คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ไขคดี ท่านเจ้าคุณปู่
Poor Detective นักสืบยาจก
4
[ไขคดี ท่านเจ้าคุณปู่]
ณ ห้องโถง ชั้น 1 คฤหาสน์อินทรเศรษฐี
“คุณสารวัตรองอาจค่ะ ก่อนที่จะมาที่นี่เรียกฝ่ายพิสูจน์หลักฐานและอุปกรณ์ตรวจลายนิ้วมือมาให้ด้วยนะค่ะ “ เสียงพูดเจื้อยแจ้วของอรที่กำลังคุยกับสารวัตรอย่างเพลินจิตเพลินใจ ทำให้ป้าโฉมรตีออกมาดู เพราะคนใช้ของตระกูลนี้ ไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้โทรศัพท์กลางห้องโถงแบบนี้
“จริงสิค่ะ ป้าโฉมรตี เดี๋ยวป้าช่วยไปเอาปากกาที่อยู่ในห้องของคุณเลสเทรดมาทีนะค่ะ นิดาเขาวานมานะค่ะ” อรก้มตัวขอร้องป้าโฉมรตีให้ช่วยไปเอาปากกาที่ห้องของคุณเลสเทรดเพราะอีกไม่นานก็จะถึงเวลาที่นัดกับทุกคนไว้แล้ว ซึ่งป้าโฉมรตีก็ไปเอามาให้
ณ ห้องรับแขก ชั้น 1 คฤหาสน์อินทรเศรษฐี
“นี่เป็นพวกเธอ2คนเองเหรอที่มาโทรให้ฉันมาที่นี่นะ” องอาจมาถึงก็ตะโกนใส่อรกับนิดาทันที เพราะเจ้าตัวกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องคดีอยู่
“ก็ต้องเกี่ยวกับคดีซิค่ะ เรา2คนถึงได้เรียกพวกคุณมา เอาล่ะค่ะมากันครบแล้ว งั้นก็ขออธิบายเลยก็แล้วกันนะค่ะ” นิดาเถียงกลับโดยที่สารวัตรองอาจก็เถียงไม่ออกเฉกเช่นเดียวกัน โดยที่ในใจสารวัตรอยากจะโต้กลับมาว่า เบนอล์ฟเป็นคนร้าย จากไดอิ้งแมสเซจ และปากกาที่ตรวจสอบลายนิ้วมือแล้ว ก็พบว่ามีแต่รอยนิ้วมือของท่านเจ้าคุณปู่
“คุณสารวัตรตอนที่นำปากกาในที่เกิดเหตุไปตรวจสอบ ปากกาปิดอยู่อย่างแน่นอนใช่ไหมค่ะ” นิดาถามสารวัตรองอาจ แล้วสารวัตรองอาจก็พยักหน้าตอบกลับมาว่าใช่
“และ คุณเลสเทรด คุณได้ปากกาที่อยู่ในมือของป้าโฉมรตีมาได้ยังไงกันค่ะ? ” นิดาถามเลสเทรด โดยที่ป้าโฉมรตีก็นำปากกาที่ไปเจอในห้องของเลสเทรดยื่นมาให้อร
“ ปู่เป็นคนให้ผมมาเมื่อ5ปีที่แล้ว ตอนนั้นปู่ได้ไปประเทศจีน แล้วได้ปากกามา2ด้ามนี้มา ตอนนั้นทั้งบ้านแค่มีผมอยู่แค่คนเดียว พี่กับแมรีด้ายังเรียนต่ออยู่ที่เมืองนอก ปู่เลยให้ด้ามหนึ่งมาให้ผมเป็นของขวัญวันเกิด” เลสเทรดตอบออกมาอย่างชัดเจน
“ก็ไม่เห็นจะแปลกอะไรเลยนี่? ” องอาจถามอย่างงงๆกับสิ่งที่นิดาถามเลสเทรดไป
“คุณนี่ไม่รู้อะไรเลยใช่ไหมค่ะ ปากกานะเขียนได้สักกี่เดือนกันห้ะ!! ใช้แป๊ปเดียวหมึกก็หมดแล้ว ท่านเจ้าปู่ใช้ปากกาด้ามนี้มา 5 ปีเพราะเป็นปากกาที่หวงแหนมาที่สุด แต่จากที่สอบถามคุณแมรีด้าแล้ว ตลอด 5 ปีนี้ท่านเจ้าปู่ไม่เคยเปลี่ยนปากกาเลย แสดงว่าก็ต้องเปลี่ยนไส้ปากกา เพราฉะนั้นไส้ปากกาเลยเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่สุด” นิดาเอ่ยเล่าสาธยายเรื่องทั้งหมดที่เป็นหลักฐานที่ทุกคนนั้นมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย
“งั้นคุณเลสเทรด คนร้ายก็คือคุณสินะ เพราปากกาอยู่ในห้องคุณ” สารวัตรองอาจพยายามไล่ต้อนเลสเทรด เตรียมที่จะจับกุม แต่นิดาห้ามไว้ได้ทันท่วงที
“เดี๋ยวก่อนค่ะ ถึงเราจะมองปากกามีลักษณะภายนอกที่เหมือนกันจนแยกไม่ออก แต่ลองดูตัวอักษรที่ใช้ปากกาแต่ละด้ามเขียนขึ้นมาสิ เพราะว่าการใช้งานของปากกาทั้ง 2 ด้ามต่างกันโดยสิ้นเชิง” นิดาพูดแล้วสะกิดอร ให้ลองนำปากกาทั้ง 2 มาพินิจพิเคราะห์ดู ปรากฏออกมาว่า ของห้องคุณเลสเทรดนั้น ตัวอักษรที่ติดอยู่ที่ปากกา มีการหลุดลอกออกบางส่วน เหมือนจะถูกใช้งานมาอย่างหนัก แต่ของที่อยู่ในที่เกิดเหตุกลับสวยงามเหมือนไม่เคยใช้
“คุณเลสเทรดค่ะ คุณใช้ปากกาด้ามนี้ตอนไหนบ้างค่ะ? ” นิดาถาม โดยเลสเทรดก็ได้ตอบว่าใช้งานเพียงแค่เมื่อคืนเท่านั้น เพราะมีงานด่วนและปากกาของผมก็หมึกหมด เลยต้องใช้แท่งนี้แทนไปก่อน
“ดูจากสภาพปากกาแล้ว ปากกาในที่เกิดเหตุเป็นของคุณเลสเทรดอย่างแน่นนอนค่ะ” นิดาพูดโดยที่สารวัตรองอาจแย้งขึ้นมาทันทีว่า มันมีแต่ลายนิ้วมือของท่านเจ้าปู่เพียงคนเดียว
“มีลายนิ้วมือได้ ก็ต้องลบลายนิ้วมือได้จริงไหมค่ะ สารวัตรองอาจ” คำพูดนี้ของนิดาทำให้สารวัตรองอาจนิ่งไปชั่วขณะ ที่ลืมเรื่องสร้างลายนิ้วมือไปได้ยังไงกัน
“เอ่อ คุณเบนอล์ฟค่ะ ช่วยไปหยิบอุปกรณ์ตรวจลายนิ้วมือมาไว้ตรงนี้ทีนะค่ะ” นิดาสั่งการเบนอล์ฟซึ่งเป็นคนอารมณ์โกรธเกรี้ยวได้อยู่หมัด
ผ่านไปไม่ถึงนาที
“ผลตรวจออกมาแล้ว ปากกาด้ามที่อยู่ในที่เกิดเหตุ กรอบนอกมีแต่ลายนิ้วมือของท่านเจ้าปู่เติมไปหมด แต่ไส้ในไม่มีรอยนิ้วมือเลย” สารวัตรประกาศผลความจริงออกมาให้ทุกคนได้ทราบแจ่มแจ้ง
“แท่งนี้เป็นของคุถณเลสเทรดแน่นอนค่ะ เพราะไม่มีลายนิ้วมืออยู่ที่ไส้ แสดงว่าไม่ได้เปลี่ยนไส้” นิดาพูดอย่างมั่นใจราวกับว่าคาดการณ์ว่าสารวัตรองอาจต้องพูดอย่างนี้แน่นอน
“ทำไมไม่ได้เปลี่ยนไส้ล่ะ ผ่านมา 5 ปีแล้วหมึกก็น่าจะแห้งแล้วนี่” สารวัตรองอาจถามนิดาเกี่ยวกับไส้ปากกา ซึ่งนิดาก็ได้บอกไปว่า หมึกในปากกาแท่งนี้เป็นหมึกพิเศษอยู่ได้นานถึง 6 ปี
“และด้ามที่อยู่ในห้องของคุณเลสเทรด กรอบนอกมีลายนิ้วมือของ ท่านเจ้าปู่ คุณเลสเทรด และคุณเบนอล์ฟ และไส้ปากกามีเพียงแต่รอยนิ้วมือของท่านเจ้าปู่” สารวัตรองอาจประกาศผลความจริงต่อจากที่นิดาพูดเสร็จ
“ในเมื่อปากกาด้ามนี้เป็นของท่านเจ้าปุ่ท่านจึงมีรอยนิ้วมือติดอยู่ และคุณเลสเทรดที่ใช้ปากกามาเมื่อวาน แล้วทำไมถึงมีรอยนิ้วมือของคุณติดอยู่ได้ละค่ะ คุณเบนอล์ฟ” นิดาชี้ไปที่เบนอล์ฟ พร้อมทุกคนที่หันไปมอง
“คุณเบนอล์ฟ คุณคงคิดสินะว่าต้องมีคนเห็นคุณเลสเทรดใช้ปากกาเหมือนกัน ยิ่งทางตำรวจรู้แล้วว่าไดอิ้งเมสเซจเป็นของปลอม คงเข้าใจเหมือนกันหมดว่าคุณเลสเทรดเป็นคนร้าย ถูกไหมค่ะ?” นิดาถามพร้อมยิ้มอย่างมีเล่ห์นัย เพราะว่าคนร้ายต้องจนมุมแน่ๆ
“ทำไมหล่ะ? ในเมื่อไม่มีใครรู้ว่าคุณเลสเทรดมีปากกาน่ะ” สารวัตรองอาจถามเกี่ยวกับที่นิดาพูดออกมาตะกี้
“ เดี๋ยวคุณเบนอล์ฟ ก็คงทำไปเดินห้องคุณเลสเทรด แล้วก็ไปเจอปากกานะสิค่ะ ถ้าทำแบบนี้ มีลายนิ้วมือของเขาติดอยู่ก็ไม่แปลก แต่เผอิญที่ฉันสั่งให้ป้าโฉมรตีตัดหน้าคุณไปหยิบมาก่อนนะค่ะ” นิดาพูดและสั่งให้สารวัตรจับตัวคุณเบนอล์ฟ
“หลังจากนั้น คดีนี้ก็ลงข่าว โดยที่คุณเบนอล์ฟสารภาพออกมาว่า ท่านเจ้าคุณปู่ค้าขายอาวุธที่ผิดกฎหมาย แรกๆเขายอมทำเพราะคิดว่ามันจะทำให้ท่านเจ้าคุณปู่รักเขายิ่งขึ้น แต่แล้วเขาก็เจอคนคนหนึ่ง คนที่ดีเกินกว่าเค้าจะอาจเอื้อมไปถึง ถึงแม้การพบเจอกันครั้งนั้น จะเป็นเพียงการบังเอิญเจอกัน แต่นั่นก็ทำให้เขารู้สึกละอายใจจึงไปบอกกับท่านเจ้าปู่ว่าจะเลิกทำขั้นเด็ดขาด แต่ท่านเจ้าคุณปู่ซึ่งกำลังเมาอยู่ก็บอกว่า..” อรอ่านข่าวในหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ให้นิดาฟัง
“ท่านเจ้าคุณปู่พูดว่าอะไรเหรออร?”นิดาถามอรซึ่งกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับข่าวในหนังสือพิมพ์อยู่
“ก็ท่านเจ้าคุณปู่ก็พูดว่า ที่ฉันให้แกมาทำงานก็เพราะจะหลอกใช้แกไง พอตำรวจมาจับแก ฉันก็จะโยนความผิดทั้งหมดให้แกไง ถึงแกจะทำยังงี้ฉันก็ไม่รักแกเหมือนหลานคนอื่นๆหรอก เพราะแกมันไอ้ขี้ขลาด พอได้ยินอย่างนั้นเลยเกิดอารมณ์ชั่ววูบไป”
“ได้หน้าเต็มที่เลยน่ะ สรวัตรองอาจ” อรพูดเหมือนไม่พอใจนิดๆ เพราะพวกเธอ 2 คนเป็นคนที่ไขคดี
“แต่พวกเธอ 2 คนก็ทำได้เยี่ยมเลยนะ” เหมียวทั้ง 2 ตัวออกมาจากกระเป๋านิดาออกมาชมให้กำลังใจ
“แต่อร ปัญหาตอนนี้ของพวกเราคือ เราจะไปทำงานที่ไหนกันดี ฮือๆ” นิดาพูดพลางร้องไห้ โดยมีอรกับแบลคไมน์คอยปลอบใจ
“เฮ้อ จากนักสืบมือฉมัง กลายเป็นนักสืบยาจก ไร้ที่ไปซะแล้วแฮะ เหนื่อยใจเกินแก้จริงๆ” ไวท์เบิร์นแอบพึมพำในใจคนเดียวเงียบๆ
ความคิดเห็น