ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เพียงแค่เธอ

    ลำดับตอนที่ #5 : คนในความทรงจำ

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.พ. 58


    ตอนที่ 5   คนในความทรงจำ

                    ไม่เกินหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่กลับมาจากห้องทำงานของอนุวัติ ท่านประธานใหญ่ก็เรียกประชุมด่วนสภาพจิตใจเธอยังไม่ค่อยพร้อมทำงานเลยนะตอนนี้ เธอเข้าประชุมแทบจะไม่ค่อยได้ฟังเท่าไรนัก “คุณญาริกาตอนนี้ผมวางแผนจะไปเปิดสาขาใหม่ที่โซลผมได้ติดต่อสถานทูตไว้แล้วคืนนี้คุณต้องบินไปที่โซลนะแล้วพรุ่งนี้ก็ไปพบกับทางสถานทูตไปทยได้เลย ทางท่านทูตจะจัดหาคนมาให้รายละเอียดและพาไปดูพื้นที่นะ”  มันเป็นคำสั่งอีกแล้วเฮ้อ  “ค่ะท่านประธาน” เธอก็ตอบรับและจดบันทึกลงในสมุดงาน “อ้อ ผมลืมบอกไปไปพร้อมกับลูกชายผมนะผมอยากให้เขาเป็นคนดูแลโปรเจคเองทั้งหมด หวังว่าทุกคนคงไม่มีอะไรติดขัดนะ เรื่องสุดท้ายที่จะประชุมมีแค่นี้จบการประชุมครับ”  แทบลมจับเลยทีเดียวค่ะท่านประธานคะญาริกาไม่พร้อมทำงานร่วมกับลูกชายท่านประธานค่ะ และไม่อยากไปเกาหลีด้วย เฮ้อ!!!!!!!!!!!!!   ออกจากห้องประชุมเธอก็ออกจากบริษัทไปจัดการเก็บกระเป๋าเพื่อไปทำงานที่เกาหลีเลย เลขาก็เอาตั๋วเครื่องบินมาให้ถึงบ้าน ดูรักญาริกากันทุกคนเลยค่ะสนับสนุนในการไปมากนะ บางทีเธอก็อยากที่จะย้ายกลับไปทำงานที่บ้านเกิดบ้าง อย่างน้อยก็มีพ่อกับแม่ให้กอดเวลาเหนื่อยแบบนี้แต่ที่นี่ช่างต่างกันจริงๆมีบ้านหลังใหญ่โตแต่พ่อกับแม่บอกว่าอากาศไม่สะอาดเลยไปๆมาๆเอาทำให้เธอต้องอยู่คนเดียวนี่แหล่ะแหมชีวิตสาวโสดนี่มันสบายจริงๆเลยนะเนี่ย พอตื่นมาก็ถึงเวลาที่จะต้องไปสนามบินพอดี รถของบริษัทก็มารับถึงหน้าบ้าน แต่พอออกไปมันไม่ใช่รถบริษัทนี่นา พอมองดีๆนี่มันรถเจ้านายของเธอนี่เองแล้วเขาก็ลดกระจกลงมาเรียกให้ขึ้นรถ “พี่ภัทรมาบ้านแยมถูกได้ไงเนี่ย”  เธอมัวแต่ตั้งคำถามจนลืมไปว่าต้องขึ้นรถ “ขึ้นรถก่อนสิมัวแต่ยืนอึ้งอยู่ได้เดี๋ยวตกเครื่องกันพอดีหรอกน้องสาว” พอได้ยินแบบนั้นก็รีบขึ้นรถทันทีใช้เวลาไม่นานก็มาถึงที่สนามบินเพราะบ้านของเธอก็อยู่ไม่ไกลจากสนามบินเท่าไรนัก ธนภัทรปล่อยให้เธอรอที่เค้าเตอร์เช็คอินก่อนแล้วเขาก็ไปจอดรถ ในช่วงเวลาที่ยืนรอ จู่ๆภาพเก่าๆตอนที่เธอยืนอยู่ตรงนี้แล้วเห็นแค่หลังของใครบางคนเดินเข้าไปที่ประตูผู้โดยสารทำให้เธฮรูสึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมาทันทีมันเป็นเวลากี่ปีแล้วนะที่เธอยังไม่เคยลืมภาพนี้เขายังอยู่ในใจของเธอเสมอเขาที่เธอไม่มีวันจะลบออกจากหัวใจได้เลย อยู่ดีๆน้ำตามันก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัวเลยแค่นึกถึงแค่เห็นสถานที่ที่มีความทรงจำ “แยมเราเป็นอะไรหรือเปล่าพี่เรียกตั้งนาน เราร้องไห้ทำไมแยมเป็นอะไรหรือเปล่า”  ธนภัทรทำให้เธอหลุดออกมาจากภาพความทรงจำและเช็ดน้ำตาให้เธอและทำหน้าตกใจเมื่อได้เห็นว่าเธอร้องไห้ “อ่อ พี่ภัทรเรียกแยมหรอ  แยมกำลังคิดอะไรเพลินๆน่ะ” เธอปาดน้ำตาพร้อมกับทีเธอทำน้าให้เป็นปกติแต่ธนภัทรก็ยังมองเธออยู่ “แน่ใจนะแค่คิดเพลินๆก็ต้องร้องไห้ด้วยหรอ” เธอคงไม่มีเหตุผลที่จะตอบตอนนี้หรอก “ไปเช็คอินกันดีกว่าเนอะพี่ภัทรเดี๋ยวคนจะเยอะ” ถึงญาริกาจะทำตัวให้ไม่ดูไม่น่าเป็นห่วงแต่เขาก็ยังเป็นห่วงเธออยู่ดี เขาก็ไม่อยากจะพูดอะไรมากถ้าเธออยากจะเล่าให้เขาฟังเธอจะเล่าเองในสักวัน ตลอดระยะเวลาการเดินทางญาริกาได้แต่นั่งเงียบแต่พอลงจากเครื่องเท่านั้นแหล่ะดูเป็นเด็กน้อยทันทีจนบางทีเขาก็คิดว่าพาลูกสาวมาเที่ยวซะอีก หลังจากลงเครื่องเรียบร้อยก็มีรถของโรงแรมมารับไปยังโรงแรมที่พักป็นโรงแรมระดับหรูและย่านใจกลางเมืองตอนนี้ที่นี่อากาศ ติดลบสององศา มันหนาวมากเลยเมื่อเทียบกับที่ประเทศไทยถึงตอนนี้ก็ถึงเวลาพักผ่อนแล้วตื่นเช้ามามีนัดที่สถานทูตเขาและเธอจึงแยกย้ายกันไปคนละห้องพักเมื่อถึงเวลาในตอนเช้าตามที่นัดกับสถานทูตว่าจะเข้าไปหาเขาก็เกือบที่จะพาญาริกาหลงทาง แต่สุดท้ายก็มาได้อย่างถูกต้อง วันนี้สถานทูตดูคนไม่เยอะมากเท่าไรแต่ก็ไม่น้อยไปซะทีเดียว ดูแล้วญาริกาน่าจะตื่นเต้นที่ได้มาที่นี่ “พี่ภัทรคะขอแยมอยู่ข้างนอกได้ไหมแยมไม่อยากเข้าไปข้างใน” เธอทำหน้าอ้อนให้เขาซะแล้ว “ไม่ได้หรอกแยมพี่คงจำงานคนเดียวไม่หมดหรอกอีกอย่างเจ้าหน้าที่เขามารอแล้วไปเถอะจดบันทึกให้พร้อมนะ”  แล้วเธอกับเขาก็เข้าไปคุยงานสุดท้ายท่านทูตเป็นคนมาคุยด้วยตนเองที่นี่สวยจังเลย คนที่ฉันคิดถึงจะอยู่ที่นี่หรือเปล่านะ ฉันคิดถึงเขาเหลือเกิน  เรานั่งสรุปงานและวิธีการเข้ามาลงทุนการหาพื้นที่ โดยที่การดูพื้นที่การลงทุนนั้นจะต้องนัดในวันอื่นเพราะในช่วงนี้ไม่มีคนว่างที่จะพาเราลงไปดูพื้นที่เลยหลังจากที่เราสรุปงานเสร็จท่านทูตก็ของคุยกับธนภัทรเป็นการส่วนตัวจึงทำให้เธอมีเวลาพอที่จะเดินเล่นรอบๆสถานทูต

                    “พี่วินคะ พี่วินจะไปไหนแทยอนไปด้วยได้ไหม” มีสาวน้อยคนหนึ่งที่กำลังเดินควงแขนนายทหารหนุ่มที่ยังหนุ่มสุดหล่อแถมมีตำแหน่งทั้งนายร้อยเกาหลีและนายร้อยไทย “ไม่ดีหรอกครับพี่จะต้องกลับไปทำงานที่ไทยนะแทยอน” แต่ดูจากหน้าเขาแล้วเขาไม่อยากให้เธอไปเท่าไรเพราะที่จริงเขาคิดกับแทยอนแค่พี่น้องแต่แทยอนเองที่คิดกับเขาเกินพี่ชาย เขาจะทำอย่างไรได้ เพราะเขาเป็นคนที่อัธยาศัยดีเกินไปหรือเปล่า ในขณะที่ผ่านสวนดอกไม้ใรสถานทูตเขาได้เห็นคนๆหนึ่งซึ่งแทบจะไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองหน้าของเธอคล้ายกับคนที่เขาคิดถึงมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา แล้วเขาและเธอก็เดินมาเจอกัน เขาและเธอหยุดมองหน้ากันเธอเองก็มีอาการตกใจไม่ต่างจากที่เขาเป็น จนเป็นเขาเองที่เป็นฝ่ายทักเธอก่อน “แยม  แยมใช่ไหม  นี่วินไงจำวินได้หรือเปล่า” ในตอนนั้นญาริกาดีใจมากๆที่ได้เจออนุวัติอีกครั้ง อนุวัติคนที่เธอคิดถึงมาตลอดแต่ ข้างๆเขามีสาวสวยคนนึงที่ควงแขนเขาอยู่จากที่หัวใจกำลังพองโตอยู่กลับน้ำตาไหลแทน “พี่วินคะนี่ใครหรอคะ พี่รู้จักเธอด้วยหรอ”  หญิงสาวบุคคลที่สามถามขึ้นมาในขณะที่สายตาก็ไม่ได้ละจากญาริการเลย ตอนนี้อนุวัติเขาก็มองเธอเช่นกัน เธอแทบจะพูดอะไรไม่ออกเลย “วินหรอวินจริงๆด้วยแยมเองดีจังวินจำแยมได้ด้วย ดีใจนะที่ได้เจอกันอีก”  เธอตอบไปตามมารยาท “อื้มทำไมวินจะจำไม่ได้ล่ะ แทยอนนี่เพื่อนพี่ ชื่อแยม แยมนี่แทยอน เป็น แฟนพี่วินค่ะ”  ยังไม่ทันที่อนุวัติจะได้พูดจบแทยอนก็พูดขึ้นซะก่อนว่าเธฮเป็นแฟนเขาทำให้ญาราแทบกลั้นน้ำไม่อยู่เลยเธออยากเดินออกจากตรงนี้ให้เร็นที่สุด “ขอตัวก่อนนะคะพี่แยมพอดีว่าแทยอนกับพี่วินเราจะไปเที่ยวกันค่ะ” แล้วแทยอนก็ควงวินไปเลยโดยที่ยังไม่ได้คุยอะไรกันอีกและวินก็ยังหันมามองเธออยู่ เธอจึงยิ้มให้และหันหลังเดินกลับไปอีกทาง  “อ้าวแยมอยู่ที่นี่เองพี่ตามหาตั้งนานแหน่ะ” ธนภัทรยังพูดไม่ทันจบ ญาริกาก็กอดเขาพร้อมกับร้องไห้ออกมา เขายังไม่อยากจะถามว่าเธอเป็นอะไรตอนนี้ขอให้เธอร้องออกมาก่อนก็พอ เธอได้แต่กอดแล้วก็ร้องไห้เขาก็ทำได้เพียงแค่คอยลูบหัวเธอ ถ้าใครมาเห็นตอนนี้มันอาจจะดูเป็นภาพที่ดูสวยงาม แต่สำหรับเขาแล้วเธอกอดเขาแต่ก็ซุกอกเขาร้องไห้มีเพียงแต่เขาเท่านั้นที่รู้ว่าตอนนี้เธอกำลังร้องไห้อยู่เขาไม่สบายใจเลยที่ญาริกาเป็นแบบนี้ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเธอร้องไห้แล้วใครกันที่ทำให้เธอร้องไห้ได้หนักขนาดนี้ หลังจากญาริกาเลิกร้องไห้แล้วทั้งสองคนก็เดินไปตามทางเดินซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนแต่ที่รู้แค่เดินเล่นก่อนเพราะญาริกาคงไม่อยากจะตอบคำถามเขาหรอก ดูสีหน้าแล้วเธออาจจะกำลังคิดอะไรหลายๆอย่างอยู่ “พี่ภัทรคะพี่ภัทรหิวไหมอาหารร้านนี้น่ากินังไปกินกันเถอะเดี๋ยวแยมเลี้ยงเองดี” เธอก็ไม่ได้รอคำตอบอะไรจากเขาพาเขาเข้าไปนั่งในร้านอาหารพื้นเมืองของเกาหลีทันทีและเมื่อสั่งของกินมาเต็มโต๊ะขนาดนี้เธอก็ลงมือกินอย่างเต็มที่มากเขาไม่รู้ว่าเขาจะดีใจหรือเสียใจดีที่เห็นเธอเป็นแบบนี้เพราะเธอเหมือนดูฝืนทำเป็นมีความสุข และไม่อยากจะเชื่อว่าผมกับเธอจะกินกันหมดทุกอย่างยังไม่ทันได้มีเวลาไปเที่ยวที่ไหนก็เริ่มค่ำซะแล้ววันนี้ใช้หัวสมองในการคุยงานทั้งวันยังมีเวลาอยู่ที่นี่อีกหลายวัน วันนี้จึงตัดสินใจกลับที่พักไปชาร์จแบตให้เต้มที่ก่อน และให้ญาริกาไปพักก่อนเพราะเธอคงยังอารมณ์ไม่ดีแน่  เมื่อแยกย้ายเข้าห้องพักสุดท้ายเขาก็อยากรู้จนได้ว่าเมื่อตอนกลางวันนั้น ญาริกาเป็นอะไรเขาจึงเดินไปหาเธอที่ห้องพัก เพื่อถามว่าตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง “แยมพี่มีอะไรจะถามน่ะเรื่องที่แยมร้องไห้ตอนกลางวัน” ญาริกาไม่พูดอะไรมากได้แต่บอกว่าไม่มีอะไรมากเท่านั้น “พี่ภัทรคะถ้าแยมพร้อมจะเล่าให้พี่ฟังนะคเพราะตอนนี้แยมยังไม่รู้ว่าจะพูดยังไงเรื่องมันไม่มีอะไรสำคัญหรอกค่ะไม่มีทางกระทบการทำงานแน่นอน”  เธอพูดพร้อมกับมองออกไปนอกหน้าต่างของโรงแรม “พี่ไม่ได้กลัวกระทบเรื่องงานแต่พี่เป็นห่วงความรู้สึกเรามากกว่านะ”  เขาพูดออกมาจากใจเลยเรื่องนี้ “แยมไม่เป็นอะไรมากค่ะไม่ต้องห่วง แยมง่วงแล้วพี่ภัทรไปนอนเถอะค่ะ แยมขอตัวนะคะ” เขารู้ว่าเธอคงอยากจะอยู่คนเดียวมากกว่าเขาไม่น่ามาถามเธอเลย แต่อย่างน้อยก็ได้รู้บ้างว่าเธอยังโอเคกว่าตอนกลางวัน 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×