คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : วิจารณ์นิยาย-Love O'clock ขยับเวลาหารักป่วนๆ ของยัยตัวแสบ
Sweet dream
รับวิจารณ์นิยายฉบับฝันหวาน!
โดยมาจะกล่าวบทไป...
ก่อนอื่นมาแนะนำตัวกันก่อน ชื่อมุกนะคะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่วิจารณ์อย่างเป็นทางการเรื่องที่ 3 แต่ว่าเปลี่ยนร้านวิจารณ์ใหม่ ซึ่งร้านนี้ก็เป็นเรื่องแรกนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นข้อติ-ชมก็อยากให้นำไปปรับใช้ค่ะ ทุกจุดวิจารณ์ให้อย่างจริงใจไม่มีอคติ หรือเข้าข้างใดๆ ผิดคือผิด ถูกคือถูก อาจจะแรงไปบ้างก็ขออภัยนะคะ ขอให้เปิดใจรับฟังและนำไปปรับใช้ รับรองว่าได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อยค่ะ
เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็มาเริ่มกันเลยจ้า~
(ถ้าพบคำผิดขอให้อ่านข้ามๆ มันไปเถอะค่ะ มุกอาจจะไม่ได้อ่านทวนหลายรอบนัก ขออภัยในความไม่รอบคอบ)
ชื่อนักวิจารณ์ ::มาจะกล่าวบทไป...
ชื่อเรื่อง :: Love O'clock ขยับเวลาหารักป่วนๆ ของยัยตัวแสบ
หน้าบทความ ::
ยะฮู้! ตรงนี้เป็นส่วนแรกที่คนอ่านจะเข้ามาเจอใช่ไหม? สำหรับมุกไม่ขัดข้องใดๆ ค่ะ เพราะว่าเป็นสิทธิ์ของนักเขียนเลยที่จะตกแต่งเพื่อดึงดูดนักอ่าน แต่ถ้าถามมุก มุกว่าก็น่ารักดีค่ะ สดใส แต่เหมือนจะเยอะไปนิด โปสเตอร์ทั้งเก่าทั้งใหม่ร่วมกันอยู่หน้าแรก กว่าจะลงมาถึงเนื้อหานิยายก็เลื่อนกันเยอะหน่อย
บทนำ ::
สำหรับบทนำเรื่องนี้ไม่มีนี่นา เอิ๊กๆ :D
พูดถึงการเปิดเรื่องละกันค่ะ ในส่วนนี้ส่วนตัวมุกคิดว่ามันยืดเยื้อมากกก~ อาจจะเพราะว่าเหตุการณ์แค่เล่าถึงอดีตของยุยกับยู แต่เนื้อหามันปาเข้าไปตั้ง 3 ตอนเลยทีเดียว ในการตัดจบแต่ละตอนมุกว่ามันสั้น มันห้วนเกินไป ยังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ก็จบตอนซะแล้ว เช่นตอนแรกเปิดตัวยุยและยูพร้อมความเจ้าชู้ (?) ของยู จากนั้นไปตอนที่ 2 เล่าถึงว่ายุยแอบชอบยู และยูก็บอกชอบยุย ตามด้วยการลำลึกความหลัง อาการเพ้อของยุย และความกลัวที่จะรักเพื่อนสนิทอย่างยู ซึ่งมุกคิดว่าถ้าจะเล่าถึงความสัมพันธ์ของ 2 คนนี้ก็เล่าให้ยาวไปเลยค่ะ จะได้รู้สึกถึงความแน่นความรู้สึกของทั้ง 2 ที่ต่างก็แอบชอบกันแล้วค่อยเล่าหลังจากที่นานเอกความจำเสื่อม
การบรรยาย ::
ส่วนนี้มุกคิดว่าการบรรยายในบางจุดมันเร็วไปนิด เหมือนว่ากำลังจะเข้าถึงอารมณ์นั้นแล้วแต่ก็เปลี่ยนฉาก หรือบางจุดกลับยืดเยื้อ และบรรยายซ้ำๆ ทั้งที่ควรจะจบกับตรงนี้ไปได้แล้ว
และอีกส่วนที่ขอเตือนคือการบรรยายนั้นเข้าใจค่ะ แต่เหมือนกับว่ามันทำให้ งง มุกหมายถึงว่าการบรรยายน่ะเข้าใจว่าตรงนี้ต้องการจะสื่ออะไร ต้องการจะเล่าถึงตรงไหน แต่ งง กับภาษาเช่น
ตึกๆ !
เสียงฝีเท้าของผู้หญิงที่คาดว่าจะอกหักในไม่ช้านี้เดินมาทางฉัน …และนี่แหละ เรื่องที่ฉันบอกว่ามันจะต้องเกิด และแน่นอนว่า...ซวย!
“นี่มันหมายความว่ายังไงคะพี่! ทำไมพี่ทำกับน้ำตาลอย่างนี้!!” เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วนะที่ฉันได้ยินผู้หญิงหลากหน้าหลายตา เอ้ย! หลายหลายหน้าตา มาพูดอย่างนี้ให้ฟัง
ณ จุดๆ นี้เข้าใจค่ะว่าผู้เขียนต้องการจะเล่นคำ (หรือเปล่า?) แต่การเล่นคำกลับทำให้ งง ซะอย่างนั้น มุกว่าเลือกเอาสักอย่างว่าจะหลากหน้าหลายตา หรือ หลายๆ หน้าตา แต่ถ้าให้มุกเลือกอันแรกเหมาะกว่าค่ะ อีกอย่างคือคำว่า ‘และ’ ที่ใช้ซ้ำตั้ง 2 ครั้ง มุกว่าคำซ้ำ เวลาใช้มากๆ มันจะดูเปลืองอ่าจ้ะ เช่น
“โอเคๆ อย่าทำหน้าเศร้าอย่างนั้นได้ไหม ฉันไม่ดูแล้วช่องนี้น่ะ! จะดูการ์ตูน = =” ในตอนนั้นฉันถึงกับอารมณ์เศร้าชะงัก กลายเป็นอารมณ์ดีใจแทน เพราะยูไม่ชอบดูโปเกมอน แต่ฉันน่ะชอบมากๆ! แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ยอมดูกับฉันสักครั้งจนฉันต้องยอมให้เขาเปิดอย่างอื่นดูแล้วมานั่งดูกับเขานี่ล่ะ
หลังจากนั้นเชื่อไหมว่าฉันอารมณ์ดีไปเลย!
ตรงนี้บอกว่าอารมณ์ดีแล้ว และเปลี่ยนเรื่องพูดถึงรายการทีวี แต่จู่ๆ ก็ย้อนกลับมาที่อารมณ์อีกซะอย่างนั้น
และอีกส่วนที่มุกอย่างจะให้ผู้เขียนจำให้ขึ้นใจเลยก็คือการดำเนินเรื่องของเรานั้นเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับผู้อ่าน การดำเนินเรื่องเราควรจะค่อยๆ เล่า ค่อยๆ บอกในสิ่งที่ผู้อ่านยังไม่รู้ และถ้าจะเล่าถึงสิ่งที่ผู้อ่านยังไม่รู้ เราก็ควรเล่าถึงที่มาที่ไปของมันด้วย... อาจจะยังไม่เข้าใจ เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าผู้เขียนพลาดตรงไหน
“ไม่จริง ไม่จริง แล้วพี่มาแสดงอาการอย่างนี้กับน้ำตาลทำไมคะ! หรือว่าเพราะเธอ เพราะแกเองสินะ บอกว่าเป็นเพื่อนแต่ดูทำ..” สาวน้อยคนนั้นถึงขึ้นเสียงตะโกนถาม ก่อนจะเล้งเป้ามาที่ฉันต่อ คำแรกใช้เธอทำไมคำที่สองกลายเป็นแกได้ล่ะ T___T สงสารฉันบ้างเถอะ ฉันเจอเรื่องอย่างนี้มาเยอะแล้วน้า งอแงๆ
“ฉันคิดไว้อยู่แล้วว่ามันต้องเป็นอย่างนี้ ฉันถึงเตรียมนี่มายังไงล่ะ!” น้ำตาลพูดแผนของเธอจบก็ยื่นน้ำกรดออกมาโชว์มนุษย์โลก เฮ้ย! เรื่องแค่นี้จะใช้น้ำกรดทำร้ายกันเลยหรอ O[]O
เอ๊ะ! อะไรน่ะ น้ำกรดหรอ? รู้ได้ยังไง O_o
มุกว่าตรงนี้น่าจะบอกว่า “ที่ขวดแปะป้ายเบ้อเริ่มว่า ‘น้ำกรด’ เอาไว้”
หรือ
“นั่นน้ำอะไรน่ะ” ยู (หรือยุยก็ได้) ถามอย่างตกใจ
“ก็น้ำกรดยังไงล่ะ!” น้ำตาลยื่นน้ำกรดออกมาข้างหน้า
ลองคิดถึงหลักความเป็นจริงสิคะ น้ำกรดมันเป็นน้ำใสๆ ใช่ไหม? คงไม่มีใครที่มองน้ำใสๆ แล้วก็ตรัสรู้หรอกว่ามันคือน้ำเปล่า เพราะมันดูเหมือนน้ำเปล่าซะมากกว่า ผู้เขียนควรระวังจุดนี้ให้ดีๆ นะคะ
“ไปไหนดี” และนี่เป็นประโยคแรกที่มันพูด อะ...ชินได้เลยนะบางทีฉันก็แทนมันว่ามัน แต่ครั้งไหนอารมณ์ดีจะแทนว่าเขาละกันนะ ^^
ณ จุดนี้มุกคิดว่าผู้เขียนเลือกคำไปเลยดีกว่าค่ะว่าจะใช้ ‘มัน’ หรือ ‘เขา’ เพราะจะทำให้ผู้อ่าน งง เดี๋ยวเปลี่ยน เดี๋ยวไม่เปลี่ยน
เนื้อเรื่อง ::
เนื้อเรื่องนี่ก็เป็นการวางเรื่องของผู้เขียนเอง มุกคิดว่ามันอยู่ที่การผูกเรื่องของผู้เขียนค่ะ และเพราะว่ามุกอ่านแค่ 5 ตอน ซึ่งเป็น 5 ตอนที่ยังไม่เข้าเนื้อเรื่องสักเท่าไหร่ จึงวิจารณ์ส่วนนี้ไม่ได้
ส่วนที่ต้องแก้ไข ::
มุกคิดว่าผู้เขียนควรจะใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ ให้มากค่ะ โดยรวมก็โอเคแล้ว
ตัวละคร ::
พูดถึงตัวละคร จาก 5 ตอนที่อ่านมาตัวละครที่มุกเจอ และคาดว่าจะเป็นตัวละครหลักคือ ยุย ยู มายด์ (ตอนแรกคิดว่ามายด์กับยูจะเป็นคนๆ เดียวกันซะอีก) โยเกิร์ต และ 5 ตอนที่มุกอ่านบุคลิก หรือเอกลักษณ์ของตัวละครยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ค่ะ แต่ก็เข้าใจได้ว่าแต่ละคนเป็นอย่างไร
คำผิด ::
ความจริงคำผิดมีน้อยค่ะ ตรงนี้เป็นที่น่าชื่นชม เพราะผู้เขียนหลายๆ คนมักพลาดตรงจุดนี้เป็นหลัก แต่คำแปลกๆ น่ะสิมีเยอะกว่า มุกอยากให้ใส่ใจตรงนี้เยอะๆนะคะ
“ที่รักจ๋า คิดถึงจังเลย >__<” นั่น ไง ฉันบอกแล้วว่ายังไงเรื่องก็ต้องเกิด ไอ้เพื่อนตัวแสบมันวิ่งมากระโดดโอบไหล่ฉันไว้ แล้วเอาหัวของมันมาถูๆไถจนฉันสงสัยมันจะปล่อยเหาใส่ฉันหรือเปล่า
-ถูๆ ไถๆ
“ไม่จริง ไม่จริง แล้วพี่มาแสดงอาการอย่างนี้กับน้ำตาลทำไมคะ! หรือว่าเพราะเธอ เพราะแกเองสินะ บอกว่าเป็นเพื่อนแต่ดูทำ..” สาวน้อยคนนั้นถึงขึ้นเสียงตะโกนถาม ก่อนจะเล้งเป้ามาที่ฉันต่อ คำแรกใช้เธอทำไมคำที่สองกลายเป็นแกได้ล่ะ T___T สงสารฉันบ้างเถอะ ฉันเจอเรื่องอย่างนี้มาเยอะแล้วน้า งอแงๆ
-เล็ง
“หึๆ กลัวล่ะสิ แต่เธอจะไม่เป็นไรถ้าเธอคืนยูมาให้ฉัน!” เธออยากได้ผู้ชายมากขนาดนั้นเลยหรอเนี่ย... ฉันคิดพลางเหล่ตาไปมองที่คนข้างๆที่พลาดแขนหนักๆไว้ที่ไหล่ฉัน ทำหน้าตาเฉยชาอยู่
-พาด
ทุก ครั้งไม่เคยนัด ไม่เคยชวน วันนี้เป็นอะไรนึกชวนขึ้นมา หรือจะไปส่งที่บ้าน หมอนี่ไม่เคยทำนี่นา ปกตินึกจะกลับก็กลับ นึกจะเจอก็ไปส่ง แล้ววันนี้เป็นอะไรอีกล่ะนิ = =”
-ล่ะนี่
“เอ่อ... น้องคะๆ คือน้องมายืนทำอะไรตรงนี้หรอ??” ฉันที่ด่วนสรุปไปเองว่าผู้ชายคนนี้น่าจะเป็นรุ่นน้องของฉัน เพราะในสายชั้นม.5 ฉันก็ค่อนข้างที่จะจำหน้าใครต่อใครได้เหมือนกัน เอาเป็นว่า...ตอนนี้ฉันเดินไปถามน้องผู้ชายด้วยความอยาก(สอด)อยากเห็นละกัน
-อยาก (สอด) รู้ อยากรู้เห็น
“เฮ้ยๆ ออกๆ แกนี่เล่นอะไรไม่รู้เรื่องลามปรามนะเดี๋ยวนี้อะ = =” ฉันที่พยายามตั้งสติและพยายามทำเป็นปกติมากที่สุด ถึงแม้จะร้อนหูจนแทบจะลุกเป็นไฟแล้วก็ตาม ให้ตายเถอะ!... ฉันกำลังเขินเพื่อนตัวเองด้วยล่ะ
-ลามปาม
สาด!!!
แต่ มันทันซะที่ไหนล่ะ น้ำเหนียวๆสีส้มหอมหวานที่เมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้วอยู่ในมือของผู้หญิงที่ มีใบหน้าสวยหวาน ตอนนี้ถูกสาดมาที่ฉันจนเสื้อนักเรียนเปื้อน ป๊าดด! มันเหนียวนะ = =
ตรงนี้ใช้คำว่า ‘ซ่า!!!’ จะดีกว่าไหมคะ?
แต่ แล้วไอ้เพื่อนสนิทมันก็ทำสิ่งไม่คาดคิดอีกครั้งเมื่อมันดึงแขนของฉันเข้าไป ใกล้แล้วเอาแขนของเขามารั้งเอวฉันไม่ให้เสียการทรงตัวจนอาจจะล้มลงได้ ก่อนที่มันจะเลียอ้มยิ้มกระต่าย (ออกสื่อบ่อยๆ) พร้อมกับมองฉันด้วยสายตาที่ฉันเองก็อ่านไม่ออกและไม่เข้าใจมัน
-อมยิ้ม
“เดี๋ยวนะ คือ... แกต้องการอะไร แกแกล้งฉันใช่ไหม” ฉัน ดึงเสื้อมันหยุดไว้ก่อนที่มันจะหันหลังไป จะให้ฉันเชื่อ และบอกกับเขาว่าฉันก็ชอบนายง่ายๆน่ะหรอ ถ้าเกิดหมอนี่แกล้งฉันล่ะ ฉันไม่ถูกล้ออายขายขี้ (มุก::เอ่อ... ขะ ขะ ขายขี้!!!??? O_O) ไปจนครบชาติเกิดเลยหรือไง
-ขายขี้หน้า
“แกจะพิสูจน์อะไร ไม่ต้องง” ฉันพยายามเอามือที่มีกำลังน้อยดันมันออกไป แต่ไม่ได้ผลเลยสักนิด! มัน ใช้มือใหญ่(กว่าฉัน) เงยคางให้หน้าของฉันกับมันตรงกัน และเป็นแว๊บหนึ่งที่ฉันได้เห็นดวงตาสีดำทมิลที่สาวๆเกือบทั้งโรงเรียนหลงใหล กำลังแสดงออกว่ามันจริงจังแค่ไหน ก่อนที่ใบหน้าของมันจะเลื่อนลงมาใกล้ใบหน้าของฉันมากขึ้นเรื่อยๆ
-กำลังน้อยนิด
-ทมิฬ
“เอ่อ...แก ฉันขอโทษ” ฉัน พูดขอโทษออกไป อยากจะบอกว่าฉันยังไม่พร้อมสำหรับอะไรแบบนี้ซะมากกว่า... รักษามาตั้งนาน ถึงฉันจะชอบมัน แต่ถั้นแค่แกล้งฉันล่ะ ฉันต้องเสียครั้งแรก (กำกวม) ของชีวิตไปเลยนะ!
-ถ้ามัน
“ฮ่าๆ โอเคแล้วนะ อย่างคิดมาก ไม่ว่ายังไงฉันก็รอเธอ” พูดจบมันก็ลูบหัวฉันอย่างเบามือ “งั้นฉันไปล่ะ” ฉันพยักหน้าตอบมัน ก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นได้
-อย่า
“ไม่มีอะไรหรอก กลับบ้านได้ละ บาย =)” มัน ปล่อยฉันออกเป็นอิสระก่อนจะยกมือบายฉัน แล้วหันหลังไป ฉันที่ยืนอยู่ได้แต่มองแผ่นหลังของเพื่อนที่รักเกินกว่าเพื่อน ฉันคิดถูกไหมนะ หรือว่าฉันควรจะคบกับมัน แต่ถ้าสักวันฉันต้องเลิกกับมันล่ะ ทำไมฉันขี้กลัวอย่างนี้นะ...
-ยกมือบอกโบกเพื่อบอกลา (หรืออะไรทำนองนี้)
ฉันพยายามเบ่งตาตัวเองด้วยความยากลำบาก ก่อนจะสู้แรงเอาตัวเองให้ลุกขึ้นจากท่านอนนี้สักที แต่...ฉันลุกไม่ขึ้นอะ!! T_T
-บอกคามตรงประโยคนี้ งง มากๆ
“เธอเป็นไมค์โครโฟนเคลื่อนที่หรือไงวะ = =” เขาพูดออกมาติดสำเนียงง่วงๆ แต่เหมือนจะตื่นกว่าเมื่อกี้
-ลำโพงหรือเปล่า?
“ก็ นายไม่ใช่ฉันพูดนิ สรุปว่านายพาฉันมาได้ยังไง แล้วฉันอยู่ที่ไหน ฉันทำอะไรนายต้องพามา เอาเป็นว่านะ นายช่วยขยายความหน่อยได้ไหม ฉันไม่อาจจะสามารถเข้าใจมันได้อย่างแท้จริง -0- และที่สำคัญ...ฉันเป็นลูกนายหรอ? ที่ว่าฉันเป็นของนายน่ะ” และนี่แหละโอกาสที่ฉันบอก ยิงคำถามรัวซะเลย
-นี่
-อีกประโยคที่ทำให้ งง
‘ใบหน้ากลมเรียวใส ดวงตากลมโตที่มองสีไม่ออกและเส้นผมสีดำที่ยุ่งเหยิงยาวลงมาปกหน้าผากและซอยยาวไปข้างหลัง’ โอ่ นี่คงไม่ใช่หน้าตาของไฮโดรเจนในอากาศแน่นอน แปลว่าฉันไม่ได้เกิดจากการที่ธาตุอากาศรวมตัวกันสินะ ดีใจจัง
-โอ้
ฉันเคยทำอย่างนี้กับใคราก่อนงั้นหรอ? ….แล้วสิ่งที่คนอย่างคนคนนั้นถามกับฉัน...มันคืออะไรกันนะ
-กับใครมาก่อน
“จะว่าไป ฉันมีเรื่องจะถามเธอน่ะ” ฉันรอฟังคำถามของเขาต่อ
-นะ
“เธอน่าจะรู้ตัวว่าตัวเองความจำเสื่อมตั้งนานแล้ว ยัยเบ๊อะ” เขาว่าพลางจ้มๆที่โทรศัพท์รู่นงามที่ดูทันสมัยอย่างที่ฉันไม่เคยพบเคยเจอ ก่อนจะยื่นมาให้ฉันดู
-จิ้มๆ
-รุ่นงาม
“ใช่สิ หรือนายคิดอย่างอื่นได้อีกล่ะกับการที่ฉันมือนั่งอยู่ข้างหน้านายนี่น่ะ” ฉันคงไม่คิดกลับไปอีกรอบแน่นอนว่าฉันเกิดมาจากไฮโดรเจนน่ะ
-มา
“โอ้ย! โอเคฉันไม่พูดต่อแล้ว เซ็งนายแล้วนะ ว่าแต่ไอ้นาฬิกาที่นายหาอยู่น่ะ ที่นายบอกว่าฉันโผล่ออกมาน่ะ นี้มันอยู่ที่ไหน!?!” ถ้า หากถามฉันว่าฉันอยากรู้ชื่อตัวเอง ข้อมูลของตัวเองไหม ฉันตอบได้เลยว่าฉันอยากรู้ ไม่ใช่แค่จำได้เพียงปี แล้วมานั่งสันนิษฐานว่าเกิดมาจากไฮโดรเจนหรือเปล่า
-โอ๊ย!
‘เหตุการณ์ ก่อนงานโชว์สินค้าของชั้นนำระดับประเทศ ณ ศูนย์นิทรรศการ มีการก่อเรื่องร่ายแรงขึ้นเมื่อเครื่องระบบความปลอดภัยได้ร้องดังทั้งคืน จนผู้อยู่ใกล้บริเวณนั้นเกิดความสงสัยจึงได้มีการโทรศัพท์แจ้งมาที่บริษัท ผู้จัดงาน เมื่อพนักงานมาถึงก็พบว่า สินค้าที่ถูกตั้งชื่อว่า ‘Real Clock over time’ ได้หายไป พร้อมกับกระจกที่เป็นรอยแตก อย่างไรก็ตาม....’ ฉัน ยืนฟังนักข่าวพูดจบก่อนจะหันกลับมาที่ข้าวต้มข้างหน้าอย่างอ่อนล้า อย่างนี้ฉันจะมีวันรู้ไหมนะว่าฉันมาจากไหน จู่ๆก็โผล่จากนาฬิกาโบราณๆที่ตั้งขายอยู่มาห้าปีข้างหน้า พร้อมกับชื่อและข้อมูลหลายๆอย่างได้หายไปจากสมอง
-ร้ายแรง
“จ้า พ่อคนหน้าตาดี จิตพิสัยเป็นเลิศ” ฉันตอบแบบประชดๆ จนขนตรงหน้าถึงกับยิ้มที่มุมปาก ถ้านายจะยิ้มแบบนั้นฉันว่านายหัวเราะฉันเลยเถอะ
-คน
“สวัสดีจ้า! ฉันเอ่อ...เป็นใครก็ไม่รู้อ่ะนะ เผอิญผ่านมาห้องนี้ ยังไงดีล่ะ ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับหมอนี่ และตอนนี้ฉันต้องขอลาก่อนนะ ^^ บายๆจ้า” ฉันที่สะเออะออกไป รีบพูดชี้แจ้งให้โยเกิร์ตฟัง ก่อนจะหมุนตัวเตรียมออกจากตรงนี้ อ๊ะ! ฉันเห็นลีฟต์แล้ว!! ทางนั้นเป็นทางที่ฉันจะไป...
“เฮ้ย! แล้วเธอจะไปไหนน่ะ!” ก่อน ที่ฉันจะเดินไปได้ไกลนัก ก็ได้ยินเสียงมายด์ตะโกนถามออกมา และฉันเห็นสายตาจับผิดของโยเกิร์ตด้วย เธอน่ารักนะ แต่ทำไมฉันรู้สึกว่าเธอน่ากลัวมากกว่าในตอนนี้ล่ะ ฮะๆ มายด์นายอาจจะโดนแฟนอบรมแล้วล่ะ
“ฉันจะไปไหนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายล่ะ ฉันแค่เผอิญผ่านมานะ ถ้าฟ้าดลบันดาลให้เราได้เจอกัน หวังว่าเราคงได้เจอกันอีกนะ พ่อรูปหล่อ ^^” ฉัน หันกลับไปตอบก่อนจะยกมือบ๊ายบาย แล้วรีบวิ่งเข้ารีบกดมั่วๆไป และเมื่อลีฟต์เปิดออกฉันก็เอาร่างที่บางของตัวเองเขาไปทันทีก่อนที่ลีฟต์จะ ปิดลงและฉันที่พยายามมองไปทางอื่นที่ไม่ใช่สายตาของมายด์ที่น่าจะกำลังมองมา อยู่
ไอ้ความรู้สึกโหวงเหวงนี้มันคืออะไรกันนะ…
อา...ฉันควรจะทำอะไรก่อนดีล่ะ เงินก็ไม่มี ชื่อก็ไม่รู้ อยู่ที่ไหนก็ไม่ทราบ แล้วที่สำคัญไอ้ลีฟต์บ้านี่มันใช้ยังไงล่ะเนี่ย ! TOT
ปิ๊งป่อง!
จู่ๆ ลิฟต์ถูกเปิดเพื่อรับคนที่จะเข้าไป แต่เนื่องจากฉันยังคงอึ้งและไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อเลยได้แต่อ้าปากค้าง (สมเพศตัวเองอะ!)
“ห้อง 309 ชั้น 4” จู่ๆ ก็มีคนเดินมาพูดกลับใครไม่รู้ ไร้สติหรือเมาหรือเปล่าน่ะ =0=
แต่หลังจากที่คนนั้นพูดจบ ลีฟต์ก็ค่อยๆเลื่อนขึ้น มันทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันต่างหากที่เมา...อะไรดีล่ะ เมาอากาศ! แล้วยังไม่มีสติมากซะกว่า!!
“ทางออก ชั้นล่างสุด” หลังจากที่คนเมื่อกี้ออกไปแล้ว ฉันก็ทำการพูดคนเดียวทันที
และมันได้ผลลีฟต์ปิดและเลื่อนลงแล้ว จะทำซะอย่างมันก็ไม่ได้ยากเลยนี่นา >__<
“อะ...เอ่อ =[ ]=” ...
ที่นี่ที่ไหน....ห้องมืดๆ มีพนักงานเดินยกของไปมา
“น้องครับ พี่ว่าน้องมาผิดชั้นนะ -0-“ พี่คนที่ยกของคนหนึ่งเดินมาหยุดที่ตรงหน้าฉัน ก่อนจะเข้ามาในลีฟต์ด้วย
“เอ่อ... ขอโทษค่ะ คือว่าใช้ลีฟต์รุ่นนี้ไม่เป็นน่ะค่ะ” ฉันบอกพี่เขาออกไปเผื่อว่าพี่เขาจะเข้าใจที่ฉันสื่อมาบ้าง ให้ได้อย่างนี้สิ สภาพ 5 ปีข้างหน้ามันขนาดนี้เลยหรอ O^O วุ่นวายจริงๆเลยอะ
-ลีฟต์ >>> ลิฟต์
-ร่างที่บางของตัวเองน่าจะบอกว่าตัวเล็กอะไรทำนองนี้ แบบว่าคนเราจะบอกว่าตัวเองตัวบาง มันทะเม่งๆ นะ บอกว่าตัวเล็กน่าจะดีกว่าอ่ะจ้ะ
-กลับ >>> กับ
“โอเค งั้นพี่ไปละนะน้องแล้วอย่างใช้ลีฟต์ผิดอีกล่ะ ฮ่าๆ” แน่ะก่อนจะจากยังไม่วายมาหัวเราะและล้อฉันต่ออีกนะ
“ขอบ-คุณ-มาก-เลย-นะ-คะ!!” ฉัน ตอบแบบกระแทกใส่พี่เขา แต่ใส่ความรู้สึกอยากขอบคุณเข้าไปด้วย และเหมือนพี่เขาจะรับความรู้สึกนั้น จึงหยุดหัวเราะแล้วยิ้มบางๆให้กับฉันแทน ฉันพึ่งสังเกตนะเนี่ยว่าพี่พนักงานคนนี้หล่อ... ฉันหื่นว่ะ! >//<
“เดี๋ยวค่ะพี่! พี่ชื่ออะไรหรอคะ?” อย่างน้อยก่อนที่จะลากันไป ฉันก็น่าจะรู้ชื่อพี่เขาหน่อยนะ ที่สำคัญพี่เขาดูๆแล้วก็หล่อมากด้วยสิ นี่ฉันจะไม่เลิกหื่นใช่ไหม -0-
“พี่ชื่อเบสส์ครับน้อง ^_^” พี่ เบสส์ตอบพร้อมกับส่งยิ้มน่ารักๆให้ฉันก่อนจะหันหลังแล้ววิ่งเข้าลีฟต์ไป พี่เบสส์...เป็นชื่อของคนในอีกห้าปีคนที่สามที่ฉันรู้จักสินะ
ว่าแต่...พี่เขาก็ดูเด็กนะ คงประมาณ 18 19 เขาเรียกฉันว่าน้องก็แปลว่าหน้าฉันเด็กกว่าเด็กอายุสิบแปดสิบเก้าอีกหรอเนี่ย หรือว่าหน้าฉันมันจะประถามจริงๆ O.O ฉันควรจะดีใจ? ใช่ไหม...ฮะๆ ฮาตัวเองจัง ยังมีอารมณ์มาคิดได้อีกนะ
-ลีฟต์ >>> ลิฟต์
-พึ่ง >>> เพิ่ง
-ฉันหื่นว่ะ มุกคิดว่าตรงนี้ใช้คำผิดไปนิดนะ อาการหื่นมุกว่าจะน่าจะพวกมีอารณ์ หรือจิตนาการแบบที่แอบเรทอะไรอย่างนี้
-ประถาม >>> ประถม
ความน่าติดตาม ::
ถามว่าน่าติดตามไหม สำหรับมุกยังไม่น่าติดตามเท่าที่ควรนะคะ เพราะอย่างที่บอกไปว่าช่วงแรกๆ เนื้อหามันยืดยื้อไป แต่ถ้าจะให้ยืดจริงๆ ก็ควรจะยืดให้ยาวๆ ไปเลย เหมือมันครึ่งๆ กลางๆ อ่ะค่ะ ภาษาการบรรยายก็เรื่อยๆ แต่ยังไม่ไหลลื่น เพราะมีคำผิด คำแปลกเยอะพอสมควร
สุดท้ายนี้ขอให้ผู้เขียนรับคำวิจารณ์ของมุกไปปรับใช้บ้าง แต่ก็อย่าให้ความสำคัญมากเกินไปนะคะ สไตล์ใครสไตล์มัน สิ่งที่มุกบอกก็เพียงแค่หนึ่งความคิดเห็นเท่านั้น คนอื่นอาจจะคิกต่างไปจากนี้ก็ได้
ความคิดเห็น