ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ◤คลังฟิคสั้น 1D ◥

    ลำดับตอนที่ #5 : [Larry] เจ้าเล่ห์ part1

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 57


     

     เจ้าเล่ห์







    PAIRING : Harry x Louis

    Rate : ทั่วไป

     

     

     




    “ลูอิส... อันที่จริงฉันชอบคุณมากนะคะ แต่ฉันว่าเราคงไปกันไม่ได้”

     

     

     

    “ลูอิส ฉันว่ามันคงไม่โอเคถ้าเราจะคบกัน บายนะ ขอบคุณสำหรับวันนี้ค่ะ”

     

     

     

    “เอ่อ ฉัน ฉันต้องไปแล้วล่ะลูอิส เอ่อ บายนะ ถ้ามีโอกาสคงได้คุยกันใหม่”

     

     

     

    “ฉันว่าสำหรับเราเพื่อนคงเหมาะกว่านะลูอิส บายค่ะ”

     

     

    “ไว้..เอ่อ ไว้มีโอกาสเราค่อยคุยกันดีกว่านะ เราคงคบกันไม่ได้”

     

     

    ผมไม่เข้าใจ

     

    ทำไมต้องเป็นผมด้วยที่ได้รับประโยคบ้าๆพวกนี้!

     

    และแน่นอน เมื่อถามถึงเหตุผลว่าทำไมสาวๆสุดฮอตพวกนี้ถึงไม่อยากสานต่อความสัมพันธ์กับผม

     

     

    และคำตอบก็คือ

     

     

    แฮรรี่ สไตล์ส !!!

     

     

     

     

    โอ้....

    ก๊อดดดดดด พระเจ้า! เขาทำอย่างนี้กับผมได้ยังไง

     

    เราเป็นเพื่อนกัน ใช่ เราเป็นเพื่อนร่วมวงกันเลยด้วยซ้ำ

     

    อะไรคือเหตุผลที่ทำให้เขาแย่งคู่เดตของผมทุกคน?

     

    เราสนิทกันมากมาก แทบจะสนิทสุดในวงเลยล่ะ

     

    แต่ทำไมเขาถึงทำกับผมอย่างนี้ในเมื่อเราสนิทกัน?

     

    ในตอนแรกที่ผมรู้สาเหตุ ผมยังไม่พูดเอ่ยถามกับแฮรรี่ เพราะยังไงเขาก็คือเพื่อนสนิท ไม่อยากจะบาดหมางกันเพราะเรื่องผู้หญิง เดี๋ยววงจะมาคุเปล่าๆ ผมเลยทำเป็นไม่รู้เรื่อง

     

    แต่หลังๆมานี่

     

    ผมชักจะไม่ไหวแล้วนะ(โว้ยยยยยยยยยยยยยย)

     

    มันลักลอบเอาผู้หญิงผมไปทุกคน!

     

    นี่มันคือสาเหตุที่แม่โทรมาโวยผมเมื่ออาทิตย์ก่อนว่าทำไมผมถึงไม่มีแฟนสักที

     

    แม่หงุดหงิดใส่ผมมากมากมาก นั่นคือสาเหตุที่เมื่อ5วันก่อน ผมตัดสินใจถามแฮรรี่ไป เคลียร์กัน

    แบบแมนๆไปเลย จะได้รู้กันว่าเขาทำแบบนี้กับเพื่อนรักเขาทำไม?

     

     

    และนั่น

     

    เหตุผลคือ

     

    “เปล๊า ฉันแค่ปิ๊งคู่เดตนาย อยากทำความรู้จัก แค่นั้นเอง”

     

    คำพูดกวนๆ เสียงทุ้มพร่าแต่ติดหยอกนั้นยังติดหูผมอยู่เลย

     

    หน็อยยยยย!เจ้าบ้า เจ้าบ้า พูดอย่างนั้นกับผมได้ยังไง

     

    “พวกนายยังไม่ได้เป็นแฟนกันนี่ ไม่เห็นเป็นไรเลย อย่ามาทำเป็นหวงหน่อยเลยน่าลูอี้”


    เขายักคิ้ว นิ้วเรียวยาวของเขาจับคางผมเชิดขึ้นให้มองนัยน์ตาสีเขียวมรกตของเขา

     

    ดวงตา...ที่ผมเคยชอบที่สุด

     

     

    แต่ตอนนี้ผมเกลียดดวงตาของมัน!

     

    ไม่สิ เกลียดทุกอย่างที่เป็นมันเลยก็ว่าได้

     

    “เอ้อ ก็ดีที่นายรู้แล้วนะลูอี้ ต่อจากนี้ฉันจะได้ไม่ต้องทำแบบแอบๆอีกต่อไป”

     

    เขาขยิบตา..แล้วเดินจากไป   โดยไม่ลืมที่จะส่งยิ้มหวานให้ผม

     

    หวาน..

     

    หวานมาก...

     

    หวานจับใจกูเลยสาสสสสสสสสสสสสส

     

    มัน-เลว-มาก!!!

     

    ผมไม่เคยคิดว่าเพื่อนสนิทผมจะเลวขนาดนี้ อ๊ากกกก นอกจากไม่สำนึกผิดแล้วมันยังจะทำต่อ

    แบบเปิดเผยอีกกก อ๊ากก  ไอ้หยอย แกกกกก ไม่ได้ตายดีแน่ เพราะแกจะได้ตายคามือลูอี้คนนี้

    เนี่ยแหละ
    !!

     

     

     

     

    วันต่อมา

     

     

    หลังจากที่ซ้อมเสร็จ ผมก็รีบไปร้านอาหาร Adam ที่นัดกับคู่เดทสุดสวยอย่างแอนนาเบ็ธไว้ อ๊า เธอ

    เป็นนักแสดงคนดังด้วยใบหน้าหวาน ผมสีบลอนด์ นัยน์ตาสีฟ้าสว่างราวกับน้ำทะเล ทำให้ ผมหลงใหลเธอ

    เพราะฉะนั้น ผมจะต้องรีบไป ไม่ทำให้เธอต้องรอ..

     

     

    ใช้เวลาไม่นานผมก็มาถึงร้านอาหาร

    อ่าฮะ


    บรรยากาศโอเค


    คนน้อยโอเค


    ผมมองไปรอบๆ..


    โนปาปารัซซี่ โอเค


    เสียงเพลงโอเค


    แสงไฟโอเค


    ผมยิ้มกับตัวเอง ความเพอร์เฟ็กต์บังเกิดแล้ว


    ถ้าไม่ได้คบกันก็ไม่รู้จะว่าไงแล้วครับ !


    ผมเดินเข้าไปในร้านอาหารสวยหรู... พนักงานต้อนรับเดินนำผมไปที่โต๊ะอาหารที่จองไว้สำหรับ....3 คน? เห...

    เห้ อะไรนะ


    “เอ่อ ขอโทษนะครับ ผมจองไว้ 2 คนไม่ใช่3 “


    “เราได้รับโทรศัพท์จองโต๊ะจากคุณลูอิส ทอมลินสัน 2 ครั้งครับ ครั้งแรกนั้นคุณจอง 2 ที่นั่งแต่ 30 นาทีต่อมา

    คุณโทรมายืนยันเราอีกครั้ง เปลี่ยนจาก 2 เป็น 3 ครับ”



    คำพูดพนักงานทำให้ผมนิ่ง



    ว้อท?



    อะไรวะ



    เอ๊ะ



    เดี๋ยวนะ..



    30นาทีหลังจากที่ผมโทรมาจองจำได้ว่ายังอยู่ในห้องซ้อม และ และ...



    ใช่ ! ใช่ ! แฮร์รี่ !!!!!



    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แฮร์รี่ยืมโทรศัพท์ผมไปเล่นเกม


    หน็อย ที่แท้มันก็ไม่ได้เล่นเกมสินะ


    หลอกใช้ความใจดีของลูอี้คนนี้จนได้! (หรือความโง่?)


    ผมนับ 1-10 ข่มความโกรธในใจ ก่อนจะหันไปบอกพนักงานอย่างสงบว่า


    “ขอบคุณครับแต่ผมขอเปลี่ยนที่นั่งเป็น 2 ด้วยนะครับ”


    แต่ยังไม่ทันที่พนักงานจะตอบตกลงก็มีมือใหญ่หนาเลื้อยมาโอบรอบคอผมไว้


    “เฮ้ ไม่เอาน่า ลูอี้ จอง3ก็3สิ จะไปรบกวนพนักงานทำไม เนอะ”


    ร่างสูงผมหยิกลอนหันมาจ้องตาผม นัยน์ตาสีสวยอยู่ห่างจากหน้าผมไม่ถึงคืบ..


    ไม่พอ..มือยังลูบหลังผมขึ้นๆลงๆ รอยยิ้มหวานชวนฝันของสาวๆนั่นอยู่ตรงหน้าผม


    เฮ้ เฮ้


    ผมเอามือกดที่หัวใจ


    ทำไมเต้นแรงนักว่ะ ไม่เอาน่า เป็นเพราะโกรธใช่มั้ยเนี่ย       


    พนักงานเดินไปแล้ว ผมหันมาหาแฮร์รี่ที่ยื่นหน้ามาหาผมใกล้ๆอยู่ก่อนแล้ว


    “แฮซ! นายมาที่นี่ทำไม “


    “เอ๊า ก็มากินข้าวไง มาร้านอาหารก็กินข้าวสิครับ”


    ผมจ้องมันตาเขียวปั้ด


    “ฉันหมายถึง ทำไมนายต้องเพิ่มที่นั่ง ไม่รู้หรือไงว่าฉันมาเดทกับแอนนาเบ็ธ!


    “อือฮึ” ร่างสูงอมยิ้ม หัวเราะในลำคอ มือใหญ่ลูบคางไปมา


    “ก็เพราะรู้น่ะสิถึงได้มาน่ะ แอนนาเบ็ธ.... สุดฮอต โอ๊ะ พูดถึงไก่ไก่ก็มา”


    ผมตาโต หันไปทางประตูก่อนจะเจอแอนนาเบ็ธจริงๆ


    โอ้พระเจ้า สวยมาก ชุดเดรสใสฟ้าพร้อมโบว์เล็กๆด้านหลังทำให้เธอดูน่ารักขึ้นเป็นกอง


    ผมไม่รู้ว่าเผลอมองไปนานแค่ไหน รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่แฮร์รี่หันมากระทุ้งศอกใส่ผมแล้วมองผมอย่างไม่สบ

    อารมณ์  คิ้วขมวดเล็กน้อยก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ


    “นี่ เก็บอาการหน่อย ไปรับสาวเข้ามาได้แล้ว”


    ผมพยักหน้าอย่างว่าง่าย แล้วรีบเดินไปหาแอนนาเบ็ธ


    “สวัสดีครับแอนนาเบ็ธ”


    ผมยิ้ม ทันทีที่เธอเห็นผมเธอก็ยิ้ม วางมือนุ่มบนแขนผมที่เตรียมให้เธอจับ


    “สวัสดีค่ะลูอิส”


    “คุณ...สวยจัง”


    “คิก...” เธอยิ้มอย่างน่ารัก สีแดงระเรื่อบนแก้มใสของเธอ “ขอบคุณนะคะ คุณก็หล่อเหมือนกัน”


    เขายิ้มรับก่อนจะเดินไปที่โต๊ะ...เจอตัวปัญหาเข้าอย่างจัง


    แฮร์รี่...

    เจ้าบ้านี่มันยังไม่ไปอีก!


    แฮร์รี่ลุกขึ้นแล้วเอ่ยทักทายแอนนาเบ็ธ


    “สวัสดีครับ” เสียงทุ้ม แหบพร่าของเขาดังขึ้น พร้อมมือหนาที่ยื่นออกมาเพื่อเชคแฮนด์


    “ผมแฮรรี่ สไตลส์ ครับ เพื่อน...รัก...ของลูอิส” ผมขมวดคิ้ว มันจะเน้นคำบางคำทำไมวะ


    “คิกๆ อันที่จริงคุณไม่ต้องแนะนำตัวก็ได้ค่ะ ทั้งโลกมีใครบ้างไม่รู้จักคุณ” เธอยิ้มหวาน ยื่นมือไปจับแล้วเขย่า

    เบาๆ “ฉันแอนนาเบ็ธค่ะ”


    “ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เสียงเซ็กซี่ไม่พอ ... สายตา


    สายตามัน


    อ๊ากกกกกก  มันจะโปรยเสน่ห์ไปถึงไหนกันวะ


    ว่าไม่พอ ขยิบตาอย่างซุกซน ผมเห็นอย่างงี้ก็รีบเลื่อนเก้าอี้ออกมาให้แอนนาเบ็ธนั่ง


    เธอเงยหน้าขึ่นมาขอบคุณ ผมเดินไปนั่งตามตรงข้ามกับเธอ ยิ้มให้แล้วหันไปหาเจ้าตัวปัญหา


    “เอ้า แฮร์รี่ มาส่งฉันแล้วก็กลับไปได้แล้ว”


    ผมยิ้ม แต่นัยน์ตาผมร้อนไปด้วยความโกรธ


    “หืม...” เขาทำหน้าเหยเก มือใหญ่จับที่ท้องตัวเอง “อืม... ไปก็ได้ แต่ว่าหิวจังเลย  เนี่ย ลูอี้ นายก็รู้ว่าฉันไม่ได้

    กินอะไรตั้งแต่เช้า ซ้อมร้องเพลงทั้งเช้าถึงเย็น  โอย หิวจะตายอยู่แล้ว ปวดท้องมว๊าก รู้สึกเหมือนโดนไก่ตัว

    ใหญ่ๆใช้ปากจิกผนังกระเพาะเลย.. โอย ไก่จ๋า..”


    ผมถลึงตาใส่เขา แต่แฮร์รี่ก็ยังไม่เลิกสำออย บีบน้ำตา แอนนาเบ็ธหันมาก่อนพูดด้วยเสียงหวานว่า


    “เอ่อ ถ้าหากไม่รังเกียจล่ะก็... อยู่ร่วมทานอาหารกันก่อนก็ได้นะคะ”


    ทันทีที่แอนนาเบ็ธพูดจบ แฮร์รี่ก็หันมามองผม สายตาเยาะเย้ย ยิ้มที่มุมปาก


    สาบานว่าผมได้ยินคำว่า เยส! เบาๆออกจากปากมัน


    มันหัวเราะในลำคอ ก่อนจะทำหน้าเหยเกหันไปบอกแอนนาเบ็ธอีกครั้ง


     

    “ขอบคุณครับแอนนาเบ็ธ แต่..”


    “เรียกแอนน์เถอะค่ะ”


    อะไรนะ?


    ชื่อเล่นงั้นเหรอ


    ขนาดผมที่คุยกับเธอมาหลายครั้งในไลน์เธอยังไม่พูดเลย


    ให้ตาย...


    “ครับแอนน์” รอยยิ้มสวยยังไม่หายไปจากหน้ามัน “ผมคงนั่งด้วยไม่ได้ ลูอิสคงไม่ค่อยอยากให้ผมร่วมโต๊ะเท่า

    ไหร่”


    ใช่ ใช่ นั่นแหละ...


    แฮร์รี่หันมาหาผม แอนนาเบ็ธเช่นกัน


    สายตาจากทั้งสองทำเอาผมกุมขมับ


    ฝ่ายหญิงเป็นสายตาวิงวอนแกมขอร้อง


    ฝ่ายชายเป็นสายตาเยาะเย้ยแฝงไปด้วยรอยยิ้ม


    ถ้าผมปฏิเสธก็คงกลายเป็นคนเลวจิตใจดำในสายตาเธอสินะ


    เฮ้อ ! เจ้าแสบแฮร์รี่!


    “นั่งสิแฮร์รี่”


    “เย้ส!ขอบคุณนะลู!


    แฮร์รี่ยิ้มแก้มปริ ลักยิ้มน่ารักผุดขึ้นที่แก้มทั้งสองข้างของเขา มือเขย่าแขนผมอย่างดีใจ ก่อนจะนั่งลงที่หัวโต๊ะ


    ผมรู้ว่ามันจงใจแกล้งผม...อย่างมาก


    แต่ไม่รู้สิ


    เห็นรอยยิ้มนี้ทีไรก็อดยิ้มตามไม่ได้ทุกที...


     


     

    “แอนนาเบ็ธ ทานนี่นะครั....”


    “แอนน์ครับ อ่ะกุ้ง อร่อยมาก คุณย่าผมเคยมาทานที่นี่ ท่านติดใจมากจนต้องให้ผมพามาบ่อยๆเลยครับ”


    ผมหันไปสบตากับนัยน์ตาเขียวมรกต ส่งสายตาไม่พอใจให้เขา


    ทำไมต้องแย่งด้วย ฉันกำลังจะตักอาหารให้แอนนาเบ็ธนายก็รู้


    เขาขมวดคิ้ว ก่อนจะส่งสายตากลับมา


    ก็นายมันช้าเองนี่ ของอย่างนี้ใครดีใครได้โว้ย


    เราคุยกันทางสายตา และนั่นทำให้ผมกำช้อนแน่น มือที่ตักอาหารค้างอยู่กลางอากาศ


    แอนนาเบ็ธเอ่ยขอบคุณก่อนจะมองช้อนผมอย่างหนักใจ


    “โอ้ว ลูอี้ นายนี่น่ารักจริงๆนะตักให้ฉันด้วย ขอบคุณนะ”


    แฮร์รี่ยิ้มหวานก่อนจะยื่นหน้าสวยๆนั่นมารับกุ้งในช้อนผมไป


    ด้วยปาก


    “อ้ามมมม”


    ว้อท?


    ผมยังถือค้างอยู่อย่างนั้น ส่งสายตาไม่พอใจให้แรงๆ


    แต่ร่างสูงไม่สนใจ ยิ้มหวานจนเผยลักยิ้มให้เห็น ก่อนจะจับมือผมแล้วป้อนกุ้งตัวน้อยเข้าปาก


    “ขอบคุณนะ ใจดีจัง” เคี้ยวตุ้ยๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความสุข


    ผมรีบวางช้อนแล้วเอามือเช็ดๆเสื้อ


    คงจะมีความสุขมากเลยนะไอ้หยอย!


    มือใหญ่บีบจมูกผมเบาๆด้วยความหมั่นเขี้ยว ก่อนจะยิ้มแล้วเคี้ยวตุ้ยๆไม่สนใจ


    ว้อท?


     

     

     

    “แอนนาเบ็ธน้ำมะ...”


    “น้ำส้มหวานๆครับ สำหรับคนสวยอย่างคุณ”

     


     


     


     


    “แอนนาเบ็ธไก่...”


    “หมูลมควันครับแอนน์ คุกรุ่นกำลังดี  กลิ่นงี้หอมหวน เชิญคุณก่อนครับ”


     


     

     

     

    “แอนนาเบ็ธ คุณอยากทานผลไ...”


    “เดาว่าคุณต้องชอบองุ่นแน่นอน .. นี่ครับ”

     

     

     

     

     

    “แอนนาเบ็ธน้ำคุณหมด ผมจะเติ...”


    “ผมรินน้ำให้นะครับ”

     

     

     

    “แอนนาเบ็ธคุณ...”


    “ทานไอศกรีมกันครับแอนน์”

     

     

     

     

    ปึด!


    ผมรู้สึกเหมือนเส้นประสาทของผมเส้นสุดท้ายขาดผึงลงไปตรงหน้า


    แฮ....ร์....รี่


    ผมกัดฟันกรอด มองภาพตรงหน้าแล้วโมโหนัก


    ดี สองคนข้างหน้ากำลังตักไอศกรีมป้อนกันอย่างน่ารัก


    แอนนาเบ็ธลืมคนที่นัดเธอมาอย่างผมไว้ข้างหลัง


     


    เธอทำได้ไงกัน..


     


    ใจร้าย


     


    ทั้งคู่เลย


     


    “ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”


    ผมลุกขึ้นจากโต๊ะโดยไม่มองหน้าพวกเขาทั้งสอง


    ผมล้างหน้าให้หายโมโห แอนนาเบ็ธไม่ควรเห็นผมโกรธ  ไม่ได้ ผมโกรธแล้วไม่หล่อ


    “เอ่อ”เสียงหวานดังใกล้ๆผม ผมหันไปมองก็พบแอนนาเบ็ธยืนอยู่หน้าห้องน้ำชาย


    “ฉันรู้ว่ามันไม่สมควร.... คุณ... อันที่จริงคุณเป็นคนนัดฉันมา และ คุณน่ารักมากค่ะลูอิส”


    “ครับ ขอบคุณครับ” ผมยิ้มรับ แต่ไม่ค่อยรู้สึกดีเท่าไหร่เมื่อได้ยินประโยคต่อมา


    “แต่...แฮร์รี่”


    “ครับ?”


    “ฉันรู้ว่ามันไม่ดี อันที่จริงมันแย่มากซะด้วยซ้ำ แต่ว่า..”


    “...”


    “ฉันขอไลน์แฮร์รี่ กับ เบอร์เขาหน่อยได้มั้ยคะ”


    โอ้..


    พระเจ้า...


     


    บอกลูกทีว่าลูอิสคนนี้ทำผิดอะไรกัน!!!


     


     


     


    แฮร์รี่ ! ไอ้!!  ปี !!!  ศาจ!!!!

     

     

     

     

     



    หลังจากวันนั้น ผมยังคงพยายามต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ

     

    และแม่ก็ยังโทรมาบ่นผมทุกวันอย่างไม่ย่อท้อ....

     

    แถมแฮร์รี่ก็ยังก่อกวนผมอย่างไม่ย่อท้อเช่นกัน !

     

    ผมไม่เข้าใจว่ามันไม่มีปัญญาหาแฟนเองหรือไง?

     

    หน้าตามันก็ดีออกขนาดนั้น แค่เอ่ยปากพูด ผู้หญิงทุกคนก็แทบจะยอมสยบลงกับเท้ามัน

     

    หรือรสนิยมผมดีมาก มันถึงจ้องจะแย่งผมคนเดียว?

     

    ไม่แย่งเลียม ไนออล เซนบ้างวะ?

     

    มันแย่งผม ทุกคู่เดทเลย ... แย่งแบบ... ทุเรศ

     

    ยกตัวอย่างเช่น

     

    พอลล่า

    เรานัดกันไปสวนสนุก.. พอลล่าเป็นคนเสนอ เธอเป็นคนรักการเล่น รักสวนสนุก


    ของอย่างแรกที่เราเล่นคือบ้านผีสิง


    อันที่จริง... ผมกลัวผี


    ให้ตาย แต่ผมต้องทำแอ็คไม่กลัวแล้วเดินเข้ามาอย่างแมนๆ


     


     


    ฮะ


     


    เฮ้ยยย


     

    เฮ้ย ! นั่นมันผีอะไรวะ อ๊ากกกก หน้าเน่าๆของมันพุ่งเข้ามาหาผมอย่างรวดเร็ว


    ขณะที่ผมกำลังตกใจตาค้าง ก็มีมือใหญ่เอื้อมมาคว้าเอวของผมมาไว้ด้วยความเร็ว โอบผมไว้แนบอกแล้วก้ม

    หน้าลงมากระซิบด้วยเสียงแหบพร่า..


    “ไม่เป็นไรนะ”


    ผมส่ายหน้า เอื้อมแขนไปกอดร่างสูงตรงหน้าที่โอบกอดผมด้วยความอบอุ่น ผมซบหน้าลงกับอกแกร่งนั่น


     

    เจ้าผีบ้าจะไปยังนะ

     

    ผมส่ายหน้าแรงๆลบภาพผีนั่นเมื่อกี้ก่อนจะมุดหน้าลงกับอ้อมอกของ...

     

    ฮึ? ฮะ?

     

    ผมเงยหน้าอย่างตกใจ มองใบหน้าคุ้นตาข้างหน้าแล้วต้องกัดฟันกรอด ดันตัวเองออกจากอ้อมอกอุ่นนั่น

    อย่างรวดเร็ว


    “แฮร์รี่!


    หลังจากนั้น เรา 3 คนก็ไปเล่นเครื่องเล่นอื่นกันต่ออย่างสบายใจ (ประชด)


    ใช่ ... 3 คน


     


     


     


    มาริศา


    อ่า..

    เธอเป็นนางแบบไทยที่โคตรฮอตเลย ผมดีใจมากที่ผมนัดเธอมาได้ เธอต้องการจะซื้อต้นไม้ไปประดับบ้าน

    และผมก็รับคำว่าจะพาเธอไป ต่อด้วยทานข้าว แม้ว่าผมจะไม่ถนัดเรื่องต้นไม้นัก ต้องแฮร์รี่สิ...เจ้าพ่อพืชพันธุ์


    แต่คิดได้ดังนั้นผมก็รีบตบปากตัวเองแทบไม่ทัน


    และไม่ทันจริงๆ ให้ตาย! ร่างสูงเดินออกมาจากรถคันสวย ขายาวก้าวเดินตรงมาทางเรา


    ให้-ตาย-เถอะ-ฟัค!!!!

     

     


    “ต้นไม้นี้น่ารักนะครับมาริ เข้ากับคุณเลย” ผมเอ่ยขึ้นยิ้มๆก่อนจะชี้ไปที่ต้นๆหนึ่ง เห็นสีมันแดงสวยดี สวย

    เหมือนมาริศาเลย


    “เอ่อ..ต้นนี้” มาริพูดตะกุกตะกักก่อนเสียงทุ้มจะเอ่ยขึ้น


    “หน้าวัว   ไว้ใช้ในงานศพ”


    “หา?” ผมช็อค หน้าขึ้นสี


    เอ่ยขอโทษมาริแทบไม่ทัน


    หลังจากนั้น


    ผมก็ไม่เอ่ยอะไรอีก


    ให้ตาย! ใครจะไปรู้วะว่ามันไว้ใช้ในงานศพ


    เห็นสีแม่งสวยๆ ทำไมไม่เลือกใช้ในงานแต่งวะ ไม่เข้าใจ ใครแม่งคิดวะ



    ผมไม่กล้าพูดอะไรออกไปอีก เกิดแม่งซวยไปเลือกต้นความโชคร้าย ต้นแห่งความตาย ต้นอกหัก ต้นช้ำรัก ต้น


    ห่าต้นเหวอะไรที่ไม่ดีแล้วบรรยากาศจะกร่อยเปล่าๆ


     


    และนั่นเป็นไอเดียที่ดี

     

    การที่ผมไม่พูดอะไรทำให้บรรยากาศมันดีสุดๆไปเลย

     

    พวกเขาสองคนเลือกต้นไม้กันต่อไปอย่างมีความสุข

     

    อ่าหะ สองคน

     

    ลืมผมไว้ข้างหลัง

     

    ตามเคย




    เยี่ยม!!!











    -------------------------------------------------------------

    พาร์ต 1 จบไปแย้ว-..- เป็นไงบ้างคะสาวกแลร์รี่

    ลูอิสน่ารักมั้ย 55555555 แต่ไรต์ปลื้มแฮร์รี่ค่ะ

    นางขี้หวงงงง ก๊ากกกกกกกก

    ไปต่อพาร์ต 2 กันเตอะ

    อ่านแล้วรู้สึกยังไงเม้นบ้างน้า

    เค้าอยากกลับมาอ่านเม้น>_< ♥

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×