ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] ......ใจแตก...... [Yunho x Jaejoong] TVXQ

    ลำดับตอนที่ #4 : Three :: Pure Love

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 871
      1
      26 มี.ค. 50

     

    Title : ......ใจแตก......

     

    Couple : [Yunho X Jaejoong]

     

    Author : ReaL*SkY

     

    Three :: Pure Love

     

    นอนไม่หลับเหรอจ๊ะ ยุนโฮ... เสียงอันอ่อนโยนของผู้เป็นมารดาทำให้เด็กน้อยพลิกตัวกลับมาหาในทันใด

     

    ฮะ...มันรู้สึกเหมือนไม่ค่อยสบายตัว ว่าพลางก็ซุกกอดผู้เป็นแม่อย่างอ้อนๆ

     

    คงจะผิดที่น่ะ.. ดื่มนมหน่อยมั้ย หรือจะให้แม่ร้องเพลงให้ฟัง อึนเฮกล่าวอย่างอ่อนโยน

     

    ไม่ดีกว่าฮะ เดี๋ยวคุณแม่เหนื่อย เด็กชายกล่าวอย่างเอาใจ ผมอยากให้พี่แจจุงมานอนกับเราด้วย

     

    คำกล่าวนั้นทำเอาอึนเฮหลุดหัวเราะออกมาอย่างเอ็นดูก่อนจะเอื้อมมือไปลูบศีรษะเด็กน้อยเบาๆ งั้นเอาอย่างนี้มั้ย เราไปนอนห้องคุณน้ากัน แม่จะได้นอนกอดคุณน้าให้หายคิดถึง ยุนโฮก็จะได้นอนกับพี่แจจุง

     

    เด็กชายรับคำมารดาในทันที เค้ากระโดดผลุงขึ้นมา พร้อมกับออกแรงลากมารดาให้ลุกขึ้นจากเตียงทันที ไม่ต้องรีบหรอกจ๊ะ แม่แก่แล้วนา...

     

    คุณแม่ยังไม่แก่ซักหน่อย ยังมีแรงเล่นมวยปล้ำกับผมอยู่เลย ยุนโฮว่าพลางกึ่งลากึ่งจูงผู้เป็นมารดาไปยังห้องนอนของชินเฮและแจจุงอย่างรีบเร่ง

     

    ..........ก็ไหนบอกว่ากลัวคุณแม่เหนื่อยไง........

     

     

    โครม!!!

     

    แกเกิดออกมาทำไม!!ไม่มีใครต้องการแก!!” เสียงข้าวของถูกทำลายและเสียงตะโกนกร้าวดังออกมาจากห้องนอนตรงหน้าทำเอาสองแม่ลูกสะดุ้งสุดตัว เสียงร้องไห้เบาๆที่ลอดออกมาเป็นระยะ ดูเหมือนจะยิ่งทำให้อารมณ์กรุ่นๆของเจ้าของเสียงตวาดนั้นเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

     

    เพล้ง!!!!

     

    เงียบ!!!หยุดร้องไห้ได้แล้ว!!!” เสียงตวาดซ้ำทำให้อึนเฮรัวเคาะประตูน้องนอนน้องสาวทันที ส่วนยุนโฮที่กำลังตกใจกับเสียงที่บ่งบอกถึงความรุนแรงเหล่านั้น ได้แต่ยืนตัวสั่น นึกถึงบาดแผลที่เค้าเห็นมันเมื่อเย็น

     

    ชินเฮเปิดให้พี่หน่อย!!”หญิงสาวตะโกน แต่เหมือนจะกลายเป็นความพยายามที่สูญเปล่า ในเมื่อเสียงนี้ไม่ได้ลอดเข้าไปในโสตประสาทของผู้เป็นน้องสาวแม้แต่น้อย

     

    ชั้นบอกให้แกเงียบ!! ไม่มีเสียงออกมาเลยยิ่งดี!!” ชินเฮตวาด สิ้นเสียงนั้น อึนเฮก็พบว่าประตูห้องนอนไม่ได้ล๊อค เธอเปิดเข้าไปทันทีอย่างถือวิสาสะ และเร็วพอที่จะวิ่งไปฉุดรั้งน้องสาวของตัวเองไม่ให้เข้าไปทำร้ายเด็กชายตัวน้อย

     

    ทำอะไรน่ะชินเฮ!! นั่นมันลูกของเธอนะ!!” อึนเฮตะโกนด้วยความตกใจ และหวังว่าเสียงของเธอจะเรียกสติน้องสาวไม่ให้ทำอะไรรุนแรงไปมากกว่านี้

     

    พี่ปล่อย!! มันไม่น่าเกิดมาตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าไม่มีมัน พี่ก็ไม่ต้องหนีไปอเมริกา ยุนโฮก็จะมีครอบครัวที่มีความสุข คุณแยจุนก็จะไม่ทำร้ายชั้น เพราะมัน ถ้าไม่มีมัน... แค่ถ้าไม่มีมัน......!!!!!” ชินเฮร้องราวกับสัตว์ป่า

     

    อึนเฮพยายามใช้แรงทั้งหมดกอดน้องสาวไว้ไม่ให้ไปทำร้ายเด็กน้อยที่น่าสงสารได้ แจจุงกำลังนั่งหลบอยู่ใต้โต๊ะ ร่างน้อยสั่นระริก เสียงสะอื้นหายไปแล้ว แต่น้ำตายังไหลไม่หยุดหย่อน ตามเนื้อตัวยังมีรอยช้ำเป็นจ้ำอยู่ทั่ว แผลตรงมุมปากมีเลือดไหลออกมาน้อยๆ อึนเฮอยากจะเบือนหน้าออกจาภาพนั้นเหลือเกิน แจจุงผิดอะไรกัน ถึงต้องรับโทษหนักขนาดนี้

     

    ยุนโฮ!! พาพี่แจจุงออกไปจากห้องเร็วๆลูก อึนเฮเรียกสติลูกชายที่มัวแต่ยืนอึ้งอยู่หน้าห้อง ยุนโฮสะดุ้งสุดตัว ก่อนจะรีบทำตามคำของมารดา

     

    ยุนโฮวิ่งผลุบเข้าไปใต้โต๊ะอย่างง่ายดาย เด็กน้อยพยายามเรียกผู้เป็นพี่ชายให้รู้สึกตัว แต่ดูเหมือนแจจุงจะสติล่องลอยไปไกลแล้ว สองแขนกอดตัวเองไว้แน่น นิ้วเล็กจิกเกร็งลงบนท่อนแขนเรียวของตัวเอง ฟันคมกัดริมฝีปากตัวเองจนห้อเลือด

     

    ยุนโฮดูจะตกใจไม่น้อย มันดูน่ากลัวเกินกว่าเด็กเจ็ดขวบจะรับไหว แล้วแจจุงต้องทนกับเรื่องแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว เด็กน้อยแบะปากก่อนจะเริ่มร้องไห้เป็นการใหญ่ ยุนโฮโผเข้ากอดแจจุงอย่างแหนหวง.....เจ็บแทนไปหมด เสียงสะอื้นดังสะท้อนไปทั่วทั้งห้อง สะท้อนเข้าไปถึงใจของอึนเฮและชินเฮ รวมทั้งสะท้อนเข้าไปในใจของแจจุง สติที่ล่องลอยไปไกลกลับเข้าสู่ความเป็นจริงในทันที

     

    ชินเฮมองภาพตรงหน้าอย่างตกใจ เหมือนกับเพิ่งเรียกสติได้ แต่แล้วภาพทุกอย่างก็กลับเลือนลางไปหมดและดับวูบไปในที่สุด อึนเฮพยุงร่างน้องสาวไว้ได้อย่างทันท่วงที เธอถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยๆ ไม่คิดเลยว่าการหนีไปอเมริกาของเธอจะเป็นการตัดสินใจที่ผิด และสร้างปัญหาไว้มากมายขนาดนี้ อึนเฮพาร่างที่หมดสติของน้องสาวขึ้นเตียงไปอย่างยากลำบาก ก่อนจะวิ่งไปหาเด็กน้อยทั้งสอง

     

    ยุนโฮยังคงกอดแจจุงแน่นและร้องไห้ไม่หยุด ปากก็พร่ำบางสิ่งบางอย่างที่จับใจความได้แค่ว่า.....ทำพี่แจจุงทำไม.....คำถามที่ไม่มีผู้ใดตอบได้ แจจุงที่ได้สติแล้วถึงกับร้องไห้ไม่ออก ในเมื่อตอนนี้ มีคนร้องไห้แทนเค้า......

     

    ยุนโฮไม่เป็นไรแล้ว...ไม่เป็นอะไรแล้วนะ....แจจุงด้วย ไม่เป็นไรแล้วนะลูก อึนเฮพาเด็กทั้งสองออกมาจากใต้โต๊ะแคบๆนั้น แต่ลูกชายของเธอยังไม่ยอมคลายอ้อมกอดจากแจจุงเลย ยุนโฮ....

     

    คุณแม่....พาพี่แจจุงไปนอนกับเรานะ.....ฮึก.... เดี๋ยวคุณน้าจะตื่นขึ้นมา....แล้ว....แล้ว..ฮึก... ยุนโฮทำท่าจะร้องต่อ ผู้เป็นมารดาได้แต่ลูบศีรษะปลอบ แต่....

     

    ไม่เป็นไรแล้วยุนโฮ....แจจุงไม่เป็นไร.....อย่าร้องไห้นะ....ถ้ามียุนโฮ...แจจุงก็ไม่เป็นไร....แต่ว่ายุนโฮอย่าร้องไห้นะ....

     

    คำพูดเบาๆจากคนในอ้อนกอดน่าแปลกที่ทำให้ยุนโฮหยุดร้องไห้ในทันทีราวกับปิดสวิตท์ แถมยังฉีกยิ้มอวดเขี้ยวสวย

     

    ถ้างั้นแจจุงไปนอนกับป้านะเดี๋ยวป้าจะทายาให้... อึนเฮกล่าวอย่างอ่อนโยนกับเด็กน้อยทั้งสอง

     

    ไม่เอาสิ พี่แจจุงต้องเรียกคุณแม่ว่าคุณแม่สิ ก็ผมกับพี่แจจุงเป็นพี่น้องกันนี่นา...

     

    ...............................................................

     

    ..................................

     

    .............

     

    นี่ก็เกือบห้าวันแล้วตั้งแต่แจจุงร้องไห้กับฮันกยองวันนั้น แจจุงยังคงไปทำงานที่คลับทุกวัน แต่ก็เป็นได้แค่เพื่อนนั่งดริงค์กับลูกค้าอย่างมากก็แค่โดนลวนลาม ไม่เคยมีวันไหนที่จบลงที่เตียงเลย เหตุผลก็ง่ายๆ......

     

    ใกล้จะเลิกงานรึยังครับ เสียงนุ่มๆเอ่ยถามทันที ที่ร่างบางผละออกจากโต๊ะที่นั่งอยู่กับลูกค้าเมื่อกี้

     

    ยังหรอกฮะ พี่ฮันกยองกลับไปเถอะนะ ผมเกรงใจ ผมสัญญาก็ได้ว่ายังไม่ยอมไปนอนกับใคร แจจุงว่า ก็เมื่อวานแจจุงเอ่ยปากถามไปแล้วถึงเหตุผลที่ฮันกยองมาหาเค้าที่นี่ทุกวัน คำตอบที่ได้รับจากฮันกยองก็คือ

     

    .............พี่ถูกชะตากับเราน่ะ เป็นน้องสาวให้พี่ได้มั้ย.............

     

    แล้วแจจุงก็รับคำไปแล้วด้วย ก็ดันนึกถึงความอ่อนโยนของฮันกยองวันนั้นนะสิ เฮ้อ.......น้องสาวเนี่ยนะ.......

     

    เดี๋ยวแจจุงก็หนีพี่กลับบ้านน่ะสิ พี่อยู่เกาหลีคนเดียวเหงาจะตาย ฮันกยองว่าทำเอาแจจุงหงอย เมื่อไหร่เราจะเลิกประชดชีวิตซักที เวลาอยู่กับคนอื่นก็ทำตัวน่าเอ็นดูเหมือนเวลาอยู่กับพี่สิ แจจุงน่ะน่ารักนะ ถ้าเป็นแบบนั้น ไม่ว่าใครก็ต้องรักแจจุงแน่ๆ

     

    ฮันกยองว่าซะยืดยาว ที่แจจุงเป็นลูกแมวน้อยๆกับเค้าก็เพราะว่าร้องไห้กับเค้ามาแล้วนี่แหละ ไม่งั้นคงจะยังทำเป็นเข้มแข็งอยู่นั่นแหละ

     

    ผมไม่อยากให้คนดีๆมาสกปรกไปกับผม รวมทั้งพี่ด้วย ร่างบางเอ่ยเสียงแผ่ว

     

    พี่ไม่สนหรอก สำหรับพี่เราน่ารักแล้วก็บริสุทธิ์มากเลย ไม่พูดเปล่า ฮันกยองคว้าตัวแจจุงมากอดแล้วก็เอาแก้มไปถูกับแก้มแจจุงเบาๆ ทำเอาร่างบางเขินหน้าแดงเลยทีเดียว

     

    ผมไปรับแขกนะพี่ แล้วเดี๋ยวเลิกงานเจอกัน ร่างบางเปลี่ยนเรื่องทันที

     

    ก็ได้..... ฮันกยองลากเสียงเหมือนไม่ค่อยพอใจแต่ยังไงมันก็ดูเป็นการล้อเล่นมากกว่า

     

    อย่าเปลืองตัวมากนักนะ พี่เป็นห่วง...... คำกล่าวของฮันกยองทำให้แจจุงยิ้มรับทันที แม้ว่ามันดูติดจะยั่วไปหน่อยก็เหอะ

     

    ฮันกยองดูจะไม่ติดใจอะไรกับรอยยิ้มนั่นมากนัก เพียงแต่เบื้องหลังรอยยิ้มนั้นซ่อนคำพูดเอาไว้มากมายเกินกว่าจะอธิบายออกมา

     

    .........อย่างผม...ยังเรียกว่าบริสุทธิ์ได้อีกเหรอพี่...........

     

    ...................................................................................................

     

    แจจุงพูดกันตรงๆเลยนะ พี่ยังไม่เคยเห็นเรายิ้มซักทียิ้มให้พี่ดูไม่ได้เลยเชียวเหรอครับ ฮันกยองกล่าวถามทันทีที่กลับมาถึงบ้าน แจจุงไม่ชอบกลับไปนอนบ้านตัวเอง ดังนั้นฮันกยองจึงตั้งมาตรการบังคับให้ที่นี่กลายเป็น บ้านของแจจุง

     

    ก็นี่ไง!!” ว่าแล้วก็ฉีกยิ้มกว้างซะแทบถึงใบหู

     

    ไม่ใช่แบบนั้น พี่หมายถึง ปากยิ้ม ตายิ้ม แล้วก็ตรงนี้ก็ยิ้ม ฮันกยองว่าพลางเอามือทาบบนอกข้างซ้ายของร่างบาง

     

    แจจุงยิ้มออกมากับท่าทางนั้น ทว่ามันคือรอยยิ้มอันแสนเศร้าพร้อมกับการส่ายศีรษะน้อยๆ ผมยิ้มไม่ได้พี่..... ฮันกยองได้แต่งงกับคำพูดของคนตรงหน้า ถ้าไม่มีเค้าชาตินี้ทั้งชาติผมก็คงยิ้มไม่ได้ เค้าเป็นคนเดียวที่จะทำให้ผมสามารถที่จะ......ยิ้ม

     

    หากมีน้ำตาเอ่อออกมาบ้างก็คงจะดี เพียงแค่แจจุงร้องไห้ออกมาเหมือนวันนั้น แต่มันกลับมีเพียง รอยยิ้มบ้าๆนั่น......

     

    ถ้าเล่าให้พี่ฟังบ้าง จะได้มั้ย ฮันกยองดึงร่างบางมายังโซฟาตัวโต

     

    เรื่องมันก็นานมากแล้วล่ะฮะ นานจนผมคิดว่าตัวเองจะลืมไปแล้วซะอีก...............

     

    ..............

     

    ..........................................

     

    ............................................................

     

    ยุนโฮ.....รอแจจุงด้วยสิ รีบวิ่งไปไหนอะ ตาหมี....แจจุงงอนแล้วน้า....... ร่างบางทิ้งตัวลงกับผืนหญ้าทันที บ่งบอกได้เลยว่า...นี่งอนจริงๆแล้วนะ!!!

     

    คนที่วิ่งนำอยู่ก่อนอย่างยุนโฮ รีบหันมาแทบจะในทันที เค้าไม่ค่อยชอบให้พี่ชายของเค้างอนบ่อยๆ ด้วยเหตุผลที่ว่ามันดูน่ารักเกินไป ยกเว้นเวลาแบบนี้นี่แหละ เวลาที่อยู่ด้วยกันแค่สองคน แต่ถึงจะบอกว่าเป็นพี่ชายก็เหอะนะ เค้าจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ ว่าครั้งสุดท้ายที่เค้าเรียกแจจุงว่าพี่ชายน่ะ เมื่อไหร่

     

    หือ....งอนเราเหรอ เผลอแป๊ปเดียว ยุนโฮก็มายืนอยู่ตรงหน้าผู้เป็นพี่ชายซะแล้ว แจจุงงอนยุนโฮเหรอครับ

     

    อื้อ...งอน ง้อด้วยนะ เอากะเค้าซี่ มีบอกให้ง้อด้วยนา....

     

    ยุนโฮคุกเข่าลงทันที ก่อนจะรั้งใบหน้าของแจจุงให้เงยขึ้นมาสบตาเค้า แล้วองครักษ์หมีตัวนี้ต้องทำยังไงครับ เจ้าหญิงถึงจะหายงอน

     

    มะ...ไม่รู้...” เมื่อดวงตาคมสบเข้ากับตาเรียวๆของยุนโฮ ร่างบางก็รีบก้มหน้างุด ดันเขินซะได้...

     

    ยุนโฮยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับท่าทางแบบนั้น ก่อนที่ริมฝีปากที่เคยคลี่ยิ้มอยู่นั้น จะทาบลงบนริมฝีปากของคนตรงหน้าเบาๆ แบบนี้หายงอนมั้ย...”

     

    บะ...บ้า ยุนโฮทำอะไร นะ...น่าอายจะตาย ((อ้าย...แก่แดด คนแต่งจะเป็นลม)) แจจุงจับใบหน้าตัวเองไว้ รู้สึกว่าแกมตัวเองร้อนไปหมด นี่เค้าหน้าแดงแค่ไหนเนี่ย

     

    ก็ทำ...แบบนี้ไงยุนโฮกดจูบบนริมฝีปากอิ่มอีกครั้ง ทำเอาแจจุงที่ตัวแข็งทื่อไหวกายไปตามแรงจูบน้อยๆ ก่อนจะเด้งกลับมาเหมือนเดิม หายงอนรึยัง...”

     

    หะ...หาย...หายแล้ว ยุนโฮบ้า ง้อแบบอื่นไม่ได้รึไง ร่างเล็กกล่าว ตอนนี้ใบหน้าที่เจือจางด้วยสีชมพูน้อยๆ กลับแดงจัดขึ้นมาอย่างน่าประหลาด

     

    ก็ไม่ชอบเหรอ ถ้าทำแบบนี้ก็หมายความว่าเรารักแจจุงไง ถ้าเราทำกับใครเราก็รักคนนั้น แจจุงไม่อยากให้เรารักเหรอ ยุนโฮทำหน้างอนนิดๆ

     

    ทำงอนเป็นเด็กห้าขวบไปได้ วันนี้ยุนโฮอายุสิบสองแล้วนะ แจจุงเปลี่ยนเรื่องแก้เขิน

     

    แจจุงก็งอนเหมือนเด็กห้าขวบเหมือนกันละน่า ทั้งๆที่แก่กว่าเราตั้งสิบเอ็ดวัน สรุปแล้วแจจุงไม่อยากให้เรารักใช่มั้ยล่ะ ทั้งๆที่วันนี้วันเกิดเราแท้ๆ ยุนโฮงอนตุ๊บป่องทำท่าจะลุกหนี แต่แล้วแขนบางก็กลับฉุดรั้งไว้ได้อย่างทันท่วงที

     

    หยะ....อยากสิ แต่ว่า.... แจจุงกุ้มหน้างุดแบบไม่ยอมเงยขึ้นมาอีกเลยทั้งที่มือเล็กๆยังรั้งชายเสื้อของยุนโฮอยู่

     

    แต่ว่าอะไร....

     

    แต่ว่ายุนโฮต้องทำแบบนี้กับแจจุงคนเดียวนะ แล้ว......แล้วก็อย่ารักใครมากกว่าแจจุง....... ได้ฟังอย่างนั้นยุนโฮก็ถึงกับยิ้มจนหน้าบาน

     

    ยุนโฮสัญญา จะไม่รักใครมากกว่าแจจุงอีกเลย.......เราสัญญา เราจะปกป้องแจจุงตลอดไป นิ้วก้อยป้อมๆของยุนโฮถูกยื่นมาตรงหน้าร่างบาง นิ้วเล็กของทั้งคู่เกี่ยวกันจนแน่นราวกับว่าจะไม่ปล่อยให้มันหลุดจากกันเป็นอันขาด

     

    .........

     

    ของขวัญ... ยุนโฮทวงถามทันทีที่ขึ้นมาถึงห้องนอนส่วนตัวของทั้งคู่ แจจุงขมวดคิ้วน้อยๆ ยุนโฮจึงกล่าวมันอีกรอบพร้อมกับแบมือขอ ของขวัญวันเกิดของเราล่ะ...

     

    ร่างบางยิ้มแหยก่อนจะรีบส่ายหัวแรงๆ จนผมนุ่มกระจาย แจจุงขอโทษ ช่วงนี้ไม่มีเวลาเลยอะ เลยไม่ได้ออกไปซื้อ

     

    ได้ไงอะ ทีวันเกิดแจจุง เรายังซื้อตุ๊กตาหมีสีขาวที่แจจุงอยากได้ให้เลย ยุนโฮเกิดอาการงอนเป็นรอบที่สองของวัน

     

    พรุ่งนี้แจจุงจะรีบไปซื้อให้ ยุนโฮอย่าโกรธน้า..... ร่างบางร้องเสียงแง้วๆขึ้นมาทันที เค้าไม่อยากให้ยุนโฮโกรธ

     

    ของขวัญวันเกิดที่ให้เลยวันไปแล้ว จะเรียกว่าของขวัญวันเกิดได้ไง ยุนโฮกล่าวพลางหันหลังให้แจจุงซะเลย

     

    ฮื่อ...ยุนโฮอย่าโกรธซี่น้า...แล้วจะให้แจจุงทำยังไงละ ยุนโฮถึงจะหายโกรธ แจจุงกอดยุนโฮจากข้างหลังอย่างอ้อนๆ ใบหน้าหวานเกยซบอยู่กับบ่าของคนตัวสูงกว่า ดวงตากลมฉายแววสำนึกผิดอย่างเห็นได้ชัด

     

    แจจุงต้องตามใจเราทุกอย่าง....

     

    อื้อ..ก็ได้ ทุกอย่าง แต่ยุนโฮอย่าโกรธแจจุงนะฮะ แจจุงลงท้ายประโยคอย่างน่ารัก เพื่อเอาใจยุนโฮเต็มที่

     

    สัญญานะทุกอย่าง

     

    อื้อ...สัญญา แจจุงตกปากรับคำไปเรียบร้อยพลางกอดยุนโฮให้แน่นขึ้นอีก

     

    งั้น....เป็นของยุนโฮนะ คนเจ้าเล่ห์หันมาบอกจุดประสงค์ของตัวเองทันที ทำเอาร่างบางถึงกับตาโต แถมปฏิเสธทางสายตาแบบโจ่งแจ้ง ก็สัญญาแล้วอะ ยุนโฮเอ่ยทวงสัญญาทันที

     

    ตะ...แต่...ยุนโฮเอียงหน้ามองคนที่เขินจนแทบจะมุดผ้าห่มอยู่แล้ว ในวันนึงๆ แจจุงต้องเขินยุนโฮซักกี่รอบกันเนี่ย

     

    แจจุง...ไม่ต้องอายหรอกนะ คนรักกันเค้าทำกันแบบนั้งนั้นแหละ ยุนโฮว่า

     

    ไปเอามาจากไหน แจจุงมองยุนโฮแบบคาดคั้นชนิดที่ว่าลืมเขินกันเลยทีเดียว

     

    คยูฮยอนไง หมอนั่นก็ทำแบบนี้กับรยอวุค ยุนโฮว่า แจจุงฟังแล้วแทบลมจับ ((ม๊าไม่ต้อง นู๋เป็นลมตั้งแต่ป๊ามันขอม๊าแล้วแหละ///ผู้แต่ง)) นี่รยอวุคเพื่อนเค้าก็เสร็จสามีไปแล้วเหรอเนี่ย นะครับ ให้เราได้บอกว่าเรารักกันแค่ไหนผ่านการกระทำเถอะนะ

     

    ยุนโฮอ้อนก่อนที่ริมปีปากหยักจะแตะลงบนหลังมือบางเบาๆ ...ย้ำ...ย้ำ....ย้ำ....ย้ำเบาๆ ราวกับจะให้คำว่ารักฝังลงไปบนเนื้อเนียน ข้อมือขาวๆ ก็โดนจุมพิตเบาๆ ย้ำ....ย้ำ....ย้ำคำว่ารักลงไป ไหล่เนียนก็โดน....ย้ำ....ย้ำ.....ย้ำความรู้สึกทั้งหมด ซอกคอขาวๆก็โดนฝังรอยจูบย้ำคำรักด้วยการกระทำ ปลายคางเรียว พวกแก้มที่ฝาดไปด้วยสีเลือด หน้าผากมน เปลือกตา จมูกโด่ง ริมฝีปากก็โดนล่วงล้ำ ย้ำ.....ย้ำ.....

     

    ....................แม้แต่หัวใจ ที่ยุนโฮบรรจงย้ำนานกว่าส่วนไหนๆ

     

    ไม่มีตรงไหนบนร่างกายของแจจุง ที่คำว่ารักของยุนโฮไปไม่ถึง ไม่มีส่วนไหนของร่างกายแจจุงที่การกระทำของยุนโฮไม่ได้บอกว่ารัก คำรักที่ยุนโฮย้ำ....ย้ำ....ย้ำ....แม้นแต่เสียงหัวใจของยุนโฮก็กำลังบอก

     

    ....รัก....รัก....รัก....รัก....

     

    ร่างบางมองการกระทำของคนตรงหน้าผ่านม่านน้ำตาบางๆ มันเต็มตื้นไปหมดกับการที่ใครซักคนจะย้ำความรู้สึกพวกนี้ อย่างอ่อนโยน นุ่มนวล และไพเราะได้ขนาดนี้ ในเวลาที่กำลัง...ร่วมรัก

     

    ร้องไห้ทำไมครับ... เสียงทุ้มของยุนโฮบัดนี้มันแหบพร่า จนแจจุงรู้สึกได้ว่ายุนโฮกำลังต้องการมากแค่ไหน ร่างบางส่ายหัว ก่อนจะรั้งคนตรงหน้าลงมาแลกจูบ ลิ้นเล็กถูกส่งเข้าไปในปากร่างสูงอย่างไม่ชำนาญนัก แจจุงลิ้มลองรสจูบได้ไม่นาน ร่างกายก็เรียนรู้ให้การกระทำร้อนแรงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

     

    ยุนโฮ...อื้อ...ช่วยบอกรักแจจุงอีกนะ...บอกร่างกายของแจจุง....อ๊ะ..... ย้ำๆ จนกว่ามันจะจำ ว่ายุนโฮ....อึก...รักแจจุงมากแค่ไหน..... แจจุงครางเสียงหวาน เมื่อริมฝีปากของยุนโฮ เลื่อนลงมาครอบครอง ความรักของแจจุงอย่างทะนุถนอม อ่อนโยน ทว่าวาบหวาม ให้รักของเรา...อื้อ...เป็นของกัน...อ๊ะ....ฮ่า....และกัน.....สะโพกเล็กเผลอขยับตอบรับริมฝีปากอุ่นอย่างเต็มใจ พร้อมกับที่เสียงครางหวานหลุดรอดออกมา

     

    แม้นราตรีนี้จะยาวนานซักแค่ไหน เพียงแค่มี......เรา คอยย้ำคำว่ารัก

    แม้ว่าตะวันจักดับดิ้น สิ้นแสงทอง เพียงแค่มี......เรา คอยย้ำคำว่ารัก

    แม้นว่านภาจะกว้างใหญ่ให้เดินทางค้นหา เพียงแค่มี......เรา คอยย้ำคำว่ารัก

    แม้กาลเวลาจะหมุดเวียนผลัดเปลี่ยนมาบรรจบ เพียงแค่มี......เรา คอยย้ำคำว่ารัก

     

    ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะผ่านพ้น เพียงแค่มี............ รักของเรา

     

    .........ยุนโฮรู้รึเปล่า คำว่ารักของยุนโฮ สำคัญกับแจจุงมากจริงๆ ถ้าไม่มีคำนั้น แจจุงไม่รู้.....ว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไง แต่ว่าขอโทษนะ ที่แจจุง...ทำคำว่ารักคำนั้น แปดเปื้อนหมดแล้ว........

     

    ......................................................

     

    .................................

     

    .................

     

    ฮันกยองยังคงรู้สึกข้องใจอยู่นิดหน่อยกับเรื่องเล่าของแจจุง เรื่องเล่าที่มีน้องชายต่างมาดาของแจจุงเป็นพระเอก แล้วก็มีแจจุงเป็นนางเอก มีเรื่องแปลกก็คือ ชื่อของพระเอกนี่แหละ ทำไมถึงได้กลายเป็นคำว่า ......ตู๊ด...... ไปได้ก็ไม่รู้ แต่ดูเหมือนมันจะทำให้การเล่าเรื่องของแจจุงดูสนุกขึ้นมานิดหน่อย ทุกๆคำพูดที่ออกมาจากปากอิ่มเต็มไปด้วย ความทรงจำที่ดี กับรอยยิ้ม  แล้วอะไรกันเล่าที่เป็นสาเหตุของ เรื่องที่แจจุงบอกว่ามันน่าเศร้า ก็ดันพูดออกมาว่าง่วงแล้วก็ต่อท้ายว่า ทูบีคอนทินิวให้แบบเสร็จสรรพ

     

    ....ถ้าเค้าหนีเราไป พี่อยากไปตามหาเค้าให้เราจัง เราจะได้ยิ้มได้ซักที แต่เราดันไม่บอกชื่อเค้านี่สิ....เฮ้อ.....

     

    ฮันกยองถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะเอนกายพิงกับขอบหน้าต่างช้าๆ ในเวลายามบ่ายที่ว่างแสนว่างของเค้า แจจุงไปโรงเรียนตั้งแต่เช้าแล้ว โดยโดนบังคับขู่เข็นกันก่อนไปเล็กน้อยว่า

     

    ไปเรียนนะ ไม่ใช่ไปทำอย่างอื่น อย่าให้พี่รู้นะ จะจับตีก้นซะให้เข็ด

     

    คิดแล้วก็อดจะหัวเราะออกมาไม่ได้ สีสันเล็กๆถูกเติมเต็มเข้ามาในชีวิตของเค้าก็เพราะน้องสาวคนนี้แท้ๆ

     

    .............น้องสาว............

     

    Rrrr Rrrrrrr Rrrrrrrr..........

     

    เสียงเครื่องมือสื่อสารแบบพกพา ทำให้ฮันกยองต้องหลุดออกมาจากห้วงความคิดอย่างช่วยไม่ได้

     

    ว่าไงเจ้าอ้วน ฮันกยองรับโทรศัพท์อย่างอารมณ์ดี

     

    อะไรกันพี่ ผมไม่อ้วนแล้วนะ ปลายสายตอบกลับมาอย่างงอนๆ

     

    ไม่อ้วนเหรอ ซองมิ๊น.... บอกพี่หน่อยซิว่าแฟนนายอ้วนรึเปล่า ฮันกยองตะโกนใส่โทรศัพท์ หวังให้ใครบางคนที่น่าจะแนบหูอยู่ข้างๆได้ยิน

     

    อ้วนๆๆ อ้วนแล้วก็ตัวโตแถมยังแรงเยอะ ยังกะหมี นายหมีๆๆๆๆ ซองมินกรอกเสียงมาตามสาย เรียกเสียงหัวเราะให้ฮันกยองได้ดีนักหนา

     

    แล้วตกลงโทรหาพี่มีอะไรกันเนี่ย... ฮันกยองกล่าวทั้งที่ยังกลั้วเสียงหัวเราะ

     

    ผมมีเซอร์ไพรส์น่ะพี่ ลองมองลงมาข้างล่างสิพี่ ฮันกยองทำตามที่รุ่นน้องตัวแสบเอ่ยในทันที ภาพที่เห็นทำให้ชายหนุ่มคลี่ยิ้มออกมาได้โดยง่าย

     

    ยุนโฮอยู่ในสภาพแบบสัมภาระเต็มไม้เต็มมือ กับซองมินที่กระโดดเหย็งๆโบกมือทักทาย จนน่ากลัวว่าจะมีส่วนไหนของร่างกายบุบสลายไปซะก่อน ฮันกยองรีบวิ่งลงไปยังชั้นล่าง เปิดประตูต้อนรับรุ่นน้องทั้งสองคนทันที

     

    จะมาก็ไม่บอก เป็นคำแรกที่ฮันกยองใช้ทักทายเมื่อเห็นหน้า รุ่นน้องทั้งสอง

     

    ก็บอกแล้วไงพี่ ตะกี้ ยุนโฮตอบกลับอย่างกวนๆทันที

     

    ขอบใจไอ้อ้วน ฮันกยองว่าพลางกอดซองมินให้หายคิดถึง ก่อนจะผละไปกอดยุนโฮบ้าง กินอะไรกันมารึยัง

     

    เรียบร้อยแล้วฮะ พี่ฮันกยองคราวนี้เป็นซองมินที่ตอบคำถามบ้าง

     

    เมื่อกี้พี่นั่งคิดอะไรอยู่อะ นั่งยิ้มคนเดียวอยู่ได้ ยุนโฮถามขึ้นอย่างสงสัย

     

    คิดถึงน้องสาว ฮันกยองว่า

     

    ฮื่อ....ไปแอบมีน้องสาวเมื่อไหร่เหรอฮะ ซองมินถามอย่างใคร่รู้

    คนที่พูดถึงตอนคุยกันวันก่อนไง ฮันกยองหันไปพยักเพยิดกับยุนโฮ

     

    แล้วน้องสาวพี่เนี่ย ชื่ออะไรเหรอครับ แล้วสวยรึเปล่า ยุนโฮถามต่อ ใครกันนะที่ทำให้คนอย่างพี่ฮันกยองรักเหมือนน้องสาว แต่คำถามหลังสุดนี่แหละที่ทำเอาซองมินบิดแขนยุนโฮ จนผู้ชายตัวโตๆคนนี้ต้องร้องโอดโอยให้ปล่อย

     

    ฮ่าๆ จะว่าสวยก็สวยแหละนะ สวยมากก แต่เค้าเป็นผู้ชายน่ะ แหะๆ ก็ขอให้เค้าเป็นน้องสาวไปแล้ว คำพูดของฮันกยองทำเอาทั้งยุนโฮทั้งซองมินต้องหัวเราะอย่างขำๆ กับความประหลาดของฮันกยอง แต่แล้วสีหน้าของทั้งคู่กลับต้องเปลี่ยนไปโดยฉับพลันเมื่อชื่อของเด็กหนุ่มผู้นั้นหลุดออกมาจากปากของฮันกยอง เด็กคนนั้นชื่อแจจุง

     

    แจจุง....... สองเสียงหลุดออกมาพร้อมกัน

     

    ชื่อที่เกลียดแสนเกลียดสำหรับคนนึง และเป็นชื่อที่แสนรักแต่อยากจะลืมสำหรับอีกคน.............

     

    To be continue……

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×