ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Jurassic world : What if we love ถ้าพวกเรารักกัน

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3 : ไดโนเสาร์วัยรุ่นคือไดโนเสาร์วัยเจริญพันธุ์

    • อัปเดตล่าสุด 5 เม.ย. 59






    ตอนที่ 3 : ไดโนเสาร์วัยรุ่นคือไดโนเสาร์วัยเจริญพันธุ์


                     


                      ว่ากันว่าช่วงที่เด็กย่างก้าวเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นเป็นอะไรที่รับมือได้ยากมาก...แต่ถ้ามองในมุมมองของสัตว์... การเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นคือการเข้าสู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์...


     

                      ถ้า คิดว่าเด็กวัยรุ่นรับมือได้ยากแล้ว ลองมาเจอกับแร็ปเตอร์สี่ตัวกับไฮบลิดอินดอมินัสเร็กซ์อีกสองตัวสิ แล้วจะรู้...ว่าการรับมือกับเด็กวัยรุ่นยังง่ายกว่าการรับมือกับไดโนเสาร์ วัยเจริญพันธุ์...

     

     

     

     

     

     

     

                     ไม่แน่ใจว่าเวลามันผ่านไปนานเท่าไร  อาจจะ 4 เดือนหรือว่านานกว่านั้น... 2 ปี ...ไม่น่าจะใช่    ซึ่งโอเว่นคิดว่าเวลามันน่าจะผ่านไปนานมาก...นานมากจนไดโนเสาร์ของเขาตัวโตจนมีขนาดเท่าเขาแล้วในตอนนี้   แน่นอนว่าเมื่อพวกมันโตขึ้น ปัญหาหลายๆอย่างย้อมตามมา

     

                      “นายน่าจะให้คนของฉันพาพวกมันเข้ากรงที่เตรียมเอาไว้ได้แล้วนะ” นี่ก็เป็นอีกหนึ่งในปัญหาที่ว่า  เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าช่วงเวลามันผ่านไปนานประมาณ 6 เดือนแล้ว วิค ฮอสกินส์ที่เห็นว่า อาวุธของเขายังไม่ถูกจับเข้ากรงเสียทีจึงต้องถ่อมาคุยกับเขาถึงที่บ้าน

     

                       “ไม่จำเป็นหรอกวิค ฉันควบคุมพวกมันได้” คิดว่านะ  แน่นอนว่าประโยคหลังโอเว่นไม่พูดให้อีกฝ่ายได้ยินแน่นอน   เขาใช้ความพยายามมา 2 อาทิตย์แล้วกับการพูดโน้มน้าวให้อีกฝ่ายไม่พาไดโนเสาร์ของเขาเข้ากรง   

     

                      โอเว่นรู้ว่าไดโนเสาร์ของเขาอันตราย  ก็แหง่แหละสายพันธุ์กินเนื้อทั้งหมดเลยนี่  แต่จากการที่เขาเลี้ยงพวกมันมาตั้งแต่ออกจากไข่  ได้ใช้เวลาร่วมกับพวกมัน  เฝ้ามองพวกมันเติบโต  บอกตามตรงเลยว่าเขาผูกพันกับพวกมันมาก...มากจนไม่มีวันยอมให้ใครพาพวกมันเข้าไปอยู่ในกรงขังเป็นอันขาด

     

                     วิคถอนหายใจแล้วส่ายหัว  ดวงตาเหลือบมองโอเว่นตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วเหลือบตามองดวงตาหลายคู่ที่จ้องมองเขามาจากข้างในบ้าน  เขาพอจะรู้ว่าทำไมโอเว่นถึงไม่ให้เขาเข้าไปคุยข้างในบ้าน เพราะฝูงแร็ปเตอร์กับอินดอมินัสเร็กซ์พวกนั้นยังไงล่ะ  พวกมันเป็นสัตว์หวงถิ่น และแสดงออกอย่างปิดไม่มิดว่าหวงแม่ของพวกมันมากแค่ไหน   ก็นะ มันก็น่าหวงอยู่หรอก  ในเมื่อโอเว่นน่ะ...น่าหลงใหลจะตาย

     

                      “ควบคุมได้ หึ อย่ามาโม้น่า สัตว์อย่างพวกมันไม่มีทางควบคุมได้ ฉันว่านายอย่ามาขวางทางพวกเราจะดีกว่า” โทมัสทำเสียงขึ้นจมูก  เขาเป็นหนึ่งในลูกน้องของวิคและเสียงที่เขาเปล่งออกมามันบ่งบอกถึงความไม่เป็นมิตร

     

                      โอเว่นไม่คิดจะตอบโต้กับโทมัส เขาทำเพียงแค่หันไปสบตากับเหล่าไดโนเสาร์ของเขาที่ยังคงอยู่ในบ้านและจ้องมองมาที่พวกเขาตาไม่กระพริบ

     

                      สัตว์มักมีประสาทสัมผัสที่ดีกว่ามนุษย์และรับรู้ถึงอันตรายได้ดี  ถ้าใครในที่นี้แสดงออกว่าเป็นภัยคุกคาม  พวกมันจะจู่โจมทันที  ซึ่งสัตว์ที่ว่านั้นรวมไปถึงไดโนเสาร์ด้วย 

      

                      โอเว่นไม่คิดจะห่วงวิคหรือโทมัสเลยสักนิด  เขาเป็นห่วงแค่ฝูงไดโนเสาร์ของเขาเท่านั้น  ก็นะ  เขาหมั่นไส้อยากให้พวกมันโดนกัดสักทีสองทีมานานแล้ว    โอเว่นกังวลใจนิดหน่อยกับการหายตัวไปของโบนส์ อินดอมินัสเร็กซ์สีขาวเหมือนกระดูก  เขาค่อนข้างกระวนกระวายใจเพราะว่าอีกฝ่ายมีความสามารถที่เขาไม่ได้ รายงานให้ใครฟังทั้งนั้น...นั่นคือความสามารถในการอำพรางตัว...ดังนั้น โบนส์อาจจะอยู่ที่ไหนก็ได้ในตอนนี้

     

                        โอเว่นละสายตาจากพวกบลูหันมามองวิคก่อนจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างข้างหลังมนุษย์สองคนนี้ ซึ่งมันทำให้เขาหน้าซีด...โบนส์ในโหมดพรางตัว!!...   จากการหักเหของแสงและด้วยความเคยชินที่อยู่ด้วยกันมานานทำให้เขาพอจะมองเห็นโบนส์อยู่บ้างลางๆ  และในตอนนี้โบนส์ก็ยืนอยู่ข้างหลังของวิค   โอเว่นกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากและพยายามทำใจให้เย็นเข้าไว้

     

                       “ถ้าฉันตอบสนองกับสิ่งที่นายเพิ่งพูดเมื่อกี้” โอเว่นกล่าว ดวงตาเหลือบมองพวกบลูมากกว่าจะเหลือบมองโบนส์ “มันจะทำให้ลูกๆของฉันเสียเด็ก”

     

                        วิคไล่สายตาไปตามทางที่โอเว่นมอง พอสบเข้ากับดวงตาอีก 5 คู่ที่มองจ้องมาอย่างไม่เป็นมิตรทำเอาเขาหน้าถอดสี และในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาแปลกๆ      โทมัสทำท่าจะเข้ามาหาเรื่องโอเว่นแต่โดนวิคคว้าคอเสื้อไว้เสียก่อน

     

                        “แล้วฉันจะมาใหม่” วิคกล่าวแล้วลากโทมัสไปยังรถที่พวกเขาขับมา เหมือนทั้งสองคนจะมีปากเสียงกันนิดหน่อย ก่อนจะขับรถออกไป

     

                      เมื่อผู้บุกรุกไปหมดแล้ว เหล่าแร็ปเตอร์ก็เปิดประตูเดินออกมาหาโอเว่น ในขณะที่โบนส์นั้นกลับสู่โหมดปกติแล้วเดินเข้ามาเอาจมูกดุนดันแก้มของโอเว่น

     

                       “เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ” โอเว่นพึมพำแล้วจับที่จมูกของโบนส์ “อย่าทำแบบนี้อีกนะโบนส์”

     

                     โบนส์ไม่ได้แสดงอาการว่ารับรู้หรือรับฟังในสิ่งที่เขาพูด  แต่โอเว่นเชื่อว่าโบนส์เข้าใจ แน่นอน จะไม่ให้เข้าใจได้ไง ไดโนเสาร์ที่ฉลาดขนาดเปิดประตูบ้านของมนุษย์ได้ ย่อมเข้าใจในสิ่งที่มนุษย์สื่อสารอย่างแน่นอน เขาคิดว่านะ

     

                      “เฮ้ย!” โอเว่นเบี่ยงหน้าหลบลิ้นยาวที่แดงที่เลียมาแทบจะไม่ทัน แต่ก็ใช่ว่าเขาจะหนีพ้นเมื่อโบนส์ใช้สองมือของมันจับเอวของเขาเอาไว้แล้วเริ่มเลียที่แก้มและคอของเขา  โอเว่นถึงกับขนลุกไปทั่วทั้งตัวแล้วพยายามดิ้นให้หลุดจากการเกาะกุมของโบนส์  แต่ต่อให้ดิ้นไปก็เท่านั้นเมื่ออุ้งมือหนาที่เต็มไปด้วยกรงเล็บนั้นยึดสะโพกของเขาไว้แน่น

     

                      “โบนส์หยุด” โอเว่นต้องยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาป้องกันตัวเองส่วนอีกมือก็พยายามดันร่างของโบนส์ออกไปห่างๆ  แต่ก็นะ แรงของมนุษย์อย่างเขาจะไปสู้แรงของไดโนเสาร์พันธุ์ผสมอย่างโบนส์ได้ยังไง

     

                      “กรรร!!” เสียงร้องคำรามพร้อมกับคมเขี้ยวของบลูที่ฝังลงมาบนคอของโบนส์แล้วกระชากร่าง ของอีกฝ่ายทุ่มลงกับพื้นท่ามกลางความตกใจของทุกๆคน...ที่จริง 1 คนกับอีก 4 ตัว...

     

                      “กรรร!!” ฟรอส อินดอมินัสเร็กซ์สีขาวเหมือนหิมะ น้องของโบนส์ คำรามและกำลังจะเข้าไปช่วยพี่ชายของตนแต่โดนชาร์ลีกับเอคโค่เข้ามาขวางเอาไว้

     

                      “กรรร!!!” โบนส์ที่โดนจับทุ่มกับพื้นลุกขึ้นมายืนสะบัดหัวไล่ความมึนงงไปสักครู่แล้ว หันมาเผชิญหน้ากับบลูที่ยืนขวางเขากับโอเว่นและจ้องเขาตาขวางพร้อมแยกเขี้ยว เตรียมตัวขย้ำเขาได้ทุกเมื่อที่เข้าใกล้โอเว่น

     

                      “เฮ้!!หยุดเดี๋ยวนี้!!” โอเว่นตะโกน เขาเดินเข้ามาคั่นกลางระหว่างโบนส์กับบลูที่กำลังเตรียมพร้อมจะเปิดศึกในไม่ช้า “ให้ตายเถอะพวกนายเป็นอะไรกันเนี้ย อย่ามาทะเลาะกันเองได้มั้ย พวกนายเป็นครอบครัวเดียวกันนะ”

     

                      เสียงร้องดังระงมของไดโนเสาร์ทั้ง 6 ตัวดังขึ้นเหมือนคัดค้านหรือฟ้อง หรืออะไรสักอย่าง แต่โอเว่นฟังไม่รู้เรื่อง ชายหนุ่มจึงทำเพียง “หยุด!!!ไม่งั้นฉันจะให้พวกนายนอนนอกบ้าน!!

     

                      เพียงแค่โอเว่นเอ่ยประโยคนั้นออกมาไดโนเสาร์ทั้ง 6 ตัวก็พากันเงียบแล้วพากันเข้ามาอ้อนโอเว่นแทนเพราะกลัวอีกฝ่ายจะไล่พวกเขาออกมานอนข้างนอกจริงๆ

                      “พอเลย ไม่ต้องมาอ้อน” โอเว่นเดินไปนั่งลงตรงขั้นบันไดที่ใช้ขึ้นมาบนระเบียงบ้านแล้วถอนหายใจ  เขาเหนื่อยและรู้สึกเพลีย เขาไม่รู้ว่าจะช่วยให้พวกบลูไม่ต้องเข้าไปมีชีวิตในกรงขังได้อีกนานเท่าไร  วิค ฮอสกินส์เริ่มมาถี่ขึ้นเรื่อยๆและเขาก็เริ่มจะจนปัญญากับการหาข้ออ้างรั้งไม่ให้วิคพาพวกบลูไปจากเขา  โอเว่นยกมือขึ้นกุมขมับอย่างจนปัญญา

     

                      เขา อาจจะลืมไปว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียว ชาร์ลีเดินเข้ามานอนลงข้างๆเขาแล้ววางหัวของมันลงบนตักของเขา ในขณะที่บลูใช้จมูกของมันถูไถแก้มของโอเว่นก่อนเอาหัวซุกลงที่ไหล่ของเขา อย่างให้กำลังใจปนอ้อนนิดๆ  มันอาจจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาในอนาคตได้ แต่มันก็ทำให้ความกังวลใจในตอนนี้ของโอเว่นเบาบางลง

     

                      สักพัก บลูก็ยืดตัวขึ้นแล้วเดินลงมามายืนอยู่บนพื้นด้านล่างเช่นเดียวกับไดโนเสาร์ตัวอื่นๆที่พากันวิ่งลงมายืนอยู่ตรงหน้าโอเว่น

     

                      “อะไร?”โอเว่นถาม บลูกับโบนส์งับที่แขนของโอเว่นคนละข้างแล้วออกแรงดึงพอให้โอเว่นลุกขึ้นมา “นี่จะเล่นวิ่งไล่จับกันใช่มั้ย?”

     

                      โอเว่นที่อยู่กับพวกนี้มานานเริ่มจะพอเดากริยาท่าทางของพวกนี้ออก ยิ่งไดโนเสาร์ของเขาพยักหน้าเป็นการตอบรับ  มันยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า...เขาต้องรับหน้าที่เป็นเหยื่อให้พวกนี้วิ่งไล่จับ...

     

                      “เฮ้อ โอเค ก็ได้ หันไปแล้วนับ 1-10 ช้าๆนะ” โอเว่นพูดราวกับกำลังพูดกับมนุษย์ด้วยกัน  ถ้าเป็นคนปกติมาเห็นคงหาว่าเขาบ้า แต่หารู้ไม่ว่าพวกมันฟังรู้เรื่อง  ใช่  พวกมันฟังรู้เรื่องและเข้าใจคำพูดได้ดีกว่ามนุษย์บางคนด้วยซ้ำ   เมื่อโอเว่นสั่งเสร็จ พวกบลูก็มายืนเรียงแถวหน้ากระดานในขณะที่โอเว่นเริ่มออกตัวเดิน ส่วนพวกบลูก็หันไปมองยังตัวบ้านแล้วนับ 1-10 ในใจช้าๆ  ส่วนโอเว่นนั้นพอเดินออกมาได้ถึง 3 ก้าว เขาก็ออกตัววิ่งเข้าไปในป่าทันที

     

     

     

    .

     

    .

     

    .

     

     

     

     

                  พวกเขาชอบการวิ่งไล่จับ มันเป็นความรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเรากำลังลุกเป็นไฟ  มันร้อนลุ่มไปหมดทั้งตัว ทั้งตื่นเต้นและรู้สึกดี   แน่นอนว่าโอเว่นเริ่มฝึกพวกเขาตั้งแต่พวกเขายังตัวกระเปี๊ยกเดียวจนมาตอนนี้ตัวใหญ่เท่าโอเว่นแล้ว...หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ...

     

                     เรื่องการตามกลิ่น,การทำงานเป็นทีมและการออกล่าเหยื่อ  โอเว่นให้อิสระพวกเขา ในขณะที่ไอ้เจ้าสัตว์ที่ชื่อวิก ฮอสกินส์พยายามจะจับพวกเขาไปอยู่ในสถานที่แคบๆที่เรียกว่ากรง  พยายามจะทำให้พวกเขาหมดอิสรภาพ   ไม่สามารถวิ่งได้หรือกินเท่าที่ต้องการได้...รวมไปถึงการได้อยู่กับโอเว่น...

     

                      วันนี้เป็นอีกวันที่พวกมันมาคุยกับโอเว่นถึงหน้าบ้าน   โอเว่นไม่ยอมให้พวกมันเข้ามาในถิ่นของเราและไม่ยอมให้พวกเราออกไปเจอหน้าพวกมัน  โอเว่นพยายามปกป้องพวกเรา ให้ฝูงของเรายังคงอยู่ แต่พวกมันก็พยายามแยกพวกเราออกจากกัน

     

                        “ฉันอยากจะฆ่ามัน” เดลต้าพึมพำ  ไม่ใช่แค่เดลต้าตัวเดียวหรอกที่อยากจะฆ่ามัน  แต่เป็นพวกเขาทั้งฝูง  พวกเขาอยากจะฉีกมันเป็นชิ้นๆใจจะขาด ถ้าโอเว่นไม่ห้ามพวกเขาเอาไว้ล่ะก็...มันตายแน่!!...

     

                         “เดี๋ยวก่อนนะ นั้น โบนส์รึเปล่า?” คำถามของเอคโค่ทำให้ทั้งหมดหันไปมองยังทิศทางที่เอคโค่กำลังมองอยู่ ก็พบกับโบนส์ในโหมดพลางตัว

     

                          “มันออกไปตั้งแต่เมื่อไรว่ะ?” ชาร์ลีสงสัย โอเว่นหันมาสบตากับเขาซึ่งมันเหมือนเป็นสัญญาณว่า โอเว่นเองก็รู้ว่าโบนส์นั้นอยู่ข้างนอกแล้ว

     

                          “นี่แหละโอกาส ฆ่ามันแม่งเลย!!” เดลต้าสนับสนุนให้โบนส์รีบๆขย้ำคอพวกผู้บุกรุกเสีย โดยที่ตัวโบนส์เองก็อยากจะทำ แต่เจ้าตัวไม่อยากจะทำให้โอเว่นโกรธหรือเกลียดเขาขึ้นมาเสียก่อนจึงออกมายืนคุมเชิงไว้   แต่ถ้าพวกผู้บุกรุกนี้ทำอะไรโอเว่นขึ้นมาล่ะก็...โดนกัดหัวหลุดแน่!!...

     

                          “ไอ้บ้านั้นมันจ้องจะทำร้ายโอเว่น” บลูจ้องโทมัสเขม็ง  อีกฝ่ายทำท่าจะเข้าไปทำร้ายโอเว่น ในขณะที่พวกเขาจ้องมองพวกมันอย่างเอาเรื่องและเตรียมพร้อมจะพุ่งออกไปจัดการพวกมันได้ทุกเมื่อ  ซึ่งท่าทางไอ้เจ้าสัตว์ที่ชื่อฮอสกินส์นั้นจะรับรู้ถึงอันตรายเลยล่าถอยไปก่อน

     

                           ตั้งแต่พวกเขาเริ่มตัวโตเท่ากับโอเว่น พวกเขาก็เลิกเรียกโอเว่นว่าแม่และเริ่มเรียกชื่อของโอเว่นแทน  ถึงแม้ว่าโอเว่นจะไม่ได้เข้าใจก็ตาม

     

                           เมื่อพวกผู้บุกรุกล่าถอยกลับไปแล้ว พวกเขาก็เปิดประตูบ้านออกไปหาโอเว่นในขณะที่โบนส์กลับสู่โหมดปกติ

     

                        “เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ” โอเว่นพึมพำแล้วจับที่จมูกของโบนส์ “อย่าทำแบบนี้อีกนะโบนส์”

     

                       โบนส์ไม่ได้แสดงอาการว่ารับรู้หรือรับฟังในสิ่งที่โอเว่นพูด ถึงแม้เขาจะเข้าใจทุกคำพูดก็ตาม และโดยที่โอเว่นไม่ทันตั้งตัว เขาก็ตวัดลิ้นสีแดงของเขาจะเลียที่ใบหน้าของโอเว่น แต่ทว่าอีกฝ่ายสามารถหลบได้เสียก่อน ถึงกระนั้นโบนส์ก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เขาใช้อุ้งมือทั้งสองข้างจับเข้าที่เอวของโอเว่นเพื่อกันไม่ให้อีกฝ่ายหลบเขา ได้อีกแล้วเริ่มละเลงลิ้นลงบนซอกคอของอีกฝ่าย

     

                         กลิ่นตัวอันเป็นเอกลักษณ์และรสชาติของอีกฝ่าย ทำโบนส์แทบคลั่ง รสชาติที่ลิ้นของเขาได้สัมผัสมันทำให้เขาอยากจะทำมากกว่าเลีย...เขาอยาก...ฝังคมเขี้ยวลงไปบนเนื้อหนังของโอเว่น...

     

                           “โบนส์หยุด” โอเว่นยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาป้องกันตัวเองส่วนอีกมือก็พยายามดันร่างของโบนส์ออกไปห่างๆ  แต่แรงของมนุษย์ไม่สามารถทำให้ไดโนเสาร์พันธุ์ผสมอย่างโบนส์สะทกสะท้านได้

     

                          “หยุดเดี๋ยวนี้!!” เสียงร้องคำรามพร้อมกับคมเขี้ยวของบลูที่ฝังลงมาบนคอของโบนส์แล้วกระชากร่าง ของอีกฝ่ายทุ่มลงกับพื้นท่ามกลางความตกใจของทุกๆคน...ที่จริง 1 คนกับอีก 4 ตัว...

     

                      “โบนส์!!” ฟรอส ร้องคำราม เมื่อเขาตั้งตัวได้ ฟรอสก็เตรียมตัวพุ่งเข้าไปช่วยพี่ชาย แต่ก็โดนชาร์ลีกับเอคโค่เข้ามาขวางเอาไว้เสียก่อน

     

                      “แก ไอ้เตี้ย!!!” โบนส์ที่โดนจับทุ่มกับพื้นลุกขึ้นมายืนสะบัดหัวไล่ความมึนงงไปสักครู่แล้ว หันมาเผชิญหน้ากับบลูที่ยืนขวางเขากับโอเว่นและจ้องเขาตาขวางพร้อมแยกเขี้ยว เตรียมตัวขย้ำเขาได้ทุกเมื่อที่เข้าใกล้โอเว่น...นี่จะบวกกันใช่มั้ยไอ้ เตี้ย!!...

     

                      “เฮ้!!หยุดเดี๋ยวนี้!!” โอเว่นตะโกน เขาเดินเข้ามาคั่นกลางระหว่างโบนส์กับบลูที่เตรียมพร้อมจะเปิดศึกในไม่ช้า “ให้ตายเถอะพวกนายเป็นอะไรกันเนี้ย อย่ามาทะเลาะกันเองได้มั้ย พวกนายเป็นครอบครัวเดียวกันนะ”

     

                      “ไม่ได้เป็น!!

     

                      “มันไม่ใช่ครอบครัวของฉัน!!

     

                      “อย่าเข้าข้างมันนะโอเว่น ไอเตี้ยนี่มันหาเรื่องก่อน”

     

                      “แกว่าใครเตี้ย”

     

                      “ก็แกนั้นแหละ!!

     

                      “เรียกร้องความสนใจว่ะ”

     

                      “ฉวยโอกาสนี่หว่าโบนส์”

     

                      “หึงโหดไปนะบลู”

     

                       “ว่าแต่บลูเตี้ย แกสูงมากกว่าบลูแค่ 2 เซนเองไอ้อ่อน”

     

                       เสียงการโตเถียงกันของไดโนเสาร์ทั้ง 6 ตัวดังขึ้นจนน่าปวดหัว ซึ่งคนเพียงฟนึ่งเดียวที่อยู่ที่นี่เริ่มรู้สึกปวดหัวมากถึงมากที่สุดจึงต้องทำการหยุดการโต้เถียงนี้เสียที “หยุด!!!ไม่งั้นฉันจะให้พวกนายนอนนอกบ้าน!!

     

     

     

                     พรึบ!!!

     

     

     

                    “...”

     

                    “...”

     

                   “ไม่เอา!!!

     

                   “พวกเราหยุดทะเลาะกันแล้วนะ โอเว่นอย่าไล่พวกเราออกมานอนข้างนอกนะ”

     

                  เพียงแค่โอเว่นเอ่ยประโยคนั้นออกมาไดโนเสาร์ทั้ง 6 ตัวก็พากันเงียบแล้วพากันเข้ามาอ้อนโอเว่นแทนเพราะกลัวอีกฝ่ายจะไล่พวกเขาออกมานอนข้างนอกจริงๆ

     

                     “พอเลย ไม่ต้องมาอ้อน” โอเว่นเดินไปนั่งลงตรงขั้นบันไดที่ใช้ขึ้นมาบนระเบียงบ้านแล้วถอนหายใจ  เขายกมือขึ้นกุมขมับอย่างจนปัญญากับการที่วิก ฮอสกินส์เริ่มมาถี่ขึ้นเรื่อยๆ  การกระทำของโอเว่นทำให้ไดโนเสาร์ทั้ง 6 ตัวรู้สึกเป็นห่วง

     

                      ชาร์ลีเป็นตัวแรกที่เดินเข้ามานอนลงข้างๆโอเว่น แล้ววางหัวของเขาลงบนตักของโอเว่น  ในขณะที่บลูใช้จมูกของเขาถูไถแก้มของโอเว่นก่อนเอาหัวซุกลงที่ไหล่ของชายหนุ่มอย่างให้กำลังใจปนอ้อนนิดๆ  มันอาจจะไม่สามารถช่วยอะไรได้ แต่มันก็ทำให้ความกังวลใจในตอนนี้ของโอเว่นเบาบางลง

     

                      สักพัก บลูก็ยืดตัวขึ้นแล้วเดินลงมามายืนอยู่บนพื้นด้านล่างเช่นเดียวกับไดโนเสาร์ตัวอื่นๆที่พากันวิ่งลงมายืนอยู่ตรงหน้าโอเว่น

     

                      “อะไร?”โอเว่นถาม บลูกับโบนส์งับที่แขนของโอเว่นคนละข้างแล้วออกแรงดึงพอให้โอเว่นลุกขึ้นมา “นี่จะเล่นวิ่งไล่จับกันใช่มั้ย?”

     

                      โอเว่นที่อยู่กับพวกเขามานานพอจะเดากริยาท่าทางของพวกเขาออก ยิ่งพวกเขาพยักหน้าเป็นการตอบรับ  มันยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า...โอเว่นต้องรับหน้าที่เป็นเหยื่อให้พวกเขาวิ่งไล่จับ...

     

                      “เฮ้อ โอเค ก็ได้ หันไปแล้วนับ 1-10 ช้าๆนะ” โอเว่นกล่าว พวกบลูจึงมายืนเรียงแถวหน้ากระดานในขณะที่โอเว่นเริ่มออกตัวเดิน ส่วนพวกบลูก็หันไปมองยังตัวบ้านแล้วนับ 1-10 ในใจช้าๆ  ส่วนโอเว่นนั้นพอเดินออกมาได้ถึง 3 ก้าว อีกฝ่ายก็ออกตัววิ่งเข้าไปในป่าทันที  

     

                     “ถึงสิบรึยัง?” เอคโค่ถามหลังจากที่โอเว่นวิ่งเข้าไปในป่าแล้ว

     

                     “ถึงแล้ว” โบนส์เตรียมตัวที่จะพุ่งเข้าไปในป่า ไม่คิดจะสนใจพี่น้องตัวอื่นๆเลยสักนิด

     

                       “เฮ้ย โอเว่นบอกให้นับช้าๆนะ” ชาร์ลีมายืนขวางหน้าโบนส์ไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะทันได้ออกตัว

     

                        “จะช้ารึเร็ว ฉันก็นับถึงสิบแล้วไง ฉันเปล่าโกงสักหน่อย” โบนส์ไม่ใส่ใจกับร่างเล็กจ้อยของชาร์ลีที่ขวางอยู่ตรงหน้า

     

                        “เดี๋ยวก่อนโบนส์”

     

                        “มีอะไร ไอ้เตี้ย ฉันกำลังรีบๆอยู่นะ”

     

                        “...เออ แต่ถ้าแกคิดจะไปหาโอเว่นโดยที่ไม่มีพวกเรา  ฉันว่าแกคงแพ้แน่นอน  เว้นเสียแต่ว่า...”

     

                        “อะไร?”

     

                        “...เราจะร่วมมือกัน”

     

                         มันคือความจริงที่โบนส์กับบลูไม่ค่อยชอบขี้หน้ากันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว  ทั้งสองตัวมักจะแก่งแย้งการเป็นหัวหน้ากันอยู่เสมอๆ  แต่ถ้าเป็นในเรื่องที่จะต้องร่วมมือกัน...มันจะเป็นเช่นไรกันนะ?...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    TBC.

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ++++++++++++++++

     

     กลับมาแล้ว!!มีใครคิดถึงบ้าง ที่หายไปนี่ไม่ใช่อะไร คอมเครื่องเก่ามันเกิดอาการที่เลี้ยงว่า ตาย!! ก็เสียนั้นแหละ

    แล้วมันซ่อมไม่ได้ เลยต้องย้ายสำมโนครัวมาอยู่ใสคอมเครื่องใหม่ และต้องเริ่มเขียนใหม่หมดเลย!!! โอ้วกอด

    แถม ยังการบรรยายในส่วนของเหล่าไดโนเสาร์ของเรานี่จะเป็นอะไรที่ยากมาก คือการมองในมุมมองของสัตว์คือเราจะต้องอยู่ในมุมมองนั้นด้วย...เข้าใจนะ... เราจึงต้องใช้เวลาศึกษา...ศึกษามากเกินจนเกือบถูกจับเข้าสวนสัตว์ เฮ้ย โรงพยาบาลจิตเวช เฮ้ย...เอิ่ม ถูกแล้ว

    ก็เป็นไปตามนี้แหละท่านผู้ชม

    และเจอกันในตอนหน้า 

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×