คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : chapter IV :: 32 December
-4-
“ตะ ตายแล้วเหรอ” แพตตี้พูดเสียงกระซิบราวกับกลัวจะมีใครได้ยิน สายตายังคงจับจ้องมองเขาประมาณว่ากลัวเขาจะหายไป แทบไม่อยากจะกับสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ แล้วภาพที่เคยเห็นนี่จะอธิบายว่าอะไรได้ เป็นวิญญาณเหรอ? บรื๋อออ อ
“ก็ไม่เชิงเสียชีวิตหรอกครับ” กุญแจฟา ผู้เป็นพี่ชายของกุญแจซอล ชายหนุ่มที่เธอกำลังออกตามหาอยู่นั้น ปรากฎว่าจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว เธออกสั่นขวัญแขวนไปหมด พลางหันซ้ายแลขวากลัวว่าจะมีสิ่งไม่ชอบมาพากลโผล่มาได้ทุกเมื่อ
“แล้วถ้าอย่างนั้น เขาหายไปไหนล่ะค่ะ” ฉันเอ่ยถามทันทีที่เห็นเขานิ่งเงียบไป
“...”
“คุณค่ะ” ส่งเสียงกระตุ้นเรียกเขาอีกครั้งที่ครั้งนี้ดูหน้าซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด เหมือนทำท่านึกคิดอะไรบางอย่าง
“ไม่มีอะไรครับ เมื่อกี้คุณบอกว่าอะไรนะครับ” เมื่อกุญแจฟาดูเหมือนไม่ได้ฟังที่เธอพูด ก็ไม่ได้แปลกใจอะไรยังคงถามเขาอีกครั้ง
“เรื่องน้องชายคุณนะคะ คุณกุญแจซอล ไม่ทราบว่าตอนนี้ไปอยู่ที่ไหนเสียล่ะค่ะ”
“เหมือนเขาจะหายออกไปจากบ้านมาหลายวันแล้วล่ะครับ ...” ยังไม่ทันที่กุญแจฟาจะพูดจบ ก็มีอีกเสียงหนึ่งแทรกขัดมาเสียก่อน เป็นเสียงเล็กๆใสๆที่ดังกังวานเหมือนระฆัง
“ไม่ใช่นะ พี่ตัวซอลไม่ได้หนีออกจากบ้านน่ะ” หนูน้อยวัยประมาณ 6 ขวบยืนหน้ามู่ กอดอก ไม่พอใจอยู่ข้างๆ
“น้องมีลา” กุญแจฟาเรียกชื่อสาวน้อยร่างจิ๋วเสียงดังลั่น พลางปรี่เข้าไปกระซิบที่ข้างหูหนูน้อยคนนั้น
"นี่เป็นเรื่องของคนในบ้านเราน่ะ มีลา อย่าไปพูดกับคนแปลกหน้าสิ" กุญแจฟาย่อตัวลงมา สบสายตากับมีลาประมาณว่า ไม่ต้องพูดเรื่องแบบนี้อีก ซึ่งมีลาก็ได้แต่ทำหน้าไม่ค่อยพอใจ แล้วยืนนิ่งๆอยู่ข้างๆพี่ชาย ส่วนแพตตี้ก็ได้แต่ยืนมองการกระทำของสองพี่น้องอย่างงุนงง กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ขอโทษครับ ผมคงช่วยอะไรคุณมากไม่ได้จริงๆ” กุญแจฟาลุกขึ้นเดินมาบอกกับเธอด้วยสีหน้าหงอยๆ เชิงเศร้าสลดใจ เพราะช่วยอะไรมากไม่ได้ เพราะไม่ว่าอย่างไรนี่ก็เป็นเรื่องของคนในครอบครัวจะให้ผู้อื่นมารับรู้ไม่ได้เด็ดขาด
“ฉันไม่ได้ต้องการให้คุณช่วยฉันเรื่องคุณกุญแจซอลนะคะ แค่อยากจะมาสอบถามเท่านั้นเอง เพราะฉัน....ได้พบกับเขานะค่ะ” เมื่อเธอดันหลุดพูดไปว่า ได้พบกับกุญแจซอล ทุกคนต่างมองมาด้วยแววตาคาดไม่ถึงรระคนแปลกใจ ราวกับสิ่งที่พูดนั้นเป็นเพียงเรื่องล้อเล่น
“พี่สาวบอกว่า ได้พบกับพี่ตัวซอลเหรอค่ะ แล้วตอนนี้พี่ตัวซอลอยู่ ....อุ้บ” ยังไม่ทันที่น้องมีลาพูดจบ คุณกุญแจฟาก็ได้มาปิดปากน้องไว้เสียก่อน
“ไม่เอาน้า ...มีลา เป็นไปไม่ได้หรอก”
“อาจจะเป็นไปได้ก็ได้นะคะ พี่ตัวฟา ก็พี่สาวคนนี้เขาบอกว่าเจอนี่" มีลาสะบัดจากการเกาะกุมของพี่ชาย แล้วหันมาถกเถียงด้วยสายตามุ่งเอาชนะ
“พวกคุณหมายความว่าไงค่ะ ที่บอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะพบกับคุณกุญแจซอล” ยิ่งมองสองพี่น้องนี่ก็ยิ่งไม่เข้าใจไปใหญ่ พวกเขาต้องการสื่อว่าอะไรกันล่ะนี่
“คือ...” กุญแจฟามัวแต่อึกอัก จนน้องมีลาตัดบทบอกเรื่องมาทั้งหมด
“คือพี่ตัวซอลเขานอนหลับยังไม่ฟื้นเลยค่ะ ตอนนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล XX ค่ะ จริงๆเหรอค่ะที่พี่บอกว่าได้เจอพี่ตัวซอลจริงๆน่ะ” น้องมีลา ดูท่าจะดีอกดีใจเป็นยกใหญ่ที่รู้ว่าเธอได้เจอกับวิญญาณของกุญแจซอล ส่วนกุญแจฟาก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างหวั่นๆ มีสีหน้าถอดสีอย่างเห็นได้ชัดราวกับกลัวอะไรบางอย่าง
“อืมคงประมาณนั้นล่ะมั้ง” แพตตี้ตอบกลับน้องสาวตัวน้อยที่มีสีหน้าแจ่มชื่นขึ้นมาหน่อย
“หนูก็อยากเจอพี่ตัวซอลมั้งจัง แล้วพี่ได้คุยกับพี่ตัวซอลหรือเปล่าค่ะ”
“ไม่ค่อยได้คุยเท่าไหร่ล่ะจ๊ะ”
“เหรอค่ะ แต่แค่ได้เจอพี่ก็จะรู้ว่าพี่ตัวซอลนิสัยดีมากๆเลยใช่ไหมล่ะค่ะ” แพตตี้ยิ้มให้กับความน่ารักของเด็กสาวตัวน้อยที่คงจะรักพี่ชายมาก
“เห็นไหมค่ะพี่ตัวฟา มีลาบอกแล้ว” มีลากระทุ้งศอกพี่ชาย ที่ดูเหมือนไม่เชื่ออะไรทั้งสิ้น
“น้องมีลาค่ะ ...แล้วพอจะบอกพี่ได้ไหมค่ะว่าพี่ตัวซอลของน้องมีลาตอนนี้พักอยู่ที่ห้องไหนค่ะ” แพตตี้ไม่กล้าที่จะถามใครแล้วล่ะ คนที่ให้ข้อมูลได้ดีที่สุดก็เห็นจะเป็น น้องมีลานี่แหละ
*****************
แพตตี้ย้อนกลับไปที่โรงพยาบาลนั้นอีกครั้ง คราวนี้กลับไปเพื่อตามหากุญแจซอล ชายหนุ่มในความฝันที่ได้พบกับเขาครั้งนั้น เป็นไปไม่ได้หรอกที่พวกเขาจะบอกว่า กุญแจซอลเป็นเจ้าชายนิทราอยู่น่ะ แล้วทำไมตอนนั้นเขายังเรียกชื่อเธออยู่เลยล่ะ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าไปรู้จักเขาตอนไหน
เริ่มจากเดินตามทางที่ปูไปด้วยกระเบื้องดินเผาสีแดงสดตรงไปยังห้องสีขาวที่มีเปียโนวางตั้งสง่าอยู่ มือน้อยๆกุมหัวใจที่ค่อยๆเต้นถี่เป็นจังหวะที่ขับคลอไปตามเสียงเปียโนที่ถูกบรรเลงขึ้นทันใด หลับตาพริ้ม ฟังทำนองเพลงหวานที่ดังกังวานไปทั่ว
...งดงามจริงๆ...
ดวงตาคู่งามกวาดเข้าไปในห้องสีขาวโพลนราวกับเกล็ดหิมะบริสุทธิ์ แล้วสายตาเลื่อนไปหยุดอยู่ที่ชายหนุ่มผมสีเงินยวงดุจพระจันทร์
...ในที่สุดก็ได้เจอกับตัวโน้ตที่หายไปจนได้ ดีจังที่เขายังมีชีวิตอยู่ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีตัวโน้ตตัวไหนซึ้งตรึงใจได้เท่านี้อีกแล้ว...
หัวใจเต้นระรัวไปกับจังหวะที่หนักแน่นของบทเพลงที่เขาบรรเลง รู้สึกเจ็บจนเรียกน้ำตาให้ไหลริน เธอจำต้องกะพริบตาปริบๆขับไล่น้ำตาออกไป ดันไปสะดุดใจกับชายหนุ่มที่เดินปรี่ตรงเข้ามาหาโดยฉับพลัน ดวงตาเรียวคมที่ดึงดูด ให้ถลำลึกลงไปภายใต้ท้องทะเลสีครามนั้น ทั้งสองจ้องตากันนิ่ง คราวนี้เธอไม่คิดที่จะหนีไปไหนอีกแล้ว ต้องพูดคุยกับเขาให้รู้เรื่อง
“เอ่อ ...สวัสดีค่ะ” แพตตี้ส่งยิ้มหวานแก้ขัดเขิน ชายหนุ่มวางมาดนิ่งเฉย เผยอยิ้มที่มุมปาก หากกลับรู้สึกได้ว่าเขาประหม่าอยู่ลึกๆ
“ไม่หนีไปแล้วเหรอ” ชายหนุ่มแสร้งพูดติดตลก
“หือ?” เด็กสาวยืนอยู่ตรงประตูกะพริบตาปริบๆ แล้วนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคราวก่อนฉันวิ่งหนีเขาหัวซุกหัวซุน “เอ่อ ...ตอนนั้นที่เสียมารยาทต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะ”
“ฮ่ะๆๆ ไม่เป็นไรๆ ฉันเองก็ทำให้เธอตกใจอยู่เหมือนกันสิน่ะ” ท่วงท่าที่เป็นกันเองเช่นนี้ ช่างต่างจากกุญแจฟาเสียเหลือเกิน
“ตอนนี้เธอคงจำผมได้แล้วสิน่ะ”
“อือ” ถึงจะไม่แน่ใจก็ตามว่าไปรู้จักเขาตอนไหนก็ตาม “คุณชื่อ ...กุญแจซอลใช่ไหมคะ?”
“ดีจังที่เธอจำได้ นึกว่าจะลืมฉันไปซ่ะแล้ว” กุญแจซอลเกาแก้มแก้ขัดเขิน ลักยิ้มเล็กๆผุดที่มุมปาก จนคนมองยังอดยิ้มให้ไม่ได้
“แพตตี้” เสียงคนสองคนเรียกชื่อเธอพร้อมกัน ทำเอาเธอต้องส่ายหน้าเป็นพัดลมไปเลย พอหันไปมองตามเสียงที่แทรกมาทีหลัง ก็ได้พบกับรัสตี้ยืนทำหน้างงๆเป็นไก่ตาแตก และมองมาด้วยแววตาระคนสงสัย
“เธอมาทำอะไรที่นี่น๊ะ” รัสตี้เอ่ยถาม
“ก็มาหา...เพื่อน” เธอตอบกลับไปพลางมองไปที่กุญแจซอล
“เพื่อนเหรอ?” รัสตี้ยังไม่ทันพูดจบก็มีเสียงเรียกเขาดังขัดมาเสียก่อน เขาจึงต้องขอถอนตัวออกไปเสียอย่างนั้น เธอจึงลอบถอนใจอย่างโล่งอก วางใจที่เขาไม่ได้ถามอะไรมาก
“คนๆนั้นเป็นใครเหรอ” กุญแจซอลเอ่ยถามขึ้น หลังจากที่ส่งสายตามองส่งรัสตี้ไปสิ้นสุดทางเดิน
“อ่อ ...รัสตี้เหรอ เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องที่เรียนด้วยกันมาน่ะ”
“อืม ...เหรอ แล้วเธอไม่อยากรู้เหรอว่าเรารู้จักกันได้ยังไง” กุญแจซอลเอ่ยถามในสิ่งที่ฉันอยากรู้เหมือนกัน “ไม่เอาอ่ะ ไม่บอกดีกว่า ในไม่ช้าเธอคงได้รู้เองแหละ”
“...”
...แล้วนายจะกระตุ้นให้อยากรู้ทำไมมิทราบ...
“เอาน่า อย่าอารมณ์เสียสิ เดี๋ยวผมเล่นเปียโนให้ฟังน่ะ” ว่าแล้วชายหนุ่มก็ถือวิสาสะจูงมือเธอให้ไปนั่งข้างๆเขา ส่วนเขาก็วางมือลงบนแป้นเปียโนก่อนค่อยๆพรมนิ้วไปตามคีย์ต่างๆ เกิดเป็นบทเพลงที่หวานที่สุดเท่าที่เคยฟังเพลงบรรเลงมา ปลายนิ้วพริ้วไหวราวกับเต้นรำอยู่บนฟลอ ทำนองเพลงนั้นทำเอาเธอเคลิ้มจนเอนกายไปพิงไหล่เขา ชายหนุ่มอมยิ้มก่อนที่จะบรรจงจูบลาเบาๆที่หน้าผาก โดยไม่อยากให้หญิงสาวตื่นขึ้นมา แล้วเขาก็ปล่อยให้หญิงสาวหลับใหลอย่างเป็นสุขอยู่ตรงนั้น
“พรุ่งนี้ผมจะมาใหม่นะ แล้วพบกันอีกนะครับ แพตตี้”
**************
“อะไรกันเนี่ยนาย เมื่อวานนี้นายแอบกลับไปก่อนเหรอ ตลอดเลย” หญิงสาวถลึงตาใส่ชายหนุ่มที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไร นอกจากวาดลวดลายปลายนิ้วไปตามคีย์เกิดเป็นภาพเขียนที่งดงามภาพหนึ่งที่รังสรรค์โดยบทเพลงหนึ่ง
“...”
“ใจร้ายสุดๆ ทิ้งให้ฉันนอนอยู่อย่างนั้นคนเดียวทุกครั้งได้ไง” เธอเบนหน้าหนี ทำแก้มป่อง จนกุญแจซอลต้องกระทุ้งเข้าที่แก้มจนเธอพรวดลมออกมา
ปู้ดดด ด ด …
“ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย”
“ฮ่าๆ ๆๆ”
“แล้วนี่นายจะหัวเราะอีกนานไหมฮ่ะ”
“ฮ่าๆๆ ๆๆ ก็มันขำนี่นา” กุญแจซอลหัวเราะจนน้ำตาเล็ดน้ำตาร่วง เธอมักจะมาที่โรงพยาบาลแทบจะทุกวันเลย เพื่อที่จะมาหาชายหนุ่มผมสีเงินคนนี้ คนที่เพิ่งจะรู้จักกัน แต่กลับรู้สึกเหมือนสนิทกันมานานแสนนาน
“อีกไม่นานแล้ว จะถึงวันเกิดน้องมีลา นายรู้เปล่าว่าน้องเขานะคิดถึงนายมากเลย” พอเธอพูด เขาก็ดูเหมือนจะนิ่งเงียบไป ดนตรีหยุดชะงัก เกิดเป็นความวังเวงที่น่าพรั่งพรึง
“...”
“นายไม่คิดที่จะหาอะไรเป็นของขวัญน้องเขาหน่อยเหรอ”
“...”
“ถ้านายคิดไม่ออก แต่งเพลงไปให้น้องเขาดีไหมล่ะ”
“แล้วจะทำอย่างไรได้ล่ะ ในเมื่อ...เป็นแบบนี้น่ะ” กุญแจซอลมีสีหน้าเศร้าลงเล็กน้อย จนเธอรู้สึกสงสารเขาจับใจ ก็เลยต้องหาทางช่วยให้เขาสามารถสื่อสารกับน้องสาวให้ได้
“เอางี้ไหมล่ะ ...นายสอนฉันเล่นเปียโนสิ แล้วฉันจะเล่นเพลงที่นายแต่งไปให้น้องมีลาเป็นของขวัญ” เพราะน้องมีลาต้องรู้ได้ทันทีแน่ๆ ว่าเป็นเพลงของพี่ชาย
“อืม ขอบใจน่ะ ยิ้มจิ” นับตั้งแต่นั้นมา เธอก็ต้องไปฝึกเล่นเปียโนทุกๆวัน ก่อนจะถึงวันเกิดมีลา เพื่อที่จะได้นำไปเป็นของขวัญวันเกิดให้น้องเขาได้ เป็นสิ่งที่พี่ชายจะสามารถทำให้น้องสาวได้ก็คงมีเพียงเท่านี้ล่ะ ...
29 กุมภาพันธ์ 2012
“น้องมีลา สุขสันต์วันเกิดนะคะ” เธอไปที่คฤหาสถ์ของบ้านน้องมีลา ที่น้องเขาเขียนการ์ดเชิญไปร่วมงานวันเกิดด้วยมือตัวเอง ช่างเป็นภาพวาดที่น่ารักจริงๆ
“ขอบคุณนะคะพี่สาวที่มางานวันเกิดของมีลา” รู้จักขอบคุณเสียด้วยช่างน่ารักจริงๆ อยากมีน้องสาวน่ารักๆแบบนี้จัง ช่างต่างจากเจ้าน้องชายตัวแสบที่บ้านราวกับนางฟ้ากับซาตาน
“พี่มีของขวัญจะให้น้องมีลาด้วยนะ แต่ก่อนอื่น ขอยืมเปียโนหน่อยสิค่ะ” มีลาพาเธอเดินขึ้นบันไดไปชั้นสอง ตรงห้องริมสุดทางเดิน เปิดประตูเข้าไปก็พบกับเปียโนหลังหนึ่งตั้งไว้อยู่ เธอเข้าไปก็เห็นฝุ่นเกาะจับอยู่เต็มไปหมด เหมือนห้องนี่ไม่ได้ถูกใช้มานานแล้ว
“นี่เป็นห้องส่วนตัวของพี่ตัวซอลค่ะ” มีลายิ้มหวาน ใสซื่อมาให้ อวดตัวพี่ชายด้วยท่าทางที่น่าภูมิใจสุดๆ เธอคงไม่รู้สินะว่าพี่ชายของเธอก็ได้มายืนอยู่ ณ ห้องนี้ด้วยแล้ว ตอนนี้เขากำลังก้มลงมองน้องสาวด้วยสายตาล่องลอย แล้วเงยหน้ามาหาเธอ ส่งเสียงกระซิบเบาๆที่ความจริงก็ไม่จำเป็นเสียหน่อย เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีใครมองเห็นอยู่แล้ว
(มัวแต่เหม่อยู่นั่นแหละ ...เริ่มเล่นได้แล้ว เดี๋ยวก็ผิดสังเกตุหรอก มีลายิ่งฉลาดๆอยู่)
เธอรื้อผ้าที่คลุมเปียโน จนฝุ่นคลุ้งกระจายไปหมด
ค่อกแค่กๆ ๆ ๆ
เมื่อจัดแจงได้ที่แล้ว เธอก็นั่งลงอยู่หน้าเปียโน สูดลมหายใจลึกๆ มือบางพรมลงไปบนคีย์ ปลายนิ้วริ้วไล้ไปตามตัวโน้ตที่มีพรายกระซิบบอกอยู่ข้างๆ และสิ่งที่กุญแจซอลสอนมาอย่างดี ทำให้เธอชำนาญมากขึ้น
“อู้วว วว ..ว้าว ...” มีลาหลับตาพริ้ม สัมผัสได้ถึงเสียงตัวโน้ตอันหวานซึ้งที่เหมือนกับที่พี่ตัวซอลเคยเล่นให้ฟังครั้งยังมีลมหายใจอยู่ ไม่ผิดเพี้ยน เรียกเอาน้ำตาไหลรินอาบแก้มชมพูของหนูน้อย เพราะความคิดถึงพี่ชายจับใจ
(มีลา ...รอพี่ก่อนนะแล้วพี่จะกลับมาหาเราแน่นอน แล้วก็สุขสันต์วันเกิดน่ะ)
กุญแจซอลย่อตัวลงไปเทียบเท่ากับมีลา แล้วจ้องมองด้วยแววตาเศร้าๆ ทั้งๆที่ทำอะไรไม่ได้เลย ราวกับมีลาได้สัมผัสในสิ่งที่พี่ชายพูด เธอจึงตอบรับเสียงที่มาจากหัวใจดวงน้อยๆ เป็นความรู้สึกที่สัมผัสได้ เพียงแต่ไม่มีใครได้ยิน คงเหมือนกับตัวเธอที่มีประสาทสัมผัสพิเศษแบบนี้ ทำให้สามารถมองเห็นและได้ยินในสิ่งที่พวกเขาไม่อาจสื่อถึงกันได้ เธอมองเห็นทุกอริยาบถที่พวกเขาทำ
“พี่จ๋า ...” ทำนองเพลงหยุดลงอย่างนิ่มนวล เธอมองสองพี่น้องสลับกันไปมา อดที่จะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้
“พี่แพตตี้ มีลาได้เจอกับพี่ตัวซอลด้วยแหละ ด้วยเพลงของพี่ ขอบคุณจริงๆนะคะสำหรับของขวัญชิ้นนี้ ดีที่สุดเท่าที่เคยได้รับมาเลยค่ะ” มีลาพูดจบก็ออกจากห้องไปตามเสียงเรียกของเพื่อนๆรุ่นราวคราวเดียวกันที่ตะโกนโวกเวกผ่านอากาศมา
“ดีจังเลยเนอะ...” เธอพูดกับคนข้างๆที่มีน้ำตาเอ่อคลอเบ้า พอได้ยินที่เธอพูดก็รู้สึกหน้าแดงซ๋าน รีบปาดน้ำตาทิ้งโดยเร็ว ปรี่เข้าไปบรรเลงเพลงหวานไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ เป็นเพลงที่ไม่มีวันจบ และยังคงตรึงอยู่ในหัวใจดวงนี้ตลอดกัลป์
“อืม อยากเป็นน้องสาวผมไหมล่ะ” กุญแจซอลยังไม่วางมือออกจากแป้นเปียโน เขาหลับตาพริ้มเล่นอย่างชำนาญขนาดไม่ต้องดูโน้ตเลยด้วยซ้ำ
“อืม ...”
“เสียใจด้วยน่ะ เพราะน้องฉันมีแค่คนเดียว และก็คือ ...มีลาเท่านั้น” กุญแจซอลพูดขึ้นโดยไม่หันหน้ามามอง มือยังคงเป็นระวิงกับเปียโนเบื้องหน้า แพตตี้เบ้ปากออกอาการมั่นไส้คนข้างๆ ก็ไม่ได้อยากเป็นน้องนายจริงๆสักหน่อย พลางเหม่อมองด้านข้างของเขาด้วยแววตาคาดหวังมากกว่านั้น
(เพราะฉันอยากเป็นคนสำคัญของเธอมากกว่านั้น)
"เมื่อกี้นายว่าอะไรตัวซอล" กุญแจซอลพึมพำๆอะไรก็ไม่รู้ จนได้ยินที่เขาพูดไม่ค่อยถนัด
"เปล่านี่ ...ไม่มีอะไร"
“เหรอ ...แล้วนายเกิดเมื่อไหร่เหรอ”
“เธออยากรู้จริงๆเหรอ”
“อืม ...”
“เกิดวันที่ 32 ธันวาคมน่ะ ...เธออยากจะให้ของขวัญฉันหรือไง” กุญแจซอลหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง แต่เธอกลับรู้สึกตงิดๆ มีอะไรแปลกๆไป
32 ธันวาคม ???
....เดือนนี้มันมีแค่ 31 วันไม่ใช่เหรอ....
“นายเกิดวันที่เท่าไหร่นะ” ครั้นสงสัยจึงถามไป กลัวว่าอาจจะฟังผิดพลาด กุญแจซอลเอนตัวพิงโซฟาภายในห้องแล้วตอบกลับมาด้วยท่าทางที่สบายๆ
“32 ธันวาคม”
“สามสิบสอง ??? เดือนนี้มันมีแค่ 31 เองน่ะ ไม่สิ ไม่ว่าเดือนๆไหน ก็มีไม่เกินสามสิบสองแน่ๆ นายมั่วหรือเปล่าเนี่ย ถ้าจะมาหลอกฉันล่ะก็ ขอที่มันเนียนๆกว่านี้หน่อยน่ะ” กุญแจซอลหันมามองด้วยแววตาที่จริงจัง และท่าทีที่ไม่สะทกสะท้าน ทำให้เชื่อมั่นว่าเขาไม่ได้พูดอะไรผิดไป เขาเผยอยิ้มออกมา และทอดสายตามองมาเพื่อที่จะสื่ออะไรบางอย่างให้ได้รู้
“32 นี่แหละ ถูกแล้ว”
“...”
“ในไม่ช้า เธอก็คงเข้าใจในสิ่งที่ฉันต้องการจะบอกกับเธอเอง”
ความคิดเห็น