NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Honkai Impact X Anime] ฉันมันก็แค่คนหน้าเหมือนเท่านั้นแหล่ะ

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3

    • อัปเดตล่าสุด 29 ม.ค. 66


    “เป็นอะไรไปเจ้าครึ่งมนุษย์? ก่อนหน้านี้ทักษะควบคุมนํ้าแข็งของเจ้ายังเฉียบคมมากกว่านี้เลยนะแล้วทำเจ้าไม่ถึงไม่เรียกดาบเล่มนั้นของเจ้าออกมาคิดจะดูถูกข้ารึไง?” 

     

    แฮชเชอร์สาวเอ่ยออกมาด้วยความหงุดหงิด

     

    จากนั้นสายตาของเธอก็ได้มองไปยังร่างของเควินที่ตอนนี้มีเต็มไปด้วยรอยไหม้สีดำตามร่างกาย

     

    โดยที่ทาฃฝั่งของเควินนั้นมีอาการหอบจากการต่อสู้ที่ยืดยื่อแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด

     

    “ผมไม่เข้าใจหรอกว่าตกลงแล้วที่คุณพูดมามันหมายความว่ายังไง” 

     

    เควินพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งแต่ภายในนํ้าเสียงของเขามันกลับแฝงไปด้วยความเครียด

     

    ในตอนแรกเขากะจะใช้พลังนํ้าแข็งเพื่อหาจังหวะปิดฉาก

     

    แต่อีกฝ่ายนั้นกลับไหวตัวได้ทันและสวนกลับเขาได้ตลอด

     

    แม้เขาจะโจมตีเธอตอนที่เผลอแต่ทางนั้นก็ราวกับระวังตัวอยู่ตลอดเวลาทำให้สามารถตั้งรับได้ทัน

     

    บวกกับพลังของเขาในตอนนี้มันก็ยังไม่เสถียรทำให้ในการใช้พลังควบคุมนํ้าแข็งแต่ละครั้งมันต้องเพ่งสมาธิค่อนข้างมาก

     

    “หึ! เอาเถอะเห็นแกเจ้าที่สามารถต่อสู้กับข้ามาได้ถึงขนาดนี้เดี๋ยวข้าจะฆ่าเจ้าแบบไม่เจ็บปวดเอง อยู่นิ่งๆแล้วยอมตายไปซะดีๆเจ้าครึ่งมนุษย์!!!!” 

     

    พูดจบเธอก็สบัดมือไปทางเควินทันที

     

    ฟูมมมมมมมมมมมมมมมมมม!!!!!!!!

     

    พายุเปลวไฟขนาดใหญ่ได้ถ่าโถมไปทางเควินอย่างรุนแรง

     

    อุณหภูมิของมันในครั้งนี้สูงที่สุดที่ที่เขาเคยสัมผัสมากับตัวเลย

     

    “!!!!!”

     

    Boku no Hero Academia

     

    คลืนนนนนนนนน!!!! แกร๊กกก!!!!!!!

     

    เควินที่เห็นพายุเปลวเพลิงขนาดใหญ่ที่กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เขาก็รีบสร้างกำแพงนํ้าแข็งขึ้นมากันเอาไว้ทันที

     

    เพราะขนาดของมันที่ใหญ่มากถึงเขาจะหนีไปมันก็คงไม่ทันแล้ว

     

    ในตอนนี้เขาก็มีแต่ต้องหวังให้พลังนํ้าแข็งของเขา

     

    มันจะพอกันเอาไว้จนกว่าพายุมันจะหายไปเองได้เท่านั้น

     

    แต่ดูเหมือนว่าเควินนั้นจะคาดเดาพลังของอีกฝ่ายตํ่าไป

     

    อุณหภูมิของเปลวเพลิงที่แฮชเชอร์ปล่อยออกมาในตอนนี้มันสามารถหลอมละลายเหล็กได้ในเวลาไม่กี่วินาที

     

    ทันทีพายุเพลิงได้เข้าปะทะเข้ากับนํ้าแข็งของเควินเพียงแค่พริบตาเดียวนํ้าแข็งที่สร้างมาเพื่อใช้เป็นกำแพงก็ระเหยแทบจะในทันที

     

    แม้อุณหภูมิร่างกายที่ตํ่าถึง -30 องศาเควินก็ยังรับรู้ได้ถึงความร้อนที่ส่งผ่านเข้ามา

     

    แม้ว่ามันจะมีกำแพงนํ้าแข็งขว้างเอาไว้ก็ตาม

     

    แต่ด้วยขนาดของกำแพงนํ้าแข็งที่สร้างขึ้นมาไม่ใหญ่มากพอที่จะป้องกันพลังของพายุเพลิงได้มันก็เลยได้ระเหยไปอย่างรวดเร็ว

     

    เควินไม่สามารถรู้ได้เลยว่าถ้าร่างกายของเขาที่มีอุณหภูมิลดตํ่าถึงขนาดนี้จะสามารถทนความร้อนได้มั้ย

     

    นํ้าแข็งที่เขาสร้างขึ้นมาในตอนนี้มันได้ระเหยไปอย่างรวดเร็วจนไม่สามารสร้างเป็นกำแพงได้แล้ว

     

    ทำให้ตอนนี้เขาไม่สามารถสร้างกำแพงนํ้าแข็งขึ้นมาเพื่อป้องกันร่างกายได้อีกแล้ว

     

    ในตอนนี้สิ่งที่เควินทำได้มีเพียงแค่ภาวนาว่าร่างกายของเขาจะทนมันได้เท่านั้น

     

    และในวินาทีที่ร่างกายขอวเควินจะปะทะเข้ากับพายุเพลิงมันก็ได้เกิดสิ่งหนึ่งขึ้น

     

    คลืนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!!

     

     

    จู่ๆมวลนํ้าแข็งขนาดใหญ่ที่มีขนาดพอๆกับพายุเพลิงได้ปรากฎขึ้นอย่างฉับพลัน

     

    คลื่นนํ้าแข็งที่เกิดขึ้นมันได้กลืนกินพายุเพลิงของแฮชเชอร์สาวภายในชัวร์พริบตา

     

    “อะไรกัน?!” 

     

    แฮชเชอร์ได้เอ่ยออกมาด้วยความตื่นตระหนกก่อนที่จะมีเสียงของคนๆหนึ่งดังขึ้น

     

    “แหมๆขอโทษทีให้รอนานนะคร๊าบ~ พอดีไปเข้าห้องนํ้ามาหน่ะก็เลยช้า” 

     

    เสียงของชายหนุ่มที่มีความคล้ายคลึงกับเควินได้ดังขึ้นเรียกความสนใจของทั้งสองในทันที

     

    แม้นํ้าเสียงจะมีความคล้ายคลึงกับเควินจนยากที่จะแยกออก

     

    แต่ด้วยวิธีการพูดที่ยียวนกวนประสาทแบบนั้นทำให้เธอสามารถแยกออกได้ทันทีที่ได้ยิน

     

    “วิธีการพูดที่ยียวนกวนประสาทจนชวนน่าหงุดหงิดนั้นเป็นเจ้าเองสินะ?! เจ้าครึ่งมนุษย์ที่สู้กับข้าก่อนหน้านี้?!!!” 

     

    ในตอนแรกที่เธอเจอกับเควินเธอก็คิดว่าเป็นคนๆเดียวกันกับที่สู้กับเธอก่อนหน้านี้ก็เลยใส่เต็มทีเลย

     

    แต่เธอก็พึ่งมาเอะใจก็ตรงวิธีการพูดที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่ายในตอนแรกก็ไม่คิดว่าทั้งสองตนจะเป็นคนละคนกัน

     

    แต่ทันทีที่เธอได้ยินวิธีการพูดแบบนั้นเธอก็รับรู้ได้ทันทีเลยว่าคนที่เธอกำลังสู้อยู่ตอนนี้

     

    ไม่ใช่คนเดียวกันกับก่อนหน้านี้วิธีการพูดของเควินจะเป็นแบบเรียบเฉย

     

    จนคาดเดาอารมณ์ได้ค่อนข้างยากแต่กลับคนที่สู้กับเธอก่อนหน้านี้มันเป็นคนละแบบเลย

     

    “นี่คุณ!? ทำไมถึง?!” 

     

    เควินทีหันไปตามเสียงพูดก็ต้องชะงักก่อนที่จะเอ่ยขึ้นมาด้วยความตกใจ

     

    เพราะใบหน้าของทั้งสองมีความคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมากชนิดที่บอกว่าเป็นฝาแฝดกันก็คงเชื่อ

     

    “งั้นชั้นจะขอแนะนำตัวอีกรอบเลยก็แล้วกันนะชั้นโดมะ อิซึกิ ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะ”

     

    Kevin Kaslana : r/houkai3rd

     

    “ตอบคำถามของข้ามาซะเจ้าคือคนที่สู้กับข้าก่อนหน้านี้ใช่มั้ย?!!!” 

     

    แฮชเชอร์สาวได้ถามยํ้าอีกครั้ง

     

    “แม่นแล้ว ชั้นนี่แหล่ะที่สู้กับเธอก่อนหน้านี้พอดีว่าเมื่อกี้ไปเข้าห้องนํ้ามาก็เลยมาช้าขอโทษทีนะ” 

     

    ทันทีที่แฮชเชอร์สาวได้คำตอบเธอก็ได้สบัดมือเพื่อใช้พายุเปลวเพลิงโจมตีมาที่เขา


     

    หลังจากนั้นตัวของเธอก็ได้เอ่ยขึ้นมาทันทีด้วยความโมโห

     

    “เช่นนั้นก็ตายซะ!!!!”

     

    ฟูมมมมมมมมม!!!!!!!

     

    “หึ!… ใครมันจะไปยืนรับให้โง่หล่ะเฟ้ย?!” 

     

    ฟุบ!!!

     

    ทันทีที่พูดจบร่างของเขาก็ได้หายไปจากจุดนั้นในทันที

     

    แฮชเชอร์ที่เห็นก็เบิกตากว้างในทันทีก่อนที่จะหันไปมองรอบๆเพื่อหาตัวของเขา

     

    “หายไปไห----” 

     

    ยังไม่ทันที่จะพูดจบก็ได้มีเสียงๆหนึ่งแทรกขึ้นมาจากทางด้านบน

     

    “อยู่นี้ไงเจ๊!”

     

    “?!!!” 

     

    ทันทีที่เธอได้ยินก็รีบหันไปมองทันทีก่อนที่จะเจอเข้ากับชายหนุ่มที่เธอกำลังหาอยู่เมื่อกี้

     

    ในตอนนี้ภายในมือของเขานั้นถือดาบสีส้มขนาดใหญ่พร้อมกับง้างมันเอาไว้อยู่ที่เหนือหัว

     

     

    “!!!” 

     

    เธอที่เห็นแบบนั้นก็รีบกระโดรีบหลบออกจากจุดนั้นทันที

     

    ก่อนที่ดาบของเขาจะฟาดลงกับพื้นอย่างแรงจนก่อเกิดคลื่นกระแทกขึ้น

     

    ตู้มมมมมมมมมมม!!!!!

     

    คลื่นกระแทกที่รุนแรงมันทำให้ร่างของเธอนั้นกระเด็นไปชนเข้ากับตึกที่อยู่ด้านหลังเข้าอย่างจัง

     

    ตึง!!!!

     

    “อึก?!” 

     

    แฮชเชอร์สาวได้ร้องออกมาอย่างเจ็บปวดแต่ทว่าทางอิซึกิก็ไม่คิดที่จะปล่อยให้เธอได้พักหายใจ

     

    อิซึกิได้ใช้พลังนํ้าแข็งของตัวเองโจมตีไปที่เธออีกครั้งทันทีเพื่อไม่ให้เธอได้ตั้งตัวได้ทัน

     

    คลืนนนนน!!!! แกร๊กกก!!!!! ฉัวะ!!!!

     

     

    “อึก?!!! หน่อยแน่เจ้าครึ่งมนุษย์บังอาจนัก!”

     

    นํ้าแข็งที่แหลมคมถูกปล่อยออกมาทำให้เธอที่ตั้งตัวไม่ทันก็พยายามที่จะหลบมันแต่สุดท้ายแล้ว

     

    มันก็ทำให้เธอต้องแลกมาด้วยแขนข้างหนึ่งเพื่อเอาตัวรอดจากการโจมตีของเขาในครั้งนี้

     

    แน่นอนว่าเธอเริ่มตั้งตัวได้บ้างแม้จะสูญเสียแขนไปข้างหนึ่งก็ได้โจมตีสวนกลับเขาในทันที

     

    ฟูมมมมมมมมมมมมมม!!!!

     

    “…..”


    อิซึกมองภาพของพายุเพลิงที่พุ่งมาทางตนด้วยใบหน้าเรียเฉยก่อนที่เขาจะใช้มือทั้งสองจับอุริเอล

     

    หมับ! ฟูมมมมมมมมมม!!!!

     

     

    จากนั้นเปลวเพลิงจำนวนมากก็ได้ปะทุออกมาจากตัวดาบก่อนที่เขาจะฟาดมันออกไปอย่างแรง

     

    ฟึบบบบ!!!! ตู้มมมมมมม!!!!!

     

    Genshin Impact | Page 531 | HardwareZone Forums

     

    เปลวเพลิงที่ถูกปล่อยออกมาจากอุริเอลได้ทำลายพายุเพลิงของแฮชเชอร์ได้อย่างง่ายดาย

     

    มันทำให้เธอถึงกับอุทานออกมาด้วยความตกใจทันที

     

    “อะไนกัน?!” 

     

    กลุ่มควันที่เกิดขึ้นจากแรงระเบิดมันได้บดบังการมองเห็นของเธอ

     

    จนมันทำให้เธอไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหน้าได้เลย

     

    ก่อนที่ในวินาทีต่อมาสิ่งที่ปรากฎออกมาจากกลุ่มควันมันจะต้องทำให้เธอเบิกตากว้างด้วยความตกใจทันที

     

    สิ่งนั้นก็ปรากฎออกมาก็คือร่างของชายหนุ่มผมสีขาวที่กำลังง้างดาบขึ้นเหนือหัวเตรียมที่จะฟันไปทางเธอ

     

    “!!!!!” 

     

    แน่นอนว่าด้วยระยะแค่นี้เธอไม่มีทางหลบพ้นแน่ๆเธอก็เลยได้หลับตาลงเพื่อเตรียมรับชะตากรรมที่กำลังจากมาถึง

     

    ด้วยขนาดของดาบทำให้เธอคิดว่ามันคงฟันเธอจนด้วยขาดได้ไม่ยากแน่ๆแต่ในท้ายที่สุดแล้ว…

     

    คลืดดดดดด!!!!! แกร๊กกกกกกก!!!!!

     

     

    “อึก?!!!” 

     

    แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความเจ็บปวดที่ร่ากายถูกฟันแต่ทว่ามันกลับเป็นความเย็นที่เกิดขึ้นฉับพลันแทน

     

    ซึ่งมันเย็นมากจนทำให้เธอไม่รู้สึกถึงอะไรเลยในตอนนี้ไม่สามารถขยับได้แม้แต่น้อย

     

    ไม่ว่าจะแขนหรือขาก่อนที่หลังจากนั้นเธอก็จึงค่อยๆลืมตาขึ้น

     

    ภาพเเรกที่เธอเห็นเป็นสิ่งแรกก็คือภาพของชายหนุ่มที่กำลังใช้มือแตะไปที่พื้น

     

    พร้อมๆกับร่างของเธอยกเว้นส่วนหน้าอกกับส่วนหัวนอกนั้นถูกนํ้าแข็งกลืนกินไปแล้วมากกว่าครึ่ง

     

     

    “ทำไม... เจ้า… ถึงไม่ฟัน… ข้า… เจ้าครึ่งมนุษย์?” 


    เธอเอ่ยออกมาอย่างยากลำบากด้วยความไม่เข้าใจ

     

    แกร๊ก…

     

    ตอนนี้แข็งของชายหนุ่มมันค่อยลุกลามไปเรื่อยไม่หยุดในอีกไม่ช้าเธอก็คงตายจากการโดนแช่แข็งเป็นแน่

     

    “ชั้นก็แค่ไม่อยากทำให้หน้าสวยๆของเธอเป็นรอยไหม้ก็เท่านั้น” 

     

    เมื่อพูดจบอิซึกิก็ได้เก็บอุริเอลกลับทันที

     

    “หึ… ถึง… พูดแบบนั้น… แต่… เจ้า… ก็ทำลาย… แขนของข้าหนิ…”

     

    “อันนั้นไม่เกี่ยวเฟ้ย ก็เธอหลบมันเองหนิยอมโดนไปแต่แรกก็จบแล้ว” 

     

    ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเบาๆพร้อมกับยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้

     

    “เอาหล่ะเลิกพูดได้แล้วอีกสักพักร่างกายของเธอก็จะค่อยๆชาไปเรื่อยในท้ายที่สุดแล้วอีกเดี๋ยวภาพมันก็ตัดไปเองสิ่งที่ชั้นทำให้เธอได้ก็มีแค่นี้แหล่ะ” 

     

    ในตอนนี้ร่างกายของเธอมันเริ่มค่อยๆถูกแช่จนไปจนถึงหน้าอกแล้ว

     

    “ให้ตาย… เถอะ… เจ้า… นี่มัน… จริงๆ… เลย… ทั้งๆที่… ข้าก็ทำ… ไปถึงขนาดนั้น… แท้ๆ… แต่เจ้าก็ยัง…” 

     

    เธอมองไปยังชายหนุ่มด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย

     

    “ชั้นก็แค่ทำไปก็เพื่อชั้นอยากทำเท่านั้นแหล่ะไม่ต้องไปหาเหตุผลหรอก”

     

    “งั้น… หรอ… ข้า… ชัก… จะถูกใจ… เจ้าแล้วสิ… หึๆ… ถ้ามีครั้งหน้า… ข้าจะทำ… ให้เจ้า… กลายเป็นของ… ข้าให้ได้… จำเอาไว้หล่ะ… เจ้าครึ่งมนุษย์…” 

     

    เเฮชเชอร์สาวได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้มเจ้าเลห์อีกครั้งก่อนที่สติของเธอก็ค่อยๆดับไปในที่สุด

     

    พร้อมๆกับร่างกายของเธอที่ถูกแช่แข็งไปเป็นที่เรียบร้อย

     

    “…” อิซึกิที่ได้ยินก็นิ่งไปแปบหนึ่งเลยหลังจากที่ได้ยินเธอพูดออกมาแบบนั้น

     

    “เห้อ… เอาหล่ะระบบแล้วที่นี่----”

     

    แกร๊ก!

     

    ยังไม่ทันทีชายหนุ่มจะพูดจบเขาก็ถูกบางอย่างจ่อที่หัวของเขาจนเจ้าตัวถึงกับยกมือขึ้นเลย

     

    “นี่ๆเมื่อกี้ก็ไม่ช่วยสู้เลยแท้ๆไหงเอาปืนมาจ่อหัวกันหล่ะเนี้ย? ถ้าอยากตอบแทนกันขนาดนั้นจะเลี้ยงข้าวแทนก็ได้นะ ไม่เอาลูกตะกั่วสิ~” 

     

    อิซึกิได้ยกมือขึ้นพร้อมๆกับพูดออกมาด้วยนํ้าเสียงติดตลกเล็กน้อย

     

    แต่ภายในใจของเขาในตอนนี้นั้นโคตรจะตื่นตระหนกอย่างไม่น่าเชื่อ

     

    “ตอบมาซะ… ทำไมคุณถึงได้มีหน้าตาคล้ายกับผม… โครงการ M.A.N.T.I.S. ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับเลือกในตอนแรก… แล้วทำไมคุณถึงใช้พลังของฮงไคได้กัน? ทั้งๆที่คนที่ได้รับการปลุกถ่ายยีนฮงไคก็มีแค่ผมเท่านั้นในตอนนี้?”

     

    เควินเอ่ยถามออกมาโดยใช้ปืนที่พกติดตัวเอาไว้จ่อไปที่กระบาลของชาย

     

    “โห้ว~ ขอบคุณไม่มีสักคำแถมยังโดนปืนจ่อหัวอีกไม่น่าช่วยเลยให้ตายสิ”

     

    “งั้นผมก็ขอบคุณแล้วกันที่คุณช่วยผมเอาไว้เมื่อกี้ เอาหล่ะที่นี่คุณตอบคำถามของผมมาซะ”

     

    “ได้ขอบคุณจากใจปะเนี้ย? เห้อ…” 

     

    อิซึกินั้นถึงกับต้องถอนหายใจเลยทีเดียวแต่ทันใดนั้นเองอยู่ดีๆ

     

    เขาก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังก่อนที่จะเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ

     

    “ฮงไคระดับจักรพรรดิหนิทำไมถึงได้?!”

     

    “?!!!!!”

     

    ด้วยใบหน้าที่จริงจังของชายหนุ่มทำให้เควินที่ได้ยินก็รีบหันไปมองทันที

     

    แต่ก็ปรากฎว่ารอบๆนั้นไม่มีอะไรอยู่เลยไม่มีฮงไคระดับไหนอยู่เลยสักตัว

     

    และเมื่อเขาหันกลับมามองที่เดิมเท่านั้นแหล่ะ

     

    ร่างที่กำลังโดนเอาปืนจ่ออยู่เมื่อกี้นั้นบัดนี้ได้หายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

     

    “…” เควินที่เห็นก็ถึงกับกำหมัดเลยทีเดียว

     

    เขาไม่นึกเลยว่าตัวเองจะต้องมาหลงกลอะไรกับมุขหลอกเด็กง่ายๆแบบนี้

     

    [เควิน! เควิน! ได้ยินแล้วตอบด้วยเควิน?! สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?]

     

    เสียงของเมย์ได้ดังขึ้นมาผ่านลำโพงที่ในหูฟังขนาดเล็กของเควิน

     

    จนเสียงของมันได้เรียกสติของเขาให้กลับมาอีกครั้งเหมือนเดิม

     

    “นี่เควินพูด”

     

    ติ๊ด!

     

    เควินได้กดไปที่ไมค์ที่ติดอยู่กับหูฟังของเขาก่อนที่จะเอ่ยตอบกลับ

     

    “สถานการณ์ตอนนี้กลับไปเป็นปกติแล้ว… แฮชเชอร์ได้ถูกชายปริศนาที่มีหน้าตาเหมือนกับชั้นจัดการไปแล้ว”

     

    [งั้นหรอแล้วตอนนี้ชายคนนั้นหล่ะอยู่ที่ไหน?]

     

    “ตอนนี้เขาได้หายไปแล้วถูกต้มซะเปื่อยเลย ตอนนี้เขาพึ่งจะผ่านการต่อสู้กับแฮชเชอร์มาเพราะงั้นน่าจะยังไปไม่ได้ไกลนัก”

     

    [เข้าใจแล้ว เดี๋ยวจะส่งหน่วยค้นหาไปสมทบถ้าตามที่บอกเขาน่าจะยังไปได้ไม่ไกลเพราะงั้นฝากนายค้นหาแถวๆนั้นหน่อยนะยังไหวรึเปล่า?]

     

    “ยังไหวอยู่เดี๋ยวชั้นจะลองหาแถวนี้ดูก่อน” 

     

    เมื่อพูดจบเควินก็วางสายทันทีเขาได้เก็บความขุนเคืองที่ถูกหลอกเอาไว้ในใจ

     

    หลังจากนั้นเขาก็เริ่มออกค้นหาตัวของชายหนุ่มผมขาวที่หน้าตาเหมือนกับเขาทันที

     


    ณ ตรอกภายในเมืองแห่งหนึ่ง

     

    ชายหนุ่มนามอิซึกิเอาได้ถูกระบบวาร์ปมาตามคำขอของเขา

     

    เนื่องจากเขายังไม่ขี้เกียจตอบคำถามของอีกฝ่ายให้เสียเวลาก็เลยอ้อนวอนขอร้องระบบในใจ

     

    “ฟูววว รอดมาได้อยากปลอดภัย~ ว่าแต่ทำไมเธอถึงได้ส่งชั้นมากองขยะหล่ะคุณระบบ?” 

     

    อิซึกิถามออกมาด้วยความไม่เข้าใจเนื่องจากตอนนี้เขาได้ถูกระบบวาร์ปมา

     

    ให้มานอนกลางกองขยะภายในเมืองแห่งหนึ่งซึ่งเขาไม่ทราบชื่อแบบพอดิบพอดี

     

    [ไม่รู้สิคะ]

     

    “ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ~ ว่าแต่ตอนนี้จะให้ชั้นตื่นได้ยังอะ?”

     

    [มาตั้งขนาดนี้มาสเตอร์ยังคิดว่ามันเป็นความฝันอีกหรอคะระบบไม่รู้จะพูดยังไงกับมาสเตอร์เลยคะ]

     

    “ก็ใช่หน่ะสิถามแปลกๆ พูดอย่างกับว่าเธอจะบอกว่ามันเป็นเรื่องจริงงั้นแหล่ะ?”

     

    [ใช่คะเรื่องจริง… ถ้ายังไม่เชื่อมาสเตอร์ก็ลองเอาหัวโขกกำแพงดูสิคะถ้าตื่นก็แสดงว่าเป็นฝันถ้าไม่ตื่นแสดงว่ามันเป็นเรื่องจริง]

     

    “…มีวิธีอื่นมั้ย?”

     

    [แนะนำให้มาสเตอร์เอาชามาสยิงขาตัวเองคะ]

     

    “….”

     

     

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×