ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~...พัฒนาการของยุโรปสมัยกลาง...~

    ลำดับตอนที่ #5 : ยุโรปยุคกลางตอนกลาง

    • อัปเดตล่าสุด 31 ต.ค. 55


    ยุโรปยุคกลางตอนกลาง

    ยุคกลางอันรุ่งเรือง (The High Middle Age: ค.ศ. 1000 – 1350)

              สมัยนี้เป็นสมัยที่ศาสนจักรมีอำนาจรุ่งเรืองจนถึงขีดสุด เป็นที่รู้จักกันในนาม สมัยแห่งความศรัทธา” (Age of Faith) เพราะคริสต์ศาสนาขยายตัวอย่างรวดเร็ว และมีบทบาทสำคัญต่อวิถีชีวิตของผู้คนจำนวนอย่างมากมาก คริสต์ศาสนาได้จัดการบริหารตามแบบโรมัน เป็นสถาบันศาสนาที่มีระเบียบวินัย ทำหน้าที่รักษาอารยธรรมโรมันไว้ จึงเป็นศูนย์กลางแห่งความเจริญก้าวหน้าทางศิลปะ และวิทยาการแขนงต่างๆ

              Download image.jpg (40.7 KB)
     

    ในช่วงยุคกลางอันรุ่งเรื่องจำนวนคนที่เพิ่มขึ้นจำเป็นต้องมีอาหารมากขึ้น และทำให้มีการหาเนื้อที่เพาะปลูกใหม่ๆ ขุนนางเจ้าของแมนเนอร์ได้เริ่มจ่ายค่าจ้างให้แก่ทาสติดที่ดิน และทาสติดที่ดินยอมจ่ายให้ขุนนางแทนการรับใช้ทำงานตามประเพณี ทำให้ได้รับความเป็นอิสระในระยะต่อมา
     

     

    ด้านการเมือง

              พระจักรพรรดิของอังกฤษมีความขัดกับสันตะปาปาจนในที่สุดสันตะปาปาก็ชนะพระจักรพรรดิ ชัยชนะของสันตะปาปาที่จะได้มีสิทธิร่วมในการเลือกตั้งและแต่งตั้งพระสันตะปาปาด้วย ในขณะที่พระจักรพรรดิต้องทรงเสียสิทธิที่เคยเลือกและแต่งตั้งพระราชาคณะได้ โดยไม่ต้องผ่านสันตะปาปา อีกประการหนึ่งก็คือ ไม่ได้ทรงมีฐานะเป็นผู้นำของชาวคริสต์อีกต่อไป

              ระบอบฟิวดัล รุ่งเรื่องถึงที่สุดในศตวรรษที่ 11 และ 13 ครั้นแล้วจึงได้เริ่มเสื่อมลงตามลำดับ

    ด้านเศรษฐกิจ

              ได้เกิดคนรุ่นใหม่ที่เรียกว่าเสรีชน” (free men) ซึ่งแม้จะเกิดในสกุลสามัญ แต่ก็ดำเนินชีวิตอิสระทำการค้าและอุตสาหกรรม ใช้เงินตราในการแลกเปลี่ยน มีการปกครองตนเองด้วย คนกลุ่มนี้มีจำนวนอยู่ไม่มาก ทางฝ่ายพวกขุนนางก็ไม่ชอบ ทางพระก็เห็นว่าคนกลุ่มนี้เป็นอันตรายต่อจิตวิญญาณแห่งความเป็นมนุษย์ แต่ทว่าชาวเสรีชนนับวันก็ยิ่งมีความมั่งคั่งขึ้นเรื่อยๆจนสามารถจัดซื้อแม้ กระทั่งเปลี่ยนสังคมให้มีการนับถือความมั่งคั่ง กลายเป็นนครเล็กๆที่ได้เริ่มรูปแบบสังคมขึ้นใหม่

              ทางด้านการค้าระหว่างประเทศในยุโรปเมืองเวนิสก็เป็นเมืองแรกที่ค่อยๆสร้างสัมพันธภาพทางการค้ากับกรุงคอนสแตนติโนเบิล การสร้างสถานีทางการค้าทางภาคตะวันออกสมัยสงครามครูเสด ทำให้การค้าระหว่างสองเมืองดังกล่าวเจริญขึ้น ส่วนเมืองเจนัวและปิซ่ากลายมาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของเวนิส

    ผลจากการที่การค้ามีปริมาณเพิ่มขึ้นทำให้

            - การแข่งขันด้านการค้าต่างประเทศ ทำให้เมืองต่างในยุโรปเจริญก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว

            - การมีงานชุมนุมสินค้าประจำปี ไม่มีความหมาย พวกลูกค้าต้องการได้ผลผลิตใหม่ๆตลอดทั้งปีทำให้สถานที่ตั้งศูนย์กลางการค้าสำคัญมาก

            - การค้าระหว่างประเทศ ทำให้เกิดการค้าระหว่างเมืองต่างๆ

            - การค้าระหว่างประเทศก่อให้เกิดการอุตสาหกรรมช่างฝีมือขึ้น เริ่มมีช่างฝีมือมากขึ้น

    ด้านสังคม
     

    Download black_death.jpg (46.9 KB)

            - ขาดความปลอดภัย เพราะรัฐบาลกลางไม่เข้มแข็งพอที่จะคุ้มครองประชาชนได้ ตามถนนหนทางเต็มไปด้วยพวกโจรผู้ร้าย

            - สงครามระหว่างเจ้าผู้ครองนคร ทำให้เกิดความเสียหาย เนื่องจากมีการจู่โจม ทำลายทรัพย์สินและชีวิตซึ่งกันและกัน

            - น้ำท่วมและโรคระบาด ถนนหนทางแออัดยัดเยียดกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค

            - ความเชื่อในโชคลาง จึงเป็นเหตุที่จัดพิธีบูชานักบุญต่างๆ

            - ความก้าวหน้าในด้านต่างๆ  เช่น

                   + การเพิ่มจำนวนประชากรอย่างสม่ำเสมอ

                   + คนชั้นต่ำได้รับอิสรภาพมากขึ้น

                   + เนื่องจากการฟื้นฟูการค้าและอุตสาหกรรมทำให้มีกลุ่มคนที่มีฐานะดีเกิดขึ้น

            - ศตวรรษที่ 13 กลายเป็นศตวรรษแห่งการแพร่ขยายกิจการทางเศรษฐกิจทั้งในชนบทและในเมือง ยุคกลางตอนกลาง (High Middle Ages) นี้กลายเป็นสมัยแห่งความก้าวหน้าทางด้านการศึกษา วรรณคดี ปรัชญา ศิลปะและดนตรี

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×