คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3
“เป็นอะไรไปเจ้าครึ่งมนุษย์? ก่อนหน้านี้ทักษะควบคุมนํ้าแข็งของเจ้ายังเฉียบคมมากกว่านี้เลยนะแล้วทำเจ้าไม่ถึงไม่เรียกดาบเล่มนั้นของเจ้าออกมาคิดจะดูถูกข้ารึไง?”
แฮชเชอร์สาวเอ่ยออกมาด้วยความหงุดหงิด
จากนั้นสายตาของเธอก็ได้มองไปยังร่างของเควินที่ตอนนี้มีเต็มไปด้วยรอยไหม้สีดำตามร่างกาย
โดยที่ทาฃฝั่งของเควินนั้นมีอาการหอบจากการต่อสู้ที่ยืดยื่อแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“ผมไม่เข้าใจหรอกว่าตกลงแล้วที่คุณพูดมามันหมายความว่ายังไง”
เควินพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งแต่ภายในนํ้าเสียงของเขามันกลับแฝงไปด้วยความเครียด
ในตอนแรกเขากะจะใช้พลังนํ้าแข็งเพื่อหาจังหวะปิดฉาก
แต่อีกฝ่ายนั้นกลับไหวตัวได้ทันและสวนกลับเขาได้ตลอด
แม้เขาจะโจมตีเธอตอนที่เผลอแต่ทางนั้นก็ราวกับระวังตัวอยู่ตลอดเวลาทำให้สามารถตั้งรับได้ทัน
บวกกับพลังของเขาในตอนนี้มันก็ยังไม่เสถียรทำให้ในการใช้พลังควบคุมนํ้าแข็งแต่ละครั้งมันต้องเพ่งสมาธิค่อนข้างมาก
“หึ! เอาเถอะเห็นแกเจ้าที่สามารถต่อสู้กับข้ามาได้ถึงขนาดนี้เดี๋ยวข้าจะฆ่าเจ้าแบบไม่เจ็บปวดเอง อยู่นิ่งๆแล้วยอมตายไปซะดีๆเจ้าครึ่งมนุษย์!!!!”
พูดจบเธอก็สบัดมือไปทางเควินทันที
ฟูมมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!!!!!!
พายุเปลวไฟขนาดใหญ่ได้ถ่าโถมไปทางเควินอย่างรุนแรง
อุณหภูมิของมันในครั้งนี้สูงที่สุดที่ที่เขาเคยสัมผัสมากับตัวเลย
“!!!!!”
คลืนนนนนนนนน!!!! แกร๊กกก!!!!!!!
เควินที่เห็นพายุเปลวเพลิงขนาดใหญ่ที่กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เขาก็รีบสร้างกำแพงนํ้าแข็งขึ้นมากันเอาไว้ทันที
เพราะขนาดของมันที่ใหญ่มากถึงเขาจะหนีไปมันก็คงไม่ทันแล้ว
ในตอนนี้เขาก็มีแต่ต้องหวังให้พลังนํ้าแข็งของเขา
มันจะพอกันเอาไว้จนกว่าพายุมันจะหายไปเองได้เท่านั้น
แต่ดูเหมือนว่าเควินนั้นจะคาดเดาพลังของอีกฝ่ายตํ่าไป
อุณหภูมิของเปลวเพลิงที่แฮชเชอร์ปล่อยออกมาในตอนนี้มันสามารถหลอมละลายเหล็กได้ในเวลาไม่กี่วินาที
ทันทีพายุเพลิงได้เข้าปะทะเข้ากับนํ้าแข็งของเควินเพียงแค่พริบตาเดียวนํ้าแข็งที่สร้างมาเพื่อใช้เป็นกำแพงก็ระเหยแทบจะในทันที
แม้อุณหภูมิร่างกายที่ตํ่าถึง -30 องศาเควินก็ยังรับรู้ได้ถึงความร้อนที่ส่งผ่านเข้ามา
แม้ว่ามันจะมีกำแพงนํ้าแข็งขว้างเอาไว้ก็ตาม
แต่ด้วยขนาดของกำแพงนํ้าแข็งที่สร้างขึ้นมาไม่ใหญ่มากพอที่จะป้องกันพลังของพายุเพลิงได้มันก็เลยได้ระเหยไปอย่างรวดเร็ว
เควินไม่สามารถรู้ได้เลยว่าถ้าร่างกายของเขาที่มีอุณหภูมิลดตํ่าถึงขนาดนี้จะสามารถทนความร้อนได้มั้ย
นํ้าแข็งที่เขาสร้างขึ้นมาในตอนนี้มันได้ระเหยไปอย่างรวดเร็วจนไม่สามารสร้างเป็นกำแพงได้แล้ว
ทำให้ตอนนี้เขาไม่สามารถสร้างกำแพงนํ้าแข็งขึ้นมาเพื่อป้องกันร่างกายได้อีกแล้ว
ในตอนนี้สิ่งที่เควินทำได้มีเพียงแค่ภาวนาว่าร่างกายของเขาจะทนมันได้เท่านั้น
และในวินาทีที่ร่างกายขอวเควินจะปะทะเข้ากับพายุเพลิงมันก็ได้เกิดสิ่งหนึ่งขึ้น
คลืนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!!
จู่ๆมวลนํ้าแข็งขนาดใหญ่ที่มีขนาดพอๆกับพายุเพลิงได้ปรากฎขึ้นอย่างฉับพลัน
คลื่นนํ้าแข็งที่เกิดขึ้นมันได้กลืนกินพายุเพลิงของแฮชเชอร์สาวภายในชัวร์พริบตา
“อะไรกัน?!”
แฮชเชอร์ได้เอ่ยออกมาด้วยความตื่นตระหนกก่อนที่จะมีเสียงของคนๆหนึ่งดังขึ้น
“แหมๆขอโทษทีให้รอนานนะคร๊าบ~ พอดีไปเข้าห้องนํ้ามาหน่ะก็เลยช้า”
เสียงของชายหนุ่มที่มีความคล้ายคลึงกับเควินได้ดังขึ้นเรียกความสนใจของทั้งสองในทันที
แม้นํ้าเสียงจะมีความคล้ายคลึงกับเควินจนยากที่จะแยกออก
แต่ด้วยวิธีการพูดที่ยียวนกวนประสาทแบบนั้นทำให้เธอสามารถแยกออกได้ทันทีที่ได้ยิน
“วิธีการพูดที่ยียวนกวนประสาทจนชวนน่าหงุดหงิดนั้นเป็นเจ้าเองสินะ?! เจ้าครึ่งมนุษย์ที่สู้กับข้าก่อนหน้านี้?!!!”
ในตอนแรกที่เธอเจอกับเควินเธอก็คิดว่าเป็นคนๆเดียวกันกับที่สู้กับเธอก่อนหน้านี้ก็เลยใส่เต็มทีเลย
แต่เธอก็พึ่งมาเอะใจก็ตรงวิธีการพูดที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่ายในตอนแรกก็ไม่คิดว่าทั้งสองตนจะเป็นคนละคนกัน
แต่ทันทีที่เธอได้ยินวิธีการพูดแบบนั้นเธอก็รับรู้ได้ทันทีเลยว่าคนที่เธอกำลังสู้อยู่ตอนนี้
ไม่ใช่คนเดียวกันกับก่อนหน้านี้วิธีการพูดของเควินจะเป็นแบบเรียบเฉย
จนคาดเดาอารมณ์ได้ค่อนข้างยากแต่กลับคนที่สู้กับเธอก่อนหน้านี้มันเป็นคนละแบบเลย
“นี่คุณ!? ทำไมถึง?!”
เควินทีหันไปตามเสียงพูดก็ต้องชะงักก่อนที่จะเอ่ยขึ้นมาด้วยความตกใจ
เพราะใบหน้าของทั้งสองมีความคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมากชนิดที่บอกว่าเป็นฝาแฝดกันก็คงเชื่อ
“งั้นชั้นจะขอแนะนำตัวอีกรอบเลยก็แล้วกันนะชั้นโดมะ อิซึกิ ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะ”
“ตอบคำถามของข้ามาซะเจ้าคือคนที่สู้กับข้าก่อนหน้านี้ใช่มั้ย?!!!”
แฮชเชอร์สาวได้ถามยํ้าอีกครั้ง
“แม่นแล้ว ชั้นนี่แหล่ะที่สู้กับเธอก่อนหน้านี้พอดีว่าเมื่อกี้ไปเข้าห้องนํ้ามาก็เลยมาช้าขอโทษทีนะ”
ทันทีที่แฮชเชอร์สาวได้คำตอบเธอก็ได้สบัดมือเพื่อใช้พายุเปลวเพลิงโจมตีมาที่เขา
หลังจากนั้นตัวของเธอก็ได้เอ่ยขึ้นมาทันทีด้วยความโมโห
“เช่นนั้นก็ตายซะ!!!!”
ฟูมมมมมมมมม!!!!!!!
“หึ!… ใครมันจะไปยืนรับให้โง่หล่ะเฟ้ย?!”
ฟุบ!!!
ทันทีที่พูดจบร่างของเขาก็ได้หายไปจากจุดนั้นในทันที
แฮชเชอร์ที่เห็นก็เบิกตากว้างในทันทีก่อนที่จะหันไปมองรอบๆเพื่อหาตัวของเขา
“หายไปไห----”
ยังไม่ทันที่จะพูดจบก็ได้มีเสียงๆหนึ่งแทรกขึ้นมาจากทางด้านบน
“อยู่นี้ไงเจ๊!”
“?!!!”
ทันทีที่เธอได้ยินก็รีบหันไปมองทันทีก่อนที่จะเจอเข้ากับชายหนุ่มที่เธอกำลังหาอยู่เมื่อกี้
ในตอนนี้ภายในมือของเขานั้นถือดาบสีส้มขนาดใหญ่พร้อมกับง้างมันเอาไว้อยู่ที่เหนือหัว
“!!!”
เธอที่เห็นแบบนั้นก็รีบกระโดรีบหลบออกจากจุดนั้นทันที
ก่อนที่ดาบของเขาจะฟาดลงกับพื้นอย่างแรงจนก่อเกิดคลื่นกระแทกขึ้น
ตู้มมมมมมมมมมม!!!!!
คลื่นกระแทกที่รุนแรงมันทำให้ร่างของเธอนั้นกระเด็นไปชนเข้ากับตึกที่อยู่ด้านหลังเข้าอย่างจัง
ตึง!!!!
“อึก?!”
แฮชเชอร์สาวได้ร้องออกมาอย่างเจ็บปวดแต่ทว่าทางอิซึกิก็ไม่คิดที่จะปล่อยให้เธอได้พักหายใจ
อิซึกิได้ใช้พลังนํ้าแข็งของตัวเองโจมตีไปที่เธออีกครั้งทันทีเพื่อไม่ให้เธอได้ตั้งตัวได้ทัน
คลืนนนนน!!!! แกร๊กกก!!!!! ฉัวะ!!!!
“อึก?!!! หน่อยแน่เจ้าครึ่งมนุษย์บังอาจนัก!”
นํ้าแข็งที่แหลมคมถูกปล่อยออกมาทำให้เธอที่ตั้งตัวไม่ทันก็พยายามที่จะหลบมันแต่สุดท้ายแล้ว
มันก็ทำให้เธอต้องแลกมาด้วยแขนข้างหนึ่งเพื่อเอาตัวรอดจากการโจมตีของเขาในครั้งนี้
แน่นอนว่าเธอเริ่มตั้งตัวได้บ้างแม้จะสูญเสียแขนไปข้างหนึ่งก็ได้โจมตีสวนกลับเขาในทันที
ฟูมมมมมมมมมมมมมม!!!!
“…..”
อิซึกมองภาพของพายุเพลิงที่พุ่งมาทางตนด้วยใบหน้าเรียเฉยก่อนที่เขาจะใช้มือทั้งสองจับอุริเอล
หมับ! ฟูมมมมมมมมมม!!!!
จากนั้นเปลวเพลิงจำนวนมากก็ได้ปะทุออกมาจากตัวดาบก่อนที่เขาจะฟาดมันออกไปอย่างแรง
ฟึบบบบ!!!! ตู้มมมมมมม!!!!!
เปลวเพลิงที่ถูกปล่อยออกมาจากอุริเอลได้ทำลายพายุเพลิงของแฮชเชอร์ได้อย่างง่ายดาย
มันทำให้เธอถึงกับอุทานออกมาด้วยความตกใจทันที
“อะไนกัน?!”
กลุ่มควันที่เกิดขึ้นจากแรงระเบิดมันได้บดบังการมองเห็นของเธอ
จนมันทำให้เธอไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหน้าได้เลย
ก่อนที่ในวินาทีต่อมาสิ่งที่ปรากฎออกมาจากกลุ่มควันมันจะต้องทำให้เธอเบิกตากว้างด้วยความตกใจทันที
สิ่งนั้นก็ปรากฎออกมาก็คือร่างของชายหนุ่มผมสีขาวที่กำลังง้างดาบขึ้นเหนือหัวเตรียมที่จะฟันไปทางเธอ
“!!!!!”
แน่นอนว่าด้วยระยะแค่นี้เธอไม่มีทางหลบพ้นแน่ๆเธอก็เลยได้หลับตาลงเพื่อเตรียมรับชะตากรรมที่กำลังจากมาถึง
ด้วยขนาดของดาบทำให้เธอคิดว่ามันคงฟันเธอจนด้วยขาดได้ไม่ยากแน่ๆแต่ในท้ายที่สุดแล้ว…
คลืดดดดดด!!!!! แกร๊กกกกกกก!!!!!
“อึก?!!!”
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความเจ็บปวดที่ร่ากายถูกฟันแต่ทว่ามันกลับเป็นความเย็นที่เกิดขึ้นฉับพลันแทน
ซึ่งมันเย็นมากจนทำให้เธอไม่รู้สึกถึงอะไรเลยในตอนนี้ไม่สามารถขยับได้แม้แต่น้อย
ไม่ว่าจะแขนหรือขาก่อนที่หลังจากนั้นเธอก็จึงค่อยๆลืมตาขึ้น
ภาพเเรกที่เธอเห็นเป็นสิ่งแรกก็คือภาพของชายหนุ่มที่กำลังใช้มือแตะไปที่พื้น
พร้อมๆกับร่างของเธอยกเว้นส่วนหน้าอกกับส่วนหัวนอกนั้นถูกนํ้าแข็งกลืนกินไปแล้วมากกว่าครึ่ง
“ทำไม... เจ้า… ถึงไม่ฟัน… ข้า… เจ้าครึ่งมนุษย์?”
เธอเอ่ยออกมาอย่างยากลำบากด้วยความไม่เข้าใจ
แกร๊ก…
ตอนนี้แข็งของชายหนุ่มมันค่อยลุกลามไปเรื่อยไม่หยุดในอีกไม่ช้าเธอก็คงตายจากการโดนแช่แข็งเป็นแน่
“ชั้นก็แค่ไม่อยากทำให้หน้าสวยๆของเธอเป็นรอยไหม้ก็เท่านั้น”
เมื่อพูดจบอิซึกิก็ได้เก็บอุริเอลกลับทันที
“หึ… ถึง… พูดแบบนั้น… แต่… เจ้า… ก็ทำลาย… แขนของข้าหนิ…”
“อันนั้นไม่เกี่ยวเฟ้ย ก็เธอหลบมันเองหนิยอมโดนไปแต่แรกก็จบแล้ว”
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเบาๆพร้อมกับยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้
“เอาหล่ะเลิกพูดได้แล้วอีกสักพักร่างกายของเธอก็จะค่อยๆชาไปเรื่อยในท้ายที่สุดแล้วอีกเดี๋ยวภาพมันก็ตัดไปเองสิ่งที่ชั้นทำให้เธอได้ก็มีแค่นี้แหล่ะ”
ในตอนนี้ร่างกายของเธอมันเริ่มค่อยๆถูกแช่จนไปจนถึงหน้าอกแล้ว
“ให้ตาย… เถอะ… เจ้า… นี่มัน… จริงๆ… เลย… ทั้งๆที่… ข้าก็ทำ… ไปถึงขนาดนั้น… แท้ๆ… แต่เจ้าก็ยัง…”
เธอมองไปยังชายหนุ่มด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย
“ชั้นก็แค่ทำไปก็เพื่อชั้นอยากทำเท่านั้นแหล่ะไม่ต้องไปหาเหตุผลหรอก”
“งั้น… หรอ… ข้า… ชัก… จะถูกใจ… เจ้าแล้วสิ… หึๆ… ถ้ามีครั้งหน้า… ข้าจะทำ… ให้เจ้า… กลายเป็นของ… ข้าให้ได้… จำเอาไว้หล่ะ… เจ้าครึ่งมนุษย์…”
เเฮชเชอร์สาวได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มเจ้าเลห์อีกครั้งก่อนที่สติของเธอก็ค่อยๆดับไปในที่สุด
พร้อมๆกับร่างกายของเธอที่ถูกแช่แข็งไปเป็นที่เรียบร้อย
“…” อิซึกิที่ได้ยินก็นิ่งไปแปบหนึ่งเลยหลังจากที่ได้ยินเธอพูดออกมาแบบนั้น
“เห้อ… เอาหล่ะระบบแล้วที่นี่----”
แกร๊ก!
ยังไม่ทันทีชายหนุ่มจะพูดจบเขาก็ถูกบางอย่างจ่อที่หัวของเขาจนเจ้าตัวถึงกับยกมือขึ้นเลย
“นี่ๆเมื่อกี้ก็ไม่ช่วยสู้เลยแท้ๆไหงเอาปืนมาจ่อหัวกันหล่ะเนี้ย? ถ้าอยากตอบแทนกันขนาดนั้นจะเลี้ยงข้าวแทนก็ได้นะ ไม่เอาลูกตะกั่วสิ~”
อิซึกิได้ยกมือขึ้นพร้อมๆกับพูดออกมาด้วยนํ้าเสียงติดตลกเล็กน้อย
แต่ภายในใจของเขาในตอนนี้นั้นโคตรจะตื่นตระหนกอย่างไม่น่าเชื่อ
“ตอบมาซะ… ทำไมคุณถึงได้มีหน้าตาคล้ายกับผม… โครงการ M.A.N.T.I.S. ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับเลือกในตอนแรก… แล้วทำไมคุณถึงใช้พลังของฮงไคได้กัน? ทั้งๆที่คนที่ได้รับการปลุกถ่ายยีนฮงไคก็มีแค่ผมเท่านั้นในตอนนี้?”
เควินเอ่ยถามออกมาโดยใช้ปืนที่พกติดตัวเอาไว้จ่อไปที่กระบาลของชาย
“โห้ว~ ขอบคุณไม่มีสักคำแถมยังโดนปืนจ่อหัวอีกไม่น่าช่วยเลยให้ตายสิ”
“งั้นผมก็ขอบคุณแล้วกันที่คุณช่วยผมเอาไว้เมื่อกี้ เอาหล่ะที่นี่คุณตอบคำถามของผมมาซะ”
“ได้ขอบคุณจากใจปะเนี้ย? เห้อ…”
อิซึกินั้นถึงกับต้องถอนหายใจเลยทีเดียวแต่ทันใดนั้นเองอยู่ดีๆ
เขาก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังก่อนที่จะเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ
“ฮงไคระดับจักรพรรดิหนิทำไมถึงได้?!”
“?!!!!!”
ด้วยใบหน้าที่จริงจังของชายหนุ่มทำให้เควินที่ได้ยินก็รีบหันไปมองทันที
แต่ก็ปรากฎว่ารอบๆนั้นไม่มีอะไรอยู่เลยไม่มีฮงไคระดับไหนอยู่เลยสักตัว
และเมื่อเขาหันกลับมามองที่เดิมเท่านั้นแหล่ะ
ร่างที่กำลังโดนเอาปืนจ่ออยู่เมื่อกี้นั้นบัดนี้ได้หายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“…” เควินที่เห็นก็ถึงกับกำหมัดเลยทีเดียว
เขาไม่นึกเลยว่าตัวเองจะต้องมาหลงกลอะไรกับมุขหลอกเด็กง่ายๆแบบนี้
[เควิน! เควิน! ได้ยินแล้วตอบด้วยเควิน?! สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?]
เสียงของเมย์ได้ดังขึ้นมาผ่านลำโพงที่ในหูฟังขนาดเล็กของเควิน
จนเสียงของมันได้เรียกสติของเขาให้กลับมาอีกครั้งเหมือนเดิม
“นี่เควินพูด”
ติ๊ด!
เควินได้กดไปที่ไมค์ที่ติดอยู่กับหูฟังของเขาก่อนที่จะเอ่ยตอบกลับ
“สถานการณ์ตอนนี้กลับไปเป็นปกติแล้ว… แฮชเชอร์ได้ถูกชายปริศนาที่มีหน้าตาเหมือนกับชั้นจัดการไปแล้ว”
[งั้นหรอแล้วตอนนี้ชายคนนั้นหล่ะอยู่ที่ไหน?]
“ตอนนี้เขาได้หายไปแล้วถูกต้มซะเปื่อยเลย ตอนนี้เขาพึ่งจะผ่านการต่อสู้กับแฮชเชอร์มาเพราะงั้นน่าจะยังไปไม่ได้ไกลนัก”
[เข้าใจแล้ว เดี๋ยวจะส่งหน่วยค้นหาไปสมทบถ้าตามที่บอกเขาน่าจะยังไปได้ไม่ไกลเพราะงั้นฝากนายค้นหาแถวๆนั้นหน่อยนะยังไหวรึเปล่า?]
“ยังไหวอยู่เดี๋ยวชั้นจะลองหาแถวนี้ดูก่อน”
เมื่อพูดจบเควินก็วางสายทันทีเขาได้เก็บความขุนเคืองที่ถูกหลอกเอาไว้ในใจ
หลังจากนั้นเขาก็เริ่มออกค้นหาตัวของชายหนุ่มผมขาวที่หน้าตาเหมือนกับเขาทันที
ณ ตรอกภายในเมืองแห่งหนึ่ง
ชายหนุ่มนามอิซึกิเอาได้ถูกระบบวาร์ปมาตามคำขอของเขา
เนื่องจากเขายังไม่ขี้เกียจตอบคำถามของอีกฝ่ายให้เสียเวลาก็เลยอ้อนวอนขอร้องระบบในใจ
“ฟูววว รอดมาได้อยากปลอดภัย~ ว่าแต่ทำไมเธอถึงได้ส่งชั้นมากองขยะหล่ะคุณระบบ?”
อิซึกิถามออกมาด้วยความไม่เข้าใจเนื่องจากตอนนี้เขาได้ถูกระบบวาร์ปมา
ให้มานอนกลางกองขยะภายในเมืองแห่งหนึ่งซึ่งเขาไม่ทราบชื่อแบบพอดิบพอดี
[ไม่รู้สิคะ]
“ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ~ ว่าแต่ตอนนี้จะให้ชั้นตื่นได้ยังอะ?”
[มาตั้งขนาดนี้มาสเตอร์ยังคิดว่ามันเป็นความฝันอีกหรอคะระบบไม่รู้จะพูดยังไงกับมาสเตอร์เลยคะ]
“ก็ใช่หน่ะสิถามแปลกๆ พูดอย่างกับว่าเธอจะบอกว่ามันเป็นเรื่องจริงงั้นแหล่ะ?”
[ใช่คะเรื่องจริง… ถ้ายังไม่เชื่อมาสเตอร์ก็ลองเอาหัวโขกกำแพงดูสิคะถ้าตื่นก็แสดงว่าเป็นฝันถ้าไม่ตื่นแสดงว่ามันเป็นเรื่องจริง]
“…มีวิธีอื่นมั้ย?”
[แนะนำให้มาสเตอร์เอาชามาสยิงขาตัวเองคะ]
“….”
ความคิดเห็น