ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love Destiny~ลุ้นรักข้ามขอบฟ้า~

    ลำดับตอนที่ #4 : #ความทรงจำและการจากลา#

    • อัปเดตล่าสุด 3 มี.ค. 58



    ตอนที่4
    V
    V
    V

     

         ผ่านไปแปปเดียวก็ครบเวลาที่ฉันได้มาฝึกงาน วันนี้เป็นวันศุกร์ซึ่งครบกำหนดพอดี ส่วนเรื่องของฉันกับควิสเซอร์น่ะเหรอ ก็ตั้งแต่วันที่เราไปเที่ยวด้วยกันนั้น ก็ยังไม่ได้เห็นหน้าอีกเลยไม่รู้เหมือนกันว่าหายไปไหน แต่ฉันก็เห็นข่าวในทวิตเหมือนกันนะ ว่ามีคนเห็นคนหน้าคล้ายเขาไปเที่ยวกับผู้หญิงที่ถนนคนเดิน นี่คงเป็นสาเหตุที่เขาหายเงียบไปแหละ

     

    หลังเลิกงานวันสุดท้ายฉันก็กับหอเหมือนเดิมตามปกติไม่มีอะไรพิเศษ

     

    21:30

    กินข้าวอาบน้ำเสร็จก็เตรียมตัวจะเข้านอน

    ติ๊ง!

    เสียงข้อความเข้า

    /พรุ่งนี้แปดโมงเช้าฉันจะมารับนะ  : ควิสเซอร์

    ฉันคิดจะถามกลับไป แต่ก็ไม่ดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยถามทีเดียว

     

     

    วันนี้ฉันตื่นตั้งแต่ 6โมงเช้าเพื่ออาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะไปตามนัดที่ควิสเซอร์บอกไว้  เขามาถึงที่หน้าหอพัก 8โมงเป๊ะ

    "ขึ้นรถสิ"

    "ก่อนอื่นฉันขอถามหน่อยว่าเราจะไปไหนกัน" ฉันถามไปด้วยความสงสัย

    "ไม่ต้องถามมากน่า ฉันไม่พาเธอไปขายก็แล้วกัน"

    ในที่สุดฉันก็ต้องยอมขึ้นรถมาแต่โดยดี  ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะไปที่ไหน แต่ที่รู้ๆฉันนั่งรถมาจะ สองชั่วโมง จนเผลอหลับไป  

     

    Quizer talk

    หลังจากที่ผมเกือบถูกจับได้วันนั้น ก็มีรูปหลุดออกมาบ้าง แต่ไม่ชัดเจนจนทุกคนรู้ว่าเป็นผม หลังจากคืนนั้นผมเลยถูกผู้จัดการสั่งห้ามออกจากห้อง  หนึ่งวัน เพื่อให้ไม่เป็นที่สงสัยแก่พวกนักข่าวและแฟนคลับ

    นี่ก็ 5วันแล้ว และผมมีแพลนที่จะกลับเกาหลีวันอาทิตย์นี้ ผมเลยชวนเมรีนไปเที่ยว  แต่ผมไม่ได้บอกเธอหรอกว่าจะไปที่ไหน กะว่าจะเซอร์ไพท์

     

    นั่งรถมาได้ซักพัก ยัยบื้อนี่ก็หลับซะละ ขี้เซาจริง  เวลามองยัยนี่หลับทีไร บอกตามตรงผมอดใจแทบไม่ไหวทุกที  ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยเจอผู้หญิงนะ   แต่อาจเป็นเพราะผมเจอมามากเกินไป  ผมเลยรู้สึกหวั่นไหวเวลาอยู่กับเมรีน เธอไม่เหมือนคนอื่น ที่ฒเคยรู้จัก

     

    End talk

     

    "ห้าวววว  ยังไม่ถึงอีกเหรอเนี่ย นี่นายจะพาฉันไปขายชายแดนหรือไง"

    "ตื่นมาก็พูดไม่หยุดเลยนะ ใกล้จะถึงละ"

    หลังจากนั้นรถก็ขับผ่านทะเลที่กว้างจนสุดลูกหูลูกตา

     

    "ว้าววววสวยจัง" ฉันเผลอยิ้มให้กับภาพตรงหน้า

    "อย่าบอกนะว่าเธอไม่เคยมาเที่ยวทะเล"

    "อืม" ก็มันจริงๆนี่ บ้านฉันไม่ได้มีฐานะร่ำรวยขนาดนั้น  และอีกอย่างบ้านฉันกับทะเลมันไกลกันเยอะ

    "เอาล่ะ  อย่าเพิ่งดราม่านะ ฉันพาเธอมาเที่ยวไม่ได้พามาถ่ายมิวสิควีดีโอ " ฉันอยากจะตบปากหมอนี่ซักที ปากดีเหลือเกิน เห็นอยู่ว่าหน้าฉันมันกำลังอยู่ในอารมณ์ไหน

     

    พวกเรากินเที่ยวเล่น และตอนนี้เวลา 12:45น. เรากำลังจะนั่งเรือไปยังเกาะที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของทะเลนี่  และแล้วเราก็มาถึง

     

    บรรยากาศบนเกาะนี้มันช่างเงียบ ไม่ใช่สิเงียบมาก แต่ในแผนที่ของเกาะ มันบอกว่าด้านในของเกาะจะมีน้ำตกอยู่ เรากำลังจะเข้าไปดูกัน

     

    "นี่สรุปว่า ฉันหรือนาย ที่เป็นคนไทยนายนี่รู้ดีกว่าฉันซะอีก"

    "ฉันก็ว่างั้นแหละ คิดผิดชะมัด" ดู้ดูยังจะมีหน้ามาว่าฉันอีกทั้งๆที่เขาแท้ๆที่ลากฉันมา แต่เอาเถอะ ฉันจะถือว่ามาเที่ยวพักผ่อน ฉันจะไม่โกรธ(มาก)

     

    เราใช้เวลาอยู่บนนี้นานพอสมควร ไม่ใช่สิ นานจนลืมดูเวลา พอรีบวิ่งออกมาตรงฝั่งก็แทบน้ำตาตก เรือไปแล้ว และที่สำคัญมันเป็นรอบสุดท้ายของวัน อย่างนี้ฉันก็ต้องติดเกาะน่ะสิ ฮืออออออ

     

    "เป็นเพราะเธอ ที่เพลินจนลืมดูเวลา" ยังจะมีหน้ามาโทษฉันอีกมันใช่เรื่องไหม

    "เอ๊ะ นายคิดว่าฉันอยากจะมาติดอยู่แบบนี้กับนายมากเหรอห๊ะ"

    "ชิ น่ารำคาญชะมัด" แล้วเขาก็ทิ้งให้ฉันยืนเศร้าอยู่คนเดียว ส่วนเขาน่ะเหรอ เดินไปไหนไม่รู้  ผ่านไปซักพัก เขาก็กลับมาพร้อมฟืน และมะพร้าว ลูกหนึ่ง

     

    ตอนนี้ก็เริ่มมืดแล้วจึงจำเป็นที่จะต้องหาที่นอนก่อน พวกเรานั่งรอบกองไฟอยู่ที่ริมฝั่งของเกาะ  จะว่าไปก็บรรยากาศดีเหมือนกันนะ ฉันนั่งคิดและมองทะเลไปอย่างสบายใจ  จนแปลกใจว่าทำไมไอ้คนที่นั่งข้่งๆทำไมมันเงียบจัง แต่พอมองอีกที

     

    "เอ๊ะเท้านายไปโดนอะไรมา" ตรงเท้าของควิสเซอร์มีเลือดซึมออกมา

    "ไม่เป็นไรหรอกแค่ เปลือกหอยบาด"

    "ห๊ะแล้วทำไมนายไม่บอกฉัน"

    "มันไม่ใช่เรื่องใหญ่"

    "หึ่ยน่าโมโหจริงๆ ยื่นขานายมานี่ "ฉันลุกไปนั่งใกล้ๆเท้าของเขาแล้ว ฉีกชายเสื้อตัวเอง มามัดไม่ให้เลือดมันไหลไปมากกว่านี้ เดี๋ยวเลือดจะหมดตัวตายซะก่อน

    "ทำอะไรของเธอ"

    "ก็ห้ามเลือดไง"

    "อืม ขอบใจ" และก็จบบทสนทนาไปอีกพักนึง  นี่ก็ดึกมากแล้วฉันจึงนอนพิงกับขอไม้ที่อยู่ใกล้ๆ ส่วนควิสเซอร์เองก็อยู่ไม่ไกลกันนัก

     

    "นะ นะ หนาว" ฉันพยายามลืมตาขึ้นมามองหาเสียง  เอ๊ะ ฉันคงไม่ถูกผีหลอกใช่ไหม แต่พอมองดูดีๆอ่อเสียงของควิสเซอร์นี่เอง

    "เห้...นายเป็นอะไรไป" ฉันค่อยๆเข้าไปเรียกเขาใกล้ๆ

    "ควิสเซอร์ตอบฉันสิ"

    "ฉะ ฉัน นะ หนาว"

    พอแตะหน้าผากดูก็คือ เขาเป็นไข้ น่าจะเป็นเพราะผิดจากแผล

    "แล้วฉันจะข่วยนายยังไงดีเนี่ย"ตอนนี้ฉันคิดอะไรไม่ออก ก็เลยค่อยๆเข้าไปใกล้ๆ แล้วก็กอดเขาไว้ นั่งใกล้ๆกองไฟ เพื่อให้เขารู้สึกอุ่นขึ้น และเราก็เผลอหลับไปในสภาพนั้น  ....

     

    Quizer talk

     

    เราคงเที่ยวกันเพลินไปหน่อยจนต้องมาติดแหง็กอยู่บนเกาะนี้ ใจนึงผมก็เบื่อนะ  แต่อีกใจนึงมันก็ดีที่จะได้อยู่กับเมรีนสองคน อย่าคิดไปไกลนะครับแค่ อยู่ด้วยกันเฉยๆ

     

    ในตอนที่ผมออกไปหาฟืน ผมคงเผลอเหยียบเปลือกหอย แต่ผมไม่ได้ใส่ใจ มันคงเล็กน้อย  แต่เมรีนน่ะสิ  ตกใจเกินเหตุ

     

    ผมจำได้ว่า เมื่อคืน ผม เป็นไข้ไม่  แต่ที่รู้ๆ เมรีน เธอนั่งกอดผมไว้ทั้งคืน  เพราะผมหนาวมากจากพิษไข้  ไม่รู้ทำไมผมถึงอยากหยุดเวลาให้อยู่แบบนั้นตลอดไป

    End talk

     

     

    ""เช้าแล้วเหรอเนี่ย" ฉันลุกมาในสภาพที่เพลียๆหน่อย เพราะเมื่อคืนก็เฝ้าเขาทั้งคืน

    "อืม อีกเดี๋ยวเรือก็คงมาเตรียมตัวเถอะ"

    "อื้อ ฉันลุกขึ้นยืนบิดตัวซ้ายขวา จนเสื้อมันลอยขึ้นซะสูง ฉันเองก็ลืมตัวไปว่าเสื้อฉันมันพึ่งโดนฉีกไป

     

    "อ้ะ ใส่ซะ "เขาถอดเสื้อเชิ้ตตัวนอกมาคลุมให้ฉัน เพราะเสื้อฉันตอนนี้มันเซ็กซี่ไปนิด

     

    "อ้ะเรือมาแล้ว ไปเถอะ" และแล้วเราก็ได้กลับบ้านแล้วววว

     

    หลังจากกลับมาถึงที่หอ  ฉันก็คิดทบทวนเรื่องที่เราคุยกันมาระหว่างทางกลับ  คือวันนี้ คือวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันที่ควิสเซอร์จะเดินทางกลับเกาหลี  วันนี้ 2ทุ่ม  แปลกนะแค่เขากลับบ้านเขา ทำไมฉันจะต้องรู้สึกแปลบๆที่ใจยังไม่รู้

    “ถ้านายกลับไปแล้วนายจะยังจำฉันได้อยู่ไหมนะ”  ฉันนั่งพูดคนเดียว นี่ฉันกำลังเป็นบ้าอะไรนี่ คิดถึงเขาทำไม

     19.30

    ตอนนี้ฉันเพิ่งอาบน้ำเสร็จ  กำลังจะเข้านอน  แต่แล้ว ฉันก็ทำไม่ได้  ฉันจะต้องไปส่งเขาครั้งสุดท้ายดีไหม  ฉันคิดไปคิดมาจน ในที่สุด ฉันก็ต้องไป

     

    ณ สนามบินสุวรรณภูมิ

    ผู้คนมากมายทั้งคนที่จะไป และจะมา  แล้วฉันจะหานายเจอได้ยังไง   ตอนนี้กำลังปวดหัว  และเวียนหัวมาก  ในใจก็คิดอะไรมากมาย 

    ~ท่านผู้โดยสารที่กำลังจะไปยัง เกาหลี  flight %*% ขณะนี้เครื่องบินกำลังจะ แลนดิ้ง แล้วค่ะ~~

    ทันใดที่ได้ยินเสียงประกาศใจฉันก็แทบทรุดลงตรงนั้น 

    “นี่ฉันจะไม่ได้เจอนายแล้วจริงๆเหรอ” พูดไปน้ำตาก็พลางไหลลงมาอาบแก้มทั้งสองข้าง นี่ฉันไม่อายคนอื่นหรือไงนะ

    “เห้  ยัยบื้อ ” ทันใดนั้นเอง เสียงนั้นก็ทำให้ฉันอึ้งอีกครั้ง

    “ควิสเซอร์ ”

    “ใช่ฉันเอง  ”

    “นายยังไม่ไปอีกเหรอ ”

    “เหลือเวลาอีกตั้ง 15 นาที  ฉันกำลังรอว่าจะมียัยบื้อที่ใดมาส่งฉันหรือปล่าวน่ะสิ”

    “นายมันบ้า”

    “โอ๋ๆ ไม่ร้องนะ   ไทย- เกาหลี แค่นี้เอง ไว้เจอกันใหม่นะ ยัยบื้อ” และแล้วก็ถึงเวลาจากลาจริงๆแล้วสินะ

    “อื้อ  ดูแลตัวเองด้วยนะ  มาเที่ยวหาฉันบ้างล่ะ  พ่อซุปตาร์” ฉันต้องจำใจฝืนยิ้ม

    “ฉันไปละนะ ” พูดจบเขาก็เข้ามากอดฉัน  ฉันรู้สึกว่ากอดครั้งนี้มันอบอุ่นมาก   จนฉันเผลอกอดตอบ

    “บ้ายบาย ” ฉันได้แต่โบกมือ ลาให้เขา  ฉันคงทำได้แค่นี้จริงๆ

     

     

     

     

     

     

    #ผ่านไปอีกหนึ่งตอน  เรื่องจะเป็นยังไงต่อ  แล้วสองคนนี้จะได้เจอกันอีกไหม  และจะเป็นยังไงต้องติดตามกันนะคะ Jขอบคุณที่ติดตามอ่านกันน้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×