ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (exo) RED SNITCH | sekai chankai (Hogwarts!AU)

    ลำดับตอนที่ #4 : 04 | OPEN AT THE CLOSE

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ค. 60


     

     

    RED SNITCH

    (AU!HOGWARTS)

    OSH | KJI | PCY

     

     

    ( 4 )

    OPEN AT THE CLOSE

     

     

     

     

    โอเซฮุนได้เรียนรู้ว่าไม่มีสิ่งใดจะง่ายดายเมื่อมันเกิดไม่ถูกช่วงจังหวะเวลา

     

     

    ชายหนุ่มเจ้าของผิวขาวซีด รูปร่างสูงโปร่งอยู่ในชุดสูทเนื้อดีจากแบรนด์ดังของมาดามแม็กซี แม่มดสาวเจ้าแฟชั่นแห่งโลกผู้วิเศษ ทับด้วยเสื้อคลุมสีดำยาวและหูกระต่ายสีขาว ผมซอยสั้นสีเข้มถูกเซ็ตเปิดหน้าผากเป็นทรงเรียบแปล้ นัยน์ตาคมมองไปรอบๆอย่างเบื่อหน่าย ไม่สบอารมณ์ที่เซเลน่า โกเมซปล่อยให้เขายืนรอมาเกินสิบนาทีแล้ว สาบานได้เลยว่าถ้าหล่อนสายอีกนาทีเดียวจะไม่เห็นโอเซฮุนยืนอยู่ตรงนี้อย่างแน่นอน

     

     

    และเซเลน่าก็ทำให้ผู้ชายแทบทุกคนในที่นั้นตาค้างด้วยชุดเดรสสายเดี่ยวยาวกรอมพื้น สีขาวระยับตัดกับผิวสีน้ำผึ้งและผมยาวดัดลอนสีดำของเธอ เซฮุนยื่นมือไปรอรับ ก่อนจะยกศอกให้หญิงสาวควงหลวมๆเพื่อเดินเข้างานเต้นรำ

     

     

    ห้องโถงใหญ่ของฮอกวอตส์แปรสภาพจากโต๊ะอาหารยาวทั้งสี่บ้านไปเป็นงานราตรีที่มีระดับอย่างยิ่งยวด วงเดอะจังเกิ้ลน็อกจะขึ้นแสดงดนตรีสดตอนสี่ทุ่ม และในระหว่างนี้ เสียงออเคสตร้าหวานหูในแบบของวงซิมโฟนีเจ้าประจำก็ทำหน้าที่ไปก่อน เซฮุนเดินตามหลังเกร็ก ดอว์สันแห่งบ้านฮัฟเฟิลพัฟ ส่วนคู่ที่เพิ่งมาต่อทางด้านหลังเขาเป็นเจ้าของเสียงทุ้มต่ำที่คุ้นหูเป็นอย่างดีในสนามควิดดิช ชายหนุ่มเหลียวกลับไปมอง พบว่าปาร์คชานยอลอยู่ในชุดหน้าตาคล้ายๆกัน ต่างกันที่หูกระต่ายของอีกฝ่ายเป็นสีดำ และคู่ที่ควงแขนมาด้วยกันก็คือไอรีน เบ นักเรียนปีเจ็ดที่เนื้อหอมเป็นอันดับต้นๆของโรงเรียน หล่อนอยู่ในชุดลายลูกไม้ประดับมุกสีขาวเข้ารูปตลอดทั้งลำตัว เรือนผมสีน้ำตาลเกล้าเป็นมวยหลวมๆประดับด้วยรัดเกล้าลายไม้เลื้อย ทั้งหมดนั่นสวย แต่ก็ยังไม่มากพอจะดึงความสนใจของเขาได้

     

     

    เคราเมอร์ลิน พอเห็นหน้าปาร์คชานยอล ฉากจูบแสนหวานขมที่ฮอกมีดส์ก็แล่นวาบขึ้นแทงใจโอเซฮุนเหมือนถูกแทงด้วยดาบของก็อดดริก กริฟฟินดอร์ก็ไม่ปาน เขาเบือนหน้ากลับมาทางเดิม แย้มยิ้มการค้าให้ทุกสายตาที่มองมายังเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งสลิธีรินพลางคอยสอดส่องหาใครบางคน แต่อันตรายมากที่ใกล้ๆกันนี้มีกัปตันของบ้านกริฟฟินดอร์วนเวียนอยู่ด้วย เซฮุนนึกอยากทิ้งระยะห่างจากปาร์คชานยอลอีกหน่อย แต่เซเลน่าก็รั้งเขาเอาไว้เพราะทั้งคู่กำลังยืนอยู่บนจุดที่เด่นที่สุดของงาน

     

     

    นั่นทำให้เขาต้องสบถในใจว่าไม่ทันเสียแล้ว คิมจงอินในชุดสูทออกงานสีดำกำลังเดินเข้ามาในห้องโถงพร้อมกับคริสตัล จอง ตอนนี้เซฮุนอยากให้ความสนใจจงอิน ที่พอเห็นเขาก็ทำเบ้หน้า คว่ำปากเป็นทรงบิดเบี้ยวและเลี่ยงเดินไปอยู่อีกฝั่งของฟลอร์ ผมสีเข้มถูกหวีเสยขึ้นจนเห็นโครงหน้าเด่นชัด คิ้วเข้มสองข้างขมวดเล็กน้อยยามที่หันมองสบตาเขา เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขอย่างสั้นๆของค่ำคืนนี้

     

     

    แต่ทันทีที่เห็นปาร์คชานยอลอยู่ไม่ไกลกัน สายตาของคิมจงอินก็ไม่อาจละกลับมาหาเขาได้อีก

     

     

    เจ้าของผิวสีแทนเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรง จงอินนึกอยากจับจดสายตาไว้ที่คริสตัล จองที่สวยสง่ากว่าวันไหนๆในชุดสีแดงสด หากเขาก็แสนประหลาดใจว่าตนเองไม่อาจทำเช่นนั้นได้ ชานยอลยืนอยู่ห่างจากตรงนี้ไปเพียงไม่กี่ก้าว อีกทั้งใกล้กันนั้นก็คือโอเซฮุนที่เอาแต่ขู่กันทางสายตา ซึ่งจงอินไม่รู้จะกลัวอะไรอีก ในเมื่อหมอนั่นก็ทำเรื่องน่ารังเกียจอยู่ทุกวี่ทุกวัน และเขาตัดสินใจในตอนที่ถูกทำให้อับอายกลางชั้นเรียนของศาสตราจารย์ฟลิตวิกแล้วว่า ต่อให้เอาเสาของธนาคารกริงกอตส์มางัดอย่างไร คิมจงอินก็จะไม่มีวันเข้าใกล้เจ้าคนเจ้าเล่ห์นั่นเป็นอันขาด!

     

     

    ส่วนชานยอล... หมอนั่นทำเขาสับสนนิดหน่อย ทั้งเรื่องสารภาพความรู้สึก จูบ หรือแม้กระทั่งการทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างที่เจ้าตัวกำลังพยายาม โอเค จงอินอาจจะต้องการอย่างนั้นมาตลอด แต่เขาก็แค่คนเห็นแก่ตัวที่อยากอยู่ข้างอีกฝ่ายโดยไม่ต้องหาเรื่องลำบากใจใส่ตัวให้มากความ เพราะถ้าเมื่อไรที่ตอบตกลงแล้วมารู้สึกทีหลังว่าไม่ใช่ เมื่อนั้น คิมจงอินไม่แน่ใจนักว่าปาร์คชานยอลยังจะอยากเห็นหน้าเขาอยู่หรือไม่ มันอาจแย่กว่าตอนนี้ด้วยซ้ำ

     

     

    “โอ๊ย”

     

     

    ชายหนุ่มสะดุ้งโหยง ก้มลงมองต้นเหตุที่ปลายเท้าทันทีเมื่อเห็นคริสตัลก้มหน้า ในนามของกางเกงในเมอร์ลิน นี่ไอ้งั่งที่เป็นซีกเกอร์สุดยอดเยี่ยมประจำทีมกำลังเหยียบเท้าผู้หญิงที่ตัวใหญ่กว่าลูกสนิชเป็นสิบเท่าอย่างนั้นหรือ มันแบบว่า -- ทั้งดูโง่แล้วก็เห่ยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคนตรงหน้าคือคริสตัล จอง คนที่เขาต้องใช้เวลาถึงครึ่งเทอมเพื่ออ้อนวอนให้เธอมาเดินควงแขนในวันนี้ แต่ให้ตาย นี่มันพังหมดแล้ว

     

     

    “ขอโทษทีคริสตัล ฉัน เอ่อ --”

     

     

    “ไม่ต้องขอโทษ!” เธอแหว ก่อนจะเบาเสียงลงเมื่อคู่เต้นรำข้างๆหันมามอง “เธอแทบไม่มองหน้าฉันเลยด้วยซ้ำจงอิน”

     

     

    “ทำไมจะไม่มองล่ะ ฉันมองเธออยู่ตลอดนั่นแหละ” เขาพยายามแก้ตัว รู้สึกเหมือนว่ากำลังขึ้นศาลสูงวิเซ็นกาม็อตเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาไม่มีผิด “ขอโทษ คือว่า -- ต้นคริสมาสต์ตรงนั้นสวยดี”

     

     

    “ใช่ สวย และฉันก็อยากจะให้นายไปเต้นรำกับต้นคริสต์มาสแทนเสียตอนนี้เลย” คริสตัลพาลเขา เอาเป็นว่ามันก็น่าหงุดหงิดจริงๆนั่นแหละ งานเต้นรำประจำปีเป็นสิ่งที่เด็กสาวแทบทุกคนใฝ่ฝัน เป็นเหมือนเดทขนาดย่อมที่จะได้ใส่ชุดราตรีสวยๆ และซีกเกอร์บ้านกริฟฟินดอร์ก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่แย่เลย

     

     

    หลังจบเพลงมาตรฐาน ดวงตาสีเข้มชะเง้อมองไปทางปาร์คชานยอลอีกครั้ง แต่ก็ต้องพบว่าคนที่ยืนอยู่ตรงข้ามไอรีนคือลูคัส ทิล เพื่อนสนิทผมบลอนด์ปีเจ็ด ทั้งคู่กระเง้ากระงอดใส่กันเล็กน้อย ไอรีนตีหน้าอกลูคัสไปหนึ่งที พอดนตรีเพลงใหม่เริ่มบรรเลง ลูคัสก็รวบสาวเจ้าเข้ามากอดกลม ทั้งยังขยิบตามาให้เพราะรู้ว่าเขามองอยู่อีกต่างหาก จงอินได้แต่ยิ้มแห้งๆกลับไป นึกสงสัยว่าชานยอลหายไปไหนเสียแล้ว

     

     

    โอเซฮุนเห็นทุกอย่าง แล้วเขาก็นึกตลกตัวเองที่ไม่รู้ว่ากลายเป็นคนสอดรู้สอดเห็นไปตั้งแต่เมื่อไร ขายาวผละจากเซเลน่า โกเมซและฝากให้เอดิสันรับช่วงเธอต่อ เขาตามจงอินออกไปหลังเพลงที่สาม สวนกับคริสตัล จองที่กำลังวางฟอร์มใส่ลูกล่อลูกชนของเจสันบ้านเรเวคลอ มุกจีบของหมอนั่นมันห่วยชะมัดยาด

     

     

    นัยน์ตาคมมองทางเดินทั้งสองฝั่งซึ่งประปรายด้วยนักเรียนฮอกวอตส์ที่แยกตัวออกมาคุยกันกระหนุงกระหนิง เขายังคิดไม่ออกเสียทีเดียวว่าถ้าเจอจงอินแล้วจะทำอย่างไรต่อไป บีบบังคับเรื่องข้อเสนอนั้นโดยทำท่าว่าจะประกาศเรื่องจูบออกไปจริงๆน่ะหรือ บอกเลยว่านี่ก็แค่คำขู่โง่ๆ เซฮุนฉลาดพอที่จะรู้ว่าถ้าเขาบอกคนอื่นเรื่องรักลับในทีมกริฟฟินดอร์ นั่นก็เหมือนเปิดโอกาสให้ทั้งคู่ได้ใกล้ชิด ร่วมหัวจมท้ายรับปัญหาไปด้วยกันโดยมีนายสลิธีรินคนนี้เป็นตัวร้าย

     

     

    ไม่รู้สิ บางทีเขาก็อาจจะแค่อยากได้เวลาช่วงสั้นๆในคืนแสนพิเศษนี้จากคิมจงอินเท่านั้นกระมัง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ฮอกวอตส์ในตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ลมหนาวที่พัดผ่านโถงทางเดินทำให้คิมจงอินรู้สึกประหม่าอย่างน่าประหลาด ร่างกายแข็งทื่ออย่างที่ไม่เคยเป็น เขากระแอมไอเบาๆ เรียกให้เจ้าของหูกระต่ายสีดำที่กำลังยืนเท้าแขนมองวิวมุมสูงยามค่ำคืนค่อยๆหันมา ปาร์คชานยอลดูจะตกใจนิดหน่อยที่เห็นว่าใครตามมาถึงที่นี่ ดวงตากลมโตหลุบมองต่ำ อาจกำลังพยายามหาข้ออ้างใดๆที่จะเลี่ยงจากสถานการณ์น่าอึดอัดเช่นในห้องโถงบ้านกริฟฟินดอร์เมื่อวันก่อนก็เป็นได้

     

     

    “มีอะไรหรือเปล่า” กัปตันทีมควิดดิชแห่งบ้านสิงโตเอ่ยถาม

     

     

    “ลูคัสบอกว่านายอยู่ที่นี่” ที่จริงก็แค่บุ้ยใบ้ จงอินไม่ได้ตอบละเอียด และเขาไม่แน่ใจนักว่าตัวเองจะอยากมีเรื่องอะไรมาคุยกับชานยอลนักหนา ชายหนุ่มแลบลิ้นเลียริมฝีปาก สางผมที่ถูกเซ็ตเป็นทรงจนยุ่งไปเล็กน้อยก่อนจะว่าต่อ “ฉันก็แค่... ค่อนข้างแน่ใจว่านายกำลังพยายามหลบหน้า”

     

     

    ทว่าชานยอลถอนหายใจเบาๆ ตรงข้ามกับกิริยาที่เขาคาดว่าจะเห็นโดยสิ้นเชิง สะโพกปอดเอนพิงขอบหน้าต่าง ใช้เวลาครุ่นคิดโดยการละสายตาหนีไปไกล

     

     

    “ใช่ ฉันหลบหน้า”

     

     

    คนฟังคิ้วกระตุก ส่งเสียงฮึดฮัดในลำคอที่ไม่รู้ว่าเกิดเพราะอารมณ์หรืออากาศซึ่งทำเอาลำคอแห้งผากกันแน่ “นั่น... ไม่ถูกต้องเลย”

     

     

    “ไม่ถูกต้อง?” ชานยอลแค่นหัวเราะ “ฉันพยายามอยู่นะจงอิน”

     

     

    “พยายามอะไร”

     

     

    กัปตันทีมควิดดิชหันกลับมา เลิกคิ้วเล็กน้อยราวกับอยากช่วยทวนคำถามนั้นเต็มที “อะไรที่มันเกิดขึ้นไง และฉันแก้ไขมันไม่ได้เลย นายอยากได้ความถูกต้องแบบไหนล่ะ” ร่างสูงผุดลุกขึ้น สาวเท้าเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา ตาสีเดียวกับผืนฟ้ายามรัตติกาลจับจดที่คิมจงอิน “แม้แต่ตอนนี้ -- ฉันก็อยากจูบนายอีกครั้ง นายจะยอมให้เป็นแบบนั้นไหม?”

     

     

    จงอินขนลุกซู่ขึ้นมาทั่วทั้งร่างเหมือนกับวันนั้น หลังจากครุ่นคิดมาหลายวันว่าเขาคงไม่มีทางที่จะรังเกียจชานยอลเลย มันตรงกันข้ามด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างนั้นก็คล้ายจะมีกำแพงบางๆที่ขวางกั้นความสัมพันธ์เอาไว้ เป็นกำแพงที่ไม่ได้น่ากลัวอะไร ทว่าคำขู่ของมันค่อนข้างมีน้ำหนักมากเหลือเกิน

     

     

    “ฉันไม่รู้”

     

     

    เขาไม่อยากให้ปาร์คชานยอลหายไป -- นั่นคือทั้งหมด

     

     

    “ฉันไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร รู้อย่างเดียวแค่มันไม่ควรจะเป็นอย่างนี้เลย”

     

     

    คราวนี้ชานยอลชะงักไป จงอินรู้ดีว่าเขาช่างเห็นแก่ตัวเหลือเกิน สิ่งที่อีกฝ่ายต้องการมันยากเกินการตัดสินใจในตอนนี้  แน่นอนว่าเวลาที่คนตรงหน้าร้องขอนั้นเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ แต่เวลาในรั้วโรงเรียนแห่งนี้เหลือน้อยลงทุกทีแล้ว ให้ทำใจปล่อยมันผ่านเลยไปโดยที่ไม่ต้องข้องเกี่ยวกันเลย เขาว่าชานยอลก็ใจร้ายไม่แพ้กัน

     

     

    “พูดอะไรของนาย” ลมหายใจของกัปตันทีมใกล้ขึ้น ใกล้จนศีรษะของเด็กหนุ่มปีห้าชนเข้ากับปลายคางอีกคน จงอินต่อยไหล่กว้างของคนพูดเบาๆ หากชานยอลไม่ตอบโต้ “แล้วจะเอาอย่างไรจงอิน นายอยากให้มันเป็นแบบไหนเล่า”

     

     

    “...”

     

     

    “ถ้านายไม่ได้รู้สึกเหมือนกับฉันก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย เพราะมันจะทำให้ทุกอย่างยุ่งยากขึ้น และถ้าฉันตัดใจจากนายไม่ได้ จะเป็นอย่างไรนายก็นึกภาพออกนี่... แบบนี้ตลอดไป

     

     

    “...”

     

     

    “ฉันคงทนไม่ไหว --”

     

     

    แล้วทุกอย่างก็สงบนิ่ง

     

     

    คอเสื้อถูกรั้งเข้าใกล้ ริมฝีปากแนบสนิทกันท่ามกลางลมหนาวริมหน้าต่าง ปาร์คชานยอลรู้สึกถึงความอุ่นร้อนของลมหายใจยามจงอินค่อยๆผละตัวออกจากเขาอ้อยอิ่ง ช้อนสายตาที่มีแต่ความลังเลนั้นขึ้นมองสบตากันอย่างเชื่องช้า ราวกับมีเสียงระฆังดังกังวานอยู่ในหัว เหมือนหูดรถไฟที่ส่งควันไอน้ำพวยพุ่งจากหัวรถจักร ทุกสิ่งอย่างตีรวนจนหัวหน้าทีมควิดดิชแทบยืนไม่ติด

     

     

    จงอินไม่จูบเป็นรอบที่สอง ดวงหน้าแดงก่ำจนถึงใบหู ทั้งคู่ได้แต่ยืนนิ่งเพื่อทิ้งเวลาไปกับการทบทวนสถานการณ์อีกครั้ง ซีกเกอร์หนุ่มเพิ่งจะเป็นฝ่ายเปิดบทความเปลี่ยนแปลง เขาอาจกำลังขาดสติ ร้อนรุ่ม และสับสนไปกับความสัมพันธ์ที่ขาดหาย จูบกับชานยอลไม่แย่เลย แต่มันก็ไม่ดีมากไปกว่าตอนอยู่ฮอกส์มี้ด

     

     

    มือสีแทนยกขึ้นต่อยหัวไหล่คนตรงหน้าอีกครั้ง จงอินหมุนตัวเดินหนีไปอีกทาง ไม่รั้งรอให้โถงทางเดินที่ทอดยาวหดระยะพาเขากลับไปอยู่ใกล้ชานยอลมากไปกว่านี้ หลังมือยกขึ้นอังริมฝีปาก ถูมันเบาๆขณะที่ภาพทุกอย่างเริ่มจะเลือนราง

     

     

    นี่เขาร้องไห้เพราะอะไรวะ

     

     

    เขานึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าตนเองกำลังเดินไปทางไหน หรือระหว่างทางจะมีเพื่อนฝูงร้องเรียกเพื่อรายงานเรื่องคริสตัล จองและเจสันที่กำลังโชว์มายากลเสกดอกไม้แบบไม่พึ่งเวทมนตร์ อา ให้ตายเถอะเมอร์ลิน เขาควรรู้สึกแย่ใช่หรือเปล่า ไม่ว่าอะไรในคืนนี้ก็ไม่เป็นไปตามที่หวังเลยสักอย่างเดียว คิมจงอินต้องการชีวิตปกติสุขดังเมื่อก่อน ชีวิตที่ไม่ต้องมาคอยฟุ้งซ่านเพียงเพื่อรักษาสิ่งใดเอาไว้ ช่วงชีวิตก่อนที่จะได้ล่วงรู้ว่าปาร์คชานยอลมองเขาด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง

     

     

    หากความคิดนั้นกลับถูกกระชากจนหลุดวูบจากภวังค์ เช่นเดียวกับร่างของเขาที่มีใครบางคนดึงรั้งเข้ามาหลบอยู่ในซอกเล็กเท่าที่ดิ้นตายของพวกเอลฟ์ประจำบ้าน ก่อนจะทันได้สนใจว่าตรงนี้คือทางเดินส่วนใดของฮอกวอตส์ ใบหน้าหล่อเหลาจากเจ้าของหูกระต่ายสีขาวในชุดสูทมาดามแม็กซีก็ดึงเอาทั้งความคิดและสติไปจากจงอินจนหมดสิ้น อีกฝ่ายจับไหล่ของเขาให้ถอยระนาบติดกับกำแพงเย็นเยียบ ส่วนตาสีเข้มวาวระยับ ฉายแววความมาดร้ายแบบไม่สนสถานการณ์

     

     

    หรืออันที่จริง ถ้ามองโดยไม่อคติแล้ว โอเซฮุนก็ดูจะตกใจนิดหน่อย

     

     

    จงอินทำท่าจะหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมาจากกระเป๋าด้านในเสื้อ ทว่าเซฮุนกลับขยับเข้าใกล้ขึ้น เป็นการปิดช่องทางโบกนิดสะบัดหน่อยโดยสิ้นเชิง

     

     

    เฮ้ ฉันไม่ได้ตามหานายเพื่อมาเจออะไรแบบนี้หรอกนะ คนน่ารังเกียจจากสลิธีรินว่า หรือถ้านายแค่จะเสกมิสเซิลโท ฉันก็คงเข้าใจผิดไป

     

     

    หุบปาก ซีกเกอร์บ้านสิงโตพูดลอดไรฟัน มือยกขึ้นผลักคนตรงหน้าออกราวกับเป็นรากไม้เสียๆ ในวิชาสมุนไพรศาสตร์อย่างไรอย่างนั้น นี่มันแย่ที่สุด ลำพังเกิดเรื่องกับชานยอลก็หนักหนาอยู่แล้ว แต่โชคชะตางี่เง่ายังต้องพาเขามาเจอกับเจ้างูกลับกลอก โรคจิตจนถึงกับยื่นข้อเสนอเหยียดหยามให้ลองจูบกันอย่างนั้นหรือ ถอยออกไปซะ ก่อนที่ฉันจะฆ่านาย -- ตอนนี้

     

     

    ว้าว เซฮุนผิวปาก ลองดูสิ แต่ถ้าฉันไม่ตายล่ะก็ ความลับของนายอาจจะเป็นข่าวซุบซิบแบบที่ใครๆ ชอบก็ได้

     

     

    สกปรก! จงอินสบถตอบ เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะมีเรื่องหรือต่อปากต่อคำกับใครตอนนี้ ใช่ ไม่เลย แต่โอเซฮุนก็มักจะเป็นอะไรที่ตรงกันข้ามอยู่เสมอนั่นแหล เพราะพอปัดมืออีกฝ่ายออกเพื่อเดินหนี วงแขนนั้นก็จงใจกั้นขวางไว้อย่างหน้าด้านๆ กวนประสาทไม่ให้เขาหนีไปไหนจนถึงที่สุด ความอดทนของจงอินลดลงทุกขณะ จากที่คิดว่าจะยอมไม่มีเรื่องกลับกลายเป็นว่าถ้าได้ต่อยเซฮุนสักหมัดก็คงดี

     

     

    และเขาคงทำมันไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะสายตาคู่นั้นมองตอบมาอย่างจริงจังจนน่าขนลุก

     

     

    “นายร้องไห้” เซฮุนพูดเสียงเรียบ ร้อนถึงจงอินซึ่งต้องรีบยกมือเช็ดหน้าอย่างลวกๆ แล้วสวนว่า

     

     

    “มันเรื่องของฉัน”

     

     

    ริมฝีปากได้รูปของคนฟังเม้มจนเป็นเส้นตรง จากนั้นจึงแค่นรอยยิ้มเย้ยหยัน แกล้งตะแคงตัวไปยืนขวางทางจงอินที่ทำท่าจะเดินหนีอย่างหน้าตาเฉย “แน่นอน ฉันชอบเรื่องของนายมากทีเดียว คราวนี้เป็นอะไรล่ะ จูบที่เรือนกระจกหรือว่า --”

     

     

    “เลิกเอาเรื่องเฮงซวยนั่นมาขู่สักที” จงอินปัดแขนของคนตรงหน้าจนพ้นทาง ก่อนจะได้ก้าวเท้าเดินหนีไปจากตรงนั้น ความหงุดหงิดทั้งหมดทั้งมวลในคืนนี้ของเขาควรมีที่ระบาย ไม้กายสิทธิ์แกนขนยูนิคอร์นขนาดสิบเศษสามส่วนสี่นิ้วถูกหยิบขึ้นชี้บนอกอีกฝ่ายเป็นการข่มขู่ ถ้าเขาคิดจะทำอะไรจริงๆ โอเซฮุนในตอนนี้ไม่มีทางหลบพ้นเลย “ถ้าอยากจะป่าวประกาศนักก็ทำไปเลย เพราะฉันคงไม่มีทางทำในสิ่งที่นายต้องการแน่”

     

     

    “...”

     

     

    เขาทิ้งท้ายไว้เท่านั้น จากนั้นจึงหมุนตัวกลับ เก็บไม้กายสิทธิ์ลงกระเป๋า หวังใจว่าการกระทำครั้งนี้คงช่วยยุติเรื่องโง่ๆ ที่หมอนี่ใช้ข่มขู่มาตลอดหลายวัน มาวัดกันดูซีว่าถ้าคนทั้งฮอกวอตส์ได้ยินเรื่องนี้แล้วจะปักใจเชื่อกันลงหรือไม่

     

     

    ทว่า คิมจงอินนั้นโง่เขลาเกินกว่าที่จะรู้ได้ว่าในใจของอีกฝ่ายซ่อนเร้นสิ่งใดไว้ เขาถูกคว้าศอก รั้งให้หันกลับโดยไม่ทันตั้งตัว แทบมองไม่ทันเลยว่ายามที่เอื้อนเอ่ยประโยคในยามนี้ออกมา โอเซฮุนกำลังทำสีหน้าแบบไหน ถ้าเป็นเรื่องนี้ล่ะเขาถูกประทับจูบ ร่างเซถลาเข้าไปตามแรงกระชากขณะริมฝีปากนั้นบดเบียดลงมา จงอินเบิกตาโพลง เมื่อรู้ตัวได้ก็ผลักคนตรงหน้าออกก่อนปลายลิ้นจะรุกล้ำล่วงเกิน เขายกมือขึ้นปิดปาก ใบหน้าทั้งแดงซ่านและร้อนเหมือนกับถูกมังกรพ่นไฟใส่ไม่มีผิด

     

     

    ส่วนเซฮุนแลบลิ้นเลียปาก ร่วมรับรู้พร้อมกันกับเขาว่ามีคู่รักทะเลาะกันอยู่ใกล้ๆ และกำลังจะเดินมาพบเหตุการณ์นี้

     

     

    ถ้าเป็นเรื่องที่จูบกับฉัน นายจะยังอยากให้ฮอกวอตส์ครื้นเครงหรือเปล่า

     

     

    นายมันน่ารังเกียจ! ซีกเกอร์บ้านกริฟฟินดอร์ใช้หลังมือถูกลีบปากจนมันแดงเป็นปื้น เมอร์ลินเป็นพยาน! เมื่อครู่หมอนี่ทำเรื่องเลวร้ายที่สุดกับเขา เรื่องที่ไม่ว่าอย่างไรในชาตินี้ คิมจงอินก็คงให้อภัยไม่ลงเด็ดขาด เขาเกลียดโอเซฮุน ขยะแขยงยิ่งกว่ามีแมงมุมในท้องยี่สิบตัวรวมกันเสียอีก

     

     

    เซฮุนเหลือบมองเงาซึ่งทอดยาวบนพื้น เจ้าคู่รักไม่มีประโยชน์นั่นใกล้จะมาถึงตรงนี้เต็มทีแล้ว ชายหนุ่มจากบ้านสลิธีรินคว้าข้อมือของจงอินเอาไว้แนบแน่น จากนั้นจึงลากให้เดินตามโดยใช้กำลังเข้าว่า ครั้นจะโวยวายเสียงดัง จงอินก็กลัวคนอื่นรู้ว่าเขากับโอเซฮุนสนทนากันตามลำพังที่นี่ พอจะเสกคาถาป้องกันตัวใส่ อีกฝ่ายก็หันมาชี้ไม้กายสิทธิ์พร้อมพึมพำ เอ็กซ์สเปลล์ลิอาร์มัส เท่านั้นเจ้าแท่งไม้แอชในมือของเขาก็กระเด็นออกไป ก่อนจะถูกเรียกไปรวบเก็บด้วย แอ็กซีโอ หมดหนทางต่อกรโดยสมบูรณ์

     

     

    เมื่อมองไปโดยรอบ จงอินแน่ใจว่าเขากำลังถูกพาขึ้นบันไดหนีงานเลี้ยงของโถงใหญ่ด้วยบันไดที่ไม่ค่อยถูกใช้บ่อยนัก จากชั้นสาม ชายหนุ่มก็มาโผล่ที่ชั้นห้า ทางเดินของฮอกวอตส์ในยามที่ไม่มีใครช่างวังเวงและเย็นเยียบ ตอนนี้คงพ้นผู้คนจริงๆ แล้ว จงอินถึงได้กระชากข้อมือแรงๆ กล้าตะโกนด่าทออีกฝ่ายโดยไม่กลัวแม้แต่คำสาป

     

     

    ทำบ้าอะไรของนาย...!

     

     

    มังกรหลับ

     

     

    แต่เซฮุนกลับพูดกับประตูบานที่สี่ของชั้นห้า เท่านั้นมันก็เปิดออกสู่ห้องน้ำโอ่อ่าใหญ่โต มีอ่างอาบน้ำกว้างขนาดนอนแช่ได้เกือบสิบคนอยู่ข้างในนั้น เมื่ออีกฝ่ายปิดประตู มันก็ถูกล็อกโดยอัตโนมัติ จงอินไม่เข้าใจว่าเหตุใดเขาถึงถูกพามาที่ห้องน้ำพรีเฟ็ค สถานที่ซึ่งมีเพียงแค่สิบสี่ชีวิตในแต่ละปีเท่านั้นที่จะได้โอกาสใช้งาน อันได้แก่ ประธานนักเรียน พรีเฟ็ค และกับตันทีมควิดดิชของแต่ละบ้าน

     

     

    ถ้าเป็นที่นี่คงไม่มีใครมากวน เจ้าชายแห่งบ้านสลิธีรินวางไม้กายสิทธิ์ของเขาลงบนโต๊ะใกล้ๆ ส่วนสายตากลับจาบจ้วงอย่างมาดร้าย มาดูกันว่าฉันจะน่ารังเกียจได้ถึงขั้นไหน

     

     

    จงอินกลืนน้ำลายลงคอ หมอนี่มันบ้าของแท้เลยเมอร์ลิน! เขาถอยหนีโอเซฮุนที่ย่างสามขุมเข้ามาใกล้ ส่วนมือขาวค่อยๆ ปลดหูกระต่ายน่าอึดอัดบนลำคอออกอย่างเชื่องช้า จากนี้จะเกิดอะไรขึ้น ซีกเกอร์จากบ้านสีแดงเองก็คาดเดาไม่ถูก เขารับรู้ได้เพียงว่าอันตรายบางอย่างกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ แต่ครั้นจะเลี่ยงหนี ไม้กายสิทธิ์กลับถูกยกชี้มาหา และเมื่อนั้นเองที่จงอินได้เข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายว่าตอนถูกคาถานี้ที่ฮอกส์มี้ด ร่างกายมันเชื่องช้าจนน่าอึดอัดเพียงไร

     

     

    อิมเปดิเมนต้า

     

     

    โอเซฮุนคิดจะทำร้ายเขาจริงๆ อย่างนั้นหรือ ถึงเกลียดกัน แต่การที่ใช้วิธีสกปรกถึงขนาดนี้มันค่อนข้างเกินเลยไปมากทีเดียว ซ้ำใบหน้าของกัปตันทีมสลิธีรินยังราบเรียบ ไม่แสดงออกเลยว่ากำลังสะใจหรือเกรงกลัวกับสิ่งที่คิดจะกระทำอย่างไรบ้าง

     

     

    เจ้าของผิวสีแทนไม่อาจหนีได้ขณะที่เซฮุนอ้อมไปยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง จงอินตัวสั่นเหมือนจะร้องไห้อีกรอบ ได้ยินเสียงทุ้มกระซิบข้างหูอย่างชัดเจนเมื่อกางเกงของเขาเริ่มถูกปลดออก

     

     

    จำวันนี้เอาไว้ให้ดี คิมจงอิน

     

     

    มือขาวจับเข้าที่แก่นกาย เริ่มรูดรั้งโอบกอดร่างที่โงนเงนจนเหมือนจะยืนไม่อยู่

     

     

    ฉันจะอยู่ในส่วนที่มืดมนที่สุดของหัวใจนาย

     

     

    จงอินเกลียดตัวเอง

     

     

    แม้ว่าเรี่ยวแรงเริ่มจะกลับมาแล้ว แต่ก็ยังสั่นเทาอยู่ในอ้อมกอดของโอเซฮุนซึ่งหย่อนตัวลงนั่งบนขอบอ่างเพื่อจะทำเรื่องน่ารังเกียจนี้ได้อย่างถนัดถนี่ เขานั่งบนตักอีกฝ่าย หลับตาหนีภาพส่วนกลางลำตัวซึ่งถูกปรนเปรอด้วยมือใหญ่ที่เคยแย่งชิงลูกสนิชไปจากเขาได้ในครั้งล่าสุด ยิ่งพยายามจะดิ้นขลุกขลัก วงแขนก็ยิ่งกอดรัดเอาไว้แน่นประหนึ่งเชือกเส้นใหญ่ ทั้งลมหายใจอุ่นซึ่งรดรินลำคอ เสียงหอบเบาๆ ข้างหู รวมไปถึงกลิ่นน้ำหอมราคาแพงคละคลุ้งจากเนื้อตัวเมื่อได้แนบชิด

     

     

    จงอินเกลียดทุกอย่าง -- ทุกอย่างที่หลอมรวมกันเป็นโอเซฮุน

     


     

     

     

     

     

    -------------------------------------------

     

    เมื่อสิ่งหนึ่งปิดลง อีกสิ่งได้เปิดขึ้น

    "หักสลิธีริน 150 แต้ม!"


    ชอบไม่ชอบยังไง คอมเมนท์หรือติดแท็กเป็นกำลังใจให้กันได้ที่ #เรดสนิช นะคะ



     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×