ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Knock Knock ลองมีรักดูสักที

    ลำดับตอนที่ #5 : EP.5 ที่แท้ก็ก็แค่พี่-น้อง

    • อัปเดตล่าสุด 17 ส.ค. 58


    ร้านเบเกอรี่ที่ตั้งอยู่เบื้องหน้าของสาวหล่อร่างสูงดูคุ้นๆตาเขาอยู่บ้างแต่เขาก็จำไม่ได้ว่าคุ้นตาจากที่ไหน จะว่าไปแล้วจากตรงนี้ไปถึงมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้ห่างกันมากนัก แต่เนื่องด้วยย่านนี้เป็นย่านธุรกิจเขาจึงไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องมาแถวนี้ แต่ก็อีกนั่นแหละ...เขาไปคุ้นตาร้านเบเกอรี่ร้านนี้มาจากที่ไหนกัน

     

    คุณแม่ขา สวัสดีค่ะ... เสียงหวานทำให้สาวหล่อหยุดความคิดที่กำลังตบตีกันอยู่ภายใต้สมองอันชาญฉลาดของเขาแล้วหันไปสนใจสิ่งที่เธอพูดกับเจ้าของร้านสาว คุณแม่ อย่างนั้นเหรอ

     

    พี่เมี่ยง เสียงหวานหันมาเรียกเขา เมี่ยงเดินตามเสียงเรียกไปหยุดอยู่เบื้องหน้าผู้เป็นมารดาของรุ่นน้องสาว ก่อนที่รุ่นน้องหน้าหวานจะพูดต่อ นี่คุณแม่ของกี้เองค่ะสิ้นเสียงรุ่นน้องหน้าหวาน สาวหล่อก็รีบยกมือขึ้นมาไหว้หญิงอาวุโสกว่าอย่างนอบน้อม

     

    สวัสดีค่ะ เขากล่าวสั้นๆ

     

    สวัสดีจ๊ะ คุณแม่ของคุ้กกี้รับไหว้ ก่อนจะหันไปคุยกับลูกสาว แล้วนี่พี่ฟ่อนไม่กลับมาพร้อมกันเหรอลูก

    วันนี้พี่ฟ่อนมีประชุมกรรมการชมรมถ่ายภาพค่าคุณแม่ คงกลับตอนค่ำๆโน่นล่ะค่ะ เสียงเล็กตอบกลับอย่างออดอ้อน ก่อนจะพูดต่อ นี่พี่เมี่ยงก็เป็นเพื่อนพี่ฟ่อนนะคะ แล้วก็เป็นพี่รหัสน้องกี้ด้วย

     

    การสนทนาระหว่างสองแม่ลูกเมี่ยงได้ยินทุกประโยคเพราะเขาเองยังยืนอยู่ข้างๆคุ้กกี้ มันหมายความว่ายังไงกันแน่...ชิฟฟ่อนเพื่อนของเขาอยู่ที่นี่ หรือเป็นเพราะว่าชิฟฟ่อนมาส่งคุ้กกี้ทุกวันจึงทำให้ชิฟฟ่อนสนิทกับคุณแม่ของรุ่นน้องสาว ถ้าเปิดตัวกันขนาดนี้แล้วทำไมรุ่นน้องสาวถึงยังทำเหมือนกับให้ความหวังเขาอย่างนั้น ตั้งแต่ก้าวแรกที่เขาย่างเข้าร้านเบเกอรี่ร้านนี้ก็มีแต่เรื่องให้เขาต้องคิด นี่มันเป็นเรื่องอะไรกันแน่...

     

     

    เป็นเพื่อนฟ่อนเหมือนกันเหรอลูก ไม่เห็นเจ้าฟ่อนพามาทานขนมที่ร้านเลย คุณแม่ของรุ่นน้องหันมาพูดกับเขา

     

    อ่อ..ฮะ..อืม..ค่ะ หนูเป็นเพื่อนกับฟ่อนตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วค่ะ ด้วยเพราะว่ายังตั้งตัวไม่ติด มึนงง และอะไรๆมากมายจึงทำให้สาวหล่อผู้มาดมั่นดูต่างไปจากทุกที

     

    พูดตามสบายเถอะจ้า แม่ชินกับเจ้าฟ่อนแล้วล่ะ รายนั้นนะทั้งคับ ทั้งฮะ อะไรให้ปวดหัวไปหมด เจ้าของร้านเบเกอรี่พูดอย่างอารมณ์ดี เธอรับได้กับทุกสิ่งที่ลูกเป็นขอแค่เป็นคนดีก็พอ

     

    คุณแม่ขา ถ้าอย่างนั้นน้องกี้ขอขึ้นไปเปลี่ยนชุดก่อนนะเจ้าคะ คุ้กกี้หอมแก้มมารดาฟอดใหญ่ก่อนจะเดินขึ้นบันไดแต่ก่อนที่เธอจะก้าวเท้าเธอก็หันกลับมาหารุ่นพี่สาวหล่อเพื่อบอกว่า ตามสบายนะคะพี่เมี่ยง เดี๋ยวกี้มาค่ะ ร่างบางเจ้าของประโยคเมื่อครู่จะรู้บ้างหรือเปล่า...การทำหน้าตาแบบนั้นมันทำให้รุ่นพี่มาดนิ่งอย่างเมี่ยงหัวใจละลาย

     

    เมี่ยงไปนั่งรอน้องที่โซฟาก็ได้ลูก เดี๋ยวน้าเอาเค้กไปให้...เอ เมี่ยงชอบเค้กอะไรล่ะลูก

     

    อ้อ..เอ่อ...อะไรก็ได้ค่ะ สาวหล่อที่มัวแต่มองคนตัวเล็กเดินขึ้นชั้นบนของบ้านตอบกลับไปตะกุกตะกัก

     

    ได้จ๊ะ เดี๋ยวน้าเอาไปให้นะ ไปนั่งตามสบายเถอะลูก พูดจบเจ้าของร้านเบเกอรี่ก็หมุนตัวกลับไปทำอะไรๆที่เธอทำค้างเอาไว้ ส่วนผู้มาเยือนก็เดินไปนั่งอยู่ตรงโซฟาทรงโมเดิลสีครีมตรงหน้าเคาน์เตอร์

     

    แม้ว่าในมือหนาของสาวหล่อจะมีหนังสือแต่งบ้านชื่อดังอยู่ ดวงตาคู่คมจะมองมายังหนังสือแต่งบ้านเล่มนั้นแต่จิตใจของเขากลับไม่ได้สนใจอยู่กับสิ่งที่อยู่ในมือหรือสิ่งที่ตามองอยู่เลยแม้แต่นิด ตกลงว่าฟ่อนกับน้องคุ้กกี้เป็นอะไรกันแน่ นั่นคือสิ่งที่เขาคิดมันวนไปวนมา

     

    เมี่ยงเริ่มลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่วันแรกที่เขาได้เจอเพื่อนรักอยู่กับรุ่นน้องที่ชื่อคุ้กกี้ เพื่อนรักของเขาไม่เคยพูดออกมาอย่างชัดเจนว่าเขากับคนหน้าหวานเป็นอะไรกัน แต่เพราะความสนิทสนมของทั้งคู่ทำให้เขาคิดอะไรๆไปเองอย่างนั้นเหรอ แต่ถ้าไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วทำไมเพื่อนรักของเขาจะต้องหวงรุ่นน้องหน้าหวานยิ่งกว่าอะไร ทำไมคนทั้งสองต้องไปเรียนและกลับบ้านพร้อมกัน ทั้งที่บ้านก็ยังรับรู้อีกด้วย

     

    ปึก...เพล้ง....เสียงของจานขนมเค้กหล่นลงพื้นเมื่อมือหนาของสาวหล่อที่มัวแต่นั่งใจลอยปัดไปโดนทั้งยังทำให้ชาเขียวเย็นๆหกใส่ตัวเองเสียอีก...ดังนั้นร่างสูงจึงเปียกชุ่มไปด้วยน้ำเขียวๆของชาเขียวเย็นๆของโปรดของตัวเอง

     

    ขอโทษครับ ขอโทษครับ... ร่างสูงพูดอะไรไม่ได้มากนักเมื่อเขาเป็นคนที่ผิดเสียเอง ดันนั่งใจลอยคิดไรไปเรื่อยเปื่อย ส่วนมือนั้นก็ไม่ยอมอยู่สุขไปปัดโน่นปัดนี่ซะหล่นแตกหมด

     

    ไม่เป็นไรค่ะพี่เมี่ยง...อุ้ยพี่เมี่ยงเลอะหมดเลย กลายเป็นเสียงหวานๆของรุ่นน้องแทนน้าสาวเจ้าของร้านเบเกอรี่ คุ้กกี้นั่นเองคือคนที่เอาขนมเค้กและชาเขียวมาให้เขา

     

    เอ่อ...ขอโทษนะครับกี้ พอดีพี่นั่งคิดไรเยอะแยะไปหมดเลยไม่รู้ว่ากี้... ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ เสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้น

     

    คุ้กกี้พาพี่เมี่ยงไปล้างตัวสิคะ

     

    ค่ะคุณแม่ เสียงหวานตอบกลับไป ทั้งยังเดินนำให้คนตัวเปียกชาเขียวเดินตาม

     

    เดี๋ยวหนูเอาเสื้อผ้าพี่ฟ่อนให้พี่เมี่ยงเปลี่ยนไปก่อนก็ได้นะลูก ถ้ารายนั้นกลับมาแม่จะบอกเค้าเอง น้าสาวเจ้าของร้านพูดต่อเมื่อลูกสาวคนสวยเดินนำหน้าคนตัวเปียกมาหยุดอยู่ตรงเคาน์เตอร์

     

    เอ่อ..ไม่เป็นไรฮะคุณน้า ไม่ได้เลอะอะไรมากอีกอย่างก็เป็นความผิดเมี่ยงเองด้วย

     

    เอาน่าๆ เจ้าฟ่อนไม่หวงเสื้อผ้าหรอก เปลี่ยนไปเถอะกว่าจะกลับมีหวังมดเดินตามเป็นแถวแน่ๆ น้าสาวเจ้าของร้านแซวร่างสูงอย่างอารมณ์ดี ทำเอาคนโดนแซวถึงกับหน้าแดงที่มาครั้งแรกก็มาสร้างวีรกรรมเปิ่นๆเสียแล้ว

     

    ห้องพี่ฟ่อนอยู่ชั้นสามค่ะพี่เมี่ยง เดี๋ยวกี้พาไปนะคะ ความงงทวีคูณขึ้นมาในหัวที่ตอนนี้ทั้งงง ทั้งอาย

     

    บานประตูที่ด้านหน้ามีป้ายผ้าทีมฟุตบอลทีมโปรดของเพื่อนรักติดอยู่ถูกเปิดออกโดยมือเรียวๆของคนที่พาขึ้นมา ภายในห้องตกแต่งเอาไว้ด้วยโทนสีเรียบๆเฟอร์นิเจอร์ถูกจัดวางไว้อย่างเหมาะสมจะมีก็แต่เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้เท่านั้นที่วางอยู่ระเกะระกะบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเจ้าของห้องเป็นคนนิสัยอย่างไร

     

    ห้องน้ำอยู่ด้านโน้นค่ะ พี่เมี่ยงไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวกี้หาชุดไว้ให้...นะคะ

     

    ครับ ขอบคุณนะ พูดจบแค่นั้นร่างสูงก็เดินหายวับเข้าไปในห้องน้ำตามที่รุ่นน้องสาวหน้าหวานบอก

     

    น้ำเย็นๆจากฝักบัวที่ไหลรดรินผิวกายของสาวหล่อไม่สามารถทำให้คนใจร้อนใจเย็นลงได้ หากเขามองไม่ผิดภายในห้องมีรูปถ่ายอยู่เต็มไปหมดและแต่ละรูปก็มักจะมีเจ้าของห้องและคุ้กกี้รวมอยู่ในนั้นด้วย ในเมื่อใจมันร้อนเสียจนแทบจะทนไม่ไหวเมี่ยงจึงรีบชำระล้างร่างกายเพื่อที่จะออกมาดูภาพถ่ายทั้งหมดชัดๆสักที หวังว่าตอนนี้คนที่นำทางมาคงจะออกจากห้องไปแล้ว เพราะไม่อย่างนั้นคงต้องได้เห็นอะไรๆของเขาแน่ๆ

     

    เป็นจริงอย่างที่คิดเมื่อร่างสูงออกจากห้องน้ำมาก็พบว่าตอนนี้ภายในห้องไม่หลงเหลือใครเอาไว้สักคน มีเพียงเสียงเพลงที่เปิดดังอยู่ด้านนอกที่เขาเห็นเป็นมุมนั่งเล่นน่ารักๆ เมี่ยงรีบจัดแจงแต่งตัวอย่างรวดเร็วและตรงไปยังภาพถ่ายใบใหญ่ที่ถูกใส่กรอบเอาไว้อย่างสวยงามบนผนังห้องสีเรียบ คนในภาพมีอยู่ด้วยกันสามคน คือ ชิฟฟ่อน คุณน้าเจ้าของร้าน และคุ้กกี้ ดูท่าทางแล้วภาพนี้น่าถ่ายมาได้หลายปีแล้วเพราะคนตัวเล็กที่สุดของภาพยังอยู่ในเครื่องแบบมัธยม

     

    ตกลงมันยังไงกันวะเนี่ย เอ...รึว่าไอ้ฟ่อนจะเป็นพี่ของกี้ แล้วทำไมมันไม่ยอมบอกเราตรงๆวะ ร่างสูงจะพูดกับใครไปไม่ได้นอกจากพูดกับตัวเอง

     

    หรือว่า...ไอ้ฟ่อนกับน้องกี้จะคบกันมานานแล้ว ตั้งแต่ตอนน้องกี้ยังเรียน มอปลายอยู่ โอ้ยๆๆ คิดไม่ออกวุ้ย

     

    ก๊อกๆ เสียงของใครบางคนเคาะประตูห้อง

     

    พี่เมี่ยงเรียบร้อยแล้วเหรอคะ เสียงหวานๆถูกส่งมาจากหน้าประตู

     

    อ่ะ...คะ..ครับ ทำไมต้องมาเป็นคนพูดความจริงเอาเวลาอย่างนี้ก็ไม่รู้สิน่า เมี่ยงเอ้ยเมี่ยง

     

    รูปนั้นถ่ายตอนพี่ฟ่อนเข้าเรียน มหาลัยน่ะค่ะ ตอนนั้นกี้ยังอยู่ มอห้า อยู่เลย คนที่เพิ่งเข้ามาเริ่มบรรยายเกี่ยวกับภาพถ่ายที่ร่างสูงยืนดูอยู่

     

    อ้อ เมี่ยงพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินไปยังอีกภาพ แล้วนี่รูปใครเหรอครับ ด้วยความอยากรู้เมี่ยงจึงหยิบเอารูปเด็กผู้หญิงคนหนึ่งน่าตาจิ้มลิ้มน่ารักที่ข้างๆมีเด็กอีกคนที่ดูโตกว่ายืนอยู่

     

    นั่นก็กี้กับพี่เมี่ยงนี่แหละค่ะ

     

    สิ้นเสียงร่างสูงถึงกับฉีกยิ้มเมื่อได้รู้เสียทีว่าอะไรมันคืออะไร ไอ้เพื่อนตัวแสบทำให้กูคิดเอง เออเองอยู่ได้ สาวหล่อยืนฟังรุ่นน้องหน้าหวานเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ตั้งแต่สมัยที่เธอกับพี่สาวยังเด็กให้รุ่นพี่ฟัง นี่ถ้าไม่ได้ชาเขียวเย็นๆแก้วนั้นหกใส่จนตัวเปียกชุ่มล่ะก็...ต้องหักห้ามใจตัวเองจนเป็นบ้าแน่ๆเมี่ยงเอ้ย

     

    กี้ไม่ต้องบอกไอ้ฟ่อนมันนะ เรื่องที่กี้เล่าเรื่องตอนเด็กๆของมันให้พี่ฟังน่ะ ร่างสูงหันไปบอกคนตัวเล็กกว่า ตอนนี้เขามีแผนการแก้เผ็ดคนพี่ที่มาทำให้เขาเข้าใจอะไรผิดๆมาเสียนาน

     

    ทำไมคะ

     

    เดี๋ยวมันอาย เมี่ยงตอบสั้นๆก่อนจะเดินนำหน้าออกจากห้องนอนของเพื่อนรัก คราวนี้ล่ะแกได้กระอักเลือดแน่ชิฟฟ่อน

     

    นี่ก็เย็นมากแล้ว ยังไงเมี่ยงขอตัวกลับเลยนะฮะคุณแม่ ร่างสูงเปลี่ยนสรรพนามให้กับเจ้าของร้านเบเกอรี่ทันที จะทำไมล่ะในเมื่อตอนนี้เขาก็รู้อะไรๆแล้ว...แล้วทำไมเขาจะไม่เดินหน้าจีบลูกสาวของคุณแม่เจ้าของร้านเบเกอรี่ล่ะ แม้ว่าคนฟังจะนิ่วหน้าเพราะงงๆกับอาการแปลกๆของสาวหล่อแต่เธอก็พยักหน้ารับ

     

    ขับรถกลับดีๆล่ะลูก

     

    ฮะ สวัสดีฮะเมี่ยงพูดกับคุณแม่ของเพื่อนก่อนจะหันไปสบตากับรุ่นน้องสาวหน้าหวานที่ตอนนี้เขาไม่ต้องปิดกั้นความรู้สึกที่มีต่อเธออีกต่อไปแล้ว พี่กลับก่อนนะ

     

    เสื้อผ้าพี่เมี่ยง เดี๋ยวกี้ซักแล้วเอาไปให้ที่ มอ.นะคะ

     

    จ๊ะ แล้วเจอกันที่คณะพรุ่งนี้นะครับ แม้ว่าคำตอบของคนตัวสูงจะทำให้คุ้กกี้งงๆเล็กน้อยแต่ก็ชุ่มชื่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก

     

    - - - - -

     

    ร่างสูงขับเคลื่อนเจ้าสองล้อคู่ชีพออกไปไกลแล้วและมีรถยนต์คันคุ้นตาเคลื่อนมาจอดแทนที่ เจ้าของรถยนต์คันนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือพี่สาวที่เธอเห็นมาตั้งแต่เธอจำความได้

     

    เมื่อกี้ไอ้เมี่ยงนี่ มันมาทำไรอ่ะ คนพี่ซักเสียงเขียว นี่ถ้าพามาบ้านก็ไม่รู้จะมีอะไรยังไงอีก หรือว่าการที่เขาทำให้เพื่อนรักเข้าใจผิดยังไม่พอที่จะทำให้เพื่อนรักมายุ่งกับน้องสาวของเขา

     

    มากินเค้ก แล้วก็กินชาเขียวด้วย คุ้กกี้ตอบกลับอย่างอารมณ์ดีม้วนอายอย่างกับเขินอะไรสักอย่าง ก่อนจะเดินเข้าไปภายในร้าน ปล่อยให้พี่สาวยืนมองพฤติกรรมแปลกๆของน้องสาวที่เขาไม่เคยเห็น ก่อนที่จะเดินตามเข้าไปติดๆ

     

    กี้ขึ้นไปซักเสื้อของพี่เมี่ยงก่อนนะคะแม่สิ้นเสียงหวานๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาราวกับว่าตกใจกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน

     

    เสื้อไอ้เมี่ยงมาอยู่นี่ได้ไงยัยกี้ แล้วก็ต้องเป็นคุณนายเจ้าของร้านเบเกอรี่ที่ต้องตอบคำถามของลูกสาวคนโต เพราะคนถูกถามได้เดินตัวลอยขึ้นไปด้านบนเรียบร้อยแล้ว

     

    เมี่ยงเค้ามาส่งน้องคุ้กกี้ แม่ก็เลยให้เมี่ยงชิมเค้กกับชาเขียวฝีมือแม่ แต่ไม่ได้กินกลับเอาไปอาบซะอย่างนั้น

     

    แล้วให้ไอ้เมี่ยงไปอาบน้ำที่ห้องใคร เอาเสื้อผ้าใครใส่กลับ แล้ว... ลูกสาวคนโตทำท่าจะซักยาว ผู้เป็นแม่เลยตบที่โซฟาเป็นสัญญาณบอกให้เขามานั่งข้างๆ

     

    ก็ให้ใส่เสื้อชิฟฟ่อนกลับแหละลูก ส่วนอาบน้ำก็ต้องให้ไปอาบห้องชิฟฟ่อนสิ ให้ไปอาบห้องน้องได้ยังไง เพื่อนเราถ้าเปรียบไปแล้วก็เหมือนผู้ชายนั่นแหละ

     

    โถ่แม่อ๊ะ จะทำไรทำไมไม่บอกฟ่อนบ้างล่ะฮะ จะให้ว่าคนเป็นแม่ก็ไม่ได้ สาวหล่อจึงทำได้แค่โอดครวญ ไม่รู้ว่าเจ้าเพื่อนรักนั่นรู้อะไรๆไปหมดแล้วหรือยัง

     

    ที่ชั้นสองของร้านเบเกอรี่ภายในห้องสี่เหลี่ยมโทนสีชมพูอ่อนที่มีคุ้กกี้เป็นเจ้าของห้อง ร่างบางที่ถือเสื้อเชิ๊ตสีขาวของรุ่นพี่เอาไว้ในมือดวงตากลมโตมองเสื้อในมือนั่นราวกับว่าเสื้อนั้นคือคนร่างสูงที่เข้ามาทำให้หัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะทุกครั้งที่เข้าใกล้ กลิ่นน้ำหอมจางๆที่เสื้อยิ่งทำให้เธอมองเห็นภาพของรุ่นพี่ได้ชัดเจนมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นซ้าย ขวา หน้า หลัง มุมไหนเธอก็จำภาพเขาได้เป็นอย่างดี

     

    ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้ร่างบางต้องดึงสติที่หลุดลอยตามเจ้าของเสื้อเชิ๊ตสีขาวในมือให้กลับเข้าร่าง ก่อนที่จะส่งเสียงออกไป ใครค้า

     

    พี่เอง เข้าไปได้มั้ย เสียงทุ้มของพี่สาวใจเป็นชายของเธอตอบกลับมา ถึงไม่บอกเธอก็รู้อยู่แล้ว

     

    ค่า เธอตอบสั้นๆก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเสื้อเชิ๊ตของเพื่อนรักของพี่ยังอยู่ในมือ เธอจึงวางมันลงอย่างเบามือ ก่อนจะหันไปสนใจคนที่เพิ่งก้าวเข้ามาภายในห้อง

     

    เราเป็นคนชวนไอ้เมี่ยงมาบ้านเหรอ มาถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรเอาแต่จะถามน้องให้ได้เรื่อง

     

    ก็พี่ฟรอยด์บอกว่าวันนี้พี่เมี่ยงเกิดอารมณ์อยากกินเค้กขึ้นมา เค้าก็เห็นว่าบ้านเราก็มีเค้ก...ก็เลยชวนพี่เมี่ยงมา ตัวมีไรหรอ

     

    แล้วมันทำท่าเหมือนสงสัยอะไรบ้างป๊ะ เข้าเรื่องทันที

     

    ไม่มีนี่ เพราะว่ายังไม่กินไรเลยชาก็หกรดตัวพี่เมี่ยง ตัวเปียกหมด แม่ก็เลยบอกให้เค้าพาพี่เมี่ยงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องตัวอ่ะ ตัวหวงเสื้อป่ะล๊า คนน้องถามกลับอย่างอารมณ์ดี เพราะเธอรู้ดีว่าพี่สาวของเธอไม่เคยหวงของถ้าเป็นคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นญาติพี่น้องหรือแม้แต่เพื่อน

     

    อื้ม ก็ไม่มีไรหรอก ....แต่ ไอ้เมี่ยงมันไม่ถามอะไรตัวแปลกๆเลยเหรอ เสียงอ่อนลงมาอย่างเห็นได้ชัด

     

    ไม่มี เธอปด...ปดพี่สาวตัวเอง แต่เธอคิดว่ามันก็น่าจะดีกว่ารับปากรุ่นพี่ที่ชื่อเมี่ยงเอาไว้แล้วแต่ไม่ยอมทำตามสัญญา

     

    งั้นก็ไม่มีไรและ เค้าไปอาบน้ำก่อนนะ เหนี๊ยว เหนียวตัว คนอารมณ์ดีเพราะคิดว่าความจริงยังไม่ถูกเปิดเผยเดินออกจากห้องไปโดยที่ไม่รู้ว่าชะตากรรมของตัวเองนับจากวันพรุ่งนี้มันจะเป็นอย่างไร

     

    พี่ฟ่อนนี่ก็แปลกคน เจ้าของห้องถึงกับต้องพูดคนเดียวเมื่อพี่สาวเดินออกจากห้องไปเรียบร้อย ก่อนจะหยิบเอาเสื้อเชิ๊ตตัวนั้นขึ้นมาถือไว้ในมืออีกครั้ง แต่แล้วสายตาเธอก็เหลือบเป็นอะไรบางอย่างในกระเป๋าเสื้อ....เธอหยิบมันออกมาแล้วคลี่มันออก ผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กๆสีน้ำเงินเข้มที่ปลายผ้าสองด้านถูกปักเอาไว้ด้วยด้ายสีขาวว่า ‘Cookie’ ส่วนที่เหลืออีกสองด้านปักว่า ‘meang’

     

    ยิ้มกว้างของคนที่นั่งกำผ้าเช็ดหน้าสีเข้มเอาไว้แน่นผุดขึ้นพร้อมๆกับใบหน้าสีแดงเรื่อ คุ้กกี้ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมานั่งเขิน ใบหน้าร้อนวูบวาบ เพราะการกระทำของรุ่นพี่สาวหล่อที่เธอมักจะใจสั่นเมื่ออยู่ใกล้ ตั้งแต่จำความได้แม้ว่าเธอเองจะเคยมีสาวหล่อหรือหนุ่มๆหน้าตาดีมาจีบแต่เธอก็ไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน ความรู้สึกที่ได้อยู่ใกล้ก็สุขใจ แค่ได้สัมผัสแค่เพียงแตะมือก็เหมือนกับมีไฟฟ้าวิ่งเข้าสู่ร่างกาย ความรู้สึกวูบวาบเหมือนกับร่างกายไร้น้ำหนักเมื่อได้รับรู้ว่าตัวเองมีความสำคัญถึงกับที่เจ้าของผ้าเช็ดหน้าเอาชื่อของเธอไปปักเอาไว้ทั้งยังเอาใส่ไว้ที่กระเป๋าเสื้อด้านซ้าย...ที่เดียวกับหัวใจ หรือว่านี่....ที่เขาเรียกกันว่าความรัก

     

    วิ้ง วิ้ง วิ้ง.... เสียงเครื่องมือสื่อสารขนาดเล็กที่คุ้กกี้เอามันเก็บไว้ในกระเป๋าถือส่งเสียงร้องให้เจ้าของรับรู้ว่ามีใครบางคนส่งข้อความมาถึง เธอเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมาดูแต่ในมืออีกมือก็ยังถือผ้าเช็ดหน้าสีเข้มเอาไว้ราวกับกลัวว่ามันจะหายไปไหน

     

    ข้อความ mms เป็นรูปตัวกระต่ายหูสีชมพูที่กำลังถูตัวอยู่ในอ่างอาบน้ำแล้วมีคำพูดลอยขึ้นมาว่า จานอนรึยาง ถ้ายังมาช่วยถูหลังหน่อย อ่ะล้อเล่น...ยังไงคืนนี้ก็ฝันดีนะจ๊ะ ทำเอาคนที่ยังเขินไม่หายอุณหภูมิในร่างกายเพิ่มมากขึ้น จากใบหน้าหวานๆที่ว่าแดงแล้วตอนนี้ยิ่งแดงยิ่งกว่า...และยิ่งกว่านั้นเมื่อเลื่อนลงมาอ่านข้อความข้างล่าง

     

    พรุ่งนี้เจอกันที่หน้าคณะนะคับ เสื้อพี่ยังไม่ต้องซักก็ได้...เผื่อจะได้มีข้ออ้างไปหากี้ที่บ้าน ฝันดีคับแค่ได้เห็นข้อความมือไม้คนตัวเล็กก็หมดเรี่ยวแรงขึ้นมากระทันหันทำเอาเจ้าโทรศัพท์เครื่องจิ๋วล่วงลงไปนอนแอ้งแม้งบนที่นอนนุ่มๆ ดีนะที่มีที่นอนรองรับเอาไว้ไม่อย่างนั้นมีแต่พัง...พัง...พัง

    พี่เมี่ยงบ้า คุ้กกี้พูดกับผ้าเช็ดหน้าสีเข้มไม่เพียงเท่านั้นเธอยังแลบลิ้นใส่มันอย่างกับว่าผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นเป็นตัวแทนของใครบางคน

     

    - - - - -

     

    สงสัยเธอสะกดใจช้าน ด้วยคำ คำว่าไอเลิฟยู โอ้ยยกระเทยลัลล๊าที่เดินฮัมเพลงมาแต่ไกลร้องเสียงหลงเพราะโดยเพื่อนทอมอย่างเมี่ยงที่วิ่งตามมาบีบก้นเข้าอย่างจัง

     

    นังท๊อมมมม ฟรอยด์พูดได้แค่นั้น เพราะตอนนี้มือหนาของสาวหล่อปิดปากเพื่อนกระเทยเอาไว้เป็นที่เรียบร้อย

     

    ชัทอัพ นิ่งๆแล้วฟังพี่นะจ๊ะน้องฟรอยด์ น้องกี้กับไอ้ฟ่อนเป็นพี่น้องกัน ไม่ได้เป็นแฟนอย่างที่มันพยายามทำให้พวกเราเข้าใจ สาวหล่อพูดทั้งยังแสงดอาการภูมิอกภูมิใจกับสิ่งที่ได้รับรู้มา ก่อนจะเอามือที่ปิดปากเพื่อนสาวออก

     

    ก็ดีแล้วนี่ยะ แกจะได้ตะลุยจีบน้องเค้าได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องมานั่งทำหน้าเหมือนคนไม่...ขะรอด้วยนังท๊อมมมมมม ไม่ทันได้พูดอะไรต่อเพราะต้องวิ่งตามคนอารมณ์ดีที่พูดจบก็เดินไปโดยไม่รอฟังอะไร

     

    ตอนนี้มันแค้น...แค้นอย่างเดียว แต่ยังหาทางแก้แค้นไอ้ฟ่อนไม่ออก กระเทยน้อยหอยสังข์ช่วยพี่ทอมสุดหล่อคิดหน่อยดิ หยุดเดินแล้วหันมาทำหน้าตาเว้าวอนเพื่อนชายใจหญิง แถมด้วยการเสนอของสมนาคุณ

     

    ถ้าแกช่วยชั้น...เอาอะไรดี...ยาคุมสักโหลมั้ย...นมจะได้โตๆ

     

    อิ๊บ้า...ถ้าจะให้ไอ้นั่นน่ะไม่ต้อง ชั้นซื้อเองได้ แกต้องเอาคอร์สสปาหน้ามาบรรณาการชั้น คนเป็นต่อพูดทั้งยังเชิดหน้ากอดอกมาดมั่นว่า จะได้คอร์สสปาหน้าจากสาวหล่อร่างสูง

     

    โห ถ้าจะเอาขนาดนั้น...แกต้องทำให้ชั้นกับน้องกี้เป็นแฟนกันให้ได้ด้วยเถอะ จะเอาของใหญ่ก็ต้องลงทุน นังกระเทย

     

    ด้ายยย ชั้นทำให้แกมีเวลาใกล้ชิดกับน้องเค้าได้ แต่เรื่องทำคะแนนแกต้องทำเองนะจ๊ะ มิอย่างนั้นแกก็จะมองไม่เห็นค่า ถ้าแกได้มาง่ายๆ

     

    โอ...งั้นว่ามาเลย สาวหล่อรับคำทั้งยังทำหน้าตาชั่วร้าย

     

    อีกสองเดือนจะมีการแข่งขันกีฬามหาลัยใช่มะ แล้วชั้นก็เป็นคนคุมทีมเชียร์ ชั้นจะเอาน้องกี้มาเป็นเชียร์ลีดเดอร์ แค่ได้รู้ความคิดของฟรอยด์ร่างสูงถึงกับส่ายหน้า ไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเปล่า...เพราะถ้าทำแบบนั้นคนก็ต้องรู้จักรุ่นน้องหน้าหวาน...หวานใจของเขาและก็ต้องมีคนมาจีบคุ้กกี้เยอะแน่ๆ

     

    ไม่เอาอ่ะ ไม่มีวิธีอื่นรึไงวะ

     

    ไม่มี เพราะถ้าไม่หากิจกรรมให้น้องกี้ทำ น้องกี้ก็ต้องติดกับนังทอมฟ่อนเป็นปาท่องโก๋อยู่แบบนี้ แกจะไปพรากพี่พรากน้องเค้ามายังไงล่ะ คิดบ้างอะไรบ้าง...เป็นทอมหน้าตาดีนิดนึงแล้วยังโง่อีกพูดจบก็หันไปเห็นหน้ากังวลของสาวหล่อ ฟรอยด์จึงพูดต่อ ถ้าแกแน่จริง ไม่ว่าใครจะเข้ามาน้องกี้ก็จะไม่สนใจใครหรอก

     

    เออ ก็ได้วะ เนี่ยชั้นนัดน้องกี้เอาไว้หน้าคณะ ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเข้ามารึยังดิ

     

    มาแล้วมั้ง เดี๋ยวชั้นไปด้วยเลย จะได้บอกน้องกี้เลย...เผลอๆได้เจอนังทอมฟ่อนด้วย

     

    คนทั้งสองเดินมาเรื่อยๆตามเส้นทางระหว่างที่จอดรถจนกระทั่งมาหยุดอยู่บริเวณหน้าคณะศิลปกรรมซึ่งเป็นคณะของทั้งสอง แม้ว่าจะเรียนคณะเดียวกันแต่ทั้งคู่ก็อยู่กันคนละเอก เมี่ยงเรียนออกแบบนิเทศน์ศิลป์ ส่วนฟรอยด์จะเป็นออกแบบแฟชั่นและสิ่งทอ แต่ตอนเทอมแรกๆทั้งคู่ได้เจอกัน และเพราะว่าเวลาเจอกันได้คุยกันมันคลิก...ก็เลยทำให้ทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ตอนนั้น

     

    มาโน่นแล้ว เสียงดัดพูดทั้งยังบุ้ยปากไปทางคนสองคนที่กำลังเดินตรงมาทางที่เขาทั้งสองคนอยู่

     

    เห็นมั้ยบอกแล้ว ว่าไอ้ฟ่อนมันต้องมาส่งถึงบันไดคณะนี่แหละ เสียงห้าวพูดจบคนทั้งสองที่เพิ่งมาถึงก็มาหยุดอยู่ตรงหน้า

     

    กี้บอกว่าเสื้อมึงไม่แห้งไอ้เมี่ยง วันนี้ก็เลยยังไม่ได้เอามาให้... ชิฟฟ่อนพูดขึ้นทันทีที่เดินมาหยุดตรงหน้าเพื่อนทั้งสอง

     

    เออ กูก็ว่าแล้วว่ามันต้องไม่แห้ง มึงมีเรียนกี่โมงเนี่ยแกล้งถามเป็นอย่างนั้นแต่จะว่าไปแล้วรู้ไว้ก็ไม่เสียหายอะไร

     

    มึงอ่ะ ถามกลับแบบไม่มีใครยอมใคร

     

    เนี่ยแหละ มีเรียนตอนนี้...ช่ายเปล่าเพื่อนฟรอยด์ สาวหล่อหันไปหากองกำลังสมทบ ฟรอยด์ได้แต่พยักหน้า

     

    เป็นอะไรวะฟรอยด์ เงียบๆ ผิดปกติ คนที่สังเกตุเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่างพูดขึ้นอย่างอดไม่ได้ และ...มันก็เข้าแผนกระเทยร่างเล็กเสียด้วย

     

    ชั้นเครียด...เครียดๆ เครียดจนสมองน้อยๆนี่จะระเบิด

     

    พี่ฟรอยด์เป็นอะไรหรือเปล่าคะ คนขี้สงสารถามขึ้นก่อนที่พี่ของเธอจะอ้าปากพูด

     

    พี่จัดชุดเชียร์ไม่ได้ รับสมัครแล้วคนก็ไม่ครบ ไม่รู้เด็กปีหนึ่งรุ่นนี้เป็นอะไรไปหมด จะให้ใช้รุ่นเก่าๆมันก็อะไหล่ไม่ค่อยจะดี ยิ่งแก่ยิ่งไขข้อเสื่อม ขาดอีกแค่คนเดียวเอ๊งน้องกี้ ดู๊ ดูสิ ถึงจะไม่เป็นมาเลยนะพี่ก็จะสอนๆ หัดๆให้ แต่เฮ้อออ ฟรอยด์ทำหน้าเครียดจัด อีกคนที่รับมุขเพื่อนทันก็ได้เอามือมาแตะที่บ่าเชิงให้กำลังใจ

     

    ค่อยๆหาไปแก

     

    น้องกี้..... ฟรอยด์กำลังจะพูดต่อแต่ว่าคุ้กกี้กลับพูดขึ้นมาก่อน

     

    ตอน ม.ปลาย กี้เคยเป็นเชียร์ แต่กี้ไม่รู้ว่าจะทำให้ทีมพี่ฟรอยด์เสียหรือเปล่า แต่ถ้าพี่ฟรอยด์ต้องการคนจริงๆกี้ก็ช่วยได้นะคะ คนสวยใจดีมีน้ำใจเสนอ

     

    อะไรกันยัยกี้ พี่... ทำท่าทางเหมือนกำลังจะดุน้องสาว แต่พอนึกขึ้นได้ก็ต้องเงียบเพราะไม่งั้นอาการของคนเป็นพี่ต้องออกมากเกินจนคนทั้งสองจับได้แน่

     

    เมื่อก่อนกี้ก็เคยเป็นพี่ฟ่อน ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย หันไปบอกพี่สาวก่อนจะหันมาพูดกับฟรอยด์ต่อ จะลองดูก่อนก็ได้นะคะ

     

    ไม่เป็นไรค่ะ เอาน้องกี้นี่แหละ คนกันเอ๊ง กันเอง ยังไงวันนี้ตอนเย็นเจอกันที่ยิม มหาลัยนะคะ เอื้อมมือไปจับมือรุ่นน้องหลวมๆก่อนจะหันไปแว๊ดใส่เพื่อน นังทอมทั้งสอง ตอนนี้ชั้นสบายใจแล้ว...และก็จะขึ้นไปเรียนแล้วด้วย นังเมี่ยงตามมาเรียนมา มะ

     

    พี่ไปเรียนแล้วนะครับ สาวหล่อรุ่นพี่บอกกับน้องรหัสก่อนจะหันไปหาเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ไปแล้วนะมึง...มึงก็ไปเรียนได้แล้วเดี๋ยวเช็คชื่อไม่ได้ทันน้า คณะมึงก็ไกล๊ ไกล

     

    เออ มันก็เรื่องของกู อารมณ์เสียยังไม่หายที่อยู่ๆน้องก็โดนแย่งตัวไปทางโน้น ช่วงเวลาที่น้องสาวต้องซ้อมเชียร์ก็ดันเป็นช่วงเดียวกับที่เขาต้องอยู่ชมรมเสียด้วย

     

    น้องกี้มีเรียนกี่โมงครับ ก่อนจะไปรุ่นพี่ยังไม่วายหันมาถามน้องรหัสอารมณ์ดี ก็ที่จริงเขาเองรู้อยู่แล้วว่าวันนี้รุ่นน้องหน้าหวานมีเรียนกี่โมงนี่นา

     

    ไม่ต้องมาถามอ่ะ มึงอ่ะขึ้นไปได้แล้วเดี๋ยวนังกระเทยมันก็อาละวาดอีกหรอกที่สามิ๊ ยังมิตามไป

     

    ร่างสูงจำเป็นต้องทำเป็นเดินขึ้นตึกไปทั้งที่ความเป็นจริงก็คือ...เขาหลบอยู่บันไดนั่นแหละ จะยอมปล่อยให้เวลาผ่านไปเฉยๆได้ยังไง เมี่ยงรู้มาว่าวันนี้เขากับคุ้กกี้มีเรียนเวลาเดียวกันซึ่งนั่นมันก็ยังไม่ใช่ตอนนี้ มีเวลาให้เขาทำคะแนนอีกเกือบสองชั่วโมง เมื่อเห็นคนหวงน้องเดินแยกไปอีกทางแล้วเมี่ยงจึงเดินออกมาจากที่ซ่อนตัว

     

    อ้าวพี่เมี่ยง แล้วไม่ขึ้นเรียนหรอคะ รุ่นน้องหน้าหวานที่นั่งหันมาทางเขาพอดีถามขึ้นทันทีที่เห็นว่าพี่รหัสเดินลงมาจากตึก

     

    พี่จำผิดน่ะ วันนี้มีแต่นังฟรอยด์ที่มีเรียน ส่วนของพี่กว่าจะมีก็อีกตั้งเกือบสองชั่วโมงแน่ะ ทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้ทั้งที่วางแผนเอาไว้ทุกอย่างแล้ว

     

    เหมือนกี้เลย ที่จริงวันนี้กี้ก็บอกพี่ฟ่อนแล้วว่ากี้มาเองได้ แต่ว่า...

     

    หิวมั้ย ไม่รอให้คนหน้าหวานพูดจบ เมี่ยงชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน ทั้งที่ความจริงเขาไม่เคยทานอาหารตอนเช้ามานานมากแล้ว และตอนนี้เขาก็ไม่ได้หิว....แต่เป็นเพราะการนั่งเฉยๆคุยกันมันทำให้เขาประหม่าเกินกว่าที่จะอยู่นิ่งๆได้ การที่ได้ทำอะไรในเวลานี้น่าจะดีกว่า

     

    นิดหน่อยค่ะ

     

    งั้นเราไปหาอะไรทานกัน....กี้อยากทานอะไรเป็นพิเศษมั้ยครับ

     

    ภาพของสาวหล่อที่เดินเคียงข้างรุ่นน้องสาวหน้าหวานดูแล้วมันช่างเป็นภาพที่มีความอบอุ่นละมุนไปด้วยไออุ่นของความรักที่ก่อตัวขึ้นอย่างจางๆ ความรักที่ก่อตัวขึ้นจากความใกล้ชิดและเสียงหัวใจที่ร้องเรียกซึ่งกันละกัน ความหวานที่ได้ลิ้มรสแม้เพียงนิดก็เหมือนกับว่ายิ่งใหญ่จนหาสิ่งใดมาเทียบไม่ได้ 

    --------

    PS
    นิยายเรื่องเก่าที่ตีพิมพ์แล้ว วันนี้ขอชุบชีวิตพวกเขาเหล่านี้อีกครั้ง เพราะอาจจะยังมีใครหลาย - หลาย คน ที่ยังไม่เคยอ่าน

    คิดถึง อารมณ์ตอนที่เขียนเรื่องราวเหล่านี้ที่สุด

    นายกานต์..
    17 .  Aug . 2015
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×