คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทนำ
บทนำ
"ขโมย! ขโมย!!" เสียงร้องขอความช่วยเหลือตะโกนดังลั่นตลาด ตามมาด้วยเสียงตึงตังของฝีเท้าที่กระทบกับพื้นกระเบื้อง บรรยากาศคึกคักของตลาดใจกลางเมืองหลวงแอนธีเนียยามบ่ายดูโกลาหลในพริบตา เสียงเอะอะโวยวายของพ่อค้าแม่ค้าดังขึ้น พ่อค้าบางคนที่ตั้งสติได้รีบคว้าของที่อยู่แถวๆ นั้นเขวี้ยงใส่เจ้าหัวขโมยทันที แต่ก็สมฉายา หัวขโมยเอี้ยวหัวหลบเพียงเล็กน้อย ก่อนจะรีบวิ่งหายไปในตรอกมืด พร้อมกับสร้อยเพชรราคาแพงขององค์หญิงเทียร์เซร่า...องค์หญิงคนสุดท้องของราชวงศ์ผู้ปกครองเมืองแอนธีเนีย
หลายคนเลือกที่จะวิ่งตามล่าหัวขโมย แต่ก็มีบางคนที่ไม่ได้เลือกทำเช่นนั้น
ชายชราร่างเล็ก ไว้เคราแพะ แต่งกายเหมือนพ่อค้าทั่วไปๆ เดินอย่างเร่งรีบมุ่งตรงไปที่ร้านขนมหวาน
"ลีรอย! เปิดประตูสิโว้ย เปิดๆ!!"
ปัง ปัง!
ชายชราตะโกนสลับเคาะประตู ความถี่ในการเคาะเร็วขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่ชายชราจะตัดสินใจใช้เท้ายันประตูห้องแทนการเคาะทันที เสียงโครมตามกันมาติดๆ ประตูไม้ร้านขนมหวานเปิดโผลง ชายชราหอบแฮก ก่อนสาวเท้าเดินไปหาใครสักคนผู้เป็นเจ้าของชื่อทันที
แล้วใครคนนั้นก็ยังคงนอนหลับอยู่บนโซฟาในร้านอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เสียงกรนของเด็กหนุ่มดังขึ้นเบาๆ บ่งบอกว่าเขากำลังหลับสนิท
ชายชราคิ้วกระตุก เพียงสะบัดมือ สายน้ำเย็นเฉียบก็สาดโครมเข้าที่ร่างของลีรอยเข้าเต็มรัก
"เฮ้ย?!!" ลีรอยสะดุ้งพรวด ความง่วงหายเป็นปลิดทิ้ง ใบหน้าหล่อเหลาคมคายเต็มไปด้วยหยาดน้ำ เรือนผมสีส้มอรุณเปียกแฉะ นัยน์ตาสีเดียวกันส่องประกายความตกใจปนงุนงงอย่างเห็นได้ชัด มือแกร่งปาดน้ำออกจากใบหน้า ก่อนที่ลีรอยจะลุกพรวด กระชากคอเสื้อของชายชราอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันให้ชายชราตั้งตัว
"เล่นอะไรของแกน่ะหา!!" ลีรอยตวาดลั่น
"ปล่อยข้านะโว้ย!" ชายชราตับผัวะเข้าที่กลางกระหม่อม ความอดทนที่มีน้อยอยู่แล้วของลีรอยขาดผึง
"นี่แกกล้าตบฉันเรอะ!" ลีรอยเขย่าคอเสื้อชายแก่อย่างแรง หัวของชายชราโคลงไปมาตามแรงเขย่า "กล้าดียังไงถึงมาปลุกฉัน! ไอ้แก่กล้วยเหี่ยว!!"
"ไม่เหี่ยวเว้ย! ออกจะเต่งตึงแข็งแรง! ...โอ๊ย ปล่อยข้านะไอ้ลีรอย! ปล่อยก่อนซีโว้ย!" ชายชราอาศัยจังหวะที่ลีรอยกำลังโกรธหน้ามืดร่ายคาถาอัดเปลวเพลิงเล็กๆ เข้าที่มือของเด็กหนุ่มทันที
เสียงโอ๊ยดังลั่น มือที่ขยุ้มคอเสื้อชายชราปล่อยออกอย่างรวดเร็ว
"เจ็บนะไอ้แก่!"
"เวทย์ของข้าใครไม่เจ็บก็บ้าแล้วล่ะ!!" ชายชราไอโขลก หน้าดำหน้าแดง พยายามสูดอากาศเข้าเต็มปอด มือแห้งกร้านลูบที่ลำคอของตัวเองเบาๆ
"แล้วนี่ปลุกฉันมาทำไม ถ้าไม่มีเหตุผลที่ดีพอล่ะก็..." ลีรอยแยกเขี้ยว สะบัดข้อมือแรงๆ เปลวเพลิงเล็กๆ ก็ค่อยๆ มอดหายไป "กล้วยเหี่ยวๆ ของแกจะกลายเป็นกล้วยปิ้งซะเดี๋ยวนี้แหละ!!"
ชายชราสะดุ้งโหยง เผลอกุมเป้าโดยอัตโนมัติ
"หัวขโมยเจ้าเก่าเริ่มออกล่าอีกแล้ว คราวนี้มันบังอาจฉกสร้อยเพชรของรักของหวงขององค์หญิงเทียร์เซร่า" พูดถึงตรงนี้ชายชราทำหน้าเคลิ้ม นึกถึงใบหน้างดงามดุจเทพธิดาขององค์หญิง ก่อนจะรู้สึกได้ถึงสายตาที่มองมาของลีรอย ชายชรากระแอมไอ เก๊กหน้าขรึมทันที "ข้าเลยอยาก...เอ่อ ให้แกไปช่วยตามจับหน่อยน่ะ"
ลีรอยเตะโต๊ะดังโครม ชายชราสะดุ้งอีกรอบ
"นี่แกบ้ารึเปล่านะหา!!" ลีรอยตวาดลั่น "ปลุกฉันขึ้นมาเล่นไล่จับกับหัวขโมย? ไปจับเองสิโว้ย! เรื่องไร้สาระแบบนี้ฉัน-ไม่-ทำ!!"
"แต่มันเป็นหัวขโมยผู้โด่งดังแห่งแอนธีเนียเชียวนะ" ชายชราไม่ยอมแพ้ "...แกกลัวตามจับไม่ได้ล่ะสิท่า"
ชายชราพูดยั่ว ดูเหมือนคำยั่วจะได้ผล ลีรอยคิ้วกระตุก หักนิ้วดังกร๊อบๆ อย่างน่าหวาดเสียว
"แก...กล้าดูถูกฝีมือคนอย่างฉัน แล้วแกจะเสียใจ!" ลีรอยกระชากเสียง คว้าผ้าแถวๆ นั้นขึ้นมาเช็ดน้ำตามเนื้อตัว สะบัดเอาน้ำออกจากหัว ก่อนจะหันไปเขม่นใส่ชายชราอีกรอบ เดินตึงตังออกจากร้านขนมหวานทันที
ชายชราลอบยิ้ม หัวเราะในลำคอเบาๆ "ติดกับข้าซะแล้วสิ เด็กก็ยังคงเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ"
"นี่ป้า หัวขโมยเมื่อกี้วิ่งไปทางไหนเหรอ" ลีรอยเอ่ยถามป้าเจ้าของร้านขายผลไม้ แม้จะไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ที่ต้องมาทำอะไรให้กับเรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่เขาก็ยอมไม่ได้ที่จะให้ใครมาท้าและดูถูกเขา ป้าที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดผลไม้เงยหน้าขึ้นมองเด็กหนุ่ม ก่อนจะรีบชี้มือชี้ไม้ไปทางตรอกมืดทันที
"ทางนั้นจ๊ะพ่อหนุ่ม พ่อหนุ่มจะไปช่..."
พูดไม่ทันจบประโยค พ่อหนุ่มอารมณ์ร้อนก็เดินไปทางตรอกมืดทันทีอย่างไร้มารยาท คำขอบคุณสักคำยังไม่มี ร่างสูงเดินลึกเข้าไปในตรอกมืด บ่นพึมพำตามประสาคนอารมณ์ไม่ดี ในขณะที่ดวงตาสีส้มอรุณก็ยังคงจับทุกความเคลื่อนไหว หูก็พยายามเงี่ยฟังทุกสรรพสิ่งในความมืด
กริ๊ก! เสียงอะไรสักอย่างดังขึ้น ลีรอยหันไปตามที่มาของเสียงทันที
เป็นเด็กหนุ่มร่างสูง คาดคะเนจากสายตาคงอายุพอๆ กับเขา ดวงตาสีฟางทอประกายราบเรียบ เรือนผมสีฟางซอยสั้นระต้นคอ ใบหน้าหล่อเหลาแต่เรียบนิ่งดุจรูปปั้น เครื่องแต่งกายที่มองผ่านๆ ก็รู้ว่าเป็นของราชวงศ์ชั้นสูง ลีรอยเลิกคิ้ว
ท่าทางอย่างนี้ดูยังไงก็ไม่ใช่หัวขโมย... แต่หมอนี่มาทำอะไรคนเดียวในตรอกเปลี่ยวๆ นี่ล่ะเนี่ย
ลีรอยคิด
"เจ้าเห็นคนท่าทางมีพิรุธเดินผ่านมาแถวนี้บ้างรึเปล่า" ลีรอยเอ่ยถาม เด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีฟางหันมามอง ก่อนที่จะปลายตามองลีรอยตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมเผ้าสีส้มยุ่งเหยิงมีหยดน้ำเกาะพราวเป็นหย่อมๆ เสื้อผ้ายับยู่ยี่เหมือนคนพึ่งตื่นนอน ไหนจะดาบเล่มโตที่สะพายกลางหลังนั่นอีก เด็กหนุ่มผมฟางสรุปความคิดเห็น...
"ก็เจ้าไง...ท่าทางมีพิรุธ"
ลีรอยคิ้วกระตุก "อย่ามาเล่นลิ้น! ข้าถามดีๆ เจ้าก็ตอบดีๆ จะได้มั้ย"
"ข้าว่าข้าตอบดีแล้วนะ นอกจากตรอกนี้แล้ว ข้าก็ไม่เห็นมีใครท่าทางมีพิรุธเกินกว่าเจ้า..." ว่าเสียงเรียบ ใบหน้ายังคงเฉยชานิ่งสนิท แววตาสีฟางไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา ผิดกับไอ้คนหัวส้ม อารมณ์เดือดเริ่มพุ่งทะลุลิมิต ในใจก็พยายามนับหนึ่งถึงร้อย...
หนึ่ง สอง...
"ข้าว่าหัวขโมยนั่นคงเป็นเจ้าล่ะมั้ง หน้าตาแบบนี้ถ้าไม่ใช่โจรป่าก็คงเป็นพวกลักลอบขนสินค้าข้ามชาติ"
ไม่นับมันแล้วโว้ย!
ลีรอยเข้าประชิดตัว ประเคนหมัดลุ่นๆ ใส่ทันที ฝ่ายตรงข้ามระบายลมหายใจเหนื่อยหน่าย ก่อนก้มหัวหลบ "...หัวขโมยจริงๆ ด้วยสินะ"
"หัวขโมยบ้านป้าแกสิ!!" ลีรอยยิ่งเดือดเข้าไปอีกเมื่อคนตรงหน้าหลบหมัดเขาได้ ฝ่ายตรงข้ามเลิกคิ้ว มองลีรอยด้วยสายตาเฉยชา
"โทษนะที่อยู่เล่นด้วยไม่ได้...ขอตัว"พูดจบ ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีฟางก็วิ่งหายลับไปในตรอกมืดทันที รวดเร็วซะจนลีรอยไม่ทันได้ยื้อห้ามเลยสักนิด ยังไม่ทันได้หายแปลกใจอะไร เสียงเอะอะโวยวายก็ดังขึ้นที่ปากตรอก เสียงควบม้าดังกุบกับดังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เพียงชั่วครู่ ทหารหลวงในชุดเกราะสีขาวปลอดบนหลังม้านับสิบนายก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า ยิ่งทำให้ตรอกที่แคบอยู่แล้วดูแคบลงไปในถนัดตา ลีรอยเงยหน้ามองทหารหลวง ทำหน้าหงุดหงิด
"แถวนี้ไม่มีหัวขโมย คนท่าทาง'มีพิรุธ'ก็เผ่นหายไปไหนแล้วไม่รู้ เพราะฉะ..."
ไม่ทันให้ลีรอยได้พูดจบประโยค ปลายดาบของทหารก็พาดอยู่ที่คอเสียก่อน
"สร้อยเพชร!?" ทหารว่า "ไม่ผิดแน่ สร้อยเพชรที่อยู่บนข้อมือของไอ้หมอนี่เป็นขององค์หญิง! ทหาร!! จับมัน!"
"เฮ้ย!! สร้อยเพชรอะไร!? ข้าไม่ใช่หัวขโมย!!!"
ลีรอยรีบเหลือบมองข้อมือตนเองอย่างไม่เชื่อ แต่ก็เป็นที่ประจักษ์ สร้อยเพชร...สร้อยเพชรน้ำหนักเบาที่เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าใส่มันตอนไหน ภาพเด็กหนุ่มผมฟางฉายชัดขึ้นมาในหัวสมอง ตอนที่ลีรอยเข้าประชิดตัวเด็กหนุ่มนั่น ฝ่ายนั้นคงอาศัยจังหวะแฝงสร้อยให้เขา ลีรอยกัดฟันกรอด
คำทักท้วงของลีรอยดูเหมือนจะไม่เข้าหูเมื่อทหารนับสิบคว้าโซ่พันธนาการตรึงข้อมือลีรอยไม่ให้หลุด ควบคุมตัวลีรอยไปสู่คุกหลวงแห่งราชวังแอนธีเนียทันที...
ทหารหลวงควบม้าผ่านไปแล้ว แต่เด็กหนุ่มผมฟางยังไม่ได้ไปไหน เขายืนอยู่บนหลังคา ยิ้มเยาะ แววตาเฉยชาส่องประกายเจ้าเล่ห์ แอ็กซ์เซลสะบัดผ้าคลุมไหล่เนื้อดี ฉับพลันสร้อยเพชรมูลค่าสูงก็ปรากฏขึ้น
สร้อยเพชรนี่สิของจริง...
และแล้วก็ปั่นบทนำเสร็จ ตะลาลา~
ช่างเป็นบทนำที่...กากมาก =_____= ;;
พระเอกออกไปแล้วสองหน่อ~ คาดว่าตอนหน้าคงมากันครบ =..=!
ความคิดเห็น