ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    uncanny พิสูจน์ไม่ได้(รีไรท์รอบสามแล้วโว้ย)

    ลำดับตอนที่ #5 : ลางสังหรณ์ที่IV:เที่ยวพิพิธภัณฑ์มรณะII(รีไรท์4)

    • อัปเดตล่าสุด 24 เม.ย. 54


    ลางสังหรณ์ที่IV:เที่ยวพิพิธภัณฑ์มรณะII(100%)

    ��������� "ว้าวววววววว"น้องทั้งสองคนตาลุกวาว ร้องออกมาอย่างตกใจ�ตื่นเต้นสุดขีดเพราะไม่เคยเห็นปลามากมายขนาดนี้� ทั้งคู่เอามือจุ่มลงไปในบ่ออย่างรวดเร็วและหลังจากนั้นคือปลาจำนวนมากตรงดิ่งมาที่มือน้อยๆทั้งสอง ทั้งสองหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนานเลยทีเดียว หลังจากนั้นก็กวักมือเรียกเธอที่ยืนมองดูอยู่ห่างๆ�ไม่ไกลจากกันเท่าไร เธอกับไปอยู่ในโหมดหน้านิ่งๆอีกแล้ว

    ����������"ลุงคะ...ไอ้ปลาประหลาดที่ออกข่าวเมื่อวันก่อนมันจะออกมาอีกหรือเปล่าคะ"ชาช่าถามเจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่เดินผ่านเธอไป�

    ���������� "ทางพิพิธภัณฑ์ได้จัดการไปเรียบร้อยแล้วครับ...ไม่มีอะไรแล้วแน่นอน...น้องไม่ต้องกังวลนะ...ไปดูปลาเถอะไป"ลุงเจ้าหน้าที่บอกปัด แล้วเดินไปจัดการเรื่องของตนเองต่อ ไม่ค่อยดีเลยที่ลุงเขามีสีหน้าราวกับว่าเบื่อเสียเต็มประดา หรือจะเป็นเพราะมีคนมาถามเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่บ่อยแล้วก็เป็นได้ แต่ตามมารยาทแล้วก็ต้องมีสีหน้ายิ้มแย้ม โดยเฉพาะกับเด็กอย่างเธอด้วย

    ��������� "ไม่เห็นน่าสน"ชาช่าคิดหากเขาเอาปลามาผ่าให้ดูส่วนประกอบก็ว่าไปอย่างแต่นี่แค่เอาปลาเยอะๆมาปล่อยแล้วก็ให้มันว่ายไปว่ายมาในบ่อกว้างๆเพียงเท่านั้น ไม่ได้ไปยุ่ง ไปข้องเกี่ยวกับปลาที่น่าจะเป็นความรู้เพิ่มเติมเอาไปใช้ในบทเรียนได้เลยแม้แต่นิดเดียว ป้ายก็ไม่ได้มีบอกว่าปลาอะไรเป็นปลาอะไรแล้วใครมันจะไปรู้ได้กันเล่าว่าเป็นปลาอะไร�แต่ใครจะไปรู้ล่ะ...�

    ��������� ...ความน่าพรั่นพรึงมันเริ่มต่อจากนี้ต่างหากล่ะ!!...

    ����������ควับ

    ��������� ร่างบางหันตามเสียงที่ดัวผ่านหูของตนไปอย่างรวดเร็ว สำหรับคนอื่น คงคิดว่าเป็นเพียงแมลงหรือใบไม้ที่ลมพัดผ่านไป แต่เธอกลับสัมผัสได้ถึงความน่าขยะแขยงที่แผ่ออกมาจากตัวของมัน�ตัวอะไรกันแน่นะที่ผ่านเธอไม่เมื่อสักครู่ หวังว่ามันคงจะไม่เป็นตัวอะไรที่เธอคิด คงไม่เป็นตัวอะไรที่เป็นข่าวอยู่นะ ไหนบอกว่าจัดการหมดแล้วไง�

    �����������ลางสังหรณ์ของเธอมันบอกว่าความรู้สึกที่เธอได้รับนั้น เป็นของปลาประหลาดพวกนั้นแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย

    �������� "ล่า...ซ่า...มีบางอย่าง..."เธอบอกน้องทั้งสองด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยดีเท่าไร ทั้งคู่หันมาหาเธอ

    �������� "อะไรนะ...เจ้"ทั้งคู่หันมาดวงตาฉายแววหวาดหวั่น พี่สาวของเธอพูดแบบนี้ทำให้เธออดกลัวไม่ได้ และสิ่งที่มาจากปากของพี่เธอนั้นก็มักจะเป็นอะไรที่น่ากลัวๆอยู่เสมอๆ เกือบจะทุกครั้ง และพี่สาวของเธอก็จะช่วยเหลือพวกเธอให้ปลอดภัยเกือบทุกครั้ง แต่ตัวเองนั้นอยู่ในขั้นสะบักสะบอมหรือไม่ก็เฉียดตายทุกที พวกเธอไม่อยากให้พี่สาวเป็นอะไรเลย

    ���������"พวกมัน...พวกมันกำลังมาทางนี้!!"ชาช่าหน้าซีดเผือดอย่างน่าตกใจ เหงื่อเม็ดโป้งผุดขึ้นมาตามไรผม และไหลลงไปรวมกันที่คาง หยดลงไปบนหน้าของลาล่า พอเธอพูดจบด้วยน้ำเสียงสั่นๆอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนก็มีบางสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับบ่อปลาไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ่อปลาที่เธอยืนอยู่สักเท่าไหร่

    ����������ตูม!!�

    ������� ��"กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด"หลายคนกรีดร้องออกมาก่อนจะมีบางคนถูกกระชากลงไปในบ่อปลาเบื้องล่าง ที่มีควันจำนวนมากลอยอยู่ เสียงกรีดร้องดังมาจากในนั้นก่อนจะหายไปอย่างลึกลับและน่าขนลุก ลาล่าและซาซ่าเอามือปิดปากของตัวเอง ไม่อยากให้มีเสียงเล็ดลอดออกมาพลางกอดร่างบอบบางของพี่สาวตัวเองแน่นจนหายใจแทบไม่ออก เหล่าผู้คนเริ่มแตกฮือหนีกันจ้าละหวั่นอย่างรักตัวกลัวตาย

    �������� "มานี่!!"เธอกระชากมือน้องทั้งสองให้วิ่งตามโดยที่ไม่ทันตั้งตัว ไม่มีเวลาที่จะมาร้องหรือทำอะไรทั้งนั้นท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายของคนโดยรอบที่วิ่งหนีราวกับว่าโลกจะแตกอีกในไม่กี่วินาทีข้างหน้าแล้ว มันโผล่ออกมาแล้ว ตามที่เธอคิด ทำไมเธอไม่ห้่ามพ่อกับแม่ของเธอกันนะ ทั้งที่เธอรู้ว่าจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น เธอไม่อยากเห็นใครจากไปอีกแล้ว ไม่อยากเห็นความสูญเสียอีกแล้วอย่าให้เธอได้เห็นมันอีกเลย เธอเห็นเรื่องพวกนี้มามากพอแล้ว...

    �������� เลือดสีสดเจิ่งนองทั่วบ่อปลาบ่อนั้น แขนขาขาดกระจุยกระจาย เธอปิดตาน้องสาวทั้งสองเอาไว้ ในขณะที่สองขาของเธอก็ยังคงวิ่งไปอย่างไร้จุดหมาย ดวงตาของเธอมองไปรอบบริเวณเพื่อหาพ่อหรือแม่ ใครสักคนก็ได้ มาเอาน้องไปที เธอไม่อยากให้ใครเป็นอะไรเลยแม้แต่นิดเดียวและ ไม่อยากให้เห็นสิ่งที่น่าสยดสยองเหล่านั้นเพราะมันคงติดตาไปอีกนาน...

    ���������คำขอของเธอไม่เป็นผล...

    �������� "แม่!!...แม่..อยู่ไหน"เธอตะโกนเรียกแม่ด้วยความรีบร้อนเมื่อมองไม่เห็นแม่ เธอกลัวว่าแม่จะเป็นเหยื่อของมันเหลือเกิน และเมื่อเห็นแม่อยู่ที่ริมทางเธอจึงผลักน้องสาวให้เข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของแม่โดยเร็ว เธอไม่อยากให้น้องสาวทั้งสองเห็นเลยจริงๆ ภาพอันน่าสะอิดสะเอียนนั่นเห็นครั้งเดียวก็จำติดตาไปจนวันตายแล้ว

    �������� เมื่อส่งน้องถึงมือของแม่แล้วเธอก็สบายใจ ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกท่ามกลางความวุ่นวายที่ผู้คนกำลังพยายามตะเกียกตะกายวิ่งหนีความตายกันอย่างอุตลุด แม่รีบพาน้องๆออกจากกลุ่มคนก่อนที่จะพลัดหลงกันอีกรอบ ชาช่าเห็นดังนั้นก็กำลังจะก้าวเดินตามแม่ไป แต่ทันใดนั้นเองก็มีชายร่างหนาคนหนึ่งวิ่งมาชนกับร่างของเธออย่างแรงและวิ่งต่อไปโดยไม่สนใจเลยว่าเธอจะเป็นอย่างไร

    �������� ผลั่วะ!!

    ���������ร่างบางเซวูบ!! ร่วงลงไปในบ่อน้ำอย่างรวดเร็ว หลายคนเองก็โดนผลักลงมาเพราะความเห็นแก่ตัวและรักตัวกลัวตายของใครบางคนในหมู่ฝูงชนที่กำลังวิ่งอยู่บนทางเดินที่ทำขึ้นจากดินเหมือนคันนา ต่างคนต่างหนีตายเอาตัวรอด ไม่สนใจผู้คนรอบข้างอีกต่อไป ขออย่างเดียวให้ตัวเองมีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่ เธอมองดูภาพความวุ่นวายอยู่ครู่หนึ่งอย่างเหม่อลอยในขณะที่ทุกคนกำลังปีนกลับขึ้นไปด่้านบน เธอไม่โกรธที่โดนผลักลงมา บางทีคนพวกนั้นอาจจะไม่ได้ตั้งใจก็เป็นได้ ร่างบางกำลังจะว่ายกลับแต่สิ่งที่เห็นกลับทำให้เธอเบิกตากว้าง

    ���������ซ่า!!

    ���������ร่างคุ้นเคยที่เห็นในหนังสือพิมพ์วันนั้นยังจำติดตา มันกระโดดมายังบ่อน้ำที่เธอกำลังตะเกียกตะกายขึ้นฝั่งและเสียงกรีดร้องก็ดังขึ้น ยังมีคนที่ไม่ได้ปีนขึ้นไปด้านอีกอย่างนั้นหรือนี่�เธอไม่อยากให้มีใครตายอีกต่อไปแล้ว ร่างบางหันไปก็พบกับบผู้หญิงคนหนึ่งกำลังชูมือขอความช่วยเหลือจากคนบนฝั่งแต่ทว่าก็ไม่มีใครที่จะยื่นมือหรือช่วยเหลือหล่อนเลนยแม้แต่คนเดียว ชาช่าที่กำลังจะถึงฝั่งถีบตัวพุ่งออกไปอีกครั้ง สัญชาตญาณของเธอมันบอกให้เธอไปดึงผู้หญิงคนนั้นให้รอดพ้นจากคมเขี้ยวนั่น เธอจะต้องไปช่วยคนให้รอด

    �������� "ธ่อว้อย!!"เธอกัดฟันกรอดพุ่งเข้าไปคว้าร่างของผู้หญิงผมสั้นที่กรีดร้องเสียงแหลมนั่นให้พ้นรัสมีฟันแหลมเหวี่ยงเธอใไปห้พ้นทาง หล่อนรีบกระเสือกกระสนว่ายห่างออกไป...ผู้หญิงคนนั้นรอดไปได้แล้ว�หล่อนว่ายขึ้นฝั่งโดยที่มีคนมาดึงเธอให้ขึ้นไป� และอีกหลายคนก็ตะโกนพร้อมกับกวักมือเรียกให้เธอขึ้นไป เธอรู้อยู่แล้ว ไม่ได้อยากแช่น้ำอยู่ในนี้สักหน่อย ร่างบางรีบว่ายไปที่ฝั่งอย่างรวดเร็ว เพราะตอนนี้ในบ่อเหลือเพียงเธอคนเดียว อีกไม่นานพวกมันจะต้องมารุมกินโต๊ะเธออย่างแน่นอน ร่างบางเหลือบตามองคนด้านหลังก่อนจะพลิกตัวว่ายเข้าฝั่งบ้าง

    �������� "เห้ยย...ยัยหนู...มันโผล่มาแล้ว...ติดเทอร์โบเลย!!"มันจะทำได้ไหมล่ะนั่น...มีคนป้องปากตะโกนมาจากฝั่ง เสียงว่ายน้ำดังมาไม่ไกลทำให้ชาช่าต้องหันไปมองอย่างลืมตัวว่าตอนนี้จะต้องทำอะไร เธอสบตากับดวงตาที่ใสราวกับลูกแก้วนั่นราวกับต้องมนตร์สะกด ไม่สามารถขยับร่างกายได้ดั่งใจ เธอเห็นเหมือนว่าปลาตัวนั้นมันกำลังแสยะยิ้ม รอยยิ้มของผู้ที่จะมาพรากชีวิตของเธอไปในอีกไม่ช้า

    �������� /ไอ้หนู...ทำอะไรของแก๊...รีบๆว่ายกลับมาเลยนะ!!/เสียงแปดหลอดของใครบางคนตวาดดังก้องอยู่ข้างหู ทำให้เธอหลุดออกจากห้วงภวังค์ เธอรีบหมุนตัวกลับและเตะขาว่าน้ำเร็วที่สุดในชีวิตของเธอเท่าที่จะทำได้ หากลุงผีไม่ปลุกเธอ เธอคงได้เป็นอาหารปลาอย่างแน่นอน เพราะเมื่อกี้อีกไม่ถึง 5นาทีปลามันก็จะเข้ามางับตัวเธอได้อยู่แล้ว

    ������� ร่างบางว่ายน้ำอย่างรวดเร็วแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต เรียกได้ว่าหากเธอกำลังแข่งที่หนึ่งคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเธอ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ เธอหันไปมองด้านหลังแขนของเธอเกือบจะโดนปลาอีกตัวงับ ทว่าเธอก็รีบหดแขนเข้ามาอย่างรวดเร็ว ไทยมุงทั้งหลายเริ่มส่งเสียงเชียร์และลุ้นกันตัวโก่งแทนที่จะมีคนลงมาช่วยเธอสักคน

    �������� "ทำไมต้องแส่หาเรื่องด้วยนะ!"เธอคิดก่อนจะหันไปดูด้านหลัง ปลานั่นไล่กวดมาเร็วขึ้นอย่างปาฏิหารย์ เป็นเธอเสียเองที่ว่ายช้าลง แรงเริ่มจะหดถอยลงไปเรื่อยๆตามขีดจำกัดที่มีของมนุษย์ "ไม่มีไอวิญญาณ...มันเป็นซอมบี้เรอะ"เธอเพ่งไอวิญญาณพลางคิดรีบฮึดว่ายน้ำต่ออย่างรวดเร็ว เธอยังไม่อยากจะตายนะ ถึงแม้เมื่อก่อนเธอจะคิดแบบนั้นก็ตามทีว่าให้ตายตามพจน์ไปไวๆก็เถอะ...ปลาว่ายเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

    �������� 5เมตร

    �������� 3เมตร

    �������� 1เมตร

    ���������50CM

    ���������2นิ้ว

    �������� 1/2คืบ(เริ่มแล้ว)

    �������� 0.027MM(ไอ้พวกบ้า~~)

    ���������คมเขี้ยวของปลานั่นสัมผัสที่หัวไหล่ของเด็กสาว�เวรกรรมอะไรของเธอหนอถึงได้มาเจอกับปลาบ้านี่ ไอวิญญาณตัวเองก็ไม่เคยจับได้และแล้วก็มีความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาสู่หัวของเธอมันเป็นคำพูดของวิญญาณที่สอนเรื่องการดูไอวิญญาณให้กับเธอ โดยไม่ดูสถานะการณ์เลยว่าตอนนี้เธอนั้นไม่สมควรจะคิดถึงเรื่องนี้ออกมาเลยแท้ๆ

    ��������� "ไอวิญญาณสีดำอย่างนั้นหรือ"เธอคิด แต่ยังไม่ทันจะคิดอะไรมากกว่านี้ มีมือข้างหนึ่งฉุดให้เธอหลุดพ้นจากรัสมีเขี้ยวปลาอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่ลุงผีอย่างแน่นอน แต่ใครกันล่ะที่จะมาช่วยเธอ เพราะตอนนี้มันก็มีแต่ไทยมุงและพวกที่อยากจะเอาชีวิตของตัวเองให้รอดจากสถานะการณ์ข้างหน้านี่ ไม่มีใครยื่นมือเข้าช่วยเหลือเธอหรอก

    �������� "พี่ชาช่า"นำเสียงคุ้นเคยทำเอาหัวใจชาช่ากระตุกวูบ "ผมพจน์นะ"เด็กชายคนนั้นพูด�� ดวงตากลมโตสบจ้องกับดวงตาสีดำสนิทของเธอก่อนจะยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น เธอจำได้ นี่เป็นรอยยิ้มที่พจน์มักจะมอบให้เธอเสมอๆเวลาเจอกัน

    �������� นี่ยมทูตทำตามคำขอของเธอจริงๆหรือนี่�สวรรค์โปรด ไม่สินรกโปรดมากกว่าเพราะเป็นยมทูตที่ทำตามคำขอของเธอ แต่ทว่าเธอนั้นดีใจได้ไม่นานนักเพราะเธอเพิ่งจะนึกออกว่าตอนนี้ตัวเองกำลังเผชิญหน้าอยู่กับอะไร และการที่เด็กคนนี้มาช่วยเธอเอาไว้มันก็หมายความได้อย่างเดียวเลยก็คือ...

    ��������� "ผมไปนะครับ"เด็กน้อยวัย 3 ขวบที่ไม่น่าจะพูดได้คล่องพูดอย่างชัดเจนก่อนยิ้มให้เธออีกครั้งแล้วผลักออกห่างภาพที่เธอไม่อยากจะเห็นก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าของเธอให้ได้เห็นกันสดๆ จะจะตา จนเธอคิดว่าเธอนอนหลับอยู่และฝันเห็นภาพหลอนเหล่านี้ ดวงตาของเธอเบิกโพล่งมองดูสถานะการณ์ตรงหน้าอย่างตื่นตะลึง

    ��������� แหมะ!!

    ��������� บางสิ่งบางอย่างกระเด็นมาโดนแก้มของเธอจากการกัดกินของปลาประหลาดอย่างตะกละตะกลาม มือบางเลื่อนขึ้นไปแตะแล้วมาดูอย่างช้าๆ เมื่อเห็นว่าเป็นของเหลวเหนอะๆ สีแดงสดและโชยกลิ่นคาวอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเธอก็รู้ได้ทันทีว่าสิ่งที่กระเด็นมาโดนแก้มของเธอนั้นที่แท้จริงแล้วมันคืออะไร...
    ��������
    ��������� และหลังจากนั้นทุกอย่างก็ไม่ได้อยู่ในความรับรู้ของเธออีกเลย

    ��������������������������������������O[]O[]O[]O[]O[]O[]O[]O[]O[]O[]O[]O[]O


    ��������� เปลือกตาบางปรือขึ้น ผ้าสีขาวห่อบางสิ่งผ่านหน้าเธอไป...

    ��������� ...แขนข้างที่ถูกกัด...

    ��������� แขนข้างนั้นเป็นแขนที่ดึงเธอให้ออกห่างจากปลาตัวนั้น สิ่งที่เธอเห็นไม่ใช่ความฝัน สัมผัสอันน่าสะอิดสะเอียนจากเลือดสดๆที่กระเด็นมาโดนแก้มของเธอนั้นยังตรึงแน่นอยู่ในห้วงแห่งความทรงจำอันเลวร้ายและโหดร้ายในชีวตของเธอ ร่างบางพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงเข็นของผู้ป่วยแต่ไม่มีใครเข็นเธอไปไหน เพราะทุกคนนั้นกำลังวุ่นวายกับการตรวจสภาพศพและการยืนยันเจ้าตัวว่าศพนี้เป็ของใคร จริงๆมันก็ไม่เชิงเป็นศพเนื่องจากส่วนใหญ่มักจะเหลือเป็นแค่ชิ้นส่วนของร่างกายที่จะต้องนำไปตรวจ DNA อีกทีเพื่อยืนยันให้มั่นใจ

    �������
    �� "ไหนบอกว่าจับมันได้หมดแล้วไง!...ทำไมมันโผล่ออกมาอีก"ชายฉกรรจ์คนหนึ่งดึงเสื้อเจ้าหน้าที่ของพิพิภัณฑ์ขึ้นมาตะคอกถาม ดึงความสนใจจากเธอมองความหดหู่โดยรอบบริเวณให้ไปมองที่เจ้าของเสียงซึ่งเป็นชายร่างยักษ์ใหญ่และมีกล้ามเป็นมัดๆ ส่วนเจ้าหน้าที่เป็นแค่ชายวัยกลางคนที่ร่างผอมแห้ง สวมแว่นตากลมๆถือแผ่นรองเอกสารและเอกสารเท่านั้น ดูแล้วเจ้าหน้าที่ไม่สามารถสู้กับชายร่างใหญ่นั่นได้เลย

    ��������� "จะ...ใจเย็นๆก่อนนะครับ...พวกผมเพิ่งจะจัดการพวกมันไปได้นะครับ"เจ้าหน้าที่ตอบเสียงสั่นๆ เธอมองทั้งสองคนนั้นอย่างสนใจพลางเงี่ยหูฟังบทสนทนา ค่อยๆพลิกตัวเองลงจากเตียงผู้ป่วย ค่อยๆเดินไปหาทั้งคู่อย่างช้าๆ ท่ามกลางความรีบร้อนของใครหลายๆคน ที่ไม่มีเวลาจะมาสนใจผู้ป่วยที่ยืนผิดที่ผิดทางอย่างเธอ นั่นแหละดีแล้วเพราะจริงๆเธอก็ไม่ได้ป่วยอะไรเพียงแค่หมดสติไปเท่านั้น คนพวกนั้นจะได้เอาเวลาไปทำอย่างอื่นได้

    ��������� "แล้วมันโผล่มาได้ไงวะ...โผล่มาแล้วไม่มีอะไรกูจะไม่ว่าเลยนะเว่ย แต่นี่มันกินแฟนกูเข้าไป ใครจะรับผิดชอบ"คราวนี้คนฟังก็ถึงบางอ้อว่าทำไมชายคนนั้นถึงโกธรเป็นฟืนเป็นไฟได้ถึงขนาดนี้ ชาช่าเดินไปหาทั้งคู่ที่ยังเถียงกันไม่เลิก เพราะเธอเดาเหตุการณ์ต่อไปเองว่าลุงเจ้าหน้าที่คงจะโดนชายคนนี้ต่อยหน้าเอาๆแน่ๆหากเธอไม่เดินเข้าไปขัดบทสนทนาอันรุนแรงและคุกรุ่นไปด้วยอารมณ์เดือดดาลของชายคนนี้

    ����������"คุณฆ่าพวกนั้นด้วยวิธีอะไร"ชาช่าเข้าไปแทรกเรียบๆทำเอาทั้งคู่สะดุ้งเฮือกเพราะไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของเธอเลยอาจเป็นเพราะรอบๆกำลังวุ่นวายและเสียงดังชนิดที่เธอเกลียดเลยล่ะ ชาช่าถอนหายใจ โตเป็นผู้ใหญ่แล้วยังขวัญอ่อน หน้าสมเพชจริงๆเลย ชายร่างใหญ่หันมาทำตาดุใส่แบบที่คิดว่าเธอจะกลัว...เธอไม่กลัวหรอกไม่มีอะไรน่ากลัวไปกว่าไอ้ปลานรกนั่นอีกแล้วล่ะมั้งเธอคาดว่านะ

    ��������� "ลุง...ลุงเอาไปฝังดิน"เจ้าหน้าที่ตอบด้วยน้ำเสียงสั่นๆ เกรงกลัวสายตาของชายร่างใหญ่ที่มองไปทางเด็กสาว เขากลัวว่าชาช่าจะถูกชายเอาแต่ใจคนนี้ซัดจนปลิว แต่เจ้าตัวนั้นไม่คิดที่จะเกรงกลัวและไม่มอง กลับมองมาทางเขาเสียอีกต่างหาก

    ���������"ลุงฆ่ามันไม่ถูกวิธีเสียแล้ว"ชาช่าเบิกตากว้างอย่างตกใจ "พวกนี้ต้องเผาไฟหรือตัดหัวเท่านั้น"เธอพูดต่อ จริงๆแล้วเธอก็ไม่รู้หรอกว่าเธอนั้นพูดถูกหรือไม่แต่ว่ามันเหมือนมีใครมาบอกกับเธอว่านี่เป็นวิธีที่จะกำจัดเหล่าปลาประหลาดพวกนี้ให้หมดไปได้โดยที่พวกมันจะไม่โผล่มาทำความเดือดร้อนให้กับใครอีกเลย

    ���������"นี่...ไอ้หนู...เมื่อเกือบตายไปรอบแล้วไม่เจียมตัวใช่ม้ย?...อยากโดนอีกรอบหรือไงวะ"ชายคนนั้นหันมาหาร่างเล็ก "พวกมันไม่ใช่ซอมบี้นะ"ชายร่างกำยำตวาดด้วยความโมโหและลืมตัวหลังจากที่เพิ่งเสียแฟนสาวไป สงสัยวีรกรรมที่เธอทำคงจะเป็นที่โจษจันไปทั่วทั้งพิพิธภัณฑ์เสียแล้วล่ะมั้ง ชาช่าเลิกคิ้วเล็กน้อย

    ���������"พี่ชายไม่รู้อะไรอย่ามาพูด...เห็นปลาพวกนั้นมั้ยล่ะ...ไอ้ปลาที่ขึ้นอืดจนหนังปริขนาดนั้นแล้วพี่ชายคิดว่ามันธรรมดาเหรอ"เธอถามกลับเรียบๆแต่แววตาเย็นเยียบ เห็นแก่ตัวและเอาแต่ใจเป็นอย่างแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของเธอ นิสัยอันน่าสะอิดสะเอียนของมนุษย์อย่างหนึ่ง เมื่อไม่ได้ดังใจก็ต้องมาระบายใส่คนอื่นเพื่อให้ได้สิ่งที่ตนเองอยากจะได้ทั้งๆที่อาละวาดออกมาแล้วแฟนของเขาก็ไม่ได้ฟื้นขึ้นมาเสียหน่อย

    ���������ความตายที่เธอเริ่มจะทำเป็นชินชากับมันทำให้เธอดูเหมือนเป็นคนเลือดเย็น�เธอเลือกที่จะไม่ร้องโวยวายขอให้สวรรค์หรือนรกคืนชีวิตของคนที่เธอรักคืนมาให้เธอเพราะรู้ว่าแม้แต่พระเจ้าหรือซาตานก็ไม่สามารถทำได้ เธอเลือกที่จะจำปลักอยู่กับตัวเองมากกว่าและคิดถึงอนาคตว่าจะอยู่ต่อไปได้อย่างไรหากไม่มีคนๆนั้นอยู่แล้ว

    �������� "ข้าไม่ชอบให้ใครมาย้อน!!"ชายคนนั้นเงื้อหมัดขึ้น แต่ก็ต้องชะงักกลางอากาศ เพราะเหมือนมีมือที่มองไม่เห็นมาหยุดเอาไว้ ชาช่าเบิกตาขึ่นเล็กน้อยเมื่อเห็นร่างอันเลือนรางของใครบางตนลอยอยู่กลางอากาศและขวางหมัดของชายร่างใหญ่เอาไว้ได้อย่างเฉียดฉิว เธอผ่อนลมหายใจออกมาเล็กน้อย

    �������� /ให้ตายสิไอ้หนู...อย่าหาเรื่องได้มั้ยวะเนี่ย!!/วิญญาณตนหนึ่งเข้ามาหยุดหมัดนั่นพูดอย่างเบื่อๆ�ทีแรกก็มาแต่เสียงแต่ผ่านไปสักพักก็ค่อยปรากฏออกมาเป็นร่างกายโปร่งแสงให้ทุกคนได้เห็นกันถ้วนหน้า แต่เวลานี้คงจะไม่มีใครมาสังเกตหรอกมีเพียงเธอ เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ และชายร่างกำยำเท่านั้นที่อยู่ใกล้ๆและได้ยินเสียง

    �������� "พยายามไม่พูดอะไรแล้วนะ"เธอตอบหน้าตาย "ลุงผีพูดไม่เพราะ"เธอต่ออย่างไม่ใส่ใจในคำพูดของวิญญาณอาวุโส พลางโบกมือราวกับปัดแมลงวันไปให้พ้นทางลุงผีพ่นลมหายใจทั้งๆที่ไม่มีลมหายใจแล้วพลางกลอกลูกตาขึ้น

    ���������/ข้าหมายถึงกวนประสาทโว้ย~~...ไอ้คำพูดยอกย้อนนั่นด้วย/วิญญาณตนนั้นว้ากอย่างเหลืออด /แล้วข้าจะพูดเพราะพูดไม่เพราะมันไม่เกี่ยวกับแก/ ลุงผีบ่น เธอยกมือขึ้นปิดหูอย่างไม่อยากที่จะฟังเลย น่าเบื่อเป็นบ้า!!

    ���������"ใจร้ายที่สุดเลยลุง!!"เธอขมวดคิ้วทำแก้มป่อง ส่วนเจ้าหน้าที่กับชายคนนั้นเบิกตากว้าง อ้าปากค้างด้วยอากการชอคสุดขีดถึงขีดสุด ไม่คิดว่าเกิดมาจะได้มาเห็นเหตุการณ์สุดประหลาดแบบนี้ตรงหน้า...

    ���������...อุแม่เจ้า...บนโลกนี้มีคนนั่งเถียงกับผี!...

    ��������
    �"พอเถอะ...เขาตกใจกันใหญ่แล้ว"ร่างบอบบางเหมือนเพิ่งจะนึกขึ้นได้หันไปมองชายทั้งสองที่บัดนี้ดวงตาแทบถลนออกนอกเบ้า แถมชอคค้างเหมือนวิญญาณจะหลุดออกมาจากร่าง ชาช่าส่ายหน้าอย่างอ่อนอกอ่อนใจ โตจะตายแล้วยังมีหน้ามากลัวผีอีก ช่างแปลกประหลาดเสียจริงๆเลยคนพวกนี้...

    ��������� ...เธอนั่นแหละแปลกกว่าใครเขา...

    ��������� /ลุงไม่ช่วยแกก็โดนต่อยสิ/ลุงผีหันไปหาทั้งสองคนบ้าง /ใจเสาะว่ะ...เดี๋ยวต้องลบความทรงจำด้วยไม่งั้นได้จับไข้หัวโกร๋นแน่ๆ/ปกติผีทั่วไปนั้นจะไม่มีอำนาจอะไร ไม่สามารถลบความทรงจำได้แต่ผีตนนี้สามารถทำได้เป็นเพราะอะไรกันนะ ชาช่าขมวดคิ้วแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย แค่ไม่ทำอันตรายและไม่รังเกียจเธอก็พอแล้ว

    ��������� "เจ้าค่า~~...ไว้จะหาของเซ่นให้"เด็กสาวพูดอย่างประชดประชัน แต่ลุงผีก็รู้ว่าเธอพูดเล่นเลยไม่ถือโทษโกรธความและจางหายไป เมื่อวิญญาณหายไป หมัดที่ค้างอยู่กลางอากาศก็ตกลงข้างตัวของชายฉกรรจ์ คงจะค้างไปอีกสักพักใหญ่เลยทีเดียว เธอไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจเท่าไรนัก ก่อนจะเดินออกไปจากบริเวณนั้น

    ��������� เธอพบกับเจ้าหน้าที่อีกคนที่กำลังประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่คนอื่นๆอยู่ เธอเข้าไปสะกิดโดยการดึงเสื้อเบาๆด้วยสีหน้าเอาจริงเอาจังพลางบ่นพึมพำอย่างเบื่อหน่ายและเหน็ดเหนื่อยกับหน้าที่และภาระที่ตนเองกำลังแบกรับอยู่ ดูเหมือนชายคนนี้จะเป็นหัวหน้าของเจ้าหน้าที่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้

    ��������� "มีอะไรหรือหนู"เขามองมาที่เธอ พลางขมวดคิ้วคงจะหงุดหงิดไม่น้อยที่มีเด็กมาขัดจังหวะในขณะที่เขากำลังปฏิบัติหน้าที่ แล้วจากนั้นก็คลายปมที่คิ้วออกเมื่อเห็นใบหน้าของเธอชัดๆ "มีอะไร...หลงกับแม่อีกแล้วหรือไง"เขาถาม เธอส่ายหน้าเบาๆพลางมองไปโดยรอบที่มีห่อผ้าขาวๆวางกองเรียงราว

    ��������� "มีคนตายกี่คนคะ"เธอถาม แววตาหม่นหมองลงอย่างน่าสงสารแต่สีหน้าของเธอยังคงเรียบเฉยไม่เปลี่ยนแปลง เจ้าหน้าที่คนนั้นยกมือขึ้นมาลูบศรีษะเธอเบาๆเป็นเชิงปลอบโยน คงคิดว่าเธอกำลังเศร้าเรื่องที่ทำให้เด็กคนนั้นตาย...มันก็จริง เป็นความผิดของเธอเองที่ทำให้เด็กที่เกิดขึ้นมาเพียงไม่กี่ปีจะต้องมาตาย

    ��������� "78ชีวิต"เจ้าหน้าที่คนนั้นบอกด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ผละมือออกจากศรีษะของเธอ ส่วนชาช่านั้นเมื่อทราบจำนวนสีหน้าที่เคยเรียบเฉยก็แปรเปลี่ยนเป็นเศร้าหมอง�เธอค้อมหัวให้เจ้าหน้าที่เป็นเชิงขอบคุณ ก่อนเดินออกมาจากบริเวณนั้น หัวใจดวงน้อยรู้สึกว่ามันสั่นอยู่ในอกของตัวเองอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

    ��������� "ชาช่า"แม่ของเธอวิ่งเข้ามากอดเธอไว้แน่นโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว ชาช่าเลยเซไปด้านหลังเล็กน้อย อ้อมกอดที่ไม่ได้สัมผัสมาหลายปี ใบหน้าของเธอซบลงบนอกของผู้เป็นแม่อย่างรู้สึกโหยหา แม่ไม่ได้เกลียดเธอ แม่กอดเธอเหมือนอย่างในอดีตที่ผ่านมา ร่างบางรู้สึกตื้อขึ้นมาในอก เธอไม่เคยรู้สีกเช่นนี้มาก่อนเลย

    ��������� "แม่...น้องกับพ่อ..."แต่ชาช่ายังไม่เห็นน้องๆและพ่อของเธอเดินมาด้วยจึงเงยหน้าขึ้นถามผู้เป็นแม่ด้วยความเป็นห่วงอีกสามคน กลัวว่าตอนนี้กำลังจะพลัดหลงกัน และในสถานะการณ์แบบนี้ยากต่อการตามหาอย่างมากเพราะไม่รู้ว่าไปอยู่ส่วนไหน หรือว่าอาจจะกลายเป็นชิ้นส่วนไปกองๆรวมกันในกองผ้าก็เป็นได้

    ��������� "รออยู่ที่รถแล้วจ้าลูก"แม่พูดทำให้เธอเบาใจไปมากกว่า75% เด็กสาวถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะถามอีกคำถามหนึ่งซึ่งเธอรู้สึกสั่นๆอยู่ในอกอย่างแปลกๆ และเธออยากได้คำยืนยันให้แน่ใจอีกครั้งว่าเมื่อสักครู่นั้นเธอได้ฝันหรือมองผิดหรือได้ยินผิดไป...เธอภาวนาให้มันเป็นแบบที่เธอกำลังคิด

    ��������� "แล้ว...พจน์..."เธอเอ่ยชื่อของเขาคนนั้นออกมาอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้เอ่ยชื่อนี้มานานแสนนาน ลำคอของเธอแห้งผากในฉับพลันราวกับถูกดูดน้ำจากร่างกายออกไปจนหมด หัวใจเต้นระรัวเพื่อรอฟังคำตอบหรืออีกนัยหนึ่งคือคำยืนยันเข้าข้างความคิดของตัวเองจากผู้เป็นแม่ ที่ตอนนี้ทำหน้างุนงง

    ����������"พจน์ไหนจ๊ะ?" แม่ยิ้ม แต่กลับขมวดคิ้วจนเธอสังเกตเห็นได้นั่นทำให้เธอรู้สึกว่ากำลังจะโดนอะไรบางอย่างฉุดลงไปสู่เหวลึก ขอให้คำตอบอย่าออกมาเป็นอย่างที่เธอคิดเลย ช่วยยืนยันทีว่าเธอหลบปลาได้ก่อนที่จะสลบไปแล้วก็มีคนลากเธอขึ้นมาจากน้ำและเขี้ยวยาวๆของปลาซอมบี้ประหลาดนั่น

    ��������� "คนที่ช่วยหนูไว้เมื่อกี้ไงคะ"เธอตอบ "เด็กคนนั้นเรียกชื่อหนูถูก...แล้วบอกว่าเขาชื่อพจน์!!"เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวัง กอดร่างของแม่แน่นราวกับว่าผู้เป็นแม่กำลังจะหายไปจากเธอ...อีกครั้ง

    ��������� "อะไรนะ"คนแม่ร้องเสียงหลง กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก หล่อนควรจะตอบลูกสาวของหล่อนว่าอย่างไรดีเมื่อเห็นเลือดจำนวนมากสาดกระเซ็นออกมาจากร่างเล็กๆ แล้วร่างนั้นก็กระจุยกระจายเป็นชิ้นๆให้ปลาซอมบี้ประหลาดได้รุมกินลิ้มลองเนื้อของเด็กน้อยคนนั้นอย่างตะกละตะกลามจนน่ารังเกียจ

    ���������"ให้เดา...เขาคงชื่อเดิม"เธอคาดเดาและคาดหวังว่าเด็กน้อยเมื่อครู่จะรอด"แม่คะ...ตอบหนูสิ" เธอคาดคั้นคำตอบจากผู้เป็นแม่ เมื่อเห็นว่าหล่อนเงียบไปด้วยการเขย่าร่างของผู้เป็นแม่เบาๆเหมือนเพื่อเป็นการเรียกสติของมารดาให้มาบอกคำตอบของหล่อน แม่ของชาช่ามองลงมาเห็นใบหน้าซึ่งประดับไปด้วยรอยยิ้มของลูกสาวก็กระอักกระอ่วนก่อนกลั้นใจที่จะตอบความจริงซึ่งพังทลายความหวังของลูกจนไม่เหลืออะไรเลย

    �������� "ไปแล้วลูก...พจน์เขาไปแล้ว"คนแม่พูดด้วยเสียงสั่นเครือพยายามที่จะกลั้นสะอื้นให้ถึงที่สุด� ส่วยชาช่านั้นตัวแข็งทื่อในทันทีที่ได้รับคำยืนยันจากผู้เป็นแม่ หูของเธอเหมือนจะได้ยินเสียงอะไรบางอย่างพังครืนลงมา...

    ��������� ...เช่นเดียวกับความหวังของเธอ...

    �������� "ไม่...ไม่จริง...ไม่จริงใช่มั้ย"ชาช่าพึมพำ ในท้องน้อยรู้สึกโล่งโหวงเหวงอย่างน่าประหลาด ราวกับว่าตัวเองนั้นได้ลอยไปอยู่ในอวกาศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่เธอจะส่ายหน้าเบาๆอย่างไม่เชื่อหูของตัวเอง สะบัดแม่ให้หลุดอย่างแรงแล้วพลิกตัววิ่งไปทางที่ตัวเองจากมา น้ำใสๆเอ่อคลออยู่ที่ดวงตาของเธอ

    ��������"ระวังตัวนะลูก"แม่ตะโกนไล่หลัง ดวงตาฉายแววเศร้าสร้อย รอยยิ้มที่แทบไม่เคยเห็นของชาช่านับจากวันที่พจน์จากไปถูกพรากออกไปอีกครั้งอย่างยากที่จะนำกลับคืนมาได้ เธอได้แต่เสียใจกับคำพูดของตัวเอง แต่เธอก็ปกปิดมันไม่ได้ ไม่อย่างนั้นคนที่เจ็บปวดมากที่สุดก็คงจะไม่พ้นชาช่าลูกสาวของเธอเอง

    �������� ชาช่าไม่อยากจะเชื่อแม้แต่คำพูดของแม่ตัวเอง แต่ว่าความจริงก็คือความจริงเธอได้แต่โทษตัวเองขณะที่วิ่งไปยังที่ๆหนึ่งซึ่งจิตสำนึกของเธอพามันมา เธอไม่ได้ตั้งใจแต่ทว่านั่นเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เธอจะทำได้ พจน์เพิ่งเกิดมาได้ไม่นาน�จะมาตายตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด และสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ�คนที่ทำให้พจน์ตาไม่ใช่ปลา...

    ���������...แต่เป็นเธอเองต่างหาก...

    ���������"สองครั้งแล้ว...ฉันติดหนี้นายสองครั้งแล้ว!!"เด็กสาวตะโกนออกมาเมื่อถึงที่หมาย มองห่อผ้าที่เรียงรายอยู่เต็มไปหมดไม่รู้ว่าของใครเป็นของใคร แต่หนึ่งในนั้นต้องเป็นพจน์ คนที่ช่วยชีวิตเธอ คนที่เป็นเพื่อนเธอ...คนที่ยอมตายแทนเพื่อเธอได้...อย่างไม่ลังเลเลยสักนิดเดียงถึงสองครั้ง เธอเป็นหนี้ชีวิตที่ชาติไหนๆก็คงทดแทนได้ไม่หมด

    ������� น้ำตาที่เธอคิดว่ามันเหือดแห้งหายหมดไปแล้วตั้งแต่สามปีก่อนอ่อท้นเต็มดวงตาจนเธอมองไม่เห็นอะไรและไหลทะลักออกมาอีกครั้งอย่างหยุดไม่ได้ เธอฆ่าคนทางอ้อม!! ไม่ว่าใครที่อยู่ใกล้ตัวเธอต้องตายคนแล้วคนเล่า ตั้งแต่เด็กๆจนถึงอายุปัจจุบันคือ15ปี ทำไมเธอถึงได้เป็นตัวอันตรายสำหรับทุกคนแบบนี้ ชาช่าทำได้แต่โทาตัวเอง แต่ช่วยใครไม่ได้เลยแม้แต่คนเดียว!!

    ������� "ฉัน...ไม่ควรเกิดมาใช่มั้ย...ไม่ควรอยู่ตรงนี้ใช่มั้ย!"

    ________________________
    จัดเต็ม!!
    ���������
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×