ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าแม่ที่รัก

    ลำดับตอนที่ #4 : ขอบคุณ

    • อัปเดตล่าสุด 31 ธ.ค. 61


    “พวกแกรู้ข่าวยัง ตอนที่ไอ้เส็งโดนทำโทษ มันคุยกับใครก็ไม่รู้อะ“ 
    “ได้ข่าวว่า พูดว่า 'ขอบคุณครับ' มันขอบคุณใครน่ะ“ 
    “ประหลาด“ 
    “ประหลาด“ข่าวล่ำลือเหล่านั้นกระจายไปทั่วห้อง ทุกคนเริ่มออกห่างจากกระผมมากยิ่งขึ้น ก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมโชคชะตาต้องกำหนดให้กระผมพบเจอกับเรื่องแบบนี้ด้วย ไม่ยุติธรรมเสียจริง สงสัยชาติก่อนกระผมคงไปทำอะไรไว้มากมายกระมัง ตั้งแต่เจ้าแม่ช่วยกระผมมา กระผมยังไม่ได้ทำอะไรตอบแทนเลยนี่นา จะทำอะไรตอบแทนดีนะ? 
    “วันนี้ครูสอนวิชาดนตรีไม่อยู่!!“หน้าม้าประจำห้องตะโกนบอก
     “เย้!“ทุกคนแทบจะโยนกระดาษให้กระจายทั่วห้อง
     “แต่ครูสั่งงานเอาไว้!“
     “โฮ่!“จากหน้ามือเป็นหลังมือโดนทันที 
    “ครูบอกให้ไปฝึกเครื่องดนตรีไทยมาคนละชนิดแต่ต้องอยู่ในห้องดนตรีเท่านั้นนะ คาบหน้าครูจะมาสอบ เล่นเพลงอะไรก็ได้แต่ขอให้เป็นเพลง ใครผ่านจะเป็นตัวแทนไปทำการแสดงต้อนรับคณะดูงานที่จะมาเยี่ยมโรงเรียนในเร็วๆนี้“พอได้ยินแบบนี้ทุกคนก็ทำหน้าไม่ชอบใจกันทันที มีทั้งคนที่อยากเล่นและคนที่ไม่อยากเล่น ด้วยเหตุผลต่างๆนานา แต่ที่แน่ๆทุกคนต่างเลือกเครื่องดนตรีกันไปหมดแล้ว ที่มีเหลืออยู่ก็แค่ขิม เล่นขิมเป็นซะที่ไหนล่ะ! จะขอแลกกับคนอื่นๆก็ไม่ได้ด้วยสิ เฮ้ย~เอาเป็นว่าเย็นนี้ค่อยไปซ้อมเล่นที่ห้องดนตรีเอาละกัน 
                   
         
                       คาบว่างๆแบบนี้ทำอะไรดีนะ หรือเป็นเพราะว่าเพิ่งจะเปิดเทอมก็เลยยังไม่ค่อยมีงานล่ะมั้ง ออกไปเดินเล่นดีไหมนะ กระผมจึงลุกออกไปเดินเล่นสักพัก นั่งอยู่ที่ศาลาหลังน้อยร่มๆใกล้ตึกเรียน กระผมได้แต่คิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่วันก็มีเรื่องมากมายเกิดขึ้นได้ถึงขนาดนี่เลยหรือเนี่ย (จะเอาอะไรไปให้เจ้าแม่ดีนะ) ทันทีที่คิดเช่นนั้น หญิงมัดเกล้าก็โผล่ออกมาจากเสาของศาลา
     “...“ 
    “...“ 
    “ทำอะไรของเธอน่ะ“ 
    “ก็มาส่องไงล่ะ“ 
    “?“...ห๊ะ!?
     “จะว่าไปมีเรื่องอยากถามน่ะ“
     “!?จริงหรอ!?“เด็กหญิงรีบลอยตัวมานั่งฝั่งตรงข้ามของกระผม เธอทำตาวาวจนจะกลายเป็นดวงดาวมากมายบนจักรวาลไปแล้ว เธอคงไม่ค่อยมีเพื่อนคุยสินะ (ยังไงก็ไม่ค่อยชินกับการลอยไปมานี้อยู่ดี :-¦  ยิ่งเธอชอบพุดๆโพล่ๆด้วย)
    “คือ...เธอช่วยฉันมามากแล้ว อยากจะได้อะไรไหม?“เพราะอะไรกระผมจึงต้องหลบสายตาของเธอด้วยนะ
     “ฮืม...ไม่รู้สิ ฉันไม่เคยคิดเรื่องนี้เลยแฮะ นายอยากให้อะไรก็ให้เถอะ“ 
    “งั้นไว้คิดออกแล้วมาบอกก็ได้นะ“คงมีแต่คนมาขอหลายๆสิ่งจากเธอสินะ เป็นผู้ให้มาตลอด แม้แต่กับกระผมเองก็ยัง... 
    “นายโอเคไหม?“ 
    “?“ 
    “ที่เพื่อนๆของนายรู้ว่านายคุยกับพื้นที่ว่างเปล่า....ฉันหมายถึงตัวฉัน...หรือมองเห็นฉัน...“ 
    “ฉันทั้งชินและชาไปแล้วล่ะ“กระผมก้มหน้า ถึงจะชินชาแค่ไหนแต่มันยังคงเจ็บทุกครั้งที่ได้ยินอยู่ดี หญิงมัดเกล้าเห็นกระผมคิ้วตก จึงเดินมานั่งข้างๆ แล้วจับมือของกระผมไว้
     “นายไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้วนะ มีฉันอยู่ทั้งคน ต้องการเมื่อไหร่ก็เรียกฉันได้ตลอดเลยนะ ฉันจะมาหานายเอง“เธอยิ้มเล็กๆให้กระผมและกำมือแน่นกว่าเดิมเล็กน้อย อบอุ่น เป็นคำพูดที่อบอุ่นเหลือเกิน
                     นี่มันก็จะถึงคาบเรียนต่อไปแล้วไปรอที่ห้องเรียนเลยดีกว่า
     “ฉันจะไปเรียนศิลปะ เธอจะไปด้วยไหม“
     “ไม่เอาล่ะขอบใจ วันนี้ฉันอยากเดินเล่นไปทั่วๆมากกว่า“
     “งั้นฉันไปก่อนนะ“
     “จ้า“แล้วกระผมก็เดินไปยังห้องศิลปะ

                    ห้องศิลปะทำไมมันดูน่ากลัวๆแปลกๆนะ หรืออาจเป็นเพราะกระผมมาที่นี่เป็นคนแรกกันแน่ กระผมเดินไปเปิดไฟและพัดลมทั่วห้อง มีทั้งานวาดภาพ งานปั้น งานแกะสลักมากมาย (รูปปั้นตรงนั้นน่ากลัวจัง) ครูไปไหนแล้วนะ ทำไมทุกๆคนมาช้าจัง กระผมนั่งเล่นรออยู่ในห้องคนเดียว

     ก๊อกๆ เสียงเคาะที่กระจกดังขึ้น กระผมกวาดสายตาไปรอบๆก็ไม่เห็นอะไร
     ก๊อกๆ เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง กระผมควรเปล่งเสียงตอบรับออกไปดีไหมนะ
     ก๊อกๆ เสียงนั้นดังขึ้นอีกแล้ว กระผมจึงตัดสินใจที่จะลุกขึ้น แต่ก็ต้องหยุดชะงักในท่ากึ่งนั่งกึ่งยืน เสียงฝีเท้าของหญิงสาวชุดเดรสยาวก็เดินผ่านทางข้างซ้ายของกระผมไป กระผมรู้ว่าเธอหันมามอง กระผมจึงก้มหน้าลงทันที ( ไม่แล้ว ขอล่ะ ไม่อยากเห็นอีกแล้ว) หญิงชุดเดรสผมยาวเดินไปเปิดหน้าต่าง ชายในชุดเครื่องแบบก็โผล่ออกมา
     “คุณเป็นอย่างไรบ้าง อ้าว!ผมอุส่ามาหาคุณตอนที่ไม่มีใครอยู่ในห้องนี้แล้วนะ“ชายในชุดเครื่องแบบพูด
     “ฉันก็ไม่คิดหรอกว่า เด็กนี่จะมาก่อนเวลาเรียน“
     “ช่างเถอะเขาไม่เห็นเราหรอก....มั้งนะ ฮึๆ“
     “ฮิๆใครจะไปรู้ล่ะ“(พวกเขาคือใคร? พูดเรื่องอะไรกัน? )
    “ฉันสบายดี แล้วคุณล่ะ“
     “ช่วงนี้โรงเรียนเอาทรายมาใส่ท่อระบายน้ำเสีย ทั้งในเสื้อหรือเครื่องในของผมก็เลยมีเศษทรายติดมาบ้างด้วย“
                     ท่อระบายน้ำเสีย......นึกออกแล้ว เคยมีคดีฆ่าตัวตายตามกันของครูม.ปลายที่เป็นชู้สาวกันอยู่นี่นา ไม่อยากจะเชื่อเลย ทำไมต้องเป็นที่ห้องศิลปะด้วย รีบๆทำอะไรให้เสร็จสักอย่างทีเถอะครับ
     “ได้ยินที่ลุงคนนั้นบอกรึยัง ลุงที่อยู่ในห้องเก็บอุปกรณ์น่ะ“ 
    “มีอะไรล่ะ?“ 
    “ลุงเขาบอกว่ามีเด็กคนหนึ่งเห็นพวกเราด้วยล่ะ...“
     “เอ๋?จริงเหรอ แล้วหน้าตาของเขาเป็นยังไงล่ะ“
     “ก็เป็นเด็กผู้ชาย ตัวสูงพอดีๆ ชอบอยู่คนเดียว มีไฝที่ใต้ตาซ้าย....ไม่แน่นะอาจจะเป็น...“สายตาทั้ง 2 จ้องมองมาที่กระผมไม่ผิดแน่ กระผมก้มหน้ามองไปที่กระดาษของกระผม 

    ติ๋งๆ ติ๋งๆ พรวด! มีบางอย่างเป็นเส้นๆ มีเมือก และค่อนข้างเหม็นพาดคอของกระผม กระผมได้แต่นั่งอยู่อย่างนั้น อย่าตุกติก อย่าแสดงอาการ....ขอร้องล่ะ...ใครก็ได้ช่วยพากระผมออกไปจากตรงนี้ที ใส้.....ใส้มัน...ไอ้ที่พาดคอมันใส้นี่นา อึก! เห็นมาก เหม็นจนปวดหัวเลย เลือดอาบเต็มกระดาษวาดรูปแล้ว ช่วย...ช่วยด้วย
     “เส็ง“เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้น ร่างกายของกระผมอุ่นขึ้นมาทันตาเห็น ร่างน้อยๆของหญิงมัดเกล้าโอบกอดกระผมไว้ หัวของกระผมอิงไหล่ของเจ้าแม่อยู่ก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที 
    “เจ้าแม่...ฉันกลัวมากเลย“ 
    “ฉันอยู่นี่แล้ว ไม่ต้องกลัวนะ“หัวใจของกระผมต้นรัวราวกับมีคนมาตีกลอง ไม่อยากให้เวลา ณ ตอนนี้จากไปเลย


     “หัวข้อในวันนี้...“คุณครูเริ่มสอนเมื่อทุกคนมาถึงในห้องกันครบแล้ว เวลาช่างผ่านไปรวดเร็ว เหมือนกับตอนนี้เช่นกัน กระผมเลือกที่จะไม่พูดอะไรกับเหตุการณที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว...


     “ฝากซื้อพวงกุญแจหน่อยสิ“ 
    “เอาไปทำอะไร“ 
    “เอาไปให้สาวอะ ได้ข่าวว่าบ้านแกใกล้ตลาดนัดนี่นา ฝากหน่อยดิ เดี๋ยวคืนเงินให้“
     “แล้วแกมาฝากฉันทำไม ทำไมไม่เอาไปฝากไอ้เส็งมัน บ้านมันต้องเดินผ่านทางนั้นทุกวันเลยนะ“ 

    ปัง! เสียงตบโต๊ะดังขึ้นจนทำให้เพื่อนรอบๆพากันตกใจไปด้วย
     “ฝากซื้อพวงกุญแจหน่อยสิ“ 
    “ไม่ได้หรอก วันนี้เราจะไปซ้อมเล่นขิมที่ห้องดนตรีก่อนกลับบ้าน“ 
    “หรือแกอยากกินไอ้นี่“เพื่อนชายชูกำปั้นนั้นขึ้นมา ครั้งหนึ่งตัวกระผมเคยโดนมันมาแล้ว ไม่ได้กลัวหรอกนะ แต่คนที่เสียใจนั่นคือ แม่ ดังนั้นการหลีกเลี่ยงคือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว 
    “ก็ได้“
     “ต้องแบบนี้สิ เลือกตัวน่ารักๆนะ แบบที่สาวๆชอบกัน คิกๆ แล้วเอามาให้วันพรุ่งนี้ล่ะ“เพื่อนชายเดินหายไป
     “...อืม“


                    เสียงพ่อค้า แม่ค้า เต็ม 2 ข้างทาง เสียงดนตรี เสียงสนทนาที่คงเป็นสิ่งปรกติธรรมดากันสำหรับตลาดนัด กระผมกวาดสายตาไปรอบๆร้านขายของกุ๊กกิ๊กแถวๆนั้น พวงกุญแจที่สาวๆชอบกันสินะ เจ้าแม่จะชอบด้วยไหมนะ มีแต่ที่เป็นขนปุกปุยทั้งนั้นเลย(นุ่มจัง)
     “อุ๊ย! คุณน้องขาาาาาา!“เสียงเจ้าของร้านเดินมาบริการลูกค้า ทั้งๆที่มีลูกค้าท่านอื่นเต็มไปหมด แต่กลับเดินตรงมาที่กระผม
     “ครับ? ขาของผมเป็นอะไรหรอครับ?“ กระผมก้มดูขาของตัวเอง 
    “อุ๊ย! น่ารักจังค่า 555 ไม่ใช่ขาหรอกค่า คุณน้องอยากได้พวงกุญแจอันไหนคะ เดี๋ยวคุณพี่แถมให้“กระผมไม่ได้รังเกรียจสาวประเภท 2 หรอกนะ พวกเขาออกจะเป็นคนที่กล้าแสดงออกในสิ่งที่ชอบ (น่าอิจฉาจังเลย )
    “อ๋อ...เอ่อ..เด็กผู้หญิงชอบของแบบไหนกันหรอครับ คือว่า...“
     “แหมๆเดี๋ยวคุณพี่แนะนำให้นะคะ“เธอขยิบตาข้างหนึ่งให้กระผม กระผมจึงยิ้มตอบ
     “อันนี้ก็สวยนะคะ อันนี้ อันนี้ อุ๊ย!อันนี้ก็น่ารัก..“
     “เอ่อ...ผมไม่ได้เอาไปเยอะขนาดนั้นครับ แค่อันเดียวก็พอ“
     “อ๋อ งั้นพี่จะแถมให้ 1 อันเนาะ เลือกเลยๆ“จะให้กระผมเลือกอย่างไรกันล่ะ หลับตาจิ้มเอาก็ละกัน...
     “อันนี้ก็แล้วกันครับ“
     “คุณพี่ให้แถมอีกอันนะ เลือกอีกๆ“ 
    “อืม...“...สายตาของกระผมก็ดันสะดุดตาไปเห็นกับเสื้อกันหนาวแขนยาวตัวหนึ่งที่แขวนเอาไว้ 
    “หืม? สนใจตัวนั้นหรอ จะเอาไหมล่ะ เดี๋ยวคุณพี่แถมให้“
     “เอ๊ะ!? จะดีหรอครัย ผมซื้อแค่...“คุณพี่เจ้าของร้านก็ห่อใส่ถุงไปเรียบร้อย
     “25 บาท จ๊ะ“เขาแบมือรับเงิน 
    “....อ่า...ขอบคุณมากๆนะครับ“กระผมพูดพลางจ่ายเงินไปด้วย
     “ไว้มาที่ร้านบ่อยๆนะคะ คุณน้อง“เจ้าของร้านส่งจูบมาให้
     “..อ่า ครับ 555“กระผมโบกมือกลับแล้วจากไป




     เจ้าแม่...จะชอบรึเปล่านะ? :-)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×