ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF SEOHYUN&ETC.

    ลำดับตอนที่ #4 : S E O & H A N : : I Choose 2 Love U FIN.

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 56


    Duck- ร้านค้าแจกธีมบทความFly

    I Choose 2 Love U




    ไม่ว่าเมื่อไหร่ ฉันก็รักเธอ

    ฉันจะรักเธอ เหมือนกับช่วงเวลาในตอนนี้

    ฉันจะรักเธอ มากกว่าใครในโลกใบนี้





     

     

                “สวัสดีครับผมเสี่ยวลูฮานครับ”

     

                ผมก้มโค้งให้กับทุกคนที่นั่งอยู่ในห้อง ผมไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่กันไปได้ยังไงห้องแคบๆห้องหนึ่งที่มีประชากรอยู่ไม่ต่ำกว่า 20 คน แต่ก็นะ แค่สมาชิกวง EXO ของพวกเราก็ปาไป 12 ละ

     

                วันนี้เป็นวันที่ผมได้เข้ามาที่บริษัทสาขาโซลเป็นครั้งที่ 3 การมาที่นี่ครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งอื่นๆ เพราะว่าอีก 2 อาทิตย์พวกผมก็จะได้เดบิ้วท์เป็นศิลปินอย่างเต็มตัวแล้ว หลังจากใช้เวลาฝึกฝนมานานหลายปี

     

                คนที่นั่งอยู่ในห้องตอนนี้นอกจากเมมเบอร์แล้วก็จะมีแจวอนฮยองที่เป็นคนออกแบบท่าเต้น และมีรุ่นพี่ที่เดบิ้วท์ไปแล้วอย่างคังตะซอนเบ ยุนโฮซอนเบ อึนฮยอกซอนเบ มินโฮซอนเบ ลูน่าซอนเบ และคริสตัลซอนเบ

     

                เอ.. ใช่ซอนเบหรือเปล่านะ??

     

                “เซฮุนๆ”

     

                “อะไรฮยอง”เซฮุนมักเน่ของพวกเราเอียงตัวมาหาผมแล้วกระซิบ “มีอะไรอ่ะ ปวดฉี่เหรอ”

     

                “ไม่ใช่! จะถามว่าคำว่ารุ่นพี่ในภาษาเกาหลีใช่คำว่าซอนเบไหม”

     

                “อ่าใช่”

     

                ผมพยักหน้าแล้วดันเซฮุนให้กลับที่ ผมไม่ค่อยคุ้นเคยกับภาษาเกาหลีมากนัก แต่ก็พอพูดได้บ้าง ฟังได้บ้าง แต่อ่านกับเขียน นี่ขอใช้เวลาฝึกฝนก่อนละกันนะ

     

                “นี่พวกโซชิไม่มีใครมาเลยเหรอ”

     

                ผมหันไปมองอึนฮยอกซอนเบที่ถามขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ เพราะพวกเราทุกคนแนะนำตัวอย่างเป็นทางการเสร็จเรียบร้อยแล้ว และดูเหมือนว่าพวกเขาจะรออะไรอยู่

     

                “เดี๋ยวก็มะ..”

     

                “ขอโทษที่มาสายค่ะ”

     

                ประตูถูกเปิดออกพร้อมกับร่างบางของผู้หญิง 2 คนที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในห้อง

     

                “สวัสดีครับ”

     

                พวกเราทุกคนกล่าวทักทายรุ่นพี่อีก 2 คนที่เดินเข้ามา ผมแอบเหลือบมอง 1 ใน 2 ของพวกเธอ ..ในที่สุดก็ได้เจอ..

     

                “ทำไมมาช้ากันจังล่ะสิก้า ซอฮยอน”

     

                “แหะๆ ฉันตื่นสาย”

     

                “ปลุกแล้วค่ะ ออนนีไม่ยอมตื่น”

     

                ความน่ารักของเจสสิก้าซอนเบทำให้ในห้องมีแต่เสียงหัวเราะ ผมลอบมองรอยยิ้มของเธอคนนั้นแล้วยิ้มตาม ..แม้ใครในห้องจะมองเจสสิก้าซอนเบ แต่คนที่ผมมองคือ..

     

                “ซอฮยอนนูนาน่ารักดีเน๊อะ”

     

                ผมหันมองเซฮุนแล้วพยักหน้า “อืม”

     

                “เอาล่ะๆๆๆ มากันครบแล้วก็อย่าเสียเวลาเลย นี่วงน้องใหม่ของค่าย พวกเราก็คงเคยได้ข่าวมาบ้างแล้วใช่ไหม”

     

                “ค่ะ/ครับ”

     

                ผมนั่งลงเมื่อเห็นว่าคนอื่นๆเริ่มนั่ง วันนี้ก็คงไม่มีอะไรมาก พวกเขาก็แค่อยากจะคุยเรื่องวง EXO ของพวกเรา แจ้งรายละเอียด แล้วก็ฝากฝังให้พวกรุ่นพี่ช่วยดูแล วงของพวกเราจะแบ่งออกเป็นฝั่งละ 6 คน เป็นฝั่งเค ที่โปรโมทในเกาหลี และฝั่งเอ็ม ที่โปรโมทในจีน ..พวกฝั่งเคดูจะสนิทสนมกับพวกรุ่นพี่ที่นี่ดีอยู่แล้วเพราะพวกเขาฝึกซ้อมที่นี่ แต่กับพวกผมที่อยู่ฝั่งเอ็มยังไม่สนิทมากนัก เพราะพวกเราจะซ้อมที่จีนเป็นส่วนใหญ่

     

                “แล้วจะขึ้นเดบิ้วท์เสตรจกันวันไหนคะแจวอนโอป้า”เจสสิก้าซอนเบถาม

     

                “ก็วันที่ 1 เมษานี้อาจารย์ลีบอกว่าจะมีโชว์เคส และเดบิ้วท์อย่างเป็นทางการในวันที่ 8 ยังไงก้ช่วยดูแลกันด้วยแล้วกัน”

     

                “ค่ะ/ครับ”

     

                “เอาล่ะๆ ที่เรียกมาก็จะคุยเท่านี้แหละ ยังไงก็ทำความรู้จักกันไป มีอะไรอยากจะแนะนำก็แนะนำ รุ่นน้องมีอะไรอยากจะถามก็ถาม เชิญตามสบายนะ”

     

                เมื่อแจวอนฮยองออกไปแล้วคนที่เหลือในห้องก็จับกลุ่มพูดคุยกัน เซฮุนหันมามองผมแล้วสะกิดเบาๆ

     

                “อะไรฮุน”

     

                “ฮยองเหม่ออะไร หรือว่าหลงนางฟ้าเข้าแล้ว”

     

                “อะไรของนาย”

     

                “ก็เห็นฮยองเหม่อตั้งแต่ตอนที่เจสสิก้านูนากับซอฮยอนนูนาเดินเข้ามานี่นา”

     

                “ตลกละ”ผมเขกหัวเซฮุนแล้วเบือนหน้าไปทางอื่น ..ในวงเซฮุนกับผมจะค่อนข้างสนิทกัน ถึงเด็กนี่จะชอบมากวนประสาทผม แต่ก้ช่วยเหลือผมได้เยอะ

     

                “สวัสดีค่ะ”

     

                ผมหันไปมองต้นเสียงหวานๆนั่นแล้วโค้งให้ “สวัสดีครับ”

     

                “ยัยซอ ดูเหมือนน้องใหม่พวกเราจะมีคู่จิ้นเหมือนกันด้วยแหละ”

     

                “อะไรนะออนนี”

     

                ผมมองซอฮยอนซอนเบที่เดินมาทางผม รอยยิ้มของเธอ ดวงตากลมโตเป็นประกายของเธอ ทุกๆอย่างที่มาจากเธอทำให้ผมใจเต้นแรง และวินาทีที่เราสบตากัน ผมก็แทบจะหยุดหายใจ

     

                ผมไม่รู้ว่าเธอจำผมได้ไหม ..แต่ผม

     

              ...

     

              ไม่เคยลืมเธอเลยสักวินาทีเดียวตั้งแต่ที่เจอกันวันนั้น















                ผ่านการโชว์เคสแรกไปอย่างสวยงามสำหรับพวกเรา EXO และตอนนี้พวกเราทั้ง 12 คนก็ต้องซ้อมกันหนักมากขึ้นเพื่ออีกไม่กี่วันจะเป็นวันเดบิ้วท์อย่างเป็นทางการของพวกเรา แต่ในขณะที่พวกเรากำลังซ้อมเต้นกันอยู่นั้น ไฟในห้องก็ดันมาดับเอาดื้อๆ

     

                “อ้าว”ชานยอลที่กำลังเต้นอยู่ร้องขึ้นมาแล้วเกาหัวตัวเอง “แจวอนฮยอง ไฟดับครับ”

     

                “ฉันก็ไม่ได้ตาบอดนะชานยอล”แจวอนฮยองพูดแล้วเปิดประตูออกไปข้างนอก ไฟข้างนอกยังสว่างอยู่ “พวกนายรออยู่นี่ก่อนแล้วกัน เดี๋ยวไปหาห้องซ้อมให้ สงสัยหลอดไฟห้องนี้จะฟิวส์ขาด

     

                ผมไฮไฟว์กับไคที่เดินมาหาแล้วตบบ่าเซฮุนสองที เด็กสองคนนี้ชอบมาอ้อนผมน่ะ แต่เวลาผมไม่อยู่ก็ไปอ้อนซูโฮแทน ไม่รู้ว่าอ้อนหรือกวน..แฮะ

     

                “ฮยอง เหนื่อยอ่ะ ทำไมซ้อมโหดแบบนี้อ่ะ”

     

                “อย่าบ่น”

     

                “อะไรอ่ะตุ้ยจาง ผมบ่นกับลูฮานฮยองนะ”เซฮุนพูดแล้วทำปากคว่ำใส่คริสที่มานั่งแจมด้วย ผมหัวเราะแล้วมองไปที่ประตู แจวอนฮยองกลับมาแล้ว

     

                “เอาล่ะพวกนาย ลุกขึ้นมาได้แล้ว หาห้องซ้อมได้แล้ว”

     

                “ที่ไหนครับ”เฉินถามแล้วมาหลบหลังผมเมื่อแจวอนฮยองทำสายตาดุๆใส่

     

                “ตามมาเหอะน่า”

     

                ผมหัวเราะแล้วลากเฉินออกมา พวกเราเดินไปตามทางเรื่อยๆ ทุกห้องมีพวกซอนเบของแต่ละวงซ้อมอยู่ทั้งนั้น แจวอนฮยองมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องห้องนึง ผมไม่รู้ว่าคือห้องซ้อมของใคร แต่ห้องตรงข้ามคือห้องซ้อมของชานนี่ซอนเบ

     

                “เฮ้ย นี่มันห้องซ้อมพวกโซชิซอนเบนี่”

     

                ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูดเพราะผมอยู่หลังๆ แต่อะไรนะ ..โซชิซอนเบงั้นเหรอ

     

                เธออยู่หรือเปล่า เธออยู่ที่นี่ด้วยไหม ตั้งแต่วันนั้นผมไม่เจอเธอเลย

     

              “อ้าวโอป้า มาทำไมกันเหรอ”

     

                เสียงของใครบางคนในห้องดังขึ้น แจวอนฮยองดันพวกผมเข้าไปในห้องแล้วหัวเราะ “ขอยืมห้องซ้อมหน่อย พอดีห้องซ้อมเอ็กโซไฟดับน่ะ”

     

                “อ่า ได้ๆๆ เข้ามาเลยค่า”

     

                ผมเดินเข้าไปในห้องเป็นคนสุดท้าย และสายตาของผมก็ไปประสานเข้ากับดวงตากลมโตที่ผมคิดถึง ..ซอฮยอนอยู่ที่นี่ด้วย

     

                “ซอฮยอน อยู่กันแค่ 3 คนใช่ไหม”

     

                “ค่ะ พอดีว่าออนนีคนอื่นยังติดงานอยู่”ซอฮยอนตอบแจวอนฮยองแล้วยิ้มหวานแจกพวกเราทุกคน

     

                และรอยยิ้มนั้นก็มาหยุดอยู่ที่ผม ..ผมยิ้มให้เธออย่างเก้อเขินแล้วหลบสายตาเธอด้วยการมองไปที่ซอนเบคนอื่นแทน

     

                ในห้องนี้มียุนอากับซูยองอยู่

     

                “เอาล่ะๆๆๆ เดี๋ยวซ้อมกันเลย อย่าเสียเวลา เวลาพวกนายทุกคนมีค่าทุกวินาทีเข้าใจไหม”

     

                “ครับ”พวกเราตอบกันอย่างพร้อมเพรียง

     

                “สู้ๆนะค๊า >o<”ซูยองพูดแล้วยกมือโบกไปมาให้พวกเรา

     

                ผมเดินไปอยู่ด้านหลังสุดเพื่อรอซ้อม ผมเขินนะ เขินมากเลยด้วยแต่เมื่อเห็นว่าซอฮยอนกำลังสนใจหนังสือในมือผมก็เลยค่อยรู้สึกหายประหม่าขึ้นมาบ้าง

     

                ผมเต้นไปตามเสียงเพลง MAMA ของพวกเราและออกมายืนรอในระหว่างที่ฝั่งเคเป็นคนร้อง

     

                “เอาล่ะ เตรียมตัว”คริสที่ถือว่าเป็นหัวหน้าของพวกเราพูดให้สัญญาณก่อนที่ผมจะหมุนตัวเข้าเปลี่ยน ในช่วงระยะเวลาสั้นๆเจ้าพวกฝั่งเคก็ไปนั่งกับพวกโซชิซอนเบ ผมไม่สนอะไรทั้งนั้นแต่เสียงของยุนอาก็ดังมารบกวนจนได้

     

                “เซฮุนๆ มานั่งนี่สิ ฉันอยากเห็นมักเน่ไลน์น่ะ”

     

                “ออนนี มักเน่ไลน์อะไรล่ะ”

     

                “เออใช่ สร้างกระแสมันซะเลย ฮุนซอๆๆๆๆๆ”

     

                สมาธิที่เคยมีของผมเริ่มหายไปเมื่อได้ยินเสียงของซูยองและยุนอา และมันเริ่มลดลงหายไปเรื่อยๆเมื่อเซฮุนไปนั่งข้างกับซอฮยอนจริงๆ ผมเห็นเธอยิ้มและพูดคุยกับน้องรักร่วมวง ใจผมแกว่งไปเล็กน้อย และในช่วงที่เราหมุนตัว

     

                “เฮ้ย อาลู่”

     

                ผมดันสะดุดขาตัวเองแล้วล้มลงไปซะดื้อๆเล่นเอาทุกคนหยุดเต้นแล้วมารุมดูผมกันใหญ่

     

                “เป็นอะไรเนี่ย ทำไมไม่มีสมาธิเลยลูฮาน”

     

                “ขอโทษครับฮยอง”ผมพูดกับแจวอนฮยองแล้วจับมือเลย์ที่ฉุดผมให้ลุกขึ้น “ขอโทษนะๆ”

     

                “เอาเหอะ เอาใหม่นะ”

     

                ผมพยักหน้าแล้วขอโทษขอโพยทุกคนที่ต้องมาเริ่มใหม่เพราะผม แต่แล้วในวินาทีที่ผมกำลังจะหันกลับไปเตรียมตัว ข้อมือของผมก็ถูกใครบางคนดึงไว้ ผมหันกลับไปมองแล้วตาของผมก็เบิกกว้างขึ้นมาเองเมื่อเห็นว่าใครคือคนที่รั้งข้อมือผมเอาไว้

     

                “ซะ ซอ ซะ ซอนเบ”

     

                “สู้ๆนะคะ”เธอพูดแล้วยิ้มหวานให้ผม

     

                ผมพยักหน้าแล้วเกาหัวตัวเองอีกครั้งอย่างเขินอาย ..เมื่อกี๊จะเรียกซอฮยอนนะ แต่ปากมันดันออกเสียงว่าซอนเบ เอาเถอะ ..เธอยังอยู่สูงกว่าผมนัก แต่ก็นะ ..ทำให้ผมได้รู้เลยว่าเธอน่ะ จำผมไม่ได้





















                เพราะการเต้นที่ผิดพลาดตลอดของผมเมื่อช่วงบ่ายทำให้ผมต้องเต้นต่อไปเรื่อยๆ ห้องซ้อมของพวกเราซ่อมไฟเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเมมเบอร์บางส่วนก็พากันทยอยกลับ และตอนนี้ไคกับเลย์ก็เตรียมจะกลับแล้วเหมือนกัน

     

                “อาลู่ กลับเถอะ นี่จะเที่ยงคืนแล้วนะ”เลย์เรียกแล้วกวักมือเรียกผม

     

                “ไม่อ่ะ พวกนายกลับไปกันก่อนเลย เดี๋ยวฉันขออยู่ซ้อมต่ออีกนิดละกันนะ”

     

                “ฮยอง อย่าหักโหมนะ เดี๋ยววันมะรืนจะไม่มีแรงขึ้นเวที”

     

                “อ่าๆ เดี๋ยวจะรีบกลับ”

     

                “ฮยอง ไอ้ฮุนจะคุยด้วย”ไคพูดแล้วยื่นโทรศัพท์มาให้ผม

     

                “ไงฮุน”

     

                (ฮยองทำไมยังไม่กลับมาอีกอ่า)

     

                “ว่าจะอยู่ซ้อมเต้นต่ออีกหน่อยน่ะ ยังไงวันนี้ก็นอนเร็วๆละกัน พรุ่งนี้ต้องมาซ้อมเช้าไม่ใช่เหรอ”

     

                (อ่า ฮยองอย่าหักโหมมากล่ะ แล้วก็ถ้าเกิดมีอะไรก็โทรหาผมนะ)

     

                “มีอะไรคือ?”

     

                (ก็เผื่อฮยองจำทางกลับหอไม่ได้ไง)

     

                “=,,= หอมันก็อยู่ใกล้แค่นี้ ฮยองไม่หลงหรอกน่า”ผมกดวางโทรศัพท์แล้วส่งคืนให้ไค “รีบกลับกันได้แล้ว”

     

                “ไว้เจอกันที่หอนะฮยอง”

     

                “อืมๆ”

     

                ผมพยักหน้าแล้วดันหลัง 2 คนออกไปก่อนจะมายืนถอนหายใจ แบบนี้ตลอดเซฮุน เด็กคนนั้นชอบทำเหมือนผมเป็นเด็ก ไม่แปลกเลยที่แฟนๆจะเริ่มจิ้นตั้งแต่ที่พวกเรายังไม่ทันได้เดบิ้วท์อย่างจริงจัง

     

                ผมกดเปิดเพลงแล้วเริ่มเต้นไปเรื่อยๆไม่มีหยุดพัก เพราะไม่อยากจะไปเป็นตัวถ่วงให้เมมเบอร์คนอื่นในวง พวกเราหวังกับวันมะรืนนี้มาก พวกเรากำลังจะเดินตามทางที่ฝันร่วมกันมาตลอด และผมต้องทำให้ดีที่สุด

     

                อันที่จริงผมไม่ใช่คนที่เต้นแย่อะไรหรอกนะ ผมจดจำท่าเต้นทุกท่าได้ดีและละเอียดมาก แต่เมื่อช่วงบ่ายมันเป็นเพราะผมเห้นอะไรที่มันบาดตาเท่านั้นเอง

     

                เซฮุนติดหนึบอยู่กับซอฮยอนตลอดเลย ตอนที่แจวอนฮยองให้นั่งพักหมอนั่นก็เดินเข้าไปคุยกับซอฮยอน ไปเอาน้ำมาให้ซอฮยอนบ้างล่ะ เดินไปเป็นเพื่อนซอฮยอนทำธุระบ้างล่ะ ผมก็เข้าใจนะว่าเพราะยุนอากับซูยองที่พากันยุ แต่ก็นะ ..ทำไมไม่มายุผมบ้างล่ะ - -* ชิ

     

                ผมไม่รู้ว่าเธอจำผมได้ไหมแต่คิดว่าคงจะไม่ได้เพราะถึงเราจะสบตากันบ้างแต่เธอก็ทำเพียงแค่ยิ้มให้ผมเหมือนที่ยิ้มให้คนอื่นๆเท่านั้น แต่ก็อย่างว่าล่ะนะ ในเมื่อเธอเป็นคนดัง เจอใครต่อใครตั้งมากมาย ผมเป็นคนธรรมดาๆที่ไม่ได้สำคัญอะไรกับเธอ เธอจะจำผมได้ยังไง

     

                ...ผมนั่งลงกับพื้นแล้วนึกถึงเหตุการณ์วันนั้น ผมยังคงมีความสุขไม่เปลี่ยนเลยที่นึกถึงมัน

     

                เมื่อ 3 ปีก่อนตอนที่ผมยังเป็นแค่เด็กธรรมดาๆอยู่ที่จีน ผมต้องไปรับคุณป้าที่สนามบิน แต่ไม่รู้ว่าทำไมวันนั้นคนถึงเยอะมากกว่าปกติ เยอะถึงกับขนาดที่ว่าล้นออกมาเลยล่ะ ผมพลัดหลงกับพี่ชายแล้วก็บังเอิญเดินชนกับผู้หญิงคนนึงเข้า ดูเหมือนว่าเธอเองก็กำลังหลงทางอยู่เหมือนกัน

     

                เธอมองหน้าผมแล้วพูดรัวๆเป็นภาษาเกาหลีซึ่งผมพอเข้าใจบ้างออกมา “ฉันหลงทางค่ะ”

     

                “ครับ?”

     

                “คุณรู้ไหมคะว่าจะไปที่รถตู้ของ SM ต้องไปทางประตูไหน”

     

                “ครับ เอ่อ ผมไม่ทราบครับ”ผมพูดกับเธอด้วยภาษาเกาหลีที่ไม่ค่อยแข็งแรงนักแต่คิดว่าเธอน่าจะพอเข้าใจเพราะเธอน่าเสียไปเล็กน้อย

     

                ผมไม่รู้ว่าเธอคนนี้เป็นใคร เธอสวมหมวก ใส่แว่นเหมือนพวกนักร้องดังๆ ผิวของเธอขาวสวย ริมฝีปากอิ่ม และแก้มเนียนใสนี่ก็สามารถทำให้ผมใจเต้นได้ล่ะนะ

     

                “กรี๊ดดดดดดด นั่นซอฮยอนนี่นา”

     

                “ไหนๆ เฮ้ยจริงด้วย ไปเร็วพวกเรา ซอฮยอนอยู่ตรงนั้น”

     

                ผมก้มหัวให้กับเธอแล้วทำท่าจะเดินไป ไม่ได้สนใจที่คนกลุ่มใหญ่กลุ่มนั้นพูดมากนัก แต่แล้วจู่ๆเธอก็วิ่งมาเกาะแขนผม

     

                “ช่วยฉันด้วยค่ะ”

     

                “ครับ?”

     

                “ช่วยพาฉันออกไปจากตรงนี้ทีค่ะ”เธอพูดกับผมด้วยน้ำเสียงสั่นๆ

     

                วินาทีที่ผมได้สบตากับเธอ ราวกับว่าเวลารอบข้างได้หยุดเดิน และที่นี่มีเพียงผมกับเธอ ผมจำได้แล้วว่าเธอคือใคร เธอคือซอฮยอน โซนยอชิแด เกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังของเกาหลี มีอยู่ครั้งนึงที่เพื่อนของผมเอาซีดีเพลงของพวกเธอมาแล้วถามว่าผมชอบใครที่สุด

     

                ผมตอบไปว่า “ฉันชอบคนนี้ น่ารักแบบเด็กๆดี”

     

              “ก็เด็กสิ นั่นน่ะเป็นน้องเล็กของวงนะ ชื่อซอฮยอน”

     

              คือเธองั้นเหรอ.. เธอจริงๆ

     

                “ช่วยพาฉันไปทีค่ะ”เธอพูดกับผมอีกครั้งแล้วจับแขนผมอย่างหวาดกลัวเมื่อผู้คนเริ่มกรูกันมาหาเธอ

     

                ผมพยักหน้าแล้วเอาตัวบังเธอเอาไว้ก่อนจะพยายามพาเธอไปตรงทางออก แต่ก็ใช้เวลาค่อนข้างยากเหมือนกันเพราะว่าคนเข้ามาล้อมรอบ มามุงดูเธอเยอะมาก ผมเอาตัวบังเธอเอาไว้เพราะกลัวว่าเธอจะได้รับการบาดเจ็บจากการมุงแบบนี้

     

                ผมพาเธอเดินออกมาเรื่อยๆจนถึงด้านนอกและในที่สุดเธอก็พ้นจากกลุ่มคนเพราะมีการ์ดมากมายมาขวางไว้ เธอมองหน้าผมแล้วยิ้มอย่างจริงใจ

     

                “ขอบคุณนะคะ ขอบคุณที่ช่วยฉัน”

     

                “เอ่อ ครับ”ผมพูดแล้วก้มหัวให้เธอ ดูเหมือนเธออยากจะพูดอะไรต่อแต่ก็มีคนมาพาเธอไปที่รถตู้เสียก่อน พอดีกับที่พี่ชายของผมมาเจอผมพอดี ผมก็เลยต้องไป แต่สายตาของผมก็หันกลับไปมองที่รถตู้คันเดิมอีกครั้ง ..ดูเหมือนผมจะตกหลุมรักเข้าอย่างจังเลยล่ะ

     

                และตั้งแต่ที่เจอเธอวันนั้น ไม่กี่อาทิตย์ต่อมาบริษัทเอสเอ็มก็มาประกาศรับออดิชั่น ผมได้เป็นหนึ่งในคนที่พวกเขาเลือก และได้เป็นเทรนนี่ของบริษัท หวังว่าจะได้เจอกับเธอ แต่ทางบริษัทกลับให้ผมฝึกอยู่ประเทศจีนก็เลยยังไม่มีโอกาสได้เจอเธอ แต่แล้ววันนี้ ..ผมก็ได้เจอเธออีกครั้ง

     

                แต่น่าเสียดายที่เธอจำผมไม่ได้

     

              ผมลุกขึ้นแล้วกดเปิดเพลง แต่ในขณะที่กำลังจะเริ่มเต้นใหม่ ประตูห้องซ้อมก็ถูกเปิดออก ผมสบตากับคนที่เปิดเข้ามาทางกระจกอย่างอึ้งๆ

     

                “ซะ ซอฮยอน ..ซอนเบ”

     

                “ฉันนึกว่าพวกคุณลืมปิดเพลงซะอีก”ซอฮยอนพูดแล้วก้มหัวให้ผมเล็กน้อย “ดึงแล้วนะคะ ยังไม่กลับอีกเหรอ”

     

                “เอ่อ ผมกำลัง กำลังฝึกอีกหน่อยน่ะครับ”ผมพูดกับเธออย่างประหม่า แม้จะดึกมากแล้วแต่ซอฮยอนยังคงดูสวยอยู่ แม้เธอจะไม่ได้แต่งหน้า แต่เธอก็น่ารักเสมอสำหรับผม

     

                “ฉันก็เหมือนกันค่ะ พอดีว่ายังทำได้ไม่ค่อยดีก็เลยอยากจะฝึกให้ดีกว่านี้”

     

                “อยู่กันหมดเลยเหรอครับ”

     

                “ไม่หรอกค่ะ พวกออนนีกลับไปหมดแล้ว ฉันอยู่ซ้อมคนเดียว แต่กำลังจะกลับแล้วเหมือนกัน”

     

                “เอ่อ ครับ”

     

                “งั้นฉันไปก่อนนะคะ ยังไงก็สู้ๆนะคะ”

     

                ผมเกาหัวแล้วหันหน้ากลับไปที่หน้ากระจก ประตูถูกปิดลงพร้อมกับความเงียบสงบมีเพียงแต่เสียงเพลง History ของเราที่ยังดังอยู่

     

                ผมมองนาฬิกาข้อมือบ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว ผมครุ่นคิดก่อนจะตัดสินใจปิดเพลง ปิดไฟแล้วคว้าเสื้อคลุมมาใส่ วิ่งออกมาจากห้องด้วยความเร็วแล้วก็เจอซอฮยอนที่ยืนรอลิฟต์อยู่ เธอหันมายิ้มให้ผมเป้นเชิงถาม

     

                “เอ่อ คือ”

     

                “ไม่ซ้อมแล้วเหรอคะ”

     

                “คือว่าผมเหนื่อยแล้วน่ะครับ แล้วตอนนี้ก็ดึกมากแล้วด้วย”

     

                เธอพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปในลิฟต์ ผมเดินตามเข้าไปแล้วยืนนิ่งเพื่อตัดสินใจ ให้ตายเถอะ ถ้าผมทำแบบนั้นมันจะดูเหมือนตีสนิทเธอเกินไปไหมนะ เธอจะรู้สึกยังไง จะรู้สึกแย่หรือเปล่า

     

                “...”

     

                “...”

     

                ภายในลิฟต์เต็มไปด้วยความเงียบที่น่าอึดอัด ผมเหลือบมองเธอแล้วตัดสินใจเมื่อประตูลิฟต์เปิด

     

                “ซอฮยอน ..ซอนเบครับ”

     

                “คะ?”

     

                “มันก็ดึกมากแล้ว กลับยังไงเหรอครับ”

     

                “อ๋อ ฉันเดินไปค่ะ ไม่ไกลมากนัก”เธอพูดแล้วเอียงคอมองผม “มีอะไรเหรอคะ”

     

                “คือว่า คือเอ่อ ..มัน มันก็ดึกมากแล้ว ผู้หญิงกลับคนเดียวมันจะอันตราย”

     

                “...”

     

                “เดี๋ยวผมไปส่งนะครับ”

     

                “คะ?”

     

     

     

     

     

     

     

                ผมเดินเคียงคู่กับซอฮยอนในยามดึก ไม่มีประโยคสนทนาระหว่างเราแต่ผมก็มีความสุขล่ะนะ อย่างน้อยก็ได้ยืนอยู่ใกล้เธออีกครั้ง แม้เธอจะไม่รู้ก็ตาม

     

                ซอฮยอนหยุดเดินอยู่ที่หน้าคอนโดสูงๆเธอมองหน้าผมแล้วก้มหัวให้ “ถึงแล้วล่ะค่ะ”

     

                “เอ่อ ครับ”

     

                “ขอบคุณมากนะคะ”

     

                “ไม่เป็นไรครับ ..ซอนเบ”

     

                “คิก”เธอหลุดหัวเราะออกมาแล้วมองหน้าผม “ไม่ต้องเรียกซอนเบก็ได้ค่ะ เรียกฉันว่าซอฮยอนก็ได้”

     

                “เอ่อ ครับ”

     

                “โอป้าพูดแบบธรรมดาก็ได้นะคะเมื่อก่อนฉันเคยถือ แต่ตอนนี้ฉันไม่ถือหรอกค่ะ”เธอพูดแล้วยิ้มหวานให้ผม “ขอบคุณมากนะคะที่อุตส่าห์เดินมาส่ง”

     

                “มะ ไม่เป็นไรครับ เอ่อ ไม่เป็นไรหรอก พอดีหอพวกเราอยู่แถวนี้พอดี”

     

                “เหรอคะ ทำไมฉันไม่รู้เรื่องเลย”

     

                “เอ่อ ช่างมันเถอะ”ผมพูดแล้วยิ้มเขินๆให้เธอ “ซอฮยอนเข้าไปเถอะ เดี๋ยวพวกพี่ๆจะเป็นห่วงนะ”

     

                “ค่ะ”เธอพยักหน้าแล้วเดินไปที่หน้าประตู แต่แล้วเธอก็วิ่งกลับมาอีกครั้ง

     

                “ครับ?”

     

                “ขอบคุณสำหรับเรื่องวันนี้ แล้วก็สำหรับเรื่องเมื่อ 3 ปีก่อนด้วยนะคะ ถ้าวันนั้นไม่ได้โอป้า ฉันคงแย่”

     

                “!!!

     

                “ไปนะคะ”

     

                ผมมองเธอที่วิ่งเข้าไปด้านในอย่างอึ้งๆ เธอจำได้งั้นเหรอ เธอจำได้ว่าเป็นผมเหรอ พระเจ้า! ผมมีความสุขที่สุดเลย เธอจำผมได้ >,,<

     

                นอนหลับฝันดีแล้วล่ะคืนนี้ ..แต่ว่า

     

                ผมจะกลับไปหอของผมยังไงล่ะเนี่ย ให้ตายเถอะ ผมหยิบโทรศัพท์ในกระเป่าแล้วกดโทรหาเซฮุน ผ่านไปพักใหญ่ถึงมีคนรับ แต่เสียงก็งัวเงียเต็มขั้นแล้วล่ะ “ฮุน”

     

                (อารายฮยองงงงงงง)

     

                “คือว่าตอนนี้เกิดปัญหานิดหน่อยน่ะ”

     

                (ทามมายยยยยยย)

     

                ผมถอนหายใจแล้วค่อยพูด “คือว่า คือว่าฮยองหลงทางน่ะ ไม่รู้ว่ากลับหอยังไง”

     

                (กรรม ไหนบอกว่ากลับได้ไง)ทันทีที่ผมบอกว่าหลงทางเซฮุนก็เสียงใสขึ้นมาทันที (นี่แก่แล้วความจำเสื่อมเหรอ ผมว่าทางจากบริษัทมาที่หอมันไม่ได้ยากมากนะฮยอง)

     

                “คือว่าตอนนี้ฮยองไม่ได้อยู่ที่บริษัทน่ะสิ”

     

                (แล้วฮยองอยู่ไหน)

     

                “อยู่หน้าหอโซชิซอนเบน่ะ”

     

                (ห๊า!!!!!! แล้วฮยองไปทำอะไรที่นั่น)

     

                “เออน่า ตอนนี้ออกมารับหน่อย ฮยองง่วงจะแย่แล้วนะ”

     

                (เฮ้อ เออๆๆๆๆ รออยู่นั่นแหละ เดี๋ยวผมไป ไม่เกิน 20 นาที ..ไปทำอะไรที่นั่นล่ะเนี่ย ดึกดื่นปะ..)

     

                ผมตัดสายทิ้งเพราะขี้เกียจฟังเซฮุนบ่น ผมมองขึ้นไปด้านบนแล้วระบายรอยยิ้มออกมาอย่างดีใจ ..ซอฮยอนจำผมได้ เธอยิ้มให้ผม เธอพูดกันเองกับผม

     

                รู้สึกมีความสุขจัง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                การเดบิ้วท์อย่างเป็นทางการของพวกเราผ่านไปด้วยดี ไม่อยากจะเชื่อว่าพวกเราจะมีแฟนคลับเยอะแบบนี้ มันเป็นอะไรที่น่าทึ่งจริงๆ ผมลงจากรถตู้แล้ววิ่งเข้าไปในบริษัท มีพวกรุ่นพี่ที่ได้เดบิ้วท์ไปแล้วมายืนรอต้อนรับพวกเรากันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา

     

                “ยินดีด้วยนะ”ยุนโฮซอนเบพูดแล้วแปะมือกับผมที่อยู่ใกล้สุด

     

                “เย้ๆ พวกเรามีน้องใหม่ของค่ยแบบเต็มตัวแล้ว”ฮโยยอนซอนเบพูดแล้วส่งยิ้มให้พวกเรา

     

                “แบบนี้พวกหนูตกกระป๋องแล้วสิ”ซอลลี่พูดเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคน

     

                ผมเดินแปะมือกับพวกซอนเบทุกคนจนกระทั่งมาถึงคนสุดท้าย

     

                “ยินดีด้วยนะคะ”ซอฮยอนพูดกับผมแล้วยิ้มจนตากลมๆของเธอแทบจะปิด

     

                “ครับ”

     

                “เสียดายที่วันนี้ไม่ได้ไปดู พอดีว่าติดงานเลยไปไม่ได้ ขอโทษโอป้าด้วยนะคะ”

     

                “ไม่เป็นไรครับ”

     

                ผมคุยกับเธอต่ออีกนิดหน่อยแต่แล้วก็รู้สึกแปลกๆ ..สายตาแทบจะทุกคู่มองมาที่ผมกับเธอ อาจจะเป็นเพราะซอฮยอนที่รักของพี่ๆทุกคน และเธอไม่ค่อยจะพูดแบบนี้กับคนที่เพิ่งรู้จัก ทุกคนก็เลยมองผมแปลกๆแบบนั้น

     

                เซฮุนเดินมาเกาะไหล่ผมแล้วดันผมออกไป “ไปก่อนนะครับนูนา”

     

                “จ้ะ ยินดีด้วยนะ”

     

                เซฮุนก้มหัวให้ซอฮยอนแล้วดันผมเข้าไปในห้องซ้อม “ฮยอง ทำไมฮยองไม่สารภาพรักกับนูนาไปเลยล่ะ”

     

                “อะไรของนาย”

     

                “ก็ชอบขนาดนั้นทำไมไม่บอกไปเลย”

     

                เซฮุนเป็นคนเดียวที่รู้ว่าผมชอบซอฮยอน เพราะว่าวันที่เจ้าเด็กนี่ไปรับผม คาดคั้นผมซะจนผมต้องเล่าให้ฟังหมดทุกอย่างตั้งแต่อดีตยันปัจจุบันเลย

     

                “เอาไว้ก่อนน่า ชอบอยู่ห่างๆก็พอ ซอฮยอนจะอึดอัดเอานะ”

     

                “ไม่หรอก ผมว่านูนาก้ต้องรู้สึกดีกับฮยองบ้างล่ะนะ”

     

                “ช่างเถอะน่า”

     

                “ไม่เอา”เซอุนส่ายหน้าแล้วลุกขึ้นยืน “ฮยองรออยู่ที่นี่ ห้ามไปไหนเลยเข้าใจไหม”

     

                “ทำไม?”

     

                “ผมจะให้ของขวัญวันเดบิ้วท์กับฮยองน่ะสิ”เซฮุนขยิบตาให้ผมแล้ววิ่งออกไปจากห้อง

     

                ผมมองตามไปอย่างงงๆ เด็กนั่นคิดจะทำอะไรอีก ผ่านไปสักพักประตูห้องก็ถูกเปิดออก ไม่ใช่เมมเบอร์ของวงเรา ไม่ใช่แจวอนฮยอง หรือครูสอนเต้นคนอื่นๆ แต่กลับเป็น

     

                “ซอฮยอน”

     

                “คะ?”

     

                “เอ่อคือ มีอะไรครับ”

     

                “อ้าว ก็เซฮุนบอกว่าโอป้ามีเรื่องอยากจะคุยกับฉันนี่คะ”

     

                ผมมองอย่างอึ้งๆ หน็อย เซฮุน ผมมองหน้าซอฮยอนแล้วเกาหัวตัวเอง เอาวะ เป็นไงเป็นกันล่ะนะ

     

                “โอป้ามีอะไรเหรอคะ”

     

                “คือว่า..”

     

                “คะ?..”

     

                “เอ่อคือ ..คือว่า”

     

                ซอฮยอนมองผมแล้วยิ้มอย่างสงสัย “มีอะไรคะ พูดมาเถอะค่ะ”

     

                “คือว่าโอป้า โอป้า ..โอป้าชอบซอฮยอนน่ะ”

     

                “คะ!!!”เธอมองผมอย่างอึ้งๆ

     

                ผมมองเธอแล้วส่ายหน้า “เอ่อคือ ไม่เป็นไรนะ แค่อยากบอกให้รู้เฉยๆ ก็คงเหมือนกับการปลื้มศิลปิลล่ะมั้ง เอ่อคือ..”

     

                “โอป้าคะ”

     

                “ครับ?”ผมหยุดชะงักแล้วมองเธอที่ยิ้มหวาน(กว่าเดิม) รอยยิ้มของเธอทำให้ผมไม่สามารถละสายตาไปไหนได้เลย

     

                “โอป้าคะ ฉันขอบคุณนะคะที่โอป้าชอบฉัน แต่ฉันรู้สึกว่ามันเร็วเกินไป”

     

                “ครับ โอป้าเข้าใจ”ผมพูดแล้วพยักหน้าอย่างซึมๆ กะแล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้ แต่อย่างน้อยผมก็ได้บอกเธอไปแล้วล่ะนะ

     

                “โอป้าคะ ..ฉันน่ะก็รู้สึกดีกับโอป้าเหมือนกัน”

     

                “ครับ?”

     

                “แต่ฉันแค่ยังไม่แน่ใจ ฉันไม่เคยมีแฟน ไม่เคยมีความรักมาก่อนเลย ขอให้ฉันแน่ใจก่อนได้ไหมคะ”

     

                “ซอฮยอน..”

     

                “เดี๋ยวโอป้าก็ต้องไปโปรโมทที่จีนอีก 3 เดือนใช่ไหมคะ ..เอาไว้โอป้ากลับมาที่โวลอีกเมื่อไหร่”

     

                “...”

     

                “ฉันจะให้คำตอบกับโอป้านะคะ”

     

                เธอยิ้มให้ผมแล้วหมุนตัวเดินออกไปจากห้อง ผมนั่งลงบนเก้าอี้อย่างหมดแรง ให้ตายเถอะ ผมไม่คิดเลยว่าพระเจ้าท่านจะให้โอกาสกับผมมากขนาดนี้

     

    3 เดือนจะพิสูจน์ผมให้เธอได้เห็น

     

              ...

     

              แน่นอนว่าผมจะต้องคิดถึงเธอคนเดียวอยู่แล้ว

     

              ...

     

              ก็ได้แต่หวังล่ะนะ ว่าเธอก็จะคิดถึงผมเหมือนกัน

     

              ...

     

              เฮ้อ แทบจะรอให้ผ่าน 3 เดือนไม่ไหวเลย


























              -3 เดือนต่อมา-

     

              ผมเดินขึ้นรถตู้ได้สำเร็จเป็นคนแรก วันนี้พวกเราต้องกลับมาที่โซลเพราะโปรโมทที่จีนเรียบร้อยแล้ว และมีคอนเสิร์ตใหญ่ของเอ็สเอ็มรอพวกเราอยู่ แฟนๆมารอรับเราเยอะมาก ทำให้มีผู้คนเบียดเสียดเต็มสนามบินไปหมด ผมเข้าไปนั่งด้านหลังแล้วก็สะดุ้งอย่างตกใจเมื่อเห็นเซฮุนนั่งอยู่ก่อนแล้ว

     

                “ฮุน มาได้ไงเนี่ย”

     

                “มารอลุ้นผลกับฮยองไง”เซฮุนพูดแล้วเอาโทรศัพท์ของผมที่ฝากไว้ส่งมาให้ “เอาสิ”

     

                “อะไร”

     

                “ส่งข้อความไปหานูนาเลย ว่าตอนนี้ฮยองอยู่ที่โซลแล้ว”

     

                ผมมองเซฮุนแล้วเขกหัวไปทีนึง “นี่ออกนอกหน้าเกินไปละ”

     

                “โธ่ ก็ผมลุ้นอ่ะ”เซฮุนคลำหัวตัวเองแล้วหยิกแก้มผม “ถ้าฮยองไม่ส่งไป ผมจะจีบนูนาแล้วนะ”

     

                “ฝันไปเถอะ”ผมพูดแล้วเอาโทรศัพท์มาพิมพ์ข้อความ ก่อนที่เมมเบอร์คนอื่นๆจะขึ้นมา

     

                “โอป้ากลับมาเกาหลีแล้ว ตอนนี้อยู่ที่โซล ..คิดถึงซอฮยอนเหมือนเดิมทุกวัน แล้วซอฮยอนล่ะ??”

     

              ผมกดส่งแล้วมองเซฮุน คราวนี้ก็เหลือแค่เธอตอบกลับมาเท่านั้น ..ผมหวังว่าเธอคงคิดถึงผมเหมือนกันนะ

     

                “อ้าวฮุน มาทำอะไรล่ะน่ะ”เลย์ที่ขึ้นมาเป้นคนที่สองพูดเมื่อเห็นเซฮุน

     

                “ตกใจหมด นี่คิดถึงอาลู่มากถึงกับต้องมารับเลยเหรอ”ซิ่วหมินฮยองพูดแล้วยิ้มแซวๆ “พวกนายนี่เรียลนะ”

     

                “บ้าเหรอ”ผมพูดเบาๆแล้วเขกหัวเซฮุน “ได้เด็กนี้แค่อยากรู้อยากเห็นเฉยๆ”

     

                เซฮุนหัวเราะคิกคักแล้วกระโดดไปนั่งเบาะข้างหน้าเพื่อพูดคุยกับคริสและคนอื่นๆที่ขึ้นมาบนรถเรียบร้อยแล้ว

     

                ผมนั่งอยู่ด้านหลังคนเดียวแล้วมองโทรศัพท์อย่างใจจดใจจ่อ และแล้วโทรศัพท์ผมก็มีเสียงดังเตือนว่ามีข้อความเข้า

     

                ทั้งรถตกอยู่ในความเงียบ มีเพียงเซฮุนที่รู้เรื่องหันมามองผมอย่างอยากรู้

     

                ผมสูดลมหายใจเข้าแล้วตัดสินใจเปิดข้อความอ่านดู เมื่ออ่านข้อความเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมก็ไม่สามารถหยุดรอยยิ้มที่แสดงออกมาได้เลย ผมยิ้มอย่างกับคนบ้าจนคริสมองอย่างงงๆไม่ต่างจากคนอื่น(เว้นเซฮุนน่ะนะ)

     

                “อาลู่เป็นอะไร เมาเครื่องบินเหรอน่ะ”เฉิน

     

                “นั่นสิ หรือว่าจะนอนไม่พอ”เลย์

     

                “ไม่หรอก ฉันว่านอนเยอะเกินไป”ซิ่วหมิน

     

                “ฉันว่าเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ”คริส

     

                “อาจจะได้รับบาดเจ็บ”เทา(รับบาดเจ็บแต่ยิ้ม =,,= เฮ้อ)

     

                “เอ่อ ไม่มีอะไรกันหรอก ลูฮยองก็แค่เมารถน่ะ อย่าไปสนใจเลย ฮ่าๆ ฮ่าๆๆๆๆ”เซฮุนพูดแล้วดึงความสนใจจากทุกคนไป

     

                ผมยิ้มกว้างแล้วเอาหัวซบกับหมอน ในที่สุด ..ผมก็ทำสำเร็จ

     

                ถ้าใครได้เห็นข้อความนี้ก็ยิ้มเหมือนผมนั่นแหละ เชื่อผมสิ..

     

               

     

     

     

              [ฉันดีใจนะคะที่โอป้ากลับมาที่โซลแล้ว อีกไม่กี่นาทีเราก็จะเจอกัน โอป้าคะ ..ฉันก็คิดถึงโอป้าเหมือนกันค่ะ >////<]

     

     

     

     

     

     

     

                ยิ้มเหมือนกัน ..ใช่ไหมล่ะครับ?? ><











     

     





     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×