ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO] Those Bygone Years。。。那些年 ( Tao x BaekHyun)

    ลำดับตอนที่ #4 : In Control...เผด็จการ

    • อัปเดตล่าสุด 23 มี.ค. 56


    Those Bygone Years。。。那些年

    ตอนที่ 4

     

    “รับอะไรดีคะ?” พนักงานสาวเอ่ยถามพร้อมกับปากกาและกระดาษในมือเตรียมพร้อม

    “ขอมอคค่าเย็นหวานน้อย1แก้ว ชีสเค้ก1ชิ้น แล้วก็วนิลามอคค่าปั่น1แก้วครับ" จือเทาสั่งรัวพร้อมกับปิดสมุดเมนูของตัวเองและรวบเอาอีกเล่มมาจากอีกคนแล้วยื่นให้พนักงานทันที

    เมื่อเมนูถูกแย่งออกไปจากมือ แบคฮยอนก็เงยหน้าขึ้นมามองอีกคนทันทีพร้อมกับทำหน้าตางง

    "ยังไม่ได้สั่งเลย" แบคฮยอนพูดเบาๆพร้อมกับมองตามพนักงานสาวที่เพิ่งเดินจากไป

    "ก็สั่งให้แล้วไง" จือเทาเอ่ยตอบพร้อมกับฉีกยิ้มอย่างกวนๆ

    "ยังไม่ทันได้บอกเลยว่าจะเอาอะไร" แบคฮยอนเบะปากเมื่อเห็นยิ้มเจ้าเล่ห์นั้น

    "ก็เห็นมาร้านนี้ทีไรก็สั่งแต่ชีสเค้กกับวนิลามอคค่าปั่น ก็สั่งให้เหมือนเดิมไง" เสียงทุ้มยังเอ่ยออกมาอย่างสบายใจ

    "ก็แล้วถ้าเกิดวันนี้อยากกินอย่างอื่นขึ้นมาล่ะ" ร่างบางถามตอบไปอย่างไม่ยอมแพ้ ถึงแม้จะรู้ตัวเองดีก็ตามว่ายังไงซะ ท้ายที่สุดเค้าก็สั่งแต่อย่างเดิมอย่างที่อีกคนบอกจริงๆ

    "เผด็จการ" แบคฮยอนพูดพร้อมกับเบะปากใส่คนตรงหน้าอีกครั้ง

    "เพิ่งรู้เหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยพร้อมยื่นแขนไปบริเวณใต้ดวงตาของอีกคนตรงหน้าและใช้นิ้วยาวยื่นไปหยิบขนตาเส้นเล็กออกให้อีกคน

    แบคฮยอนที่ไม่ได้ตั้งตัวกับการกระทำเมื่อกี๊เหลือกตาขึ้นเล็กน้อยด้วยความตกใจแต่ก็ยังคงนั่งนิ่งให้อีกคนหยิบขนตาออกไป ก่อนที่เสียงหวานนั้นจะเอ่ยขอบคุณออกไปเบาๆ

    “อธิษฐานก่อน แล้วค่อยเป่า” จือเทาเอ่ยพร้อมกับยื่นนิ้วที่ยังมีขนตาอีกคนติดอยู่ไปตรงหน้า

    “เล่นอะไรเป็นเด็กๆ”ถึงแม้จะบ่นออกไปอย่างนั้นแต่แบคฮยอนก็ยังคงทำตามที่อีกคนบอกเช่นเดิม ร่างบางหลับตาลงนิ่งพร้อมกับอธิษฐานบางอย่างในใจ ก่อนที่จะลืมตาขึ้นมาอีกครั้งแล้วก็ค่อยๆเป่าขนตาเส้นเล็กนั้นออกจากนิ้วอีกคน

    “อี๋ น้ำลาย” ไม่พูดเปล่านิ้วยาวนั้นยื่นไปจิ้มกับจมูกบางของแบคฮยอน ก่อนจะหัวเราะออกมา

    “โอเวอร์ น้ำลายไม่ได้กระเด็นขนาดนั้นซะหน่อย” คนที่เพิ่งถูกแกล้งเมื่อกี๊เอ่ยเบาๆพร้อมกับเอามือไปลูบบริเวณจมูกตัวเองที่โดนนิ้วยาวสัมผัสเมื่อกี๊ เพื่อหวังว่าหากเค้าลูบจมูกจนแดงแล้วมันอาจจะไม่ทำให้สีแก้มของเค้าที่แดงจนร้อนอยู่ตอนนี้ชัดเจนจนเกินไป


    2010: Qingdao, China

    บรรยากาศยามเช้าในห้องเรียนแห่งนี้ยังคงวุ่นวายเช่นเดิมไม่เคยเปลี่ยน เสียงออดที่ดังขึ้นเป็นสัญญาณบอกให้ทุกคนรีบไปยังห้องเรียนของตัวเอง คุณครูสาวเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับหนังสือเล่มหนาในมือ นักเรียนรีบเดินไปนั่งกับที่ก่อนที่บทเรียนบทใหม่จะเริ่มขึ้น

    “อีกไม่กี่เดือนก็ถึงช่วงสอบเข้ามหาลัยของพวกเธอทุกคน เลือกกันหรือยังว่าอยากจะเรียนต่อที่ไหนกันบ้าง?” หลังจากที่คุณครูสาวพูดจบ นักเรียนหลายคนก็ต่างพากันยกมือขึ้นเพื่อบอกแผนในอนาคตของตัวเอง ส่วนคนที่ยังไม่รู้จุดหมายแน่นอนก็ได้แต่นั่งนิ่ง

    “ไบ๋เฉียนหละ คิดว่าไว้หรือยังว่าจะเรียนต่อที่ไหน” คุณครูสาวเอ่ยถามร่างบางที่เอาแต่นั่งก้มหน้าคัดภาษาจีนในสมุดฝึกหัดของเค้า

    “เอ่อ...กลับไปเรียนต่อที่เกาหลีครับ” แบคฮยอนเอ่ยตอบคุณครูเสียงเบา ก่อนจะหันหน้าไปมองคนที่นั่งข้างๆที่เอาแต่นั่งจ้องหน้าเค้า

    “จือเทาล่ะ คิดไว้หรือยัง?” คุณครูเอ่ยถามบุคคลที่เอาแต่นั่งจ้องหน้าแบคฮยออย่างไม่วางตา

    “ยังครับ” ร่างสูงเอ่ยตอบไปสั้นๆแต่สายตาก็ยังจับจ้องอยู่ที่อีกคนข้างๆ

    แบคฮยอนที่กำลังถูกจับจ้องอยู่ก็ได้แต่ก้มหน้าหลบสายตาคู่นั้น เค้ารู้ดีว่าตอนนี้จือเทาคงกำลังโกรธเค้ามากที่ไม่ได้บอกเรื่องแผนที่จะกลับไปเรียนต่อที่เกาหลี

    “ยื่นใบสมัครไปหรือยัง”เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นทันทีที่คุณครูเริ่มการสอน

    “หืม...ส่งไปแล้ว” ร่างบางที่นั่งก้มหน้าอยู่ตอนแรกเงยหน้าขึ้นมาตอบ

    “แล้วรู้ผลยัง” เสียงทุ้มยังเอ่ยถามต่อไปพร้อมกับดินสอในมือที่ยังจดบนเรียนบนกระดานลงในสมุด

    “อืม...ได้ทุนความสามารถพิเศษ” หลังจากที่แบคฮยอนเอ่ยตอบกลับไปมือหนาที่กำลังจดบทเรียนอยู่นั้นก็หยุดนิ่งทันที ก่อนที่มือหนานั้นจะเริ่มขยับอีกครั้ง

    ...................................................................

    ตอนนี้ห้องเรียนกำลังเงียบสงบเพราะเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆนั้นต่างพากันลงไปทานข้าวกลางวันกันหมดแล้ว เหลือก็เพียงแต่แบคฮยอนและคนร่างสูงข้างๆที่เอาแต่นั่งจดบทเรียนบนกระดานอย่างตั้งใจจนผิดปกติ

    “ไม่ไปกินข้าวเหรอ?” แบคฮยอนถามเพื่อทำลายความเงียบ

    “ไม่หิว” เสียงทุ้มเอ่ยตอบกลับสั้นๆโดนที่หน้านั้นก็ยังก้มมองตัวหนังสือบนสมุดของตัวเอง

    “จือเทา...โกรธมากเลยเหรอ?” แบคฮยอนเอ่ยเสียงอ้อนพร้อมกับเขยิบเก้าอี้ตัวเองเข้าไปใกล้อีกคน แต่ไร้ซึ่งเสียงตอบโต้จากบุคคลข้างๆ แบคฮยอนจึงพยายามอีกครั้ง

    “หายโกรธเถอะนะ...ฉันไปเกาหลีนายก็ไปเรียนกับฉันที่นั่นก็ได้หนิ” ไม่พูดเปล่า ร่างบางนั้นใช้มือแตะไปที่ไหล่ของคนข้างๆเพื่อเรียกร้องความสนใจ

    “พูดยังกับมีปัญญาพอที่จะทำอย่างนั้น ตอนนี้ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะสอบเข้ามหาลัยที่จีนได้ไหม” ร่างสูงเอ่ยขึ้นพร้อมกับวางปากกาลงบนโต๊ะแล้วปิดสมุดลงทันที

    “ฉันช่วยติวให้นายก็ได้” มือที่ตอนแรกแตะอยู่ที่ไหล่ของอีกคนตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นควงแขนแทน

    “นั่นมันของแน่อยู่แล้ว” ร่างสูงเอ่ยตอบกลับอย่างรวดเร็วพร้อมกับลุกขึ้นยืนโดยที่แขนข้างหนึ่งของแบคฮยอนก็ยังคงควงอยู่กับแขนของเค้า

    “ยังไม่ลุกอีก ไม่กินหรือไงข้าวน่ะ” ร่างสูงหันไปพูดกับอีกคนที่ยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม

    “อ้าว แล้วไหนตอนแรกบอกไม่หิว”

    “ก็ตอนนี้หิวแล้ว จะไปไม่ไป”

    “ไปๆๆ” แบคฮยอนรีบพูดก่อนที่จะลุกขึ้นเดินตามอีกคนไป


    November 2010

    “จือเทา!! แบคฮยอนมาแล้ว” ลู่ฮานที่เพิ่งเดินไปดูตะโกนบอกผู้เป็นน้องที่อยู่ในห้องนอนชั้นสองของบ้าน ก่อนที่จะเปิดประตูตามหลังแบคฮยอนแล้วจึงวิ่งกลับไปนั่งเล่นเกมเพลย์สเตชั่นที่กำลังเล่นค้างอยู่กับอี้ชิง

    “หวัดดีไป๋เฉียน” อี้ชิงตะโกนทักเสียงดังในขณะที่ตาก็ยังจับจ้องอยู่กับหน้าจอทีวี

    “จือเทาอยู่บนห้องนอนไม่รู้ตื่นหรือยัง ขึ้นไปได้เลย” ลู่ฮานหันมาพูดกับแบคฮยอนก่อนจะหันกลับไปสนใจเกมส์ตรงหน้าต่อ

    เมื่อได้ยินอย่างนั้นแบคฮยอนก็เดินขึ้นบันไดไปห้องนอนของจือเทาคนที่โทรไปหาเค้าเมื่อคืนแล้วบอกให้เค้ามาหาแต่เช้าเพื่อที่จะให้เค้าช่วยติวหนังสือก่อนที่จะถึงวันสอบใหญ่ในอีก3วัน

    แบคฮยอนเคาะประตูเบาๆสามครั้งเมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากบุคคลภายในห้องแบคฮยอนจึงตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปเลย และก็เป็นอย่างที่คาดไว้ร่างสูงที่เป็นคนโทรนัดเค้ามาตอนนี้ยังนอนท้องราบอยู่บนเตียง

    แบคฮยอนจัดการวางกระเป๋าตัวเองไว้บนโต๊ะหนังสือในห้อง ก่อนที่จะกระโดดขึ้นเตียงแล้วนั่งควบอยู่บนหลังที่กำลังหลับอยู่บนเตียง ก่อนที่จะออกแรงขย่มเรียกให้อีกคนตื่นขึ้นมา

    “ตื่นๆๆ “ แบคฮยอนพูดขึ้นอย่างร่าเริง ก่อนจะใช้มือบีบไปที่ไหล่ของร่างสูงแล้วจัดการเขย่าไหล่นั้นขึ้นลงๆ

    “แบคฮยอน...” บุคคลที่โดนปลุกให้ตื่นครางออกมาเสียงเบา ก่อนจะพยายามขยับตัวพลิกเพื่อที่จะให้คนที่นั่งควบอยู่บนหลังนั้นลุกออกไป แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะร่างบางนั้นยังคงนั่งนิ่งอยู่บนหลังเค้าโดยที่ไม่คิดจะลุกออกไปเลย

    “ลุกออกไปได้แล้ว หนัก” คนที่โดนนั่งทับอยู่พยายามอีกครั้งก่อนที่ร่างสูงนั้นจะออกแรงพลิกตัวเองขึ้นมาโดนที่ยังมีอีกคนนั่งอยู่บนตัว แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนจากนั่งควบหลังเค้ามาเป็นนั่งอยู่บนหน้าท้องแทน จือเทาจัดการรวบแขนทั้งสองข้างของแบคฮยอนไว้ไม่ให้ลุกหนีไปก่อนที่จะดึงคนขี้แกล้งลงมาหาตัวเองแล้วพลิกตัวขึ้นไปคร่อมอยู่บนร่างบางแทน

    “จะทำอะไร?”แบคฮยอนเอ่ยถามเสียงอ่อยเมื่อตัวเองกลายเป็นคนถูกแกล้งแทน

    “ก็ทำแบบที่นายทำเมื่อกี๊ไง ฮึฮึ” เสียงทุ้มเอ่ยออกมาก่อนที่จะแสะยิ้มที่มุมปาก

    “ไม่ได้นะ นายตัวหนักกว่าฉันเยอะ เดี๋ยวกระดูกหัก” แบคฮยอนพูดเสียงดังก่อนที่จะพยายามใช้มือทั้งสองข้างที่โดนรวบอยู่ผลักไปที่อกของอีกคนแต่ก็ไม่มีผลอะไร มิหนำซ้ำตอนนี้ร่างสูงยังเปลี่ยนเป็นกดแขนเค้าไว้กับเตียงอีก

    “ปล่อยๆ เลิกเล่นแล้ว ลุกออกไป!” คนที่ถูกคร่อมอยู่เอ่ยออกมาเสียงดัง

    “ไม่”

    “จือเทา”

    “ไม่ลุก” ไม่พูดเปล่าร่างสูงที่คร่อมอยู่บนตัวแบคฮยอนค่อยๆเลื่อนหน้าลงไปหาอีกคนเรื่อยๆจนแบคฮยอนต้องเบี่ยงหน้าหลบเล็กน้อย

    “จือทา...เอ๋า” อี้ชิงที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาต้องหยุดนิ่งอยู่กับที่ก่อนที่จะเดินถอยหลังออกไปแล้วปิดประตู เพื่อที่จะทำสิ่งที่เค้าควรทำตั้งแต่แรก นั่นก็คือเคาะประตูก่อนที่จะเข้าห้องคนอื่น

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก... อี้ชิงเค้าประตูเสียงดังสามครั้งก่อนที่จะยืนหยุดนิ่งเพื่อรอให้เจ้าของห้องตอบ อย่างที่เค้าควรจะทำตั้งแต่แรก

    “อี้ชิง!! เข้ามาได้” จือเทาผู้เป็นเจ้าของห้องตะโกนออกไปก่อนที่จะลุกขึ้นจากเตียง

    “เข้าไปได้แน่นะ” อี้ชิงเอ่ยถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

    “บอกว่าเข้ามาได้” จือเทาเอ่ยพร้อมเดินมาเปิดประตูให้อีกคนเข้ามา

    “ลู่ฮานกับพี่กำลังจะออกไปหาอะไรกิน พวกนายจะเอาอะไรไหม?” อี้ชิงเอ่ยถามขณะที่ยังยืนอยู่ตรงบริเวณประตู ก่อนที่จะมองไปหาแบคฮยอนที่ยังคงนั่งอยู่บนเตียง

    “ไม่เอา ออกไปได้แล้ว” จือเทารีบพูดก่อนจะผลักอี้ชิงให้ออกไปจากห้องของตัวเอง แล้วปิดประตูใส่หน้า

    “ทำไมเวลานอนชอบไม่ใส่เสื้อ” อี้ชิงบ่นกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะเดินลงไปหาลู่ฮานที่รออยู่ข้างล่าง

     

    หลังจากที่ไล่อี้ชิงออกไปได้แล้วจือเทาก็หันหน้ากลับมาหาบุคคลที่ยังนั่งหน้าแดงนิ่งอยู่บนเตียง ก่อนจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้า ก่อนที่จะเดินกลับเข้ามาในห้องและเห็นหนังสือที่ถูกกระจายอยู่เต็มโต๊ะของเค้า

    “พร้อมยัง?” แบคฮยอนเอ่ยถามเมื่อเห็นอีกคนเดินกลับเข้ามาในห้อง ก่อนที่จะโยนเสื้อยืดให้อีกคน

    “วันนี้ไม่ติวไม่ได้หรอ ไปเดินเล่นกัน” จือเทาเอ่ยขณะที่กำลังใส่เสื้อ

    “ได้ไง!! ก็นายเป็นคนเรียกให้ฉันมาวันนี้เพื่อที่จะติวไม่ใช่เหรอ” แบคฮยอนเอ่ยเสียงดัง

    “ก็เปลี่ยนใจไง ไปเดินเล่นกัน วันนี้ดูท่าทางข้างนอกจะอากาศดี” จือเทาพูดพรางเดินไปเปิดหน้าตาห้องตัวเองออกเพื่อเช็คอากาศข้างนอก

    “เย็นกำลังดี” หลังจากเช็คอากาศข้างนอกเสร็จร่างสูงก็เดินไปหาอีกคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะทำงานเค้าก่อนที่จะดึงมือให้เดินออกไปจากห้องด้วยกัน

    “เฮ้ย!! แล้วหนังสือล่ะ?” แบคฮยอนที่กำลังโดนลากไม่ยอมแพ้ พยายามเกาะโต๊ะไว้แต่แรงของแบคฮยอนนั้นน้อยกว่าอีกคนมากต่อให้แบคฮยอนนั้นพยายามแค่ไหน เค้าก็ไม่อาจต้านแรงของจือเทาได้

    “เดี๋ยวค่อยกลับมาอ่านก็ได้ ไปเดินเล่น หาของกินก่อน” จือเทาเอ่ยก่อนที่จะออกแรงดึงอีกคนออกมาจากห้องจนได้แล้วนั้นก็เรียกเสียงบ่นจากแบคฮยอนได้ไม่น้อย

    “เผด็จการ”

    …...................................................................................................


    TALK:: 

    สวัสดีค่ะทุกๆคน~~~~ (ใจเย็นไค่ะ อย่าพึ่งปารองเท้าใส่ไรท์เตอร์นะ)

    เจนเอาตอนใหม่มาลงแล้ว เย้ๆ #สักที มีใครคิดถึงฟิคเรื่องนี้ไหมมมมม??!?!?!

    ที่หายไปนานเพราะติดสอบมิดเทรมค่ะ ต้องขออภัยทุกคน ㅠ_ㅠ

    แต่สัญญาว่าฟิคเรื่องนี้ จบภายในเดือนนี้แน่นอน (อีกประมาณ2ตอน....เดี่ยวเจนลงรัวๆเลย) 555+

    ฝากติดตามกันต่อไปด้วยนะค่ะ~~~ ฝากแนะนำบอกต่อด้วยก็ดี 555+ #ผิด

    ป.ล. อย่าลืมคอมเม้นท์ติ-ชมกันด้วยนะค่ะ

    ป.ล.(2) พูดคุยกับเจนได้ทางทวิทเตอร์ @fc_jenny ค่ะ~~~~ <3


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×