ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★rhyme lies ทำนองที่ไม่ได้ยิน★

    ลำดับตอนที่ #5 : chapter IV :: 32 December

    • อัปเดตล่าสุด 15 มิ.ย. 57



     

    -4-


    ตะ ตายแล้วเหรอ” แพตตี้พูดเสียงกระซิบราวกับกลัวจะมีใครได้ยิน สายตายังคงจับจ้องมองเขาประมาณว่ากลัวเขาจะหายไป แทบไม่อยากจะกับสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ แล้วภาพที่เคยเห็นนี่จะอธิบายว่าอะไรได้ เป็นวิญญาณเหรอ? บรื๋อออ  

    ก็ไม่เชิงเสียชีวิตหรอกครับกุญแจฟา ผู้เป็นพี่ชายของกุญแจซอล ชายหนุ่มที่เธอกำลังออกตามหาอยู่นั้น ปรากฎว่าจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว เธออกสั่นขวัญแขวนไปหมด พลางหันซ้ายแลขวากลัวว่าจะมีสิ่งไม่ชอบมาพากลโผล่มาได้ทุกเมื่อ

    แล้วถ้าอย่างนั้น เขาหายไปไหนล่ะค่ะฉันเอ่ยถามทันทีที่เห็นเขานิ่งเงียบไป

    “...”

    คุณค่ะส่งเสียงกระตุ้นเรียกเขาอีกครั้งที่ครั้งนี้ดูหน้าซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด เหมือนทำท่านึกคิดอะไรบางอย่าง

    ไม่มีอะไรครับ เมื่อกี้คุณบอกว่าอะไรนะครับเมื่อกุญแจฟาดูเหมือนไม่ได้ฟังที่เธอพูด ก็ไม่ได้แปลกใจอะไรยังคงถามเขาอีกครั้ง

    เรื่องน้องชายคุณนะคะ คุณกุญแจซอล ไม่ทราบว่าตอนนี้ไปอยู่ที่ไหนเสียล่ะค่ะ

    เหมือนเขาจะหายออกไปจากบ้านมาหลายวันแล้วล่ะครับ ...ยังไม่ทันที่กุญแจฟาจะพูดจบ ก็มีอีกเสียงหนึ่งแทรกขัดมาเสียก่อน เป็นเสียงเล็กๆใสๆที่ดังกังวานเหมือนระฆัง

    ไม่ใช่นะ พี่ตัวซอลไม่ได้หนีออกจากบ้านน่ะหนูน้อยวัยประมาณ 6 ขวบยืนหน้ามู่ กอดอก ไม่พอใจอยู่ข้างๆ

    น้องมีลากุญแจฟาเรียกชื่อสาวน้อยร่างจิ๋วเสียงดังลั่น พลางปรี่เข้าไปกระซิบที่ข้างหูหนูน้อยคนนั้น

    "นี่เป็นเรื่องของคนในบ้านเราน่ะ มีลา อย่าไปพูดกับคนแปลกหน้าสิ" กุญแจฟาย่อตัวลงมา สบสายตากับมีลาประมาณว่า ไม่ต้องพูดเรื่องแบบนี้อีก ซึ่งมีลาก็ได้แต่ทำหน้าไม่ค่อยพอใจ แล้วยืนนิ่งๆอยู่ข้างๆพี่ชาย
     ส่วนแพตตี้ก็ได้แต่ยืนมองการกระทำของสองพี่น้องอย่างงุนงง กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    ขอโทษครับ ผมคงช่วยอะไรคุณมากไม่ได้จริงๆกุญแจฟาลุกขึ้นเดินมาบอกกับเธอด้วยสีหน้าหงอยๆ เชิงเศร้าสลดใจ เพราะช่วยอะไรมากไม่ได้ เพราะไม่ว่าอย่างไรนี่ก็เป็นเรื่องของคนในครอบครัวจะให้ผู้อื่นมารับรู้ไม่ได้เด็ดขาด 

    ฉันไม่ได้ต้องการให้คุณช่วยฉันเรื่องคุณกุญแจซอลนะคะ แค่อยากจะมาสอบถามเท่านั้นเอง เพราะฉัน....ได้พบกับเขานะค่ะเมื่อเธอดันหลุดพูดไปว่า ได้พบกับกุญแจซอล ทุกคนต่างมองมาด้วยแววตาคาดไม่ถึงรระคนแปลกใจ ราวกับสิ่งที่พูดนั้นเป็นเพียงเรื่องล้อเล่น

    พี่สาวบอกว่า ได้พบกับพี่ตัวซอลเหรอค่ะ แล้วตอนนี้พี่ตัวซอลอยู่ ....อุ้บยังไม่ทันที่น้องมีลาพูดจบ คุณกุญแจฟาก็ได้มาปิดปากน้องไว้เสียก่อน

    ไม่เอาน้า ...มีลา เป็นไปไม่ได้หรอก

    อาจจะเป็นไปได้ก็ได้นะคะ พี่ตัวฟา ก็พี่สาวคนนี้เขาบอกว่าเจอนี่" มีลาสะบัดจากการเกาะกุมของพี่ชาย แล้วหันมาถกเถียงด้วยสายตามุ่งเอาชนะ

    พวกคุณหมายความว่าไงค่ะ ที่บอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะพบกับคุณกุญแจซอลยิ่งมองสองพี่น้องนี่ก็ยิ่งไม่เข้าใจไปใหญ่ พวกเขาต้องการสื่อว่าอะไรกันล่ะนี่

    คือ...กุญแจฟามัวแต่อึกอัก จนน้องมีลาตัดบทบอกเรื่องมาทั้งหมด

    คือพี่ตัวซอลเขานอนหลับยังไม่ฟื้นเลยค่ะ ตอนนี้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล XX ค่ะ จริงๆเหรอค่ะที่พี่บอกว่าได้เจอพี่ตัวซอลจริงๆน่ะ” น้องมีลา ดูท่าจะดีอกดีใจเป็นยกใหญ่ที่รู้ว่าเธอได้เจอกับวิญญาณของกุญแจซอล ส่วนกุญแจฟาก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างหวั่นๆ มีสีหน้าถอดสีอย่างเห็นได้ชัดราวกับกลัวอะไรบางอย่าง


    อืมคงประมาณนั้นล่ะมั้ง” แพตตี้ตอบกลับน้องสาวตัวน้อยที่มีสีหน้าแจ่มชื่นขึ้นมาหน่อย

    หนูก็อยากเจอพี่ตัวซอลมั้งจัง แล้วพี่ได้คุยกับพี่ตัวซอลหรือเปล่าค่ะ

    ไม่ค่อยได้คุยเท่าไหร่ล่ะจ๊ะ

    เหรอค่ะ แต่แค่ได้เจอพี่ก็จะรู้ว่าพี่ตัวซอลนิสัยดีมากๆเลยใช่ไหมล่ะค่ะ” แพตตี้ยิ้มให้กับความน่ารักของเด็กสาวตัวน้อยที่คงจะรักพี่ชายมาก

    เห็นไหมค่ะพี่ตัวฟา มีลาบอกแล้วมีลากระทุ้งศอกพี่ชาย ที่ดูเหมือนไม่เชื่ออะไรทั้งสิ้น 

    น้องมีลาค่ะ ...แล้วพอจะบอกพี่ได้ไหมค่ะว่าพี่ตัวซอลของน้องมีลาตอนนี้พักอยู่ที่ห้องไหนค่ะแพตตี้ไม่กล้าที่จะถามใครแล้วล่ะ คนที่ให้ข้อมูลได้ดีที่สุดก็เห็นจะเป็น น้องมีลานี่แหละ 

     

    *****************

     

    แพตตี้ย้อนกลับไปที่โรงพยาบาลนั้นอีกครั้ง คราวนี้กลับไปเพื่อตามหากุญแจซอล ชายหนุ่มในความฝันที่ได้พบกับเขาครั้งนั้น เป็นไปไม่ได้หรอกที่พวกเขาจะบอกว่า กุญแจซอลเป็นเจ้าชายนิทราอยู่น่ะ แล้วทำไมตอนนั้นเขายังเรียกชื่อเธออยู่เลยล่ะ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าไปรู้จักเขาตอนไหน 

    เริ่มจากเดินตามทางที่ปูไปด้วยกระเบื้องดินเผาสีแดงสดตรงไปยังห้องสีขาวที่มีเปียโนวางตั้งสง่าอยู่ มือน้อยๆกุมหัวใจที่ค่อยๆเต้นถี่เป็นจังหวะที่ขับคลอไปตามเสียงเปียโนที่ถูกบรรเลงขึ้นทันใด หลับตาพริ้ม ฟังทำนองเพลงหวานที่ดังกังวานไปทั่ว

    ...งดงามจริงๆ...

    ดวงตาคู่งามกวาดเข้าไปในห้องสีขาวโพลนราวกับเกล็ดหิมะบริสุทธิ์ แล้วสายตาเลื่อนไปหยุดอยู่ที่ชายหนุ่มผมสีเงินยวงดุจพระจันทร์

    ...ในที่สุดก็ได้เจอกับตัวโน้ตที่หายไปจนได้ ดีจังที่เขายังมีชีวิตอยู่ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีตัวโน้ตตัวไหนซึ้งตรึงใจได้เท่านี้อีกแล้ว...

    หัวใจเต้นระรัวไปกับจังหวะที่หนักแน่นของบทเพลงที่เขาบรรเลง รู้สึกเจ็บจนเรียกน้ำตาให้ไหลริน เธอจำต้องกะพริบตาปริบๆขับไล่น้ำตาออกไป ดันไปสะดุดใจกับชายหนุ่มที่เดินปรี่ตรงเข้ามาหาโดยฉับพลัน ดวงตาเรียวคมที่ดึงดูด ให้ถลำลึกลงไปภายใต้ท้องทะเลสีครามนั้น ทั้งสองจ้องตากันนิ่ง คราวนี้เธอไม่คิดที่จะหนีไปไหนอีกแล้ว ต้องพูดคุยกับเขาให้รู้เรื่อง

    เอ่อ ...สวัสดีค่ะ” แพตตี้ส่งยิ้มหวานแก้ขัดเขิน ชายหนุ่มวางมาดนิ่งเฉย เผยอยิ้มที่มุมปาก หากกลับรู้สึกได้ว่าเขาประหม่าอยู่ลึกๆ

    ไม่หนีไปแล้วเหรอชายหนุ่มแสร้งพูดติดตลก

    หือ?” เด็กสาวยืนอยู่ตรงประตูกะพริบตาปริบๆ แล้วนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคราวก่อนฉันวิ่งหนีเขาหัวซุกหัวซุน เอ่อ ...ตอนนั้นที่เสียมารยาทต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะ

    ฮ่ะๆๆ ไม่เป็นไรๆ ฉันเองก็ทำให้เธอตกใจอยู่เหมือนกันสิน่ะท่วงท่าที่เป็นกันเองเช่นนี้ ช่างต่างจากกุญแจฟาเสียเหลือเกิน

    ตอนนี้เธอคงจำผมได้แล้วสิน่ะ

    อือถึงจะไม่แน่ใจก็ตามว่าไปรู้จักเขาตอนไหนก็ตาม คุณชื่อ ...กุญแจซอลใช่ไหมคะ?”

    ดีจังที่เธอจำได้ นึกว่าจะลืมฉันไปซ่ะแล้วกุญแจซอลเกาแก้มแก้ขัดเขิน ลักยิ้มเล็กๆผุดที่มุมปาก จนคนมองยังอดยิ้มให้ไม่ได้

     

    แพตตี้เสียงคนสองคนเรียกชื่อเธอพร้อมกัน ทำเอาเธอต้องส่ายหน้าเป็นพัดลมไปเลย พอหันไปมองตามเสียงที่แทรกมาทีหลัง ก็ได้พบกับรัสตี้ยืนทำหน้างงๆเป็นไก่ตาแตก และมองมาด้วยแววตาระคนสงสัย

    เธอมาทำอะไรที่นี่น๊ะรัสตี้เอ่ยถาม

    ก็มาหา...เพื่อนเธอตอบกลับไปพลางมองไปที่กุญแจซอล

    เพื่อนเหรอ?” รัสตี้ยังไม่ทันพูดจบก็มีเสียงเรียกเขาดังขัดมาเสียก่อน เขาจึงต้องขอถอนตัวออกไปเสียอย่างนั้น เธอจึงลอบถอนใจอย่างโล่งอก วางใจที่เขาไม่ได้ถามอะไรมาก


    คนๆนั้นเป็นใครเหรอกุญแจซอลเอ่ยถามขึ้น หลังจากที่ส่งสายตามองส่งรัสตี้ไปสิ้นสุดทางเดิน

    อ่อ ...รัสตี้เหรอ เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องที่เรียนด้วยกันมาน่ะ

    อืม ...เหรอ แล้วเธอไม่อยากรู้เหรอว่าเรารู้จักกันได้ยังไงกุญแจซอลเอ่ยถามในสิ่งที่ฉันอยากรู้เหมือนกัน ไม่เอาอ่ะ ไม่บอกดีกว่า ในไม่ช้าเธอคงได้รู้เองแหละ

    “...”


    ...แล้วนายจะกระตุ้นให้อยากรู้ทำไมมิทราบ... 

    เอาน่า อย่าอารมณ์เสียสิ เดี๋ยวผมเล่นเปียโนให้ฟังน่ะว่าแล้วชายหนุ่มก็ถือวิสาสะจูงมือเธอให้ไปนั่งข้างๆเขา ส่วนเขาก็วางมือลงบนแป้นเปียโนก่อนค่อยๆพรมนิ้วไปตามคีย์ต่างๆ เกิดเป็นบทเพลงที่หวานที่สุดเท่าที่เคยฟังเพลงบรรเลงมา ปลายนิ้วพริ้วไหวราวกับเต้นรำอยู่บนฟลอ ทำนองเพลงนั้นทำเอาเธอเคลิ้มจนเอนกายไปพิงไหล่เขา ชายหนุ่มอมยิ้มก่อนที่จะบรรจงจูบลาเบาๆที่หน้าผาก โดยไม่อยากให้หญิงสาวตื่นขึ้นมา แล้วเขาก็ปล่อยให้หญิงสาวหลับใหลอย่างเป็นสุขอยู่ตรงนั้น

    พรุ่งนี้ผมจะมาใหม่นะ แล้วพบกันอีกนะครับ แพตตี้”  
     

    **************

     

     

    อะไรกันเนี่ยนาย เมื่อวานนี้นายแอบกลับไปก่อนเหรอ ตลอดเลย” หญิงสาวถลึงตาใส่ชายหนุ่มที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไร นอกจากวาดลวดลายปลายนิ้วไปตามคีย์เกิดเป็นภาพเขียนที่งดงามภาพหนึ่งที่รังสรรค์โดยบทเพลงหนึ่ง

    “...”

    ใจร้ายสุดๆ ทิ้งให้ฉันนอนอยู่อย่างนั้นคนเดียวทุกครั้งได้ไงเธอเบนหน้าหนี ทำแก้มป่อง จนกุญแจซอลต้องกระทุ้งเข้าที่แก้มจนเธอพรวดลมออกมา

    ปู้ดดด  ด ด …

    ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย

    ฮ่าๆ ๆๆ

    แล้วนี่นายจะหัวเราะอีกนานไหมฮ่ะ

    ฮ่าๆๆ ๆๆ ก็มันขำนี่นากุญแจซอลหัวเราะจนน้ำตาเล็ดน้ำตาร่วง เธอมักจะมาที่โรงพยาบาลแทบจะทุกวันเลย เพื่อที่จะมาหาชายหนุ่มผมสีเงินคนนี้ คนที่เพิ่งจะรู้จักกัน แต่กลับรู้สึกเหมือนสนิทกันมานานแสนนาน
      

    อีกไม่นานแล้ว จะถึงวันเกิดน้องมีลา นายรู้เปล่าว่าน้องเขานะคิดถึงนายมากเลยพอเธอพูด เขาก็ดูเหมือนจะนิ่งเงียบไป ดนตรีหยุดชะงัก เกิดเป็นความวังเวงที่น่าพรั่งพรึง

    “...”

    นายไม่คิดที่จะหาอะไรเป็นของขวัญน้องเขาหน่อยเหรอ

    “...”

    ถ้านายคิดไม่ออก แต่งเพลงไปให้น้องเขาดีไหมล่ะ

    แล้วจะทำอย่างไรได้ล่ะ ในเมื่อ...เป็นแบบนี้น่ะกุญแจซอลมีสีหน้าเศร้าลงเล็กน้อย จนเธอรู้สึกสงสารเขาจับใจ ก็เลยต้องหาทางช่วยให้เขาสามารถสื่อสารกับน้องสาวให้ได้ 

    เอางี้ไหมล่ะ ...นายสอนฉันเล่นเปียโนสิ แล้วฉันจะเล่นเพลงที่นายแต่งไปให้น้องมีลาเป็นของขวัญเพราะน้องมีลาต้องรู้ได้ทันทีแน่ๆ ว่าเป็นเพลงของพี่ชาย

    อืม ขอบใจน่ะ ยิ้มจินับตั้งแต่นั้นมา เธอก็ต้องไปฝึกเล่นเปียโนทุกๆวัน ก่อนจะถึงวันเกิดมีลา เพื่อที่จะได้นำไปเป็นของขวัญวันเกิดให้น้องเขาได้ เป็นสิ่งที่พี่ชายจะสามารถทำให้น้องสาวได้ก็คงมีเพียงเท่านี้ล่ะ ...

     

    29 กุมภาพันธ์ 2012

    น้องมีลา สุขสันต์วันเกิดนะคะเธอไปที่คฤหาสถ์ของบ้านน้องมีลา ที่น้องเขาเขียนการ์ดเชิญไปร่วมงานวันเกิดด้วยมือตัวเอง ช่างเป็นภาพวาดที่น่ารักจริงๆ

    ขอบคุณนะคะพี่สาวที่มางานวันเกิดของมีลารู้จักขอบคุณเสียด้วยช่างน่ารักจริงๆ อยากมีน้องสาวน่ารักๆแบบนี้จัง ช่างต่างจากเจ้าน้องชายตัวแสบที่บ้านราวกับนางฟ้ากับซาตาน

    พี่มีของขวัญจะให้น้องมีลาด้วยนะ แต่ก่อนอื่น ขอยืมเปียโนหน่อยสิค่ะมีลาพาเธอเดินขึ้นบันไดไปชั้นสอง ตรงห้องริมสุดทางเดิน เปิดประตูเข้าไปก็พบกับเปียโนหลังหนึ่งตั้งไว้อยู่ เธอเข้าไปก็เห็นฝุ่นเกาะจับอยู่เต็มไปหมด เหมือนห้องนี่ไม่ได้ถูกใช้มานานแล้ว

    นี่เป็นห้องส่วนตัวของพี่ตัวซอลค่ะมีลายิ้มหวาน ใสซื่อมาให้ อวดตัวพี่ชายด้วยท่าทางที่น่าภูมิใจสุดๆ เธอคงไม่รู้สินะว่าพี่ชายของเธอก็ได้มายืนอยู่ ณ ห้องนี้ด้วยแล้ว ตอนนี้เขากำลังก้มลงมองน้องสาวด้วยสายตาล่องลอย แล้วเงยหน้ามาหาเธอ ส่งเสียงกระซิบเบาๆที่ความจริงก็ไม่จำเป็นเสียหน่อย เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีใครมองเห็นอยู่แล้ว

    (มัวแต่เหม่อยู่นั่นแหละ ...เริ่มเล่นได้แล้ว เดี๋ยวก็ผิดสังเกตุหรอก มีลายิ่งฉลาดๆอยู่)

    เธอรื้อผ้าที่คลุมเปียโน จนฝุ่นคลุ้งกระจายไปหมด

    ค่อกแค่กๆ ๆ ๆ

    เมื่อจัดแจงได้ที่แล้ว เธอก็นั่งลงอยู่หน้าเปียโน สูดลมหายใจลึกๆ มือบางพรมลงไปบนคีย์ ปลายนิ้วริ้วไล้ไปตามตัวโน้ตที่มีพรายกระซิบบอกอยู่ข้างๆ และสิ่งที่กุญแจซอลสอนมาอย่างดี ทำให้เธอชำนาญมากขึ้น

    อู้วว วว ..ว้าว ...มีลาหลับตาพริ้ม สัมผัสได้ถึงเสียงตัวโน้ตอันหวานซึ้งที่เหมือนกับที่พี่ตัวซอลเคยเล่นให้ฟังครั้งยังมีลมหายใจอยู่ ไม่ผิดเพี้ยน เรียกเอาน้ำตาไหลรินอาบแก้มชมพูของหนูน้อย เพราะความคิดถึงพี่ชายจับใจ

    (มีลา ...รอพี่ก่อนนะแล้วพี่จะกลับมาหาเราแน่นอน แล้วก็สุขสันต์วันเกิดน่ะ)

    กุญแจซอลย่อตัวลงไปเทียบเท่ากับมีลา แล้วจ้องมองด้วยแววตาเศร้าๆ ทั้งๆที่ทำอะไรไม่ได้เลย ราวกับมีลาได้สัมผัสในสิ่งที่พี่ชายพูด เธอจึงตอบรับเสียงที่มาจากหัวใจดวงน้อยๆ เป็นความรู้สึกที่สัมผัสได้ เพียงแต่ไม่มีใครได้ยิน คงเหมือนกับตัวเธอที่มีประสาทสัมผัสพิเศษแบบนี้ ทำให้สามารถมองเห็นและได้ยินในสิ่งที่พวกเขาไม่อาจสื่อถึงกันได้ เธอมองเห็นทุกอริยาบถที่พวกเขาทำ


    พี่จ๋า ...ทำนองเพลงหยุดลงอย่างนิ่มนวล เธอมองสองพี่น้องสลับกันไปมา อดที่จะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้

    พี่แพตตี้ มีลาได้เจอกับพี่ตัวซอลด้วยแหละ ด้วยเพลงของพี่ ขอบคุณจริงๆนะคะสำหรับของขวัญชิ้นนี้ ดีที่สุดเท่าที่เคยได้รับมาเลยค่ะมีลาพูดจบก็ออกจากห้องไปตามเสียงเรียกของเพื่อนๆรุ่นราวคราวเดียวกันที่ตะโกนโวกเวกผ่านอากาศมา 

    ดีจังเลยเนอะ...เธอพูดกับคนข้างๆที่มีน้ำตาเอ่อคลอเบ้า พอได้ยินที่เธอพูดก็รู้สึกหน้าแดงซ๋าน รีบปาดน้ำตาทิ้งโดยเร็ว ปรี่เข้าไปบรรเลงเพลงหวานไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ เป็นเพลงที่ไม่มีวันจบ และยังคงตรึงอยู่ในหัวใจดวงนี้ตลอดกัลป์

    อืม อยากเป็นน้องสาวผมไหมล่ะกุญแจซอลยังไม่วางมือออกจากแป้นเปียโน เขาหลับตาพริ้มเล่นอย่างชำนาญขนาดไม่ต้องดูโน้ตเลยด้วยซ้ำ

    อืม ...

    เสียใจด้วยน่ะ เพราะน้องฉันมีแค่คนเดียว และก็คือ ...มีลาเท่านั้น” กุญแจซอลพูดขึ้นโดยไม่หันหน้ามามอง มือยังคงเป็นระวิงกับเปียโนเบื้องหน้า แพตตี้เบ้ปากออกอาการมั่นไส้คนข้างๆ ก็ไม่ได้อยากเป็นน้องนายจริงๆสักหน่อย พลางเหม่อมองด้านข้างของเขาด้วยแววตาคาดหวังมากกว่านั้น

    (เพราะฉันอยากเป็นคนสำคัญของเธอมากกว่านั้น)

    "เมื่อกี้นายว่าอะไรตัวซอล" กุญแจซอลพึมพำๆอะไรก็ไม่รู้ จนได้ยินที่เขาพูดไม่ค่อยถนัด

    "เปล่านี่ ...ไม่มีอะไร" 
     

    เหรอ ...แล้วนายเกิดเมื่อไหร่เหรอ

    เธออยากรู้จริงๆเหรอ

    อืม ...

    เกิดวันที่ 32 ธันวาคมน่ะ ...เธออยากจะให้ของขวัญฉันหรือไงกุญแจซอลหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง แต่เธอกลับรู้สึกตงิดๆ มีอะไรแปลกๆไป

    32 ธันวาคม ???

    ....เดือนนี้มันมีแค่ 31 วันไม่ใช่เหรอ....

    นายเกิดวันที่เท่าไหร่นะครั้นสงสัยจึงถามไป กลัวว่าอาจจะฟังผิดพลาด กุญแจซอลเอนตัวพิงโซฟาภายในห้องแล้วตอบกลับมาด้วยท่าทางที่สบายๆ

    32 ธันวาคม

    สามสิบสอง ??? เดือนนี้มันมีแค่ 31 เองน่ะ ไม่สิ ไม่ว่าเดือนๆไหน ก็มีไม่เกินสามสิบสองแน่ๆ นายมั่วหรือเปล่าเนี่ย ถ้าจะมาหลอกฉันล่ะก็ ขอที่มันเนียนๆกว่านี้หน่อยน่ะกุญแจซอลหันมามองด้วยแววตาที่จริงจัง และท่าทีที่ไม่สะทกสะท้าน ทำให้เชื่อมั่นว่าเขาไม่ได้พูดอะไรผิดไป เขาเผยอยิ้มออกมา และทอดสายตามองมาเพื่อที่จะสื่ออะไรบางอย่างให้ได้รู้ 

    32 นี่แหละ ถูกแล้ว

    “...”

    ในไม่ช้า เธอก็คงเข้าใจในสิ่งที่ฉันต้องการจะบอกกับเธอเอง”   

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×