแม่ให้หายคิดถึง

     

                    อย่าว่าแต่ปัณรสเลยที่แปลกใจกับความเปลี่ยนแปลงของจรัสพรแม่ของเธอ  แม้แต่ตัวร้อยโทณัฐภัทรเองก็แปลกใจอยู่ไม่น้อย  ในตอนแรกเขานึกว่าแม่จะหายโกรธเพราะความโศกเศร้าที่คิดถึงน้องสาว  แต่ที่ไหนได้แม่ของเขาก็ยังมีความสุขดี  ไม่มีท่าทีเศร้าโศกให้ได้เห็นเลยซักนิด (ขอย้ำว่าไม่มีแม้แต่น้อย) แถมตอนเดินมาบอกว่าไม่โกรธแล้วยังมีท่าทางดีใจแบบแปลก ๆ อีก  แต่ตัวเขาเองก็ไม่อยากจะถามมาก  ยังไงก็คิดซะว่าถือเป็นเรื่องดีที่ไม่มีเรื่องทะเลาะกันในครอบครัวไปก็แล้วกัน

     

                    “น้องรสจะไปสัมภาษณ์แล้วเหรอจ๊ะ  ขอให้โชคดีนะจ๊ะ”  เสียงของอินทิราทักทายเมื่อปัณรสกำลังจะเดินออกจากสถานทูต

                    “ขอบคุณมากค่ะพี่อิน”  ปัณรสตอบกลับยิ้ม ๆ แล้วกำลังจะเดินออกไป

                    “คุณรสกำลังจะไปสัมภาษณ์งานเหรอครับ”  ก่อนที่หญิงสาวจะเดินออกไปคุณานนท์ก็ดึงข้อมือเธอไว้เสียก่อนพร้อมกับเอ่ยถาม

                    “ค่ะ  รสกำลังจะไปสัมภาษณ์งาน”  หญิงสาวบอกอย่างเรียบเรื่อย  พร้อมกับดึงข้อมือของตัวเองออกอย่างนุ่มนวล

                    “นี่มันยังไม่ถึงเวลานัด  ถ้ายังไงผมขอไปส่งแล้วเราแวะทานข้าวกันก่อนได้มั้ยครับ”  ชายหนุ่มส่งสายตาขอโอกาสจากเธอ

                    “ขอโทษด้วยค่ะ  พอดีรสนัดเพื่อนไว้แล้ว  แล้วเพื่อนรสก็รออยู่ด้านหน้าแล้วด้วย  เอาไว้โอกาสหน้านะค้ะ”  ปัณรสปฎิเสธอย่างมีมารยาทและหมุนตัวเดินออกจากจุดนั้นทันที

                    คุณานนท์รู้สึกเสียใจที่เขารีบร้อนกับเธอมากไปจนทำให้เธอตีตัวออกห่างจากเขามากขนาดนี้  ยิ่งเห็นหญิงสาวเดินไปขึ้นรถของชายหนุ่มอีกคนที่เขาจำได้ว่าเคยมาส่งเธอในคืนนั้นเขาก็รู้สึกปวดหนึบ ๆ ตรงหน้าอกข้างซ้าย  ช่วงเวลา 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาเขาวุ่นวายกับงานภายในสถานทูต  จึงไม่มีเวลามาเห็นหน้าของปัณรสเลย  อย่างดีก็ได้เพียงแต่ส่งข้อความให้เท่านั้น  ซึ่งเขาไม่เคยได้รับข้อความตอบกลับ  เขาคิดถึงเธอเหลือเกิน  เขาเพิ่งรู้ตัวตอนนี้เองว่า  ปัณรสมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของเขามากมายขนาดไหน  ในเมื่อเขาเองที่เป็นคนทำผิดพลาด  เขาก็จะต้องทำทุกทางเพื่อแก้ไขความผิดพลาดนี้  และเอาชนะใจเธอให้ได้ 

     

                    “รอนานมั้ยค้ะ”  ปัณรสเอ่ยถามเมื่อเห็นว่ารถของคัง  โซฮอนจอดรอเธออยู่แล้ว

                    “ไม่นานครับ  ผมเพิ่งมาก่อนคุณรสออกมานิดเดียว”

                    “งั้นเราไปทานข้าวกันก่อนนะค้ะ  รสอยากตอบแทนคุณบ้าง” 

                    “ได้เลยครับ  อยากไปที่ไหนผมก็จัดให้ครับ”

    .......................................................................................................................................................................................


    หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงเรียบร้อย  คัง  โซฮอนก็พาปัณรสมาทันเวลานัดสัมภาษณ์พอดี  ทันทีที่ชายหนุ่มจอดรถหน้าเค  กรุ๊ป  หญิงสาวก็เอ่ยขอบคุณและรีบวิ่งลงจากรถทันที  หากเธอไม่ได้รับร้อนขนาดนี้คงทันได้เห็นท่าทางของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและพนักงานอื่น ๆ ภายในบริษัทแล้วว่ามีท่าทีนอบน้อมต่อชายหนุ่มผู้มีหน้าที่เป็นพลขับให้เธอขนาดไหน

                    “ฉัน ปัณรสจากสถานฑูตไทยค่ะ”  หญิงสาวแนะนำตัวอย่างรีบร้อน

                    “เชิญด้านในเลยค่ะ  คุณจอง  มินคยูรออยู่ด้านในแล้วค่ะ” 

     

                    ปัณรสเดินเข้ามาภายในห้องอย่างระมัดระวัง  บรรยากาศภายในห้องเงียบและเย็นจัด  จนทำให้หญิงสาวรู้สึกเกร็งขึ้นมาในทันที  ตรงหน้าเธอคือโต๊ะทำงานมีป้ายชื่อวางไว้  บนป้ายนั้นเป็นตัวอักษรภาษาเกาหลี  ยังดีที่เธอเรียนรู้มันมาบ้างแล้วจึงพอจะอ่านชื่อคนบนนั้นออก  คัง  มินคยู  รองผู้อำนวยการ’ 

                    “สวัสดีครับ  เชิญนั่งก่อน”  เสียงทุ้มกล่าวขึ้นท่ามกลางความเงียบ  แม้หญิงสาวจะแน่ใจว่าเธอมีสติค่อนข้างดีเลิศก็ยังเผลอสะดุ้งเล็กน้อย  เสียงทุ้มนั้นไม่ได้ฟังดูดุดันแต่ก็น่าเกรงขามแถมแฝงแววขี้เล่นไว้เล็กน้อยด้วย  และเมื่อเก้าอี้ตัวใหญ่นั้นหมุนกลับมา  หญิงสาวก็ได้พบกับใบหน้าหล่อเหลาของผู้ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้  เธอเผลอพินิจพิจารณาใบหน้านั้นอย่างลืมตัว  เธอรู้สึกคุ้น ๆ เหมือนว่ามันคล้ายกับใบหน้าของคนที่เธอรู้จัก  เพียงแต่ว่าใบหน้านี้ดูหล่อเหลานี้ดูจะอ่อนวัยกว่าเพราะผิวขาวจัดอย่างคนเกาหลีแท้  ดวงตาตี่เล็กแต่ไม่ได้ดูหน้าเกลียด  จมูกโด่งเป็นสันและริมฝีปากบางและมีสีแดงจัดขนาดที่ผู้หญิงอย่างเธอยังอาย

                    “สวัสดีค่ะ  ดิฉันปัณรส  สถิตย์คุณจากสภานฑูตไทยค่ะ”  หญิงสาวถอนสายตาจากใบหน้าหล่อเหลานั้นพร้อมกล่าวแนะนำตัว

                    “ครับ  ผมอ่านประวัติคร่าว ๆ ของคุณแล้ว  คิดว่าไม่น่ามีปัญหาสำหรับตำแหน่งนี้นะครับ  คุณมีข้อสงสัยอะไรจะถามเกี่ยวกับการทำงานมั้ยครับ”

                    “เอ่อ  คือว่า  คุณรับฉันเข้าทำงานแล้วเหรอค้ะ”  หญิงสาวถามอย่างสงสัย เพราะเธอยังไม่ได้ทำอะไรเลย  เพียงแต่แนะนำตัวเท่านั้น

                    “ครับ”  ชายหนุ่มยิ้มรับ  เข้าใจถึงความสงสัยของเธอดี

                    “แล้วไม่ต้องสัมภาษณ์อะไรเลยเหรอค้ะ”

                    “ผมได้อ่านประวัติของคุณจากเอกสารการสมัครที่ส่งมาแล้ว  จบการศึกษาทางด้านนี้จากมหาวิทยาลัยชื่อดังของเมืองไทยด้วยเกียรตินิยมอันดับ  เคยเป็นที่ปรึกษาด้านจิตวิทยาให้บริษัทชั้นนำในเมืองไทย  สอบชิงทุนได้ในลำดับที่  ผมคิดว่าคุณสมบัติเท่านี้คงเพียงพอแล้ว  ที่เหลือก็คือการทำงานของคุณที่จะพิสูจน์ว่าสิ่งเหล่านี้มาจากความสามารถของคุณจริง ๆ ”  ชายหนุ่มอธิบายให้หญิงสาวคลายความสงสัย

                    “ค่ะ  แล้วเรื่องเวลาหล่ะค้ะ  พอดีว่าฉันต้องเรียนไปด้วยหน่ะค่ะ”

                    “ไม่มีปัญหาครับ  คุณเพียงแต่ต้องเข้ามารับและส่งงานสัปดาห์ละ  ครั้ง  และเราอาจจะได้พูดคุยเกี่ยวกับงานในแต่ละครั้งทุกครั้งที่คุณเข้ามาออฟฟิศครั้งละประมาณ  ชั่วโมง  นอกเวลานั้นผมหรือท่านประธานอาจจะโทรหาคุณโดยตรง  คุณโอเคมั้ยครับ”

                    “โอเคค่ะ”  หญิงสาวรับคำแต่ก็ยังแอบสงสัยว่าทำไมเธอถึงได้งานนี้ง่ายมากนัก

                    “ผมจ่ายเงินเดือนคุณ  เดือนละห้าล้านวอน  เริ่มงานสัปดาห์หน้า  ตกลงมั้ยครับ”

                    “ตกลงค่ะ”  หญิงสาวดีใจจนแทบจะเก็บอาการไว้ไม่อยู่

                    “ยินดีที่ได้ร่วมงานกันครับ”  ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนพร้อมยื่นมือเพื่อจับมือกับหญิงสาว  เธอจึงมือมาจับตอบ

                    “งั้นฉันขอตัวเลยนะค้ะ” 

                   

                    “ออกมาได้แล้วพี่”  คัง  มินคยูเรียกพี่ชายต่างมารดาที่หลบอยู่หลังฉากกั้นเพื่อฟังการสัมภาษณ์ตั้งแต่ก่อนที่หญิงสาวจะเข้ามาในห้องแล้ว

                    “ทำได้ดีมาไอ้น้องรัก”  คัง  โซฮอนเดินเข้ามาตบบ่าพร้อมเอ่ยปากชมน้องชายของเขา

                    “เพิ่งเคยเห็นพี่เป็นอย่างนี้กับผู้หญิงนะเนี่ย  แต่ก็ตาแหลมอยู่นะพี่  สวย  มั่นใจ  สง่า  สเป็คผมเลยนะเนี่ย”  มินคยูแกล้งเย้าพี่ชายเล่นแต่ได้ผลเกินคาด  สายตาของพี่ชายของเขาเปลี่ยนไปทันที

                    “อย่าแม้แต่จะคิดนะ  คนนี้ฉันรักของฉันจริง ๆ อย่าคิดจะแตะต้องเธอเป็นอันขาด”  โซฮอนพูดเสียงเฉียบขาด

                    “โอเค ๆ ผมไม่ยุ่งหรอกน่าพี่  แต่ล้อเล่นนิดเดียว  ทำเป็นจริงจังไปได้”  มินคยูบอกยิ้ม ๆ พร้อมกับทำท่ายกมือยอมแพ้

                    “ที่เหลือฝากด้วยนะ  ฉันต้องรีบไปรอรับคุณรสข้างล่างก่อน  ขอบใจมากไอ้น้องชาย”  โซฮอนบอกน้องชายต่างมารดาแล้วรีบผละออกจากห้องไปทันที  เพราะกลัวว่าเธอจะรอเขานาน

                    สงสัยคราวนี้เขาจะได้พี่สะใภ้จริง ๆ’  คัง  มินคยูรู้ดีที่สุด  พี่ชายของเขาไม่ใช่หนุ่มเจ้าสำราญแบบเขา  ไม่เคยแม้แต่จะแลตามองผู้หญิงที่เข้ามาให้เลือกไม่เว้นแต่ละวันเลยด้วยซ้ำ  จนเขายังเคยแอบคิดว่าพี่ชายของเขาเป็นคนไร้หัวใจ  แต่คราวนี้กับผู้หญิงคนที่เขาเพิ่งได้พูดคุยด้วยนี้ไม่เหมือนกัน  พี่ชายของเขาถึงกับลงทุนมาขอร้องให้เขาช่วยเล่นละครรับเธอเข้าทำงานในตำแหน่งที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในบริษัทนี้  แถมยังจ่ายเงินเดือนสูงลิบ  ลงทุนขนาดนี้สงสัยรักจริงหวังแต่งแหง ๆ

     

                    “ยิ้มออกขนาดนี้  แสดงว่าเป็นข่าวดีใช่มั้ยครับ”  คัง  โซฮอนถามทั้ว ๆ ที่รู้ดีอยู่แก่ใจ

                    “ค่ะ  เขารับฉันเข้าทำงานง่ายมาก ๆ แถมยังให้เงินเดือนตั้งห้าล้านวอนแหน่ะค่ะ  เวลาทำงานก็แสนจะสบายอีกตะหาก”  หญิงสาวบรรยายสรรพคุณของงานที่เธอเพิ่งได้รับ  ชายหนุ่มเห็นเธอมีความสุขเขาก็มีความสุขไปกับเธอด้วย

                    “อย่างนี้สงสัยเจ้านายคุณต้องใจดีมากแน่ ๆ เลยนะครับ”  ชายหนุ่มแอบชมตัวเอง

                    “ค่ะ  ใจดีแถมยังหล่อมากด้วย  พูดจาก็เป็นกันเองมากเลยค่ะ”  หญิงสาวชมคัง  มินคยูให้ชายหนุ่มฟัง  เพราะว่าเขาเป็นอย่างที่เธอพูดจริง ๆ

                    “เหรอครับ  ผมว่าเรารีบไปกันดีกว่าครับ  ผมจะพาคุณแวะเที่ยวก่อนกลับ”  ชายหนุ่มหน้าตึงขึ้นทันทีที่หญิงสาวชื่นชมผู้ชายอื่นต่อหน้าเขา  ถึงผู้ชายคนนั้นจะเป็นน้องชายต่างมารดาของเขาและถึงเขาจะรู้ว่าเธอไม่ได้คิดอะไรแต่เขาก็ไม่ชอบอยู่ดี

                    “ไปไหนเหรอค้ะ” 

                    “เป็นความลับครับ  ไปถึงเดี๋ยวรู้เอง  วันนี้คุณรสรีบรึเปล่าครับ” 

                    “ไม่รีบหรอกค่ะ  พอดีพรุ่งนี้ไม่มีเรียนค่ะ”

                    ชายหนุ่มไม่ต่อบทสนทนากับหญิงสาว  เขาทำหน้าที่พลขับของตนเองอย่างรวดเร็ว  รถยนต์ยุโรปสีดำคันหรูทะยานออกไปอย่างเรื่อยเฉื่อย  ชายหนุ่มมีสถานที่ที่อยากพาหญิงสาวไปอยู่แล้ว  เป็นสถานที่ที่เขาคิดว่าพิเศษและเหมาะกับการทำคะแนนของเขามากที่สุด  เขาจงใจขับรถไม่เร็วมากนัก  เพื่อยื้อเวลาระหว่างเธอกับเขาให้ยืดยาวออกไปอีก  แม้ไม่มีคำพูดระหว่างกันและกัน  แต่เขาก็ชอบที่จะมองรอยยิ้มของเธอและทุกกิริยาท่าทางของเธอ  เขาเองยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กหญิงตัวน้อย ๆ เมื่อวันวานจะกลับมามีอิทธิพลต่อจิตใจของเขาอย่างมากมายในวันนี้  

    ..................................................................................................................................................................................................................................

    ครบร้อยแล้วนะค้ะ  ตอนหน้าจะมาอัพเรื่อย ๆ นะค้ะ  คุณคังเริ่มแผนการแล้วค่ะ  ฝากติชมด้วยนะค้ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×