คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Will Love, So I love[Part 3]=ฮยอกของใคร??
3
ฮยอก...ของใคร?
มัธยมซองจิน
“วันนี้เหม่อบ่อยนะ”
คนถูกทักถึงกับสะดุ้งก่อนจะกระเถิบเล็กน้อยให้เพื่อนได้นั่ง 'จุนซู'มองเพื่อนนั่งซึมอย่างหนักใจ เพราะตั้งแต่เจ้าคนพูดเยอะอย่างทงเฮย้ายไปที่ฮันวอง เพื่อนคนนี้ก็เกิดอาการซึมเศร้าอย่างกู่ไม่กลับซะแล้ว
“ฉัน.....เฮ้อ!!”
“อะไรกันเล่า! ปกตินายก็ไม่ได้เจอทงเฮสองวันเสาร์อาทิตย์อยู่แล้ว แล้วนี่เป็นอะไรไป”
“มันไม่เหมือนกัน แค่คิดว่าทงเฮย้ายโรงเรียนไปแล้วมันก็ไม่โอเคแล้วอ่ะดิ”
“ฮยอก...นายเป็นหนักนะเนี่ย”
“เออ! ช่างมันเหอะ ฉันกลับบ้านดีกว่า อยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร”
“บ๊ายบาย” ฮยอกแจเอากนะเป๋าขึ้นพาดบ่าก่อนจะเดินลงจากตึกเรียนอย่างเชื่องช้า ระหว่างทางที่กำลังจะเดินออกจากตึกก็เจอกับเด็กในเครื่องแบบของมัธยมฮันวองก็เกิดอาการแปลกใจเล็กน้อย ในใจวูบหนึ่งหลงคิดไปว่าเป็นเจ้าปลาน้อยเพื่อนรัก แต่ก็ต้องสะบัดความคิดนั้นทิ้งเมื่อคนแปลกหน้าต่างโรงเรียนเดินเข้ามาหาตนเองพลางยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“สวัสดี^^ นายใช่ ฮยอกแจรึเปล่า?”
“เอ้อ! ใช่....นายรู้จักฉันหรอ” ร่างบางชี้นิ้วมาที่ตัวเองอย่างงงๆและใช้สายตาไม่ไว้วางใจมองไปที่คนหน้าตี๋ที่จู่ๆก็เดินเข้ามาทักทาย แถมยังรู้จักเขาอีก มาเฟียหลอกผมไปขายรึเปล่าเนี่ย-*-
“ฉัน ฮันคยองมาจากมัธยมฮันวองน่ะ เป็นเพื่อนที่นู่นของทงเฮ”
“อ๋อ ถ้าอย่างนั้นก็ยินดีที่ได้รู้จักนะ แต่ว่านายมาทำอะไรที่นี่? เค้าให้ออกจากโรงเรียนด้วยหรอ”
“อ่า ฉันได้รับอนุญาตน่ะ เผอิญว่ามีธุระแถวนี้นิดหน่อย ทงเฮเลยฝากให้ฉันเอาของมาให้”
“ของ???” ร่างสูงส่งถุงกระดาษสีดำแถมยังมีโลโก้ห้างดังประดับไว้ที่ข้างถุง ทำให้คนรับของทำสีหน้าประหลาดใจแต่ก็ยื่นมือออกไปรับอย่างรวดเร็วทันทีที่ได้ยินชื่อของทงเฮ ก็ในเมื่อของสิ่งนี้เป็นของที่เพื่อนผมฝากมา มีเหตุผลอะไรที่ผมจะต้องไม่รับล่ะหมอนี่เป็นคนจากฮันวอง คงจะเป็นเพื่อนของทงเฮจริงๆนั่นแหละ
ภายในถุงมีกล่องที่บุด้วยกำมะหยี่สีแดงสด เมื่อมือเล็กหยิบมันขึ้นมาแล้วเปิดดูก็พบกับจี้รูปอักษร H
H ฮยอกสินะ
ร่างสูงมองคนตัวเล็กกว่ายืนยิ้มอย่างพออกพอใจ แท้จริงแล้วการที่เขาออกมาจากโรงเรียนมาที่นี่ไม่ใช่มีธุระหรือเพราะทงเฮ แต่เป็นเพราะว่าเขาต้องการจะมาเองต่างหาก แถมจี้เส้นนั้นทงเฮเองก็ไม่ได้ฝากมา หากแต่ว่าเขาได้เตรียมไว้ให้สำหรับคนคนนี้มานานแล้ว ส่วนอักษรตัว H ก็ไม่ได้ย่อมาจากคำว่าฮยอกแจเพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึงชื่อฮันคยองอย่างเขาด้วย
“ฝากขอบคุณทงเฮด้วยนะ สวยมาก”
“ได้สิ อ่า ทุ่มกว่าแล้ว ฉันยังไม่ได้จองโรงแรมเลย นายพอจะแนะนำให้ฉันได้มั้ย”
“มีแต่ถูกๆนะแถวนี้ นายนอนได้หรอ”
“เค้าว่ากันว่าของถูกมักไม่ดีเสมอไป ฉันไม่ชอบที่สกปรกนะ”
“งั้นนายไปนอนบ้านฉันมั้ย ถึงจะเล็กไปนิดแต่ก็ไม่สกปรกมากเท่าไหร่ ถือซะว่าเป็นค่าส่งของก็แล้วกัน”
คนตัวสูงยิ้มอย่างพอใจเมื่อเรื่องทุกอย่างลงล็อคตามที่วางแผนไว้ ร่างเล็กพาตัวเองไปยังอพาร์ทเม้นต์แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใจกลางเมือง ถึงจะไม่ได้ใหญ่มากนักแต่ก็ไม่ได้เล็กมากสำหรับสองถึงสามคน ภายในห้องแบ่งเป็นสัดส่วนอย่างลงตัว ของก็วางเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่บนชั้นและตู้อย่างเข้าที่ ทำให้คนตัวใหญ่ที่เดินตามเข้ามาที่หลังอดชื่นชมในใจเล็กๆไม่ได้ ฮยอกแจวางของลงบนโต๊ะเขียนหนังสือก่อนจะเชิญแขกผู้มาเยือนให้นั่งลงบนโซฟา
“นายอยู่ที่นี่คนเดียวหรอ”
“ก็ไม่เชิงคนเดียว ทงเฮจะมาขอนอนด้วยบ่อยๆ^^”
ทงเฮ.....
“แล้วพ่อแม่ของนายล่ะ”
“อยู่ต่างจังหวัดน่ะ....ก็ส่งเงินมาให้ฉันเรื่อยๆ”
“ฐานะทางบ้านคงดี”
“ไม่หรอก ก็พอมีใช่ไม่อดตาย เสาร์อาทิตย์ก็ทำงานพิเศษหรือถ้าวันไหนเลิกเร็วก็จะไปทำงาน”
“นายทำอะไรล่ะ?”
“ก็ไปเต้นอยู่ในคลับ”
“น่าสนุกนะ ฉันไปดูนายได้ใช่มั้ย”
“แน่นอนอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้นายห้ามบอกทงเฮนะ หมอนั่นคงไม่ชอบใจเท่าไหร่”
ร่างบางอมยิ้มน้อยๆเมื่อพูดถึงเพื่อนคนสนิทที่ชอบโวยวายที่เขาไปทำงานพิเศษดึกดื่นๆแถมยังเป็นในผับ ฮันคยองมองด้วยแววตานิ่งเฉยก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นปกติเมื่อจู่ๆคนตัวเล็กก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหาน้ำมาให้ดื่ม
กับทงเฮน่ะ รักกันมากใช่มั้ย?
“เดี๋ยวฉันจะไปอาบน้ำนะ หรือว่านายจะอาบก่อน ฉันพอจะมีเสื้อผ้าตัวใหญ่ๆอยู่บ้าง”
“ขอบใจ นายไปอาบก่อนเถอะ”
“ตามใจนายละกัน”
ร่างบางยักไหล่ก่อนจะคว้าเพียงผ้าเช็ดผมและเสื้อคลุมเข้าไปในห้องน้ำ ฮันคยองจึงลุกขึ้นเดินดูรอบๆห้อง มีทั้งรูปของพ่อแม่และพี่สาว ไม่เว้นแม้แต่รูปของคนที่ได้ชื่อว่าเพื่อนสนิทอย่างทงเฮ แถมรูปคู่ของทั้งสองคนนั้นมีอยู่เต็มห้องไปหมด
'ฮยอก! รับโทรศัพท์นะเจ้าไก่บ้า ฉันทงเฮเพื่อนของนายโทรมาแล้ว'
จู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นทำให้คนที่กำลังชมห้องถึงกับคิ้วกระตุกหลังจากได้ยินเสียงใสๆของเจ้าตัวเล็กของคิบอม ร่างสูงหยุดอยู่ที่กระเป๋าของฮยอกแจก่อนจะควานหาต้นเสียงพลางกดปุ่มปิดเสียงเพื่อไม่ให้คนที่อยู่ในห้องน้ำได้ยิน ปล่อยไว้ซักพักนิ้วเรียวก็กดปุ่มรับสายก่อนจะปั้นเสียงรับโทรศัพท์ลงไปอย่างเสแสร้ง
เรื่องเล่นละคร ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา
“ฮัลโหล???”
[ฮยอก!! ทำไมนายรับสายฉันช้าแบบนี้ฮะ!]
“อ้อ...ขอโทษทีนะ ฮยอกกำลังอาบน้ำอยู่น่ะ”
[นายเป็นใคร]
“ผมฮันคยอง จากมัธยมฮวาจินครับ ทงเฮ”
[นาย!!!!]
พูดไว้แค่นั้นก็รีบกดวางแถมยังปิดเครื่องไปอีกด้วย เมื่อวางโทรศัพท์ไว้บนกระเป๋าเรียบร้อยก็เดินกลับมานั่งที่โซฟาเมื่อเห็นว่าเสียงน้ำในห้องน้ำเริ่มเงียบลง และก็เป็นอย่างที่คาดไว้ ร่างบางเดินออกจากห้องน้ำในไม่กี่วินาทีถัดมา แถมยังอยู่ในชุดเสื้อคลุมตัวเดียว เสื้อผ้าที่ถือออกมาด้วยนั้นเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างเดียวว่าถ้าถอดเสื้อคลุมออกแล้วจะมีอะไร ร่างสูงที่นั่งอยู่ถึงกับแอบกลืนน้ำลายเล็กน้อยกับอกขาวๆที่โผล่ออกมาให้เห็นเล็กน้อย แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจแล้วส่งยิ้มหวานให้เมื่อคนตัวเล็กยืนอยู่ข้างหน้า
วันนี้แค่ตีสนิท....ไว้วันหลังค่อยจัดการ
“นายเองก็ไปอาบน้ำเถอะ! เดี๋ยฉันจะวางเสื้อผ้าไว้ให้ ส่วนเรื่องที่นอน นอนด้วยกันเนี่ยแหละ”
“นอนพอหรอ?”
“ไม่รู้สิ แต่เวลาทงเฮนอนด้วยน่ะพอนะ”
ร่างสูงยิ้มรับก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำพร้อมกับเสื้อคลุมอีกตัวหนึ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นคนทงเฮแน่ๆ
วันนี้น่ะทงเฮไปก่อนเถอะ
แต่วันหน้า ชื่อฮันคยองจะต้องตรึงอยู่ในหัวใจนายตลอดไป!!
ออดดดดดดด ออดดดดดดด
“ห้าโมงเย็น! พระเจ้า ไปเดินทีไหนดีวะเนี่ย เฮ้คุณ! ไปเที่ยวกันมั้ย”
เจ้าของใบหน้าสวยเรียกชื่อเพื่อนร่วมห้องที่ชื่อว่า 'คุณ' มีดีกรีเป็นถึงขวัญใจนักเรียนหญิงและชายทั่วโรงเรียนที่กำลังเก็บกระเป๋าเหมือนกัน แต่ทว่าเป้าหมายในการเก็บกระเป๋าของคุณกับคนหน้าสวยคงจะไม่เหมือนกัน เพราะเจ้าตัวหันมาส่ายหน้าปฏิเสธก่อนจะยกตารางเรียนที่ลงไว้ให้เพื่อนดู ทำเอาคนชวนถึงกับออกอาการเซ็ง
“โทษทีนะฮีชอล”
“อ่าๆ ช่างมันเหอะ! ฉันกลับบ้านดีกว่า”
คนสวยโบกมือส่งให้ก่อนจะสะพายเป้เดินลงจากตึก จริงๆแล้วเข้าเองก็มีเรียนเหมือนกันนะ เพียงแต่ว่าอาจารย์ติดไปสัมนาที่เมืองไทย ทำให้ต้องเลื่อนไปเรียนวันอาทิตย์รอบดึกซะได้
“ครับแม่”
[ฮีชอล เลิกเรียนรึยังจ๊ะ]
“เลิกแล้วฮะ กำลังจะกลับบ้าน มีเรื่องอะไรรึเปล่า?”
[อ๋อ! เปล่าจ้ะ ลูกจำซีวอนได้ใช่มั้ย ที่เป็นลูกของเพื่อนแม่น่ะ]
“ผมจะพยายามจำได้ก็แล้วกันฮะ เขามาบ้านเรางั้นหรอ”
[ปิ๊งป่อง! ถูกเผงเลยลูกรัก เขามาเยี่ยมแม่ที่บ้านน่ะ เห็นเขาบอกว่าจะชวนลูกไปเที่ยวด้วยกัน]
“ดีเลยฮะ ผมกำลังเซ็ง”
เมื่อคนที่บ่นว่ากำลังเซ็งยืนหยุดอยู่หน้าบ้านก็พยายามที่จะนึกให้ออกว่าคือใคร เพราะระหว่างทางที่นั่งรถกลับบ้านมาก็เอาแต่คิดว่าจะพาเพื่อนคนนี้ไปเที่ยวที่ไหนดี แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก ใช่ว่าจะมีคนชื่อนี้ชื่อเดียวซะหน่อย แถมช่วงนี้เพื่อนยิ่งเยอะๆอยู่-*- ช่างมันเถอะ!!!
“กลับมาแล้วครับ”
คนที่เพิ่งเดินเข้ามาส่งเสียงให้คนเป็นแม่ที่คาดว่าน่าจะอยู่ในห้องนั่งเล่นได้รับรู้ ก่อนจะชะงักเมื่อพบหน้าของใครบางคนที่จู่ๆก็เดินเข้ามาขวางทาง คนที่ทำให้คนอย่างคิมฮีชอลถึงกับเดินถอยหลังอย่างลืมตัว
ชเวซีวอน!!
หมอนี่นี่เอง!
“อะไรกัน....หน้าซีดเชียวนะคุณคนสวย”
“หยะ....หยุด! แม่ครับ แม่ครับ!!!”
“แม่นายออกไปข้างนอกแล้วล่ะ นี่ไงกุญแจบ้าน”
คนถูกต้อนจนมุมถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกใจ คนถือกุญแจบ้านอมยิ้มเล็กน้อยกับการกระทำของร่างบางก่อนจะฉวยเข้าที่ข้อมือเล็กๆของคนที่กำลังตกใจให้ไปนั่งที่โซฟาด้วยกัน แต่ก็ถูกสะบัดออกอย่างรวดเร็ว
“ไม่ต้องมาแตะตัวฉันเลย”
“เฮ้-*- เมื่อก่อนฉันแค่หยอกนายเล่นเท่านั้นนะ”
“แต่นั่นมันเฟิร์สคิสฉันนะ-O-!”
“นายยอมรับแล้ว” คนตัวใหญ่กว่าเผยยิ้มกว้างออกมา ทำให้คนตัวเล็กกว่าต้องเอามือตีปากตัวเองหลายๆรอบเป็นการลงโทษตัวเองที่หลุดปากพูดอะไรออกไป เมื่อตีปากตัวเองเสร็จก็ทำท่าจะหนีขึ้นห้องแต่ก็ถูกมือแกร่งคว้าที่ข้อศอกไว้ เมื่อคนสวยถูกแตะตัวอีกรอบก็เอากระเป๋าเป้ฟาดเข้าที่หน้าอกของอีกคนอย่างไม่ได้ตั้งใจ ทำเอาคนที่ถูกฟาดถึงกับโอดครวญด้วยความเจ็บ แต่มือกาวพิเศษชนิดตีนตุ๊กแกก็ยังเทียบไม่ได้ติดที่ข้อศอกของร่างบางยังคงอยู่
“เจ็บนะ”
“เฮอะ! ก็สมควรหรอก เจ็บแล้วก็ปล่อยฉันสิเจ้าโง่”
“หึหึ ปล่อยไปนายก็หนีฉันน่ะสิ” คนตัวสูงหัวเราะในลำคอก่อนจะคว้าเอวของร่างบางกระชากเข้ามาใกล้ ภาพในอดีตเมื่อ 7 ปีก่อนย้อนกลับเข้ามาหาคนที่ถูกคุมคามอีกครั้ง เมื่ออายุ 12 ปี เห็นว่าเป็นน้องที่อายุอ่อนกว่าแค่ปีเดียวแถมยังเป็นผู้ชายด้วยกันจึงไม่ทันระวังจึงทำให้ถูกจูบในที่ที่ลับตาคน ถ้าหากว่าเป็นการแตะปากกันธรรมดาก็พอจะคิดได้ว่าเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญ แต่กลับกลายเป็นว่าเจ้าคนตัวสูงนี่จูบแบบลึกซึ้งถึงขั้นที่ว่าเขาจูบตอบด้วยน่ะสินี่ปัญหาใหญ่!!
“จะ....จะทำอะไรน่ะ”
“ทวนความหลังหน่อยไม่ฮะ พี่สาว”
“พี่สาวบ้าอะไรเล่า! ต้องพี่ชายสิเจ้าเด็กบ้า”
“โอเค พี่ชายก็พี่ชาย^^ พร้อมรึยังครับ”
“พร้อมเพริ้มบ้าอะไร!! ออกไปนะโว้ย” มือเรียวปะทะเข้าที่แผงอกของร่างสูงก่อนที่จะใกล้กันมากกว่านี้ สายตาคมตวัดปะทะกับสายตากวนประสาทของคนที่อยู่เหนือกว่า คนเสียเปรียบพยายามจะผลักคนที่กำลังคุกคามให้ถอยห่างแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะแรงที่มีคงยังไม่ถึงครึ่งของคนตรงหน้าเลย
แรงเยอะชะมัดไอ้หมอนี่!!
“เดี๋ยว! ไหนบอกจะพาฉันไปเที่ยวไง”
“เวลาเที่ยวยังมีอีกเยอะ ผมคิดถึงพี่จะตายไป”
“โว้ย!!! พรุ่งนี้ฉันมีเรียนเช้านะ ถ้าหากว่าไม่รีบไปมันจะมืด!!!” คนชวนคุยใช้จังหวะนี้ผลักคนตัวใหญ่ให้พ้นจากตัวเองก่อนจะเดินออกนอกบ้านแล้วกวักมือเรียกคนที่อยู่ข้างในให้ออกมาเร็วๆ เรื่องอะไรเขาจะยอมอยู่ในบ้านสองต่อสองกับคนที่เคยจูบเขาด้วยล่ะ=O=!!
“หึหึ วันนี้จะปล่อยไปก่อนก็แล้วกัน”
“ทงเฮ!! ทงเฮ!!” ร่างเล็กวิ่งตามเพื่อนสนิทมาก่อนจะหยุดอยู่หน้าสวนข้างตึกเรียนที่ตอนนี้มีเพียงแสงไปสีส้มส่องออกมาจากพุ่มไม้และบ่อน้ำเท่านั้น เวลา 2 ทุ่มอย่างนี้ก็อาจจะเป็นเวลาเพิ่งเลิกเรียนของใครบางคน ทำให้คนตัวเล็กเริ่มกระวนกระวายใจ ทงเฮเพิ่งจะย้ายมาเรียนวันแรกคงจะยังไม่คุ้นทางในโรงเรียน เดี๋ยวเกิดหลงขึ้นมาแล้วเกิดไปเจอพวกไม่พึงประสงค์ล่ะก็มันจะต้องเกิดเรื่องวุ่นแน่ๆ โรงเรียนนี้เองก็ไม่ได้เล็กๆซะด้วย
จู่ๆโทรศัพท์ก็สั่นทำให้ต้องละสายตาจากพุ่มไม้มาดูโทรศัพท์พลางขมวดคิ้วเมื่อไม่คุ้นกับเบอร์ที่โชว์หราอยู่บนหน้าจอ แต่ก็รีบกดรับเมื่อคิดว่าอาจจะเป็นทงเฮ
“ฮัลโหล”
[นายอยู่ไหนน่ะตัวเล็ก]
“ฮะ! ฉันชื่อซองมินนะ โทรผิดแล้วครับ”
[เอาเหอะ! ฉันหมายถึงนายนั่นแหละ หาทงเฮเจอมั้ย]
“ไม่เจอเลย ตอนนี้อยู่ที่สวนข้างตึก หายไปเลย เอ๊ะ! นายเป็นใครน่ะ”
[จะบ้าตาย! คุยกันมาไม่รู้จักฉันได้ยังไง ก็หมาป่าที่รักสุดสวาทขาดใจดิ้นของนายนั่นแหละ แค่นี้ก่อนนะ]
ตู๊ดๆๆ
ปลายสายกดวางไปเรียบร้อยทำเอาคนที่ถือโทรศัพท์อยู่แทบจะด่ากลับไปเพราะคำพูดเมื่อครู่ แต่ก็ทำได้แค่ก่นด่าเบาๆกับตัวเองเพราะไอ้คนที่ควรจะถูกด่าวางสายหนี คนตัวเล็กเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าก่อนจะมองลอดเข้าไปที่พุ่มไม้แล้วเดินเข้าไปเพื่อหาเพื่อน
“บ้าจริง!! เงินหายไปไหนตั้ง 5000 วอน ฉันไปทำตกที่ไหนวะเนี่ย”
คนที่วิ่งหนีออกมาจากห้องกำลังก้มๆเงยๆอยู่บริเวณในสวนข้างตึกเรียนที่เข้ามาลึกพอสมควร จำได้ว่าเมื่อตอนกลางวันมานั่งเล่นแถวๆนี้กับซองมินและพี่อีทึก พอเลิกเรียนตอนหยิบโทรศัพท์ขึ้มาโทรหาฮยอกแจนั่นแหละถึงได้รู้ว่าเงินหายไป พอคุยเสร็จก็เลยส่งสายตาไปคาดโทษหมอนั่นไว้ก่อนแล้วค่อยมาจัดการทีกลังก่อนจะวิ่งออกมาหาเงิน แต่มาก้มๆเงยๆอยู่ตรงนี้ตั้งนานสองนานแล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าจะพบเงิน 5000 วอนที่คาดว่าจะหล่นตรงนี้เลย
“ปวดหลังแล้วนะ” ร่างบางบ่นงึมงำก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ม้าหินพลางดูนาฬิกาที่ข้อมือซึ่งบอกเวลาสองทุ่มกว่าแล้วแต่ไฟยังคงเปิดทั่วตึกเรียนทำให้คนตัวเล็กโล่งใจได้เปราะหนึ่ง อย่างน้อยแถวนี้ก็ยังไม่มืดจนเกินไปและการที่ไฟยังเปิดไว้แบบนี้ก็แสดงว่ายังมีคนอยู่ในตึกเรียน อย่างน้อยถ้าจะกลับหอ คงถามทางคนแถวนี้เอาได้แหละนะ
“5000 วอน! ตายแน่! พ่อรู้เข้าฆ่าตายแน่ๆเลย”
“อยากได้ 5000 วอนงั้นหรอนักเรียนใหม่”
จู่ๆก็มีนักเรียนชาย 3-4 คนเดินเข้ามาทำให้คนที่หาของอยู่ก่อนลุกขึ้นยืนอย่างหวาดๆแล้วเดินถอยหลังช้าๆเพราะสายตาของผู้ที่มาใหม่ทำเอาเขารู้สึกใจไม่ดี
“ค่าตัวถูกดีนะ แค่ 5000 วอนเอง”
“อย่าโดนตัวผมนะ!!” ถึงแม้จะรู้ว่าพวกนี้ไม่ควรค่าแก่คำพูดสุภาพ แต่ด้วยสัญชาตญาณจึงทำให้หลุดปากไปแบบนั้นพลางยกมือปัดมือของอีกฝ่ายที่มาโดนตัวของร่างบางอย่างถือวิสาสะ คนตัวเล็กหันหลังให้พลางจะวิ่งหนีแต่ทว่าไม่ทันหนึ่งในสี่คนนนั้นที่คว้าเข้าที่ข้อมือของทงเฮอย่างรวดเร็ว ร่างบางพยายามจะดิ้นให้หลุดจากการเกาะกุมนั้นแต่ก็ไม่เป็นผล
“พูดเพราะๆแบบนี้สิถึงจะน่าฟัง”
“ปล่อย!! อย่ามายุ่งกับฉันนะ”
“เก็บเสียงไว้เวลาอยู่กันสองคนเถอะ”
ซองมิน......พี่อีทึก......พี่คังอิน.......คยูฮยอน.......ฮยอกแจ....
“คิบอม!!! ช่วยฉันด้วย!!!!!!”
Talk ซักกะติ๊ดก่อนจากลา
อัพแล้ว>O<!!!
ดูในเวิร์ดแล้วมันดูจะสั้นๆแหะ-*-
แต่มันก็ไม่ค่อยยาวเท่าไหร่ในตอนนี้=O=
ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวตอนหน้าจะพยายามให้ยาวมากกว่านี้ละกัน
วอนซิน ฮันฮยอกโผล่มาแล้วจ้า
กรี๊ดกร๊าดสลามานเดอร์
แล้วเจอกันใหม่ในตอนหน้านะคะทุกๆคน>3<
ดิทชื่อตอน 4/05/53
ขอร้องเหอะ!!!~ อย่าทำตัวเป็นนักอ่านเงา
หากคุณยังมีจิตสำนึก
ความคิดเห็น