คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 ผมชวนเพื่อนไปเที่ยว!
เมื่อรูบี้ถีบส่งอลันออกไปล่าสมาชิกแล้ว.....
“วีนัส ขอคุยด้วยหน่อย”
“มีอะไรให้รับใช้อีกล่ะ คุณเชอรีน พาลวินส์” น้ำเสียงประชดประชันของวีนัสทำให้เชอรีนรู้สึกอารมณ์เสีย เชอรีนคงไม่ต้องการความช่วยเหลือจากวีนัสหรอก ถ้าเธอไม่ใช่คน...แบบเดียวกัน รูบี้นั่งกระดิกเท้าอยู่ข้างๆโดยไม่สนใจอะไรมากนัก แต่ก็พูดขึ้นมาว่า “วีนัส เธออย่าทำเสียงประชดประชันแบบนั้กับผู้มีพระคุณนะ”
“แล้วเชอรีนเป็นผู้มีพระคุณของฉันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
“ตั้งแต่วันที่เชอรีนเก็บเธอมาเลี้ยงนั่นแหละ!”
“พอเถอะ! หยุดทะเลาะกันเสียที” เชอรีนโพล่งขึ้นมาด้วยความเหลืออด จากนั้นก็หรี่เสียงลงเมื่อพวกเด็กๆแถวนั้นเริ่มหันมามอง “ฉันคงไม่ขอความช่วยเหลือจากพวกเธอ ถ้ามันเป็นเรื่องไม่สำคัญ”
“แล้วหินโรสเซสมันเกี่ยวกับฉันตรงไหนกัน” วีนัสถาม เธอหันไปมองรูบี้ “แล้วมันเกี่ยวกับเธอตรงไหนล่ะ”
“เชอรีนเคยช่วยชีวิตฉันเอาไว้ ฉันจะต้องตอบแทนบุญคุณ!”
“เด็กสาวอารมณ์ร้ายแบบเธอตอบแทนบุญคุณคนอื่นเป็นด้วยเรอะ”
“พอสักที! มันไม่ใช่เรื่องบุญคุณอะไรทั้งนั้น แต่มันเป็นเรื่องของ พาราเวลลา” เชอรีนพูดถึงพาราเวลลา อาณาจักรที่ไม่ได้อยู่บนโลกมนุษย์ และไม่ได้อยู่ที่ไหนเลย มันอาจจะเป็นดินแดนมหัศจรรย์แบบเงียบๆถ้าไม่มีมนุษย์จอมจุ้นไปบังเอิญเจอทางเข้า แล้วเชอรีนก็มาจากที่นั่น วีนัสกับรูบี้ก็เช่นกัน
“อะไร? หินโรสเซสเกี่ยวอะไรกับพาราเวลลา” วีนัสถามด้วยความสนใจขึ้นมาหน่อย เพราะพาราเวลลาเป็นบ้านเกิดของเธอ ถึงจะมีความทรงจำที่โหดร้าย แต่เธอก็เติบโตมาจากที่นั่น
“ผู้ปกครองหลักของพาราเวลลาก็คือ ตระกูลพาลวินส์ ซึ่งมันเป็นตระกูลของฉัน แล้วสิ่งของที่เชื่อมโยงพลังอำนาจของพาลวินส์กับพาราเวลลาก็คือหินโรสเซส” เชอรีนเล่าแบบเร็วๆ รูบี้หยิบกระบองพลาสติกของตัวเองขึ้นมาถู เหมือนกับว่าอยากจะใช้กระบองนั่นตีใครสักคน
“แล้วตอนนี้...เธอกำลังมีปัญหากับหินโรสเซสรึไง” วีนัสยื่นหน้าเข้ามาถาม ก่อนจะจ้องมองจี้เพชรสีชมพูกลีบกุหลาบที่คอของเชอรีน “มันก็ยังอยู่ดีนี่”
“นี่มันเป็นแค่เศษ” เชอรีนพูดเสียงเครือ “หินโรสเซสหลักหายไป พร้อมกับสโนวไวท์”
“ยัยเด็กเกรดสี่ใจแตกเอ๊ย! ตอนฉันอยู่เกรดสี่ฉันยังไม่เข้าใจคำว่าหนีออกจากบ้านเลยนะ!” รูบี้ลุกขึ้นพูดเสียงดัง เชอรีนคว้าข้อมือของรูบี้แล้วฉุดลงมานั่งโดยอัตโนมัติ
“พ่อแม่ฉันไม่ค่อยสนใจแฝดคนไม่สำคัญอย่างฉันหรอก” เชอรีนเล่าต่อ “จี้ที่ทำจากหินโรสเซสของสโนวไวท์ก็ใหญ่กว่าของฉัน ซึ่งแน่นอน มันมีพลังอำนาจมากกว่า”
“อย่าคิดแบบนั้นสิ” วีนัสเริ่มอ่อนลงเมื่อมาถึงปัญหาครอบครัว
“พอแม่เสียไป...พ่อก็แต่งงานใหม่ ฉันไม่ได้บอกว่ามันดีกว่าหรอกนะ แต่แม่เลี้ยงของฉันใจดีกับฉันมาก”
“งั้นก็ไม่ใช่แม่เลี้ยงใจร้ายสินะ” รูบี้พูดขึ้นมาเบาๆ
“สรุปคือ หินโรสเซสหายไปพร้อมกับสโนวไวท์ เธอต้องเป็นคนขโมยไปแน่ๆ เด็กอนุบาลก็ยังคิดออกเลย!” วีนัสพูดอย่างมีอารมณ์ ตอนนี้เธอเริ่มสนใจอยากออกตามหาหินโรสเซสแล้วนำกลับคืนมาเสียแล้ว ยิ่งสโนวไวท์เป็นคนขโมยไปล่ะก็....หลายปีที่วีนัสอาศัยอยู่ในชายคาของตระกูลพาลวินส์ เธอไม่ค่อยปลื้มสโนวไวท์เท่าไร
“อาจจะไม่ใช่แบบนั้นก็ได้” เชอรีนบอก “เพราะคนที่พาเธอหนีไปคือ รามิล ราชาแห่งแวมไพร์ยังไงล่ะ”
“สโนวไวท์อยู่กับรามิลงั้นเหรอ” ดวงตาของรูบี้เบิกโพลง “เขาเคยจะกัดคอฉันครั้งหนึ่ง มัน...”
“ถ้าอย่างนั้นเราต้องหาพวกเขาให้เจอ แล้วนำหินโรสเซสกลับคืนมา” วีนัสสรุป ทั้งสามคนหันไปมองสนามบาสพร้อมกัน เห็นอลันกำลังยืนเก้ๆกังๆอยู่
“เหลือแค่รวบรวมสมาชิกสินะ” รูบี้ถอนหายใจ “เอาใจช่วยตานั่นหน่อยแล้วกัน”
ผมกำลังยืนหลบแดดอยู่ข้างๆแป้นบาส
นั่นไง...เป้าหมายของผม เอสเตอร์ ฮาเทม โวลด์ย่า หรือที่ผมเรียกว่าเอสเตอร์เฉยๆ กำลังเล่นบาสอยู่กลางสนามกับเพื่อนๆชมรมบาสอีกสี่ห้าคน ร่างสูงโปร่งแบบฉบับนักบาสของเอสเตอร์เคลื่อนที่ไปทั่ว ผู้ชมข้างสนามแบบผมและคนอื่นๆก็คงจะโฟกัสที่เอสเตอร์คนเดียวเหมือนกัน ผมยืนมองเนิ่นนาเสียจนจะลืมไปแล้วว่า เชอรีนสั่งผมมาทำอะไร
เมื่อเกมจบ เขาก็เดินมาหาผม
“อลัน! วันนี้ไม่เล่นบาสเหรอ” เอสเตอร์เอามือเสยผมสีเทาที่ปรกใบหน้าออกไป มีรุ่นพี่ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งเดินเอาผ้าเย็นมาส่งให้เขา เขารับไว้อย่างงงๆแล้วก็กล่าวขอบคุณ สาวๆพวกนั้นกรี๊ดสนั่นราวกับเจอแมลงสาบกับโจรขโมยกางเกงในพร้อมๆกัน
“ปิดเทอมนี้นายว่างรึเปล่า” ผมถามเอสเตอร์ ที่ตอนนี้มีเครื่องดื่มชูกำลังเต็มไม้เต็มมือ
“ฉันต้องเล่นบาสทุกวัน” เขาตอบ แต่ดวงตาสีเขียวมรกตแสดงถึงความเบื่อหน่าย “ถ้าได้ไปเที่ยวก็คงจะดี ว่าแต่....นายมีโปรแกรมเหรอ ถึงมาชวนน่ะ”
“อื้อ ถ้านายอยากน่ะนะ” โปรแกรมตามหาหิน...อะไรสักอย่างที่ไม่รู้ที่มาที่ไป สนใจไหมล่ะ
“โอ้ว! แน่นอนสิ! มีใครบ้างล่ะ?”
“ก็มีฉัน แล้วก็เชอรีน” ผมชะงักเมื่อเห็นเอสเตอร์ทำสีหน้าแปลกๆ “เชอรีน พาลวินส์น่ะ”
“อืม ดูโอ้ของนาย”
“ไม่ใช่สักหน่อย” ผมปฏิเสธ เพราะเชอรีนกับผมก็แค่เพื่อนสนิท ไม่ได้ถึงขนาดเป็นดูโอ้หรอกนะ แค่ไปโรงเรียนด้วยกัน นั่งเรียนติดกัน ทานข้าวกลางวันพร้อมกัน ก็เท่านั้นเอง “แล้วก็...วีนัส วาเลนไทน์ กับ รูบี้ พัซเซิล”
“แต่ละคน น่ากลัวจัง มีอะไรมาดลใจให้นายอยากไปเที่ยวกับพวกนี้เนี่ย..แต่น่าสนุก! ฉันจะไป” เอสเตอร์ยิ้มกว้าง ผมเองก็เช่นกัน แล้วจู่ๆเขาก็เดินไปลากคอเพื่อนในชมรมคนหนึ่งมาหาผม ผู้ที่มีดวงตาสีเขียวเจิดจ้าเหมือนกับดวงตาของเอสเตอร์ ใบหน้าของเขาช่างเข้ากับผมซอยระต้นคอสีแดงเพลิงจนผมยังอิจฉา วาสนาผมคงทำได้แค่ผมดำแบบนี้ล่ะ ย้อมสีอะไรไม่เคยติด
“อาเชอร์คนนี้ก็ยังหาที่เที่ยวไม่ได้ใช่ไหมล่ะ พาเขาไปด้วยได้ไหม?” เอสเตอร์หันมาถามผม นายอาเชอร์คนนั้นยิ้มแห้งๆให้ก่อนจะแนะนำตัว “ฉันอาเชอร์ คิงสตัน ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
ผมยื่นมือไปจับกับอาเชอร์ แล้วผมก็เพิ่งสังเกต ดวงตาสีเขียวมะนาวของเขาเป็นประกายสดใสแตกต่างจากของเอสเตอร์ที่ดูมีเสน่ห์ลึกลับ นี่แหละคู่ดูโอ้ที่แท้จริงในความคิดผม
“พวกนายลองไปคุยกับเพื่อนฉันดูก่อนสิ” ผมบอกพวกเขา แล้วหันไปมองอาคารเรียนตรงที่เชอรีนนั่งอยู่ ผมรู้สึกหัวเสียนิดๆมี่สามคนนั้นกำลังนั่งกินขนมอย่างสุขสบาย เลย์รสบาร์บีคิวที่ผมซื้อมาก็ถูกแกะกินไปเรียบร้อย
“โอเค งั้นไปกันเถอะ....”
แต่ก่อนที่พวกผมจะเดินออกไปจากสนามบาส ก็มีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งร้องขึ้น
“เอสเตอร์ ฮาเทม โวลด์ย่า!!!! วันนี้นายต้องไปเที่ยวกับฉัน!!”
PEECHY’s TALK
แวะมาอัพก่อนจะเข้าสู่ช่วงสอบอย่างแท้จริง
ขอบคุณรีดเดอร์ทุกคนที่คอมเม้นต์แนะนำพีชต่างๆนานา ขอบคุณค่ะ!
มีตัวละครใครออกบ้างน๊า? แล้วผู้หญิงที่โผล่มาตอนสุดท้ายนี่ใครกัน?
ติดตามด้วยนะคะ จุ๊บๆ >3<
ป.ล. อ่านแล้วเม้นขอให้หน้าตาดี!!
ความคิดเห็น