คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [ความรู้]นาฏศิลป์ รำวงมาตรฐาน
รำวมาราน
รำวมาราน วิวันาารมาาารรำโทน เป็นารละเล่นพื้นเมืออไทย ่อมาท่านผู้หิละเอีย พิบูลสราม ไ้แ่เนื้อร้อและมอบให้รมศิลปารบรรุท่ารำไว้เป็นมาราน เป็นเพลที่มีเนื้อร้อสุภาพ ใ้ำ่าย ทำนอเพล่าย มุ่ให้เห็นวันธรรมอาิเป็นส่วนให่ ารแสะใ้ผู้แสหิายไม่น้อยว่า ๕ ู่
วามเป็นมา
รำวมาราน ในปัุบันนี้เป็นศิลปะแห่ารรำวที่าม ึ่ในสมัย่อนยัมิไ้มีำว่า "มาราน" ะเรียันเพียว่า "รำว" เท่านั้น ารรำวนี้เป็นารละเล่นพื้นบ้านอย่าหนึ่ที่บ่อบอถึวามสนุสนาน ารเล่นรำวนั้นสืบเนื่อมาาารเล่นรำโทน นั้นเพราะในสมัย่อนเรื่อนรีหลัที่ใ้ประอบัหวะ็ือ โทน ิ่ และรับ โยัหวะารฟ้อนรำะมีเสียโทนเป็นเสียหลัีามัหวะหน้าทับ ึเรียันว่า "รำโทน" ใน้านอบทร้อะเป็นบทร้อที่มีภาษาเรียบ่าย ไม่พิถีพิถันในเรื่อถ้อยำและสัมผัสวรรอนแ่อย่าใ ามลัษะอเพลพื้นบ้าน เนื้อหาอเพละออมาในลัษะระเ้าเย้าแหย่ ารเี้ยวพาราสีหยอล้ออหนุ่มสาว ารเิวน ลอนารมโมวามามอหิสาว เป็น้น ทั้นี้็เพื่อวามสนุสนานในารเล่น ในเรื่ออเรื่อแ่ายในสมัย่อน็ไม่เน้นถึวามพิถีพิถันมานั เน้นเพียวามสะวสบายอาวบ้านเอ ไม่ไ้ประีแ่อย่าใ
เมื่อประมา พ.ศ. 2488 าวบ้านนิยมเล่นรำโทนันอย่าแพร่หลาย ้วยเหุวามนิยม
เป็นอย่ามานี้เอึไ้มีผู้ิแ่บทร้อและทำนอึ้นใหม่เป็นำนวนมา แ่ทั้นี้็ยััหวะหน้าทับอโทนไว้เ่นเิม ส่วนเนื้อร้อใที่นิยม็ะร้อันอยู่ไ้นาน เพลใเนื้อร้อไม่เป็นที่นิยม็ะไม่นำมาร้อเท่าในัและ็ะเป็นที่ลืมเลือนไปในที่สุ านั้น็ะมีเนื้อเพลใหม่ ๆ ึ้นมาแทนที่
ใน่วระหว่า พ.ศ. 2484 - 2488 เป็น่วสรามโลรั้ที่ 2 ทหารี่ปุ่นไ้ยพลึ้นที่ำบลบาปู ัหวัสมุทรปราาร เมื่อวันที่ 8 ธันวาม 2484 เพื่อเราอั้อทัพในประเทศไทย โยใ้เส้นทา่า ๆ ในแผ่นินไทยลำเรียเสบียอาหาร อาวุธและำลัพล เพื่อใ้ในาร่อสู้ับประเทศสัมพันธมิร ึ่ในะนั้นประเทศไทยมี อม พล ป. (แปล) พิบูลสราม เป็นนายรัมนรี ไ้ัสินใยอมให้ประเทศี่ปุ่นเ้ามาั้านทัพในประเทศไทย เพราะเรว่าหาปิเสธะถูปราบปรามแน่ ้วยเหุนี้เอประเทศไทยึไ้รับผลระทบาารรุรานอฝ่ายสัมพันธมิร ที่ส่อทัพเ้ามาโมีานทัพี่ปุ่นทาอาาศโยเพาะในยามที่เป็นืนเือนหาย ะมอเห็นุยุทธศาสร์ไ้่าย ้าศึมัะเ้ามาโมีอย่าหนั้วยารทิ้ระเบิ ึ่สร้าวามเสียหายทำลายีวิและทรัพย์สินบ้านเรือนเป็นำนวนมา โยเพาะบ้านเรือนที่อยู่ใล้ับานทัพี่ปุ่น
เมื่อ่วืนเือนหายผ่านไป ืนเือนมืเ้ามา ้าศึะมอเห็นุยุทธศาสร์ไม่ัเนึพัารรุราน ประานาวไทย ไ้รับวามเือนร้อน ่าอยู่ในสถานาร์ที่หวาลัวเป็นอย่ามา ึไ้หาวิธีารผ่อนลายวามึเลีย วามหวาผวา ้วยารนำศิลปะพื้นบ้านที่บเาไป ลับมาร้อรำทำเพล นั้น็ือ "ารเล่นรำโทน" ำร้อ ทำนอและารแ่าย ็ยัเรียบ่ายเน้นวามสะวสบาย สนุสนาน เ่นเิม เพลที่นิยมไ้แ่ เพลใล้เ้าไปอีนิ ่อมาลี ามอา ยวนยาเหล เป็น้น
่อมารับาลไ้เล็เห็นศิลปะพื้นบ้านอันสวยามอไทยที่มีอยู่อย่าแพร่หลายวรที่ะเิูให้มีระเบียบแบบแผนามแบบนาศิลป์ไทย เพราะหาาว่าาิมาพบเห็นะำหนิไ้ว่าศิลปะารฟ้อนรำอไทยนี้มิไ้มีวามสวยาม ประีแ่อย่าใ รวมถึไม่มีศิลปะที่แสออว่าเป็นาิที่มีวันธรรม ึไ้มอบให้ รมศิลปารเป็นผู้รับผิอบในารปรับปรุและพันาารรำ (รำโทน) ึ้นใหม่ให้มีระเบียบ แบบแผน มีวามามมายิ่ึ้น ทั้ทา้านเนื้อร้อ ทำนอ ลอนเรื่อแ่าย
เมื่อประมา พ.ศ. 2487 รมศิลปารไ้แ่บทร้อึ้นมาใหม่ 4 บทือ " เพล ามแสเือน" "เพลาวไทย" "เพลรำิมารำ" "เพลืนเือนหาย" ่อมาท่านผู้หิละเอีย พิบูลสราม ไ้แ่บทร้อึ้นมาใหม่อี 6 บท ือ " เพลวันทร์วันเพ็" "เพลอไม้อาิ" "เพลหิไทยใาม" "เพลวันทร์วัฟ้า" "เพลยอายในหา" "เพลบูานัรบ" ใน้านทำนอนั้นรับผิอบโยรมศิลปารและรมประาสัมพันธ์ ส่วนท่ารำนั้นนาศิลปินอาวุโสอรมศิลปาร ือ มื่นมานิย์นเรศ (เลิม เศวนันท์) และนาลมุล ยมะุป์ ร่วมันิท่ารำึ้นประอบารรำโยนำท่ารำมาาารรำ "แม่บท" และ่อมาไ้มีารเปลี่ยนื่อเรียาร "รำโทน" เป็น "รำว" ามลัษะอารเล่น ึ่วิธีารเล่นนั้นะเล่นรวมันเป็นว และเลื่อนย้ายเวียนันไปเป็นวทวนเ็มนาฬิา
เมื่อสรามโลรั้ที่ 2 สิ้นสุล าวไทย็ยัให้วามนิยมารเล่นรำว สืบมานถึปัุบัน และาว่าาิ็นิยมเล่นันอย่าแพร่หลาย ทั้ในานเ้นรำ่า ๆ นระทั้มีนัประพันธ์ผู้หนึ่เป็นาวอเมริัน ที่ื่อว่า Foubion Bowers ที่ไ้มาพบเห็นศิลปะารรำวอไทย และนำไปล่าวไว้ในหนัสือ Theatre in the East ึ่มีสำเนียารเรีย "รำว" เพี้ยนไปบ้าเล็น้อยเป็น "รำบอ" (Rombong) ( อมรา ล่ำเริ , 2531 : 111)
แ่อย่าไร็ี วัถุประส์อรมศิลปาร ในารปรับปรุศิลปะารรำวทั้หม 10 เพล ็เพื่อเป็นศิลปะารรำวที่มีระเรียบแบบแผน ทั้ำร้อ ทำนอ ท่ารำ ลอนารแ่ายให้เป็นแบบบับมาราน สะวในารเผยแพร่ศิลปวันธรรมอไทยและสืบสาน่อไป ้วยเหุผลนี้ เราึเรีย "รำว" ที่มีศิลปะเป็นแบบบับมาราน ว่า "รำวมาราน" สืบมานถึปัุบันนี้
ท่ารำ
ุรูศุภลัษ์ ภัทรนาวิ ุรูมัลลี ประภัศร์ และุรูลมุล ยมะุป์ ไ้ร่วมันประิษ์ท่ารำึ้น ทั้หม ๑๔ แม่ท่า เป็นื่อท่ารำที่อยู่ในรำแม่บท มีทั้หม ๑๐ เพล ไ้แ่ เพลามแสเือน เพลาวไทย เพล รำิมารำ เพลืนเือนหาย เพลวันทร์วันเพ็ เพลอไม้อาิ เพลหิไทยใาม เพลวันทร์วัฟ้า เพลยอายใหา และเพลบูานัรบ
ำร้อ
มื่นมานิย์นเรศ (เลิม เศวนันท์) หัวหน้าอารสัี รมศิลปาร ไ้ประพันธ์ึ้น ๔ เพล ือ เพลามแสเือน เพลาวไทย เพล รำิมารำ เพลืนเือนหาย
ุหิละเอีย พิบูลสราม ไ้ประพันธ์ำร้อไว้ ๖ เพล ือ เพลวันทร์วันเพ็ เพลอไม้อาิ เพลหิไทยใาม เพลวันทร์วัฟ้า เพลยอายใหา และเพลบูานัรบ
ทำนอ
อาารย์มนรี ราโมท ผู้วานรีไทย รมศิลปาร ไ้แ่ทำนอไว้ ๖ เพล ือ เพลามแสเือน เพลาวไทย เพล รำิมารำ เพลืนเือนหาย เพลวันทร์วันเพ็ เพลอไม้อาิ
รูเอื้อ สุนทรสนาน หัวหน้าวนรีรมประาสัมพันธ์ แ่ทำนอไว้ ๔ เพล ือ เพลหิไทยใาม เพลวันทร์วัฟ้า เพลยอายใหา และเพลบูานัรบ
เรื่อนรี
เิมนั้น รำโทนมีเรื่อนรีประอบ ือ ิ่ รับ าบ และโทน เมื่อมีารพันาารรำึ้น ึไ้พันาเรื่อนรีที่ใ้้วย โยใ้วนรีสาลบรรเล
ารแ่าย
มิไ้ำหนเพาะเาะว่า้อแุ่ไทยอย่าใอย่าหนึ่แน่นอน แ่สามารถแ่ไ้หลายอย่า เ่น แุ่ไทยัรี ุไทยสมัย ร.๖ ุไทยแบบาวบ้านือห่มสไบ นุ่โระเบน หรือุไทยสมัยใ็ไ้ อให้เป็นแบบไทย อใหู้สุภาพ าม าย็แ่ไ้ทัุ้ไทยแบบาวบ้าน ือ นุ่โระเบน ใส่เสื้ออพวมาลัย แนสั้น ผ้าาเอว หรือุไทยเสื้อพระราทาน าเายาว ุราปะแน หรือุสาลใส่เสื้อสูท ผูเนไท็ไ้
ความคิดเห็น