ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Cross Road สองคนบนทางแยก

    ลำดับตอนที่ #5 : แยกที่ 5 สิ่งที่ขาดหายไป

    • อัปเดตล่าสุด 14 มี.ค. 53


     

    หลายวันมาแล้วสินะที่ กาย ไม่ได้เจอกับ ไอ และเมย์ ถึง มันจะเป็นเหมือนวันธรรมดาก็เถอะ แต่ก็เป็นวันที่ไม่มีพวกเธอ ในหลายๆวันที่ผ่านมา พวก เธอทั้งสองทำให้กายมีความกล้า ในสิ่งที่อยากจะพูด มีความกล้าในสิ่งที่อยากจะทำ แต่ตอนนี้ กายกลับสู่สภาวะจิตใจตกต่ำเหมือนเมื่อก่อนไม่ใช่สิ จะเรียกว่าหนักกว่าเมื่อก่อนก็ได้ ในภาพวาดของกายตอนนี้ เต็มไปด้วยความรู้สึกที่มืดมน จนใครสังเกตได้ ไม่ใช่เพียงแต่อาจารย์ หรือ นักวาดที่มอง ออก แต่เป็นทุกๆ คนที่เห็น ทุกๆคนที่เห็นภาพของกายนั้นก็ทำให้สภาวะจิตใจตกต่ำได้ อย่างเช่นนักศึกษาปี 4ที่ต้องทำงานส่งแล้วส่งอีกเพื่อให้ตัวเองจบ เพียงแค่ เขา มองภาพวาดได้ไม่กี่นาที ก็ทำให้ หมดความคิดในการที่จะส่งงาน จนถึงต้อง รอเรียนใหม่(พักการเรียน) ซึ่งเป็นแบบนี้อีกหลายๆ คน จนทำให้คณะอาจารย์ใน ตอนนี้ ลงความเห็นว่า จะไม่ให้ภาพวาดของกายลงแสดง ในห้องแสดงภาพวาดของตึกศิลป์

    ทุกๆครั้งที่กายเจอ เมย์ กายพยายามจะทักเมย์ แต่เธอก็หลบหน้า ไม่วาดจะเรียกยังไงเธอก็ไม่สนใจ และพอไปหา ไอที่คณะ ก็จะไม่เจอเธอเลย หรือเจอบ้าง แต่เมื่อทักเธอ เธอก็จะแสดงอาการแบบเมย์ ไม่ว่าจะหาพวกเธออีกสักกี่ครั้ง ก็เป็นแบบเดิม

    ในทุกวันที่กายรู้สึกเหงา ก็มักจะมานั่งอยู่ที่สวยสาธารณะ ที่ๆคุณอาคนนั้นเคยนั่ง มองตะวันยามเย็น มองไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาดึกทุกวัน

    เป็นเวลาเกือบ เดือนแล้วที่กายจิตตก สภาพจิตใจของกายตอนนี้ย่ำแย่เกินกำหนด เป็นวันธรรมดาๆ ที่กายมักจะเดินไปสวน แต่ วันนี้กายเดินไปที่ สี่แยก ของบ้านเมย์ และไอ แต่ ตอนนี้ กาย จะไม่เลี้ยวซ้ายหรือ ขวา แต่กายจะลองเดินตรงไป เดินตรงไปโดยไม่กลับมาที่เดิม สิ่งเดียวที่กายคิดได้ในตอนนี้ก็คือ “ถ้านี้คือเส้นทางให้เลือก ระหว่างเมย์และไอ แล้วถ้าเราเดินตรงไปละ บางที่เราอาจจะเจอคำตอบของตัวเรา แล้วถ้าเราย้อนกลับทางเดิมอาจจะเป็นเหมือนเดิม เหมือนวันเดิมๆที่ผ่านมา” กายคิดได้แค่นั้น กายจึงลองเดินตรงไปดู เดินตรงไปเรื่อยๆ ก็เป็นแค่ถนนธรรมดาๆ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ กายเดินทางนั้นมากกว่า ห้า ชั่วโมงแล้ว เป็นเวลา เที่ยงคืนพอดี ที่กายได้นั่งพักหลังจากที่เดินมาหลายชั่วโมง ที่นั้นเป็นเพียงแค่ร้านอาหารเล็กๆ ที่ชื่อ hosf Res เป็นร้านเดียวที่เปิดในช่วงเวลานี้ กายได้แค่นั่ง สั่งอาหารง่ายๆ เพื่อกินพอประทังชีวิต และรอว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่มันก็ไม่เกิดอะไรขึ้นเลย เวลาตีสามกว่า กายก็เดินกลับหอพักของกาย เดินๆไปเรื่อยๆ ในทางที่มืดมิด เส้นทางที่กายเดินในตอนนี้มันเหมือนกับชีวิตของกายในตอนนี้ เดินไปเรื่อย จนไม่รู้วันเวลา นี้ตอนไหน ที่นี้ที่ไหน แล้วตอนนี้กี่โมง เพียงแค่เดินไปเรื่อยๆ ในทางเดินจนกว่าจะเจอแสงสว่าง เดินไป แล้วก็เดินไป จนไม่รู้ตอนไหน สติของกายค่อยๆเลือนลางเพราะความเหนื่อยถึงแม้ในตอนนี้ร่างกาย ของกายจะทนไม่ไหว แม้สมองจะไม่ได้สั่งการ แต่ขาของกาย ก็เดินไปเรื่อยๆ ตาของกายค่อยๆ หลับลงเรื่อยๆ กายเริ่มไม่ค่อยได้ยิน ไม่ค่อยเห็น กายรู้สึกหนาว กายได้ยินเสียงเบาๆ “รุ่นพี่ รุ่นพี่” และกายก็หมดสติลงไป

    พอลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบเพียงหลอดไฟเล็กๆ ผ้าชุบน้ำที่วางไว้บนศีรษะ เป็นห้องเล็กๆ ไม่ได้ประดับอะไรมากนัก มีเพียงโต๊ะและเตียงเท่านั้น กายลุกขึ้นมา จากเตียง และกำลังจะเดินออกประตู “ภาพที่คุ้นตานี้มันคืออะไร” กายพูดกับตัวเองเบาๆ ในตอนนี้ กายจำอะไรไม่ได้แล้ว กายพยายามนึกพยายามคิด แต่ก็คิดไม่ออก กายเดินออกประตู ภาพที่เห็นคือ บ้านของกาย เป็นบ้านที่เคยอยู่เมื่อ หกปีก่อน ใช่นี้คือบ้านเกิดของกาย เมื่อจะเดินออกจากบ้าน ก็เจอ แม่ของกายเข้า แม่ของกายพูดอย่างตกใจ เหมือนกับตกใจมาก “ตื่นแล้วหรอลูก” กายถามด้วยความที่เพิ่งตื่นจากที่นอน “ครับแม่” แม่ของกายทำหน้าตาโล่งใจขึ้นอย่างเห็นได้ชัด กายจำอะไรไม่ได้เลยจำไม่ได้เลยว่ามาที่นี้ได้อย่างไร กายถามแม่ของกายอย่างสุภาพ “แม่ครับผมมาที่นี้ได้ยังไงครับ” แม่ของกายก็ค่อยๆเล่า แม่ของกายเล่าว่า กายได้นอนหลับไปกว่าหกเดือนแล้ว หมอบอกว่า กาย มีชีวิตอยู่ได้ท่ามกลางปาฏิหาริย์ และคนที่เอากายมาส่งเป็นเพื่อนของกายที่ชื่อว่าเปาและรุ่นน้องที่ชื่อฟ้า ฟ้าเป็นคนเจอกายที่ถนนเส้นหนึ่ง ตอนเธอกำลังเดินออกไปซื้อของแถวนั้น ตอนนี้ พวกเพื่อนๆ ของกายที่อยู่ปีสองขึ้นปีสามไปหมดแล้ว กายได้กลับไปเรียนอีกครั้งหนึ่ง วันที่กายเข้าเรียกวันแรกหลังจากที่ นอนไปหกเดือน มีผู้หญิงคนหนึ่ง(ไอ)เดินมาขอโทษกาย ไม่รู้เพราะอะไร กายได้แต่เพียงทำหน้า งง แล้วถามกลับว่า “เธอเป็นใคร” ไอ ทำหน้าตกใจมาก แล้วก็บอก

    กายนี้นายล้อเล่นรึป่าวนิ”

    ผมถามจริง คุณเป็นใคร”

    ไอ ไง จำเราไม่ได้หรอ ตนที่ชอบทำตัวเสแสร้งไง”

    กายพูดเบา “ขอโทษครับ ผมไม่ทราบจริงๆ”

    ไอ ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แล้วก็บอก “ขอโทษทักคนผิด” ก่อนที่จะเดินจากไป

    พอถึงเวลาพักเที่ยง กายก็ออกไปทานข้าวที่โรงอาหาร กายจำเพื่อนได้ กายจำรุ่นน้องได้ กายจำได้ทุกอย่าง กายเดินตรงไปที่โต๊ะอาหารของเพื่อน กายพูดคุยเหมือนปกติทุกอย่าง เพื่อนถามกายว่าทำไมไม่มาเรียน กายแค่ตอบแบบตรงๆว่า แค่หลับไปหกเดือน เมื่อกายมองไป ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่รู้สึกคุ้นมาก เธอก้มหน้าลงทานข้าวโดยไม่พูดอะไร กายได้เพียงแต่ถามจากเพื่อนๆว่า “เธอคือใคร” เสียงที่ถามไปดังมาก และเพื่อนๆ ก็ทึ่งไปตามๆกัน เธอคนนั้น จากที่ได้คำว่าเธอคือใคร เธอก็เริ่มมองหน้า กาย แต่หน้าของกายมันบอกจริงๆว่าเธอคือใคร ผู้หญิงคนนั้น ลุกขึ้นจากที่นั้น น้ำตาที่ไหลออกมาอย่างเห็นได้ชัด เธอแค่เพียงเดินออกไป เท่านั้น เพื่อนคนใกล้ กระซิบกับกายว่า “รีบตามไปขอโทษ เมย์สิ” กายได้แต่เพียงทำตามเดินไป ตามไป เมื่อเดินตามไป กายได้จับแขนของเมย์ไว้ เมย์ได้แต่ร้องไห้ แล้วก็พูด “ขอโทษ ฉันขอโทษ ก่อนที่เธอจะล้มทั้งยืน”

    ขอโทษ กาย ฉันขอโทษ” เธอพูดทั้งๆที่เธอกำลังร้องไห้

    กายได้แต่สงสัยแล้วถามตอบด้วย หน้าที่เหมือนไม่เคยรู้จักกันจริงๆ “ขอโทษนะครับ คือผมไม่รู้ว่าคุณขอโทษผมเรื่องอะไรและผมไม่รู้ว่าคุณทำอะไรไว้แต่ผมยกโทษไห้”

    ถึงอย่างนั้นเมย์ก็ยังร้องไห้ไม่หยุดและยิ่งร้องหนักกว่าเดิม เธอบอกเพียงแค่ไม่ต้องตามมา นั้นคือคำพูดที่กายได้ยิน กายทำอะไรแทบไม่ถูกได้แต่เดิน ออกไปอย่างช้าๆ

    ในวันต่อมาที่กายเรียนนั้น กายได้ยินจาก เด็กปีหนึ่งที่คุยกันข้างๆ เรื่องดาวมหาลัย

    นี้เธอ เธอคิดว่าปีนี้ใครจะเป็นดาวมหาลัย”

    ฉันคิดว่า พี่ ฟ้า นะ เพราะเธอดูแอคทีปดี ช่วงนี้เธอสวยด้วย”

    แล้ว พี่ ไอ ละคิดว่าจะได้เป็นดาวมหาลัยอีกสมัยนึ่งไหม”

    ฉันคิดว่าไม่นะ ตลอดหกเดือนที่ผ่านมาเธอดูมืดมนยังไงไม่รู้ สวยก็จริงนะ แต่ว่าเธอดูไม่สดใสแบบธรรมชาติเลย ฉันว่าที่เธอทำไป เธอแกล้งทำด้วยซ้ำ”

    ฉันก็คิดว่าอย่างนั้นแหละ ฮ่ะๆ”

    คำพูดของเด็กพวกนั้นทำให้กายคิด กายคิด “ฟ้านี้ รู้จักอยู่นะ แต่ไอ นี้สิใครกัน” ถึงอย่างนั้นกายก็ไม่ได้สนใจอยู่ดี กายเดินๆตามปกติของกาย กายวาดภาพตามปกติ กายทำทุกอย่างปกติ แต่ภาพวาดของกายนั้นมีบางอย่างที่ขาดหายไป บางอย่างที่หาไม่ได้ในแม่สี บางอย่างที่หาไม่ได้ในการวาด กายคิด คิด แล้วก็คิด คิดข้ามคืน ก็ไม่รู้ถึงคำตอบ ไม่ทราบ กายถามเปา ถามฟ้า ถามเพื่อน จนถึงอาจารย์ ทุกคนล้วนไม่ทราบ กายคิดไม่ออก กายจึงพยายามหาคำตอบด้วยกาย ไปดูภาพที่ห้องแสดงภาพ แต่กายไม่เห็นภาพของตัวเอง กายได้แต่มอง แล้วก็มองภาพของคนอื่นๆ กายในตอนนี้ได้ตัดใจไปเสียแล้ว ตอนนี้กายได้เป็นคนที่ดูมืดมนและไม่น่าคบ เปาบอกกับกายว่า “นายนี้ เหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด พูดน้อย แถวยังทำให้บรรยากาศเสียอีก เป็นคนที่ใช้ไม่ได้” แต่ตอนนี้สิ่งเดียวที่ทำได้คือ วาดรูป

    ในทุกปีทางมหาลัยจะพานักศึกษาไปดูงานที่หอศิลป์ ปีนี้กายก็ไปเหมือนเดิม กายจำได้ว่าปีก่อนไปกับเปา แฟนเปา และอีกคนที่กายก็จำไม่ได้ กายถามเปาอีกครั้ง “เปา ปีก่อนเราไปดูภาพเขียนกับใคร” เปาได้แต่เงียบยืนมองแล้วไม่พูดอะไร สีหน้าเหมือนอยากพูดมากแต่ก็พูดอะไรไม่ออก แม้ปากของเปาจะสั่นและกระตุก แต่เสียงที่ออกมาจากปากของเปาก็มีแค่ “กี๊กๆ กั๊กๆ” เป็นเสียงฟันที่กระทบกัน เปาได้แต่พยายามเปลี่ยนเรื่องคุย ทุกครั้งที่ถาม ว่า “เมย์ กับ ไอ เป็นอะไรกับเรา” ทุกครั้งที่ถามว่า “ฉันเคยกับใคร” และทุกๆครั้ง

    แม้ปีนี้จะเดินดูงานแต่เพียงผู้เดียว ทำไมนะ กายถึงรู้สึกคุ้นเคย รู้สึกอบอุ่นเมื่อได้เดิน เมื่อหมดเวลาดูงาน กายไม่ได้ขึ้นรถกลับมหาลัย แต่กาย นั้นขอเดินกลับเองเพื่อให้คิดอะไรสักอย่างออก เป็นเวลาดึกพอสมควร ที่กายเดินกลับ เดิน แล้วก็เดิน เมื่อหยุดพัก กายได้แต่แหงนหน้ามองฟ้าดูดาว เมื่อมองไปที่ดาว โอไลอ่อน ดาวนายพรานและดาวต่างๆ น้ำตาของกายก็เริ่มไหล กายได้แต่ถามตัวเอง “ทำไมนะ ทำไมน้ำตาต้องไหล” กายได้แต่ วิ่งๆ วิ่งเพื่อให้น้ำตาหยุดไหล กายวิ่งไปเรื่อยๆ วิ่งไปจนถึงสี่แยก ใช่เป็นสี่แยกที่คุ้นเคย น้ำตาของกายไหลมาอีกรอบ ไหลนักกว่าเดิม กายได้แต่เช็ดน้ำตาไปตามทาง กายเดินไปที่หอ พักของเปา เปาเห็นกาย ก็ถึงกับทึ่งในทีเดี่ยว มือตาของกายบวมตาแดง และเสื้อที่เปียกเพราะน้ำตา เปา ถอนหายใจเฮือกนึก ก่อนที่จะลาก กายไป ลากไปไหน? ไม่มีใครรู้ ได้แต่เดินตามไป เดินไปกับเปาเรื่อยๆ เป็นเส้นทางไปมหาลัย ในตอนนี้ ก็ไม่มีใครชวนพูดเลย พอเดินไปถึง ตึกศิลป์ เปาก็ได้แต่ชี้ทางไป ห้องหนึ่ง เปาบอกกับกายว่าจะรออยู่ตรงนี้ กายเดินไป หน้าห้อง หน้าห้องเขียนไว้ว่าห้องเก็บภาพ กายเดิน เปาก็เดินขึ้นไปชั้นสอง กายเดินเข้าไปมันมืดมากมืดจนมองไม่เห็นอะไร จู่ๆ ไฟในห้องก็สว่างขึ้นมา กายเอามือบังที่ตาไว้เพราะตาปรับแสงไม่ทัน เมื่อเริ่มคุ้นแล้วจึงมอง มองภาพของตัวเอง เป็นภาพของ เมย์ ที่กำลังเดินเล่นอย่างมีความสุข กายน้ำตาไหลและถึงกับทรุดลงไปนั่งกับพื้น กายมองไปที่ภาพข้าง เป็นภาพของไอ ที่กำลังยิ้มอย่างไม่มีอะไร ภาพนั้นดูสดใสมาก กายได้แต่มองสองภาพนี้ แล้วพูดกับตัวเอง “พวกเธอเป็นใคร ทำไมต้องทำให้ฉัน ร้องไห้ ทำไมต้องทำให้ฉันอบอุ่น ทำไม ทำไม…” เมื่อนั่งมองภาพไปนานหลายชั่วโมง กายก็เดินออกจากตึก กายบอก กับเปาว่า ไม่ต้องตามมา กายได้เพียงแค่เดินกลับหอ กายมองหนังที่อยู่ในหอพัก เป็นหนังสือที่เด็กเขียนขึ้น ชื่อหนังสือ “ทำอย่างไรให้เขียนภาพออกมาสวย” กายหยิบขึ้นมาอ่าน เนื้อหาในหนังสือแทบหาสาระไม่ได้ ภาพทุกภาพที่อยู่หนังสือมันก็ดูงั้นแต่ให้อารมณ์ที่อบอุ่น หลังจากอ่านหนังสือเสร็จ ก็มีคำพูดจากผู้เขียน “แด่ พี่ชายที่เคยสอน พี่สอนไว้ว่า เมื่ออยากเขียนอะไร อยากทำอะไร ต้องหลับตาถึงจะมองเห็นภาพที่อยากเขียน” กายพลิกหนังสือกลับไปดูหน้าเล่มทันที ผู้เขียนชื่อ อิง กายจำอิงได้ แต่กายจำไม่ได้ว่า อิงมีพี่ชื่ออะไร หน้าตาเป็นแบบไหน

    เมื่อหลับ ทำไมกัน ภาพที่กายฝันเห็น มันคือ ภาพของคนที่ดึงมือไว้ กับคนที่วิ่งจากไป หมอนของกายชุ่มไปด้วยน้ำตา กายหยิบกระดาษและ อุปกรณ์วาดเขียน กายนึกถึงคำพูด เมื่อหลับตาถึงจะมองเห็นภาพที่อยากเขียน ถึงกายจะมองไม่เห็นก็เถอะ แต่มือของกายนั้นวาดไปเอง วาด และวาดไปเรื่อยๆ เมื่อลืมตาขึ้นมา ก็พบภาพวาดของตัวเอง กายรู้สึกคุ้นเคย เป็นเพียงแค่ ภาพสี่แยก แต่ทำไมถึงได้รู้สึกคุ้นเคยได้อย่างนี้ สิ่งที่ขาดหายก็ของมันคืออะไรกัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×