คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Secret Story 100%[Rewrite]
“ชางมิน แผลนั่น...”
แจจุงพูดออกมาอย่างตกใจ เมื่อเห็นแผลที่ยาวตั้งแต่ไหล่บางไล่จนมาถึงข้อต่อ แม้จะไม่ใหญ่แต่ดูแล้ว แผลน่าจะลึกมาก ตอนแรกไม่ค่อยมีใครสังเกตเพราะถูกผ้าหลุมไหล่บังอยู่
“!”
ชางมินรีบจับผ้ามาบังทันที แต่ไม่ทันจุนซูที่คว้าไว้ก่อน
“โอ้ย!”
ชางมินหลุดร้องออกมาเบาๆเมื่อนิ้วเรียวถูกแผล แจจุงกับจุนซูมองแผลยาวนิ่ง
“ได้มาจากไหน ชางมิน นี่สินะ เหตุผลที่นายใส่เสื้อแขนยาวตลอด ไอ้เหตุผลที่บอกว่านายขี้หนาว มันโกหกใช่ไหม”
น้ำเสียงจริงจังของจุนซูดังขึ้นขณะที่เจ้าตัวจับแขนเพื่อนขึ้นมาดู สภาพแผลแบบนี้น่าจะมีมานานแล้ว เพียงแต่ถูกขยับแผลเลยทำให้แผลไม่สมานกันง่ายๆ ซ้ำยังไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธีอีกด้วย
“เออ..จุนซู ฉัน”
ชางมินพูดติดๆด้วยความกลัว กลัวบางอย่าง กลัวเพื่อนจะรู้ความจริง ความจริงที่ร้ายแรง ความผิดที่เกิดจากเขา
“นายได้มาจากไหน บอกความจริงมา ชิม ชางมิน”
น้ำเสียงคาดคั้นที่ไม่ค่อยได้ยินจากเพื่อนที่อยู่ด้วยกันมาว่าสองปีทำให้ชางมินยิ่งกลัว เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นทั่วใบหน้าหวาน
“ฉัน....”
แม้จะคงสีหน้าตกใจอยู่เหมือนเดิม แต่ดวงตากลับเต็มไปด้วยความสับสน ความกังวล และความเศร้า แจจุงที่มองอยู่ตลอดเวลาอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
“ชางมิน จุนซู เราไปกันเถอะ ปล่อยให้คนอื่นรอ มันไม่ดีนะ”
แจจุงพูดขัดขึ้นเพราะเขาไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้ ก่อนจะจับแขนเพื่อนทั้งสองคนแล้วลากออกจากห้องไป โดยลืมว่า...
“แจจุง นายรู้หรอว่าต้องไปไหน”
ชางมินถามขึ้นมาอย่างสงสัย จุนซูเองก็สงสัยไม่ต่างกันเพียงแต่เขากำลังสงสัยเรื่องแผลที่แขนของเพื่อน ชางมินเป็นคนมีความลับมาก แต่ต่อให้คาดคั้นให้ตายก็ไม่ได้อะไรกลับมานอกจากสีหน้าเรียบเฉย แต่สิ่งที่เขาได้กลับมาคราวนี้คือความกลัว ปิดยังไงก็ปิดไม่มิด น่าแปลก...
“..เออ...ชางมิน ฉันไม่รู้เหมือนกัน..”
แจจุงพูดออกมาแล้วยิ่งแห้งๆให้คนที่เขาลากมา ชางมินส่ายหน้านิดๆแล้วเป็นคนจับแขนแจจุงแล้วพาเดิน
“ไม่ไหวเลยนะนายเนี่ย ไม่รู้แล้วยังจะเก็กเงียบอีก”
แจจุงยิ้มแห้งๆให้กับชางมินก่อนที่จะหันไปมองคนข้างตัวอีกคนที่บีบมือของเขาแน่นเหมือนกำลังเก็บความรู้สึกบางอย่างที่เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร แจจุงจึงทำได้เพียงแค่บีบมือกลับเพื่อให้ปลอบใจ เหมือนทุกครั้งที่เขาทำกับ...ยุนโฮ
หน้าห้องที่เขียนว่า...ต้องห้าม....
ก๊อก ก๊อก
“ขออนุญาตครับ”
ชางมินเคาะประตูก่อนที่จะเปิดออกเพื่อเข้าไปข้างใน
“เข้ามาได้ มาช้าจริงๆ”
น้ำเสียงเรียบๆที่ไม่บ่งบอกอารมณ์เช่นที่พูดดังขึ้น ชางมินก้มหัวน้อยๆให้หญิงตรงหน้า
“ขอโทษครับ จะไม่มีคราวหน้าอีกแล้ว”
หญิงคนนั้นแค่รับฟังที่สิ่งที่ได้ยิน แล้วหันไปมองคนตัวบางในชุดสีฟ้าอ่อน
“คิม แจจุงสินะ”
แจจุงเบิกตากว้างอย่างตกใจ เมื่อเห็นว่าหญิงตรงหน้ารู้ชื่อของเขา
“หึ..เหมือนนายเลยนะ เซีย จุนซู เหมือนกันมาก”
นายหญิง ยังคงพูดทิ้งไว้เป็นปริศนาให้แจจุง จุนซูก้มหน้ามองพื้น ภาพอันโหดร้ายในอดีตผุดขึ้นมาในหัวราวกับดอกเห็ด ภาพที่ไม่ว่ายังไงก็ไม่ลืม ความกลัวที่จะติดตามเขาไปจนวันตาย
“หน้าสวยๆแบบนี้ น่าจะไปอยู่เกรดเอ มาอยู่เอบวกขาดทุนแย่”
นายหญิงเดินเข้ามาแล้วพูดขึ้นอย่างพอใจ แต่กลับทำให้อีกสองคนในห้องเบิกตากว้างอย่างตกใจ
“นายหญิงครับ คนนี้ผมขอเถอะ อย่าเอาไปอยู่เกรดเอเลย ตำแหน่งปริ๊นซ์เซสยังว่างอยู่นะครับ เอามาแทนที่คนเก่าก็ได้”
ชางมินพูดออกมาโดยลืมนึกว่ายังมีคนอีกสองคนที่ยังไม่รู้เรื่องอยู่ในห้อง
“หมายความว่ายังไงชางมิน”
จุนซูสวนขึ้นมาทันทีที่ตั้งตัวได้ ทำไมเขาถึงไม่รู้เรื่องนี้
“จุนซู เรื่องนี้นายอย่ารู้เลย”
ชางมินหันไปบอกคนข้างตัวเบาๆ ก่อนจะหันไปหานายหญิงของเขา
“ว่าไงครับ ได้ไหม ให้เขามาแทนที่คนคนนั้นได้ไหม”
นายหญิงเลิกคิ้วอย่างสงสัย ก่อนจะถามเพื่อลองเชิง
“คิดดีแล้วหรอ ชเวคัง ชางมิน”
แม้ตาคู่สวยจะสั่นไหวไปบ้างแต่ตอบด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง
“ครับ ผมแน่ใจ ขอร้องล่ะครับ”
รอยยิ้มน่ารังเกียจผุดขึ้นที่ริมฝีปากของนายหญิง
“หึ ถ้าอย่างนั้น คิม แจจุง จะเปลี่ยนเป็น ยองอุน แจจุง ตำแหน่งปริ๊นซ์เซส ส่วนเรื่องงาน นายกับจุนซูสอนกันเองก็แล้วกัน”
ชางมินก้มหัวให้คนตรงหน้าก่อนจะหันหลังไป
“งั้นขอตัวนะครับ”
ก่อนที่ท้าวจะก้าวออกจากห้องก็มีเสียงพูดขึ้นส่งท้ายเบาๆ
“แล้วนายจะเสียใจที่เลือกอย่างนี้ ชิม ชางมิน”
ความคิดเห็น