ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic EXO {KrisLay.ChanBaek} :หมอนวด

    ลำดับตอนที่ #5 : หมอนวด5

    • อัปเดตล่าสุด 24 พ.ย. 57




           หมอนวดเบอร์ 5

     

     

                “เฮ้อทำไมเด็กหน้าตาน่ารักอย่างนายถึงได้มีชีวิตที่น่าสงสารแบบนี้ล่ะโด้แบคพูดออกมาอย่างเห็นใจ มองคนที่นั่งสะอึกสะอื้นอยู่           

     

                “แล้วทีนี้จะเอาไงอี้ถามบ้าง เพราะพี่ๆสองคนยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไปนอนที่บ้านใครดี พี่ลู่ก็อยู่กับพี่ชายส่วนพี่หมินนี่ไม่ต้องพูดถึง เรียกได้ว่ามีผัวเป็นตัวเป็นตนแล้วจะให้ไปค้างด้วยนี่คงไม่ได้ เกรงใจเพราะนั่นมันบ้านของพี่เฉินเขา

     

                มองแบบนี้หมายความว่าไง?” แบคถามเริ่มเห็นเค้าลางแปลกๆเคลื่อนใกล้เข้ามาทุกที

     

                คืนเดียวนะแบค นะอี้นะพี่ลู่จับมือน้องชายทั้งสองมากุมไว้แนบอกพลางส่งสายตาหวานเยิ้ม

     

                เชี่ยน้องฮุนครับ กวางน้อยมึงแตะอั๋งเด็กพี่ครับพี่ชานจิกไหล่ฮุนที่นั่งอยู่ข้างๆเมื่อเห็นว่าลู่คนงามเอามือนุ่มๆ(แกเคยสัมผัสแล้วหรอถึงบอกว่านุ่ม=_=?)ของแบคไปกุมไว้ไหนจะสายตาหวานปานน้ำตาลผสมน้ำอ้อยนั่นอีก

     

                “โอ๊ยพี่ครับ เห็นแล้วครับจิกทำไม กูเจ็บ!” สองคนที่ทะเลาะกันไปมาทำให้พี่มาร์คกับพี่เจที่นอนเปลอยู่ใกล้หันไปมอง

     

                มึงไปหวงไปหึงกันไกลๆครับน้องครับ กูหนวกหูครับไม่แค่พูดพี่มาร์คยังยันก้นงามๆของฮุนไปอีกที

     


     

                ก็แค่ลูกเจ้าของวินครับยังไม่ใช่เจ้าของวิน




     

                “เดี๋ยวพี่สองคนไปนอนด้วยก็ได้พี่ลู่ต่อรอง คนที่คิดว่าตัวเองเป็นภาระก็หน้าเสียเล็กน้อย

     

                ผมไปหาที่นอนเองก็ได้ครับ พวกพี่จะได้ไม่ลำบาก

     

                ไม่ได้!!!” ทั้งสี่ร้องห้ามเป็นเสียงเดียวกัน

     

                เกิดนายไปเจอพ่อแล้วเขาจับนายไปขายอีกจะทำยังไงแบคเอ่ยคาดการณ์

     

                พี่ไม่ยอมให้นายตกลงไปอยู่ในวงจรอุบาทว์นั่นหรอกนะอี้เสริมทัพแรก

               

                ไม่ได้ลำบากอะไรหรอกโด้ อย่าคิดมากสิพี่ลู่พูดเสริมทัพสอง

     

                ถ้าเฮียโจ๊กรู้ว่าพวกเราปล่อยนายไปมีหวังตกงานแน่ๆและพี่หมินเป็นคนพูดปิดท้าย

     

    เห็นพี่ๆเกี่ยงกันไปมาเขาก็นึกละอายใจขึ้นมาบ้างแล้ว ตัวเองเป็นใครก็ไม่รู้มาลำบากคนอื่นเขาแท้ๆ






     

                สุดท้ายแล้วก็คือทั้งห้าคนอพยพ(?)ไปที่ห้องของอี้และแบค ซึ่งกว่าพี่เฉินจะปล่อยให้พี่หมินมานอนกับเพื่อนกับน้องๆได้นี่ก็แทบจะงอนกัน ก็คนเป็นแฟนกันเคยนอนใกล้กันทุกคืนพอห่างกันก็ต้องห่วงเป็นธรรมดา

     

                พรุ่งนี้จะกลับจากบ้านเฮียก็โทรบอกนะเดี๋ยวพี่ไปรับพี่เฉินที่คร่อมมอไซด์คันเก่งอยู่บอกคนรักที่เพิ่งลงจากรถ หมินพยักหน้ารับแล้วส่งหมวกกันน็อคคืนให้

     

                ขี่รถดีๆถึงแล้วโทรมาทำมือเป็นสัญลักษณ์โทรศัพท์บอก ยืนส่งจนฟีโน่สีดำเคลื่อนออกไปจากหน้าอพาร์ทเม้นท์แล้วจึงเดินตามเจ้าของห้องไป

     

                ห้องรกหน่อยนะไม่ค่อยมีเวลาทำน่ะอี้บอกหลังจากที่เปิดประตูเข้ามาในห้อง ไฟนีออนหลอดยาวในห้องสว่างขึ้น

     

                ห้องของแบคกับอี้เป็นห้องที่ไม่ใหญ่มากอยู่สองคนกำลังดีด้านขวามือของประตูเป็นห้องครัวถัดไปหน่อยเป็นห้องน้ำส่วนด้านซ้ายก็เป็นระเบียงซึ่งแบคก็เนรมิตให้มันเป็นที่ตากผ้าและปลูกต้นไม้เล็กและกระบองเพชรไปโดยปริยายโดยมีตาข่ายสีเขียวเข้มมากางกั้นเพื่อไม่ให้นกมันบินเข้ามาทิ้งสิ่งสกปรกในห้อง

     

    เตียงขนาดหกฟุตตั้งหราอยู่กลางห้อง เฟอร์นิเจอร์ก็มีทั้งทีวี ตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า โซฟาหนังราคาถูกสีครีมพร้อมโต๊ะญี่ปุ่นเตี้ยๆวางไว้ให้ ส่วนโต๊ะเครื่องแป้งนี่อี้แบคหารเงินกันซื้อเอง

     

    โด้เดี๋ยวใส่ชุดพี่นะ ตัวเราไม่ต่างกันมากแบคเดินไปหยิบชุดนอนของตัวเองมาให้เด็กตาโตที่นั่งแหมะอยู่ที่พื้นบริเวณปลายเตียง คนตาโตยกมือไหว้ขอบคุณจากนั้นเจ้าของก็บอกให้ไปอาบน้ำเป็นคนแรก

     

    พี่รู้ว่าเรายังไม่ไว้ใจอะไรน้องมันนะ พี่ก็เหมือนกันแต่ทำตัวให้เป็นปกติเข้าไว้โด้น่าสงสารมากนะพี่ใหญ่อย่างพี่หมินบอกอย่างเข้าใจความรู้สึกเจ้าของห้อง

     

    เพียงแค่นั้นทั้งสี่ก็ไม่พูดเรื่องโด้อีก ทำทุกอย่างให้มันเป็นปกติที่สุดเพื่อไม่ให้น้องเล็กอึดอัด พื้นที่บนเตียงในคืนนี้อี้และแบคยกให้พี่หมินและพี่ลู่ โซฟายกให้โด้ส่วนตัวสองคนนั้นเสียสละนอนที่พื้นเอง แต่พี่หมินปฏิเสธที่จะนอนบนเตียงและให้น้องเล็กอย่างโด้ไปนอนกับพี่ลู่สลับกัน ให้เหตุผลว่าน้องเหนื่อยมาทั้งวันควรจะนอนที่สบายๆ

     

    โด้นั้นหลับไปแล้วเพราะความเหนื่อยและเพลียจากที่ตากแดดและร้องไห้มาอย่างหนักเหลือเพียงพี่ๆที่ย้ายตัวเองมานั่งสลอนบนผ้าปูที่เป็นที่นอนของอี้แบคหน้าทีวีเปิดรายการเพลงเกาหลีดู

     

    หูยเนี่ยยย อิวงนี้มีแต่คนหล่อๆอ่ะพี่ โดยเฉพาะเมนแร็พนะแบคชี้จอยี่สิบเอ็ดนิ้วให้ทุกคนดูใบหน้าหวานออกแนวเพ้อฝัน

     

    อ๋อใช่! หน้าโคตรอินเตอร์อ่ะ ติดที่ว่ามีเงิงแต่หล่อโอเคให้ผ่านได้!” อี้โม้บ้างตัวเองก็ชอบวงนี้เหมือนกันไง

     

    เงิงอะไรกันอี้ นี่เราพูดถึงคนเดียวกันป่ะแร็พที่แบคหมายถึงคนนี้ต่างหางเนี่ยๆๆหูกางๆขาโก่งๆเนี่ยแบคไม่ยอมน้อยหน้าขยับเข้าไปใกล้จอแล้วชี้ให้เพื่อนดู

     

    คนที่อี้ชอบก็แร็พนะหล่อด้วย

     

    ของแบคหล่อกว่า

     

    มันก็หล่อทุกคนป่าววะอี้ แบค

     

    เออหล่อทุกคน อีกอย่างวงนี้มันมีเมนแร็พมากกว่าสองคนนี่ ไอ้นั่นๆ ไอ้หัวสีๆก็แร็พได้ ไอ้ตัวดำๆก็แร็พได้พี่ลู่ชี้บ้างไม่อยากจะคุยว่าเขาก็ติ่งเกาหลีไม่แพ้น้องสองคนนี้หรอก

     

    แต่ฉันชอบเมนร้องนะ เสียงหวานฟังแล้วเคลิ้มพี่หมินทำหน้าเคลิ้มตามที่ตัวเองพูด จนคนที่นั่งอยู่เบ้หน้าอย่างหมั่นใส้

     

    และกว่าที่รายการจะจบก็ปาไปตีสองกว่าๆแล้ว พี่ลู่เป็นคนแรกที่คลานขึ้นเตียงไปนอนพอหัวถึงหมอนปุ๊บก็หลับปั๊บไม่ต่างจากคนที่เหลือ ดีนะพรุ่งนี้เป็นวันหยุดของพวกเขาไม่งั้นตื่นบ่ายตอกบัตรไม่ทันแน่

     

     

     

     

    คนนอนก่อนย่อมตื่นก่อนแน่นอน โด้ตื่นขึ้นมาในเวลาเกือบสิบเอ็ดโมงหันมองไปรอบๆตัวก็พบพี่ๆนอนหลับสบายอยู่ เท้าเล็กเหยียบลงที่พื้นพยายามทำเสียงเบาที่สุดเพื่อไม่ให้รบกวนการนอน พัดลมตัวใหญ่ถูกกดปุ่มให้มันส่ายเพราะห้องนี้ไม่มีแอร์ค่อนข้างร้อนพี่แบคนี่ถีบผ้าห่มออกไปแล้ว

     

    คนตัวเล็กไม่มีอะไรทำเลยเดินเข้าครัวไปเปิดตู้เย็นออกเพื่อหาน้ำดื่ม เดินไปที่อ่างล้างจานก็มีภาชนะที่ยังไม่ได้ล้างวางอยู่เลยจัดการล้างมันซะเลย โบราณว่าอยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย

     

    ตื่นแล้วหรอสะดุ้งเพราะเสียงทัก ก็นะยืนอยู่คนเดียวเงียบๆ

     

    ครับ ผมเสียงดังทำพี่ตื่นหรือเปล่าถามอย่างเกรงใจเมื่อกี๊เผลอทำจานลื่นจนเกือบหลุดมือด้วย

     

    ไม่หรอก แล้วนี่ทำอะไรพี่อี้เดินเข้ามาดูใกล้พอเห็นน้องมาล้างจานที่ตัวเองกินทิ้งไว้ก็ร้องห้ามว่าไม่ต้องทำเดี๋ยวเขาจัดการเองแต่น้องมันก็ยังคะยั้นคะยอขอทำให้ได้ อี้เลยได้แต่ปล่อยเลยตามเลย

     

    เดี๋ยวพี่เลือกชุดให้นะ ใส่ของพี่แล้วกันแบคยังไม่ตื่นว่าแล้วก็เปิดตู้เสื้อผ้าหลังเดียวกับของแบคแล้วหยิบเสื้อที่ไม่ได้ใส่นานแล้ว อย่างฮู้ดแขนสั้นสีเทาพอดีตัวเขาแต่มันอาจจะใหญ่สำหรับโด้กับกางเกงยีนส์สีซีดของแบคที่บังเอิญซื้อมาผิดไซส์และเจ้าตัวบอกว่าจะเอาไปขายมือสองให้เพื่อนที่ทำงาน

     

    มันไม่ใช่เสื้อเก่าอะไรหรอกนะ เพียงแต่พี่ใส่ไม่ได้แล้วเท่านั้นเองพี่ยกให้อี้บอกอย่างใจดีแล้วผละออกมาเพื่อให้น้องเข้าไปจัดการตัวเอง เขานั้นไม่รีบอาบหรอก อย่างที่บอกนี่มันวันหยุดจะเน่าอยู่ในชุดนอนแบบนี้ก็ไม่มีใครว่า

     

     

    เวลาเที่ยงกว่าๆ ลู่ หมินและโด้ก็เคลื่อนย้ายตัวเองออกจากห้องของน้องเพราะต้องพาเด็กไปที่บ้านของเฮียโจ๊กที่โทรมาบอกว่าเข้าไปได้แล้ว เดี๋ยวหลังจากคุยธุระเสร็จทั้งสี่คนก็นัดล่วงหน้ากันว่าจะไปกินส้มตำไก่ทอดเจ้าอร่อยกัน

     

    “อี้ๆ แบคอยากกินลาบ” น้องแบคเขย่าแขนเพื่อนรักพลางชี้เมนูในใบรายการของร้าน

     

    “อยากกินก็จดสิครับมาบอกอี้จะให้อี้ไปทำมาถวายรึไง?” อี้ตอบกลับสายตายังคงไล่ดูเมนูรอพี่ๆและน้องโด้ที่โทรนัดมาทานส้มตำไก่ย่างร้านพี่ไค

     

    เวลาผ่านไปประมาณสิบกว่านาทีอาหารทุกอย่างที่สั่งไว้ก็ถูกทยอยนำมาจัดวางบนโต๊ะ พอดีกับที่สามหนุ่มหน้าหวานเดินเข้ามาในร้านส้มตำ

     

    “ไม่มีร้านอื่นนัดกันแล้วหรอ? จะฝนตกฟ้าถล่มเวลาอยากกินส้มตำก็มาแต่ร้านนี้” พี่หมินเอ่ยปากบ่นแต่ก็เป็นคนลงมือจับส้อมตักตำปูเป็นคนแรก

     

    “แถวนี้ก็มีแค่ร้านพี่ไคนี่แหละอร่อยสุดละ ไปร้านอื่นไม่ถูกปากว่ะ” พี่ลู่ให้ความเห็นพลางหยิบจานใบเล็กและช้อนส้อมส่งให้น้องโด้

     

    “ไปหาเฮียเป็นไงบ้างฮะพี่?” พอเริ่มลงมือทานกันได้สักพักอี้ก็เปิดประเด็นพูดคุยถึงเรื่องก่อนหน้าจะกลับมาเจอกัน

     

    “ก็โอเค ซ้อเขาให้โด้ไปอยู่ช่วยงานที่บ้านได้ แต่กว่าจะยอมให้มานี่รู้สึกเฮียโจ๊กจะโดนไปหลายตบแก้มนี่ช้ำเชียว” ลู่เป็นฝ่ายตอบน้อง

     

    น้องโด้ได้แต่นั่งทานอยู่เงียบๆอย่างเจียมตัวทานเผ็ดไม่ได้ก็ไม่คิดปริปากพูดเพราะไม่อยากทำตัวให้เป็นภาระมากกว่านี้ และดูเหมือนพี่ไคเจ้าของร้านจะเห็นว่าลูกค้าตัวเล็กไม่มีความสุขในการทานส้มตำร้านตนจึงหันไปสั่งเด็กตำส้มตำให้ใหม่แล้วเป็นคนนำมาเสิร์ฟเองกับมือ

     

    “พี่ไคเราไม่ได้สั่งเพิ่มนะฮะ” น้องแบคเอ่ยท้วงทันทีที่เห็นจานตำไทยสีจืดชืดวางอยู่ตรงหน้าโด้

     

    “จานนี้พี่เลี้ยงน้องเขาเอง ดูหน้าแล้วเหมือนจะกินเผ็ดไม่ได้เลยสั่งเด็กทำให้ใหม่” พี่ไคตอบพลางมองหน้าน้องโด้ที่แดงก่ำเหงื่อผุดพรายเต็มหน้าผาก

     

    “อ่า...ทำไมโด้ไม่บอกพี่ล่ะจะได้สั่งให้พิเศษ” อี้ที่เพิ่งสังเกตน้องพูดขึ้นอย่างรู้สึกไม่ค่อยดีที่ไม่ได้เทคแคร์โด้เท่าไหร่

     

    “มะ..ไม่เป็นไรฮะพี่ ผมไม่อยากทำให้พวกพี่ยุ่งยากผมทานได้” โด้รีบโบกมือไปมาบอกว่าตนไม่เป็นอะไรจริงๆก่อนหันไปมองพ่อค้าใจดีที่อุตส่าห์ให้ส้มตำฟรี “ขอบคุณที่เลี้ยงนะฮะ”

     

    จบเรื่องจุกจิกสาวๆ(?)ทั้งห้าก็ทานกันไปพูดคุยกันไปอย่างออกรส เรื่องส่วนใหญ่ที่คุยก็หนีไม่พ้นพวกฮยองเกาหลีที่ต่างก็มีความชื่นชอบเหมือนกัน ถึงบางคนจะชอบมากกว่าสองวงพวกเขาก็แชร์เรื่องในวงนั้นๆมาพูดคุยกันเพื่อสร้างสีสรร

     

    “ป๊าคริสจะกินไก่ย่างร้านเฮียไค อ๊ะ! น้องอี้!!” เสียงร้องเรียกทำเอาเจ้าของชื่อต้องหันมองต้นเสียง ก่อนจะสำลักเส้นมะละกอที่เพิ่งกินเข้าไปเมื่อรู้ว่าใครเอ่ยเรียก

     

    “แค่กๆ น่ะ...แค่กๆๆ” อี้ไอหน้าแดงก่ำพลางรีบคว้าหยิบแก้วน้ำมาดื่มลดอาการแสบคอ

     

    ให้พูดจริงๆก็ดีใจนะที่วันนี้ได้เจอเฮียอู๋กับน้องคริสอีก แต่มาเจอกันในร้านส้มตำกับสภาพนั่งจกกันแบบนี้น้องอี้ทำตัวไม่ถูกเลยนะ

     

    “พี่ไคมีเพลงมนต์รักส้มตำมั้ย? อยู่ๆก็อยากฟังขึ้นมา” แบคพูดแซวเพื่อนที่อายสองพ่อลูกนั่นจนต้องมาซบไหล่ของเขา

     

    “อย่าแกล้งกันดิแบคอ่ะ” อี้เอ่ยค้อนๆก่อนตั้งสติแล้วหันกลับไปมองเฮียอู๋กับน้องคริสที่เดินเข้ามาถึงโต๊ะพอดี

     

    “ป๊าๆ คริสอยากนั่งกินข้าวกับน้องอี้” เด็กหน้าหล่อเขย่ามือพ่ออย่างอ้อนขอ

     

    “พี่เขามากับเพื่อนอย่ารบกวนเขาสิลูก เราแยกโต๊ะเถอะคริสเดี๋ยวพวกพี่ชานพี่เทาก็มานั่งด้วย” เฮียอู๋พูดอธิบายให้ลูกคิดคล้อยตาม

     

    “ป๊าอ่ะ” พอไม่ได้ดั่งใจว่าที่เจ้าของร้านก็หน้าเบะใส่ทันที

     

    “อ่า...ไม่รบกวนหรอกครับเฮีย นั่งด้วยกันเยอะๆก็สนุกดีเนอะๆ” พี่ใหญ่สุดในกลุ่มเอ่ยพูดช่วยเด็กด้วยความสงสาร ซึ่งคนในโต๊ะก็พยักหน้าเออออด้วยโดยเฉพาะน้องอี้ที่อยากให้เฮียอู๋ร่วมโต๊ะด้วยแต่ไม่กล้าพอที่จะออกตัว

     

    พอตกลงกันได้จากโต๊ะเดียวที่นั่งได้ห้าคนก็ถูกต่อเติมเพิ่มอีกหนึ่งโต๊ะเพื่อคนทั้งสองและอีกสองคนที่ตามมาสมทบทีหลัง อาหารถูกเพิ่มจำนวนอีกหนึ่งชุดใหญ่เสียงพูดคุยหยอกล้อระหว่างทานข้าวของอี้กับคริสดังให้ได้ยินเป็นระยะ เฮียอู๋หยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงเพื่อต่อสายหาลูกน้องที่ยังไม่มาถึงที่นัดหมายพลางลอบมองหมอนวดหนุ่มกับลูกชายที่พูดคุยกันอยู่ข้างๆเขา

     

    “เหมือนนั่งดูพ่อแม่ลูกเขามากินข้าวกันเลย” ลู่แอบกระซิบพูดคุยกับหมินและแบคที่มองคนทั้งสามอยู่เช่นกัน

     

    “ความฝันของอี้เลยนะนั่น ถ้าเป็นจริงนี่คงฟินไม่ใช่น้อย” น้องแบคเอ่ยเป็นลูกคู่ให้พี่ลู่

     

    “วางแผนมอมเหล้าส่งเข้าหอเลยดีมะ?” พี่หมินเสนอความคิด

     

    แต่แผนนี้เหมือนมันจะคุ้นๆหูลู่อย่นะ?

     

    “มันใช่แผนเดียวกันกับที่นายจับพี่เฉินป่ะหมิน?” ลู่ย้อนถามเหมือนจะจำได้แต่ก็ไม่เชิง

     

    “อะไร ฉันเปล่ามอมเหล้าพี่เฉินอย่าใส่ร้ายดิ” หมินปฏิเสธข้อกล่าวหา แล้วแกล้งหันไปพูดคุยกับน้องโด้ที่นั่งเงียบเหมือนไม่มีตัวตนในกลุ่ม

     

    “เฮ้ย...พี่หมินมอมพี่เฉินจริงดิพี่?” แบคกระซิบถามอย่างแปลกใจกับข้อมูลใหม่ที่เพิ่งได้ยิน

     

    “เห็นนางหนิมๆแต่จริงๆไม่ใสนะบอกได้แค่นี้แหละ” ลู่ยกแก้วน้ำขึ้นมาถือก่อนกระซิบตอบแล้วตีเนียนดื่มน้ำเหมือนไม่ได้พูดอะไรกับน้อง

     

    คนน่ารักแบบพี่หมินเนี่ยนะ?

     

    “พี่คริสปากเลอะอ่ะ” คนอยู่นอกวงสนทนาเมื่อครู่เอ่ยพูดกับเด็กที่นั่งอยู่ข้างๆ พลางหยิบทิชชูในกล่องมาเช็ดคราสซอสที่มุมปากให้คริส

     

    “ปากอี้ก็เลอะ” มือเล็กๆเอื้อมแตะมุมปากคนหน้าสวยแล้วลูบเช็ดเบาๆ

     

    ความจริงมีอยู่ว่า....คริสแค่หลอกแต๊ะอั๋งอี้

     

    “ลูกเฮียแม่งเจ้าเล่ห์ว่ะ” ชานที่เข้ามาทันได้เห็นฉากสวีทของเด็กหกขวบกับคนสวยวัยยี่สิบเอ่ยแซวผ่านคนเป็นพ่อ

     

    “เฮียน่าจะเรียนวิชาหลอกจับกระต่ายกับลูกนะ” เทาพูดสมทบก่อนนั่งเก้าอี้ๆข้างๆชาน

     

    เฮียอู๋ปรายตามองสองลูกน้องปากดีแล้วหันมองลูกชายที่หัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างสนุกกับมุขเด็กๆที่อีกคนเล่าให้ฟัง แล้วเกิดความรู้สึกบางอย่างเกี่ยวกับร่างโปร่งที่ไม่รู้จะอธิบายเป็นคำพูดยังไงถึงเฮียอู๋จะไม่ได้อคติกับคนที่ทำอาชีพนั้นแต่ก็ใช่ว่าจะอยากร่วมพูดคุย

     

    แต่กับหมอนวดที่ชื่ออี้ทำให้เขามีความรู้สึกที่ต่างออกไป...

     

    มือน้อยๆทั้งสองข้างของพี่คริสนี่ไม่ว่างเลยซ้ายกำน่องไก่ขวากำข้าวเหนียวที่น้องอี้ปั้นให้กับมือดุเหมือนว่าอาหารมื้อนี้จะทำให้พี่คริสมีความสุขเหลือเกิน

     

    คริสนั่งดีๆสิลูกไปเบียดพี่เขาทำไมเฮียอู๋ดึงตัวลูกชายที่เอนไปซบไปเบียดแขนของอี้ทั้งที่ปากยังเคี้ยวอาหารแจ๊บๆ

     

    เค้าก็อยากสวีทกะแฟนเค้าบ้างอ่ะป๊าคริสตอบเสียงฉะฉานทำเอาพี่ชานกับพี่เทาแท็กมือกันซะเสียงดังลั่นโต๊ะ

     

    อะไรของเอ็งสองคนนี้เฮียอู๋ปรายตามองอย่างไม่ไว้ใจ ไม่ใช่ว่าไอ้สองคนนี้แอบสอนอะไรที่ไม่เหมาะสมกับวัยลูกชายเขาหรอกนะ

     

    เปล่าเฮีย น้องแบคครับเอาข้าวเหนียวเพิ่มไหมพี่ชานทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วหันไปถามน้องแบคเพื่อเปลี่ยนประเด็น

     

    ไม่ล่ะแบคอิ่มแล้ว พี่เทาแบคขอเหยือกน้ำหน่อยชี้ไปที่เหยือกน้ำสีชมพูที่วางอยู่ใกล้ๆพี่เทา

     

    นี่ครับและคนที่ส่งให้ก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากพี่ชาน นี่ลงทุนยืนแขนตัดหน้าพี่เทาในระหว่างที่กำลังตักลาบเข้าปากเลยนะ และมันก็ส่งผลให้ลาบหมูสุดแซ่บหกเลอะกางเกงยีนส์ริมแดงของเจ้าตัวเขาล่ะ

     

    ไอ้เวร…”

     

    พี่เทาน้องนั่งอยู่อย่าพูดไม่เพราะสิอี้ท้วงเพราะเห็นว่าพี่เทาสบถคำหยาบออกมา ให้ตายสิน้องคริสก็นั่งอยู่พูดออกมาได้ไงเดี๋ยวน้องก็จำไปใช้

     

    โอ๊ย อี้ครับหยาบกว่านี้พี่ก็พูดต่อหน้าคริสมาแล้วบ่อยเลยล่ะที่เขากับเพื่อนชานด่ากันหยาบคายรุนแรงให้น้องคริสเห็นน้องอี้ก็ซีเรียสไปได้

     

    ทีหลังก็ระวังสิ น้องจะจำไปพูดนะเดี๋ยวต่อไปถ้าน้องติดคำพูดพี่ๆมากแล้วเอาไปพูดกับเพื่อนทำไงหน้าง้ำบอก

     

    ไม่หรอกพี่ก็บอกน้องอยู่ว่าที่พี่ทำมันไม่ดี

     

    งั้นพี่ก็จะไม่ว่าอะไรใช่ไหมถ้าน้องแทนตัวเองว่ากูและเรียกพี่ว่ามึง?” น้องแบคว่าจ้องหน้าพี่ชานกับพี่เทาสลับกัน

     

    สองหนุ่มก็แดกจุดไปสิครับหลังจบประโยคของน้องแบคเฮียอู๋ยิ้มมุมปากเมื่อเห็นว่าหมอนวดหน้าหวานคนนี้สวนลูกจ้างเขาชนิดที่ว่าไปต่อไม่เป็นแล้วก็ไม่ลืมปรายตาไปมองคนที่พร่ำสอนลูกชายตัวเองว่าอย่าไปพูดไม่เพราะเหมือนพี่เทาพี่ชานเพราะมันไม่น่ารัก

     

    ว่าที่แฟนมึงนี่ไม่ธรรมดาเลยนะไอ้ชานพี่เทากระซิบกับเพื่อนสองคน

     

    งี้แหล่ะสเปคกู

     

    จ้าๆๆ กูจะรอดูวันที่สเปคมึงปราบมึงก็แล้วกันกูว่ามันต้องมีซักวันแหล่ะ!

     

    ไคๆพี่ลู่เรียกเจ้าของร้านที่กำลังเดินผ่านโต๊ะหลังจากที่จดออร์เดอร์ลูกค้าโต๊ะข้างๆเสร็จ

     

    ครับพี่

     

    เดี๋ยวเช็คบิลเลยนะ แล้วก็พี่ขอปีกไก่ทอดสามสิบบาทสามชุดพี่หมินว่ามือควักกระเป๋าตังค์ออกมาวางบนโต๊ะเพื่อเตรียมจ่าย

     

    อ่าครับ

     

    คิดหมดนี่เลยนะไค มื้อนี้เฮียเลี้ยงเองนะบอกกับเจ้าของร้านแล้วบอกเด็กๆร่วมโต๊ะ

     

    ไม่ต้องเฮียคิดแยกไปเลย กินกันไปเยอะอยู่นาเกรงใจอ่ะลู่ว่า เพราะเท่าที่ดูพวกเขาห้าคนกินกันไปเยอะเหมือนกัน

     

    ใช่ฮะ เกรงเฮียเปล่าๆพวกอี้กินเยอะกันจะตายหมอนวดตัวขาวพูดด้วยท่าทีที่บอกว่าเกรงใจจริงๆ

     

    ให้ป๊าจ่ายแหล่ะอี้ ป๊าพี่คริสรวยพี่คริสพูดหลังจากดื่มน้ำเสร็จยิ้มหวานให้น้องอี้

     

    สรุปก็คือเอียอู๋เป็นคนจ่ายค่าอาหารทั้งหมดที่พวกเขากินกันตามที่ตั้งใจไว้ไม่แค่นั้นยังใจดีสั่งไก่ทอดให้ทุกคนเอากลับไปทานที่บ้านอีกคนละชุดเว้นก็แต่อี้กับแบคที่อยู่ด้วยกันเลยขอแค่ชุดเดียวพอส่วนพี่ชานกับพี่เทาไม่นับถือว่าทำโทษที่พูดคำหยาบให้ลูกชายเขาได้ยิน

     

    น้องอี้พี่คริสกับแล้วนะต้องไปท่อง A B C ต่อเด็กน้อยกระตุกมือคนรัก(?)เพื่อบอกลา

     

    ครับพี่คริส ตั้งใจอ่านนะอี้ย่อตัวลงนั่งให้เท่ากับคริสแล้วยิ้มบอกท่ามกลางสายตาของคนเป็นพ่อที่ยืนจับมืออยู่อีกข้าง

     

    ไม่ยักรู้ว่านี่เป็นชุดอยู่บ่นของเธอพออี้ลุกขึ้นเฮียอู๋ก็เป็นฝ่ายทักจริงก็เห็นตั้งแต่เดินเข้าร้านมาแล้วล่ะ

     

    อ่า >///<” อี้ยกมือลูบท้ายทอยแก้เขิน ก็นะมันก็ต้องเขินต้องอายเป็นธรรมดาเมื่อได้เจอผู้ชายในฝันทั้งๆที่ตัวเองอยู่ในชุดนอนย้วยๆแบบนี้

     

    ขอโทษเฮียด้วยนะครับที่แต่งตัวไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่

     

    ไม่เป็นไร ฉันชอบคนที่เป็นตัวของตัวเองดีพูดจบก็ก้มลงบอกลูกชายให้ออกเดินไปที่รถมอไซด์ที่จอดไว้โดยทิ้งใครอีกคนให้ยืนนิ่งกับคำพูดของตัวเองไว้

     

    ฉันชอบคนที่เป็นตัวของตัวเองดี

     

    ฉันชอบ

     

    ฉัน….ชอบ

     

    ชอบ

     

    ชอบ

     

    อี้!!!”

     

    ห๊ะ!?”

     

    เป็นอะไรยืนนิ่งยังกะถูกสตาฟแล้วนี่หน้าแดง ไม่สบายป่าว?” แบคเห็นว่าเพื่อนยืนนิ่งไม่ขยับไปไหนทั้งๆที่เรียกตั้งหลายครั้งก็ไม่หันซักทีเลยเดินเข้ามาสกิดและเรียกเสียดังพอมองหน้าก็เห็นว่าใบหน้าของเพื่อนแดงจัดยังกะลูกตำลึง

     

    แบค~~~”

     

    อะอะไรแบครับคำเพื่อนที่เรียกตัวเองเสียงหวาน นอกจากอี้จะไม่ตอบแล้วยังบิดตัวไปมาสองทีแล้ววิ่งข้ามถนนไปฝั่งนู้นปล่อยให้แบคยืนงง

     

    แบคให้พี่ไปส่งป่าวพี่ชานขี่ซูเมอร์เอ็กซ์มาจอดเทียบน้องแบค

     

    ไม่เป็นไร อี้เอารถมาจอดอยู่ฝั่งนู้นนิ้วเรียวชี้ไปอีกฝั่งที่ตอนนี้อี้ถอยรถของตัวเองออกมาแล้ว

     

    อ๋อ เอ่อ…”

     

    หืม?”

     

    ชุดนอนแบคน่ารักจังพี่ชานพูดยิ้มๆ คนอะไรก็ไม่รู้ขนาดอยู่ในชุดนอนยังน่ารักเลย หน้าสดด้วยหน้าใส๊ใส

     

    น่ารักอ่อ เอาป่าวขายต่อพรีฯมาสามร้อยนี่เห็นว่ากันเองเอาสองร้อยพอ

     

    พี่ก็อยากได้นะถ้ามันไม่ใช่ลายคิตตี้

     

    คิตตี้น่ารักออก นายไม่ชอบหรอ?” ไม่มีซะล่ะที่จะเรียกพี่

     

    ก็ไม่ค่อยอ่ะครับ

     

    ว๊าเสียดายจังน้องแบคกอดอกใบหน้าแสดงออกถึงความรู้สึกที่พูดมา

     

    เสียดาย?”

     

    นายจีบฉันอยู่นี่ แต่กลับมาบอกว่าไม่ชอบในสิ่งที่ฉันชอบแบบนี้ก็คะแนนตกแล้วล่ะพูดแล้วเดินจากไปพร้อมรอยยิ้มที่มุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นที่มุมปากไม่ให้อีกคนเห็น

     

    ขอดูหน่อยสิว่าแบคพูดขนาดนี้แล้วพี่ชานจะทำยังไงต่อไป

     

     

     

     

     

         

     

     

     

     

     

     

     

               

     

                ----------------------------------------------------------------------------
    ขอให้สนุกกับการอ่านนะค่าบบบ-w-






    © themy butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×