ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กล่าวคำอำลา (โมบายล์BNK48 X แจนBNK48)

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 คำกล่าวอำลาของฉัน...(โมบายล์) END

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.พ. 61



    หนูไม่รู้ว่ามันนานแค่ไหนแล้วที่พี่แจนยังไม่ได้กลับมาจากญี่ปุ่น...ความจริงก็คือหนูคิดถึงพี่แจนมาก วิธีแก้ชั้นดีเพื่อไม่ให้คิดถึงไปมากกว่านี้ก็คือทำงานจนไม่มีเวลาให้คิดถึงเท่านั้นแหละ แต่ไม่ว่ายังไงคนเราก็ต้องมีวันพักผ่อนอย่างเช่นวันนี้ มันเลยทำให้หนูเอาแต่นั่งคิดถึงพี่แจนทั้งวันจนค่ำ

    พี่เป้ เมื่อไหร่พี่แจนจะกลับอ่ะ?” ฉันถามพี่ปูเป้ที่กำลังนั่งเขี่ยโทรศัพท์เล่นอยู่

    ก็บอกไปทั้งวันแล้วไงว่าพี่แจนกลับมะรืนนี้! ไม่ได้ฟังรึไงเล่า!” ความเกรี้ยวกราดที่สะสมมาทั้งวันระเบิดออกซะแล้ว

    พี่เป้จะเสียงดังทำไมเนี่ย เดี๋ยวพี่น้ำหนึ่งที่อยู่ข้างห้องก็ด่าเอาหรอก ชู่!” ฉันทำท่าจุ๊ปาก

    ฮึ่ม!... พี่ปูเป้ไม่ได้พูดไรต่อแค่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และนวดหัวตัวเอง

    ในระหว่างที่ฉันกำลังเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ ก็มีข้อความของพี่แจนเด้งขึ้นมา

    หนูโมบิล!

    พี่แจน! เวลาพักเหรอคะ?

    นี่ไม่ใช่แค่เวลาพักนะเพราะว่า...พี่ถ่ายรายการเสร็จแล้ว!

    จริงดิ!!!? แล้วเป็นไงบ้างคะ? สนุกไหม?

    เปลี่ยนจากคำว่าสนุกเป็นเสียน้ำตาไปกี่ครั้งจะดีกว่านะหนูโม ฮะ ฮะ T-T

                    โห่ว...แสดงว่าหนักมากเลยสิคะแบบนี้...

                    สุดๆ เลยแหละ บางวันเหนื่อยจนแทบจะลุกไม่ขึ้นเลยจริงๆ

                    โห่ว...มันเป็นไงอ่ะคะเล่าให้หนูฟังหน่อย

                    ไม่เอาๆ เดี๋ยวพี่ไปเล่าต่อหน้าดีกว่า =3=

                    โห่ววว แต่ก็ได้ค่ะเดี๋ยวหนูรอ *-* ว่าแต่พี่แจนกลับวันไหนเหรอคะ

                    มะรืนนี้ๆ แล้วจะมารับพี่ไหมเนี่ย

                    มะรืนนี้หนูติดงานอ่ะพี่...เสียดายมาก

                    เห้ยไม่เป็นไร อย่าคิดมากๆ พี่เข้าใจ พอพี่กลับมาแล้วไปช็อปกัน!

                    ได้ค่ะ! จะว่าไปหนูยังไม่เคยไปสำเพ็งกับพี่แจนเลยง่ะ

                    นี่ไงพอพี่กลับไปแล้วหาเวลาไปกัน

                    โอเคเลยค่ะ =w=

                    ตอนนี้พี่ง่วงแล้วอ่ะ ฝันดีน้า~

                    ฝันดีค่ะ

    พอได้คุยกับพี่แจนแล้วฉันก็เผลอยิ้มออกมา รู้สึกสบายใจที่ในที่สุดก็ได้คุยแบบเต็มอิ่มถึงจะเป็นแชทก็เถอะ

                    โห่ว ยิ้มจนหน้าบานเลยน้า พี่ปูเป้ที่ดูหนูอยู่ตลอดก็ทักขึ้น

                    หนูก็ยิ้มเหมือนปกติไม่ใช่เรอะ พี่อย่าคิดมากดิ ฉันทำหน้าบึ้งใส่พี่ปูเป้

                    อื้ม~ แล้วพี่แจนกลับวันไหนนะ?”

                    มะรืนไง! แค่นี้จำไม่ได้เหรอ? ตายๆ ความจงความจำไปหมดแล้วมั้งน่ะ ฉันเอื้อมเอามือไปจูนสมองพี่ปูเป้

                    เล่นด้วยทีแล้วเล่นใหญ่เลยน้า!” พี่ปูเป้ขยี้ผมหนูจนผมยุ่งไปหมด

                    พี่เป้ทำไรเนี่ย! ผมหนูเสียทรงหมดแล้วนะ!” ฉันเอามือลูบผมให้เป็นทรงผมเดิม

                    จะนอนล่ะยังมาห่วงเรื่องผมอีก เรื่องมากไปอี้ก!” พี่ปูเป้ลุกขึ้นจากเตียงตัวเองไปปิดไฟห้อง

                    ปิดไฟทำไมอ่ะพี่เป้  

    นอนไง! ถามแปลกๆพี่ปูเป้หันหลังให้หนูทันทีที่พูดจบ

    หลังจากนั้นเวลาก็ผ่านไปย่างรวดเร็ว  พี่แจนกับพี่ปัญกลับมาจากการไปถ่ายทำรายการเรียบร้อยแล้ว ตอนที่พี่แจนกลับมา หนูกับพี่แจนก็พยายามหาช่วงว่างๆ ไปเที่ยวกัน แต่ก็ไม่มีช่วงว่างๆ ที่ว่าเลย...เพราะว่ามีน้อยมากที่พวกเราจะได้เจอกัน ด้วยตารางงานที่แทบจะไม่เคยตรงกันเลยทำให้หนูกับพี่แจนไม่ได้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราวเลยสักครั้ง

    จนกระทั้งวันวันหนึ่งที่เราได้เจอหน้าและคุยกันแบบเต็มอิ่มก็มาถึงแต่ว่า...มันก็มีเรื่องบางอย่างที่หนูไม่อยากให้มันมาถึงรวมอยู่ด้วย

    พี่แจน!” หนูตะโกนเรียกพี่แจนที่กำลังมองหาหนูอยู่

    พี่แจนยิ้มและโบกมือทักทายแล้วค่อยเดินมานั่งที่ม้านั่งตัวเดียวกันกับหนู

    ตอนนี้หนูกับพี่แจน อยู่ที่สวนสาธารณแห่งหนึ่ง เป็นช่วงบ่ายๆ ที่พระอาทิตย์เกือบลับขอบฟ้าไปแล้ว มีคนยังวิ่งและออกกำลังกายอยู่บ้างแต่ก็น้อยกว่าตอนเช้ามากๆ

    โทษทีที่พี่มาสายนะ คือว่ากว่าจะขอเคลียร์เวลามาได้มันยากเลย แหะๆพี่แจนลูบผมตัวเองและพูดไปด้วย

    ไม่เป็นไรค่ะ ช่วงนี้พี่งานเยอะหนูเข้าใจ...

    ขอบคุณที่เข้าใจพี่นะเจ้าโมบิลขณะที่พูดพี่แจนก็ลูบผมหนูไปด้วย

    ค่ะ...ว่าแต่ทำไมถึงต้องนัดหนูมานี่ล่ะคะ? มีเรื่องอะไรสำคัญเหรอคะ?” หนูหันไปจ้องพี่แจนด้วยความสงสัย

    คือว่า...เอ่อเรื่องนั้นก็...

    หนูเอื้อมมือไปจับมือพี่แจน พี่เป็นไรเนี่ย อย่าอ้ำอึ้งดิ พี่คุยกับหนูได้ทุกเรื่องนะ

    พี่จะ...ประกาศจบการศึกษาเร็วๆ นี้... พี่แจนเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายกุมมือและดึงหนูเข้าไปโอบกอดไว้แทน

    ความรู้สึกหลายอย่างมันถาโถมใส่หนูอย่างรวดเร็วและทุกความรู้สึกที่เข้ามามันไม่มีความรู้สึกดีเลยสักอย่าง...หัวของหนูมันขาวโพลนยังกับว่ามันจะไม่มีวันคิดได้อีก ตอนนี้หนูคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะพูดอะไร ไม่กี่วิต่อมามันก็เหมือนกับว่ามันมีความรู้สึกมากมายเกินไปจนต้องถ่ายทอดผ่านสิ่งที่เรียกว่า น้ำตา

                    ฮา...ท-ทำไม ร-เหรอคะ?” ไม่อยากเชื่อเลยว่าหนูต้องใช้แรงมากมายขนาดนี้ถึงจะพูดออกมาเป็นประโยคได้

                    พี่แจนเล่าเหตุผลให้หนูฟังว่าทำไมเธอถึงต้องแกรด มันเป็นเหตุผลที่หนูไม่สามารถเถียงอะไรได้ เลยทำได้แค่กุมมือพี่แจนแน่นขึ้นกว่าเดิมและพยายามคุมสติไม่ให้ร้องไห้หนักไปกว่านี้

                    โมบายล์...พี่ขอโทษ

                    พี่ขอโทษอะไรอ่ะ? พ-พี่ไม่ต้องขอโทษอะไรเลยจริงๆ นะ มันเป็นเรื่องของพี่เลยไม่ว่าพี่จะแกรดหรือทำอะไรมันก็เรื่องของพี่ไม่เกี่ยวกับหนูหรอก!”

                    โมบายล์อย่าทำกับพี่แบ-”

                    หนูลุกขึ้นและรีบเดินออกมาก่อนที่พี่แจนจะพูดจบ หนูไม่ยอมหันไปมองพี่แจนไม่ว่าเธอจะตะโกนเรียกหนูยังไงหนูก็จะไม่หันหลังไปเด็ดขาด

                    โมบายล์!” พี่แจนคว้ามือหนูไว้ก่อนที่หนูจะได้เดินไปต่อ

                    อะไรพี่?” หนูพยายามหลบตาไม่มองหน้าพี่แจน

                    แกจะไม่ฟังพี่พูดให้จบจริงๆ เหรอ?”

                    หนูก็ฟังแล้วไง! พี่ก็มีเหตุผลที่หนูเถียงไม่ได้อยู่แล้ว แล้วพี่จะเอาอะไรอีกอ่ะ?”

                    แต่พี่ยังพูดไม่จบเลยนะ! พี่ยังมีเรื่องที่อยากจะบอ-

                    ไม่ฟังแล้ว! จะแกรดก็แกรดไปดิ!”

                    มันเหมือนกับว่าทุกอย่างที่หนูสร้างมากับพี่แจนมันพังทลายลงอย่างรวดเร็ว ทั้งมิตรภาพ ความสุขและความรักที่เรามีให้กัน ทุกอย่างมันพังทลายลงเพราะปากที่พูดไม่คิดของหนู

    น้ำตาของพี่แจนไหลไม่หยุดหลังจากที่ได้ยินประโยคที่หนูพูดออกไป พี่แจนปล่อยมือของหนูและเดินผ่านหนูออกสวนสาธารณไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงหยดน้ำตาที่ไหลเป็นรอยตามทาง...

                    หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านไปก็ย่างเข้าสู่ปี 2018 แชนแนลหลักของBNK48 ปล่อยคลิปประกาศจบการศึกษาของเจตสุภา เครือแตงหรือพี่แจน ในวันที่ 29 มกราคม 2018 จาการประกาศที่ปุบปับแบบนี้ทำเอาแฟนคลับหลายคนรับมือกับความเศร้าที่ถาโถมเข้ามาแทบไม่ไหว แต่จะให้ทำยังไงได้ก็มีแต่ต้องยอมรับมันก็เท่านั้น...

                    ถ้านับเวลาจากคลิปที่ประกาศออกไปตอนนี้ก็ผ่านมาหลายสัปดาห์แล้ว ตอนนี้เป็นตอนกลางคืนและหนูก็กำลังอยู่ในหอเหมือนเดิม ต่างกันก็แค่หนูเอาแต่คิดมาตลอดว่าถ้าวันนั้นอยู่ฟังพี่แจนล่ะก็บางทีมันอาจจะเป็นการจากลาที่ดีกว่านี้...             

    ถามจริงๆ นะไม่เหนื่อยเหรอ?” พี่ปูเป้ที่กำลังเล่นโทรศัพท์จู่ๆ ก็หันมาจ้องหน้าหนู

                    งานเยอะก็ต้องเหนื่อยอยู่แล้วดิพี่เป้

                    ไม่ใช่เรื่องนั้น...พี่หมายถึงที่แกเอาแต่พยายามทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่จริงๆ มันมีอ่ะพี่ปูเป้พูดไปด้วยและเล่นโทรศัพท์ไปด้วย

                    พี่พูดเรื่องอะไรเนี่ยพี่เป้?”

                    อย่ามาแกล้งทำเป็นไม่รู้ได้ป้ะ? ใครๆ เขาก็รู้ว่าแกกับพี่แจนทะเลาะกัน

                    หนูไม่ได้ทะเลาะกับพี่แจนต้องให้พูดอีกกี่รอบอ่ะ!?”       

                    แล้วที่ละเมอแทบทุกวันว่า พี่แจนคะหนูขอโทษนี่คืออะไร?”

                    พี่อย่าพูดมั่วๆ ดิหนูไม่เค-”

                    พี่ปูเป้เปิดเสียงที่อัดไว้ในโทรศัพท์ที่หนูละเมอพูดขอโทษพี่แจนให้หนูฟัง

                    ... หนูเถียงไม่ออกถ้ามีหลักฐานแน่นหนาขนาดนี้ล่ะก็นะ

                    ไม่เถียงแล้วอ่ะดิ

                    หนูยอมรับว่าหนูทะเลาะกับพี่แจนก่อนที่พี่แจนจะแกรด พี่ต้องการแค่นี้ใช่ไหม?”

                    ทำไมไม่ไปเคลียร์กับพี่แจนอ่ะ?”

                    หนูพูดทำร้ายจิตใจพี่แจนขนาดนั้นแล้ว พี่คิดว่าพี่แจนยังอยากจะคุยกับหนูอีกเหรอ?”

                    อย่าคิดเอาเองดิวะว่าอีกฝ่ายเขารู้สึกอะไร แกไม่ใช่เขานะเว้ยถึงจะไปคิดแทนเขาว่าเขาควรรู้สึกยังไงพี่ปูเป้ขึ้นเสียงและมีสีหน้าที่เกรี้ยวกราดขึ้น

                    แต่ถึงยังงั้นจะให้หนูไปพูดอะไรล่ะ?”

                    พูดตามความรู้สึกตัวเองดิ จะคิดไรมากอ่ะอยากพูดไรก็พูด รู้สึกยังไงก็พูด

                    ...

                    โมบายล์ก็รู้ใช่ไหมว่าถ้าพี่แจนประกาศแกรดอย่างเป็นทางการไปแล้ว พี่แจนกับแกจะแทบไม่ได้เจอกันยิ่งกว่าตอนอยู่BNKอีกนะ แกจะไม่เคลียร์เรื่องที่ทะเลาะกันให้เสร็จจริงๆ น่ะเหรอ? อยากจะปล่อยผ่านไปแบบนี้จริงๆ เหรอ?”

                     หนูไม่อยาก หนูพูดและส่ายหน้าไปโดยอัตโนมัติ

                    งั้นจะรออะไรล่ะไปดิ

                    แต่ว่าช่วงนี้พี่แจนทำงานและแทบไม่ว่างเลยไม่ใ-”

                    พี่ปูเป้โชว์แชทที่คุยกับพี่แจนให้หนูดู ข้างในนั้นมีเนื้อความประมาณว่าไม่กี่ชั่วโมงก่อนพี่แจนพึ่งกลับมาพักที่บ้าน

                    หนูมองหน้าพี่ปูเป้และทึ้งในตัวพี่ปูเป้เพราะมันเหมือนกับว่าพี่ปูเป้เตรียมที่จะพูดเรื่องนี้กับหนูมาสักพักแล้วแต่แค่รอวันที่พี่แจนว่างแค่นั้นเอง

                    มองหน้าทำไมอ่ะ?  ไปดิ!” พี่ปูเป้สะบัดมือไล่หนูให้รีบไป

                    เดี๋ยวหนูมานะ!”

    หนูเตรียมเงินไปจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นค่าแท็กซี่และรีบคว้าเอาเสื้อกันหนาวมาคุมชุดนอนที่ตัวเองใส่และรีบวิ่งลงไปข้างล่างหอ หนูรีบโบกหารถแท็กซี่แต่ไปได้ไม่ถึงไหนแท็กซี่ก็บอกว่าหมดกะของตัวเองแล้ว เขาก็เลยปล่อยหนูลงข้างทางแล้วบอกว่าตรงไปอีก 500เมตรก็จะถึงที่ที่หนูอยากจะไป

    เอาจริงดิ แท็กซี่แบบนี้ก็มีเหรอเนี่ย อีกนิดเดียวก็จะถึงแล้วแท้ๆ!” หนูบ่นตอนที่รถแท็กซี่ไปแล้ว

                    น-หนาวแฮะ...วิ่งไปดีกว่าจะได้ถึงเร็วๆ

    พอคิดได้ดังนั้นหนูก็เลยรีบวิ่งไปทันที หนูวิ่งมาเรื่อยๆ ไม่หยุดพักเลยจนกระทั่งถึงหน้าบ้านพี่แจน....

    หนูยืนอยู่หน้าบ้านพี่แจนและก็ไม่ยอมกดกริ่งหน้าบ้านสักที

                    ก็แค่กดลงไปๆๆๆ หนึ่ง สอง สาม!” พอนับถึงสามหนูก็กดกริ่งแต่ว่าไม่มีเคยมาเปิดให้เลย

                    พี่แจนยังไม่กลับเหรอ... หนูคอตกทันทีและเตรียมจะเดินกลับแล้วถ้าไม่ได้ยินเสียงอะไรเข้าซะก่อน

                    เสียงริงโทนโทรศัพท์ที่พี่แจนชอบตั้งเอาไว้มันดังขึ้นมาแปปนึงจากอีกฟากของประตู เมื่อได้ยินแบบนั้นก็แสดงว่าพี่แจนต้องอยู่บ้านแน่ๆ

                    พี่แจน! พี่อยู่ข้างในใช่ไหม พี่!?” ฉันใช้มือทุบประตูรัวๆ

                    ไม่มีเสียงตอบกลับมาแต่ไม่ว่ายังไงพี่แจนก็ต้องอยู่ในบ้านแน่นอน

                    พี่แจน...หนูขอโทษที่พูดแบบนั้นออกไป...หนูพูดไม่คิดเองแหละ เพราะว่าตอนนั้นหนูโมโหที่จู่ๆ พี่ก็แกรดออกไป หนูรู้ดีว่าถึงสิ่งที่หนูพูดออกไปมันจะเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบแต่คำพูดร้ายๆ ที่มันออกจากปากมาแล้วต่อให้จะอ้างว่าอะไรมันก็ไม่ได้ทำให้ลืมได้ว่ามันทำร้ายคนที่โดนว่าไปแล้วอยู่ดี...

                    หนูนั่งลงและพิงประตูบ้านพี่แจน หนูพยายามหลับตานึกคำที่จะพูดต่อไป

                    ถ้า..ถ้าพี่จะไม่เปิดประตูก็ไม่เป็นไรแต่ให้หนูร้องเพลงให้พี่ฟังนะ...เพลงนี้เป็นเพลงที่พอหนูฟังหรือร้องทีไรหนูจะร้องไห้ทุกทีเลย..

                    หนูหลับตาลงและสูดหายใจเข้าเตรียมที่จะบรรเลงเพลงสุดท้ายที่หนูจะได้ร้องให้พี่แจนฟังในฐานะหนึ่งในBNK48

                    สดสวยเห็นแสงเรืองรองจากท้องนภา~ เหม่อมองฟ้ายามอรุณที่ดูว่างเปล่า~

    ถ้าจะขอ อยากจะขอ~ให้วันนี้ของเรา ได้มี... แต่รอยยิ้มที่งดงาม~!

     บางครั้ง ท้องฟ้าก็มีหยาดฝนโปรยปราย~ และตอนนี้ คงจะมีแค่เพียงน้ำตา

     สิ่งที่หวัง ในวันนี้ ไม่เป็นดังหวังตั้งใจ~! พรุ่งนี้ ต้องลองเริ่มใหม่สักครา~

    ความใฝ่ฝัน ที่มีในใจตลอด~ ยังมีตัวฉัน ที่ทำตามฝันนั้น เรื่อยมา~

    ได้ทำตามสิ่งที่รัก~ ได้ทำตามปรารถนา~ เอื้อมมือคว้า เป็นดังที่ใจต้องการ~!

    อธิษฐาน~! บนทางที่แสนยาวไกล คือชีวิตที่ลอยไป~ เป็นเหมือนเครื่องบินกระดาษ~

    ตราบแรงลม จะพาพัด  ปล่อยใจลอยล่องในอากาศ~ แค่เพียง เราก้าวเดินออกไป

    บินไปไกลแค่ไหน เพียงใดก็ไม่สำคัญ กว่าการที่ได้โบยบิน ไปถึงยังไงและที่ไหนมา~

    ปล่อยใจไป ปล่อยใจฝัน ปล่อยใจลอยล่องในนภา~ หมุนไปในเวลาทุกช่วงที่มี~

    Sanbyaku rokujuu go nichi~”

    น้ำตาของหนูมันไหลไม่หยุดตั้งแต่ตอนเริ่มร้องยันตอนร้องจบ

    ต-ตอนนี้หนู...หนู ข-เข้าใจดีแล้วว่าหนูคงจะแก้ไขเรื่องที่ทำให้พี่เสียใจไม่ได้แต่ว่าหนูก็ยังอยากจะมาฟังต่อนะว่าสิ่งที่พี่แจนยังไม่ได้บอกหนูมันคืออะไร

    พี่แจนเปิดประตูออกมาและมองมาที่หนู หนูสังเกตเห็นว่าหน้าพี่แจนก็เต็มไปด้วยน้ำตาไม่ต่างจากหนูเลย

    น-นี่ต้องบ้าขนาดไหนถึงจะกล้ามานั่งแหกปากร้องเพลงที่หน้าบ้านคนอื่นอ่ะ?” พอพูดจบพี่แจนก็มองหน้าหนูและฉีกยิ้มให้

                    บ้ารักพี่ไง!” หนูพุ่งเข้าไปกอดพี่แจน พวกเราสองคนร้องไห้ทันทีที่กอดกัน ต้องใช้เวลานานพอสมควรเลยถึงจะปรับอารมณ์ให้เข้าที่ได้ จากนั้นพี่แจนก็พาหนูไปนั่งคุยกันที่ห้องนอนของพี่แจน พวกเราสองคนคุยเรื่องต่างๆที่ไม่ได้แชร่ให้กันมาหลายเดือน หนูรู้สึกมีความสุขมากที่ในที่สุดเราก็ได้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราวและนานหลายชั่วโมงขนาดนี้

                    แล้วคิดอะไรเนี่ยถึงใส่ชุดนอนมาหาพี่แบบนี้อ่ะ?” พี่แจนพยายามกลั้นขำ

                    ก็หนูกลัวพี่แจนจะติดงานที่ญี่ปุ่นอีกนี่นา...

                    ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกเข้าใจไหม? ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียวใส่ชุดนอนมาเดินตอนกลางคืนเนี่ยนะ? มันอันตรายมากเลยนะ!” พี่แจนลูบหัวหนูและดึงหนูเข้าไปกอด

                    ค่ะ...เพราะหนูคงจะไม่ได้ทำแบบนี้อีกแล้วล่ะ

                    เลิกเศร้าได้แล้ว! พี่งานเยอะก็จริงแต่ก็ไม่ได้หมายความว่างานพี่จะเยอะไปตลอดนะยังไงมันก็มีช่วงว่างอยู่แล้วแหละน่า!”

                    ค่ะ...แล้วเรื่องที่พี่แจนยังไม่บอกหนูคือะไรคะ?...”

                    อ้อ~อันนั้นก็... พี่แจนหยิบโทรศัพท์ตัวเองและกดเปิดเพลงอะไรสักอย่างแล้วก็ส่งหูฟังให้หนู

    ฟังดิ

    หนูหยิบหูฟังมาสวมหูและเพลงก็เริ่มบรรเลงขึ้นมา เริ่มจากทำนองเบาๆ และก็มีเสียงสองเสียงร้องขึ้นมาพร้อมกันเป็นเสียงของพี่แก้วและพี่แจนที่ร้องร่วมกัน พอถึงฮุคน้ำตาของหนูก็เริ่มไหลอีกครั้ง หนูหลับตาและกอดพี่แจนแน่นขึ้น พี่แจนตอบรับการกอดของหนูด้วยการลูบหัวหนูเบาๆ คำที่สละสลวย ทำนองไพเราะที่บรรเลงไปอย่างช้าๆ มันเป็นส่วนผสมที่ลงตัวซะจนหนูสรรหาคำไหนมาบรรยายไม่ได้...

    พอเพลงจบแล้วหนูก็เงยหน้าขึ้นไปมองพี่แจนที่ยังคงยิ้มให้หนูอยู่...

    เพลงนี้มัน...

    ใช่...เพลงสุดท้ายของพี่ในฐานะBNK48... ตอนที่คุยกันที่สวนสาธารณะก็กะว่าอยากให้โมบายล์ได้ฟังคนแรกแต่ก็ไม่ได้ให้ฟัง แหะๆ

    หนูขอโทษ หนูซบอกพี่แจนและเอาแต่พูดว่าขอโทษ

    เห้ย พอแล้ว พี่ได้ยินแล้ว...

    “…”

    เป็นไงเพลงเพราะไหม?”

    เป็นเพลงที่เพราะมากเลยค่ะ…”

    ใช่ไหมล้า~ พี่ตั้งใจร้องมากเลยนะ

    พี่จะไปญี่ปุ่นวันไหนเหรอคะ...?”

    28 กุมพาพันธ์ และพี่ก็จะไม่มีคำว่าBNK48ต่อท้ายแล้วด้วย...

    หนูจะจดจำพี่ไว้ว่า ครั้งหนึ่งพี่ก็เคยอยูที่BNKนะ...

    ปากหวานนะเราอ่ะ...

    หวานได้พี่ไง

     

    พี่แจนอาจจะไม่ใช่คนที่เต้นเก่งที่สุด อาจจะไม่ใช่คนที่พูดเก่งที่สุด

    อาจจะไม่ใช่คนที่ร้องดีที่สุด อาจจะไมใช่คนที่สวยที่สุด

    อาจจะไม่ใช่คนที่เพอร์เฟ็คและดีไปซะทุกอย่าง

    แต่ตลอดเวลาที่ได้รู้จักพี่แจนผ่านนามสกุลBNK48 ก็ทำให้เห็นว่าพี่แจนก็เป็นผู้หญิงที่มีความพยายามและความตั้งใจที่จะทำตามความฝันของตัวเองไม่แพ้คนอื่นในวงเลย

    พี่แจนจะถูกจดจำไว้ตลอดไปว่าครั้งหนึ่งมีผู้หญิงที่มีชื่อและเคยใช้นามสกุลว่า

    JanBNK48

    พยายามทำตามฝันของตัวเองจนในที่สุดมันก็สำเร็จ

    คำกล่าวอำลา

    (END)

    *เพลงสุดท้ายของพี่แจนที่ร้องร่วมกับพี่แก้ว (https://www.youtube.com/watch?v=awJd6vaaZlc)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×