ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Alice's good brother พี่ชายที่แสนดีของอลิซ(Aill fic รับสมัครตัวละคร)

    ลำดับตอนที่ #4 : ความลับที่หลุดลอด

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ย. 64


    ในวันธรรมดาแสนสดใส เกลนดอนก็ยังคงทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟกาแฟตามเคย

     

    "เกลนดอน! ช่วยเสิร์ฟกาแฟที่โต๊ะสองทีสิ"

     

    “ครับ!!”

     

    แล้วเกลนดอนก็รับกาแฟไปเสิร์ฟทันที

     

    "ขอบคุณมากค่า^_^"

     

    ลูกค้ากล่าวตอบขอบคุณพร้อมกับรับกาแฟ

     

    “ครับ...หืม?”

     

    ตอนนั้นเอง เกลนดอนก็หันไปเป็นบางอย่างตรงกลางสี่แยกของถนน(ไม่รู้เรียกว่าไร)

     

    ตรงทางสี่แยกกลางเมืองกรุงโตเกียว จู่ๆกผ้มีประตูบานขนาดยักษ์ปรากฏอยู่ที่นั่น ผู้คนรอบๆต่างสงสัยและสับสนกันต่างๆนาๆว่าประตูบานนี้มันมาจากไหน ทำไมมันถึงมาตั้งที่ใจกลางเมืองแบบนี้

     

    “นั้นมันอะไรนะ? อีเว้นของงานอะไรงั้นหรอ?”

     

    "เอ...แปลกจัง วันนี้มีงานขายโดจินชินะ แต่ปีที่ผ่านมาจำไม่เห็นได้ว่ามีแบบนี้นะ"

     

    ผู้จัดการงงเลย

     

    ตึง! แอ็ดดดดดด!

     

    ในตอนนั้นเอง ประตูนั้นก็ค่อยๆเปิดออก ภายใต้หลังประตูนั้นกลับมีบางอย่างโผล่ออกมาจากประตูบานนั้น

     

    “อืม งานคอสเพลหรอครับนั้นนะ?”

     

    "เอ๋? ไม่รู้สิ แต่เขาแต่งเนียนมากเลยนะ ตั้งแต่หัวยันจรดปลายเท้า"

     

    “นั้นสินะครั----”

     

    ไม่ทันเกลนดอนพูดจบ ในตอนนั้นเองบางอย่างในนั้นก็พุ่งโจมตีประชาชนที่อยู่ในระแวกนั้น

     

    ...มันคือกองทัพของปีศาจ(ที่มีกองทัพมนุษย์ปนอยู่ด้วย)ที่ไล่เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์?!!

     

    “ผู้จัดการ! นี้ไม่ใช่งานคอสเพลแล้วละครับ!!”

     

    "โอ้ย! แย่แล้ว! ลูกค้าทุกคนรีบวิ่งหนีออกไปทางหลังร้านเร็วเข้าครับ!"

     

    ผู้จัดการรีบอพยพคนในร้านออกไปทางประตูหลังร้านทันทีแต่เกลนดอนกลับวิ่งไปขึ้นจักรยาน

     

    "เกลนดอน! เธอไปไหนน่ะ?!"

     

    ผู้จัดการร้านหันไปถามเมื่อเห็นเกลนดอนขี่จักรยาน

     

    “ผมจะไปหาน้องสาวครับ!!”

     

    พูดจบเกลนดอนก็ปั้นจักรยานออกไปทันที

     

    ณ หน้าโรงเรียน

     

    เนื่องด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปรากฏที่ใจกลางเมือง ทำให้โรงเรียนที่อยู่ห่างจากใจกลางเมืองไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนัก

     

    “อลิส!”

     

    "อะ? พี่ชาย??"

     

    อลิสหันไปมองเกลนดอนด้วยความสงสัย

     

    “พระเจ้าช่วย ยังดีที่น้องยังปลอดภัย”

     

    "พี่ชายดูรีบร้อนนะคะ เกิดอะไรขึ้นหรอ? แล้วเครื่องบินที่บินผ่านหน้าโรงเรียนหนูตอนหนูเรียนด้วย"

     

    “ตอนนี้ในเมืองเกิดเรื่องอันตรายมากพี่เลยรีบมาที่นี่”

     

    "เอ๋??"

     

    น้องอลิสดูสับสนอยู่ว่าในเมืองในเกิดอะไรขึ้น

     

    “เอาเป็นว่าตอนนี้อย่าเพิ่งเข้าไปในเมืองจะดีกว่านะ”

     

    "อ-อื้ม!"

     

    อลิสพยักหน้าตอบ

     

    “แต่ก็ดีแล้วละที่น้องไม่เป็นอะไรละนะ”

     

    "อื้ม! แล้วพี่ชายมารับหนูก่อนเวลาเลืกเรียนหรอคะ? หนูเห็นพี่ชายปั่นจักรยานมาก่อนเวลาน่ะค่ะ0^0"

     

    “ฮะๆ พอดีพี่รีบไปหน่อยนะ พอเกิดเรื่องพี่ก็ปั่นมาที่นี่เลย”

     

    "โธ่! พี่ชายอะ ทำหนูกับเพื่อนๆหนูตกใจหมดเลย แต่แบบนี้พี่ชายก็กลับไปทำงานไม่ได้น่ะสิคะ"

     

    “ฮะๆ ตามนั้นแหละ”

     

    "เอาไงดีอะคะแบบนี้?"

     

    “ก็คงต้องรอะนะ พี่ว่าเดียวอีกสักพักโรงเรียนคงจะปล่อยกลับก่อนเวลาละนะ เพราะเกิดเรื่องแบบนี้แล้วยังให้เรียนต่อมันดูแปลกๆไปละนะ”

     

    "ก็จริงนะคะ งั้นหนูไปคุยเล่นกับเพื่อนๆก่อนนะคะ"

     

    “อืม เดียวพี่จะรออยู่ตรงนี้นะ”

     

    "ค่า~"

     

    แล้วอลิสก็เดินกลับเข้าโรงเรียน โดยที่เกลนดอนก็ยังคงรอหน้าโรงเรียน...แต่ว่า…

     

    “ย๊ากกกกกกกก!!”

     

    ไม่รู้ทำไมถึงมีทหารต่างโลกที่ขี่มาพุ่งมาทางนี้ แถมง้างดาบฟันมาแต่ไกล เหมือนว่าจะแอบตามเกลนดอนมาคนเดียวละนะ

     

    “!!”

     

    เปรี๊ยงงงงงงงงงงงงงงงง!!

     

    แต่เพียงพริบตาเดียวที่เกลนดอนยกมือรับดาบ ตัวของทหาร ร่างกายก็แหลกกระจายไปพร้อมมาหายไปในอากาศ ไม่เหลือซาก ไม่เหลือสิ่งของ และไม่เหลือแม้กระทั่งเลือดเนื้อ

     

    “เวรละ...ตกใจจนเผลอปล่อยพลังออกมาส่วนหนึ่งซะได้….”

     

    เกลนดอนกล่าวอย่างตกใจที่จะรีบตั้งสติ แล้วหันซ้ายขวาว่ามีคนไหม โชคดีที่เหมือนจะไม่มีใครเห็นละนะ

     

    หลังจากนั้นผ่านไป ข่าวการปรากฏตัวของประตูยักษ์ปริศนาและกองกำลังจากต่างโลก ทำให้กลายเป็นข่าวหน้าหนึ่ง และทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศว่าให้พื้นที่ประตูปริศนานั้นเป็นส่วนหนึ่งของเขตในประเทศญี่ปุ่น และอีกสามเดือนทางรัฐบาลจะส่งกองกำลังทหารเข้าไปในประตูนั้นเพื่อทำสงครามกับกองทัพต่างโลกและไปสำรวจที่นั่นด้วย

     

    "โห….พี่ชายๆ จะมีวันที่หนูจะได้เจอกับเอลฟ์ไหมคะ?"

     

    อลิสหันไปถามเกลนดอนหลังจากดูทีวีที่บ้านไป

     

    "ฮะๆ...พี่ก็ไม่รู้สิ...แต่ที่แน่ๆอาจเจอปีศาจนะ พี่เห็นพวกมันออกมาจากประตูด้วย"

     

    "น-น่ากลัว….หนูกลัวปีศาจอะ"

     

    "ไม่ต้องกลัวหรอกนะ เดี๋ยวพี่ปกป้องน้องเองนะ"

     

    เกลนดอนกล่าวขณะลูบหัวอลิส

     

    "อื้ม! หนูจะอยู่ข้างๆพี่ชายเลย จะได้อยู่อย่างปลอดภัย>v<♡"

     

    “จ้าๆ พี่ก็จะอยู่กับน้องตลอดไปนะ”

     

    "อื้ม!"

     

    กริ๊งงง!

     

    แต่ว่าในตอนนั้นเอง เสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้น มีใครซักคนมาอย่างงั้นหรอ?

     

    “เดียวพี่ไปดูก่อนนะ”

     

    "ค่า~"

     

    แล้วเกลนดอนก็เดินไปเปิดประตู

     

    เมื่อเปิดประตู ก็พบกับชายสูงโปร่งใบหน้าหล่อเหล่า มีกล้ามเนื้อเล็กน้อยผิวกายสีขาวผุดผ่อง เรือนผมสีขาวตัดสั้น แต่มองไม่เห็นดวงตาของเขา ก็เขาหลับตาอยู่อะนะ เขาสวมแว่นสีดำและชุดสูทราคาแพง


     

    "สวัสดีครับคุ-"

     

    “โทษทีครับ ผมไม่มีเงินซื้อประกันครับ”

     

    ปึก

     

    แล้วเกลนดอนก็ปิดประตูไปในทันใด

     

    "พี่ชาย เมื่อกี้ใครมาหรอคะ?"

     

    อลิสเดินมาหาเกลนดอนเพื่อถามด้วยความสงสัย

     

    “คนขายประกันนะ”

     

    "อ่อ...อย่างงั้นเองหรอคะ?0^0 งั้นหนูไปทำการบ้านก่อนนะคะ"

     

    อลิสกล่าวอย่างว่าง่าย แล้วเดินขึ้นบันไดเพื่อเข้าห้องไปทำการบ้านตามปกติ

     

    กริ๊งงงงงงง


    เสียงกริ้งดังอีกครั้ง เกลนดอนแล้วเปิดประตูอีกรอบ

     

    "สวัสดีครับ-"

     

    ไม่รอพูดจบเกลนดอนก็จะปิดประตูอีกครั้ง

     

    หมับ!

     

    แต่รอบนี้ชายหนุ่มคนนั้นกลับจับประตูรั้งไว้ทัน พร้อมกับรอยยิ้มที่แสดงความมิตร แต่ในอีกความรู้สึกหนึ่ง มันมีเจตนาบางอย่างซ่อนอยู่

     

    “โทษทีนะ พอดียังไม่อยากทำประกันนะ”

     

    "ผมไม่ได้พาคุณมาทำประกันหรอกนะครับ ผมแค่อยากคุยกับคุณซักเล็กน้อยก็เท่านั้นแหละครับ"

     

    “โทษทีนะ จะเครื่องกรองน้ำ หนังสือพิมพ์ หรือมาขายตรงฉันก็ไม่ซื้อหรอกนะ”

     

    "ผมไม่ได้มาขายตรงหรอกนะครับคุณเกลนดอน"

     

    คำพูดสั้นๆแต่ทำเกลนดอนตาเบิกกว้าง

     

    “น...นายรู้ได้ไงนะ? เซลล์แมนสมัยนี้ชอบหาข้อมูลคนอื่นไปทั่วแล้วหรอ?”

     

    "ผมไม่ใช่เซลล์แมนครับ ผมแค่มีเส้นสายเรื่องการสืบช้อมูลก็เท่านั้นแหละครับ และผมก็รู้ด้วยว่าคุณน่ะมีบางอย่างที่คุณพยายามปกปิดมาตลอดด้วยน่ะครับ"

     

    “นี้นายรู้!!...ไม่สิ….อย่าบอกนะว่า…”

     

    "อืม...ไม่รู้สิ แล้วแต่คุณจะคิดแล้วกันนะครับ"

     

    “ให้ตายสิ นึกว่าไม่มีคนแล้วนะ ดูท่าจะกลับมาชินกับความสงบสุขมากเกินไปหน่อย”

     

    "พอจะมีเวลาว่างมาคุยกับผมซักเล็กน้อยไหมล่ะครับ?"

     

    “...เห้อ….คงไม่ใช่ที่นี่หรอก น้องสาวฉันอยู่นี้”

     

    "งั้นไปคุยที่ไหนดีล่ะครับ?"

     

    “ที่อาคารร้างที่อยู่ใกล้กับที่นี่…..แล้วก็ให้สไปเปอร์กับคนอื่นๆของนายออกไปด้วย”

     

    "....นึกว่ามีแต่ผมที่รู้นะเนี่ย น่าสนใจจริงๆ งั้นก็ตกลงตามนี้ เจอกันที่นั่นตอนเวลาสองทุ่ม ว่าไงล่ะครับ?"

     

    “เอาสิ แต่หวังว่าจะมีแค่นายที่มานะ ฉันไม่ต้องการให้คนธรรมดา รู้เรื่องของฉันหรอก”

     

    "ผมก็หวังไว้เหมือนกัน แต่จากข่าวหน้าหนึ่งแบบนี้แล้วผมก็เริ่มหวั่นๆแล้วสิครับ เอาเถอะ ผมจะรอนะครับ"

     

    ชายหนุ่มคนนั้นยิ้มให้แล้วยื่นนามบัตรให้เกลนดอน ก่อนจะกล่าวลาแล้วยอมเดินจากไปแบบนั้น แล้วเกลนดอนก็หยิบนามบัตรขึ้นมา

     

    “อาวเป็นประธานหรอกหรอ? นึกว่าเซลล์แมน…..”

     

    จบ ตอนที่ 1

     

    ซีโร่ : จบแล้วกับตอนที่หนึ่ง อาจจะสั้นไปหน่อย พอดีสร้างเนื้อเรื่องเองโดยไม่ได้เอาเนื่อเรื่องการ์ตูนหรือเกมมาดัดแปลงอะนะ 

     

    แมวดำ: ถ้าอั้วคุมตัวละคร OC ของคุณผู้สร้างคนไหนไม่ถูกใจยังไง ก็คอมเม้นมาหน่อยละกัน นี่เป็นครั้งแรกเลยที่อั้วมาคุมตัวละคร OC ของคนอื่นน่ะนะเมี้ยว0^0;

     

    ซีโร่ : และแน่นอนว่ามีคนสงสัยพลังของเกลนดอน ที่เราจะเปิดเผยไปทีละส่วนเมื่อเกลนดอนใช้! มาเริ่มอันแรกเลย

     

    [อัลตร้าเมก้าเคาเตอร์]

    [สะท้อนดาเมจกายภาพทุกรูปแบบ ทุกครั้งที่ใช้งานจะสุ่มระดับความรุนแรงในการสะท้อนได้ตั้งแต่ 1 เท่า ถึง 1 ล้านเท่า]

     

    แมวดำ: แค่นี้ก็โหดแล้วป่าววะซี=^=;?

     

    ซีโร่ : อ่านดีๆ มันเขียนว่า สะท้อนกายภาพ หรือก็คือ ของอย่างเวทหรืออะไรที่ไม่ใช่โจมตีกายภาพจะสะท้อยไม่ได้ แถมอีกนิดว่า เกลนดอน เคยได้เป็นตัวตนที่พระเจ้ายังหวั่นเกรง แต่สุดท้ายเขาก็ละทิ้งฐานะนั้น และกลับมาใช้ชีวิตในฐานะพี่ชายของอลิส สำหรับเจ้าตัว ใครจะมาหาเรื่องหรือต่อว่าเจ้าตัวจะไม่ว่า แต่ถ้าทำแบบนี้กับอลิส...เกลนดอนจะตามไปเชือดยันนรก 

     

    แมวดำ: แต่การที่ลื้อบอกว่าพลังของเกลนดอนจะเปิดเผยทีละส่วนนี่….แสดงว่ามีอีกอะดิ?!

     

    ซีโร่ : ช่าย…..เยอะเลยละ ก็มีหลายธาตุนะ แต่มีธาตุหลักๆแค่สองธาตุ เดากันเอาเองละ แล้วพูดถึงตัวแรกที่โผล่ ท่านประธานเรานั้นเอง!!

     

    แมวดำ: แดเนียล ดาลาเวน่านี่เอง!

    ซีโร่ : เปิดมาไม่ถึงวิก็โดนแกงยับไปคนแรก 55555+

     

    แมวดำ: ดีที่เขาไม่สั่งสไนเปอร์ยิงเพราะเกลนดอนรู้ตัวนะ ไม่งั้นตลาดสดแน่ๆ

     

    ซีโร่ : ไม่หรอก นัดเดียบจบ….สไนเปอร์ กระสุนปืนของคนธรรมดาไม่ใส่เวทก็นับว่าเป็นการโจมตีกายภาพนะ

     

    แมวดำ: น่ากลัวสึด●□●;!!

     

    ซีโร่ : เอาน่าๆ ถึงไปหาเรื่องก็ไม่เป็นอะไรหรอก ยกเว้นไปเล่นงานอลิส อันนี้ คงได้จัดงานศพที่ไม่มีศพ”

     

    แมวดำ: เอาเถอะ ถือว่าจบบทนี้ไปบทหน้าก็ต่อยกันเท่านั้นเอง=^=; 

     

    ซีโร่ : เอ่อ แน่ใจนะว่าจะมีต่อย?

     

    แมวดำ: ตอบรับคำขอผู้สร้างหน่อย แดเนียลต้องการจะไฝว้นิ?

     

    ซีโร่ :ต้องการไฝว์ หรือต้องการชำแหละ แล้วก็อย่างที่เห็นเรื่องแรกที่เอามาคือGATE นั้นเอง! เพราะอะไรงั้นหรอ? คุณก็รู้ว่าต้องรอไปตั้งสามเดือนนี้? เพราะงั้นเลยเปิดประตูเอาไว้รอก่อนเฉยๆ กว่าจะได้เข้าไปในเหตุการ์ณของเรื่องGATE คงอีกนาน

     

    แมวดำ: รู้สึกว่าคุยยาวแล้วนะ พอๆ

     

    ซีโร่ :โอเค งั้นกู้ดบาย จะไปกินแมวย่า------

     

    แมวดำ: ฝันไปเถอะไอกระดูกดำ!!!//โดดถีบซีโร่

     

    ซีโร่ :อะเฮือกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก//ม่องเท่ง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×