ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Animals (fanfic Kuroko no basket) pairing: แล้วแต่รีเควสท์

    ลำดับตอนที่ #4 : Kise X Kuroko

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.01K
      1
      13 ม.ค. 56


    Kise X Kuroko < Holiday 1>



    คุโรโกะก้าวเท้าเดินอย่างเชื่องช้า สายตาจับจ้องบนสนามบาสเก็ตบอลขนาดใหญ่ แต่ทว่าหนุ่มผมฟ้ากลับถอนหายใจออกมาเบาๆ

                “โอ้ส คุโรโกะจิ” เสียงใสแว่วดังขึ้นมาหลังกัวทำให้ชายหนุ่มร่างเล็กหรี่ตาลงมองไปยังใบหน้าหล่อๆแนวกวนๆของคิเสะและมันก็ส่งผลให้คุโรโกะถอนหายใจขึ้นมากกว่าเดิม

                “เฮ้อ” ทันทีที่คิเสะได้ยินเสียงถอนหายใจของคุโรโกะใบหน้าของเขาก็ซีดเผือด เขาเร่งฝีเท้าและวิ่งเข้ามากอดชายหนุ่มร่างเล็กอย่างเป็นห่วง

                ใบหน้าของคุโรโกะบู้บี้ชนเข้ากับอกของคิเสะอย่างจัง ความเจ็บปวดจากแรงกระแทกทำให้ชายหนุ่มร่างเล็กหงุดหงิดและพุ่งหมัดออกไปยังพุงของโมเดลหน้าหล่อ

                “จ๊ากกก คุโรโกะจิเป็นอะไร ไม่สบายหรอ?” คิเสะถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง แม้เขาจะโดนต่อยเจ้าที่พุงหรือใบหน้าจะอมความเจ็บปวดไว้แต่เขาก็ไม่ได้คลายอ้อมกอด

                “ฉันแจ้งคำตรวจข้อหาแต๊ะอั่งได้นะ” คุโรโกะเงยหน้าขึ้นมามองชายที่กอดตนไว้ด้วยใบหน้ากึ่งๆไม่พอใจ

                “ไม่เอาๆ อย่าแจ้งเค้านะ ว่าแต่ทำไมคุโรโกะถอนหายใจและอารมณ์บ่จอยขนาดนี้อ่ะ? เมนส์มางั้นหรอ ฮ่าๆๆ” ทันทีที่หนุ่มกวนเจ้าของดวงตาสีเหลืองอร่ามน่าหลงใหลปล่อยไก่ หมัดหนักยิ่งกว่าเดิมก็พุ่งไปยังท้องน้อยของเขาจนรอบนี้เขาถึงกับลงไปนอนกุมพุงตัวเอง

                “พรุ่งนี้ปิดเทอมแล้ว ทุกคนปิดเทอมนี้ไม่ได้ฝึกบาสฯ ทุกคนเลยพากันไปเที่ยวกันหมด รุ่นพี่ฮยูงะไปเที่ยวกับรุ่นพี่เทปเป้และรุ่นพี่ริโกะ” น้ำเสียงเนือยๆดังออกจากปากของคุโรโกะ

                คิเสะทำหน้าเหมือนเข้าใจและลุกขึ้นมายืนเต็มความสูง คิ้วสวยขมวดกันเป็นปมพลางเจ้าตัวนั้งคิดว่าจะช่วยคุโรโกะอย่างไรกันดี

                ....หืม... ว่าไปว่ามาแล้ว ตั้งแต่คุโรโกะจิย้ายมาโรงเรียนใหม่เขาก็ไม่ค่อยสนิทด้วยเลย... จริงๆแล้วเขาแอบชอบคุโรโกะจิอยู่ด้วยนั่นแหละ ว๊าก พูดแล้วเขิน ฮ่าๆ.... เขาควรฉวยโอกาสครั้งนี้พาคุโรโกะไปฮันนีมูน...สองต่อสอง....แล้วเขาก็บอกรักคุโรโกะจิอย่างโรแมนติกใต้แสงจันทร์บนผืนหาดทราย

                ว๊าย ไอเดียเยี่ยมยอดจริงๆ

                พอคิดได้แล้วคิเสะก็ใช้มือสองข้างกุมมือของคุโรโกะไว้แบบหลวมๆ ดวงตาทั้งสองข้างของชายร่างสูงกว่าประกายสีเหลืองสวย มันจับจ้องไปยังใบหน้าของคุโรโกะ

                “คุโรโกะจิ... เราไปเที่ยวกันเถอะ... ไปทะเล? ไปออนเซ็น ไปไหนก็ได้ ไปด้วยกันไหม? ที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นพระจันทร์ฉันก็จะพานายไปเอง”

                “งั้นฉันจะไปพระจันทร์” คุโรโกะยิ้มน้อยๆให้กับเพื่อนหน้าสวยของตัวเองและเดินนำหน้าไปยังลานบาส ที่ๆเขากับคางามินัดแนะกันมาเล่นบาสก่อนปิดเทอมก่อนที่พวกเขาจะแยกย้ายกันไปเที่ยวกันคนล่ะที่

                คิเสะวิ่งตามด้วยใบหน้าอมชมพูและเต็มไปด้วยความปราบปลื้มใจ

                ว๊ายยย คุโรโกะจิไปด้วยอ่ะ.....

                ทุกอย่างกำลังดำเนินไปอย่างสวยงาม... คิเสะกำลังจะได้คาบ (?) คุโรโกะไปแอบแทะและแอบจับ (กด) เล่นกันนิดหน่อยกลางค่ำคืนโรแมนติก หากแต่ว่านาง (?) มารร้ายสองตัว (?) ก็ได้โผล่ออกมา

                “หึหึ ฉันได้ยินว่าพวกนายจะไปเที่ยวพระจันทร์กันใช่ไหม งั้นฉันไปด้วย” เสียงทุ้มๆดังขึ้นจากปากหนุ่มเจ้าของดวงตาและผมสีเพลิง คางามิยัยนางมารร้ายของเรื่อง (?) ก็ได้โผล่เข้ามาแล้ว โอ้วไม่นะ คิเสะของพวกเราจะทำยังไงกับ ก.ข.ค. กันดีล่ะ

                คิเสะกำลังจะง้างปากและสรรหาคำงามๆมาปฏิเสธหนุ่มคางามิแต่เป็นอีกครั้งที่เขาโดนขัดขึ้นโดยนางมาร้ายนัมเบอร์ทู

                “ถ้าคุโรโกะไปฉันก็จะไป” มือหนาผิวสีเข้มกระชากข้อมือของคุโรโกะและโอบกอดร่างเล็กไว้อย่างหวงแหน

                อาโอมิเนะ...นางมารร้ายคนที่สองซินะ...

                “เฮ้ยไม่แฟร์ๆ ปล่อยๆ คุโรโกะของฉัน” คางามิเริ่มเกิดอาการแวดๆผลอาจจะมาจากแสงแดดเปรี้ยงๆจากฟากฟ้า หรือไม่ก็ลมที่พัดดังซ่าๆ (?) ที่ทำให้คางามิวีนแตก

                ดวงตาสีเพลิงฉายแววหึงหวงเจ้าตัวเล็กอย่างไม่ปิดบัง

                คิเสะทำท่าจะโต้และพูดว่า คุโรโกะของฉันเฟ้ย หากแต่เขาก็ยังคงไม่ไวพอ เขาโดนนางมารร้ายนัมเบอร์ทูตัดหน้าชิงพูดไปเสียก่อน

                “คุโรโกะของฉันเฟ้ย และปิดเทอมนี้ฉันเองจะเป็นคนพาคุโรโกะไปเที่ยว สองต่อสอง ได้ยินไหม” อาโอมิเนะฉีกยิ้มชั่วร้ายและรัดตัวคุโรโกะแน่นยิ่งขึ้นดุจหมาหวงก้าง

                “ฉันนัดคุโรโกะมาเล่นบาสก็เพื่อจะนัดเขาไปเที่ยวกันนะเฟ้ย” คางามิยังคงสวมบทบาทนางมารร้ายขี้วีน ชายหนุ่มเจ้าของผมสีเพลิงทำท่าพ่นไฟและถีบอาโอมิเนะออกเพื่อจะได้ชิงคุโรโกะมาโอบกอด

                “นายมันเลว นายชวนคูโรโกะที่ใสซื่อออกมาเล่นบาสเพื่อจะคาบคูโรโกะจิไปเที่ยวสองต่อสองและ ****** (เซ็นเซอร์) คุโรโกะจนร้องไห้ยืนไม่ได้เลยใช่ไหม” คิเสะที่ไม่ได้อ้าปกาสักพักใหญ่ๆในที่สุดก็ได้มีบทบาทวีนตามคางามิสักที

                คางามิและอาโอมิเนะมองคิเสะด้วยหางตา

                “แล้วที่นายตะกี้เดินตามคุโรโกะต้อยๆเหมือนหมาไม่เลวเลยใช่ไหม” คางามิสวน

                “เออ แค่ชวนคุยผิดเรอะ เพื่อนกันคุยกันนายอย่าแส่เซ่”

                “ เฮ้ยๆฉันเป็นคู่หูคูโรโกะเจอคูโรโกะก่อนพวกนายเพราะฉะนั้นพวกนายหุปปากและให้พวกเราไปเที่ยวกันสองต่อสอง” อาโอมิเนะตะโกนและชิงตัวคุโรโกะกลับมาอีกครั้ง

                “ใครมาก่อนไม่เกี่ยวเฟ้ย ฉันจะชวนและฉันจะไปกับคูโรโกะพวกนายเงียบและไสหัวเดินด๊อกแด๊กกลับไปต้มมาม่ากินกันซะไม่ต้องมายุ่ง” วิญญาณดราม่าของคางามิยังคงไม่หลุด....

                .....ทั้งสามที่เถียงกันเงียบลงครู่หนึ่ง

                ....เหงื่อไหลตามใบหน้าและหลังจากความร้อนของแดดที่ฉายแวววิบวาบ (?) แผ่รังศีความร้อนมาอย่างไม่ยั้ง

                ทั้งสามจ้องตากันจนมีแสงไฟฟ้าเปรี๊ยะๆออกมา พวกเขาจ้องกันยาวนานเหมือนปลากัดที่จ้องจะมีลูก (?) หากแต่รอบนี้พวกเขาจ้องกันแย่งสาวน้อยโมเอ้ (?) อยู่นี้เอง

                นี่ใช่ไหมที่เขาเรียกกันว่าศึกชิงนาย (นาง)

                “งั้นพวกเราสามคนก็ไปด้วยกัน” คุโรโกะเอ่ยปากเบาๆ ทั้งสามก็หันหน้าขวับแบบรวดเร็วชนิดรถเฟอรารี่ย์ยังเร็วไม่เท่ามามองคุโรโกะเป็นตาเดียว

                “แต่...แต่ เราสองคน?” คางามิ

                “คุโรโกะจิอยากไปกับพวกนั้นหรอ?” คิเสะ

                “พวกนั้นปัญญาอ่อนไปกับฉันเถอะ” อาโอมิเนะ

                “ไปกันสี่คน ไม่งั้นไม่ไป” คุโรโกะ.... และเหตุนี้ทำให้ปิดเทอมเกือบหรรษาของสามหนุ่มหล่อกระชากใจกับหนึ่งสาว เอ๊ย หนึ่งหนุ่มโมเอ้จนแทบจะไปดิ้นตายบนพื้นบังเกิดขึ้น.....

     

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

                “ทะเล”

                “หาดทราย”

                “ป่า เต้นท์ บาร์บีคิว”

                “และสองเรา ถุ้ย ซะที่ไหนพวกแกกลับไปเลย อย่ามาเป็นก.ข.ค. ของฉันซิฟะ” คางามิแหกปากลั่นและมองคิเสะและอาโอมิเนะอย่างหงุดหงิด

                พวกเขาสี่คนแบกเต้นท์มาสองอันเตาบาร์บีคิว อาหารเพื่อนมาพักร้อนยังชายหาดลึกลับที่ไม่มีวี่แววของสิ่งปลุกสร้างของมนุษย์หรือนักท่องเที่ยวเลยทั้งสิ้น

                ผืนทรายสีขาวสะอาดและอุ่นเล็กๆน้อยจากแสงแดดที่ส่องลงมา พร้อมกับทะเลสีฟ้าใสไร้ขยะและมลพิษทั้งหลายแหล่ มันใสซะจนเห็นปลาเท่าขี้เล็บ (?) ว่ายดุ๊กดิ๊กเหมือนจิ้งจกตกน้ำ

                ข้างหลังเป็นผืนป่าใหญ่เต็มไปด้วยต้นไม้สูงโข มันเป้นร่มเงากำลังพอดีสำหรับการกางเต้นทืและทำบาร์บิคิวก่อนนอนทุกอย่างเหมือนจะเข้าที่เข้าทางไปหมด

                ....แต่ทว่ามันมีเต้นท์สองอัน...และชายหนุ่มสี่คน มันจะมีผู้โชคดีเพียงคนหนึ่งที่จะได้นอนกับคุโรโกะ

                และแน่นอนประเด็นนี้เป็นประเด็นที่ทุกคนต่างนั้งขมวดคิ้วคิดกันอยู่อย่างหนัก

                “ฉันจะเป็นคนนอนกับคูโรโกะ โอเค้? จบ” คิเสะพุดตัดจับและถอดเสื้อจนเหลือเพียงกางเกงว่ายน้ำที่ใส่มาก่อนหน้านี้

                “ไม่ฉันต่างหาก เข้าใจ๋? จบ” อาโอมิเนะตัดบทด้วยอีกคนพร้อมกับถือลูกบอลชายหาติที่เป่าจนลมเต็มแล้ว

                “ม่ายยยฉันต่างหาก” คางามิเอ่ยและหยิบแว่นตาว่ายน้ำขึ้นมา แม้ทั้งสามหนุ่มจะเหมือนทะเลาะกันพยายามแย้งคุโรโกะแต่ทว่าการกระทำของพวกเขามันแสดงให้เห็นว่าพวกเขาตื่นเต้นมากกกกก ที่จะได้ลงทะเล

                “แต่เรื่องนี้คค่อยว่ากันฉันจะลงไปว่ายน้ำแล้วเฮ” ว่าจบคางามิก้ไปดำน้ำเล่นกับปลาจิ้งจกอย่างมีความสุข แต่ทว่าปลาน้อยที่คางามิกำลังสื่อสารด้วยกลับว่ายน้ำหนีทันทีที่มีร่างยักษ์เดินแหวกน้ำมายังคางามิ

                “เอาแว่นตามา ฉันจะคุยกับปลา” อาโอมิเนะพูดด้วยร้ำเสียงนิ่งๆอย่างเผด็จการ แต่ทว่าเพื่อเพื่อนปลาน้อยๆคางามิจะไม่ยอมยกแว่นตาให้ใครเด็ดขาด

                ถ้สเขาให้ไปเขาจะเห็นหน้าเจ้าปลาน้อยยังไงกันล่ะ

                “ไม่ แฮ่ ไม่ให้” คางามิแยกเขี้ยวแฮ่ๆ

                “เอามา”

                “ไม่”

                “นับหนึ่ง”

                “ไม่”

                “งั้นพวกเรามาเล่นวอลเล่ย์บอล ใครชนะได้แว่นไป” อาโอมิเนะเสนอและชูลูกบอลลมขึ้น

                “ไม่ ฉันเป้นคนเอาแว่นมา นายจะทำให้ฉันกับปลาน้อยพลัดพรากจากกัน นายมันเลว ไป ไปหาเจ้าคิเสะนู่น” คางามิยังคงปฏิเสเป็นอย่างเดียว ใบหน้าของเขาแสดงความรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างสูง

                “งั้นแข่งว่ายน้ำกันใครไปถึงโขดหินนู่นก่อนชนะ”

                “ไม่”

                “ขี้ขลาดนี้หว่า”

                “เปล่าเว๊ย”

                “ไม่กล้านี่หว่า ไก่จริงๆ ฉันต่อไปจะเรียกนายว่าไก่กระต๊ากๆ”

                “เออ แข่งกันก็ได้ว่ะ” รอพ่อแป๊ปนึงนะลูกปลา เดี๋ยวพ่อจะชนะไอ้เสือดำไม่มีสมองก่อนและพ่อจะกลับมาหาพวกเจ้าใหม่

                “เอาแว่นไปให้คุโรโกะก่อน จะได้แข่งกันแฟร์ๆ”

                “เออๆๆ เรื่องมากจริง” คางามิลุกขึ้นวิ่งและเดินไปยื่นแว่นให้กับคุโรโกะที่กำลังนั้งก่อกองทรายกับคิเสะ

                “ฝากหน่อย และไอ้คิเสะถ้าแกกล้า ***** ****** ***** คุโรโกะนะเฟ้ยฉันเอาแกตายแน่” ว่าจบเสือน้อยก็วิ่งต๊อกแต๊กและออกแรงว่ายน้ำทันทีพร้อมกับอาดอมิเนะที่รีบว่ายตามพลางสาปแช่งคางามิที่ออกตัวว่ายน้ำก่อน

                และภายในไม่ช้าเสือดำไร้สมองกับเสืองี่เง่าก็ได้หายไป

                อะเด่ะ? งั้นตอนนี้เขากับ....เขากับ....คุโรโกะก็อยู่ด้วยกันสองต่อสองน่ะซิ

                ไรเตอร์ได้ทำการกำจัดนางมารร้ายสองตัวนั้นออกไปแล้วงั้นซิ? โอ้วเจ๋งไปเลย คิเสะนึกพลางฉีกยิ้มในใจอย่างเจ้าเล่ห์

                “คุโรโกะเรามาสร้างปราสาททรายกันเหอะ เอาให้ใหญ่ๆเลยนะ” คิเสะฉีกยิ้มอย่างดีใจและใช้มือขุดทรายจนเป็นบ่อใหญ่

                “...” คุโรโกะไม่ตอบแต่มือของเขากลับคอยสร้างปราสาทด้วยทรายที่คิเสะขุดออกมา ใบหหน้าของคุโรโกะยามนี้แดงเล็กน้อยจากแสงแดด แต่ใบหน้าของเจ้าตัวเล้กกลับฉายความพอใจออกมา

                ใบหน้าเล็กๆกับดวงตาสีท้องฟ้าจับจ้องไปยังผืนทราย

                ความสุขเล็กๆที่ก่อขึ้นจากการได้ทำอะไรกับคนที่ชอบันก่อตัวขึ้นในใจของคิเสะอย่างรวดเร็ว ดวงตาของคิเสะฉายแววความอ่อนโยน

                และอย่างไม่ได้ตั้งใจคิเสะยื่นมือไปลูบผมของคูโรโกะอย่างอ่อนโยน

                ร่างบางที่กำลังหมกมุ่นกับการก่อกองทรายชะงักเล้กน้อยและเงยหน้าขึ้นมาสบตาคิเสะ สายตาของทั้งคู่ประสานกัน

                เลือดที่ไหลเวียนในร่างกายของคิเสะเหมือนจะไหลเวียนมาบนหน้ามากไป ส่วนหัวใจของเขาก็กำลังเต้นดังระเบิดไปเลย มันเต้นเร็วซะจะเขาเริ่มอึดอัด

                แต่อาการของร่างกายของเขาไม่ได้ทำให้มือที่ลูบหัวของคูโรโกะหยุดทำงานแต่อย่างใด

                ริมฝีปกาของคิเสะโค้งเป็นรอยยิ้มนิดๆอย่างหยุดไม่ได้

                ให้ตายซิเขาไม่เคยรู้เลยว่าเขาชอบเจ้าตัวเล็กข้างหน้าเขามากขนาดนี้

                ความรู้สึกที่อยากจะกระชากคูโรโกะเข้ามากอดรัดแน่นและพรมจูบบนใบหน้าของคุโรโกะซ้ำไปซ้ำมามันเริ่มยากที่จะต้านทาน เริ่มยากที่จะเก็บมันไว้ข้างใน

                ต้นคอขาวเนียน.... ริมฝีปกาสีชมพูน่าจุมพิต.... นัยต์ตาสดใสสีท้องฟ้าประกายงามดึงดูดใจเขา มันเหมือนมีมนตร์อะไรสักอย่าง มนตร์ที่ทำให้เขาไม่สามารถหยุดมองได้

                แวบหนึ่งริมฝีปากของเจ้าตัวเล็กเผยอออกเล็กน้อย มันทำให้คิเสะคลั่ง คลั่งมากกว่าที่เคยเป็น

                เขาพยายามหลับตาและดึงมือตัวเองกลับมา เขาพยายามหายใจเข้าออกและสะกัดกลั้นความอยากแต่มันไร้ผล

                ในที่สุดเส้นความอดทนของเขาก็ขาด

                เขากระชากร่างเล้กเข้ามาและทาบริมฝปีกาตัวเองลงไป อุณภูมิของร่างกายเขากำลังจเป็นหนึ่งเดียวกับคุโรโกะ คิเสะใช้ลิ้นดุนปากของคุโรโกะให้เผยอออกยิ่งขึ้นมากพอที่จะให้เขาได้เข้าไปสำรวจข้างใน

                เนิ่นนานที่ริมฝีปากของทั้งคู่ทาบกัน

                คุโรโกะไม่ได้ขัดขืนเลยแม้แต่น้อย.... ไม่รู้เพราะอึ้งหรือเพราะยินยอม

                แต่มันมากเกินกว่าที่เขาจะหยุดได้ ริมฝีปากสวยในที่สุดก้ได้ตกเป็นของเขา เขาจะไม่ให้ใครหน้าไหนมาชิง ถึงแม้จะเป็นอาโอมิเนะจิกับคางามิจิเขาก้จะไม่ยอมยกคุโรโกะให้ใคร

                คิเสะถอนริมฝีปากออกมาเพีงชั่วครูเพื่อให้เขาและชายร่างบางในอ้อมกอดของเขาได้มีเวลาหายใจ

                เขาทาบริมฝีปากลงไปอีกครั้ง รอบนี้รุนแรงกว่ารอบเก่าทุกอย่าง ความรู้สึกทุกอย่างในตัวเขากำลังระเบิดออกมา เขาจูบอย่างหนักหน่วงราวกับจะกลืนกินคุโรโกะเข้าไปทั้งเป็น

                เขาขยับริมฝีปากตัวเองอย่างชำนาญและขบริมฝีปากของคุโรโกะเบาๆเป็นการหยอกล้ออีกครั้ง

                นานหลายนาทีที่จุมพิตของเขาดำเนินไป

                จนคิเสะได้สติมากพอที่จะถอนจูบออกมาและจ้องเข้าไปในดวงตาของคุโรโกะ

                “ขะ...ขอโทษนะ” คิเสะเอ่ยเบาๆ

                “...”

                “แต่ฉันชอบนายว่ะ” คิเสะมองใบหน้าไร้อารมณ์ของชายร่างเล็ก... ใบหน้าปราศจากอารมณ์ทำให้เขาแทบคลั่ง.... เขาอกหักงั้นหรอ

                แล้วทำไมเมื่อกี้คุโรโกะถึงไม่ผลักเขาออกมา ทำไม?

                “ฉันเพิ่งรู้”....เสียงนิ่งๆดังขึ้นจากริมฝีปากที่บวมขึ้นเล็กน้อยจากแรงจูบดูดดื่มที่เพิ่งผ่านมา

                “...” หัวใจของคิเสะเต้นเร็วและแรงขึ้นเรื่อยๆคุโรโกะรู้สึกยังไงกับเขา?

                “ฉันเพิ่งรู้ว่าจูบกับผู้ชายเป็นแบบนี้” ใบหน้าของคุโรโกะยังคงปราศจากอารมณ์

                “...”

                “แต่ไม่รู้ทำไม... ไม่รู้ทำไมฉันถึงไม่มีแรงพอที่จะผลักนายออกไป หรือแม้กระทั่งเลิกสบตานาย อย่าพูดถึงรังเกียจเลย ฉันกลับรู้สึกดีซะด้วยซ้ำที่นายจูบฉัน”

                “....” หัวใจของคิเสะเหมือนหยุดเต้นชั่วขณะ ความตกใจกับสิ่งที่เขาเพิ่งได้รู้มันทำให้เขาอยากจะกระโดดโหยงๆและจับเจ้าตัวเล้กนี้ไม่จูมหอมลูบคลำจน จน จน ว๊ากกกกกก

                “ฉัน....” ทันทีที่เขาพูดจบใบหน้าของคุโรโกะก็พลันเปลี่ยนเป็นสีแดง รอยยิ้มเล็กๆเกิดขึ้นบนใบหน้าของชายร่างเล็ก ชายร่างเล็กกางแขนออกและแนบหัวตัวเองลงกับออกของคิเสะพลางกอดไว้แน่น

                “นายแน่ใจแล้วใช่ไหม” คิเสะกระซิบข้างหูเบาๆ

                “อืม”

                “ฉันดีใจจัง ดีใจจนจะบ้าไปแล้ว ดีใจมาก ดีใจโคตร ดีใจเว่อร์ ดีใจ ดีใจ” คิเสะออกแรงกอดคุโรโกะแน่นอย่างหมั่นเขี้ยวหัวใจของเขาพองโตและอิ่มเอิบกับความสุข

                “แต่ถ้านายทำฉันแรงฉันจะฟ้องคางามิ” คุโรโกะพูดเบาๆแหย่คิเสะเล่นๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาฉวยหอมแก้มชายหน้าหล่อเบาๆ

                “หือ?” คิเสะเมื่อโดนขโมยจุมพิตซะเองถึงกับหน้าร้อนผ่าวพูดตะกุกตะกัก

                “revenge kiss น่ะ” คุโรโกะว่าและยิ้มนิดๆให้กับคิเสะ

                ...ว่าไปว่ามาแล้ว เจ้าพวกแมวงี่เง่าสองตัวนั้นหายไปไหนแล้วล่ะ?      
    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    เหมือนตอนนี้จะสั้น? ก็ๆม่ค่อยสั้น แต่เหมือนมันถูกตัดสั้นเกินไปเนื้องเรื่องควรยาวกว่านี้?
    >O<!!? ตอนนี้เป็นตอนแรกในฟิคที่เป็นเรื่องต่อเพราะเดี๋ยว holiday2 จะโผล่มา 5555
    โอ้วไรเตอร์ชักจะบ้าขึ้นแล้วทุกวัน ฮ่าๆ (หัวเราะอย่างเก้อๆ)
    ไปและเด้อ 
    ป.ล. เม้นท์นิดเม้นทืหน่อยกำลังใจไรเตอร์
    ป.ล.2. ติชมกันได้ (ป.ล. ขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยชี้แนะข้าน้อยในการแต่งเรื่อง ข้าน้อยกำลังพยายามอยู่ พยายามทำให้มันดีขึ้น)
    ป.ล.3 ไปล่ะเด้อ บ๊ายบาย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×