คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [ เส้นด้ายสีขาว ] - 3 - [ Present I ]
"เปลี่ยนชื่อ?" ณัฐภัสสราชะงักทันทีเมื่อเห็นเอกสารอีกชุดที่นายส่งมาให้ใหม่อีกรอบ งานคราวนี้แปลกกว่าทุกครั้ง เพราะปกติเธอไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนี้ เว้นเสียว่า
"คุณต้องแฝงตัวเข้าไปทำงาน ผมจัดการทุกอย่างไว้หมดแล้ว"
"แต่นายคะ แบบนั้นมัน..." เกิดท่าทางอึกอักทันทีมันเสี่ยงเกินไป แม้ว่าครั้งสุดท้ายที่เธอเจอกับครอบครัวนั้นจะนานมากแล้วก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าพวกนั้นจะจำเธอไม่ได้
"พอดีคุณกิตติกำลังหาคนเพิ่ม" รูปถ่ายของหญิงสาวอีกคนที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดีถูกยื่นมาตรงหน้า "ไว้คุ้มครองลูกสาวตัวเอง"
"โอกาสมาถึงแล้วนะ คว้าเอาไว้. . ." คำสั่งไร้ความรู้สึกนั่นกำลังกัดกร่อนจิตใจเขาช้าๆ สิ่งที่เขาไม่อยากทำมัน "ได้จัดการแบบถอนรากถอนโคน"
"เธอคือคนที่คุณพิชิตส่งมาใช่ไหม"
น้ำเสียงน่าเกรงขามของชายหนุ่มตรงหน้าทำให้เขาถึงกับเหงื่อตก ได้แต่พยักหน้ารับ ก่อนจะก้มหน้าหลบสายตานั่นโดยไม่รู้ตัว ความทรงจำในวัยเด็กยังคงตามหลอกหลอนอยู่เสมอ
"อืม...แปลกนะ ทำไมฉันรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาเธอมาก" ประโยคที่ทำให้ณัฐภัสสราแทบจะเป็นลม ยิ่งถูกจับจ้องด้วยสายตาแข็งกร้าวนั่น กลัวจนเผลอกระชับอาวุธที่แอบแหนบไว้ที่เอวด้วยความเคยชิน
"เหมือนใครสักคน..." ชายหนุ่มลุกขึ้น ก่อนใช้สายตาสำรวจหน่วยก้านของหญิงสาว พร้อมทั้งพลิกอ่านแฟ้มประวัติไปพลางๆ "แต่ไงก็ตาม เธอเป็นคนของคุณพิชิตนี่นะ"
"บุศรินงั้นหรอ... กำพร้าตั้งแต่เด็ก... อืมก็ดีได้ไม่มีภาระ" พึมพำระหว่างตัดสินใจ โบกมือไล่ลูกน้องเกือบสิบคนที่ยืนเฝ้าอยู่รอบๆให้ออกนอกห้อง เพราะงานที่จะมอบหมายให้คนตรงหน้านั้นถือเป็นเรื่องส่วนตัวเกินไป
"วันนี้เธอเริ่มงานได้เลย ไฟล์ทเที่ยงนะ และนี่สำหรับไว้ใช้ติดต่อ" ชายหนุ่มยื่นกุญแจรถและสมาร์ทโฟนไว้ให้พร้อมกำชับรายละเอียดทั้งหลายให้ฟัง เนื้อหาเพียงสั้นๆแต่ชัดเจนในตัวเอง "ทุกอย่างที่ลูกสาวผมทำ ต้องอยู่ในความดูแลของคุณ ถ้าเป็นไปได้ห้ามอยู่ห่างจากกิตติ์ลภัสเกิน 3 เมตร"
"คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ได้มารับฐาหรอคะ" รู้สึกผิดหวังทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของคนปลายสาย อุตส่าห์เฝ้ารอมานานหลายปี ตั้งแต่ถูกส่งไปเรียนต่อเมืองนอกเมื่อตอนมัธยมต้น นี่เธอคงไม่มีความสำคัญเลยสินะ มันช่างน่าน้อยใจเสียจริง
"แต่ส่งลูกน้องมาแทน?" บ่นกะปอดกะแปดเมื่อได้รับคำยืนยันกลับมา ยิ่งรู้ว่าคนๆนั้นจะคอยดูแลเธอตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ ก็ยิ่งทำให้อารมณ์เสียเป็นเท่าตัว แบบนี้เธอไม่น่ากลับมาเมืองไทยเลยสินะ ให้ตายสิ
"พ่อคะ! ฐาไม่ใช่เด็กแล้วนะ"
ณัฐภัสสราได้แต่ยืนตกตะลึงอยู่บริเวณจุดรอผู้โดยสารขาเข้าที่ท่าอากาศยาน หลังสังเกตเห็นใครบางคนกำลังเดินเข็นสัมภาระอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ หญิงสาวตัวเล็กในชุดลำลองสบายๆ ใบหน้าไร้การแต่งแต้มใดๆจากเครื่องสำอางค์ มีเพียงแว่นกันแดดขนาดใหญ่บนใบหน้าเท่านั้น กิตติ์ลภัสไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมมากนัก ก็แค่สาวขึ้น สวยขึ้นตามกาลเวลา จนไม่มีแววเด็กกะโปโลแบบสมัยก่อนแล้วก็เท่านั้นเอง
"นายคือคนที่พ่อฉันส่งมาใช่มะ" กิตติ์ลภัสถอดแว่นสีชานั่นออก เพื่อสังเกตรูปถ่ายในมือถือที่บิดาของตนเองส่งมาให้ ก่อนจะทนไม่ไหวหยิบมันขึ้นมาเทียบใกล้ๆ จนเจ้าตัวต้องรีบพยักหน้ารับ
"อืม. . ." ดีใจจนเกือบจะเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่ ได้แต่อ้ำๆอึ้งๆ ไม่แปลกใจที่อีกคนจะจำเธอไม่ได้ มันเกือบสิบปีแล้วสินะที่เราไม่ได้เจอกัน ถ้าเขาและเธอไม่ได้เจอกันแบบนี้ ป่านนี้คงจะรั้งไว้ในอ้อมกอดเหมือนอย่างที่เคยทำ แต่เพราะมันไม่ใช่ คราวนี้เขามาในฐานะลูกน้องคนนึงเท่านั้นเอง "ถ้าคุณเป็นลูกของคุณกิตติล่ะก็นะ"
"นี่นาย! นายกวนประสาทฉันหรอ" หยุดเดินทันทีเมื่อได้ยินคำตอบแบบนั้น เงยหน้ามองคนตัวสูงอย่างอารมณ์เสีย แม้ไม่อาจคาดเดาได้ถึงท่าทางที่แท้จริงภายใต้แว่นกันแดดสีเข้มนั่น แต่เธอก็ไม่เข้าใจผู้ชายอะไรกันไว้ผมยาวรวบตึงแบบนี้ จะเอาไว้ถักผมเปียหรือไง "ไอตุ้ด!"
"นี่คุณ...ฉันก็แค่ตอบตามจริงนะ" ณัฐภัสสราแย้งระหว่างคว้ากระเป๋าเดินทางใส่รถสีขาวอย่างสบายอารมณ์ ก่อนจะหันไปแขวะเจ้าตัวเล็กขี้วีนที่นั่งอยู่เบาะหลัง "อีกอย่างฉันเป็นผู้หญิง เลิกเรียกนายซะที"
"นายเนี่ยนะ" ชะเง้อตัวไปยังเบาะหน้าอย่างแปลกใจ เท่าที่เห็นในสนามบินคนๆนี้สูงราว170 กว่าๆ แถมไหล่กว้างแบบนี้เนี่ยน่ะหรอ "...ผู้หญิง?"
"งั้นก็ถอดแว่นสิ" เอื้อมมือคว้าสิ่งที่อีกคนใช้ปกปิดใบหน้า ก่อนจะถูกมือเรียวที่กำลังบังคับพวงมาลัยอยู่คว้าไว้ให้หยุดการกระทำ "จะได้รู้ไงว่านายเป็นผู้หญิงมั้ย"
"เลิกเล่นได้แล้วค่ะ นั่งดีๆ" กระชับแว่นกันแดดให้เข้าที่อีกครั้ง เหลือบมองกระจกมองหลัง แอบเห็นยัยตัวเล็กนั่งกอดอกอย่างขัดใจแถมยังจ้องตอบอีกต่างหาก "นายก็ขับรถไปสิ มองฉันทำไมเล่า!"
"คุณนมมม น้องฐาคิดถึง" ไม่ทันจะดับเครื่องยนต์สนิท หญิงสาวด้านหลังก็รีบวิ่งกระโจนลงไปหาแม่บ้านประจำตระกูลทันที ณัฐภัสสราได้แต่ถอยหายใจอย่างปลงๆ ท่าทางจะโตแต่ตัว เด็กก็ยังคงเป็นเด็กวันยังค่ำสินะ
"คุณบุศรินใช่ไหมคะ" เอ่ยทักทายลูกน้องคนใหม่ที่คุณท่านได้โทรมาสั่งไว้เมื่อเช้าพร้อมกับแจ้งเรื่องที่คุณหนูตัวเล็กของเธอจะกลับเมืองไทย
"สวัสดีค่ะคุณนม"
ณัฐภัสสราพยักหน้ารับพร้อมยกมือขึ้นไหว้ด้วยความเคยชิน จนทำให้หญิงสูงวัยถึงกลับแปลกใจเล็กน้อย แว่บนึงเกิดภาพทับซ้อนของเด็กน้อยคนนึงลอยผ่านมา เด็กที่เป็นเพื่อนสนิทคนแรกของคุณหนูของเธอ จนเผลออุทานออกมา ". . .หนูกอล์ฟ"
"ฮะ? อะไรนะคะ" สะดุ้งเฮือกทันทีเมื่อได้ยินคำเรียกของคุณนม จิตใจแทบจะลงไปอยู่ตาตุ่ม ยังดีที่เขาสามารถปกปิดตัวตนผ่านแว่นกันแดดสีดำได้ ไม่อย่างนั้นงานนี้คงจะพังตั้งแต่ยังไม่เริ่ม
"อ๋อไม่มีอะไรค่ะ. . . พอดีนมจะบอกว่าคุณท่านให้เตรียมห้องไว้ให้แล้ว" ประโยคที่คุณนมบอกมันช่างระแคะระคายหูสำหรับบุคคลที่สามอย่างเธอมากเสียจนทนเก็บอารมณ์เอาไว้ไม่ไหว ให้ผู้ชายคนนี้มาร่วมชายคาด้วยเนี่ยนะ "ห้องอยู่ติดกับคุณหนูเลยนะคะ"
"อะไรนะคุณนม!" ผละออกจากอ้อมกอดอย่างขัดอกขัดใจ ไม่มีทางหรอกที่คุณพ่อจะให้อีตานี่มาอยู่ด้วย แถมห่างกันเพียงกำแพงกั้นขวางเนี่ยนะ "แต่เขาเป็นผู้ชายนะ น้องฐาไม่ยอม"
"โธ่คุณ! ฉันบอกว่าฉันเป็นผู้หญิงไงเล่า"
พี่กอล์ฟลุคนี้อารมณ์หมวดแพท แต่น้ำเสียงแบบพี่บีม ฮ่าๆๆๆ อ๋อยยยย อุตส่าห์บอกว่า SF จะรอดมั้ยเนี่ย ไปๆมาๆจะกลายเป็น ฟิคยาวสินะ แฮ่ๆ ฝากด้วยค่ะ
ความคิดเห็น