ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องสั้นเสริมสร้างแรงบันดาลใจ

    ลำดับตอนที่ #4 : จะไม่มีวันลืม

    • อัปเดตล่าสุด 20 มี.ค. 56





    จะไม่มีวันลืม

     

     

     

    "หวังว่านายคงจะไม่ลืมเราหรอกนะ"

     

    "เราไม่มีวันลืมเธอหรอก ยิหวา ฉันจะรอเธออยู่ที่หน้าโรงเรียนเสมอ อีก 15 ปีให้หลัง เราสองคนต้องกลับมาเจอกันนะ"

     

    และจนบัดนี้ ผ่านมา 15 ปีแล้ว จากที่เราสองคนเคยสัญญากันไว้ว่าจะไม่ลืมกันและกัน แต่เมื่อการเวลาเปลี่ยนไป จึงทำให้ฉันได้ทราบว่าไม่มีทางหาเพื่อนรักที่ชื่อ นกฮูกเจออีกแล้ว

    เราไม่มีเบอร์โทรศัพท์ เราไม่มีที่อยู่ที่แน่นอน จึงทำให้การติดต่อในสมัยก่อนเป็นไปไม่ได้เลย แต่ฉันก็ไม่เคยมีวันลืมนายนกฮูก เพื่อนซี้ที่เป็นทุกอย่างในวัยเด็กของฉันลงไปได้

     

    ฉันทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายขายในบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งตอนนี้อายุก็ปาเข้าไป 32 ปีแล้ว และตอนนี้ฉันก็มีความสุขดี

     

    แต่...

     

    ทุกๆ วันฉันเฝ้าถามตัวเองเรื่อยๆ ว่าทำไมฉันต้องคิดถึงเพื่อนคนหนึ่งในวัยเด็กอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอีก 15 ปีให้หลังฉันก็โง่บรมมากที่เดินทางกลับไปยังบ้านเกิดจริงๆ ด้วยเหตุผลเพียงแค่ว่า ฉันต้องทำตามสัญญา เท่านั้น

     

    "หน้าโรงเรียน ไม่เปลี่ยนเลย โรงเรียนบ้านนอกก็แบบนี้แหละฉันเอ่ยขึ้นหลังจากแบกสัมภาระมากองที่หน้าโรงเรียน บ้าจริงเชียว นัดกันวันไหน ยังไม่รู้เลย ถ่อมาทำไมล่ะเนี่ย"

    ฉันไม่รู้มาก่อน ว่าสัญญาที่นายนกฮูกเคยให้ไว้นั้น เป็นวันไหน? แต่ฉันก็ดันมา และก็ไม่รู้ว่าจะตรงวันกันหรือเปล่า แต่ถ้าให้ถ่อรออยู่ที่นี่เป็นปี เห็นทีคงเป็นไปไม่ได้ ฉันคงไม่เอาด้วยหรอก

     

    มันเป็นสัญญาของเด็กสองคน ที่อาจเพียงแค่พูดเล่นๆ ก็ได้ แต่ฉันน่ะดันคิดจริงจังไปเอง

     

    เอาเข้าจริงๆ ฉันก็ดันมานั่งเฝ้ารออยู่เป็นอาทิตย์ พร้อมทั้งเขียนป้ายบอกด้วยว่าฉันคือยิหวาที่มานั่งรอนาย

    นกฮูก ซึ่งมันงี่เง่าพอดู และฉันก็รู้สึกแย่มากที่ไม่มีใครมาทักเลย มีแต่เด็กตัวเล็กๆ หัวเราะฉันระหว่างเดินเข้าโรงเรียนด้วย

     

    และนั่นทำให้ฉันแน่ใจแล้วว่า คำสัญญาของนายนกฮูกเป็นเพียงคำหลอกลวง หมอนี่อาจจะไม่ได้ใส่ใจเลยด้วยซ้ำ ว่ามันเคยสำรอก หรือพูดอะไรออกมา และคนโง่ก็มีแค่ฉันเองนี่แหละที่หลงเชื่อมันเข้าไปแล้ว

     

    จากจังหวัดยโสธร ฉันต้องนั่งรถทัวร์กลับเข้ากรุงเทพแบบหัวเสีย แต่ฉันก็ไม่ได้ไปเสียเที่ยวเท่าไหร่หรอก เพราะฉันยังแอบทิ้งข้อความให้ภารโรงแก่ๆ เก็บเอาไว้ให้นายนกฮูกอีกด้วย เผื่อเจ้าหมอนั่นมาตามหาฉันบ้างน่ะนะ พร้อมทิ้งเบอร์โทรศัพท์มือถือไว้ให้มันเผื่อมันอยากติดต่อกลับมาหาฉัน ฉันจะได้ด่ามันให้ขี้แตกไปเลย

     

    แต่แล้วก็เข้าปีใหม่ ปีที่ 16 ก็ไร้วี่แววว่านายนกฮูกจะติดต่อมา

     

    ฉันได้แต่ยิ้มในใจเสมอว่ามันลืมฉันได้ ฉันก็จะลืมมันบ้าง

     

    ซึ่งการยิ้มครั้งนี้เป็นการยิ้มทั้งน้ำตา

     

    และเวลาก็ผ่านไปราวกับโกหก จนฉันลืมนายนกฮูกไปจริงๆ เสียแล้ว

     

    ทว่า เรื่องราวของนายนกฮูกก็กลับมาอีกครั้ง หลังจากที่ฉันได้รับโทรศัพท์ทางไกลจากจังหวัดยโสธร

     

    "ผมเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนระบือพิทย์ครับ คุณคือคนที่ฝากโน้ตไว้เมื่อ 2 ปีก่อนหรือเปล่า คือผมอยากคุยกับคุณหน่อยได้ไหมครับ พอดีผมเพิ่งรู้เรื่องโน๊ตนี้จากภารโรง"

     

    ฉันอมยิ้มในใจ นี่อาจจะเป็นนายนกฮูกก็ได้ที่เนียนโทรมา เอาล่ะสิ เล่นด้วยก็ได้

     

    "จะให้ไปเจอที่ไหนล่ะคะ"

     

    "ที่หน้าโรงเรียนไงครับ"
     

    ฉันตกปากรับคำทันที พร้อมยื่นซองลางานอย่างกะทันหัน แหม... นายนกฮูกนะนายนกฮูก แกล้งทำเป็นนัดฉันไปหน้าโรงเรียนอีกรอบ กะจะทำเซอไพรซ์ฉันล่ะสิ!! แน่นอน ผิดนัดกันขนาดนี้ นายต้องเลี้ยงโต๊ะจีนฉันเลยนะ ห้าๆ

     

    ฉันกลับมาถึงจังหวัดยโสธรเพียงวันเดียวเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่า คนที่ฉันดั้นด้นมาพบก็ไม่ใช่นายนกฮูกอยู่ดี

     

    "คุณยิหวาใช่ไหมครับ ผมอยากให้คุณตามมาดูที่นี่สักหน่อย" ผู้อำนวยการโรงเรียนบอกสั้นๆ พร้อมพาเดินไปที่หน้ากำแพงโรงเรียน

     

    "คุณรู้ไหมครับว่าที่ตรงนี้เคยมีใครคนหนึ่งนั่งรอคุณทุกวันเป็นเวลา 15 ปี"

     

    "โกหกน่ะ เพราะ 2 ปีก่อนครบกำหนด ฉันก็มาที่นี่เหมือนกัน ไม่เห็นเจอหมาตัวไหนเลย" ฉันพูดแบบหัวเสีย จะให้เชื่อได้ยังไงว่าจะมีคนบ้าที่ไหนมานั่งรอที่ตรงนี้เป็นประจำ

     

    "2 ปีก่อน เขาถูกคนร้ายเป็นเด็กวัยรุ่นรุมฆ่าตายตรงนี้ วันที่ 1 มกราคมพอดี และทางโรงเรียนเราปิดข่าวไว้ เพราะเด็กพวกนั้นเป็นนักเรียน ม.6 ของโรงเรียนเราเอง"

     

    "แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ" ฉันเริ่มน้ำตาคลอ

     

    "ข้อความนี่ คุณเป็นคนเขียนใช่ไหมครับ คุณยิหวา ที่ฝากให้ลุงภารโรงของโรงเรียนเราถือไว้ให้คุณนกฮูก"

     

    "อืม.. ใช่"

     

    "ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าคุณเกี่ยวข้องกับคุณนกฮูกอย่างไร" ผอ.ส่ายหน้า "รู้แต่ว่า คุณนกฮูกเป็นผู้บูรณะโรงเรียนของเราเรื่อยมา ไม่ว่าเราตั้งใจจะปิดโรงเรียนตั้งหลายครั้ง เพราะนักเรียนเราน้อยลง และเด็กส่วนใหญ่ก็หนีไปเข้าเรียนในเมืองกันหมด เหลือไว้แต่พวกเด็กเกเร แต่ก็ได้คุณนกฮูกนี่แหละ ที่คอยช่วยเหลือเรื่องเงิน ปรับปรุง สร้างอาคาร โดยมีข้อแม้ว่าให้ทางโรงเรียนของเราคงลักษณะ เฉพาะด้านหน้าโรงเรียนเอาไว้เหมือนเดิม เอ่อ... เหมือนเมื่อ 15 ปีก่อน"

     

    ฉันเริ่มน้ำตาคลอเบ้า และเอ่ยถามออกไปลอยๆ

     

    "จะ จริงเหรอคะ แล้วคุณรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเขามั่ง"

     

    "เขาเป็นนักเขียน นามปากกาว่านกฮูก" ผอ.พูดเสียงเรียบ "เมื่อสองปีก่อน ในการตายของเขาช็อกวงการพอดู เพราะเขากำลังเขียนเรื่อง การรอคอย ลงในนิตยสารชื่อดัง และมันยังไม่จบ"

     

    ฉันรีบออกวิ่งไปหาซื้อนิยายของนายนกฮูกทันที ตอนนี้หัวสมองของฉันตีบตันไปหมดไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ในตอนนี้ฉันไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว ขอเพียงแค่ได้อ่านงานเขียนของเพื่อนรักคนนี้สักตัวอักษรก็ยังดี

     

    และหนังสือเล่มแรกที่ฉันหาซื้อได้ภายใต้นามปากกาของนกฮูก มีชื่อเรื่องว่า

     

    ยิหวา

     

    สิ่งนี้ทำให้ฉันรู้ว่า นายนกฮูกไม่เคยลืมฉันเลยสักครั้ง และไม่มีวันจะลืมฉันเลย ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันเคยใช้ หรือเคยทำร่วมกันกับเขา มันถูกเก็บไว้อย่างดี แม้แต่โต๊ะเรียนของฉันกับเขาที่เคยวางใกล้ชิดกันในชั่วโมงเรียนหนังสือ เขายังขอซื้อต่อกับทางโรงเรียนเพื่อนำไปเก็บไว้เลย

     

    เขารักฉัน

     

    และตั้งใจจะขอฉันแต่งงานหากฉันยังไม่มีใคร ในเวลาอีก 15 ปีต่อมา หลังจากคำสัญญาของเราสองคน

     

    เพราะเขาเป็นคนนิสัยขี้อายตั้งแต่ไหนแต่ไร และการจะให้เปลี่ยนสรรพจากเพื่อนเป็นแฟนนั้น คงทำให้เขาต้องรวบรวมความกล้าพอดู ซึ่งใช้เวลาตั้ง 15 ปีเลยแน่ะ

     

    ซึ่งมันก็สายไปเสียแล้ว

     

    แต่ผลงานของเขาจะยังคงอยู่ตลอดไปไม่มีวันเสื่อมสลาย

     

    ขอบคุณนะ นกฮูก กับนิยายที่ชื่อว่า ยิหวา ชื่อเรื่องเดียวกับชื่อของฉันเลย


    --------------------------------------------------------

    จบไปอีกบทแล้วเจ้าค่ะ
     เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมากจากคุณลุงข้างบ้านที่ตอนนี้อยู่ครองโสดมา 30 ปี เพราะ แกรอผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยสัญญาว่าจะแต่งงานกัน

    ซึ่งพี่สาวคิดว่า กว่าลุงแกจะได้แต่ง คงตายกันก่อนพอดี - -*


    แนะนำ และแก้ไขบทความโดย เพ่ยกวาง เจ้าค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×