ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic reborn อดีตที่แสนเศร้า กับวันนี้ที่ฉันมีเธอ

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 ราวกับลูกหมาถูกทิ้ง

    • อัปเดตล่าสุด 5 ม.ค. 54



    By ฮารุ
     
     
     
            หลังจากวันนั้นที่ฮารุกับเคียวโกะจัง  (เขาบอกให้เรียกแบบนี้เพราะดูสนิทกันดี) ได้เข้ามาพักที่บ้านของ คุณฮานะ ประมาณอาทินึ่งแล้ว  เราสามคนก็สนิทสนมกันอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะเคียวโกะจังกับคุณฮานะที่ดูจะสนิทกับมากราวกับเป็นเพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันมาเนินนาน เคียวโกะจังค่อยแนะนำสิ่งต่างๆให้และไถถามถึงความทรงจำก่อนเกิดอุบัติเหตุของฮารุเสมอ
     
     
     
    “ฮารุไม่รู้ค่ะ จำอะไรไม่ได้เลยแม้กระทั้งชื่อตัวเอง” นั้นคือสิ่งเดียวที่ฮารุตอบ รู้สึกแย่อยู่เหมือนกันที่จำไม่ได้กระทั้งว่าตัวเองเป็นใคร ?
     
    “สงสัยตอนประสบอุบัติเหตุหัวคงกระแทก” เคียวโกะจังบ่นเบาๆ ’.’ แต่เพราะเธอนั่งอยู่ข้างๆ ฮารุจึงได้ยินชัดเจน /หัวกระแทกหรอ เพราะอะไรนะ/ ความสงสัยที่มีเต็มหัวไปหมด ฮารุจึงตัดสินใจ…
     
    “เออ…ฮารุตายยังไงหรอค่ะ”  เธอหันมองฮารุอย่างแปลกใจโดยไรซึ่งคำกล่าวใด
     
     
     
    “ยังไงหรอค่ะ”  ความอยากรู้อยากเห็นที่มีอยู่มากกระตุ้นให้ฮารุถามเธออีกครั้ง
     
     
     
            แวบนึ่งที่ฮารุเห็นแววตาของเคียวโกะดูหมองลงและปรับให้เป็นปกติอย่างรวดเร็ว  เธอยิ้มบางให้และลูบหัวฮารุเบาๆ 
     
     
     
    “ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่พอฮารุได้กลับเข้าร่างเมื่อไร…” เคียวโกะจังเว้นช่วงนิดนึ่งและหันมาสบตากับฮารุอย่างอ่อนโยน
     
     
     
    “ฮารุจังก็จะจดจำทุกสิ่งที่หลงลืม และเข้าใจสิ่งเหล่านั้นเองจ๋ะ” ฮารุมองเคียวโกะจังที่ยิ้มบางๆให้ รอยยิ้มที่แสนคุ่นเคยแต่นึกไม่ออกจริงๆว่าเพราะอะไร
     
     
     
    “เอาล่ะ! เลิกพูดเรื่องเศร้ากันเถอะนะฮารุจัง เมื่อเช้าฮานะเล่าให้ฉันว่าคืนนี้จะมีงานเทศกาลประจำปี เราไปดูด้วยกันนะ” คำตัดบทเปลี่ยนเรื่องง่ายๆของเคียวโกะจังทำให้ฮารุอึงๆไปพักใหญ่ ฉันมองหน้าเธออย่างงง
     
     
     
    “งานเทศกาลประจำปีของที่นี้ไง น่าสนุกดีออกเราไปด้วยกันนะฮารุจัง” คำพูดกึงชวนกึงบังคับ ทำให้ฮารุต้องพยักหน้าหงิกๆ ตกลงกับเธอไปโดยปริยาย แต่ก็น่าสนุกดีนะ
     
     
     
    “ดีจัง!! งั้นเจอกันตอนเย็นนะฮารุจัง” กล่าวเสร็จเคียวโกะจังก็ไปคุยสัพเพเหระกับคุณฮานะต่อ สนิทกันจริงๆคู่นี้ ฮารุซึ่งไม่มีอะไรทำก็มีอันต้องกลับเข้าไปนอนเล่นในรูปภาพที่คุณฮานะเอามาให้ รอค่อยเวลาพระอาทิตย์ตกดินจะได้ไปเที่ยวงานเทศกาลกับเคียวโกะจังในตอนเย็น “ฮาฮิ ฮารุตื่นเต้นจัง”
     
     
     
     
     
     
    ในยามเย็น ณ งานเทศกาลประจำปี
     
     
     
    “ฮาฮิ คนเต็มไปหมดเลยค่ะ เคียวโกะจัง” ผู้คนมากมายเบียดเสียดกันไปมาตามทางเดิน บ้างก็หยุดเล่นเกมตามซุ้มต่างๆที่เหล่าพ่อค้าแม่หัวใส่ต่างจัดขึ้น บ้างก็มีของกินเต็มไม้เต็มมือ แต่ไม่มีใครซักคนที่จะสังเกตเห็นพวกเรา
     
     
     
    “ก็งานเทศกาลนี่จ๋ะ ฮารุจังอย่าไปไกลจากฉันมากนะเดียวหลงกันรู้ไหม” เคียวโกะจังร้องบอกกับฮารุที่ตามมาติดๆ พลางชื่นชมบรรยากาศโดยรอบ
     
     
     
    “ฮาฮิ ทำไมล่ะค่ะเคียวโกะจัง ? ”  พวกเราสามารถทะลุผ่านผู้คนได้สบายนี้ ถ้าหลงกันจริงๆแค่ต่างคนต่างลอยขึ้นไปสูงๆก็หากันเจอแล้วไม่ใช่รึ
     
     
     
    “ก็ถ้าหลงเข้าไปในฝูงชนคงแย่ ถึงแม้พวกเราจะสามารถทะลุพาพวกเขาได้ แต่คลื่นวิญญาณที่อยู่ในตัวพวกเขาจะทำให้เรารู้สึกอึดอัดเคลื่อนไหวลำบาก เมื่อเวลาเราว่ายน้ำไง” ฮารุรู้สึกทึ่งในความรอบรู้ของเธอจัง 
     
     
     
    “ฮาฮิ น่ากลัวจังนะค่ะเคียวโกะจัง” ฮารุรู้สึกสยอง ถ้าต้องไปอยู่ในสภาพคล้ายกับจมน้ำแบบนั้น 
     
     
     
    “มันไม่อันตรายกับเราหรอกจ๋ะ แต่ถ้าโดนก็หมดสนุกไปเยอะเลยละ” เคียวโกะยิ้มบางๆ ^-^ พรางลูบหัวปลอบขวัญฮารุ 
     
     
     
    “ฮาฮิ ตรงนั้นอะไรนะ น่าสนใจจังไปดูกันเถอะเคียวโกะจัง” เห็นคนมุ่งกันอยู่รอบๆอ่างน้ำขนาดใหญ่ในนั้นมีปลาสีสวยว่ายอยู่มากมาย  ฮารุมองดูพวกเขาช้อนปลาอยู่นานสองนานจนกระทั้งได้ปลาหัวบวมๆหน้าตาแปลกๆสีเหลืองทองตัวอ้วนมา
     
     
     
    “เย้ เย้ ได้แล้ว” เล่นก็ไม่ได้เล่นกับเขาแต่ฮารุก็มาช่วยเชียแทน และแน่ใจด้วยว่าเขาไม่ได้ยิน (อ้าว//me   ก็ฮารุเป็นวิญญาณนี้ค่ะ//ฮารุ) ฉันเลยเชียได้เต็มทีโดยไม่ต้องอายใครแบบนี้ไงค่ะ แต่รู้สึกเหมือนลืมอะไรไปบางอย่าง
     
     
     
            ลืมอะไรน้า คิดๆสิฮารุคิด อะไรที่แสนสำคัญ  ‘ฮารุจังอย่าไปไกลจากฉันมากนะเดียวหลงกันรู้ไหม’ เสียงคุ่นเคยดังขึ้นในความทรงจำ  “ฮาฮิ เคียวโกะจัง” ฮารุลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าหันมองซ้ายขวาแต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า  “ซวยแล้ว ฮารุเอ๋ย” ฮารุบ่นกับตนเอง
     
     
     
            ฮารุลอยไปเลื่อยๆวนซ้ายทีเวียนขวาทีจนแน่ใจแล้วว่าเคียวโกะจังไม่ได้อยู่ในงานเทศกาลแล้ว ก็เริ่มหาไกลจากที่เขาจัดงานกันออกไปเลื่อยๆจนมาถึงที่ๆนึ่งที่แสนคุ่นตา
     
     
     
    “เอ๋…ที่นี้มัน…ที่ๆเร้าเจอเคียวโกะจังครั้งแรกนี้!!” แล้วความทรงจำเก่าๆก็ย้อนเข้ามาหรือเคียวโกะจังจะมาที่นี้นะ ถ้าใช่ก็ดีซิเจอแล้วจะได้กลับบ้านกัน ฮารุจึงเริ่มหารอบๆที่นี้ดูอีกครั้งแต่ก็ไม่พบเธอ
     
     
     
    “อึก อึก แง แง แง” เสียงร้องไห้ของใครบางคนที่ถึงแม้จะแผ่วเบาแต่ฮารุก็ได้ยิน   ฮารุเดินตามเสียนั้นอย่างใครรู้
     
     
     
    “เอ? พวกเดียวกันรึนี้ –w-” สิ่งที่ฮารุพบคือ ร่างโปรงใสดุจแก้วของเด็กหนุ่มที่ดูจะอ่อนกว่าฮารุประมาณ 2 – 3 ปี นั่งสะอื้นไห้อยู่ตรงมุมทางเดินข้างโค้งอันตราย
     
     
     
    “โอ โอ โอ หยุดร้องเถอะนะคนดี” ฮารุพุ่งเข้าไปกอดเขา ปลอบโยนเขา
     
     
     
    “…….” เสียงของเขาเงียบไปแล้ว เขามองฮารุอย่างอึงๆ เมื่อฮารุมองกลับ
     
     
     
    “ฮาฮิ ! ? ฮารุขอโทษค่ะที่อยู่ๆก็ไป…กอดคุณ” ฮารุเปิ่นจริงๆ >///<
     
     
     
    “ไม่เป็นไรคับ ขอบคุณนะคับผมรู้สึกดีขึ้นมากเลย ^-^ ”  เขาส่งยิ้มหวานมาให้ แต่ฮารุกลับรู้ว่ายิ้มนั้นชั่งดูเศร้าจับใจ
     
     
     
    “ฮาฮิ คุณ…เป็นใครหรอ ทำไมมานั่งร้องไห้คนเดียวอยู่ตรงนี้ล่ะค่ะ” ฮารุเอ๋ยปากถามหลังจากที่ต่างคนต่างเงียบไปนาน
     
     
     
    “ไม่รู้สิคับ จำได้แค่ว่าตัวเองประสบอุบัติเหตุอะไรซักอย่างแต่เรื่องอื่นๆจำไม่ได้เลย” ^-^ เขาตอบพรางส่งยิ้มหวานให้ ฮารุเพียงแค่ยิ้มกลับอย่างสุภาพ
     
     
     
    “คุณจำได้ไหมค่ะ ว่าตนเองชื่ออะไร” ฮารุยิงคำตอบไปอีกรอบ
     
     
     
    “มุคุโร่คับ ส่วนนามสกุล…ผมไม่รู้” เสียงท้ายประโยคดูแผ่วเบาราวกับจะหายไปกับสายลม 
     
     
     
    “ฮารุเข้าใจค่ะ…ฮารุเองก็เป็นเหมือนกันเหมือนกับมุคุโรคุง” ฮารุมองเขาพยายามจะสื่อให้เห็นเต็มที่ว่า หัวอกเดียวกัน
     
     
     
    “ฮาฮิ มุคุโร่คุงล่องลอยอยู่แถวนี้นานขนาดไหนแล้วค่ะ” ฮารุยิงไปอีกคำถาม
     
     
     
    “ประมาณอาทิได้แล้วมั่งคับ  เพราะไม่รู้จะไปไหนนะคับ” อีกฝ่ายตอบด้วยสีหน้าปกติผิดกับตอนแรกที่ฮารุเห็นลิบลับ
     
     
     
    “ฮาฮิ ในเมื่อมุคุโรคุงสูญเสียความทรงจำและไม่รู้จะไปไหน งั้น…ก็มาอยู่บ้านเดียวกับฮารุสิค่ะ” มีสมาชิก(วิญญาณ)เพิ่มมาอีกคน(ตน)คุณฮานะคงไม่ว่าหรอมั่ง   อีกอย่างปล่อยให้อยู่ตัวคนเดียวในที่แบบนี้คงจะเหงาแย่  น่าสงสารออกถ้าเป็นเคียวโกะจังจะทำเหมือนฮารุไหมนะ
     
     
     
    “อะไรนะคับ oO?” สีหน้าที่ดูสงบนิงเมื่อครูกับขึ้นสีบางๆ ตาสองสีคู่สวยแปลกตาของเขาสบมองฮารุ -///- (จะหน้าแดงทำไมนะฮารุ) แต่รู้สึกว่าเขาจะเข้าใจอะไรผิดรึเปล่านะ ถึงได้หน้าขึ้นสีแบบนี้
     
     
     
    “ฮาฮิ ไม่ได้อยู่กันสองคนหรอกนะคะ ที่บ้านยังมีคุณฮานะกับเคียวโกะจังอยู่ด้วย”  ฮารุรีบตอบสิ่งแล้วที่คิดขึ้นได้ในสมอง... รู้สึกตัวเองลนลานมากจนน่าแปลใจ
     
     
     
    “ที่บ้านคุณก็มีกันแค่ 3 คนสินะคับ” เขาส่งยิ้มบางๆกลับมาให้ฮารุ ^-^
     
     
    “ถึงจะอยู่กันแค่สามคนแต่ก็อบอุ่นมากๆเลยนะค่ะ” ถึงจะมีคนแค่นิดหน่อยแต่ก็มีความสุขนะ ใครว่าไม่ใช่อันนี้ฮารุขอเถียงขาดใจ >o< เลยยย
     
     
     
    “ฮาฮิ ไปกับฮารุเถอะค่ะ  เดียวฮารุจะแนะนำทุกคนให้มุคุโรคุงรู้จักเอง”  งานนี้ ^o^ ฮารุตั้งใจทำเต็มที่ค่ะ ก็ฮารุไม่อยากให้ใครต้องรู้สึกโดดเดียวและเหงาเหมือนกับ ฮารุในค่ำคืนที่แสนมืดมิดนั้น…
     
     
     
    “จะดีหรอคับที่พาผมไปด้วยแบบนี้ ? ” ฮารุก็ได้ยินเขาบอกอย่างนี้มาสิบรอบแล้ว แต่ก็ไม่เห็นเขาจะขัดค้านอะไร ทั้งยังตามฮารุมาแต่โดยดี…เหมือนลืมอะไร ?
     
     
     
            ฮารุเลยแอบมองไปทางเขานิดนึง ^-^ เขาดันส่งยิ้มกลับ -///- (หน้าฮารุ) อะเอ…ฮารุพา(ลาก)เขามานี้เอง จูงมือเขามาแบบนี้เป็นใครก็ต้องเดินตามนี้ละ ฮารุนี้เปิ่นจริงๆ //จูงมือ…// ฮาฮิ เขาจะหาว่าฮารุมือไวรึเปล่านะ >///< คิดแล้วเขินอะ
     
     
     
    “ฮารุเป็นอะไรรึเปล่าคับ หน้าแดงเชียว” ฟังเหมือนเขาจะเป็นห่วงนะ ^-^ แต่ฮารุเห็นเขายิ้มขำๆแววๆด้วยละ
     
     
     
    ***** ฮารุคิดถูกไหมนะที่พานายคนนี้มาด้วย *****



    _______________________________________________________


    เอไม่รู้ว่าตอนมันยาวพอไหมนา เหอะๆไรเตอร์หายไปนานไม่รูว่าลืมกันไปรึยัง

    คือ ไรเตอร์ติดสอบบวกกับติดกิจกรรมปีใหม่เลยหายไปนาน แบบว่า m>O<m โทษกับ

    แถบมาไม่ทัน นางิสะ นกฮูกตาหวานของเขาอีก T^T มันตายเลยอะ เศร้า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×