ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : พบเจอ
แสงแดดยามเช้าส่องผ่านเข้ามาทางกระจกใส ในห้องนอนห้องหนึ่ง ร่างๆหนึ่งนอนอยู่บนเตียงขยับตัวหนีแสงแดดที่ส่องเข้ามาแยงตาอย่างขัดใจที่เหมือนกับโดนขัดจังหวะเวลานอนของตน เสียงของนกน้อยที่เกาะอยู่ตรงกิ่งไม้หน้าห้องส่งเสียงใส ไพเราะน่าฟังราวกับบทเพลงแห่งรุ่งอรุณ เพื่อร้องให้กับเพลาเช้าอันสดใส และไม่นานก็มีเสียงเคาะประตูพร้อมกับเสียงเรียกดังขึ้นที่หน้าห้องนั้น
ก๊อกๆ
“คุณลุคครับตื่นรึยังครับ”เสียงใสดังขึ้น
“อะ...อืม”
ส่วนเจ้าของชื่อนั้นได้แต่ครางน้อยๆ บ่งบอกว่ากำลังรำคาญเสียงเรียกที่มาขัดจังหวะการนอนของตน และแสงแดดที่แยงตาของ ลุคขยับตัวเล็กน้อยจากนั้นก็นอนต่อ แต่เจ้าของเสียงใสๆที่เรียกลุคอยู่นั้นก็ไม่ละความพยายาม จึงจะมาปลุกให้ใกล้กว่าเดิม
“งั้นผมขอเข้าไปในห้องหน่อยนะครับคุณลุค”
“......”
“ผมเข้าไปแล้วนะครับ”
“......”
แอ๊ด!!
“คุณลุคครับ ตื่นเถอะครับเดี๋ยวเราจะไปบ้านคุณลุงราฟาเอลสายนะครับ คุณลุคครับตื่นเถอะครับ”
อินเดินเข้าไปเรียกลุคพลางทั้งเรียก และเขย่า แต่ลุคก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น จนเขาต้องถอนหายใจออกมา ร่างเพรียวไดแต่คิดในใจว่า คงต้องใช้วิธีอื่นปลุกสินะ ...
พลันคิดได้แล้วก็เสกสายฟ้าแล้วปล่อยใส่ร่างที่อยู่บนเตียงทันที
เปรี้ยง!!!
“อ้าก!!! ตื่นแล้วๆฉันตื่นแล้ว”คนที่โดนนั้น ได้แต่เด้งขึ้นมาจากเตียงโดยจำยอม เพราะหากโดนอีกทีคงต้องตัวชาเลยทีเดียว
“ครับ งั้นก็ไปอาบน้ำแต่งตัวซะนะครับพวกเราจะได้ไปบ้านท่านลุงราฟาเอลซักที”ตัวต้นเหตุนั้นได้ยิ้มให้พร้อมกับคำสั่งกำชับอีกหน
“อะ...อือ”
เมื่อได้ยินคำตอบแล้วอินก็เดินออกจากห้องไป แล้วทิ้งให้ลุคนั่งตกใจสายฟ้าที่ผ่าลงมาบนร่างของตัวเอง เขาจึงได้แต่คิดว่าตั้งแต่นี้เป็นต้นไปคงต้องระวังหนุ่มน้อยหน้าหวานคนนี้ซักหน่อยแล้ว
พอคิดได้ดังนั้นลุคก็รีบวิ่งไปอาบน้ำแต่งตัวทันที หลังจากที่จัดการตัวเองจนเสร็จแล้วเขาก็เดินลงไปหาอินที่ได้รอตนอยู่
“ไงครับคุณลุค หลับสบายดีรึเปล่าครับ”
“อืมนะ ... ถ้าไม่นับสายฟ้าเมื่อกี้”
“ฮะๆครับ งั้นเราไปทานอาหารเช้ากันดีกว่าครับ คุณคงจะหิวแล้ว”
“อืม”
ลุคเห็นอาหารที่บรรยายออกมาแล้วมันดูแปลกตามากๆ ลักษณะมันเหมือนข้าวต้มแต่มันดูเละๆเหลวคล้ายๆกับอ้วก แถมยังมีสีเหลืองๆอีก เห็นแล้วรู้สึกไม่อยากจะเตะอาหารข้างหน้าหน้าเลย เขาจึงถามหนุ่มหน้าหวาน
“อ้อ ขอโทษนะครับ นี่คืออะไรหรือครับคุณอิน”เขาพูดพลางเหลือบตามองสิ่งที่เชิงจะไม่เหมือนอาหาร
“หืม? มันคือข้าวต้มผสมกับฝักทองครับ ถึงหน้าตามันดูชวนแหวะขนาดไหนก็ตาม แต่ว่ารสชาติดีทีเดียวนะครับ”
“อา ... งั้นเหรอครับ”
“ฮะๆ ลองทานดูก่อนเถอะครับ”
“อืม ...”
จากนั้นลุคก็ตักข้าวต้มหน้าตาชวนแหวะขึ้นมาแล้วกลั้นใจเอาข้าวต้มเข้าปาก ซึ้งมันก็จริงอย่างที่อินพูดถึงหน้าตาจะไม่น่าพิสมัยนักแต่มันก็อร่อยใช้ได้เลย หลังจากนั้นเขาก็ไม่เกี่ยงเรื่องหน้าตาอีกต่อไป และได้ก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มตรงหน้าจนหมด
หลังจากทานอาหารเช้ากันเสร็จแล้ว ทั้งสองก็ออกเดินทางทันที อินบอกกับลุคว่าบ้านของคุณลุงที่ชื่อ ราฟาเอล อยู่จากที่นี่ไปไม่ไกลนักเดินทาง สองถึงสามชั่วโมงก็ถึง และแล้วตอนนี้ทั้งลุคแล้วก็อินมายืนอยู่ตรงหน้าทางเข้าของบ้านคนที่หนุ่มหน้าหวานได้เรียกว่า ท่านลุงราฟาเอล แล้ว
“ว่าไงอิน ในที่สุดเจ้าก็มาลุงคิดถึงเจ้ามากๆเลย วันนี้เจ้าก็ยังน่ารักเหมือนเดิมเลย”
“ฮะๆ ครับท่านลุง”เสียงใสตอบคำกล่าวทักทาย
“แล้วเด็กนั่นใครเรอะ” ราฟาเอลพูดขึ้นมาพลางมองไปทางลุค ที่ได้ยืนอยู่หลังอิน
ชายหนุ่มจ้องมองไปที่ลุคที่ยืนมองตน และอินอยู่ห่างๆ ด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็นเด็กหนุ่มนั้นเห็นราฟาเอลมองมาก็ก้มหัวลงเป็นเชิงทักทาย และเคารพผู้ใหญ่ไปในคราวเดียวกัน
“อ้อ เขาชื่อ ลุค ครับ ผมเจอเขาในหมดสติอยู่ในป่าก็เลยพามาอยู่ที่บ้านด้วยกันน่ะครับ”
“งั้นหรอกรึ ก่อนหน้านี้ฉันก็เจอเด็กคนหนึ่งร่วงลงมาจากฟ้า ก็เลยรับเค้ามาเป็นลูกอีกคนแต่ดูจะไม่ค่อยถูกชะตากันกับไคน์ลูกของข้าซักเท่าไหร่”
พอราฟาเอลพูดจบก็มีร่างๆหนึ่งวิ่งมาจากข้างในตัวบ้าน ร่างนั้นชะงักไปเมื่อเห็นลุค ส่วนลุคเองนั้นก็ตกใจจนแข็งค้างที่เห็น เด็กหนุ่มทั้งสองที่ได้ค้างอยู่ด้วยกันนั้นร้องตะโกนพลางเหมือนการประสานเสียงออกมา
“ลุค!!!/อัลเฟ่!!!”ทั้งสองได้เรียกชื่อของกันและกัน
ราฟาเอล และอิน ได้แต่พากันสะดุ้งทันทีที่ทั้งสองร้องเรียกชื่อของแต่ละคนออกมาเสียงดัง จนคนที่อยู่ในบ้านพูดให้ถูกเลยก็ คือคฤหาสน์วิ่งออกมาดูว่ามีอะไรเกิดขึ้น
“ลุค นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงฉันคิดว่ามีแค่ฉันคนเดียวซะอีกที่ถูกดูดมาที่นี่”
“ฉันตามหานายไปทั่วเมืองคีออสแต่ก็ไม่เจอนายทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ”
หลังจากได้ถามไถ่เรื่องราวกันนั้น ทั้งสองคนมองหน้ากันซักพักจากนั้นก็วิ่งเข้าไปกอดกันราวกับไม่ได้เห็นหน้ากันมาซักปีสองปี ลุคและอัลเฟ่รู้สึกสบายใจทันทีที่เจอคนที่ตนรู้จัก และอยู่ๆก็มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้นมา
“เสียงดังกันซะจริง หนวกหูน่ารำคาญ”เสียงเย็นๆเสียงหนึ่งดังขึ้นที่รั้วบ้าน
อินยิ้มให้เจ้าของเสียงที่ขัดขึ้นมาแล้วได้กล่าวทักทาย
“สวัสดีครับ คุณไคน์ไม่ไดเจอกันซะนานเลย”
“อืม”คนถูกทักตอบอย่างไม่ค่อยจะใส่ใจนัก
การทักทายจบลงแค่นั้น แล้วทั้งสองก็เงียบไป อัลเฟ่มองหน้าไคน์อย่างฉุนๆ เพราะตนรู้สึกไม่ถูกชะตากับไคน์ เพราะลักษณะท่าทางที่เย็นชานั้นตั้งแต่แรกเห็น และคำพูดที่เฉือดเฉือนใจนั่นอีกมันทำให้เค้ารู้สึกหงุดหงิด ราฟาเอลนั้นรู้สึกได้ถึงเรื่องของทั้งสองคนนี่ที่มักทะเลาะกันเป็นประจำ และรู้ว่าคราวนี้อาจจะได้มีการโต้วาทีกันอีกเป็นแน่แท้นั้น เลยร้องห้ามออกมา
“ไคน์ อัลเฟ่ ตอนนี้มีแขกพวก เจ้าอย่าเพิ่งตีกันเลยพ่อขอล่ะ”
“.......”ทั้งสองคนที่เตรียมจะทะเลาะกันนั้น เมื่อได้ฟังคำขอ จึงได้แต่กลืนคำที่พูดออกมาลงคอทันที
เด็กหนุ่มคู่กัดทั้งสองมองผู้เป็นพ่อ พลางเงียบอยู่อย่างเดิม ราฟาเอลยิ้มออกมาอย่างพอใจที่ตนห้ามทัพได้แล้ว จึงได้ถามสิ่งที่สงสัยออกไป
“ลุค กับ อัลเฟ่ รู้จักกันมาก่อนอย่างนั้นรึ อย่างนั้นก็แปลว่าพวกเจ้าเป็นเพื่อนกันสินะ”
ทั้งสองพยักหน้าให้แทนคำตอบ ส่วนไคน์ก็มอง อัลเฟ่อย่างแกมเขม่นพลางคิดในใจว่า อีกคนคงไม่ใช้ตัวปัญหาอย่าเจ้าอัลเฟ่หรอกนะ
กว่าเขาจะสอนให้ใช้เวทให้เด็กหนุ่มคู่กัดร่างบางได้เล่นเอา เขาเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่น่าแปลกที่เด็กนั่นจะใช้เวทย์แสงแล้วก็เวทย์มนต์ดำได้ ชักมีอะไรไม่ชอบมาพากลซะแล้ว พลันความคิดนั้นก็จบลงแต่เพียงเท่านี้ หากแต่มันก็ยังคงคลุกกรุ่นอยู่ในใจของเด็กหนุ่มต่อไป จากนั้นไคน์ก็เดินเข้าบ้านไป ทิ้งให้พ่อของตนอยู่กับแขกต่อไป
APPLEPIE ★
APPLEPIE ★
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น