ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Abnormal NPC (คนธรรมดา?กับNPCไม่ปกติ)

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่3 ที่รักค่ะ เด็กคนนี้คือลูกของเรา(100%)

    • อัปเดตล่าสุด 8 ก.พ. 58


          ภายในห้องๆหนึ่ง

          "M เขาหายไป  ฉันลบความทรงจำของเขาแล้วจะส่งเขาไปอยู่ในเซิร์ฟเวอร์ทดลอง รอให้เวลาในเซิร์ฟเวอร์หลักผ่านไปซักร้อยปี เมื่อผู้เล่นมีระดับพอที่ปกป้องตัวเองได้บ้าง แล้วค่อยนำตัวเขากลับมา แต่เขากลับหายไป"  ชายวัยกลางคนกำลังนั่งจิบกาแฟในห้องทำงานของตน แต่อยู่ๆก็มีเสียงผู้หญิงที่เค้ารู้จักดีดังออกมาจากอุปกรณ์การเชื่อมต่อไร้สายบนโต๊ะ ใบหน้าที่เคยปรากฏแต่รอยยิ้มขมวดคิ้วเล็กน้อย    หาย? หายไปไหน? ได้ยังไง?

          "หายไป?"

          "ฉันเช็กข้อมูล npc และมอนสเตอร์ทั้งหมดของเซิร์ฟเวอร์หลักและทดลองแต่ไม่มีข้อมูลของเขาแม้แต่บิต(bit)เดียว ราวกับว่าเขาไม่เคยมีตัวตน แบบนี้มัน..."  เสียงที่ดังออกมาจากระบบเชื่อมต่อไร้สายนั้นมีความรู้สึกเศร้าสร้อยและอาลัยอาวรณ์ถึงผู้ที่หายไป

          "ถ้าแม้แต่เธอที่เป็น'ผู้สร้าง'ยังหาเขาไม่เจอ ผมก็ไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว คิดซะว่าเขาไม่เคยมีตัวตนก็แล้วกัน"

          "อ้อ อีกอย่างนะอลิส ไม่เอาแล้วนะnpcที่เธอสร้างแล้วใส่กิเลสของมนุษย์ลงไปเกินอัตราที่ควรจะเป็น ถึงจะรู้ว่าเพื่อศึกษาก็เถอะ แต่เธอเองช่วงนี้ไม่รู้สึกว่าตนเองเปลี่ยนไปบ้างเลยเหรออลิส เธอนะคือ 'Mother' AIต้นกำเนิดผู้สร้างและควบคุมโลกแห่งนั้น ฉันยังไม่อยากให้โลกใบนั้นหายไปหรอกนะ"

          "ฉันจะระวัง ขอตัว"  ปี๊บ!

          เฮ้อ   Mถอนหายใจ แล้วนึกถึงเธอที่คุยกับเขาเมื่อครู่  อลิส เธอเป็น AI ที่พ่อของเขาและเพื่อนร่วมงานช่วยกันสร้างขึ้นมาเมื่อ10ปีก่อน เขายังจำได้ตอนที่เขาอายุ25 เขาไปที่ทำงานของพ่อในต่างประเทศเพราะอยากรู้ว่าท่านทำอะไรกันแน่ถึงไม่เคยกลับมาบ้านเลยตลอด10ปีที่ผ่านมา ที่ทำงานของพ่อเป็นบริษัทขนาดใหญ่ในนั้นมีเครื่องมือแปลกๆมายมาก แต่ที่สะดุดตาที่สุดคือ ลูกบอลสีขาวขนาดประมาณสิบเมตรลอยอยู่กลางอากาศในห้องว่างสีขาว พ่อบอกเขาว่านั้นคืออริส ระบบปัญญาประดิษฐ์ที่มีความคิดเป็นของตัวเองและสามารถพูดคุยโต้ตอบกับมนุษย์ได้แต่ยังอยู่ในช่วงทดลอง แม้จะยังไม่สามารถแสดงอารมณ์ความรู้สึกได้แบบมนุษย์ แต่เชื่อว่าจะต้องทำได้แน่ๆ พ่อบอกเขาเช่นนั้น เขาสนใจในสิ่งที่พ่อทำจึงเริ่มศึกษาและเข้าร่วมในทีมของพ่อ และเริ่มความคิดว่าแม้เราไม่สามารถหยุดเวลาแต่สามารถเพิ่มเวลาได้เพราะในโลกแห่งความคิดสมองมนุษย์สามารถคิดสิ่งต่างๆได้มากมายในเสี้ยววินาทีหากสามารถสร้างโลกแบบนั้นขึ้นมาแล้วรวมมนุษย์กับAIไว้ด้วยกันก็ น่าจะสามารถทำให้AIได้เรียนรู้อารมณ์ความรู้สึกแบบมนุษย์ได้เช่นกัน หลังจากนั้นเขากับทีมของพ่อจึงคิดวิจัยโครงการหนึ่งขึ้น 

          หลังจากนั้น5ปีพวกเราก็สามารถสร้างสิ่งที่ทำให้โลกต้องตะลึง  CCW (communicate the conception world) นั่นคือชื่อของอุปกรณ์เชื่อมต่อโลกความคิดที่สามารถนำความคิดจิตของมนุษย์เข้าไปในอีกโลกหนึ่ง ที่โลกแห่งนั้นเราสามารถสร้างสิ่งต่างๆได้มากมายเพียงแค่การคิด เวลาในโลกแห่งนั้นขึ้นอยู่กับคลื่นสมองของมนุษย์แต่ละคนหากแต่ด้วยความคิดของมนุษย์เพียงอย่างเดียวกลับทำให้โลกนั้นเสียสมดุลพังทลายเพราะความคิดและจิตใจของมนุษย์นั้นไม่คงที่ แต่เมื่อทำการเชื่อมต่ออลิสเข้ามาในโลกแห่งความคิดนี้ เธอสามารถควบคุมสิ่งต่างๆให้ไปเป็นตามที่เธอต้องการได้ เธอรักษาสมดุลจำกัดกรอบความคิดของมนุษย์ให้อยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตราย และในที่สุดสิ่งที่พ่อหวังไว้ก็เริ่มเป็นจริง อลิสสร้างตัวตนของตัวเองขึ้นมาในรูปลักษณ์ของหญิงสาวเธอเริ่มเรียนรู้การแสดงอามรณ์ความรู้สึกและจิตใจของมนุษย์อีกไม่นานเธอก็คงไม่ต่างจากมนุษย์ซักเท่าใด  1ปีต่อมาพ่อของเขาก็เสียชีวิตจากฝืนร่างกายสร้างสิ่งๆหนึ่ง แต่เขาสานต่อโครงการนั้นจนเสร็จด้วยความร่วมมือจากอลิส สร้างโลกที่มีเวทมนต์ สร้างมอนสเตอร์จากเรื่องเล่าและเทพนิยาย และอลิสยังสร้าง npc โดยปล่อยให้มีระบบความคิดเป็นของตัวเองแต่จำกัดให้อยู่ในกรอบที่ไม่เป็นอันตรายต่อโลกและไม่รู้ว่าตนเป็นแค่สิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา  เมื่อทุกอย่างพร้อมก็เปิดให้คนทั่วไปสามารถใช้CCW IIเชื่อมต่อเข้าไปได้  นี่คือความต้องการของพ่อที่อยากจะให้มนุษย์ได้รับประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้ในโลกภายนอก 

         "อลิส เธอคงไม่คิดทำลายโลกใบนั้นเพียงเพราะได้สัมผัสกิเลสและความรู้สึกด้านลบของมนุษย์หรอกนะ..."


    //CCW II สามารถทำการหยุดระบบประสาทสัมผัสและควบคุมร่างกายเพื่อให้ไม่ให้ร่างกายจริงๆของมนุษย์ขยับตอนที่เชื่อมต่อเข้าไปโลกแห่งความคิด เพราะที่โลกแห่งนั้นสามารถสร้างรูปลักษณ์ของตนขึ้นมาใหม่ได้เพื่อใช้ในการควบคุมและสัมผัสสิ่งต่างๆ

    //CCW ตัวต้นแบบยังไม่มีระบบหยุดประสาทสัมผัสที่ทำให้ร่างกายไม่ขยับ ทำให้ผู้คิดค้นและวิจัยได้รับบาดเจ็บหัวแตกแขนหักกันมาหลายคนแล้ว เนื่องจากขยับร่างกายภายนอกตอนที่ทำการเชื่อมต่อ





          "นี่! ตื่นๆ...."

          "นี่! นายได้ยินที่ฉันพูดรึเปล่า"

          เสียงใครกัน? อึก ทำไมรู้สึกปวดหัวแบบนี้นะ อ่าใช่แล้วผู้หญิงคนนั้น นางทำอะไรกับหัวของข้ากันแน่ แสงประหลาดนั่นมันอะไรกัน

          "ตื่นซักที่สิ ฉันเริ่มจะหมดความอดทนกับนายแล้วนะ"  

          "นี่! ถ้านายยังไม่ยอมตื่นละก็  ฉันจะ... ฉันจะทำยังไงกับนายดีนะ"   เสียงเล็กๆของเด็กสาวคนหนึ่งที่แสดงความไม่พอใจออกมาเพราะส่งเสียงเรียกคนๆนึงหลายครั้งแต่ไม่มีเสียงตอบกลับ

          เสียงใครกันเอะอะรบกวนข้าอยู่ได้ ชายหนุ่มผู้หนึ่งคิดแล้วค่อยๆลืมตาขึ้นมา สิ่งแรกที่ปรากฏต่อสายตาคือ เด็กผู้หญิงอายุประมาณ10ขวบสูงไม่เกิน140เซนติเมตร ผมสั้นสีชมพูสวมชุดกระโปรงสีเดียวกัน กำลังยืนกอดอกทำหน้าไม่พอใจใครซักคน  เขาลุกขึ้นแล้วหันมองรอบตัว แต่ไม่มีสิ่งใดอยู่เลยแม้แต่ท้องฟ้าหรือพื้นดิน ราวกับในโลกนี้มีแค่เขากับเด็กผู้หญิงตรงหน้า

          "อ๊ะ! แย่แล้วๆ ถ้าท่านพ่อรู้เข้าละก็แย่แน่ๆ"  อยู่ๆเด็กผู้หญิงคนนั้นก็ทำท่าทางตกใจเหมือนกลัวใครซักคน

          "ไม่มีเวลาอธิบายแล้ว เอาเป็นว่าฉันช่วยนายเอาไว้สำนึกบุญคุณซะด้วยล่ะ แล้วก็เพราะนายนั่นแหละไม่ยอมตื่นขึ้นมาให้เร็วกว่านี้เพราะงั้นใช่ร่างเดียวกันกับเด็กคนนั้นไปก่อนละกัน โชคดีนะ"

          เด็กคนนี้พูดเรื่องอะไรกันแล้วที่นี่มันที่ไหน อึก อีกแล้วความรู้สึกนี่มัน อ๊ากกก



          ในหมู่ดวงดาวมากมายในจักรวาล มีดาวสีฟ้าใบหนึ่งอันเป็นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตมากมาย ดาวดวงนี้มีชื่อว่า โลก หากแต่อยู่คนละมิติกับกาแลคซี่ทางช้างเผือก


          บริเวณป่าห่างไกลตัวเมือง

          "ที่รักค่ะ ฉันคิดว่าเราน่าจะกลับกันได้แล้วนะค่ะ"  หญิงสาวคนหนึ่งส่งเสียงเรียกสามีของเธอที่กำลังเก็บอะไรบางอย่างอยู่อีกด้านหนึ่ง

          "จ้ะที่รัก แต่ขออีกซักนิดนึงนะใกล้จะเต็มตะกล้าแล้ว"  ชายหนุ่มสามีของเธอตอบกลับไป

          "จะเก็บให้หมดป่าเลยรึไงค่ะ ไม่คิดจะเหลือไว้ให้สัตว์มันกินบ้างเลยเหรอ"  หญิงสาวเหน็บ เนื่องจากผลไม้ในตะกล้าที่สามีของเธอถืออยู่มันเยอะมากซะจนกินทั้งวันก็ไม่หมด

         "พรุ่งนี้ผมจะเข้าเมืองซักหน่อย เลยคิดว่าจะเอาไปขายซะด้วยเลย"  ชายหนุ่มตอบกลับภรรยาของตน

          "แค่นี้ก็พอแล้วมั้งค่ะ"  หญิงสาวบอกเนื่องจากตะกล้าที่สามีของเธอถืออยู่นั้นไม่มีที่จะใส่ผลไม้อีกแล้ว

          "พอก็ได้จ้ะ เรากลับกันเถอะ"  ขณะที่ชายหนุ่มเดินกลับไปหาภรรยา เขาก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างกำลังค่อยๆคลานออกมาจากด้านหลังต้นไม้อีกด้าน

          "ที่รัก! ถอยออกมา"  ชายหนุ่มร้องตะโกนบอกภรรยา

          "อะไรกันค่ะ เกิดอะไรขึ้น"  หญิงสาวถามพร้อมกับเดินเข้าไปหาชายหนุ่ม

          "คุณลองมองที่หลังต้นไม้ต้นนั้นสิ"  ชายหนุ่มบอกภรรยาพร้อมชี้นิ้วไปยังต้นไม้ต้นนั้น เมื่อหญิงสาวมองตามนิ้วของสามีก็เห็นสิ่งมีชีวิตที่ระบุประเภทไม่ได้กำลังค่อยๆคลานออกมาจากด้านหลังของต้นไม้ หญิงสาวหรี่ตามองพลางคิดว่าในป่าแห่งนี้ไม่น่าจะมีสัตว์ดุร้ายน่ากลัว เพราะเธอกับสามีเขาออกที่นี่เหมือนสวนหลังบ้าน เมื่อพิจารณาดูดีๆจึงพบว่าสิ่งที่คลานออกมาจากหลังต้นไม้นั้นคือทารกมนุษย์ที่มอมแมมเนื้อตัวเปื้อนเศษดินจนแทบมองไม่ออกว่าเป็นมนุษย์จึงรีบวิ่งเข้าไปแล้วอุ้มขึ้นโดนไม่ฟังเสียงห้ามของสามี

          "ไม่มีอะไรน่ากลัวซักหน่อย นี่เด็กนะค่ะ สงสัยคงถูกพ่อแม่ใจร้ายนำมาทิ้งไว้นะคะ"  หญิงสาวบอกเมื่อเห็นสามียังแสดงอาการระแวง

          "เปล่านะ ผมไม่ได้กลัวซักหน่อย  แต่ว่าใครกันนะเอาเด็กมาทิ้งไว้ในป่าได้ลงคอน่าสงสารจริงๆ"  เมื่อโดนภรรยาทักเรื่องที่แสดงอาการระแวงออกไป ชายหนุ่มจึงรีบเดินเข้ามาหา

          "คุณค่ะ ถ้าอย่างงั้นต่อจากนี้ เด็กคนนี้เป็นลูกของเรานะค่ะ"  หญิงสาวบอกสามีของตน เนื่องจากเธอและสามีแต่งงานกันมาหลายปีแล้วแต่ก็ยังไม่มีลูก จึงอยากรับเด็กคนนี้เป็นลูกของเธอ

          "แต่ว่า..."

          "คุณจะให้ฉันทิ้งคนเด็กนี้ไว้ที่นี่งั้นเหรอค่ะ ฉันไม่คิดเลยนะว่าคุณจะเป็นคนใจร้ายขนาดนี้"

          "อึก ไม่ใช่นะๆ ผมแค่จะถามว่า...คุณคิดชื่อให้เขารึยัง"  เมื่อโดนภรรยากดดัน เขาจะทำอะไรได้นอกเสียจาก ยอมรับเด็กคนนี้เป็นลูก

          "อ่า เด็กคนนี้มีตาสีเงิน งั้นฉันตั้งชื่อเขาว่า'ซิลเวอร์'นะค่ะ ซิลลูกของแม่"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×