ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (HunTae) Devil Guy เกมรักอันตรายของเจ้าชายปีศาจ

    ลำดับตอนที่ #5 : Devil Guy :: He is student (HunTae) EP 4 60%

    • อัปเดตล่าสุด 15 มี.ค. 57


    CRY .q
     Devil Guy :: EP 4

    He is student





            หลังจากวันนั้นฉันกับยัยทิฟฟานี่ก็ไม่ค่อยได้คุยกัน อาจจะเป็นเพราะฉันไม่กล้าเข้าไปคุยกับมันเหมือนเดิม เพราะกลัว กลัวว่าทิฟฟานี่จะคิดกับฉันมากกว่าเพื่อน ตอนนอนด้วยกันฟานี่ชอบให้กอดฉัน ฟานี่ชอบเข้ามาใกล้ๆฉันทุกที แต่ก่อนฉันก็เคยคิดว่ามันคงอยากใกล้ชิดกับฉันในรูปแบบเพื่อนหรือเพื่อนสนิทก็แค่นั้น พอนานๆเข้าฉันก็เลยเคยชิน ไม่เคยคิดระแวงอะไรเลยจนกระทั่งยัยยูริทักเมื่อวานก่อน ฉันถึงเริ่มรู้สีกว่าสิ่งที่ฟานี่ทำกับฉันนั้นมันเกินคำว่าเพื่อนมาแล้ว แต่ฉันก็ไม่ได้ชอบฟานี่ในแบบคนรักนี่
     
            ฉันขยับตัวเล็กน้อยแล้วสะบัดความคิดบ้าๆในหัว เป็นไปไม่ได้ ยังไงๆทิฟฟานี่ก็คิดกับเราแค่เพื่อน แค่เพื่อนเท่านั้น ฉันขยี้ผมเล็กน้อยด้วยความหงุดหงิดใจ เวลามีเรื่องให้คิดจนปวดหัวทีไรเป็นอย่างงี้ทุกทีสิน่า ให้ตายเหอะ
     
         "Shit!" ฉันสบถออกมาอย่างหงุดหงิด
     
         "แท แทเป็นอะไรหรือป่าวคะ?" ซอฮยอนถามฉันพร้อมปิดหนังสือที่กำลังอ่านอยู่ แล้วหันมาสนใจฉันแทน คงเป็นเพราะได้ยินเสียงสบถของฉันเมื่อกี้ นี่ฉันรบกวนเวลาอ่านหนังสืออันแสนจะมีค่าของยัยซอมันสินะ
     
         "นั่นสิ แทแกเป็นอะไรหรือป่าว หงุดหงิดเรื่องอะไรมา หรือว่าไม่สบาย?" ทิฟฟานี่ที่เข้ามาในห้องนอนเมื่อไรก็ไม่รู้พูดขึ้นมา พร้อมเดินมาใกล้ๆฉัน ก่อนจะเอามือเรียวบางแนบทับหน้าผากฉันเบาๆ
     
         "เห้ย ทำอะไรเนี่ย!" ฉันตะคอกพร้อมปัดมือเรียวบางทันที  ทิฟฟานี่มีอาการมึนงงเล็กน้อยเหมือนจะสงสัยว่าตนทำอะไรผิด ก่อนจะค่อยๆก้มหน้า แล้วเบะปากเหมือนเด็ก ถ้าอาการแบบนี้ยูริเป็นคนทำฉันจะไม่รู้สึกอะไรเลย แต่อาการแบบนี้ทิฟฟานี่กับเป็นคนทำแทนน่ะสิ ฉันถึงรู้สึกผิดขั้นรุนแรงนี่ฉันคงแสดงปฏิกิริยาแย่ๆออกไปสินะ ฉันรู้สึกได้เลยว่าตัวเองทำลายความรู้สึกเพื่อนลงไปแล้ว
     
         "ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจว่ะ ฉันก็แค่ไม่ชอบให้คนมาโดนตัวอะ มันตกใจ" ฉันพูดกับยัยทิฟฟานี่เบาๆอย่างสำนึกผิด
     
         "ทำไม? ทำไมแกถึงเป็นแบบนี้ ฉันไม่เข้าใจ แต่ก่อนฉันโดนตัวแก แกก็ไม่ได้ว่าอะไร หรือแกรังเกียจฉันเพราะเรื่องวันนั้นใช่มั้ย" ทิฟฟานี่พูดด้วยน้ำเสียงเศร้านิดๆ เวรเอ้ย นี่ฉันทำบ้าอะไรลงไปเนี่ย ยัยทิฟฟานี่จะร้องไห้อยู่แล้ว ทั้งๆที่ปกติมันใบหน้าของฟานี่ไม่เคยเปื้อนหยดน้ำตาเลยด้วยซ้ำ ใบหน้าหวานๆของยัยฟานี่ไม่เหมาะกับรอยน้ำตาซักนิด มันควรจะมีแต่รอยยิ้มมากกว่า
     
         "เฮ้ย ไม่ใช่ๆ คือฉันขอโทษ ฉันแค่กำลังคิดอะไรเครียดๆอยู่ พอแกแตะตัวฉัน ฉันเลยตกใจก็แค่นั้น ฉันไม่ได้รังเกียจอะไรแกหรอก อย่าร้องไห้นะ น้ำตามันไม่เหมาะกับแกเลยรู้ไหม" ฉันพูดเบาๆ ก่อนจะใช้นิ้วเช็ดน้ำตาให้ยัยทิฟฟานี่ โดยลืมไปว่ายัยซอก็นั่งอยู่ในห้องนี้
     
            แต่ยัยซอกับไม่สนใจอะไร ยัยซอยังคงนั่งอ่านหนังสือตามปกติอย่างที่มันเป็น ยัยนี่มันเคยสนใจสิ่งรอบข้างมั้ยเนี่ย แต่ก็อย่างว่าแหละนะ วันๆคนอย่างซอฮยอนจะทำอะไรนอกจากอ่านหนังสือ ไม่ก็นั่งอ่านบทความวิจัยต่างๆทางเนต
     
         "ฉันไม่เป็นไรซะหน่อย" ทิฟฟานี่พูดพลางปาดน้ำตา โกหก โกหกชัดๆ ปากบอกไม่เป็นไรแต่ร้องไห้นี่นะ หึ คนอย่างทิฟฟานี่ก็เป็นอย่างนี้ทุกทีสิ ฟอร์มจัด
     
         "แน่ใจ? น้ำตาไหลอย่างกับน้ำป่าไหลหลากแต่กับพูดว่าไม่เป็นไร" ฉันพูดพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย
     
         "ฉันเป็นไรจริงๆ เลิกทำตัวเหมือนฉันเป็นเด็กสักทีสินา" ทิฟฟานี่พูดพลางฉีกยิ้ม หยีตาให้ฉัน

       Rrrrrr

            เสียงโทรศัพท์ของทิฟฟานี่ดังขึ้น มือเรียวบางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดรับสาย

         "ฮัลโหล อ่าห้ะ ใช่ๆฉันเอง ที่ไหนนะ? โอเคๆเดี๋ยวรีบไปหา" ทิฟฟานี่พูดจบก็วางสายแล้วลุกขึ้นจากเตียงทันทีโดยไม่บอกฉันสักคำว่าใครโทรมา

     
       พริ่บ!
     
         "ทิฟฟานี่ แกจะไปไหน?" ฉันเรียกทิฟฟานี่แล้วถามออกไปอย่างสงสัยหลังจากทิฟฟานี่ลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินตรงไปที่ประตูห้อง
     
         "ฉันจะไปหายุนน่ะ เมื่อกี้ยุนโทรมาให้ไปหาที่คลับอะ เห็นว่ามีเรื่องอะไรให้ช่วยนี่แหละ"
     
         "อืม" ฉันตอบกลับสั้นๆ  ทิฟฟานี่ยิ้มให้ฉันเล็กน้อยเหมือนปกติ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปทิ้งให้ฉันนอนเล่นๆอยู่เพียงลำพัง กับยัยซอฮยอนที่มัวแต่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ แต่ก็นะมียัยซออยู่ในห้องก็เหมือนไม่มีนั่นแหละ
     
         "แทยอนคะ มีรุ่นน้องที่มหาลัยเขามาติดต่อขอเรียนพิเศษส่วนตัวกับแทอะค่ะ แทจะสอนมั้ยคะ?" ซอฮยอนถามขึ้นหลังจากทิฟฟานี่ออกจากห้องไปได้ไม่นาน
     
     
         "ไม่อะ ช่วงนี้ฉันขี้เกียจ" ฉันตอบสั้นๆ ก็คนมันขี้เกียจนี่ทำไงได้
     
         "แต่ว่าเขาจ้างแพงมากเลยนะคะ แค่ไปสอนรุ่นน้องคนนั้นแบบตัวต่อตัว 2 ชั่วโมงต่อวันเองนะคะ อาทิตย์ละ2วันเองด้วย เค้าจ้าง2เดือนเองนะคะ แทจะไม่สอนจริงๆหรอ" ซอฮยอนพยายามเกลี้ยกล่อมให้ฉันสนใจ ซึ่งมันก็ไม่ได้ผลกับฉัน
     
         "ซอฉันก็บอกแกแล้วไงว่าไม่ไป ตามตื้อฉันอยู่ได้ เหอะ ต่อให้แพงเป็นหลักพันฉันก็ไม่สอน" ฉันตอบไปด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กๆ ซอฮยอนนี่เห็นฉันเป็นคนยังไงกันนะคนอย่างคิม แทยอนเงินซื้อไม่ได้หรอก
     
         "งั้นแทฟังราคาที่เค้าเสนอมาก่อนนะคะเผื่อแทจะเปลี่ยนใจ" ซอฮยอนยังคงตื้อให้ฉันไปสอนต่อ ฉันฟังให้ผ่านๆหู เพราะอยากรู้ว่าแพงมากของยัยซอนี่มันจะสักกี่บาทกันเชียว
     
         "เขาจ้างแทชั่วโมงละหมื่นค่ะ"
     
         "แค่หนึ่งหมื่นต่อชั่วโมงเอง ห๊าาาา..." ฉันตาลุกวาวทันทีเมื่อคิดได้ว่าเงินนั้นมีจำนวนมากอยู่ทีเดียว
     
         "เขาให้ตั้งหนึ่งหมื่นบาทต่อชั่วโมงแท้ๆ แต่ยังไงๆแทก็ไม่สอนอยู่แล้วนี่คะ ถือว่าซอไม่ได้พูดก็แล้วกันนะคะ งั้นเดี๋ยวซอโทรไปปฏิเสธเขาก่อนนะคะ"ยัยซอพูดพร้อมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากด
     
         "เดี๋ยวก่อน ฉันยังไม่ได้บอกว่าจะไม่รับสอน" ฉันพูดพลางฉีกยิ้ม ขอคำนวนก่อนนะ ชั่วโมงละหมื่น วันละ2ชั่วโมง วันนึงก็สองหมื่น อาทิตย์ละ 2 ครั้ง ก็4หมื่น เป็นระยะเวลา2เดือน ก็สามแสนสองหมื่นบาท เงินเยอะขนาดนี้ใครปฏิเสธก็บ้าแล้ว
     
         "ไหนแทบอกว่าต่อให้แพงเท่าไรก็ไม่สอนไงคะ?"ยัยซอถามฉันอย่างจ้องจับผิด
     
         "ฉันเคยพูดหรอ ฉันจำได้ว่าฉันพูดว่าต่อให้แพงเป็นหลักพันฉันก็ไม่สอนและนี่มันไม่ใช่หลักพัน แต่เป็นหลักหมื่นหลักแสนดังนั้นฉันตกลงสอน" ฉันพูดพลางฉีกยิ้ม เห็นมั้ยคนอย่างคิมแทยอนไม่เคยผิดคำพูด ไอ้ประโยคที่ว่าคนอย่างคิม แทยอนเงินซื้อไม่ได้มันก็จริง แต่มันมีต่อหลังนิดหน่อยนะประโยคเต็มๆมันคือ 'คนอย่างคิม แทยอน เงินซื้อไม่ได้ถ้าไม่มากพอ' นั่นแปลว่าถ้ามากพอก็ซื้อได้
     
         "สรุปแทจะสอนแน่ๆนะคะ" ซอฮยอนถามฉันเพื่อความแน่ใจ
     
         "บอกว่าสอนก็สอนสิ" ฉันตอบอย่างหงุดหงิดนิดๆ เฮ้อ นี่ฉันพูดขนาดนี้จะไม่สอนมั้งคุณซอจูฮยอน
     
         "อ่านรายละเอียดรุ่นน้องคนนั้นก่อนมั้ยคะ ว่าเขาเป็นใคร อะไรยังไง เกรดเฉลี่ยสมัยมัธยมเท่าไร?"ยัยซอถามฉันพร้อมทำท่าจะหยิบใบข้อมูลของรุ่นน้องคนนั้นมาให้ นี่ยัยซอคิดว่าฉันอยากรู้เรื่องของรุ่นน้องคนนั้นมากงั้นหรอ ฉันตกลงสอนเพราะเงินหรอกย่ะ
     
         "ไม่ต้อง ฉันไม่อยากรู้ชีวประวัติรุ่นน้องคนนั้น ฉันอยากได้เงินไปช็อปก็แค่นั้น แกรีบโทรไปคอนเฟิรมเถอะ เดี๋ยวเขาเปลี่ยนใจ ฉันอดได้ตังไปใช้เล่น ฉันจะโกธรแกจริงๆด้วย"ฉันพูดออกไปอย่างที่ใจคิด ก็อะนะอยู่กับยัยพวกนี้ฉันไม่จำเป็นต้อง'แอ๊บ'เหมือนที่ทำกับคนอื่นๆ
     
         "ค่ะๆ เดี๋ยวซอจะรีบโทรให้เลยค่ะ" ยัยซอพูดขึ้น หลังจากเห็นว่าฉันเริ่มจะอารมณ์ไม่ดีแล้วยัยซอก็กดโทรศัพท์ทันที
     
         "ฮัลโหลค่ะ ฉันซอจูฮยอนนะคะ คือเรื่องที่จะให้คิม แทยอน ไปสอนน้องเซฮุนน่ะค่ะ แทยอนเขาตอบตกลงนะคะ ค่ะขอบคุณมากค่ะ" ยัยซอคุยโทรศัพท์กับผู้ปกครองรุ่นน้องที่มาติดต่อก่อนจะวางสายไป เอ๊ะ เหมือนประสาทหูของฉันจะได้ยินชื่อคุ้นๆ
     
         "ซอๆ รุ่นน้องที่ฉันจะไปสอนนี่ชื่ออะไรนะ" ฉันถามออกไปด้วยลางสังหรณ์ที่ไม่ดีสักเท่าไร
     
         "อ๋อ รุ่นน้องเซฮุนไงคะ ก็น้องรหัสแทนั่นแหละ" ซอฮยอนตอบมาด้วยหน้านิ่งๆ เดี๋ยวนะ น้องรหัส น้องรหัสงั้นหรอ งั้นรุ่นน้องที่ฉันต้องไปสอนแบบตัวต่อตัว ก็คือไอ้เด็กหัวสายไหมนั่นน่ะสิ เวรเอ้ย อะไรจะซวยขนาดนี้ ใครก็ได้บอกทีว่าฉันฝันไป
     
         "ไม่จริงใช่มั้ย? TT"
     
         "จริงแท้แน่นอนค่ะ^^" ซอฮยอนพูดพร้อมยิ้มให้ฉัน ปกติแล้วถ้ายัยซอยิ้มได้ฉันคงจะดีใจมากเหมือนเกิดปาฎิหารย์ปรากฏการณ์ทุกๆพันปี(เพราะวันๆมันเอาแต่ทำหน้านิ่ง)แต่วันนี้ ตอนนี้ ณ เวลานี้ ฉันพูดตรงๆ ฉันดีใจไม่ลง ขอเวลานอกในการร้องไห้แปป
     
            ฉันก็นะ ลืมคิดไปว่าคนอะไรจะรวยขนาดจ้างรุ่นพี่มาติวชั่วโมงละหมื่น คนประเภทนั้นก็ต้องรวยมากๆ ถ้าจะรวยขนาดนั้นก็คงจ้างอาจารย์มหาลัยไปติวตัวต่อตัวไม่ดีกว่าหรอ นอกซะจากจะเป็นคนรวยที่ต้องการแก้แค้นฉันอย่างไอ้น้องรหัสตัวดีนี่ไง โง่จริงๆเลยฉัน
     
         "ยกเลิกได้มั้ย?" ฉันถามด้วยความหวังอันน้อยนิด ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าเปอร์เซนความเป็นไปได้มีไม่ถึง1%ด้วยซ้ำ
     
         "ไม่ได้ค่ะ^^" ซอฮยอนตอบฉันพร้อมยิ้มต่อ ฉันล่ะสงสัยจริงๆว่าทำไมมันถึงดูมีความสุขขนาดนี้ มันได้ผลประโยชน์อะไรจากการที่ฉันรับสอนไอ้เด็กหัวสายรุ้งร้อยแปดสิบสี(ฉายาใหม่)นั่นแน่ๆ
     
         "ยัยซอทำไมแกถึงยิ้มไม่หุบแบบนี้ แกมีส่วนได้ส่วนเสียอะไรหรือเปล่า บอกฉันมาเลยนะ" ฉันจ้องจับผิดคนตรงหน้า
     
         "เปล่าค่ะ ซอไม่ได้รับเงินสักบาท ซอได้แค่ทุนไปเรียนภาษาที่จีนในช่วงซัมเมอร์นี้เฉยๆ^0^" ซอฮยอนตอบพร้อมยิ้มหวาต
     
            นั่นไง ชัดเลย ฉันว่าและว่ามันต้องได้อะไรแน่ๆ ไม่งั้นคนอย่างซอจูฮยอนคงไม่มีวันลงทุนหว่านล้อมต่างๆนาๆสารพัดวิธี ตื้อแล้วตื้ออีกทั้งที่ปกติมันไม่ค่อยจะเอ่ยปากพูดด้วยซ้ำ แล้วสุดท้ายฉันก็หลงกลมัน เพราะยัยซอเอาเงินมาล่อฉันจนฉันตอบตกลง
     
         "ซอ แกเอาชีวิตเพื่อนรักของแกไปเสี่ยงถูกเด็กนั่นฆาตกรรมเพราะทุนการศึกษานี่นะ แกมันใจร้ายจริงๆ"
     
         "ซอก็ไม่ได้บังคับอะไรแทนี่คะ ซอถามแทด้วยซ้ำว่าแทจะตกลงหรือเปล่า แทก็ตกลงเองด้วย เพราะฉะนั้นซอก็ไม่ผิดถูกมั้ยคะ" ซอฮยอนพูดพร้อมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เห็นยัยซอมันดูนิ่งๆเรียบร้อย ไม่พูดคำหยาบ แถมพูดจามีหางเสียงทุกคำแบบนี้ อย่าไปหลงว่ามันนิสัยดีล่ะ ความจริงมันไม่ใช่เลย ยัยซอมันร้ายกว่าที่คิดเยอะ ร้ายเงียบซะด้วย ก็อย่างว่าแหละ คนเรามักชอบมองคนที่เปลือกนอก คนยังซอฮยอนน่ะหน้าใสๆแบบนี้ใครๆก็มักจะคิดว่ามันไร้เดียงสาแต่ความจริงมันน่ะร้ายเดียงสาต่างหากล่ะ
     
         "แล้วทำไมแกไม่บอกฉันก่อนว่าไอ้รุ่นน้องคนนั้นมันคือน้องรหัสฉัน" ฉันถามพร้อมใช้สายตามองยัยซออย่างประทุษร้าย
     
         "ซอว่าซอบอกให้แทอ่านรายละเอียดรุ่นน้องเซฮุนแล้วนะคะ แต่แทก็บอกว่าไม่ต้องเองไม่ใช่หรอคะ"ซอฮยอนเถียงออกมา ซึ่งฉันก็ไม่สามารถปฏิเสธอะไรได้เพราะที่ยัยซอพูดมามันคือเรื่องจริงล้วนๆ แล้วไอ้คำว่ารุ่นน้องเซฮุนนี่มันฟังแล้วแปลกๆชอบกล
     
         "สรุปนี่ฉันผิดใช่มั้ย" ฉันถามพลางเบะปากเล็กน้อยอย่างไม่พอใจ
     
         "ใช่ค่ะ^^" ซอฮยอนตอบคำถามฉันพลางยิ้ม  เออยิ้มเข้าไป เห็นเพื่อนเสียใจนี่มันมีความสุขมากเรอะ
     
         "ชิส์" ฉันเอ่ยเสียงเชิงงอนใส่ยัยซอเบาๆ แล้วลุกขึ้นยืนก่อนเดินตรงไปยังประตู เดี๋ยวยัยซอก็ต้องง้อฉันคอยดูสิ 4 3 2 1
     
         "เดี๋ยวค่ะ" เสียงของยัยซอดังขึ้น ทำให้รอยยิ้มมุมปากฉันปรากฏขึ้นอีกครั้ง ฉันหุบยิ้มก่อนจะหันไปตีหน้าเศร้าใส่ยัยซอ
     
         "มีอะไรหรอ ._. ?" ฉันถามด้วยน้ำเสียงแผ่วๆ พร้อมก้มหน้า หึ ยัยซอเอ้ยแกหลงกลฉันแล้วล่ะ... แต่แล้วความคิดเลวๆของฉันก็เลือนหายไปเมื่อได้ยินประโยคที่ออกจากปากคนตรงหน้า
     
         "ซอแค่จะบอกว่าเริ่มสอนน้องเซฮุนพรุ่งนี้นะคะ^*^" ยัยซอพูดพลางฉีกยิ้มหวานก่อนจะเปิดหนังสือเล่มโปรดในมือแล้วก้มหน้าก้มตาอ่านโดยไม่ได้สนใจฉันซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าสักนิดเดียว
     
            เหอะ ฉันนี่น่าแตกมากเลยนะ ยัยซอนะยัยซอคนเขาอุส่าต์แสดงละครให้ดูดันรู้ทันอีก เชอะ แล้วทำไมช่วงนี้ฉันทำแต่อะไรโง่ๆวะ สงสัยไม่ได้ดื่มแบรนด์ซุปไก่สกัด สมองเลยไม่ปลอดโปร่ง ดื่มแบรนซุปไก่สกัดสิคะ ผลการวิจัยบอกว่าเด็กที่ดื่มซุปไก่สกัดมากกว่า 7 วันสมองจะมีการตื่นตัวมากกว่าเด็กที่ไม่ดื่มถึง3เท่า ถถถ ไม่ใช่โฆษณาแบรนซุปไก่สกัดครัส
     
            ฉันเดินทึ้งหัวอย่างหัวเสียออกมาจากห้องนอน นี่ฉันต้องไปสอนไอ้เด็กหัวสายไหมนั่นจริงๆสินะ ใครจะซวยเท่า'คิม แทยอน'คนนี้บ้าง นี่ชาติที่แล้วฉันกับไอ้เด็กหัวสายไหมนั่นคงทำกรรมร่วมกันมาสินะ ถึงได้จองเวรจองกรรมกันไม่ละไม่เลิกขนาดนี้ กัดไม่ปล่อยจริงๆสินะ ทำไมฉันถึงได้โชคดีอย่างนี้ (กูประชดครัส)
     
            แต่ก็ดีในเมื่อนายเล่นกัดกันไม่ปล่อยขนาดนี้ ฉันก็อยากรู้ว่าฉันกับนายใครมันแน่กว่ากัน โอเซฮุน...



     

    สวัสดีฮับ คุยกับไรท์หน่อยนะคะ ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเมนต์นะคะ
    ไรท์มีความสุขมากๆเลย มีกำลังใจสุดๆ สารภาพตามตรงนะคะ
    ตอนแรกไรท์ก็ขี้เกียจแต่งต่อแต่พอได้อ่านคอมเมนต์ ไรท์ก็มีกำลังใจหึกเหิมเลย 555
    ขอบคุนจริงๆนะคะ
    ไรท์จะพยายามแต่งต่อเพื่อรีดเด้อที่น่าร้ากทุกคนนะคะ


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×