นครไวทีเรียดินแดนอห่งอรุณและบุษราคัม

ลำดับตอนที่ #4 : ประวัติราชวงศ์ไวทีเรีย

ราชวงศ์ไวทีเรีย

มีประวัติยาวนานกว่า400ปีราชินีคนแรกคือ
มาโชเรีย วาร่า โนนาเวีย เรเซีย ไวทีเรีย(โนเรีย)แต่ช่าวงนี้ไม่นับเป็นประวัติของราชวงศ์
แต่เป็นประวัติของนครแทน นครไวทีเรียกินเวลาสร้างและปรับปรุงนานถึง200ปี
นครไวทีเรียเคยมีความคัดแย้งกับเผ่าปีศาจในช่วง300ปีหรือต้นประวัติราชวงศ์=100ปี
จริงอยู่ที่คนในราชวงศ์มีเชื้อสายเทพอยู่แต่ไม่บริสุทธิ์ทำให้ต้องขอยอมสวามิภัก เผ่าปีศาจ
จึงไม่สู้ต่อ แต่ทางไวทีเรียต้องส่งคนในราชวงศ์เพื่อไปเป็นเครื่องเสริมพลังหรือเครื่องสังเวยทางไวทีเรียทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมโดยการส่งคนในราชวงศ์ไป2คน คือ
องค์หญิงลำดับที่6แห่งไวทีเรีย คริศ คริศติน่า คอนนา วามีไท ไวทีเรีย
องค์หญิงลำดับที่7แห่งไวทีเรีย นริส นริสนีร่า วารอน เวมาน ไวทีเรีย
ในขณะที่ทั้งสองพระชนมายุเพียง20พรระษา 
หลังจากการเสียสละขององค์หญิงทั้งสองทุกคนในนครได้เรียกองค์หญิง2พระองค์นี้ว่า
"Woman of Sacrifice"(หญิงสาวผู้เสียสละ) หรือ
"Women Leave"(หญิงสาวที่ลาจาก)
กลอนประจำราชวงศ์
1.เห็นแสงสว่าง นำทาง ของชีวิต
ปลูกความคิด ที่ดี ที่สดใส
เจ้าจงเริ่ม สานต่อ ทำต่อไป
ชีวิตใหม่ ก็จะดี มีแนวทาง
_____________________
2.แสงเทียน ส่องหัวใจ ยามไร้แสง
แม้ไม่แรง แต่ร้อน ยามอ่อนไหว
น้ำตาเทียน ที่หลั่ง ยากฝังใจ
เทียนหรือไฟ ก็ร้อน ตอนฟ้าจาง
______________________
มีแสงเทียน คอยนำ ยามช้ำชอก
หัวใจยอก นานเนาว์ เฝ้าไม่ห่าง
มองสายน้ำ ที่หลั่ง ฝั่งเงาบาง_
สายใย ไม่จืดจาง ดั่งแสงเทียน
_____________________
3.เทียนละลาย หมดไป ไฟก็มอด
แต่หัวใจ แห้งขอด ไม่เคยเปลี่ยน
เรื่องราวรัก หมุนวน จนใจเวียน
ใช่เหมือนเทียน ละลาย สลายลง
______________________
4.แสงเทียน แม้จะอ่อน ก็ร้อนนัก
แสงแห่งรัก ละลาย ใจก็หลง
น้ำปลายตา ที่หลั่ง ก็ยังคง
ไหลล่วงลง เหมือนเทียน ที่โดนไฟ

5.พอตะวันขึ้นขอบฟ้า..แสนสดใส..
เหมือนประหนึ่งการรอคอย.ได้มาถึง..
แสนมีสุข..เมื่อพบเจอ.คนที่ใช่..
เพียงได้มอง..แม้ห่างห่างก็จะมอง..
แต่เมื่อ..
พอตะวันลับขอบฟ้า..ใจให้เหงา..
น้ำตาซึม.ใจว้าเหว่ไม่เห็นเธอ.
เหม่อมองฟ้า.ใจเหม่อลอยจ้องมองไป...
เฝ้ามองดู..ดูดวงดาว. แทนหน้าเธอ..
เพราะเธอคือแสงสว่าง..ในใจเรา..

                                           
cinnamon