ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดวงชะตามีเกณฑ์จะได้รัก

    ลำดับตอนที่ #5 : พี่สาวข้า ใครอย่าแตะ

    • อัปเดตล่าสุด 5 ม.ค. 65


     

    สายตาคมกริบของจ้าวเวยหลงมองตามแผ่นหลังเล็กของคนที่เขาตั้งใจจะมาเจอหน้าด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทีแรกนั้นจ้าวเวยหลงมีแผนที่จะมาคุยกับร่างทรงที่ตัวร้ายเรื่องของปู่เขา ทันทีที่เลขาของเขารายงานว่าตอนนี้ร่างทรงคนที่ว่าได้มาถึงเซี่ยงไฮ้และได้จองที่พักที่นี่เอาไว้ จ้าวเวยหลงก็มาดักรอหญิงสาวตั้งแต่เช้า ถือโอกาสมาทานมื้อเช้าระหว่างนั่งรอเจ้าหล่อนไปด้วย และไม่นานเขาก็ได้เจอกับคนที่สร้างความปวดหัวให้เขาตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา

    ใบหน้าของหญิงสาวนั้นเหมือนกับภาพในแฟ้มข้อมูลที่เขาเคยได้รับจากผู้ช่วยของเขาทุกระเบียดนิ้ว เว้นแต่แววตาที่จ้องตอบเขา แม้จะเป็นเพียงเสี้ยววินาทีแต่จ้าวเวยหลงกลับรับรู้ได้ไม่ยากว่าบางสิ่งบางอย่างในแววตาของหญิงสาวนั้นไม่ธรรมดาเลย...แม้นี้จะเป็นครั้งแรกที่พบกันแต่ประกายคมกล้าที่จ้องตอบเขามาก่อนที่หล่อนจะผละไป ทำให้จ้าวเวยหลงรู้สึกลังเลขึ้นมา ทำได้เพียงแค่มองร่างบอบบางของหญิงสาวเดินจากไปไม่ได้เข้าไปถามหรือพูดเรื่องที่เธอหลอกลวงปู่ของเขาอย่างที่ตั้งใจไว้ในตอนแรก

    “ท่านประธานครับ”

    “ว่าไง” จ้าวเวยหลงกระพริบตาปริบๆ ดึงตัวเองกลับมาอยู่ปัจจุบันขณะเหลือบมองหน้าเลขาของตน เมื่ออีกฝ่ายจ้องเขานิ่งไม่ยอมพูดจา คิ้วเข้มจึงขมวดมุ่นด้วยความหงุดหงิด “มีอะไร เรียกฉันแล้วทำไมไม่พูด”

    “ท่านประธานยืนอยู่ตรงนี้นานแล้วครับ จะให้ผมไปพา...” ลู่เหวิ่นเอ่ยด้วยความลังเลก่อนจะชี้นิ้วไปยังทิศทางที่หญิงสาวคนเมื่อครู่เดินลับหายไป เชิงบอกว่าคนที่เขาอาสาจะไปพามาหาท่านประธานนั้นหมายถึงใคร “เอ่อ คุณผู้หญิงกลับมาไหมครับ”

    “ไม่ต้อง”

    เจ้าเวยหลงลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงตอบ เขามองซ้ายขวาและพบกับสายตาอยากรู้อยากเห็นจากทั้งพนักงานของโรงแรมและลูกค้าหลายคนที่คงจำได้ว่าเขาเป็นใครจ้องมองมา จ้าวเวยหลงก็หมดความอยากที่จะอยู่ที่นี่ต่ออีกทั้งยังมีงานที่เขาต้องกลับไปจัดการต่อที่บริษัท ชายหนุ่มจึงตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วแล้วจึงออกคำสั่ง “ให้คนคอยดูผู้หญิงคนนั้นไว้ ตามห่างๆ อย่าให้รู้ตัวล่ะ ไม่ว่าเขาจะไปไหน เจอใครก็ให้รายงานฉันทันที”

    “ได้เลยครับ” ลู่เหวิ่นรีบพยักหน้ารับคำสั่ง คิดว่าการจับตามองร่างทรงคนนี้เอาไว้คงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด อีกทั้งพวกเขายังไม่รู้ว่าที่เธอเดินทางมาถึงเซี่ยงไฮ้เพื่ออะไร หากบุ่มบ่ามทำอะไรไปอาจจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นได้ อีกอย่างเมื่อกี้นี้ ตอนที่จ้าเวยหลงตั้งใจเดินชนผู้หญิงคนนั้น เธอก็ไม่มีท่าทีหรือแสดงพิรุธให้พวกเขาเห็นว่าหล่อนรู้ว่าจ้าวเวยหลงเป็นใครมาก่อนเลย ไม่แน่ว่าที่เธอมาที่นี่อาจจะเป็นเหตุผลอื่นไม่เกี่ยวกับตระกูลจ้าว

    ตอนนี้ในใจของลู่เหวิ่นนั้นมีคิดว่าความเป็นไปได้อยู่สองอย่าง นั่นก็คือร่างทรงคนนี้ไม่รู้จักจ้าวเวยหลงมาก่อนจริงๆ หรือไม่ความสามารถในการแสดงของเธอจะต้องดีมาก ขนาดที่ว่าสามารถตบตาผู้นำตระกูลจ้าวได้ ยิ่งนึกถึงท่าทางของผู้เป็นนายหลังจากเผชิญหน้ากับร่างทรง ผู้ที่จ้าวเวยหลงเคยหมายหัวเอาไว้ตั้งแต่ก่อนพบกันแล้ว ไป๋อี้ก็ยิ่งสับสนและลังเลเพราะแววตาของเจ้านายของเขานั้นไม่ได้มีแววมุ่งร้ายอย่างที่ปากว่าแต่อย่างใด กระทั่งวี่แววความตั้งใจจะทำลายหญิงสาวให้พังกันไปข้างอย่างที่เคยพูดเอาไว้ก็ยังไม่มีให้เห็น

    “แล้วจองโต๊ะให้ฉันด้วย ฉันจะทานมื้อเย็นที่นี่” คำสั่งนี้ของจ้าวเวยหลงทำให้ลู่เหวิ่นอ้าปากค้าง เดาได้ไม่ยากว่าจ้าวเวยหลงคงมีแผนที่จะมาดักเจอร่างทรงคนสวยอีกแน่ๆ แต่กระนั้นมันก็มีปัญหาอยู่ดี

    “แล้วถ้าคุณ...เอ่อ คุณผู้หญิงทานมื้อเย็นที่อื่นล่ะครับท่านประธาน เราจะไม่มาดักรอฟรีเหรอ”

    “ใครบอกว่าฉันจะมาดักรอ” จ้าวเวยหลงหนขวับมามองลู่เหวิ่นด้วยสายตาคมกริบ ทำเอาผู้เป็นเลขาต้องรีบหลบตาด้วยท่าทีลนลาน เหงื่อแตกพลักด้วยความหวาดหวั่นกลัวว่าตนจะพูดอะไรไม่เจ้าท่าออกไปจนทำให้ผู้เป็นนายโกรธ “ฉันแค่อยากทนมื้อเย็นที่นี่ มีปัญหาหรือไง”

    “ไม่มีครับ”

    “อย่างนั้นก็ไปเตรียมรถ ฉันจะเข้าออฟฟิศ”

    “ได้ครับท่านประธาน”

     

     

    “ฝันเพิ่งถึงค่ะ เข้ามาในห้องแล้วก็โทรหาพี่ฟ้าเลย” ว่าแล้วเหมือนฝันก็ผ่อนลมหายใจออกมาเสียงดังให้สมกับความเหนื่อย ขณะพลิกตัวนอนหงานบนเตียงหลังใหญ่โดยมือก็ถือมือถือของตนแนบหูไปด้วย “เมื่อกี้ฝันเซ่อซ่า เดินชนใครไม่รู้ตอนขึ้นมาบนห้อง ถ้าพี่ฟ้ามาด้วยฝันก็คงไม่ต้องชนใครเขาเข้า”

    “ถ้าระวังก็ไม่ชนใครเขาเข้าหรอก” เสียงหวานนั้นเอ่ยตอบมาพร้อมความขบขันในน้ำเสียง ทำให้เหมือนฝันเดาได้ไม่ยากว่าตอนนี้พี่สาวของเธอคงยิ้มกว้างอยู่ “แล้วนี่จะทำอะไรต่อจ้ะ จะทานข้าวที่โรงแรมหรือเปล่า”

    “คิดอยู่ค่ะ” เหมือนฝันปากยื่น ตอนอยู่บนเครื่องบินเธอก็นอนหลับมาตลอดทาง จึงไม่รู้สึกเหนื่อยมากนัก “ว่าจะอาบน้ำก่อนแล้วค่อยคิดอีกที ไม่รู้ว่าร้านที่เราเคยมาตอนนั้นยังเปิดอยู่หรือเปล่า”

    “เราเพิ่งไปเมื่อสองปีก่อน เขาคงไม่เจ๊งเร็วขนาดนั้นหรอกมั้ง” มาสฟ้าตอบมา น้ำเสียงของเธอยังสดใสและอ่อนโยนชวนให้คนฟังเคลิบเคลิ้มเหมือนอย่างที่เหมือนฝันเคยจำได้ “ว่าแต่เราเถอะ รอบนี้ไปคนเดียวคงไม่ได้ทำอะไรหายหรอกใช่ไหม ตอนลงจากเครื่องเอาของมาครบหรือเปล่า”

    “ครบสิคะ!” คำถามนั้นทำให้เหมือนฝันที่มีชนักติดหลังเด้งขึ้นมานั่งหลังตรงแน่ว รู้สึกว่าตอนนี้มาสฟ้าคงกำลังหรี่ตาจับผิดเธอแม้จะอยู่กันคนละประเทศ “ฝันจะทำอะไรหายได้ยังไง นอกจากมือถือกับพาสปอร์ตก็ไม่ได้เอาอะไรออกมาจากกระเป๋าเลย”

    “ไม่ใช่ว่าลืมทั้งกระเป๋าไว้บนเครื่องเหมือนตอนไปอังกฤษหรอกนะ” ผู้เป็นพี่ที่รู้ไส้รู้พุงของเหมือนฝันทุกอย่างนั้นยังไม่วางใจ จำได้ว่าครั้งที่ไปอังกฤษกว่าพวกเธอจะกลับบ้านได้นั้นวุ่นวายมากเพียงไร

    “ไม่ลืมค่ะ รอบนี้ฝันหยิบกระเป๋ามาครบ” ยืนยันเสียงแข็งพลางกวาดตามองรอบห้อง นับจำนวนของกระเป๋าเดินทางไปพร้อมกัน เมื่อแน่ใจแล้วเหมือนฝันจึงสำทับด้วยน้ำเสียงแข็งขันกว่าเดิมเล็กน้อย “นับแล้วครบทุกใบค่ะ ไม่ลืม”

    “ไม่ลืมก็ดีแล้วจ้ะ” พอเหมือนฝันยืนยันหนักแน่นเช่นนั้นมาสฟ้าก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวเหยียดด้วยความโล่งอก ในใจก็คิดว่าหากเหมือนฝันมั่นใจว่าตัวเองไม่ลืมอะไรก็ดีแล้ว เพราะหลังจากนี้น้องสาวตัวน้อยของเธอจะเจอเรื่องลำบากมาก หากยังต้องมาพะวงกับเรื่องเล็กน้อยพวกนี้เหมือนฝันจะยิ่งลำบากกว่าเดิม อีกทั้งเธอก็อยู่ไกลคงไม่สามารถช่วยอะไรได้เท่าไหร่นัก

    “ถ้าพี่ฟ้ามาด้วยคงดีกว่านี้”

    “เพิ่งออกจากบ้านได้วันเดียวก็เสียแล้ว เรานี่ยังไง” มาสฟ้าหลุดหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินน้ำเสียงสิ้นหวังของเหมือนฝัน “ใจคอจะทำตัวติดกับพี่ไปจนถึงเมื่อไหร่”

    “ก็จนกว่าจะตายนั่นแหละค่ะ!” เหมือนตอบกลับในเสี้ยววินาทีต่อมา เสียงกระด้างเมื่อคิดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างตอนที่เธอปล่อยให้มาสฟ้าคลาดสายตา “เหอะ...คราวที่แล้วฝันเผลอหน่อยเดียวก็มีไอ้ชั่วที่ไหนไม่รู้มาเกาะแกะฟ้า กว่าจะสลัดมันพ้นฝันเปลืองแรงไปไม่น้อยเลย”

    “คนเขามีชื่อ เราเรียกเขาอย่างนั้นได้ยังไงเล่า” มาสฟ้าย่นคิ้ว อันที่จริงชายหนุ่มที่เข้ามาจีบเธอก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร เพียงแต่เป็นคนที่โลเลและหูเบาไปหน่อยเท่านั้น “เราเสียมารยาทกับคุณยุทธ์เขาหลายครั้งแล้วนะ”

    “ถ้าฝันเจอกันต่อหน้าฝันจะทำจริงกว่าเรียกมันว่าไอ้ชั่วอีก” เหมือนฝันแยกเขี้ยว เพียงคิดถึงคนที่เกือบจะได้เป็นคนรักของพี่สาวเธอขึ้นมา อารมณ์ของเธอก็เดือดปุดๆ อยากชกหน้ามันให้หงาย เผื่อว่าจะทำให้อารมณ์ของเธอดีขึ้นมา “แต่สันดานขี้ขลาดอย่างมัน คงไม่กล้ามาเจอฝันหรอก”

    “ก็เราเล่นด่าเขาไปเสียขนาดนั้น ใครเขาจะอยากมาเจอ” แม้ว่ามาสฟ้าจะรักน้องสาวเธอมาก และหลายต่อหลายครั้งที่เธอจะเข้าข้างเหมือนฝันอย่างหน้ามืดตาบอด แต่เมื่ออยู่ด้วยกันลำพังเธอที่เป็นพี่ก็อดที่จะเอ่ยเตือนน้องสาวไม่ได้ “เราน่ะมันปากร้าย”

    “หมัดหนักด้วยค่ะ ไม่ได้มีดีปากร้ายอย่างเดียว” เหมือนฝันแยกเขี้ยว โชคดีที่ตอนนี้มาสฟ้าไม่ได้อยู่ตรงนี้กับเธอด้วย ไม่อย่างนั้นเธอคงโดนมาสฟ้าหยิกจนเนื้อเขียวโทษฐานที่ชอบกวนประสาท

    “นี่เตือนเพราะห่วงหรอกนะ”

    “ฝันไล่มันไปก็เพราะรักพี่ฟ้าเหมือนกันนั่นแหละ” ยังไม่ทันที่มาสฟ้าจะได้พูดจบประโยค เหมือนฝันก็เอ่ยสวนไปทันควัน “ยังโชคดีที่มันรักตัวกลัวตายอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นฝันคงเปลืองแรงกว่านี้”

    “ฝัน...”

    “ถ้าพี่ฟ้าจะมาบ่นฝันเรื่องไอ้หมอนี่ฝันไม่คุยแล้วนะคะ” เหมือนฝันตัดบทด้วยน้ำเสียงแง่งอนอย่างที่สุด ทำให้มาสฟ้าพูดอะไรไม่ได้เว้นแต่ถอนหายใจเสียงดังเพราะความดื้อรั้นของน้องสาว

    “อย่างนั้นก็วางเถอะจ้ะ พี่จะไปทำความสะอาดบ้านล่ะ” คำพูดนั้นของมาสฟ้าทำให้คนที่แกล้งงอนหวังให้พี่สาวง้อนั้นหน้าคว่ำ ในใจก็คาดโทษศัตรูหมายเลขหนึ่งของตนเอาไว้ในใจ คิดว่าหากเธอเจอกับไอ้คนที่เกือบเป็นแฟนของมาสฟ้าเมื่อไหร่ล่ะก็ เธอจะเล่นงานมันให้หนัก

    “ก็ได้ค่ะ”

    “แล้วก็ระวังตัวนะ อย่าไปเที่ยวด่าใครเขามั่วซั่ว”

    “ฝันไม่หาเรื่องใครก่อนอยู่แล้วล่ะค่ะ” เหมือนฝันหน้าหงิก มาสฟ้าเห็นเธอเป็นคนยังไงกันถึงได้พูดแบบนั้นออกมา เธออายุยี่สิบเจ็ดแล้วนะไม่ใช่เจ็ดขวบที่จะได้หาเรื่องทะเลาะกับคนเขาไปทั่ว “ฝันเรียบร้อยจะตายไป พี่ฟ้าก็รู้นี่คะ”

    “ก็เพราะรู้นี่แหละถึงได้เตือน” มาสฟ้าใช้ความอดทนอย่างมากที่จะไม่กลอกตาขึ้นฟ้าเพราะคำพูดยกหางตัวเองของน้องสาว “ระวังตัวนะฝัน พี่เป็นห่วง”

    “ค่า” เบื่อที่จะพูดเรื่องนี้เต็มทีเหมือนฝันจึงรับคำอย่างขอไปทีแต่กระนั้นมาสฟ้าก็ยังมิวายเอ่ยย้ำด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดยิ่งกว่าเดิม

    “ระวังตัวนะ”

    แหะๆศรีว่าพี่ฟ้าคนดีคนสวยของหนูน่าจะเตือนช้าไปนะคะ ยายฝันของเราเจอเขาแล้วค่า พส

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×