คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : CHAPTER 04.- หนีไม่พ้นจนได้
CHAPTER 04.- หนีไม่พ้นจนได้
ในที่สุดออดเลิกเรียนประจำวันนี้ก็ดังขึ้นสักที หลังจากที่ฉันรอมันมานานนนนมากกกกกกกกกกกกกกกก
แต่รู้ไหมว่าชีวิตเด็กนาฏศิลป์สากลอย่างพวกเรามันไม่ได้จบเพียงแค่นั้น T.T ก็เพราะว่าพวกเรายังต้องไปซ้อมบาร์เวิร์กกันต่ออีกน่ะสิ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนจะเข้าเรียนกับ อ.นีรนารถ สุดโหดในวันพรุ่งนี้ (ยัยปุ้ยเรียกอาจารย์ว่า "นีรนารถ ชาตินี้หาผัวไม่ได้" กร๊ากกก เข้าตัวเองแน่แก)
แล้วนี่ถ้าอาจารย์รู้ว่าพวกฉันไม่ได้ซ้อมกันเลยล่ะก็...... โอยยย ไม่อยากจะคิด ToT
ที่ห้องบาร์ ทุกคนกำลังมุ่งมั่นซ้อมบัลเล่ต์กับบาร์กันอย่างขะมักเขม้นโดยมี นลิน หรือหัวหน้าห้องของพวกเราคอยติวให้เต็มที่ T__T โอ้.. นลินนางฟ้าน้อย ๆ ของฉันนนนน >o<,,,
แต่การซ้อมดูจะดำเนินไปอย่างไร้สาระสิ้นดี เมื่อเพื่อนทุกคนยังคงจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เรื่องเมื่อตอนบ่ายอย่างเมามัน เฮ้ย!? มันไม่ตลกนะ!! ทำไมทุกคนถึงทำเหมือนเป็นเรื่องสนุกอย่างนั้นเล่า! ปัดธ่อออออ ToT
สุดท้ายฉันเลยต้องทนนั่งฟังเพื่อนตัวเองพูดถึงเรื่องนี้ราวกับเห็นว่ามันสนุกนักหนาด้วยหัวใจที่บอบช้ำ (เวอร์เกิ๊น) นี่ฉันจะต้องทนเป็นตัวตลกของเพื่อนไปอีกนานแค่ไหนเนี่ยยย -*- ฉันคิดพลางขยี้ผมตัวเองแรง ๆ อย่างหงุดหงิดใจ
แล้วดูนั่นสิ นาฬิกาตีบอกเวลาหกโมงเย็นแล้ว จะมีก็แต่ฉันนี่แหละที่ยังซ้อมไปไม่ถึงไหน มัวแต่เหม่ออยู่ได้นะคนเรา..
"จะไปรึยังปริม ฉันนัดไอ้จิ้งไว้ที่ชาบูนะ" เสียงยัยป่าน ยัยตัวดี เพราะแกนั่นแหละ ฉันเลยคิดมากจนซ้อมไม่ถึงไหนซักทีเลยนี่ไง!!
"ไม่ไป ไปก่อนเหอะ" ฉันได้แต่ตอบกลับไปอย่างอ่อนแรง ก่อนจะทำหน้าเซ็งสุดขีดจนนลินต้องเดินมาลูบไหล่ฉันเบา ๆ
"ฉันช่วยเอาไหมปริม เดี๋ยวสอนให้นะ" นลินคนดี ToT ดีที่สุดในโลกเลยยยย ไม่เหมือนยัยป่านที่ทิ้งฉันไปกินชาบูได้ลงคอ แต่ฉันก็รบกวนนลินไม่ลงหรอก U_U
"ไม่เป็นไรอะนลิน เดี๋ยวปริมซ้อมอีกนิดก็ได้แล้วแหละ ขอบใจนะ ^^" แหม...... มาคิด ๆ ดูตอนนี้แล้ว ฉันไม่น่าทำเก่งเล๊ยยยยยย
ก็ห้องบาร์เวลาอยู่คนเดียวมันน่ากลัวน้อยซะที่ไหนล่ะ T_________T
ว่าแล้วฉันก็รีบซ้อมรีบไปมั่งดีกว่า ToT
----------------------------------------------------------------------------
มืดตึ๊ดตื๋ออออ ทำไมมันมืดตึ๊ดตื๋ออออออ T__T
นี่เป็นเพลงแรกที่ฉันคิดถึงเมื่อโผล่หัวออกมาจากตึกเรียน โอ่.... นี่หรือเมืองพุทธ แค่สองทุ่มกว่าทำไมมันมืดได้ขนาดนี้ฟะ!! ฉันตีโพยตีพายอย่างสุดจะเซ็งแต่ก็ต้องเดินหน้าต่อไป เพราะไม่งั้นคงยิ่งดึกมากกไปว่านี้แหง ๆ
เดชะบุญที่ฉันจ่ายค่าเทอมไปแพงโขอยู่ โรงเรียนเลยยังเปิดไฟตามใต้ตึกให้ (เกี่ยวไหมนั่น) ฉันเดินไปตามทางที่ยังมีไฟส่องอยู่บ้าง แล้วก็พบว่ายังสบายใจได้ เพราะในโรงเรียนยังมีคนอยู่เยอะแยะเลย
นั่นคงเป็นเพราะว่าโรงเรียนของฉันบังคับให้นักเรียนทุกคนอยู่หอด้วยล่ะมั้ง เลยสามารถใช้เวลาอยู่ในโรงเรียนได้อย่างเต็มที่ไม่จำเป็นต้องรีบไปไหน ดูตัวอย่างกลุ่มเด็กผู้ชายพวกนั้นสิ ยังวิ่งปุเลง ๆ เตะบอลกันกลางสนามอยู่เลย ระวังยุงหามเข้าให้แล้วฉันจะสมน้ำหน้าซ้ำ อิอิ
ฉันเดินลากขาไปตามทางเดินอย่างเกียจคร้าน ทันทีที่บิดขี้เกียจเสร็จ ฉันก็มุ่งหน้าไปยังตู้กดน้ำอัดลมใต้ตึกศูนย์ภาษาที่ฉันเดินผ่านทันที
'โครม------------!!!!!!!!!!!'
อ.......... อะไรน่ะ!!!!!! O.O อะไรปาดหน้าฉันไปน่ะ!!!!!!!!??? ฉันคิดอย่างหวาดผวา นี่ถ้ายื่นหน้าเข้าไปใกล้ตู้กดน้ำมรณะนี่อีกแค่เซ็นเดียว มีหวังหน้าฉันแหกยับเยินแหง ๆ ToT
"ขอโทษฮะ ๆๆ" เสียงพ่อหนุ่มที่ไหนตะโกนมาแต่ไกล หึ.. อย่าหวังนะว่าฉันจะยอมยกโทษให้ง่าย ๆ อย่างนี้มันต้องเทศนาสั่งสอนกันหน่อยแล้ว ว่าด้วยเรื่องความปลอดภัยของคนภายในโรงเรียน ไม่ใช่ว่าพวกเธอจะสักแต่เตะบอลกันอย่างเดียว ไม่ต้องสนใจหัวคนอื่นนะยะ -*-
"นี่นาย!!!!" ฉันหันกลับไปด้วยความโมโห หมายมาดว่าจะโวยเจ้านั่นให้หัวหดลงกระดองเสียหน่อย แต่พอประจันหน้าเข้าจัง ๆ แล้ว คนที่หัวหดกลับกลายเป็นฉันเองซะอย่างนั้น!!! เตนี่หว่า!! ToT
ดูเหมือนว่าเตเองก็ตกใจไม่น้อยเช่นกันที่ได้เจอฉันในเวลาแบบนี้ สถานที่นี้ มิหนำซ้ำยังสถานการณ์แบบนี้ ToT... ฉันได้แต่อ้าปากเหวอ มองเขาที่เดินเข้ามาใกล้ทั้งตาปริบ ๆๆ แต่เขากลับเอาแต่ยิ้มเสียจนฉันคงละลายกลายเป็นแอ่งน้ำใหญ่แน่ ๆ ถ้าไม่ได้เกิดเหตุการณ์ข่าวลืออะไรนั่นเสียก่อนน่ะนะ
ฉันมัวแต่อึ้ง อึ้ง อึ้ง จนไม่ทันฟังว่าเตพูดอะไร กระทั่งเมื่อเขายื่นมือมาโบกไปโบกมาตรงหน้าฉันนั่นแหละ สติถึงได้ย้อนกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง
"ขอบอลผมคืนนะ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพมากกที่สุดเท่าที่ฉันจะเคยได้ยินจากผู้ชายคนไหน (คือจริง ๆ แล้วชีวิตฉันไม่ข้องเกี่ยวกับผู้ชายมากนักหรอก เพราะฉันเรียนหญิงล้วนตลอดตั้งแต่เมื่อสมัยประถม แถมพอมาเข้าเรียนที่นี่ ห้องนาฏศิลป์สากลที่ฉันเรียนมันก็ดันมีแต่ผู้หญิงอีก) คือฉันยังอึ้งอยู่นะ แต่ก็ยื่นลูกบอลคืนให้เขาไป มองท่าทางเขาที่ยิ้มอย่างอาย ๆ นั่นแล้ว ทำเอาฉันเคลิ้มไปพักใหญ่เลยล่ะ =3=,,
แต่แล้วช่วงเวลาอันน่าอภิรมย์ (ตรงไหน?) ของเราก็หมดลง เมื่อเสียงทุ้ม ๆ ของใครอีกคนหนึ่งดังขึ้นไม่ไกลนัก
"ฮั่นแน่ ไอ้เต..... กูก็ว่าทำไมมาเก็บบอลนานจัง ที่แท้............." เอ๋? ผู้ชายคนนี้หน้าคุ้นจัง ใครอะ? อ๋ออออ ฉันนึกออกแล้ว ไอ้เตี้ยซุ่มซ่ามที่เอาหัวมาโขกบ่าฉันที่โรงอาหารเมื่อตอนกลางวันนี่เอง ฮืออ นี่เขากำลังแซวเรื่องนั้นอยู่ใช่ไหม ฉันไม่อยากตกเป็นขี้ปากคนอื่นขนาดนี้เลย ToT
"บ้า!! เอานี่ไป" นั่นน ToT เตว่าเพื่อนคนนั้นบ้าด้วย (แต่น้ำเสียงนี่ฟังยังไงก็ไม่เคืองเลยนะ) เตต้องโกรธแน่เลยที่หมอนั่นมาแซวเรื่องฉัน เตต้องอายแน่เลย เตต้องฆ่าฉันแน่เลย ToT
แล้วนั่นไง!!! ไอ้เพื่อนคนนั้นมันถือลูกบอลวิ่งตุเลง ๆ กลับสนามบอลไปแล้ว แต่ทำไมเตยังอยู่ตรงนี้อีกอะ!! ToT เตจะบีบคอฉันใช่ไหม จะได้ไม่ต้องทนอับอายขายขี้หน้าประชาชีอีก ToT ไม่เอาน้าา ฉันยังไม่ได้ลาพ่อกับแม่เลย ฉันยังไม่อยากตายยยยยยยยยยยย
ทันทีที่ฉันหันหลังเตรียมใส่เกียร์หมาโกยแน่บไปอีกทางนั้น ฉับพลันเตดันคว้าข้อมือฉันไว้ได้เสียก่อน!!!!
"ด.. เดี๋ยวสิปริม!!" แล้วนี่ฉันจะผวาหรือเขินดีเนี่ย!! ฉันทำตัวไม่ถูกไปหมดแล้ววว ToT
ว่าแต่เมื่อกี้เตเรียกชื่อฉัน O.o???????
ฉันหยุดฝีเท้าที่กำลังคิดจะวิ่งหนีกึก! ไม่ใช่เพราะว่าอะไรหรอกนะ แต่เพราะเตยังจับข้อมือของฉันอยู่นี่ไงอะ.. มันทำให้ฉัน... เกร็ง อย่างบอกไม่ถูก
ดูเหมือนเตเองก็เพิ่งจะคิดได้เหมือนกันว่าเขากำลังแตะเนื้อต้องตัวผู้หญิงน่ารังเกียจอย่างฉันอยู่ ถึงได้รีบปล่อยมือออกอย่างนั้น แต่ฉันก็ยังคงตัวแข็งทื่ออยู่ดีนั่นแหละ ที่แน่ ๆ คือไม่กล้าหันหลังกลับไปสู้หน้าเขาแล้ว ToT
"เอ่อ..." ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก!!! แล้วนี่เตจะเดินอ้อมมาตรงหน้าฉันทำไมเนี้ยย!! >0<,, แล้วดูนั่นสิ ช่วยอย่าทำหน้าเหมือนกับเป็นหมาหงอยอย่างนั้นจะได้ไหม >_< คือ ถึงจะบอกว่าดูเหมือนหมาหงอยอะนะ แต่ก็เป็นหมาที่น่าเก็บมาจุ๊บ ๆๆๆๆ ปลอบใจที่สุดเลยน่ะสิ >3<,,,
ฉันมองตอบดวงตาใส ๆ ที่ถึงแม้มันจะไม่โตนัก แต่ก็กลมสวย เพียงแค่มองก็รู้แล้วว่าผู้ชายคนนี้ซื่อบริสุทธิ์เพียงใด เตใช้นิ้วมือยาว ๆ จับปลายจมูกโด่งรั้นของเขาเบา ๆ เหมือนกับว่าก็ทำตัวไม่ถูกพอกัน ส่วนฉันทำได้เพียงเลิกคิ้วมองผู้ชายที่เม้มริมฝีปากสีอมส้มนั่น พร้อมกับขมวดคิ้วเส้นบางอย่างหนักใจ
"เธอรังเกียจฉันเหรอ"
เฮ้ย!!!!?? ทำไมเตเป็นฝ่ายพูดคำนี้กับฉันซะอย่างนั้นอะ!!!! มันสมควรจะเป็นนายเองไม่ใช่หรอกเหรอที่ต้องรังเกียจผู้หญิงไม่สวย แถมยังเสร่อไปมีข่าวกับคนดังอย่างฉันน่ะ มันต้องเป็นนายสิที่รังเกียจช้านนนนนน >o<"
"ท... ทำไมคิดแบบนั้นง่ะ" ด้วยคำถามประหลาดนั้นเล่นเอาฉันตอบอะไรไม่ถูกนอกจากยิงคำถามกลับไป เพราะมันสงสัยจริง ๆ น่ะสิ ว่าทำไมเตถึงคิดแบบนั้น!? ทีนี้ฉันถึงกับได้เห็นคนหล่อพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่
"ก็เธอหนีฉันตลอดเลย.." อย่าาา.. ได้โปรดอย่าทำหน้าแบบน้านนนนน ไม่อย่างนั้นฉันอดใจไม่ไหวดึงนายมากอด ๆๆ ไม่รู้ด้วยนะเว้ยย!! >0<,,,,
"......................." แล้วเราสองคนก็เงียบกันไปอีกพักใหญ่.. เอ่อ ฉันไม่รู้จริง ๆ นะว่าจะพูดอะไรกับเตดี เพราะตอนนี้หัวใจมันดันเต้นแรงเกินไปจนสมองไม่ประมวลผล -*- หวังว่าเขาคงจะไม่ได้ยินนะ ส่วนเตที่ยืนเงียบอยู่ตรงหน้าฉันนี่ ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
แต่ว่าตอนนี้ฉันมีหนึ่งคำที่อยากบอกเตจังเลยอะ...
"เอ่อ.."
"ขอโทษนะ"
"ขอโทษนะ"
เฮ้ย!!!!!!!!!!!!!!!!! O.o... ทำไมมันประสานเสียงอย่างนั้นเล่า!! แล้วเตมาขอโทษฉันเรื่องอะไรเนี่ย!!!!
"นายมาขอโทษฉันทำไมอะ!?" ฉันโพล่งถามสวนออกไปทันทีด้วยความสงสัย ทำเอาเตอึ้งกิมกี่ไปเหมือนกัน
"ก็ที่มีข่าวแปลก ๆ กับผมทำให้ปริมอับอาย หรืออาจจะต้องทะเลาะกับแฟนก็ได้... ผมขอโทษนะ ว่าแต่ปริมขอโทษผมทำไมอะ" ตายแล้วววว ฉันไม่ยักรู้ว่าจะยังมีผู้ชายหล่อที่นิสัยดีขนาดนี้หลงเหลืออยู่ในโลกอีกด้วย ToT มีข่าวกับนายเนี่ยนะน่าอาย!! ฉันน่ะแทบจะตีปีกรอบโรงเรียนล่ะสิไม่ว่า แล้วคนอย่างฉันอะนะจะมีแฟนกับเขา!!!!! คิดได้ไงอะเต!!!!!!!!
"ฉันไม่ได้อาย แล้วก็ไม่มีแฟนด้วย คือฉันไม่ได้เดือดร้อนอะไรเลย แต่ฉันขอโทษนายที่ทำให้นายลำบากต่างหาก คือที่ฉันหลบเพราะฉันกลัวว่านายจะคิดว่าฉันเป็นคนปล่อยข่าว แล้วนายจะมาฆ่าฉันอะ T.T" สารภาพออกไปหมดแล้ววฉัน T.T เตต้องเห็นฉันเป็นตัวตลกแน่เลย แน่ๆ เลยย T___T
นั่นไง!! เขาหัวเราะจริง ๆ ด้วย หัวเราะจนตาหยีเลย.. น่ารักจังน้าา ^__^ แต่เอ๊ะ! ไม่ใช่เวลามาชื่นชมนี่นา ToT
"ผมเนี่ยนะจะฆ่าปริม ^^ คุณตลกจัง ผมสบายใจนะที่คุณไม่โกรธ" เขาเห็นฉันเป็นตัวตลกจริง ๆ ด้วย ToT เขาคงขยะแขยงฉัน แล้วก็ไม่อยากร่วมโลกกับตัวตลกอย่างฉันอีกแน่เลย ToT
แต่เขาก็หันหลังไปกดน้ำแอบเปิ้ลในตู้ที่ฉันชอบอุดหนุนบ่อย ๆ แล้วยื่นมันให้กับฉัน O.o!!!!?
"เอ่อ... เรารู้จักกันแล้วนะ ถือว่าได้เพื่อนเพิ่มอีกหนึ่ง...... เอ่อ.. ยินดีที่ได้รู้จักปริมนะ" เขายังคงยื่นน้ำแอบเปิ้ลกระป๋องนั้นให้ฉันอยู่ ถึงแม้มันจะดูงง ๆ นิดหน่อยแต่ฉันก็รับเอาไว้ไม่ให้เสียน้ำใจเต พร้อมกับพยักหน้าอย่างที่เรียกได้ว่า 'ไม่เข้าใจอะไรเลยยยย'
ฉันมองดูรอยยิ้มสดใสของเขาที่เจือความเขินอายด้วยอีกแวบหนึ่ง O.o น่ารักอะไรอย่างนี้ >_<,, แล้วเขาก็ผงกหัวให้ฉันอย่างสุดน่ารัก 1 ที ก่อนจะวิ่งกลับสนามฟุตบอลไป
จริง ๆ แล้วก่อนไปเขาอาสาเดินไปส่งฉันที่หอด้วย! แต่ฉันว่าไม่ดีแน่ แค่คุยกันตรงนี้ยังเห็นพวกรุ่นน้องผู้หญิงหลายคนจ้องกันเสียอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ ToT
นี่มันเป็นเวรกรรมหรือบุญวาสนาของฉันกันแน่นะ?...... ชักไม่แน่ใจแล้วสิ?
-TBC-
ความคิดเห็น