ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Ouran high school host club X MHA]マーボー豆腐

    ลำดับตอนที่ #4 : Episode 4 - ครอบครัวบาคุโก

    • อัปเดตล่าสุด 12 ต.ค. 65


    “ตายแล้ว!! เจ้าเด็กพวกนี้ทำไมเล่นแรงขนาดนี้เนี่ย” เสียงของคนที่มาให้เรียกความสนใจจากพวกโฮสต์คลับได้ดีเลยทีเดียว

     

    คนที่มาใหม่นั้นหน้าตาเหมือนกับคัตสึกิแทบทุกส่วน ต่างกันแค่ตรงอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงคาดว่าน่าจะเป็นพี่สาวของบาคุโก คัตสึกิ

     

    “คัตสึกิ! อิซึคุคุง! ไปๆแยกกันเลยลุกไปทำแผลเลย” คนมาใหม่แยกคนที่ต่อสู้กันจนได้แผล

     

    และคัตสึกิกับอิซึคุก็ถูกคนมาใหม่ทำแผลให้ หลังจากทำแผลเสร็จสภาพของทั้งสองคนเรียกได้ว่าดูไม่จืด

    อิซึคุมีพลาสเตอร์แปะที่แก้มทั้งสองข้าง ส่วนแผลอื่นเป็นแผลเล็กๆทำให้ไม่ต้องแปะพลาสเตอร์หรือพันผ้าพันแผล

    ส่วนคัตสึกิที่เป็นผู้ชนะนั้น มีพลาสเตอร์แปะที่แก้มข้างซ้าย และแขนทั้งสองข้างถูกพันไปด้วยผ้าพันแผลเพราะเอาแขนทั้งสองข้างไปรับลูกเตะของอิซึคุ

     

    “ทำไมสภาพของคนที่ชนะถึงแย่กว่าคนแพ้ล่ะเนี่ย” ทามากิอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแขวะขึ้นมา

    “แกน่ะหุบปากไปเลยไอ้ผมทอง!” คัตสึกิแว้ดใส่ทามากิทันที

    “เอ่อคัตสึกิ แล้วคุณคนนี้พี่สาวนายเหรอ” ฮารุฮิถามคัตสึกิ

    “ตายจริงลืมแนะนำตัวไปเลย ชั้นบาคุโก มิตสึกิเป็นแม่ของเจ้าเด็กนี่น่ะ” คนที่มาใหม่นั่นก็คือมิตสึกิแม่ของบาคุโกนั่นเอง

    “เอ๋!!! เป็นแม่หรอกเหรอ” คนจากโฮสต์คลับที่พึ่งเคยมาบ้านคัตสึกิครั้งแรกก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ

    “เออ ที่ชั้นเคยบอกว่ายัยป้ามีอัตลักษณ์กลีเซอรีนไง เห็น่วาหน้าเด็กก็ไม่ต้องแปลกใจหรอก” คัตสึกิอธิบายเสริม

    “เลิกเรียกชั้นว่ายัยป้าได้ไง! ชั้นเป็นแม่แกนะยะ!” มิตสึกิแว้ดใส่คัตสึกิพร้อมตบหัวเจ้าลูกตัวดีไปด้วย

    “โอ้ยเจ็บนะโว้ยยัยป้า!!” บาคุโกกุมหัวพร้อมกับแว้ดกลับทันที

     

    ‘อือ สมแล้วที่เป็นแม่ลูกกัน’ คนในชมรมโฮสต์คลับมองด้วยสายตาที่ว่างเปล่า โดยมีอิซึคุหัวเราะแห้งอยู่ด้วย

     

    “จริงสิ ไหนๆครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่คัตสึกิพาเพื่อนมาบ้านเดี๋ยวต้องโชว์ฝีมือซะหน่อยแล้ว” มิตสึกิพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

    “เย่! ผมคิดถึงอาหารของคุณน้ามิตสึกิที่สุดเลย!” มิตสึคุนิร้องออกมาด้วยความดีใจ

    “แหม มิตสึคุนิคุงล่ะก็ปากหวานเหมือนเดิมเลยนะ ไปๆอิซึคุคุงพาเพื่อนไปห้องอาหาร ส่วนคัตสึกิมาช่วยแม่ทำอาหาร” มิตสึกิสั่งทุกอย่างเสร็จสรรพพร้อมลากลูกชายของตนไปที่ห้องครัว

     

     

    คัตสึกิในตอนนี้รับหน้าที่เป็นลูกมือในครัวให้กับผู้เป็นแม่กำลังช่วยหั่นผักอยู่ด้วยความชำนาญ

     

    “เห คัตสึกิใช้มีดเก่งจัง” ฮิคารุที่แอบมองอยู่ที่ประตูครัวกับคาโฮรุพูดขึ้นพร้อมกัน

    “พวกแกกลับไปที่ห้องอาหารเลยเว้ย อยู่ตรงนี้มันเกะกะว่ะ” คัตสึกิหันไปด่าแฝดฮิตาจิอิน แต่มือก็ยังคงหั่นผักด้วยความเร็วคงที่

    “แต่พวกเรายังไม่เข้าไปในครัวเลยนะ” ฮิคารุแย้งโดยมีคาโอรุพยักหน้าเสริม

    “เกะกะก็คือเกะกะ ไปนั่งรอเฉยๆไป” คัตสึกิไล่ทั้งสองคน

    “คร้าบๆ ไปก็ได้”

     

    ฮิคารุและคาโอรุยอมละความสนใจออกจากคัตสึกิและเดินกลับไปที่ห้องอาหาร คัตสึกิจึงสามารถใช้สมาธิในการทำอาหารได้อย่างเต็มที่

    หลังจากที่เริ่มทำอาหารไปได้ซักพักคัตสึกิจึงเอ่ยถามมิตสึกิไป

     

    “ยัยป้า ของหวานเป็นอะไร”

    “ตายละ แม่ลืมคิดไปเลย ถ้าจะทำเค้กที่มิตสึคุนิคุงชอบก็คงนานใช้้คนไปซื้อดีมั้ยนะ” มิตสึกิคิดหนัก

    “นานเลยไม่ใช่รึไง ทำอะไรง่ายๆดีกว่ามั้ง” คัตสึกิแสดงความคิดเห็น

    “นั่นสิทำอะไรดีคัตสึกิ” มิตสึกิเห็นด้วยแหละหันมาถามลูกของตน

    “เครปเย็น?” คัตสึกิออกไอเดีย

    “น่าจะมีวัตถุดิบอยู่นะ คัตสึกิดูในตู้เย็นในหน่อยว่ามีผลไม้เยอะมั้ย”มิตสึกิใช้ลูกทันทีเพราะตัวเองกำลังทอดคาราอาเกะอยู่

    “อ่า มีเยอะอยู่ เดี๋ยวของหวานชั้นจัดการเอง” คัตสึกิพูดพร้อมกับหยิบอุปกรณ์และวัตถุดิบในการทำเครปเย็นออกมา

     

    เวลาผ่านไปมิตสึกิก็เรียกคนใช้มาทยอยยกอาหารออกไปเสิร์ฟที่ห้องอาหาร และหลังจากที่ทำอาหารและของหวานเสร็จทั้งหมดแล้วคัตสึกิและผู้เป็นแม่ของตนก็เดินไปที่ห้องอาหารเพื่อทานข้าวพร้อมกับพวกคนในชมรมโฮสต์คลับ

    เปิดประตูเข้าไปก็เจอกับฮารุฮิที่กำลังพยายามห้ามฮิคารุกับคาโอรุที่กำลังจะหยิบคาราอาเกะขึ้นมากิน และทามากิที่กำลังมองอาหารทุกอย่างตรงหน้าด้วยความตื่นตาตื่นใจ

     

    “เอาล่ะ เด็กๆทานกันเถอะจ่ะ” มิตสึกิพูดขึ้นหลังจากที่ตนและลูกชายนั่งลงหน้าชุดอาหารของตน

     

    ทุกคนจึงเริ่มทานอาหารตรงหน้าทันที

     

    “คาราอาเกะอร่อยมากเลยฮะ” ฮารุฮิพูดหลังจากที่กัดคาราอาเกะเข้าไปได้หนึ่งคำ

    “อ๋า คาราอาเกะอันนั้นคัตสึกิเป็นคนหมักเนื้อเองเลย ดีใจที่ชอบนะ”

     

    มิตสึกิพูดจบก็มีสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อของฮารุฮิ เคียวยะและทามากิมองมา คัตสึกิที่เห็นสายตานั้นจึงเคี้ยวข้าวในปากให้หมดและตอบกลับไป

     

    “มองไรวะ” คัตสึกิพูดแกมดุ

    “ไม่คิดว่าคัตสึกิคุงจะทำอาหารอร่อยขนาดนี้น่ะ” เคียวยะเป็นคนตอบ

    “ฮะๆ ไม่คิดว่าคนโผงผางอย่างคัตสึกิจะทำอะไรแบบนี้ใช่มั้ยล่ะจ๊ะ” มิตสึกิหัวเราะและถามเด็กๆที่กำลังทำหน้าอึ้งๆอยู่

    “ใช่ครับ ผมคิดว่าคัตสึกิคงจะเก่งพวกศิลปะการต่อสู้อะไรแบบนี้มากกว่า” ทามากิตอบ

    “ถ้ามองแค่ภายนอกคงเป็นแบบนั้นแหละจ่ะ ตั้งแต่เด็กๆคัตสึกิเป็นลูกที่ไม่เคยทำให้แม่ผิดหวังเลย แม่ไม่เคยหวังว่าเค้าจะเรียนได้เก่งหรืออะไรเลยแต่สุดท้ายเค้าก็ทำทุกอย่างได้ดีและเก่งสมชื่อแม่ตั้งให้จริงๆ” มิตสึกิอดไม่ได้ที่จะกลับไปอวยลูกตัวเอง

    “แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกเลยนะที่คัตสึกิพาเพื่อนมาบ้านเนี่ย ปกติตอนแม่ถามก็เอาแต่บอกว่าเพื่อนที่โรงเรียนเล่นด้วยไม่สนุกเท่ากับเล่นกับอิซึคุคุง” มิตสึกิพูดโดยมีอิซึคุหัวเราะแหะๆอยู่ด้วย

    “ก็เจ้าพวกนั้นมันกากเอง” คัตสึกิแสดงความคิดเห็นออกมา

    “เค้าก็ปกติของเค้านั่นแหละ แกนั่นแหละเก่งเกินคน” มิตสึกิเถียง

     

    สองแม่ลูกเถียงกันโดยมีสายตาอึ้งของพวกชมรมโฮสต์ที่มองมาเพราะไม่คิดว่าจะได้เป็นเพื่อนกลุ่มแรกๆของคัตสึกิ และมีสายตาซาบซึ้งของอิซึคุที่ประทับใจคัตสึกิที่ให้ตัวเองไปเป็นเพื่อนโนหนึ่งของตน

    หลังจากนั้นทุกคนจึงหันมาสนใจกับอาหารบนโต๊ะมีบ้างที่จะคุยกันหรือหยอกกันบนโต๊ะอาหารเพราะบ้านบาคุโกไม่ค่อยเคร่งเรื่งมารยาทบนโต๊ะอาหารกัน แต่ก็ไม่ได้เล่นกันจนวุ่นวายเพราะยังคงเกรงใจผู้ใหญ่ที่นั่งร่วมโต๊ะอย่างมิตสึกิ

    เวลาล่วงเลยไปจนทุกคนทานข้าวเสร็จ มิตสึกิจึงให้คนใช้ยกของหวานมาให้

     

    “เครปเย็นจ่ะ เห็นว่ามิตสึคุนิคุงมาด้วยเลยเพิ่มของหวานให้ น้าก็เกือบจะลืมแล้วนะเนี่ยถ้าคัตสึกิไม่เตือน คัตสึกิเป็นคนทำเครปเย็นเองเลยนะ” มิตสึกิพูดหลังจากที่คนใช้ยกเครปเย็นมาให้จนครบจำนวนคน

    “เห ไม่ใช่แค่ของคาวของหวานก็ด้วยเหรอเนี่ย” ทามากิพูดขึ้นด้วยความตะลึง

    “ชิ เพราะยัยป้าลืมเลยได้แต่ทำของที่ง่ายๆที่ทำไม่นาน” คัตสึกิเดาะลิ้นก่อนจะลงมือทานของหวาน

    “อื้ม!! อร่อยมากเลยล่ะคัตจัง!” มิตสึคุนิ

    “อืม ชอบก็ดีแล้ว” คัตสึกิตอบและกินของหวานส่วนของตนต่อ

    “โอ๊ะ อร่อยจริงๆด้วย” ฮิคารุพูดขึ้นหลังจากที่ได้ลองชิมไปเป็นคำแรก

    “อยู่แล้วเว้ย!” คัตสึกิตอบ

    “ถ้าชอบกันก็ดีแล้วจ่ะ ไว้ถ้ามีโอกาสหน้าที่พวกหนูมาเที่ยวบ้านเราอีก น้าจะทำอย่างอื่นให้กินด้วยนะ” มิตสึกิตอบและกินเครปเย็นฝีมือลูกของตนพร้อมกับรอยยิ้ม

    “คุณน้ามิตสึกิครับ แล้วทำไมมิโดริยะคุงถึงไม่ได้ไปเรียนพร้อมกับคัตสึกิคุงล่ะครับ” เคียวยะเป็นคนถาม

    “อ๋อ อิซึคุเค้าเรียนโฮมสคูลน่ะ เรื่องนี้เห็นว่าทางฮิซาชิพ่อของอิซึคุคุงเป็นคนตัดสินใจน่ะ แต่ถ้าอิซึคุคุงอยากไปเรียนกับคัตสึกิก็ได้นะจ๊ะ เดี๋ยวน้าไปคุยกับพ่อของอิซึคุคุงให้” มิตสึกิตอบเคียวยะและหันไปถามความเห็นของอิซึคุ

    “เอ๋! ไม่เป็นไร--” อิซึคุยังพูดไม่ทันจบประโยคก็มีคนพูดขัดมาก่อน

    “ให้มันมาเรียนด้วยก็ดี เรียกตัวง่ายกว่าแล้วก็จะได้ไม่ต้องลำบากซ่อนตัวด้วย” คัตสึกิพูดขัด

    “อืม เดี๋ยวแม่ลองเอาเรื่องนี้ไปพูดกับฮิซาชิกับอิงโกะดู” มิตสึกิรับคำขอของคัตสึกิโดยไม่ได้กลับไปสนใจเสียงของอิซึคุเลย

     

    ‘แล้วจะถามผมทำไมล่ะครับ..’ นี่คือเสียงในใจของอิซึคุหลังจากที่สองแม่ลูกพูดกันเองเสร็จสรรพโดยที่ไม่ฟังความเห็นของตนเลย

     

     

    หลังจากที่ทุกคนทานมื้อเที่ยงเสร็จมิตสึกิก็ขอตัวไปจัดการธุระของบ้าน และบอกให้คัตสึกิและอิซึคุพาเพื่อนเดินชมบ้านเพื่อเป็นการเดินย่อยไปในตัว

    ทุกคนในชมรมจึงหันมามองคัตสึกิเป็นตาเดียวด้วยความตื่นเต้น คัตสึกิจึงต้องรับคำสั่งของผู้เป็นแม่ด้วยความไม่สบอารมณ์และพาเดินชมส่วนต่างๆของบ้านแต่ก็เว้นบางส่วนไว้ แต่ก็ไม่มีใครสนใจในส่วนนั้นเพราะกลัวจะไปละลาบละล้วงความเป็นส่วนตัวของบ้านเพื่อน

    คัตสึกิพาพวกชมรมโฮสต์เดินจนไปหยุดที่ห้องๆหนึ่ง

     

    “เอาล่ะ ห้องสุดท้ายแล้ว” คัตสึกิพูดพร้อมกับเลื่อนประตูออกให้เห็นด้านใน

    “ในที่สุด!” ฮารุฮิพูดขึ้นเพราะไม่คิดว่าบ้านเพื่อนผมฟางจะใหญ่ขนาดนี้ เพราะตนเดินจนเหนื่อย

    “นี่เป็นห้องดนตรีครับ ผมกับคัตจังถูกสั่งให้เรียนดนตรีตอนเด็กน่ะครับ เลยมีห้องนี้ขึ้นมา คัตจังจะเล่นเป็นทั้งกลองและกีตาร์ ส่วนผมจะเล่นพวกกีตาร์กับคีย์บอร์ดได้น่ะครับ ส่วนพวกเครื่องดนตรีอื่นๆพอเล่นได้แต่พวกผมยังเล่นไม่ได้เก่งเท่าสองอย่างที่บอกไปน่ะครับ” อิซึคุอธิบาย

    “เห อยากฟังเพลงที่คัตสึกิกับมิโดริยะเล่นจังเลยเนอะ” ฮิคารุพูดขึ้น

    “ช่ายๆ อยากฟังจังเลย” คาโอรุรีบพูดเสริม

    “เค้าก็อยากฟังเพลงที่คัตจังกับอิคจังเล่นเหมือนกัน!” มิตสึคุนิพูดด้วยความกระตือรือร้นโดยมีทาคาชิคอยพยักหน้าเสริม

     

    ส่วนคนอื่นๆไม่ได้พูดอะไรแต่ก็มองมาที่อิซึคุสลับกับคัตสึกิ จนอิซึคุทนแรงกดดันไม่ไหวจึงหันไปถามความเห็นของเพื่อนสมัยเด็กของตน

     

    “เอายังไงดีคัตจัง”

    “ชิ! เออ! เล่นก็เล่น” คัตสึกิพูดพร้อมกับไปนั่งลงที่เก้าอี้ตรงกลองชุดในห้อง

    “เล่นเพลงอะไรดีล่ะคัตจัง” อิซึคุหันไปถาม

    “เอาเป็นเพลงที่ชั้นกับแกแต่งก็ได้ แกเล่นกีตาร์ส่วนชั้นเล่นกลองเปิดเทปที่เคยอัดที่รวมเสียงคีย์บอร์ด แล้วพวกเราเล่นดนตรีคลอเอา” คัตสึกิเอ่ยสั่งอิซึคุเสร็จสรรพ

    “อ๋าา โอเคๆ” อิซึคุขานรับ

     

    พอทุกคนได้ยินว่าเป็นเพลงที่อิซึคุกับคัตสึกิเป็นคนแต่งจึงหูพึ่งในทันที แต่ละคนเริ่มหาที่่นั่งที่ว่าง อย่างเช่นตรงโซฟาในห้องดนตรีหรือพื้น เพื่อนั่งรอฟังเพลงทีี่อิซึคุและคัตสึกิเป็นคนแต่งในทันที

    หลังจากที่อิซึคุและคัตสึกิ เตรียมเปิดเพลงและจูนเสียงเครื่องดนตรีเรียบร้อยแล้วจึงเริ่มเล่นเพลง และเริ่มเล่นเครื่องดนตรีในทันที

     

    (เปิด shout baby - ryokuoushoku shakai คลอไปด้วยนะคะ)

     

    เมื่อเสียงตีฉาบให้จังหวะเบาๆของคัตสึกิ ดังขึ้นอิซึคุจึงเริ่มดีดกีตาร์ และเสียงร้องในเทปก็เริ่มดังคลอไปกับดนตรี ซึ่งเสียงร้องในท่อนแรกเป็นเสียงของคัตสึกิ

     

    กลิ่นของเส้นผมที่ต่างไปจากทุกที

    มันน่าหงุดหงิดนะที่เผลอไผลไปกับมัน

    มุมปากที่คลายออกอย่างนุ่มนวลค่อย ๆ จมลงไปในผ้าพันคอ
     

    ในท่อนต่อมาอิซึคุเป็นคนร้อง ซึ่งน้ำเสียงของอิซึคุทำเอาคนในชมรมโฮสต์เคลิ้มเพราะมีสเน่ห์คนละแบบกับคัตสึกิ

     

    ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่ตัวฉัน

    ได้กลายเป็นคนที่มีความอดทนถึงขนาดนี้

    ทั้ง ๆ ที่ตอนเด็กเป็นคนขี้แยจนถูกใครต่อใครเยาะเย้ยแท้ ๆ
     

    เมื่อเคลิ้มกับน้ำเสียงนุ่มน่าฟังของอิซึคุจบแล้วก็ต้องมาเคลิ้มกับเสียงทุ้มติดแหบของคัตสึกิต่อ

     

    ช่วยเก็บเป็นความลับให้หน่อยนะ

    ช่างเป็นคำพูดที่แสนโหดร้าย

    เสียงกู่ร้องกำลังเลือนหาย

    อนาคตที่ควรจะเป็นปกตินั้นกลับห่างไกลออกไป

    ต่อให้ไม่ถามใครก็เข้าใจดี

    ว่าไม่อาจไปถึงที่ที่เขาคนนั้นอยู่ได้

    ถ้างั้นจะไปไหนดี

    ไม่รู้อะไรเลยเพียงแค่ยึดติดเอาไว้

    อย่างความปรารถนาที่แผดเผาอยู่ในอกมากพอ

    จะลบล้างความกังวลในทุก ๆ วันที่ไม่มีวันเลือนหายไป

    อยากจะเปลี่ยนแปลง

     

    หลังจากที่จบท่อนที่คัตสึกิร้องต่อมาก็เป็นอิซึคุร้องต่อสลับกันไปจนจบเพลง

    พอจบเพลงทุกในชมรมถึงกับลุกขึ้นมาเพื่อปรบมือให้ทั้งสองคนเลยทีเดียว

     

    “พอจะรู้อยู่หรอกว่าคัตสึกิร้องเพลงเพราะ แต่ไม่คิดว่ามิโดริยะคุงจะร้องเพราะเหมือนกันนะเนี่ย” ฮารุฮิเอ่ยชม

    “แหะๆ ขอบคุณครับ” มิโดริยะขานรับและเกาหลังคอด้วยความเขินเพราะทำตัวไม่ถูกที่โดนชม

    “คัตจังกับอิคจังเก่งมาเลยล่ะ!” มิตสึคุนิชมโดยมีทาคาชิพยักหน้าเสริม

    “ของมันแน่อยู่แล้วเว้ย!” คัตสึกิตอบรับคำชมด้วยความมั่นใจ

    “เอาล่ะ พวกแกปล่อยพวกชั้นพักซักที” คัตสึกิอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมาเพราะมีแค่ตนกับอิซึีคุที่เป็นแผลแล้วยังจะให้มาเล่นดนตรีให้ฟังอีก

    “งั้นไปนั่งเล่นกันที่ชานบ้านมั้ยครับ เดี๋ยวผมให้คนเอาของว่างไปให้ด้วย” อิซึคุเสนอ

    “เออ ตามใจ” คัตสึกิตอบ

     

    ทุกคนพากันไปนั่งที่ชานบ้าน พากันนั่งคุยกัน ส่วนคัตสึกิน่ะชิงลงไปนอนที่ตักของอิซึคุ ปล่อยให้อิซึคุคุยกับคนในชมรมไป ส่วนตนหลับ

    เวลาผ่านไปจนเย็นคัตสึกิและอิซึคุ รวมไปถึงมิตสึกิมาส่งทุกในชมรมที่หน้าบ้าน

     

    “เฮ้อ กลับหมดซักที” คัตสึกิบ่นโดยมีอิซึคุหัวเราะแหเงอยู่ข้างๆ

     

     

     

     

     

    TBC;

    คัตสึกิบีไลค์ ชั้นเหนื่อยมากนะ ตอนแรกตอนนี้จะได้อัพพรุ่งนี้ค่ะ เอ่อหมายถึงอาจจะตอนเย็นของวันนี้ แต่ว่ามันมีไฟแต่งค่ะเลยดันทุรังแต่งจนมาอัพตอนตีสองครึ่งอย่างที่ทุกคนเห็น ขอบคุณทุกคนที่ยังรออยู่นะคะ ไม่พูดอะไรแล้วไรท์ขอตัวไปนอนก่อนไม่ไหวละ

     

    สามารถเข้าไปคุยกับไรท์เตอร์ได้ที่ทวิตเตอร์

    @justinb00bie

     

    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะค้าบ♡

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×